ดวงตาคมคล้ายเหยี่ยวเหลือบมองขึ้นไปยังหน้าห้องวีไอพีที่อลินตาหายเข้าไปในห้องนั้นกันแค่สองคน คีรันมองไปที่ชายหนุ่มใส่สูทที่ยืนอยู่หน้าห้องวีไอพีก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพยักหน้าส่งให้คีรัน บอดี้การ์ดหนุ่มหันไปกระซิบบอกกับเพื่อนอีกคนก่อนจะเดินลงมาและเดินไปทางประตูด้านหลังของร้าน
เมื่อเดินมาถึงบอดี้การ์ดหนุ่ม ก็เจอกับคีรันที่ยืนอัดนิโคตินเข้าปอดระหว่างที่รอเขาเดินไปหา
“จับตาดูไอ้เหี้ยราเชนนั่นให้ดีๆ กูขายกับมันมาหลายปีกูรู้ว่ามันนิสัยเหี้ยขนาดไหน” คีรันพูดบอกอีกคนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ครับ”
“แล้วนัดมันมาคุยเรื่องอะไรกันที่นี่” คีรันอัดนิโคตินเขาปอดอีกรอบพร้อมถามชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“เรื่องซื้อขายอาวุธครับ”
“นี่เขาคิดจะมาขายอาวุธกับลูกค้าประจำป๊ากูเพื่อตัดราคากันหรือไง” คีรันพูดขึ้นอย่างไม่จริงจังนักเมื่อรู้ว่าอลินตาคิดจะขายอาวุธให้กับลูกค้าประจำของตัวเอง
“ทางคุณราเชนติดต่อมาเพื่อขอซื้อกับทางคุณหนูเองครับ ส่วนทางคุณหนูก็มีหน้าที่แค่เสนอราคาและขายให้กับทางนั้นไป” ชายหนุ่มแจงให้คีรันทราบเพื่อไม่ให้เข้าใจเรื่องนี้ผิดไป
“เออกูรู้กูก็พูดไปอย่างนั้นแหละ แต่ที่กูเรียกมึงมาเพราะอยากให้มึงจับตาดูไอ้ราเชนไว้ให้ดีๆ ยิ่งมันมาเห็นตัวจริงของลินแบบนี้กูยิ่งเป็นห่วง” เพราะเขารู้ว่าราเชนชอบผู้ชายแถมยังมีข่าวฉาวเรื่องทำร้ายร่างกายเด็กที่มันดีลไปอีก
รันรู้เรื่องพวกนี้เป็นอย่างดีเพราะอยู่ในแวดวงธุรกิจมืดด้วยกัน บางคนถึงกับเป็นศพกลับมาหรือไม่ก็หายสาบสูญไป
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“เออๆ รีบไป ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับลินมึงรีบรายงานกูทันทีเลยนะ” อีกฝ่ายก้มหัวให้คีรันเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับเข้าไปในร้าน
คีรันมองตามบอดี้การ์ดหนุ่มที่เดินหายเข้าไปในร้าน เขายืนสูบบุหรี่อยู่ตรงนั้นต่อสักพักก่อนจะเดินกลับเขาไปในร้าน
รันนั่งดื่มกับศิลาไปเรื่อยๆ จนรู้สึกผิดสังเกตเมื่อยังไม่เห็นว่าคนที่ยืนอยู่หน้าห้องจะโดนเรียกเข้าไปสักทีก่อนจะส่งสัญญาณให้คนที่อยู่หน้าห้องเข้าไปดู
“คุยอะไรกันนานขนาดนั้นวะ” คีรันบ่นออกมาเบาๆ ศิลาที่เห็นเพื่อนนั่งคุยคนเดี๋ยวก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเป็นปกติที่มันจะพูดแบบนี้คนเดียว
เคาะประตูสองสามครั้งแต่ข้างในห้องก็ยังเงียบสนิทจนรู้สึกถึงความผิดปกติจึงหันไปมองคนที่นั่งอยู่ด้านล่าง ก่อนจะพยายามเปิดประตูเข้าไปแต่ก็โดนล็อกจากข้างใน เขาหันไปบอกพนักงานที่อยู่ใกล้ๆ ให้หากุญแจมาเปิดห้อง พลันคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้น
“เจ้านายยังไม่ได้สั่งห้ามเปิดเข้าไปเด็ดขาด!”
“แต่เจ้านายกูสั่ง!” เสียงเข้มพูดกับลูกน้องของราเชนนิ่งพร้อมจ้องมองไปที่อีกฝ่ายด้วยสายตาที่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ในพริบตา จนอีกฝ่ายล่าถอยไปเพราะทางฝั่งของตัวเองมีแค่เขาคนเดียว
ภายในห้องตอนนี้อลินตานอนสลบอยู่ที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับราเชน ส่วนคนที่วางยาร่างบางก็นั่งจิบไวน์อย่างใจเย็นไม่รีบร้อน เขากระดกไวน์ในแก้วหมดรวดเดียวก่อนจะเดินมานั่งยองลงตรงหน้าหนุ่มหน้าใส
“หึ ชิมนิดชิมหน่อยจะเป็นไรไปคนสวย” นิ้วเรียวยาวลากตามโครงหน้าสวยนั้นอย่างหลงใหล
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูรัวๆ ให้คนในห้องเปิดประตู แต่คนในห้องก็ไม่ได้สนใจตรงกันข้ามเขาจ้องมองใบหน้าสวยใสที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้า ก่อนจะโน้มใบหน้ากดจมูกลงบนแก้มนุ่มนั้นอย่างหลงใหล มือหนาเอื้อมไปประคองให้คนตัวเล็กนอนบนโซฟาดีๆ ยื่นมือไปจับที่กระดุมเม็ดบนสุด ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของร่างขาวเนียนตรงหน้าอย่างเบามือเพราะกลัวของเล่นชิ้นใหม่จะเป็นรอย
เมื่อเม็ดสุดท้ายถูกปลดออกราเชนก็แหวกเสื้อออกเผยให้เห็นร่างกายขาวเนียนที่ตนปรารถนาอยากลิ้มลอง
ปึงง!!!
ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอย่างแรงด้วยฝีมือของคีรันก่อนจะเห็นว่าราเชนกำลังคร่อมร่างของอลินตาอยู่ คีรันเดินตรงเข้าไปพร้อมกับคว้าเข้าที่คอเสื้อและต่อยที่ใบหน้าของราเชนไปหนึ่งทีก่อนที่อีกคนจะได้ลุกขึ้นสวนกลับมา
“ไอ้สัตว์! มึงทำเหี้ยอะไร!”
“ถุย! แล้วมึงละเข้ามาทำเหี้ยอะไรไอ้คีรัน” ราเชนจ้องหน้าคีรันอย่างคาดแค้นเพราะโดนคีรันต่อยเข้าที่ใบหน้าจนเลือดซิบมุมปาก กลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปทั่วปากนั่นยิ่งทำให้ราเชนโกรธจัด
“มึงไม่มีสิทธิ์แตะต้องคนของกูจำเอาไว้ไอ้ราเชน แม้แต่ปลายเส้นผมมึงก็ไม่มีสิทธิ์แตะ” คีรันพูดขึ้นพร้อมจ้องไปที่ราเชนอย่างไม่ลดละ
“ถ้ามึงคิดจะเล่นสกปรกแบบนี้งั้นมึงไปเล่นกับเพื่อนมึงในห้องใต้ดินก็แล้วกัน มาเอาตัวมันไป!” คีรันพูดกับราเชนก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องของตนที่เดินตามเข้ามาในห้องก่อนจะเอาถุงผ้าสีดำมาคลุมหัวของราเชนแล้วลากออกจากห้องไป
“มึงทำกับกูแบบนี้ระวังสภาพมึงจะเหมือนแม่มึงเมื่อแปดปีที่แล้ว”
กึก!
“เดี๋ยว! ลากมันกลับมานี่” คีรันพูดขึ้นบอกให้ลูกน้องที่กำลังลากไอ้หมาตัวนั้นออกจากห้องให้ลากมันกลับมาก่อนจะดึงผ้าดำออกพร้อมเอื้อมมือไปจิกเส้นผมของมันให้เงยหน้าขึ้นมามองหน้าของรัน
“มึงว่าไงนะ”
“หึ ทำไมวะกูพูดแทงใจดำมึงหรือไง” ราเชนพูดขึ้นพร้อมแสยะยิ้มออกมา
“มึงรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องของแม่กู”
“กูไม่บอกมึงให้โง่หรอก ฮ่าๆ” ราเชนหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
“ไอ้ราเชน!” คีรันเรียกชื่อคนตรงหน้าขึ้นเสียงดังด้วยความโมโห ก่อนจะใช้หลังมือตบลงบนใบหน้าของราเชนครั้งเดียวจนอีกฝ่ายสลบไป
“เอามันไปขังเดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะเข้าไปคุยกับมัน” ลูกน้องของคีรันลากตัวราเชนออกไปจากห้อง เสียงโวยวายของราเชนดังขึ้นเป็นระยะแล้วก็เงียบหายไป
คำพูดของราเชนยังก้องอยู่ในหัวของคีรันจนเขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน เมื่อได้สติคนตัวสูงก็เดินมุ่งไปหาร่างบางที่นอนอยู่โซฟาทันที
“ลิน ลินได้ยินพี่มั้ย ลิน!” คีรันปลุกคนตัวเล็กให้ตื่นแต่อีกฝ่ายก็ยังนอนนิ่ง คีรันจึงเอื้อมมือไปติดกระดุมให้คนตรงหน้าก่อนจะอุ้มอีกคนเดินออกจากห้องไปที่รถของตน
“นายจะพาคุณหนูไปไหนเหรอครับ” ลูกน้องของอลินตาเอ่ยถามคีรันผู้เป็นนายอีกคน
“ไปที่คอนโดกู ไม่ต้องห่วงถ้าเขาตื่นแล้วอาละวาดเดี๋ยวกูรับผิดชอบเองมึงไม่ต้องกลัว ส่วนลูกน้องของไอ้ราเชนมึงพามันไปส่งที่หน้าบ้านมันแล้วขับรถตามกูไปที่คอนโดแล้วกัน”
“ครับ” ทั้งสองก้มหัวให้คีรันเล็กน้อยก่อนจะมองตามท้ายรถของคีรันที่ขับออกไป
#อลินตคีรัน
เมื่อมาถึงคอนโดของคีรันเขาจัดการอุ้มคนตัวเล็กขึ้นแนบอกเอาไว้ก่อนจะพาร่างบางขึ้นไปที่ห้อง วางร่างเล็กลงบนเตียงนอนด้วยความเบามืออย่างทะนุถนอม ก่อนจะถอดเสื้อสูทตัวนอกของคนตัวเล็กออกพร้อมตะล่อมผ้าห่มคลุมร่างบางเอาไว้ ดวงตาคมคล้ายเหยี่ยวมองใบหน้าคนที่หลับอยู่ตรงหน้าอย่างพิจารณา
เสียงผ้าห่มเสียดสีไปกับร่างบางทำให้คีรันที่นั่งเหม่ออยู่ถึงกับหลุดออกจากภวังค์สายตาหยุดอยู่ที่คนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงของเขา คีรันลูบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ สักพักก็เดินกลับออกมาในชุดนอนผ้าลื่นสีดำ ก่อนจะเดินออกเตียงมาอีกฝั่ง คนตัวสูงสะบัดผ้าห่มออกเล็กน้อยก่อนจะสอดตัวของเขาลงบนเตียงข้างๆ คนตัวเล็ก
แขนแกร่งคว้าเข้าที่เอวบางก่อนจะออกแรงรั้งให้คนตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง จมูกคมกดจุมพิตลงบนหน้าผากเนียนอีกครั้งก่อนที่จะเอ่ยบอกกับคนในอ้อมแขน
