สัปดาห์ละครั้งแพทย์จะมาพาอภิรดีไปนั่งเล่นในสวนโดยใช้เตียงที่เธอนอนเข็นเคลื่อนที่ออกไป จำเป็นต้องใช้คนที่มีความรู้ทางการแพทย์มาดูแลในขณะเคลื่อนย้าย ทุกครั้งที่ได้สูดอากาศภายนอกหล่อนจะยิ้มอย่างมีความสุขและดูร่าเริง จนคนที่อยู่รอบข้างสัมผัสได้
“หนุ่มสาวคู่นี้จีบอะไรกันอยู่ครับ”
วันนี้ภูวนนท์ลูกชายคนเดียวของบ้านกลับบ้านไวกว่าปกติ จากบทสนทนาที่เขาได้คุยกับบิดา ทำให้ภูวนนท์ตั้งใจที่จะให้เวลากับครอบครัวมากกว่านี้ เขาสะสางงานทุกอย่างให้เสร็จ เพื่อพรุ่งนี้เขาจะใช้เวลาทั้งวันเพื่อดูแลมารดา เพื่อให้พ่อของเขาได้พักผ่อนและแม่ก็จะไม่รู้สึกเดียวดายที่พ่อไม่อยู่
“คุณพ่อครับ พรุ่งนี้หลังเสร็จจากที่เราพาคุณแม่ไปนั่งเล่นหน้าบ้าน คุณพ่อแวะไปที่บริษัทหน่อยนะครับ หลายๆคนถามหา ผมอยากให้เลขาพาคุณพ่อไปดูโครงการใหม่และเก็บภาพมาฝากคุณแม่ด้วยนะครับ”
กฤษฎาเข้าใจในสิ่งที่ลูกชายกำลังทำ เขาต้องการให้ผู้เป็นพ่อได้พักผ่อนโดยการกลับไปเยี่ยมลูกน้อง ไปพูดคุยกับคนเก่าแก่ของบริษัท ได้ช่วยไปตรวจดูความเรียบร้อยในโครงการใหม่ จะได้ใช้ความคิดในเรื่องของการก่อสร้างก่อนที่โรคความจำเสื่อจะมาถามหา
“แม่ครับ พรุ่งนี้ชิดจันทร์จะมาเยี่ยมคุณแม่นะครับ”
ชายหนุ่มบอกกับมารดาด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข เขาและชิดจันทร์คบกันตั้งแต่สมัยที่ภูวนนท์เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยปีสอง ตอนนั้นชิดจันทร์ยังเรียนอยู่มัธยมศึกษาตอนปลาย
ชิดจันทร์เป็นเด็กสาวที่เกิดในตระกูลของผู้ดีเก่า บ้านของหล่อนฐานะดีแต่ก็ยังถือว่ามีอันจะกินน้อยกว่าครอบครัวของภูวนนท์ แต่สิ่งที่บุพการีของของหล่อนต้องการคือตำแหน่งและหัวโขนในสังคม ภูวนนท์ถึงจะรวยล้นฟ้ามากแค่ไหน ก็ยังไม่เป็นที่ถูกใจของอนาคตแม่ยาย คุณนายโฉมเฉลาคิดวางแผนอนาคตไว้จะจับชิดจันทร์ตุนาหงันกับข้าราชการชั้นสูง มีเชื้อหม่อมเชื้อเจ้า หาใช่เจ๊กปลายแถวอย่างภูวนนท์ ที่นามสกุลถูกเปลี่ยนมาจาแซ่ หาใช้ผู้ดีเก่าสมัยอยุธยา
“สวัสดีค่ะคุณป้า อากาศดีจังวันนี้ สงสัยพระอินทร์จะรู้ว่าคุณป้า จะไปนั่งสูดอากาศข้างนอก”
ชิดจันทร์เธอเป็นคนช่างเจรจาตั้งแต่เด็กๆแล้ว เพียงแต่หล่อนจะไม่แสดงต่อหน้าแม่ เพราะไม่อยากโดนคุณนายโฉมเฉลาเอ็ดเอา อยู่ต่อหน้ามารดาหล่อนจึงเลือกที่จะอยู่เงียบๆ
“สวัสดีจ๊ะ หนูชิดจันทร์” อภิรดีตอบสั้นๆแต่เพียงเท่านี้ เพราะต้องเก็บกำลังไว้ใช้กับการเดินทางไปนั่งเล่นในสวน และจะอยู่ที่นั่นจนถึงเวลาอาหารกลางวัน
