ชอว์หอบหายใจ ร่างกายร้อนรุ่มไปด้วยไฟราคะที่กำลังเผาผลาญเขาอยู่ในตอนนี้แม้ร่างกายกำลังขับเคลื่อนโยกสะโพกสอบกระแทกแก่นกายเข้าโพรงสาวคนตรงหน้า แต่ภาพที่เขาเห็นในมโนของสมองตอนนี้กลับเป็นดวงตากลมโตและรอยสักรูปผีเสื้อ
ซี๊ดดดดดด เสียงครางดังออกมา ยามที่แท่งร้อนถูกตอดรัด มือหนากระชับสะโพกขาวตรงหน้าอย่างแรง เมื่อไฟราคะในตัวโหมกระพือโชติช่วงมากขึ้น เขาไม่เคยถนอมผู้หญิงคนไหน เขาทำตามแต่ที่เขาอยากทำ ดุดัน ดิบเถื่อน
รุนแรง เขาทำได้โดยไม่มีความเห็นใจผู้หญิงที่เดินทอดน่องมายืนตรงหน้าเขา
อื้มมมมม เสียงร้องที่เคยดังลั่นของผู้หญิง ยังดังออกมาบ่งบอกว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่มันเบามาก เมื่อสามชั่วโมงแล้วที่เขายังไม่ปล่อยเธอ ทุกสัมผัสของเขารุนแรง จนผิวเธอช้ำแดงและเขียวในเวลาต่อมามากมาย เขาก็หาได้สนใจไม่ เธอบอบช้ำ ร่องรักของเธอทั้งฉีกขาดและบวมแดง เขาก็ไม่สนใจเลยสักนิด ผู้ชายคนนี้เหมือนไม่ใช่คน เนินอกเธอถลอกไปด้วยรอยฟันที่เขาขย้ำยังกับหมาบ้า
“เฮ้ย! แกไปห้ามนายเถอะว๊ะ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันว่าคงต้องแบกแม่นั่นออกไปแบบไม่มีลมหายใจแน่ๆ ฟังสิว๊ะ เสียงร้องเบามากเลยนะโว้ย จะตายคาอกนายเหรอเปล่าก็ไม่รู้”
“แล้วใคร! แทนที่จะส่งแม่นั่นกลับไป รู้ทั้งรู้ว่านายอารมณ์ไม่ดี ยังให้แม่นั่นเข้าไปอีก”
“ก็นายเห็นเธอมานั่งรอแล้วนะโว้ยตอนกลับมา ถ้าฉันส่งกลับแล้วนายถามขึ้นมา แกกล้าตอบนายมั้ยละ” ลูกน้องสองคนหน้าห้องต่อปากกันอย่างพยายามหาคนผิด หาคนรับผิดชอบ
“เอาเถอะ! งั้นตัวใครตัวมันแล้วกัน ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของแม่นั่นก็ถือว่าสิ้นบุญกันเท่านี้ อย่างไรก็ได้ขึ้นสวรรค์ก่อนตายละว๊ะ” หนึ่งในคนเฝ้าประตูสรุปอนาคตที่มีเปอร์เซ็นต์เกิดขึ้นได้จริงๆ ให้เพื่อนอีกคนได้ฟัง
Grrrr Grrrr เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ในบ้านวัฒนาดังขึ้น อัญมณีที่นั่งกึ่งหลับอยู่ที่ห้องนั่งเล่นแค่ลืมตาขึ้นมา เธอคงเผลอหลับไป ก็เธอยังไม่ได้นอนเลยทั้งคืน
“คุณหนูขา คุณเฟิร์นโทร.มาคะ” อัญมณีพยักหน้ารับรู้ โทรศัพท์มือถือของเธอคงอยู่บนห้องนอน
[ฉันนึกว่าแกตายไปแล้ว]
“เออ โทษที เมื่อคืนจู่ๆก็เหมือนจะไม่ค่อยสบายเลยรีบกลับนะ เดินไปบอกไม่ไหว”
[เออ ไม่เป็นไร ก็เห็นแกไม่ส่งข่าวอะไร และทั้งโทร. ทั้งไลน์หา ก็ไม่มีการตอบกลับใดๆสักที]
“โทรศัพท์คงอยู่ตรงไหนสักแห่งหนึ่ง...แล้วที่โทร.มา แค่มาเช็คว่าฉันยังอยู่ใช่มั้ย”
[นั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่เมื่อคืนมันมีเรื่องนะสิ!] อัญมณีตาสว่างทันที หรือว่าพบศพ!!!
“ระ...เรื่องอะไร” อัญมณีกลั้นใจถาม ถ้าเป็นเรื่องเดียวกันกับที่เธอคิดเกี่ยวกับศพ ถ้าพวกฆาตกรไม่ได้เก็บผ้าคลุมไหล่เธอไป ตรงบริเวณนั้นก็จะมีหลักฐานเกี่ยวกับเธอ ผ้าคลุมไหล่ รอยรองเท้า เธอควรเอารองเท้าไปทิ้ง ส่วนผ้าคลุมไหล่ระบบการสืบสวนของประเทศไทยคงไม่ถึงขั้นเอาผ้านั่นไปผ่านกรรมวิธีตรวจหาดีเอ็นเอว่าเป็นของใครเหมือนอย่างในซี่รี่ห์ที่เธอแอบดูอย่างซีเอสไอ พวกนั้นหรอกนะ
[ร้านอาหารเมื่อคืนถูกปล้น]
“ถูกปล้น!!!”
[ใช่ และแปลกมากสิ่งที่หายไปคือเทปบันทึกภาพของกล้องวงจรปิดของร้าน] หนูอัญกลืนน้ำลายเหนียวทันที บ้าเหรอเปล่าทำไมถึงไม่ขโมยเงินนะ ขโมยเทปนั่นก็หมายความว่าพวกมันกำลังค้นหาอะไรบางอย่างที่ต้องเป็นเธอแน่ๆ โอ้ยยยยยย!!!! ทำไมชีวิตถึงเป็นแบบนี้นะ อยู่เฉยๆ ไม่ได้เหรอไง ไอ้อัญ! ทำไมแกถึงแกว่งเท้าหาเสี้ยนแบบนี้นะ!!! [อัญ เฮ้ย! อัญ แกยังอยู่มั้ย...] เสียงปลายสายร้องเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบกลับเพราะคนที่ยืนอยู่ก่อนหน้านี้หายไปจากตรงนี้เสียแล้ว
ฮืออออ ฮือ ฮืออออออ หนูอัญคิดอะไรไม่ออกเธอเลยวิ่งกลับขึ้นมาห้องนอนและเอาแต่ร้องไห้ เพราะตอนนี้ยังนึกอะไรไม่ออก นึกได้อย่างเดียวว่าสิ่งที่ทำได้มีเพียงร้องไห้ ฮือออออ ทำไมชีวิตของหนูมันช่างสั้นขนาดนี้ สิบเก้าปีที่ผ่านมาหนูคิดมาตลอดว่า สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากความเกลียดชังและไม่ตั้งใจอย่างหนูช่างแสนโชคดี หมดแล้ว!!! หมดแล้วบุญวาสนาของหนู ฮืออออ เสียงร่ำไห้ผสมสลับกับเสียงคร่ำครวญน้อยเนื้อต่ำใจของหนูอัญดังก้องไปทั่วทั้งห้องนอน
“พระเจ้า!เจ้าขา ทำไมท่านถึงใจร้ายกับหนูนัก ท่านให้หนูเกิดมาทำไมกับชีวิตเพียงแค่นี้...หนูเกลียดท่าน เกลียดท่าน” ฮืออออออ หนูอัญมุดหน้ากับหมอนหนุนใบใหญ่และเล่นใหญ่กับการร้องไห้อย่างหนัก
“เจ้านายครับ คนของเราทำงานเรียบร้อยแล้วครับ” ชอว์แค่พยักหน้ารับรู้ไว้ แต่ตอนนี้เขามีนัดกับใครอีกคน เรื่องพยานรู้เห็นเมื่อคืนนี้เดี๋ยวค่อยมาสะสางต่อ
“เจ้านายครับ รถพร้อมแล้วครับ” ลูกน้องอีกคนเดินเข้ามาในห้องพักโรงแรมระดับห้าดาว เข้ามาแจ้งเรื่องยานพาหนะที่ชอว์ต้องใช้เดินทางไปอีกที่ เขาไม่ได้พำนักอยู่ในประเทศไทย แต่ที่เขาเดินทางมาเนื่องจากมีบางอย่างที่เขาต้องทำเกี่ยวกับคนไทยคนหนึ่งที่หนีกลับมาที่นี่ ตอนนี้เขาได้เบาะแสของเธอคนนี้แล้ว
ติ๊ง ต่อง ติ๊ง ต่อง กรี๊ดดดดด เสียงอ๊อดหน้าประตูจู่ๆ ก็ดังขึ้นมา หนูอัญกรีดร้องดังลั่นบ้านและเธอก็วิ่งขึ้นกลับเข้าห้องไปทันที ฮือออออ ฮือออออ ไม่เอา! หนูกลัวแล้ว หนูไม่อยากตาย หนูยังมีความสุขไม่พอเลย ฮือออออ ก็อก ก็อก ก็อก เสียงเคาะประตูห้องดังอีกครั้ง ฮืออออ ฮืออออ หนูอัญไม่รู้จะทำยังไงดีนอกจากร้องไห้ เสียงเคาะประตูด้านนอกไม่ได้ทำให้เธอสนใจมันเลยสักนิด เธออยากหายตัวได้จริงๆ เธอจะได้เสกตัวเองหายไปจากที่นี่ “หนูอัญ ลูก!” เสียงคุณยาย! “คุณยายขา...” หนูอัญออกมาจากใต้ผ้าห่ม และเข้ากอดเอวหนาของคุณยายที่รักไว้มั่น “เป็นอะไรไป บัวบอกว่าหนูร้องเสียงดังลั่นบ้า
“ท่านไม่เคยเห็นบุตรสาวของท่านเลยเหรอคะ” “ไม่!” มาตารีเงียบเสียงลงทันทีเมื่อแก้วตาไม่อธิบายเหตุผลใดๆ เธอก็ไม่กล้าเอ่ยถาม เธอจึงเปลี่ยนประเด็น “แล้วบุตรสาวท่านหญิงยินดีช่วยท่านเหรอคะ” แก้วตายิ้มอีกครั้ง “แน่นอนว่าไม่มีทาง” ห๊า! “ท่านหญิง ท่านทำดิฉันงงไปหมดแล้ว” “เวลาจะทำให้เจ้าได้รู้ เอาละถึงเวลาแล้ว เจ้าส่งที่อยู่เข้าเมลล์ได้แล้ว” มาตารีหยิบ MacBook ขึ้นมาทำตามคำสั่งทันที พึ่บ พั่บ พึ่บ พั่บ อัญมณีนอนพลิกตัวไปมา เธอนอนไม่หลับ สายตาเอาแต่จ้องนาฬิกาเข็มวินาทีเดินไม่หยุด แต่เข็มนาทีกำลังจะเลื่อนไปที่เที่ยงคืนตรงแล้ว โอ้ยยย! “ไม่สนหรอก!” หนูอ
ตึบ ตึบ ตึบ ตึบ นอกจากชอว์จะไม่ถนอมร่องสาวที่รัดเขาแน่นแล้ว เขายังจับสะโพกขาวไว้มั่นและอัดเรี่ยวแรงดั่งกับว่าเขากำลังซ้อมวัดกำลังหมัดกับกระสอบทรายอยู่ไม่ปาน อู้ยยยยย “นายท่าน...ขา หนูเจ็บ...” เสียงเว้าวอนขาดๆ ของออยดังขึ้น เธอกำลังออดอ้อนขอความเห็นใจจากชอว์ เขาเกลียดผู้หญิงมากนักหรือไงนะ สิ่งที่ออยคิดอยู่ ไม่ทันไรร่างกายสาวก็ร้อนดั่งไฟ เสียงหลากหลายในห้องแห่งนี้ไม่ได้เข้าหูชอว์เลย สายตาเขานิ่งเยือกเย็นเมื่อนึกถึงสิ่งที่แก้วตาบอก “ชอว์ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนเสียสัตย์ แต่ข้าต้องการความมั่นใจมากกว่าแค่คำสัตย์ของเจ้า อย่าว่าข้าเลย เจ้าก็ไม่ได้เสียหายอะไร ข้ามีหลักประกันให้เจ้าด้วย อย่างไรแล้วข้าก็เป็นแม่คนนะ บุตรสาวของข้าจะเป็นนาฬิกายืดเวลาให้ข้าเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมเธอจะนำของที่เจ้าต้องการมอบให้กับเจ้าด้วยมือ”&nb
เพราะเรื่องนี้เขาไม่รู้จริงๆ แล้วใครละที่กล้าหักหลังเขา คิดจะเป็นนกสองหัวอย่างงั้นเหรอ มันจะไม่ตายดีแน่!!!! หรือเพราะเขาทะนงตัวมากเกินไปว่าจะต้องไม่มีใครกล้า แต่เธอผูู้นี้เชื่อได้แค่ไหนกันเธออาจจะแกล้งแหย่กระตุกหนวดเสืออยู่ก็ได้ “ตกลง ผมจะตอบแทนพระคุณท่านปีดา แต่คุณรู้ใช่มั้ยว่าผมไม่อาจติดตามคุ้มครองคุณได้” “ไม่จำเป็น เรื่องนั้นข้ามีวิธีของข้า ข้าเพียงแค่ต้องการให้เจ้าถ่วงเวลาให้ข้าคลอดเด็กคนนี้ออกมาได้อย่างปลอดภัย” “ถ่วงเวลา?” “ใช่! ความจริงแล้วเด็กในท้องข้าไม่ใช่บุตรคนแรกของข้า ข้ามีบุตรมาก่อน ตอนนี้เธออายุน่าสักประมาณสิบเก้าแล้ว ข้ารู้ถ้าเจ้าสืบเสาะเรื่องของข้าต่อเจ้าก็จะเจอเธออีกไม่นาน ของที่เจ้าหาอยู่ อยู่กับเธอคนนี้ หรือจะให้ถูกต้องมีแต่เธอคนนี้
“รับปากยายแล้วนะ” “เจ้าค่ะ” หนูอัญรับปากแข็งขัน และเธอทั้งหอมทั้งกอดคุณยายที่เธอรักที่สุดและบอกรักไม่หยุด คุณยายจึงยอมกลับไปพักผ่อนอย่างสบายใจ อัญมณีมองกล่องสีชมพูที่คุณยายวางไว้บนเตียง ไหนๆเธอก็กำลังเซ็งๆและหวาดผวากับเรื่องอนาคตของตัวเอง เธอคิดว่าลองแกะดูเสียหน่อยก็ไม่เสียหายเผื่อสิ่งที่อยู่ในกล่องจะช่วยฆ่าเวลาให้เธอลืมเรื่องบ้าๆพวกนั้นไปบ้าง แคว่กกกกก ดวงตากลมโตเบิกขึ้น ด้านในมีเพียงซองจดหมายสีขาวพับไว้ ‘Secrets.0099@XXX.com’ และตามด้วยรหัสผ่าน “อะไรของเขาละเนี่ย” อัญมณีบ่นออกมา แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเธอจึงเปิดคอมพิวเตอร์ และเข้าเมลล์ตามนั้น กล่องขาเข้าและกล่องขาออกม
เอี๊ยดดดดด เสียงประตูที่ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่มานานดังขึ้นยามที่มันถูกผลักเบาๆ ภายในห้องมีโต๊ะยาวเหมือนโต๊ะประชุม หัวโต๊ะมีเก้าอี้ใหญ่พนักสูงซึ่งตอนนี้มันหันหลังให้กับประตู เขารู้ว่ามีคนนั่งอยู่ตรงนั้น เอี๊ยดดดดด เสียงประตูปิดลง พร้อมกับเจ้าของร้านที่ออกจากห้องไป ภายในห้องมีผู้หญิงอีกคนเธออายุไม่มากนัก แต่งกายด้วยชุดส่าหรีพร้อมผ้าคลุมหน้าสีเข้ม ดวงตาสีเทาหลี่มอง สมองอันปราดเปรื่องทำงานอย่างรวดเร็ว เพราะเขาเห็นเข็มกลัดบนแผ่นอกของผู้หญิงคนนั้น ควับ! เก้าอี้ค่อยๆ เลื่อนกลับมา มุมปากหยักกดลึกอย่างเย้ยหยัน เมื่อสิ่งที่คิดไว้ปรากฎอยู่ตรงหน้าจริงๆ ฮาฮาฮา ชอว์หัวเราะออกมาทันทีด้วยเสียงเย้ยหยัน “การมาเมืองไทยของผมครั้งนี้ คุณรู้หรือไม่” “แน่นอนว่าข้าต้องรู้”&nbs