ดวงตาคมคล้ายเหยี่ยวเหลือบมองขึ้นไปยังหน้าห้องวีไอพีที่อลินตาหายเข้าไปในห้องนั้นกันแค่สองคน คีรันมองไปที่ชายหนุ่มใส่สูทที่ยืนอยู่หน้าห้องวีไอพีก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพยักหน้าส่งให้คีรัน บอดี้การ์ดหนุ่มหันไปกระซิบบอกกับเพื่อนอีกคนก่อนจะเดินลงมาและเดินไปทางประตูด้านหลังของร้าน
เมื่อเดินมาถึงบอดี้การ์ดหนุ่ม ก็เจอกับคีรันที่ยืนอัดนิโคตินเข้าปอดระหว่างที่รอเขาเดินไปหา
“จับตาดูไอ้เหี้ยราเชนนั่นให้ดีๆ กูขายกับมันมาหลายปีกูรู้ว่ามันนิสัยเหี้ยขนาดไหน” คีรันพูดบอกอีกคนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ครับ”
“แล้วนัดมันมาคุยเรื่องอะไรกันที่นี่” คีรันอัดนิโคตินเขาปอดอีกรอบพร้อมถามชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“เรื่องซื้อขายอาวุธครับ”
“นี่เขาคิดจะมาขายอาวุธกับลูกค้าประจำป๊ากูเพื่อตัดราคากันหรือไง” คีรันพูดขึ้นอย่างไม่จริงจังนักเมื่อรู้ว่าอลินตาคิดจะขายอาวุธให้กับลูกค้าประจำของตัวเอง
“ทางคุณราเชนติดต่อมาเพื่อขอซื้อกับทางคุณหนูเองครับ ส่วนทางคุณหนูก็มีหน้าที่แค่เสนอราคาและขายให้กับทางนั้นไป” ชายหนุ่มแจงให้คีรันทราบเพื่อไม่ให้เข้าใจเรื่องนี้ผิดไป
“เออกูรู้กูก็พูดไปอย่างนั้นแหละ แต่ที่กูเรียกมึงมาเพราะอยากให้มึงจับตาดูไอ้ราเชนไว้ให้ดีๆ ยิ่งมันมาเห็นตัวจริงของลินแบบนี้กูยิ่งเป็นห่วง” เพราะเขารู้ว่าราเชนชอบผู้ชายแถมยังมีข่าวฉาวเรื่องทำร้ายร่างกายเด็กที่มันดีลไปอีก
รันรู้เรื่องพวกนี้เป็นอย่างดีเพราะอยู่ในแวดวงธุรกิจมืดด้วยกัน บางคนถึงกับเป็นศพกลับมาหรือไม่ก็หายสาบสูญไป
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“เออๆ รีบไป ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับลินมึงรีบรายงานกูทันทีเลยนะ” อีกฝ่ายก้มหัวให้คีรันเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับเข้าไปในร้าน
คีรันมองตามบอดี้การ์ดหนุ่มที่เดินหายเข้าไปในร้าน เขายืนสูบบุหรี่อยู่ตรงนั้นต่อสักพักก่อนจะเดินกลับเขาไปในร้าน
รันนั่งดื่มกับศิลาไปเรื่อยๆ จนรู้สึกผิดสังเกตเมื่อยังไม่เห็นว่าคนที่ยืนอยู่หน้าห้องจะโดนเรียกเข้าไปสักทีก่อนจะส่งสัญญาณให้คนที่อยู่หน้าห้องเข้าไปดู
“คุยอะไรกันนานขนาดนั้นวะ” คีรันบ่นออกมาเบาๆ ศิลาที่เห็นเพื่อนนั่งคุยคนเดี๋ยวก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเป็นปกติที่มันจะพูดแบบนี้คนเดียว
เคาะประตูสองสามครั้งแต่ข้างในห้องก็ยังเงียบสนิทจนรู้สึกถึงความผิดปกติจึงหันไปมองคนที่นั่งอยู่ด้านล่าง ก่อนจะพยายามเปิดประตูเข้าไปแต่ก็โดนล็อกจากข้างใน เขาหันไปบอกพนักงานที่อยู่ใกล้ๆ ให้หากุญแจมาเปิดห้อง พลันคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้น
“เจ้านายยังไม่ได้สั่งห้ามเปิดเข้าไปเด็ดขาด!”