ความอบอุ่นในครอบครัวเป็นยาวิเศษณ์ที่ดีที่สุด วันนี้ทุกคนอยู่พร้อมหน้ากัน อภิรดีได้เห็นต้นไม้ที่หล่อนปลูกไว้ หกวันในแต่ละสัปดาห์จะได้เห็นแค่เพียงผ่านกระจก เมื่อสามีเปิดม่านให้ดู เสียงนกร้องเสียงกิ่งไม้และใบไม้ที่ไหวตามลม เพิ่มความสุขให้กับคนป่วยให้ได้ยิ้มอย่างมีความสุขอีกครั้ง ถึงแม้ว่าระหว่างการเดินทางมากลางสวนจะทำให้อภิรดีเหนื่อยมากแค่ไหนแต่มันก็คุ้มค่าเมื่อได้นั่งสูดหายใจเต็มปอดอยู่ตรงนี้
เมื่ออภิรดีได้เวลาพักผ่อน ภูวนนท์ชวนชิดจันทร์มานั่งเล่นบริเวณเรือนเล็กหลังบ้าน วันนี้เป็นวันที่เขาตั้งใจจะขอชิดจันทร์แต่งงาน เลยเลือกบรรยากาศที่สดชื่น เย็นสบาย มีความเป็นส่วนตัว ซึ่งเรือนหลังเล็กเป็นบ้านดั่งเดิมของพ่อและแม่ ภูวนนท์ตั้งใจจะปรับปรุงให้เป็นเรือนหอของเขากับชิดจันทร์
“เอยครับ...”
ภูวนนท์เรียกชื่อเล่นของแฟนสาวอย่างคุ้นเคย คนถูกเรียกหันมาส่งยิ้มให้ แววตาของชิดจันทร์ถ้าลองมองสังเกตเข้าไปถึงแววตาข้างในจะเห็นความเศร้าปะปนอยู่ในดวงตาที่เล็กกลมบนใบหน้าที่งดงามของหล่อน
“แต่งงานกับพี่นะ...”
แหวนเพชรเม็ดงานรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ที่ถูกสั่งทำอย่างดีเพื่อใช้ขอผู้หญิงที่เขารักจนสุดใจแต่งงาน มันอาจไม่ใช่เพชรเม็ดใหญ่ แต่มันก็น้ำงามจนต้องสะดุดตาใครหลายคน
“ขอบคุณค่ะ...พี่ภู”
หล่อนยื่นมือและนิ้วนาวเรียวงาม ให้ชายหนุ่มสวมแหวนวงงามที่ถูกสั่งทำให้มีขนาดเหมาะกับนิ้วเล็กของชิดจันทร์
“เอยรักพี่ภูนะคะ...รักมาก มากที่สุด แต่ความรักที่เอยมีให้พี่ภูและพี่ภูมีให้กับเอย มันยังไม่พอที่จะทำให้เราได้แต่งงานกัน” หล่อนโผเข้ากอดเพื่อหวังปิดบังความอ่อนแอที่อยู่ในจิตใจ
ภายนอกหล่อนดูเป็นหญิงสาวที่งดงาม มั่นใจในตัวเอง ร่าเริง สนุกสนาน แต่เมื่อไหร่ที่หล่อนอยู่กับมารดา หล่อนก็พร้อมจะทำตัวเป็นหุ่นยนต์คอยให้คุณนายโฉมเฉลา บังคับบังเหียนให้เธอเดินไปตามเส้นทางที่นางต้องการ
“ชีวิตของเอย คงต้องขึ้นอยู่กับคุณแม่ เอาเป็นว่าเอยรับคำขอของพี่ภูนะคะ แต่จะได้แต่งจริงไหม ต้องอยู่ที่ความพยายามของเจ้าบ่าวในอนาคตแล้วค่ะ” ชิดจันทร์พูดให้กำลังใจภูและตัวเธอเอง
ด้วยวัยที่แก่กว่าและความเป็นคนที่มีความคิดความอ่านโตเกินตัว ภูวนนท์เข้าใจทุกความรู้สึกของชิดจันทร์และพร้อมจะอยู่เคียงข้างเธอทุกความสุขและความทุกข์
“สวัสดีครับคุณแม่”
ชายหนุ่มทักทายผู้เป็นมารดาของแฟนสาวด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ถึงแม้ว่าเขาจะรู้อยู่เต็มอกว่าคุณนายโฉมเฉลาไม่ปรารถนาได้เขาเป็นลูกเขยเลย แต่ที่เขายังอนุญาตให้ชิดจันทร์ได้ไปไหนมาไหนกับเขาบ้าง ก็เพราะว่ายังไม่อยากหักหาญน้ำใจของลูกสาวจนเกินไป และยังมองไม่เห็นชายอื่นที่ดีกว่าภูวนนท์