“ต่อไปนี้พี่จะไม่ทิ้งหนูไปไหนอีกแล้ว พี่สัญญา” เสียงทุ้มเอ่ยบอกกับคนที่นอนอยู่หลับอยู่บนที่นอนเตียงใหญ่ก่อนจะก้มลงจูบที่หน้าผากเนียนเบาๆ
“ฝันดีนะครับคนดีของป๊า”
รุ่งเช้าอลินตารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนหัวเล็กน้อย ร่างบางขยับเปลือกตาสีไข่กะพริบขึ้นลงปรับถี่ๆ เพื่อนปรับสายตา ก่อนจะเห็นภาพตรงหน้าเป็นแผงอกของใครสักคนในชุดนอนผ้าลื่นสีดำ ใบหน้าใสเงยหน้าขึ้นมองคนที่นอนกอดตัวเองอยู่ก่อนที่ตัวตาใสจะเบิกกว้างขึ้นด้วยความแปลกใจพร้อมกับความสับสนในใจ
นี่มันอีตาบ้าคีรันนี่นาแล้วลินมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงแถมยังมานอนอยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกต่างหาก นอนคิดไปสักพักก่อนเหตุการณ์เมื่อคืนนี้จะแล่นเข้ามาในหัว
นายราเชน
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามในขณะที่ยังไม่ลืมตาพร้อมกระชับกอดแน่นขึ้น ลินที่ตั้งสติได้ก็ยกเท้าขึ้นก่อนจะถีบเข้าที่ลูกรักของคนตัวสูงจนอีกฝ่ายกลิ้งตกลงมานอนกุมเป้าอยู่ข้างเตียง
“นี่กะเล่นจะเอาให้สูญพันธุ์กันเลยเหรอตัวแสบ” คีรันร้องขึ้นพร้อมกุมเป้าตัวเองเมื่อโดนร่างเล็กถีบเข้าเต็มกลางลำ
ใช้งานไม่ได้แล้วมั้งเนี่ยเจ็บชะมัด
“แล้วใครใช้ให้คุณมากอดผมเนี่ย” อลินตากอดผมห่มเอาไว้แน่นพร้อมมองไปที่คนที่นั่งกุมเป้าตัวเองอยู่ที่พื้นอย่างเอาเรื่อง นี่มันเรื่องอะไรกันวะเนี่ย
“ก็หนูนอนดิ้นพี่ก็ต้องกอดไว้สิ”
“อย่าเอาคำพวกนั้นมาเรียกแทนชื่อผม!” เสียงใสเอ่ยด้วยความไม่พอใจ ไอ้คำพวกนั้นมันกลายเป็นอดีตไปแล้วทำไมคนตรงหน้ายังเรียกเขาแบบนั้นอยู่อีก ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายทิ้งเขาไปทำไมยังกล้ามาเรียกเขาแบบนั้นอยู่อีก ทุกอย่างมันกลายเป็นอดีตไปแล้วทำไมต้องรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก
คิดได้แบบนั้นพลันน้ำตาที่ไม่รักดีก็เอ่อคลอรอบดวงตาของเขาจนน่าหงุดหงิด
“พี่ขอโทษ ไม่ร้องนะครับ” คีรันตกใจไม่คิดว่าร่างเล็กบนเตียงจะร้องไห้ออกมาก็รีบลุกขึ้นยืน ก่อนจะโน้มตัวหมายจะเอื้อมมือเช็ดน้ำตาให้คนตัวเล็ก แต่มือบางก็ปัดมือที่กำลังจะเอื้อมมาเช็ดน้ำตาให้
“อึก ไม่ต้องมาแตะต้องตัวผม”
“โอเคๆ พี่ไม่แตะลินแล้ว งั้นเดี๋ยวลินเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำก่อนเดี๋ยวพี่เตรียมชุดเอาไว้ให้” คนตัวเล็กไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมา ทำแค่เพียงนั่งเช็ดน้ำตาเหมือนเด็กน้อยก่อนจะขยับตัวลงจากเตียงแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
คีรันอมยิ้มกับภาพนั้นก่อนจะเดินไปเตรียมเสื้อผ้าให้คนที่อยู่ในห้องน้ำเปลี่ยนและเดินออกไปทำข้าวเช้าเผื่อคนตัวเล็กที่อยู่ในห้องน้ำ
ลินใช้เวลาอาบน้ำนานพอสมควรก่อนจะออกมาและโทรเรียกให้พี่กันต์ขับรถมารับที่คอนโดของคีรันโดยที่ไม่รอกินข้าวเช้าที่อีกคนทำไว้เผื่อ
หลังจากที่กลับมาถึงคอนโดลินก็โทรรายงานเรื่องขายสินค้าให้กับทางราเชน ให้พี่สายฟ้ารู้ว่าทางฝั่งนั้นอยากขอดูลายละเอียดเพิ่มเติม แต่ไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองโดนวางยาเพราะกลัวพี่สายฟ้ากับแด๊ดกับแม่จะเป็นห่วงและแห่กันมาหาเขาที่ไทยจนไม่เป็นอันทำอะไร
คุยกับพี่ฟ้าเสร็จลินก็เรียกพี่กันต์กับบรู๊คเข้ามาในห้องเพื่อถามเรื่องเมื่อคืน
“ลินอยากรู้ว่าลินไปนอนอยู่คอนโดเขาได้ยังไงครับ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับลิน” ใบหน้าลูกเสี้ยวอิตาลีจ้องมองไปที่ลูกน้องทั้งสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า แม้ว่าทั้งคู่จะอายุเยอะกว่าเขาไม่กี่ปีก็ตาม แต่ถ้าเป็นเรื่องงานลินก็มักจะใช้น้ำเสียงที่หนักแน่นเพื่อให้ทั้งสองคนไม่คิดว่าเป็นเด็กน้อยหัดอมมือ