“แต่เจ้านายกูสั่ง!” เสียงเข้มพูดกับลูกน้องของราเชนนิ่งพร้อมจ้องมองไปที่อีกฝ่ายด้วยสายตาที่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ในพริบตา จนอีกฝ่ายล่าถอยไปเพราะทางฝั่งของตัวเองมีแค่เขาคนเดียว
ภายในห้องตอนนี้อลินตานอนสลบอยู่ที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับราเชน ส่วนคนที่วางยาร่างบางก็นั่งจิบไวน์อย่างใจเย็นไม่รีบร้อน เขากระดกไวน์ในแก้วหมดรวดเดียวก่อนจะเดินมานั่งยองลงตรงหน้าหนุ่มหน้าใส
“หึ ชิมนิดชิมหน่อยจะเป็นไรไปคนสวย” นิ้วเรียวยาวลากตามโครงหน้าสวยนั้นอย่างหลงใหล
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูรัวๆ ให้คนในห้องเปิดประตู แต่คนในห้องก็ไม่ได้สนใจตรงกันข้ามเขาจ้องมองใบหน้าสวยใสที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้า ก่อนจะโน้มใบหน้ากดจมูกลงบนแก้มนุ่มนั้นอย่างหลงใหล มือหนาเอื้อมไปประคองให้คนตัวเล็กนอนบนโซฟาดีๆ ยื่นมือไปจับที่กระดุมเม็ดบนสุด ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของร่างขาวเนียนตรงหน้าอย่างเบามือเพราะกลัวของเล่นชิ้นใหม่จะเป็นรอย
เมื่อเม็ดสุดท้ายถูกปลดออกราเชนก็แหวกเสื้อออกเผยให้เห็นร่างกายขาวเนียนที่ตนปรารถนาอยากลิ้มลอง
ปึงง!!!
ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอย่างแรงด้วยฝีมือของคีรันก่อนจะเห็นว่าราเชนกำลังคร่อมร่างของอลินตาอยู่ คีรันเดินตรงเข้าไปพร้อมกับคว้าเข้าที่คอเสื้อและต่อยที่ใบหน้าของราเชนไปหนึ่งทีก่อนที่อีกคนจะได้ลุกขึ้นสวนกลับมา
“ไอ้สัตว์! มึงทำเหี้ยอะไร!”
“ถุย! แล้วมึงละเข้ามาทำเหี้ยอะไรไอ้คีรัน” ราเชนจ้องหน้าคีรันอย่างคาดแค้นเพราะโดนคีรันต่อยเข้าที่ใบหน้าจนเลือดซิบมุมปาก กลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปทั่วปากนั่นยิ่งทำให้ราเชนโกรธจัด
“มึงไม่มีสิทธิ์แตะต้องคนของกูจำเอาไว้ไอ้ราเชน แม้แต่ปลายเส้นผมมึงก็ไม่มีสิทธิ์แตะ” คีรันพูดขึ้นพร้อมจ้องไปที่ราเชนอย่างไม่ลดละ
“ถ้ามึงคิดจะเล่นสกปรกแบบนี้งั้นมึงไปเล่นกับเพื่อนมึงในห้องใต้ดินก็แล้วกัน มาเอาตัวมันไป!” คีรันพูดกับราเชนก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องของตนที่เดินตามเข้ามาในห้องก่อนจะเอาถุงผ้าสีดำมาคลุมหัวของราเชนแล้วลากออกจากห้องไป
“มึงทำกับกูแบบนี้ระวังสภาพมึงจะเหมือนแม่มึงเมื่อแปดปีที่แล้ว”
กึก!