“วันนี้พากันไปถึงไหนมาล่ะ ภูวนนท์”
คุณหญิงโฉมเฉลาจะเรียกภูวนนท์ชื่อเต็มเสมอ เพราะไม่ต้องการแสงความสนิทสนม แต่ก็ไม่ทำรังเกียจจนไร้มารยาท เพราะอย่างไรเสียตระกูล วชิรชโลธร ก็มีหน้ามีตาในสังคม ถ้าได้เป็นเจ้าเป็นนาย มียศถาบรรดาศักดิ์อีกสักหน่อยเขาคงไม่รังเกียจที่จะรับเศรษฐีใหม่ ที่ล่องเรือมาอาศัยผืนแผ่นดินไทยจนร่ำรวยมาเป็นลูกเขย
“ท้อง” อยู่ดีๆคำว่าท้องก็ผลุดขึ้นในหัวของมินรญา เธอมีอะไรกับเขาถึงสองครั้งโดยไม่ได้ป้องกัน และนี่ก็เกินกำหนดที่ประจำเดือนเธอจะต้องมา “คุณคืนนี้คุณจะไหม...” หญิงสาวกระซิบถามคนข้างๆแบบไม่กล้าพูดตรงๆ “อะไร คุณพูดอะไรมินรญา ผมฟังไม่รู้เรื่อง” เสียงคนถามที่เบาโดนเสียงพ่อค้าแม่ค้าในตลาดกลบเสียงหมด “คืนนี้คุณจะนอนกับฉันไหมคะ” “นอนสิ ก็เราตกลงกันแล้ว หรือคุณจะไล่ให้ผมไปนอนที่อื่น” ภูวนนท์ทำท่าสงสัย “ไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้หมายความถึงนอนแบบนั้น” หญิงสาวเริ่มหน้าแดง “อ๋อ..คุณถามทำไม หรือคุณมีอะไรจะทำให้ผมแปลกใจ” ชายหนุ่มก้มหน้าลงมาใกล้ๆคนตัวเล็กกว่าเพื่อหยอกเธอที่กำลังหน้าแดงเพราะเขินอาย “ฉันกลัวท้อง ประจำเดือน็ยังไม่มา ครั้งนี้เราก็ควรจะป้องกัน” หญิงสาวรวบรวมความกล้า เพราะเธอคงไม่กล้าไปซื้อถุงยางอนามัยเองแน่ๆ “เข้าใจแล้ว เดี๋ยวผมจัดการเอง” ภูวนนท์เอื้อมือมาโอบเอวหญิงสาวเข้ามาเดินใกล้ๆกับเขา ร้านขายยาตั้งอยู่อีกฝั่งของถนน มินรญาเลยขอรออยู่ฝั่งนี้เพราะไม่อยากข้ามไปซื้อกับเขา เธอไม่
บทที่16มันเรียกว่าความรักใช่ไหม “คุณภู คุณมาที่ได้ยังไง”ยังไม่ทันที่มินรญาจะถามจบ ร่างหนาใช้ฝ่ามือที่แข็งแรงดันประตูห้องเข้ามาและกดล็อคห้องทันที “ก็ไม่ได้ยากอะไร สามีจะตามหาภรรยามันเป็นเรื่องง่ายๆ” “คุณภู คุณออกไปที่นี่ห้องฉัน ไม่ใช่บ้านของคุณ คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาโดยที่เจ้าของห้องยังไม่อนุญาต”หญิงสาวเดินมาเกรี้ยวกราดชายหนุ่มที่เดินมานั่งบนโซฟารับแขกตัวใหม่ “สิทธิ์ของความเป็นผัวอย่างไร”ภูวนนท์ทำหน้านิ่งตอบอย่างไม่รู้สึกอะไร “คำก็ผัว สองคำก็ผัว ไอ้ที่นอนกันไม่กี่ครั้ง อย่ามาเรียกตัวเองว่าผัวเลย คุณมันก็แค่ผู้ชายที่ชอบรังแกผู้หญิง ถ้าคุณไม่ออกไป ฉันไปเอง” มือหนาชุดร่างบางที่กำลังหันหลังเพื่อเดินออกนอกห้อง เขาฉุดมือเธออย่างแรงจนตัวแทบปลิว ร่างน้อยตกลงบนตักของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว “มันอยู่ไหน” ผู้บุกรุกส่งเสียงถามคำรามข้างหูคนที่นอนตัวเกร็งอยู่บนตัก “คุณหมายถึงใคร” มินรญาไม่เข้าใจว่า มัน ของเขาคือใคร “ก็ไอ้นาธาน แฟนเธอไง มันอยู่ไหน ผมจะได้บอกมัน ว่าแฟนมันแต่เป็นเมียผม”