“หลังจากที่คุณหนูสลบไปคุณคีรันก็เข้าไปช่วยคุณหนูเอาไว้ก่อนที่นายราเชนจะได้ทำอะไรกับคุณหนูไปมากกว่านี้ครับ” พี่กันต์เอ่ยขึ้น
“แล้วลินไปอยู่คอนโดของเขาได้ยังไง”
“คุณคีรันอุ้มคุณหนูขึ้นรถไป ผมกับบรู๊คขับรถตามไม่ทันครับ”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีครับ แต่ถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนั้นแล้วไม่ยอมบอกลิน ถ้าลินจับได้ลินเอาตายนะครับ"อลินตาพูดทิ้งท้ายเอาไว้ให้ลูกน้องทั้งสองคนได้สำนึกก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับเข้าห้องนอนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่
"เตรียมรถไว้ด้วยนะครับลินจะเข้าบริษัท”
“ถึงวันนั้นเราก็คงไม่ตายเป็นคนแรกหรอกมั้ง” กันต์พูดขึ้นลอยๆ ตามหลังเจ้านายไปก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อเตรียมรถไว้ให้นายน้อย
"ครับ"
กดใจ คอมเม้นพูดคุยกันได้เน้อออ ขอบคุณค่ะ
ผลั๊ว!!“อึ่ก! ถุ๊ย!” ใบหน้าของชายหนุ่มหันไปตามแรงของหมัดที่ต่อยลงมาที่ใบหน้าของตัวเองก่อนจะพ่นของเหลวสีแดงออกมาจากริมฝีปาก ก่อนจะเงยหน้ามองเจ้านายของพวกมันที่นั่งอยู่เก้าอี้ตรงหน้ามองมาที่ตัวเอง“ซ้อมกูให้ตายแม่มึงก็ไม่มีทางฟื้นกลับมาหามึงได้หรอกนะไอ้รัน หึหึ” ราเชนพูดขึ้นอย่างไม่แยแสว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานะที่จะตายอยู่รอมร่อ“ปากดีไอสัตว์! เดี๋ยวมึงจะได้ตายตามแม่กูไป”“ก็เอาสิถ้ากูตายไปแก๊งมึงก็คงจะได้ตายตามกูไปด้วย หึ”“แล้วมึงคิดว่าคนอย่างกูจะยอมตายตามมึงไปมั้ยละ คนอย่างมึงก็เก่งแต่เห่าขู่คนนั้นคนนี้ไปทั่วแต่เดี๋ยวมึงก็จะไม่ได้เห่าขู่ใครไปตลอดชีวิตแล้วล่ะ” ราเชนที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าหวั่นเล็กน้อยเมื่อเห็นลูกน้องของคีรันเดินมาพร้อมอุปกรณ์อะไรสักอย่างบนถาดสเตนเลส
ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตขาวกางเกงขาสั้นเสมอเข่าสีดำเดินเข้ามาในผับพร้อมกับพี่กันต์ที่เดินตามหลังมา ทั้งสองคนตกเป็นเป้าสายตาของคนในผับคนหนึ่งตัวเล็กหน้าหวาน อีกคนตัวสูงใหญ่หน้านิ่งพร้อมเชือดทุกคนที่เข้ามายุ่งกับคนตรงหน้า“พี่กันต์เข้าไปนั่งด้วยกันข้างในก็ได้นะครับ” ลินเอ่ยบอกพี่กันต์หลังจากที่เดินมาส่งเขาถึงหน้าห้องวีไอพี“ไม่เป็นไรครับคุณหนู”“ถ้างั้นพี่กันต์อยากนั่งดื่มก็เต็มที่เลยนะครับ” พี่กันต์ก้มหัวให้คนเป็นนายเล็กน้อยก่อนลินจะเดินเข้าไปในห้องลินเปิดประตูเข้าไปในห้องก็พบว่าตัวเองมาเป็นคนสุดท้าย คนที่อยู่ในห้องจ้องมองมาที่อลินตาเป็นจุดเดียวก่อนสกายจะเดินมาหาเขาแล้วลากไปนั่งที่โซฟาตัวเดียวกัน“สวัสดีครับน้องลินไม่เจอกันนานเลยนะครับ” ศิลาเอ่ยทักทายเพื่อนของน้องชายที่ไม่ได้เจอกันนาน“ครับ
ดวงตาสีน้ำตาลกะพริบตาถี่ๆปรับสายตา เมื่อลืมตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลพร้อมขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะเบ้หน้าด้วยความเจ็บแผลตรงหน้าท้อง“อ่า เจ็บฉิบหาย” เสียงแหบแห้งพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองรอบๆ ห้องเพราะรู้สึกไม่คุ้นเคยกับห้องที่ตัวเองนอนอยู่ ก่อนดวงตาจะไปสะดุดเข้ากับร่างของใครสักคนที่นอนขดเหมือนลูกแมวอยู่ข้างๆ ตนมือหนาเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่ปรกหน้าเนียนขาว เผลอยกยิ้มให้กับภาพตรงหน้า คีรันนอนมองใบหน้าของร่างเล็กที่นอนอยู่ข้างๆ ก่อนจะนึกไปถึงตอนที่คนตัวเล็กพูดความในใจของตัวเองออกมาตอนอยู่ที่ผับคีรันอยากจะพูดขอโทษคนตัวเล็กเป็นพันๆ ครั้งแต่ก็ไม่รู้ว่าจะสามารถหักล้างความผิดของตัวเองไปได้มากแค่ไหนเพราะเขาได้สร้างบาดแผลที่ยากจะรักษาให้มันหายขาดได้ง่ายๆ ให้กับคนตรงหน้าคีรันค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้อลินตาอย่างอยากลำบาก จนใบหน้าของทั้งสองคนอยู่ห่างกับไม่ถึงคืบรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของคนตรงหน้าใบหน้าห
คีรันมาอยู่ที่ฮ่องกงได้สองวันแล้ว นับตั้งแต่วันที่เขากอดลาคนตัวเล็กรันก็ไม่ได้ติดต่อไปหาคนตัวเล็กอีกเลย เพราะอยากจะตามสืบเรื่องที่ยังค้างคาในใจของตัวเองทั้งอยากจะสะสางเรื่องลูกค้าที่กู้เงินยังไม่ยอมจ่ายอีกเป็นสิบๆ คน“เดี๋ยววันนี้กูจะไปเยี่ยมคุณเซียวที่บ้านใหญ่เขา พวกมึงเตรียมของฝากไว้ให้เขาหรือยัง”“เตรียมแล้วครับ” คีรันสั่งลูกน้องให้หาของฝากไปฝากคนที่เขากำลังจะไปเยี่ยมที่บ้าน เมื่อถึงเวลารันก็ให้ลูกน้องขับรถพาไปที่บ้านของคุณเซียวทันที“อารัน ดีๆ มาๆ เข้ามานั่งข้างในก่อน” ชายหนุ่มสูงวัยอายุราวๆ หกสิบต้นๆ เรียกให้แขกคนสำคัญเข้ามานั่งดื่มน้ำชาในห้องรับแขก ชายหนุ่มเดินตามเข้าไปข้างในพร้อมกับถือของฝากในมือเข้าไปในห้องด้วย“สวัสดีครับคุณเซียว ไม่เจอกันตั้งนานสบายดีนะครับ” รันเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะด้วยใบหน้ายิ้ม และเดาว่าอีกฝ่ายก็
ถึงวันที่อลินตาต้องเดินทางไปเที่ยวกับสกายที่เกาะแห่งหนึ่งทางใต้ที่มีโรงแรมของเขาตั้งอยู่ที่นั่นด้วย อลินตากับสกายใช้เวลาเดินทางครึ่งค่อนวันก็ถึงโรงแรมของลิน มาถึงเขากับสกายก็แยกกันพักคนละห้องก่อนจะพากันออกไปเดินเล่นที่ริมชายหาดร่างบางในเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีครีมเดินตามหลังเพื่อนลงมาที่ริมหาดหลังจากที่เดินไปบอกให้พนักงานเตรียมอาหารมื้อค่ำให้ และบอกให้พี่กันต์กับบรู๊คพักผ่อนได้ตามสบาย“อ่าา ไม่ได้มาเดินเล่นอยู่ที่ริมทะเลแบบนี้ก็นานแล้วนะ” สกายพูดขึ้น“กูก็ไม่ได้มาเที่ยวแบบนี้นานแล้วเหมือนกัน” สกายหันไปมองเพื่อนที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างตัวเองก่อนจะยิ้มออกมา แล้วหันไปมองทะเลตรงหน้า“เล่นน้ำกันมั้ยมึง” อลินตาหันไปมองหน้าเพื่อนก่อนจะส่ายหน้าออกมา ชวนเล่นน้ำไม่ได้ดูแดดประเทศไทยเลยสักนิดอีกนิดเขาเกรียมเหมือนไก่ย่างได้แล้วมั้ง“มึงดูแดดก่อนสิไอ้กาย ร้อนจะตายมึงจะเล่นก็เล่น
แผ่นหลังของอลินตาแตะลงบนเตียงพร้อมกับร่างของคีรันโน้มลงมาทาบทับอย่างไม่เต็มตัวนักเพราะกลัวอีกคนจะรับน้ำหนักของตัวเองไม่ไหว ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากบางอย่างกระหาย ลิ้นร้อนไล่กวาดชิมความหวานของริมฝีปากบางพร้อมดูดดึงปลายลิ้นของอีกฝ่ายจุ๊บ จ๊วบเสียงบดจูบ เสียงน้ำลายดังคละคลุ้งไปทั้งห้อง สองร่างนอนกอดเกี่ยวกันเมื่อทั้งสองต่างก็โหยหายกันและกันทั้งอีกฝ่ายยังมีแอลกอฮอล์ในร่างกายที่ดื่มมาเยอะพอสมควรอีกจึงมีความกล้าที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาอย่างไม่คิดอายคีรันผละใบหน้าออกห่างเล็กน้อยก่อนจะไล่จมูกลงบนซอกคอขาว อลินตาร้องขึ้นเบาๆ เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา ร่างหนามองรอยสีกุหลาบที่ตัวเองทำเมื่อกี้พร้อมยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจก่อนจะเริ่มปลดกระดุมของคนใต้ร่างออกจนร่างขาวโพลนปรากฏต่อหน้าคีรันพลิกให้อลินตานอนคว่ำยกตัวขึ้นในท่าคลานเข่า ก่อนจะไล้ริมฝีปากกดจูบไปทั่วแผ่นลงมาจนถึงสะโพกงอนที่ยังมีกางเกงขาสั้นปกปิดความ
“เรื่องสินค้าเอายังไงต่อดีครับป๊า” ราเชนเอ่ยถามกับผู้เป็นพ่อที่เดินเข้ามาในห้องทำงานของเขาพร้อมกับเดินมานั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะจ้องมองไปที่ลูกชายที่กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่“ก็แค่รับของกับทางของไอ้ไท่น้อยลง แล้วไปซื้อกับทางคุณสายฟ้าแทนก็แค่นั้น”"แล้วทำไมป๊าไม่ยกเลิกไปเลยล่ะครับ""พวกมันยังมีประโยชน์กับเราอยู่ แล้วอีกอย่างของพวกนี้ทางฝั่งคุณสายฟ้ายังไงก็ต้องขายให้เราอยู่ดี" เซียวบอกลูกชายด้วยความมั่นใจ“ใช่คนที่ป๊าบอกให้ผมไปคุยด้วยรอบนั้นมั้ยครับ แต่คนที่ผมคุยด้วยวันนั้นชื่อลินนี่ครับ” ราเชนยิ้มมุมปากออกมา ภาพร่างกายขาวเนียนของอีกฝ่ายยังติดตาของตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้ ถ้าไอ้รันไม่เข้ามาขัดเขาซะก่อนของเล่นชิ้นนั้นก็คงไม่หลุดมือเขาไปไหนได้หรอก“ไม่ใช่ คนที่แกไปคุยกับเขารอบนั้นคือลูกชายของเขา ตัวจริงเขาอยู่ที่อิตาลีนู้น” เซี
คีรันพาคนตัวเล็กมาเดินเล่นที่ริมหาดในช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว ทั้งสองคนจับมือกันเดินไปตามชายหายมองวิวไปด้วยและมองคนข้างๆ ไปด้วย“ถ้าร้อนหรือรู้สึกไม่สบายบอกพี่นะครับ” คนตัวเล็กพยักหน้าตอบก่อนที่ทั้งสองจะเดินจูงมือกันไปก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าหาดเมื่อพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า ดวงตาสีใสสะท้อนภาพที่พระอาทิตย์กำลังค่อยๆ เลื่อนลง อลินตากระชับมือข้างที่จับมือของคีรันเอาไว้แน่นจนไม่มีช่องให้อากาศลอดผ่าน ดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลาลับขอบฟ้าไปจนในที่สุดก็จมลงสู่ทะเลผืนกว้าง นั่นหมายถึงว่าเวลายามค่ำคืนกำลังคืบคลานเข้ามาแทนที่ยืนมองพระอาทิตย์ตกดินกันเสร็จทั้งสองคนก็เดินมานั่งที่โต๊ะอาหารหน้าหาดที่ศิลาจองเอาไว้ ทั้งสี่คนนั่งคุยกันรออาหารสักพักอาหารก็มาเสิร์ฟ นั่งกินข้าวกันจนอิ่มก็ตบท้ายด้วยของหวานมีแค่สกายกับลินเท่านั้นที่กิน ส่วนคีรันกับศิลาก็สั่งน้ำผลไม้ที่ลินกับสกายกินเมื่อคืนมากิน“หนูทำไมกินเลอะจังเลยหื้ม?” ร่างสูงพูดขึ้นอย่างเอ็นดูก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบทิชชู่ออกมาเพื่อเช็ดมุมปากที่เลอะขนมหวานให้คนรัก โดยมีอีกสองชีวิตที่นั่งร่วมวงอยู่มองทั้งคู่ตาปริบๆบทจะหวานกันก็หวานจนใจหาย บทจะเ
เข้าสู่เดือนที่ 5 ร่างกายของคุณแม่ลูกแฝดก็เริ่มมีน้ำมีนวลขึ้น หน้าท้องที่เคยแบนราบตอนนี้กลับเริ่มนูนยื่นออกมาเพราะในท้องของคุณแม่มีเด็กๆ อยู่ด้วยกันตั้งสองคน“หนูระวังครับ!” คีรันสาวเท้ารีบเดินไปประคองคุณแม่ที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับโดนอลินตาเหวใส่เพราะเสียงดังจนเจ้าตัวสะดุ้งตกใจ“พี่รันจะเสียงดังทำไมครับ”“ก็ลินจะเดินลงมาจากชั้นบนทำไมไม่เรียกพี่ละครับพี่จะได้เดินขึ้นไปรับ”“แค่นี้เองลินเดินลงมาเองได้สบายมากครับ”“ดื้อ!!” คีรันดุคนรักอย่างไม่จริงจังมากนักพร้อมกับยกมือขึ้นบีบจมูกรั้นของอลินตาอย่างมันเขี้ยวคีรันพาอลินตาเดินไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นเพื่อรอสกายกับสายฟ้าที่โทรมาบอกเมื่อช่วงเช้าว่าจะเข้ามาหา อลินตานั่งกินมะม่วงกับคีรันรออยู่ไม่นานคนที
สกายเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ที่โรงจอดรถของบ้านสายฟ้า เมื่อเขากำลังปิดประตูก็มีมือหนามาจับเอาไว้ไม่ให้สกายปิดประตูรถได้“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” สายฟ้าเอ่ยกับสกายด้วยน้ำเสียงเรียบ“ไปส่งทำไมครับผมเอารถมา” สรรพนามที่เรียกผมแทนชื่อตัวเองบ่งบอกว่าเจ้าตัวดูจะไม่พอใจเอามากๆ จนสายฟ้ารู้สึกเจ็บจื๊ดๆ ที่อกข้างซ้ายเสียอย่างนั้น“พี่ขอโทษครับ”“ขอโทษทำไมครับพี่ฟ้าไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย ปล่อยด้วยครับผมจะกลับบ้าน”“ให้พี่ไปส่งนะครับคนดี พี่ฟ้าขอโทษต่อไปนี้พี่ฟ้าจะไม่แกล้งหนูแล้ว” สายฟ้าพูดพร้อมจับที่ข้อมือของสกายพร้อมออกแรงดึงให้อีกฝ่ายลงมาจากรถ“พี่ฟ้าจะพาผมไปไหนครับ”“ไปหาแด๊ดกับแม่พี่ครับ” พูดจบก็ลากคนตัวเล็กเดินกลับเข้าไปในบ้าน พอดีกับคีรันและอล
คุณหมออนุญาตให้คีรันออกจากโรงพยาบาลได้แต่ก็ต้องกลับไปให้หมอล้างแผลและรักษาบาดแผลที่เหลือให้หายต่อ คีรันเลือกกลับมาฟื้นฟูร่างกายที่บ้านแทนคอนโดเพราะอลินตาเสนอจะมาดูแลเขาหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล แม้จะค้านแต่คุณแม่ท้องอ่อนก็ดื้อดึงที่จะมาคีรันไม่อยากให้อีกฝ่ายเดินเหินเยอะเพราะท้องอ่อนอยู่จึงเลือกมาที่บ้านดีกว่าเพราะที่บ้านยังมีแม่บ้านที่พอจะเรียกใช้ได้“ค่อยๆ เดินนะครับ” คนตัวเล็กบอกคนเจ็บที่กำลังช่วยกันพยุงตัวมานั่งที่เก้าอี้อยู่ที่สวนหน้าบ้านในยามเช้าของวัน“หนูทำไมไม่หาผ้ามาคลุมด้วยครับอากาศเย็นๆ แบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ”“เดี๋ยวลินให้พี่แป้งไปหยิบให้ก็ได้ครับ” อลินตาหันไปบอกกับพี่เลี้ยงที่ตามมาดูแลเขาที่นี่ตามคำสั่งของแด๊ดให้พี่แป้งไปหยิบผ้าคลุมมาให้ตามที่คีรันบอก เมื่อได้ผ้าคลุมตัวเองแล้วอลินตาก็ถูกคนตัวสูงบังคับให้ไปนั่งข้างๆ กันก่อนที่แขนแกร่งจะกอดเขาไว้แน่น&ldq
“ไม่จริง…พ่อโกหก พ่อพูดโกหกไอ้รันเป็นคนบอกผมเองว่าเกาะนั่นเป็นชื่อของมันไม่ใช่ชื่อผม ไม่จริง! พ่อโกหก พ่อโกหกผม!!!”ภายในห้องเงียบสงัดเมื่อสิ้นประโยคที่พายุตะโกนออกมาทั้งน้ำตา ขาทั้งสองข้างก็พลันทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างแรงตรงหน้าผู้เป็นบิดาที่ยืนน้ำตาไหลด้วยความเสียใจที่เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะคนคนเดียว“พะ อึก พ่อโกหก”“ทุกอย่างที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมด”“อึก”“ยอมรับผิดเถอะนะพายุเรื่องทุกอย่างจะได้ทุเลาลง”“ผะ ผมขอโทษ พ่อผมขอโทษ” ณรงค์เดินเข้าไปหาลูกชายพลางทรุดตัวนั่งคุกเข่าข้างเดียวลงกับพื้นพร้อมเอื้อมมือไปแตะลงบนไหล่อันสั่นเทาของลูกชาย“ฉันไม่เคยโกรธเคยเกลียดแกเลยเพราะแกเป็นล
"ถ้าหนูไม่พูดพี่ฟ้าจะไม่ใจดีแล้วนะครับ"“....” สกายนั่งนิ่งไม่แม้แต่จะเอ่ยอะไรใด ๆ ออกมาเมื่อได้ยินที่คนตัวสูงพูดแบบนั้น“หมดฤทธิ์แล้วเหรอครับ” สายฟ้าพูดยิ้มๆ โดยที่คนบนตักไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากำลังถูกเขาต้อนให้จนมุมอยู่“เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้กับผมสักทีครับ”“พี่ทำอะไรเหรอครับ”“ก็ที่ทำอยู่นี่ไงครับ ผมไม่อยากรู้สึกกับพี่ไปมากกว่านี้แล้วพี่ฟ้าปล่อยผมไปได้มั้ยครับแล้วผมสัญญาว่าจะไม่มาให้พี่ฟ้าเจอหน้าผมอีกเลย” คนพูดพยายามเก็บอาการไม่ให้อีกฝ่ายจับน้ำเสียงของเขาได้ว่ามันกำลังสั่นแค่ไหน“พูดเหมือนจะไปที่ไหนเลยนะครับ” สายฟ้าเอ่ยถามคนบนตัก“ผมกำลังจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ผมกำลังจะตัดใจจากพี่ฟ้าและไปเริ่มต้นใหม่ที
ช่วงสายของวันอลินตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวเล็กน้อยเพราะเมื่อวานร้องไห้ไปเยอะ เปลือกตาสีไข่กะพริบตาขึ้นลงเพื่อปรับสายตากับแสงแดดที่ส่องเข้ามาภายในห้อง ภาพตรงหน้าของเขาตอนนี้คือฝ้าเพดานสีขาวสว่างก่อนที่รอบดวงตาจะรู้สึกร้อนผะผ่าวขึ้นมา หยดน้ำตาร่วงรินไหลลงมาข้างหางตาพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้เบาๆเสียงเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับหมอและพยาบาลที่เข้ามาตรวจอาการของลิน สายฟ้าที่นอนหลับอยู่ที่โซฟาในห้องพักกับสกายก็สะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงหมอและพยาบาลพูดคุยกับคนไข้บนเตียง“ตอนนี้คนไข้ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วถ้ายังไงหมออยากให้คุณระวังตัวให้มากขึ้นด้วยนะครับเพื่อตัวคุณแล้วก็เด็กในท้องครับ”“ครับ?” คนป่วยที่นั่งอยู่บนเตียงนั่งมึนอยู่กับคำพูดของหมอเมื่อครู่เขาท้องอย่างนั้นเหรอ?“อะไรนะครับหมอ” สายฟ้าที่ได้ยินหมอพูดเมื่อกี้ก
ปัง!!เสียงปืนดังขึ้นมาจากทิศทางหน้าประตูห้องพร้อมกับการปรากฏร่างของสายฟ้ากับสกายและลูกน้อง ฝั่งของเสี่ยสิงห์เมื่อได้ยินเสียงปืนที่มาจากทิศทางอื่นลูกน้องก็รีบวิ่งไปคุ้มกันพร้อมทั้งยังพาไปหลบในมุมคีรันเมื่อเห็นว่าทุกคนวิ่งหาที่หลบก็รีบพาอลินตาวิ่งไปหาสายฟ้า“หลบ!” เสียงของสายฟ้าร้องขึ้นเมื่อเห็นพายุที่หลบอยู่หลังโซฟาตัวใหญ่เล็งปืนมาคีรัน คีรันดันให้คนรักก้มลงพร้อมทั้งใช้ตัวเองบังเอาไว้ ก่อนที่สายฟ้าจะส่งสัญญาณให้รีบวิ่งออกไปปัง!กระสุนจากพายุยิงมาโดนแขนของคีรันจนเลือดไหลย้อยลงมาตามแขนซึ่งเป็นช่วงที่ลูกน้องของสายฟ้ายิงสะกดพวกเสี่ยสิงห์เอาไว้ให้คีรันกับอลินตารีบหนีไปขณะที่กำลังจะวิ่งไปถึงหน้าลิฟต์ ประตูลิฟต์ก็เปิดออกพร้อมกับลูกน้องของเสี่ยสิงห์ที่ผู้เป็นนายเรียกให้ขึ้นม
คีรันตื่นขึ้นมาด้วยอาการเจ็บบริเวณท้ายทอยตรงที่โดนลูกน้องของเสี่ยสิงห์ใช้กระบอกปืนทุบเขา คีรันอยากจะเอื้อมมือไปจับตรงที่ปวดแต่ก็เหมือนจะยากยิ่งเพราะทั้งแขนและขาของเขาตอนนี้ถูกมัดติดกับเก้าอี้เอาไว้ดวงตาสีเปลือกไข่กะพริบตาถี่เพื่อปรับสายตาก่อนจะเห็นภาพเบื้องหน้าของตัวเอง เตียงนอนหลังใหญ่สีขาวตอนนี้มีร่างเล็กของอลินตานอนหลับอยู่พร้อมทั้งแขนทั้งสองข้างยังถูกมัดติดกันเอาไว้อีก“ฟื้นแล้วเหรอคุณคีรัน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอยู่เบื้องหลังของคีรัน พร้อมกับเสียงฝีเท้าของเสี่ยสิงห์เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างๆ เขา“ปล่อยเมียกู!” คีรันเอ่ยบอกคนที่ยืนอยู่ๆ ข้างๆ เขาด้วยน้ำเสียงเรียบโดยไม่ได้เกรงกลัวเลยสักนิดว่าตัวเองจะถูกอีกฝ่ายฆ่าทิ้ง“อ่า อย่าเพิ่งรีบร้อนสิครับ ผมยังไม่ได้เล่นอะไรสนุกๆ ให้คุณรันดูเลยนะครับ” ร่างสูงเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียงนอนหลังใหญ่ที่มีอลินต
คีรันก้าวเท้าลงมาจากรถหรูด้วยความเร็วก่อนจะโดนมือบางของใครบางคนคว้ารั้งเอาไว้ให้หยุดชะงักนิ่งอยู่กับที่ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่จับแขนตัวเอง“พี่รันอย่าเพิ่งไปครับ”และคนที่รั้งแขนของคีรันเอาไว้ก็คือสกายที่คีรันบอกให้รออยู่ที่โรงแรม“ทำไมไม่รออยู่ที่โรงแรมครับ” คีรันที่หันมาเห็นว่าใครเป็นคนคว้ารั้งตัวเขาเอาไว้ ก็หันมาเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าแปลกใจ“นี่ขิงเพื่อนของกายเองครับ พอดีขิงบอกว่าตอนนี้แฟนของขิงกำลังนั่งดื่มอยู่กับเสี่ยสิงห์อยู่บนชั้นสาม ซึ่งห้องนั้นกายจำได้ว่ามันเป็นกระจกคนคนในห้องอาจจะมองเห็นพี่รันได้ กายว่าพี่รันรออยู่ข้างนอกก่อนจะดีกว่านะครับ”“พี่รอไม่ได้ครับ”“งั้นพี่รันก็เข้าไปพร้อมกับกายแล้วก็ขิงนี่แหละครับส่วนลูกน้องของพี่รันก็ให้รออยู่ที่รถก่อน เพราะไม่งั้นลูกน้องของเสี่ยสิงห์ต้องสงสัยเราแน่ๆ ครับ” คีรันหันไปสั่งบิคให้รออยู่ด้านนอกแล้วตัวเขาก็เดินตามสกายเข้าไปด้านในดวงตาคมจ้องมองบรรยากาศภายในบ่อน สิ่งอบายมุขต่างๆ มีครบหมดทุกอย่างในที่แห่งนี้และสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดในวงการนี้คือการค้ามนุษย์ และที่นี่ก็มีเช่นพวกกระเป๋าหนักที่ชอบเรื่องนี้ก็จะมารวมตัวกันเพื่อประมูลคนสวยๆ งามๆ