“เดี๋ยว! ลากมันกลับมานี่” คีรันพูดขึ้นบอกให้ลูกน้องที่กำลังลากไอ้หมาตัวนั้นออกจากห้องให้ลากมันกลับมาก่อนจะดึงผ้าดำออกพร้อมเอื้อมมือไปจิกเส้นผมของมันให้เงยหน้าขึ้นมามองหน้าของรัน
“มึงว่าไงนะ”
“หึ ทำไมวะกูพูดแทงใจดำมึงหรือไง” ราเชนพูดขึ้นพร้อมแสยะยิ้มออกมา
“มึงรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องของแม่กู”
“กูไม่บอกมึงให้โง่หรอก ฮ่าๆ” ราเชนหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
“ไอ้ราเชน!” คีรันเรียกชื่อคนตรงหน้าขึ้นเสียงดังด้วยความโมโห ก่อนจะใช้หลังมือตบลงบนใบหน้าของราเชนครั้งเดียวจนอีกฝ่ายสลบไป
“เอามันไปขังเดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะเข้าไปคุยกับมัน” ลูกน้องของคีรันลากตัวราเชนออกไปจากห้อง เสียงโวยวายของราเชนดังขึ้นเป็นระยะแล้วก็เงียบหายไป
คำพูดของราเชนยังก้องอยู่ในหัวของคีรันจนเขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน เมื่อได้สติคนตัวสูงก็เดินมุ่งไปหาร่างบางที่นอนอยู่โซฟาทันที
“ลิน ลินได้ยินพี่มั้ย ลิน!” คีรันปลุกคนตัวเล็กให้ตื่นแต่อีกฝ่ายก็ยังนอนนิ่ง คีรันจึงเอื้อมมือไปติดกระดุมให้คนตรงหน้าก่อนจะอุ้มอีกคนเดินออกจากห้องไปที่รถของตน
“นายจะพาคุณหนูไปไหนเหรอครับ” ลูกน้องของอลินตาเอ่ยถามคีรันผู้เป็นนายอีกคน
“ไปที่คอนโดกู ไม่ต้องห่วงถ้าเขาตื่นแล้วอาละวาดเดี๋ยวกูรับผิดชอบเองมึงไม่ต้องกลัว ส่วนลูกน้องของไอ้ราเชนมึงพามันไปส่งที่หน้าบ้านมันแล้วขับรถตามกูไปที่คอนโดแล้วกัน”
“ครับ” ทั้งสองก้มหัวให้คีรันเล็กน้อยก่อนจะมองตามท้ายรถของคีรันที่ขับออกไป
#อลินตคีรัน
เมื่อมาถึงคอนโดของคีรันเขาจัดการอุ้มคนตัวเล็กขึ้นแนบอกเอาไว้ก่อนจะพาร่างบางขึ้นไปที่ห้อง วางร่างเล็กลงบนเตียงนอนด้วยความเบามืออย่างทะนุถนอม ก่อนจะถอดเสื้อสูทตัวนอกของคนตัวเล็กออกพร้อมตะล่อมผ้าห่มคลุมร่างบางเอาไว้ ดวงตาคมคล้ายเหยี่ยวมองใบหน้าคนที่หลับอยู่ตรงหน้าอย่างพิจารณา
เสียงผ้าห่มเสียดสีไปกับร่างบางทำให้คีรันที่นั่งเหม่ออยู่ถึงกับหลุดออกจากภวังค์สายตาหยุดอยู่ที่คนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงของเขา คีรันลูบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ สักพักก็เดินกลับออกมาในชุดนอนผ้าลื่นสีดำ ก่อนจะเดินออกเตียงมาอีกฝั่ง คนตัวสูงสะบัดผ้าห่มออกเล็กน้อยก่อนจะสอดตัวของเขาลงบนเตียงข้างๆ คนตัวเล็ก
แขนแกร่งคว้าเข้าที่เอวบางก่อนจะออกแรงรั้งให้คนตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง จมูกคมกดจุมพิตลงบนหน้าผากเนียนอีกครั้งก่อนที่จะเอ่ยบอกกับคนในอ้อมแขน
“ต่อไปนี้พี่จะไม่ทิ้งหนูไปไหนอีกแล้ว พี่สัญญา” เสียงทุ้มเอ่ยบอกกับคนที่นอนอยู่หลับอยู่บนที่นอนเตียงใหญ่ก่อนจะก้มลงจูบที่หน้าผากเนียนเบาๆ
“ฝันดีนะครับคนดีของป๊า”
รุ่งเช้าอลินตารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนหัวเล็กน้อย ร่างบางขยับเปลือกตาสีไข่กะพริบขึ้นลงปรับถี่ๆ เพื่อนปรับสายตา ก่อนจะเห็นภาพตรงหน้าเป็นแผงอกของใครสักคนในชุดนอนผ้าลื่นสีดำ ใบหน้าใสเงยหน้าขึ้นมองคนที่นอนกอดตัวเองอยู่ก่อนที่ตัวตาใสจะเบิกกว้างขึ้นด้วยความแปลกใจพร้อมกับความสับสนในใจ
นี่มันอีตาบ้าคีรันนี่นาแล้วลินมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงแถมยังมานอนอยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกต่างหาก นอนคิดไปสักพักก่อนเหตุการณ์เมื่อคืนนี้จะแล่นเข้ามาในหัว
นายราเชน
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามในขณะที่ยังไม่ลืมตาพร้อมกระชับกอดแน่นขึ้น ลินที่ตั้งสติได้ก็ยกเท้าขึ้นก่อนจะถีบเข้าที่ลูกรักของคนตัวสูงจนอีกฝ่ายกลิ้งตกลงมานอนกุมเป้าอยู่ข้างเตียง
“นี่กะเล่นจะเอาให้สูญพันธุ์กันเลยเหรอตัวแสบ” คีรันร้องขึ้นพร้อมกุมเป้าตัวเองเมื่อโดนร่างเล็กถีบเข้าเต็มกลางลำ
ใช้งานไม่ได้แล้วมั้งเนี่ยเจ็บชะมัด
“แล้วใครใช้ให้คุณมากอดผมเนี่ย” อลินตากอดผมห่มเอาไว้แน่นพร้อมมองไปที่คนที่นั่งกุมเป้าตัวเองอยู่ที่พื้นอย่างเอาเรื่อง นี่มันเรื่องอะไรกันวะเนี่ย
“ก็หนูนอนดิ้นพี่ก็ต้องกอดไว้สิ”
“อย่าเอาคำพวกนั้นมาเรียกแทนชื่อผม!” เสียงใสเอ่ยด้วยความไม่พอใจ ไอ้คำพวกนั้นมันกลายเป็นอดีตไปแล้วทำไมคนตรงหน้ายังเรียกเขาแบบนั้นอยู่อีก ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายทิ้งเขาไปทำไมยังกล้ามาเรียกเขาแบบนั้นอยู่อีก ทุกอย่างมันกลายเป็นอดีตไปแล้วทำไมต้องรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก
คิดได้แบบนั้นพลันน้ำตาที่ไม่รักดีก็เอ่อคลอรอบดวงตาของเขาจนน่าหงุดหงิด
“พี่ขอโทษ ไม่ร้องนะครับ” คีรันตกใจไม่คิดว่าร่างเล็กบนเตียงจะร้องไห้ออกมาก็รีบลุกขึ้นยืน ก่อนจะโน้มตัวหมายจะเอื้อมมือเช็ดน้ำตาให้คนตัวเล็ก แต่มือบางก็ปัดมือที่กำลังจะเอื้อมมาเช็ดน้ำตาให้
“อึก ไม่ต้องมาแตะต้องตัวผม”
“โอเคๆ พี่ไม่แตะลินแล้ว งั้นเดี๋ยวลินเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำก่อนเดี๋ยวพี่เตรียมชุดเอาไว้ให้” คนตัวเล็กไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมา ทำแค่เพียงนั่งเช็ดน้ำตาเหมือนเด็กน้อยก่อนจะขยับตัวลงจากเตียงแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
คีรันอมยิ้มกับภาพนั้นก่อนจะเดินไปเตรียมเสื้อผ้าให้คนที่อยู่ในห้องน้ำเปลี่ยนและเดินออกไปทำข้าวเช้าเผื่อคนตัวเล็กที่อยู่ในห้องน้ำ
ลินใช้เวลาอาบน้ำนานพอสมควรก่อนจะออกมาและโทรเรียกให้พี่กันต์ขับรถมารับที่คอนโดของคีรันโดยที่ไม่รอกินข้าวเช้าที่อีกคนทำไว้เผื่อ
หลังจากที่กลับมาถึงคอนโดลินก็โทรรายงานเรื่องขายสินค้าให้กับทางราเชน ให้พี่สายฟ้ารู้ว่าทางฝั่งนั้นอยากขอดูลายละเอียดเพิ่มเติม แต่ไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองโดนวางยาเพราะกลัวพี่สายฟ้ากับแด๊ดกับแม่จะเป็นห่วงและแห่กันมาหาเขาที่ไทยจนไม่เป็นอันทำอะไร
คุยกับพี่ฟ้าเสร็จลินก็เรียกพี่กันต์กับบรู๊คเข้ามาในห้องเพื่อถามเรื่องเมื่อคืน
“ลินอยากรู้ว่าลินไปนอนอยู่คอนโดเขาได้ยังไงครับ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับลิน” ใบหน้าลูกเสี้ยวอิตาลีจ้องมองไปที่ลูกน้องทั้งสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า แม้ว่าทั้งคู่จะอายุเยอะกว่าเขาไม่กี่ปีก็ตาม แต่ถ้าเป็นเรื่องงานลินก็มักจะใช้น้ำเสียงที่หนักแน่นเพื่อให้ทั้งสองคนไม่คิดว่าเป็นเด็กน้อยหัดอมมือ
“หลังจากที่คุณหนูสลบไปคุณคีรันก็เข้าไปช่วยคุณหนูเอาไว้ก่อนที่นายราเชนจะได้ทำอะไรกับคุณหนูไปมากกว่านี้ครับ” พี่กันต์เอ่ยขึ้น
“แล้วลินไปอยู่คอนโดของเขาได้ยังไง”
“คุณคีรันอุ้มคุณหนูขึ้นรถไป ผมกับบรู๊คขับรถตามไม่ทันครับ”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีครับ แต่ถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนั้นแล้วไม่ยอมบอกลิน ถ้าลินจับได้ลินเอาตายนะครับ"อลินตาพูดทิ้งท้ายเอาไว้ให้ลูกน้องทั้งสองคนได้สำนึกก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับเข้าห้องนอนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่
"เตรียมรถไว้ด้วยนะครับลินจะเข้าบริษัท”
“ถึงวันนั้นเราก็คงไม่ตายเป็นคนแรกหรอกมั้ง” กันต์พูดขึ้นลอยๆ ตามหลังเจ้านายไปก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อเตรียมรถไว้ให้นายน้อย
"ครับ"
กดใจ คอมเม้นพูดคุยกันได้เน้อออ ขอบคุณค่ะ
เวลาล่วงเลยผ่านมาจนตอนนี้อาทิตย์หน้าอลินตาก็ต้องเตรียมของใช้ไปที่โรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัยเพราะถึงเดือนที่เขาใกล้จะคลอดแล้ว ตอนนี้ว่าที่คุณพ่อลูกสองก็เริ่มยุ่งๆ อยู่กับงานที่บริษัทเพราะเขาต้องมอบหมายหน้าที่ให้กับอีกคนเพราะคีรันอยากจะหยุดทำงาน 3 เดือนเพื่อออกมาดูแลลูกแฝดช่วยอลินตาตอนแรกที่ลินรู้ก็ไม่ยอมเพราะไม่อยากให้คีรันหยุดงานนานเกินไปเผื่อมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นที่บริษัท คีรันก็บอกกับเขาว่าคนที่ตัวเองมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นประธานบริษัทแทนคีรันในช่วงที่คีรันหยุดงานเป็นคนที่อยู่กับเขามานานและไว้ใจได้ แล้วคีรันก็ไม่ได้ให้คนนั้นมาดูแลแค่คนเดียวแต่จะมีป๊าของเขาเข้ามาดูแลช่วยด้วยอีกคนคนตัวสูงบดจมูกลงบนแก้มจ้ำม่ำของคุณแม่ลูกสองที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเด็กแรกเกิดอยู่ที่เตียงนอนเพื่อรอคีรันอาบน้ำเสร็จแล้วเข้านอนพร้อมกัน“อื้ออ!!”“หอมจัง” พูดจบก็เดินมาอ้อมเตียงมาฝั่งที่ตัวเองนอนก่อนจะขึ้น
เข้าสู่เดือนที่ 5 ร่างกายของคุณแม่ลูกแฝดก็เริ่มมีน้ำมีนวลขึ้น หน้าท้องที่เคยแบนราบตอนนี้กลับเริ่มนูนยื่นออกมาเพราะในท้องของคุณแม่มีเด็กๆ อยู่ด้วยกันตั้งสองคน“หนูระวังครับ!” คีรันสาวเท้ารีบเดินไปประคองคุณแม่ที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับโดนอลินตาเหวใส่เพราะเสียงดังจนเจ้าตัวสะดุ้งตกใจ“พี่รันจะเสียงดังทำไมครับ”“ก็ลินจะเดินลงมาจากชั้นบนทำไมไม่เรียกพี่ละครับพี่จะได้เดินขึ้นไปรับ”“แค่นี้เองลินเดินลงมาเองได้สบายมากครับ”“ดื้อ!!” คีรันดุคนรักอย่างไม่จริงจังมากนักพร้อมกับยกมือขึ้นบีบจมูกรั้นของอลินตาอย่างมันเขี้ยวคีรันพาอลินตาเดินไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นเพื่อรอสกายกับสายฟ้าที่โทรมาบอกเมื่อช่วงเช้าว่าจะเข้ามาหา อลินตานั่งกินมะม่วงกับคีรันรออยู่ไม่นานคนที
สกายเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ที่โรงจอดรถของบ้านสายฟ้า เมื่อเขากำลังปิดประตูก็มีมือหนามาจับเอาไว้ไม่ให้สกายปิดประตูรถได้“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” สายฟ้าเอ่ยกับสกายด้วยน้ำเสียงเรียบ“ไปส่งทำไมครับผมเอารถมา” สรรพนามที่เรียกผมแทนชื่อตัวเองบ่งบอกว่าเจ้าตัวดูจะไม่พอใจเอามากๆ จนสายฟ้ารู้สึกเจ็บจื๊ดๆ ที่อกข้างซ้ายเสียอย่างนั้น“พี่ขอโทษครับ”“ขอโทษทำไมครับพี่ฟ้าไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย ปล่อยด้วยครับผมจะกลับบ้าน”“ให้พี่ไปส่งนะครับคนดี พี่ฟ้าขอโทษต่อไปนี้พี่ฟ้าจะไม่แกล้งหนูแล้ว” สายฟ้าพูดพร้อมจับที่ข้อมือของสกายพร้อมออกแรงดึงให้อีกฝ่ายลงมาจากรถ“พี่ฟ้าจะพาผมไปไหนครับ”“ไปหาแด๊ดกับแม่พี่ครับ” พูดจบก็ลากคนตัวเล็กเดินกลับเข้าไปในบ้าน พอดีกับคีรันและอล
คุณหมออนุญาตให้คีรันออกจากโรงพยาบาลได้แต่ก็ต้องกลับไปให้หมอล้างแผลและรักษาบาดแผลที่เหลือให้หายต่อ คีรันเลือกกลับมาฟื้นฟูร่างกายที่บ้านแทนคอนโดเพราะอลินตาเสนอจะมาดูแลเขาหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล แม้จะค้านแต่คุณแม่ท้องอ่อนก็ดื้อดึงที่จะมาคีรันไม่อยากให้อีกฝ่ายเดินเหินเยอะเพราะท้องอ่อนอยู่จึงเลือกมาที่บ้านดีกว่าเพราะที่บ้านยังมีแม่บ้านที่พอจะเรียกใช้ได้“ค่อยๆ เดินนะครับ” คนตัวเล็กบอกคนเจ็บที่กำลังช่วยกันพยุงตัวมานั่งที่เก้าอี้อยู่ที่สวนหน้าบ้านในยามเช้าของวัน“หนูทำไมไม่หาผ้ามาคลุมด้วยครับอากาศเย็นๆ แบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ”“เดี๋ยวลินให้พี่แป้งไปหยิบให้ก็ได้ครับ” อลินตาหันไปบอกกับพี่เลี้ยงที่ตามมาดูแลเขาที่นี่ตามคำสั่งของแด๊ดให้พี่แป้งไปหยิบผ้าคลุมมาให้ตามที่คีรันบอก เมื่อได้ผ้าคลุมตัวเองแล้วอลินตาก็ถูกคนตัวสูงบังคับให้ไปนั่งข้างๆ กันก่อนที่แขนแกร่งจะกอดเขาไว้แน่น&ldq
“ไม่จริง…พ่อโกหก พ่อพูดโกหกไอ้รันเป็นคนบอกผมเองว่าเกาะนั่นเป็นชื่อของมันไม่ใช่ชื่อผม ไม่จริง! พ่อโกหก พ่อโกหกผม!!!”ภายในห้องเงียบสงัดเมื่อสิ้นประโยคที่พายุตะโกนออกมาทั้งน้ำตา ขาทั้งสองข้างก็พลันทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างแรงตรงหน้าผู้เป็นบิดาที่ยืนน้ำตาไหลด้วยความเสียใจที่เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะคนคนเดียว“พะ อึก พ่อโกหก”“ทุกอย่างที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมด”“อึก”“ยอมรับผิดเถอะนะพายุเรื่องทุกอย่างจะได้ทุเลาลง”“ผะ ผมขอโทษ พ่อผมขอโทษ” ณรงค์เดินเข้าไปหาลูกชายพลางทรุดตัวนั่งคุกเข่าข้างเดียวลงกับพื้นพร้อมเอื้อมมือไปแตะลงบนไหล่อันสั่นเทาของลูกชาย“ฉันไม่เคยโกรธเคยเกลียดแกเลยเพราะแกเป็นล
"ถ้าหนูไม่พูดพี่ฟ้าจะไม่ใจดีแล้วนะครับ"“....” สกายนั่งนิ่งไม่แม้แต่จะเอ่ยอะไรใด ๆ ออกมาเมื่อได้ยินที่คนตัวสูงพูดแบบนั้น“หมดฤทธิ์แล้วเหรอครับ” สายฟ้าพูดยิ้มๆ โดยที่คนบนตักไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากำลังถูกเขาต้อนให้จนมุมอยู่“เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้กับผมสักทีครับ”“พี่ทำอะไรเหรอครับ”“ก็ที่ทำอยู่นี่ไงครับ ผมไม่อยากรู้สึกกับพี่ไปมากกว่านี้แล้วพี่ฟ้าปล่อยผมไปได้มั้ยครับแล้วผมสัญญาว่าจะไม่มาให้พี่ฟ้าเจอหน้าผมอีกเลย” คนพูดพยายามเก็บอาการไม่ให้อีกฝ่ายจับน้ำเสียงของเขาได้ว่ามันกำลังสั่นแค่ไหน“พูดเหมือนจะไปที่ไหนเลยนะครับ” สายฟ้าเอ่ยถามคนบนตัก“ผมกำลังจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ผมกำลังจะตัดใจจากพี่ฟ้าและไปเริ่มต้นใหม่ที