แบบนี้ เขาได้แต่กำมือแน่นมองมินรญาด้วยสายตาที่เกี้ยวกราด ทำเอาหญิงสาวหายใจติดๆขัด น้ำตามันไหลออกมาคลอสองตา เธอทั้งกลัวทั้งโกรธกับคำพูดของเขา “วันหลังเราคงได้พบกันอีกนะครับ คุณนาธาน คุณมินรญา” ภูวนนท์พูดทิ้งท้ายเมื่อมินตราลุกขึ้นมาคล้องแขนเขาดึงกลับไปนั่งที่เดิม เพราะกลัวทั้งคู่จะมีเรื่องกันเสียก่อน “พี่ภูคะ มันอะไรกันคะนี่ ผิงกลัวจะมีเรื่องกันจังเลย ตกลงพี่รู้จักหรือเคยทะเลาะกับสองคนนี้มาก่อนเหรอคะ” “กลับกันเถอะผมไม่อยากกินแล้ว กินไม่ลง” ภูวนนท์ไม่ตอบคำถามแต่กลับลุกเดินนำดาราสาวไปรอที่รถที่จอดอยู่ด้านหลังของร้าน “นาธานทำไมพูดกับเขาแบบนั้น” มินรญากล้าละสายตาจากโต๊ะเมื่อร่างหนาที่เธอคุ้นเคยเดินพ้นจากโต๊ะเดินออกไปนอกประตูร้านแล้ว “แบบไหน ที่บอกเป็นแฟนเธอ หรือที่บอกว่าเขากับเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน มิยรญาเธอเปลี่ยนไปมาก จากผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเอง เก่ง ไม่กลัวใคร แต่วันนี้เธอกลับเป็นมินรญาที่สงบเสงี่ยม มีแต่ความกลัว มิ้นเธอต้องคุยกับตัวเองให้ดี ว่าจริงๆแล้วใจเธอต้องการอะไรกันแน่” นาธานเริ่มแน่ใจ ว่าเพื่อนรักของเขามอบหัวใจใ
บทที่15หวง ห่วง “ห้องเล็กไปไหมมิ้น มีหวังแครลีนมาเห็นเธออยู่ห้องแบบนี้ เรียกเธอกลับฝรั่งเศสแน่นอน” เสร็จจากธุระกับญาติพี่น้อง นาธานก็มาหามินรญาตามสัญญา ห้องเล้กที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อยมาก ทำเอาเพื่อนชายรู้สึกไม่เข้าใจ ว่าเจ้าของจะอาศัยอยู่ได้จริงๆเหรอ “อยู่ไปก่อน เราแค่เช่าไม่ได้ซื้อ ไว้ได้เงินเดือนค่อยขยับขยาย” มินรญาให้เหตุผล “โอเค แล้วแต่เธอแล้วกันมิ้น ไป เราไปซื้อเฟอร์กันเถอะ เดี๋ยวไปช้ากว่าเขาจะเอามาส่งอีก” มินรญาชวนให้นาธานมาช่วยเลือกเฟอร์นิเจอร์เข้าห้อง เพราะเธอเองเลือกของพวกนี้ไม่ค่อยเป็น เลยพาเพื่อนมาดูห้องก่อน “มิ้น ทำแบบนี้จะหนีเขาได้จริงๆใช่ไหม” ระหว่างเดินทางทั้งคู่เริ่มคุยเรื่องระหว่างมินรญากับภูวนนท์ “เราไม่แน่ใจ แต่มันคงดีดว่าการที่เราต้องอยู่ใกล้ๆเขา เราไม่อยากเป็นเครื่องมือระบายอารมณ์ของเขาอีก” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจ “มิ้น แน่ใจนะว่าไม่ได้รักนายคนนั้นเข้าแล้ว” นาธานเห็นแววตา น้ำเสียงของเพื่อนที่คบกันมานาน เขาเริ่มไม่แน่ในว่ามินรญาหนีเพราะเกลียดหรือหนีเพราะรัก
ถ้านาธานเป็นผู้หญิงมิรญาจะบังคับให้เขามานอนอยู่กับเธอที่นี่เสียเลย เพราะตอนนี้เธอกำลังต้องการใครสักคนมาอยู่เป็นเพื่อน ยิ่งมาอยู่คนเดียวแบบนี้ หัวใจของเธอมันคิดถึงแต่หน้าขอวภูวนนท์ คิดถึงอ้อมกอด คิดถึงรสรักที่เขามอบให้ แต่อีกใจมันก็คิดถึงคำดูถูกและรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ เธอมันก็แค่ของเล่น“พราววันนี้ไปไหนมาบ้าง เล่าให้พี่ฟังสิ” พี่ชายถามน้องสาวเพราะเธอออกจากบ้านทุกวัน“ไปหาอ่านหนังสือตามร้านหนังสือมาค่ะ” พราวพลอยปดคำโต“นึกว่าแอบไปหาแฟน ถ้ามีแฟนก็พามาแนะนำให้พี่รู้จักบ้างแล้วกัน นี่ก็อีกไม่กี่วันจะเปิดเทอมแล้วเตรียมตัวให้พร้อมนะ อย่ามัวแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ ” ภูวนนท์พูดเปิดทางให้น้องสาวเผื่อเธอจะหลุดปากบอกอะไร“ค่ะพี่ชายสุดที่รัก พราวอยู่บ้านก็เหงา พี่ภูไปทำงานมาตอนนี้พี่มิ้นก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น พราวเลยออกไปหาอะไรทำแก้เหงา”“มิ้นไปไหน ทำไมเขาไม่บอกพี่ ทำไมไม่มีใครบอกพี่เลย ” ชายหนุ่มลืมตัวโวยวายเสียงดังกลางโต๊ะอาหาร“น้าต้องขอโทษแทนมิ้นด้วยนะคะ พอดีต้องรีบไปจัดคอนโดเพราะร้านใกล้จะเปิดแล้ว เลยไม่ได้อยู่รอบอกคุณภู ไว้วันหลังน้าจะให้มิ้นเข้ามาบอกลานะคะ” ฟ้ารุ่งขอโทษแทนลูกสาว
บทที่14หนีหัวใจตัวเอง “เสร็จภายในสองสัปดาห์แน่นอนครับ” ช่างที่ทางห้างติดต่อให้มาปรับปรุงตกแต่งร้านให้ รับรองว่าอีกสองสัปดาห์สามารถนำสินค้ามาวางขายได้แน่นอน ร้านเสื้อผ้าที่หญิงสาวกำลังจะเปิด เป็นร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่พ่อของเธอเป็นหุ้นส่วนใหญ่ มินรญาเองก็ถือหุ้นอยู่จำนวนหนึ่ง แต่เงินรายได้ พ่อของเธอกับแคโรรีนจัดการเก็บไว้ให้ เพราะรู้จักนิสัยลูกสาว ว่าเป็นใจอ่อน ขี้สงสาร กลัวเธอจะส่งมาให้มารดาหมด เสื้อผ้าที่จะนำมาขายในร้านส่วนหนึ่งก็เป็นการออกแบบของมินรญาเอง เพราะเธอเรียนจบทางนี้มาโดยตรง และเป็นงานที่ถนัดและรักมากด้วย เสร็จจากธุระเรื่องร้าน หญิงสาวก็ตระเวนหาเช่าคอนโดใกล้กับห้างที่เปิดร้าน โชคดีมีคอนโดอยู่หนึ่งห้อง คนเช้าเก่าออกไปเมื่อเดือนที่แล้ว เธอสามารถเข้าอยู่ได้เลย เป็นคอนโดขนาดเล็ก พื้นที่ใช้สอยน้อย ขนาดห้องแค่พอนอนและมีมุมทำคนัวเล็กน้อย ค่าเช่าที่ค่อยข้างถูกและอยู่ใกล้กับร้านของเธอโดยที่ใช้เดินเพียงไม่กี่นาที ทำให้มินรญาตัดสินใจเช่าที่นี่ และจะย้ายมาอยู่ให้เร็วที่สุด ข้าวของเครื่องใช้ของเธอมีไม่มากนัก เพราะเพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยไ