LOGIN“เชิญครับ! เป็นเกียรติของผมอย่างมากครับที่ได้ต้อนรับท่านชอว์” ชอว์ไม่ได้รู้สึกยินดีกับคำประจบของคนตรงหน้าเลยสักนิด ในทางตรงข้ามเขาเบื่อและเอือมระอาคนประเภทนี้อย่างมาก “ผมจัดที่ให้ท่านแล้วครับ”
ชอว์และลูกน้องที่ติดตามอีกสามสี่คนเดินตามเจ้าของสถานที่ ที่นี่เป็นผับย่านดังแถวพัทยา เขายอมนั่งรถจากกรุงเทพมาพบคนคนนี้ใช้เวลาการเดินทางสองชั่วโมงกว่าๆ เขาหวังว่าคงมีข่าวดีที่เป็นประโยชน์ให้กับเขานะ
สาวสวยและเครื่องดื่มถูกยกมาเสิร์ฟเอาอกเอาใจแขกอันทรงเกียรตินี้มากมาย เหล่าลูกน้องที่ได้ติดตามมาในครั้งนี้ได้รับอนุญาตหาความสุขให้กับตัวเองอย่างเต็มที่ เพราะวันนี้พวกเขาแค่มารับข่าวไม่ได้มาเพื่อปฎิบัติการเสี่ยงตายหรือตัดลมหายใจของใคร
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อลูกเจี๊ยบค่ะ” หญิงสาวที่สวยมากยกมือไหว้ชอว์ เธอคนนี้ขาวสวยหมวยอึ๋มครบสูตรเลยทีเดียว
“ลูกเจี๊ยบเป็นเบอร์หนึ่งของร้านเราในตอนนี้ครับ” เจ้าของร้านประกาศดีกรีเด็กดริงก์ ชอว์ไม่ได้มีความรู้สึกยินดียินร้ายสักนิด สำหรับเขาผู้หญิงก็เหมือนกันหมด สวยมากสวยน้อยก็จบกันที่บนเตียงร้องโหยหวลเสียวซ่านได้ทั้งนั้น
“อีกนานมั้ยกว่าฉันจะได้รู้ในสิ่งที่ต้องควรรู้”
“ไม่นานหรอกครับ ผมแค่อยากให้ท่านได้เสพสุขและสนุกกับสิ่งที่ผมเตรียมไว้ให้นะครับ” ชอว์พยักหน้าอนุญาตในที่สุด เจ้าของร้านยิ้มและส่งสัน-ญาณให้เด็กดริงก์ชื่อลูกเจี๊ยบทันที
ชอว์ได้รับการดูแลอย่างดีจากลูกเจี๊ยบ เธอเป็นหญิงไทยเชื้อสายจีน ลูกเจี๊ยบเป็นแค่ฉายาของเธอในร้านแห่งนี้ ชอว์แม้จะดื่มไปไม่น้อยแต่เขาก็ไม่มีอาการบ่งบอกว่าจะเมาอะไร เขามันคอแข็งระดับเทพเลย ในขณะที่เหล่าลูกน้องบางคนเริ่มที่จะออกอาการมึนๆกันแล้ว
“นายอยากเต้นรำมั้ยคะ” ลูกเจี๊ยบเอ่ยกระซิบเบาๆใส่ใบหู และเธอก็อดไม่ได้ที่จะยั่วยวนชอว์ เธอขบเม้มเบาๆที่ติงหูยาวของชอว์ ซึ่งชอว์เองก็ไม่ได้ขัดเคืองอะไร ปกติไม่ค่อยมีผู้หญิงกล้าจะทำกับเขาแบบนี้มากนัก พวกเธอมักกลัวเขามากกว่า เพราะอะไรนะเหรอ เพราะเขาไม่เคยมีสายตาอ่อนโยนหรือหว่านเสน่ห์ใส่พวกเธอ เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับคนหน้าตาอย่างเขา
“เธอทำอะไรได้มากกว่าเต้นรำมั้ย” ลูกเจี๊ยบยิ้มทันความหมายแฝงในคำพูดนั้น
“นายอยากได้เป็นที่ไหนละคะ”
“ที่นี่” ลูกเจี๊ยบยิ้มหว่านเสน่ห์ เธอไม่รีรอ หน้าที่เธอคือทำได้ทุกอย่างตามที่แขกอันทรงเกียรติคนนี้ต้องการ ผับแห่งนี้แม้คนจะมากมาย แต่ห้องสำหรับ วีไอพีจะเป็นกระจกมองเห็นการแสดงบนเวทีอย่างชัดเจน กระจกที่ใส คนจากด้านนอกมองเข้ามาแม้จะเห็นแต่ก็ไม่ชัดนัก แต่ใครเล่าจะสนใจ คนที่มาที่นี่สนใจมาดื่มมากินมาหาความบันเทิงไม่มีใครมาสนใจใครอื่น
ลูกเจี๊ยบจึงขยับขึ้นนั่งคร่อมตักชอว์ นิ้วเล็กไล่ปลดกระดุมเสื้อสีเข้มออกสองสามเม็ดด้านบน ฝ่ามือขาวล้วงเข้าไปลูบไล้บนแผ่นอกกว้างที่หนักแน่นยิ่งนัก ลูกเจี๊ยบปลาบปลื้มใจมากที่เธอได้ดูแลแขกที่ทั้งหล่อทั้งเท่ห์ เธอไม่สนหรอกว่าเขาจะเป็นใครมาจากไหน แต่คืนนี้เธอจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีมาก ถ้าเธอได้ครอบครองเขา แค่คิด...ร่องสาวเธอก็เปียกชื้นในทันที เขาฟิตมากๆ ซิกแพคเขาแข็ง แน่นมากๆ คืนนี้เธอจะทำให้เขาไม่มีวันลืมเธอเลยคอยดู
อ๊ะ! ชอว์หันหน้าหนี เมื่อลูกเจี๊ยบหมายจะดูดดื่มริมฝีปากหยักที่สวยได้รูปนั่น ชอว์ไม่เคยจูบปากผู้หญิงคนไหนมาก่อน และมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นกับใครโดยเฉพาะผู้หญิงแบบนี้
เขาไม่ได้พูดอะไรหรือมีความจำเป็นที่ต้องอธิบาย ฝ่ามือใหญ่เลื่อนมา กอบกุมอกที่ชุดเกาะอกแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย เมื่อเต้าอวบอึ๋มแทบจะเปิดเผยสายตาเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอเดินมานั่งข้างๆแล้ว
ลูกเจี๊ยบไม่งี่เง่า เธอควบคุมและเก็บความผิดหวังเบื้องต้นไว้ เธอเลื่อนมือมาดึงซิบของชุดข้างๆตัวให้เลื่อนลงทันที ไม่กี่วินาทีต่อมา อกเปลือยสองเต้าก็ปรากฎตรงหน้าชอว์ เขายกยิ้มมุมปากเพียงนิดก่อนที่จะครอบครองยอดเกสรสีชมพูนั่น ความชำนาญช่ำชองของเขาทำเอาลูกเจี๊ยบเสียวซ่านจนครางออกมา เธอเด้งขยับไปข้างหน้ายัดอกอึ๋มใหญ่เข้าหาใบหน้าคมเข้มนั่นมากขึ้น เคราหนวดเขา ปากเขา ลิ้นเขา ช่างร้ายกาจเหลือเกิน
อู้ยยยยย ลูกเจี๊ยบครางเสียงดัง มือเล็กอยู่ไม่สุข เธอเลื่อนมันลงต่ำระหว่างขาของเขาทันที เข็มขัดหนังสีดำถูกปลด ตะขอกางเกง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก มือเล็กก็พบกับความยิ่งใหญ่น่าหวั่นเกรงยิ่งนัก เขา! ของเขาไม่ธรรมดา มันร้อนดังแท่งไฟที่มีไฟเผาผลาญรุกโชนอยู่ตอนนี้ มือเล็กสั่นเมื่อเธอจำไม่ได้ว่าเคยพบกับยิ่งใหญ่แบบนี้มาเหรอเปล่าชีวิตนี้
ให้เธอรู้ว่าเธอต้องตายหลังจากที่ได้ลิ้มลองเขา เธอก็ยินยอม ลูกเจี๊ยบใช้มือเล็กที่มีประสบการณ์โดยสายอาชีพให้กับเขาทันที และเธอก็รู้ว่าชอว์พึงพอใจเพราะเสียงครางเขาเล็ดลอดออกมาในทันที
เหล่าผู้ติดตามของชอว์วันนี้ที่ได้รับอนุญาตแล้ว ต่างก็หายไปกับเด็กดริงก์ คงเหลือแต่ชอว์ที่ยังปักหลักอยู่ที่เดิม โดยมีลูกเจี๊ยบคอยเอาตัวแนบติดไม่ยอมออกห่าง ชอว์เคยชินกับการถูกเอาอกเอาใจของเหล่าผู้หญิงที่เขาเปิดโอกาสให้ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าพวกเธอเหล่านั้นไม่ได้หวังแค่ให้เขาลิ้มลอง แต่พวกเธอคิดว่ารางวัลใหญ่ ที่ยังไม่มีใครเคยได้จะตกเป็นของพวกเธอสักคน
“น้อยไปสิ! เด็กอะไรไม่รู้เลยเหรอไงว่าเล่นอยู่กับอะไร ตอนนั้นถ้าฉันโมโหจนฆ่าหนูอัญทิ้งเสียจะเป็นยังไง” “ไม่รู้สิ! ชอว์คิดออกเหรอ” ชอว์ทำท่าครุ่นคิดสักแป็บและก็ส่ายหน้าไปมา ใช่เขาและเธอด้วยไม่มีทางคิดเรื่องแบบนั้นออกหรอกเพราะมันไม่มีทางเกิดขึ้น “ชอว์...หายโกรธเค้าแล้วใช่มั้ย” “โกรธ!...โกรธ ผมไม่เคยโกรธ” หนูอัญหน้ามู้ทันที ไม่โกรธได้ไง ก็ฉันอย่างงั้นฉันอย่างงี้อยู่แท้ๆ นานแล้วที่เธอไม่ได้ยินชอว์แทนตัวเองกับเธอแบบนี้ แปดเก้าเดือนมานี่เขาสุภาพและหวานหยดย้อยกับเธอจนน้ำตาลยังต้องเรียกพี่เลย นี่น่าจะเป็นการโกรธหรือน้อยใจขั้นรุนแรงเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้หลังจากที่เขาและเธอแต่งงานเป็นสามีภรรยากันถูกต้องแล้ว หมับ! วงแขนเล็กโอบรัดแน่นมากขึ้นและเธอก็ออกแรงดึงให้ใบหน้าชอว์เข้ามาใกล้ใบหน้าเธอ และปากอิ่มหวานก็ทำท่าจะจูบเขา แต่ชอว์ก็ฝ
ตามรายละเอียดข้างต้นที่เค้ากล่าวมาอ่านแล้วดูดีมากๆเลย ก็มันเป็นเรื่องราวดีๆ แต่ทำไมวันนี้เธอต้องมายืนตะเบงเสียงเรียกเขา เรียกอีกเรียกแล้วเขาก็เหมือนจะหูหนวก ตาบอด อย่างตั้งใจไม่ได้ยินเสียงเธอและไม่เห็นเธอ มันมากเกินไปแล้ว เธอไม่เห็นหน้าเขามาเกือบสัปดาห์แล้วสองสามวันแรกเธอก็ไม่ทันได้รู้สึกอะไร แต่พอผ่านไปสามวันก็รู้สึกแปลกๆ ว่าจู่ๆชอว์ก็ไม่กลับมานอน ไม่ได้ทานอาหารด้วยกัน จนผ่านไปอีกหลายวันเธอก็รู้สึกว่ามันผิดปกติไป วันนี้เธอจึงมาหาเขากว่าจะหาเจอว่าเขาอยู่ที่ไหน ห้องทรงอักษรของท่านคารามาส ชอว์ทำงานในนี้ นอนที่นี่ ทำไมเขาไม่กลับไปหาเธอละ “เธอเป็นใคร?” !???? นั่นไงประโยคแรกจากคนรักที่รักกันปานจะกลืนกินหลังจากไม่เจอกันนานเกือบสัปดาห์ แน่ๆเลย เธอถูกเขางอนใส่ และหนักมากด้วย แล้วเธอต้องตอบคำถามนั้นมั้ยนะ... 
เฮ่อ เฮ่อ เฮ่อ เสียงครางปนหอบของร่างบาง ดังกระเซ่าไม่หยุด โอ้วววว ชอว์คำรามออกมาอย่างสุขใจ เขาไม่รู้ว่าชาตินี้เขาจะอิ่มกับเรื่องแบบนี้กับเธอคนนี้เหรอไม่ ถ้าชาตินี้เขาไม่พอไม่อิ่มก็หวังว่าชาติหน้าเขาจะติดตามหาเธอจนเจอและเอาเธอมาเป็นของเขาต่อ กรี๊ดดดด หนูอัญกรีดร้องออกมาอย่างมีความสุข แม้ร่างกายจะบอบช้ำอ่อนล้าจากเซ็กส์หลายชั่วโมงของผู้ชายที่หื่นเป็นเทพ เธอก็เต็มใจ ไม่ใช่เพียงแค่ครั้งนี้ แต่ตลอดชีวิตที่เหลือของเธอ อื้ม อื้ม กึก กึก กึ กึก กึ เสียงลมหายใจร้อนที่เป่าลดต้นคอของเขา ขณะที่ช่วงขายาวกำลังก้าวย่างอย่างช้าๆแต่มั่นคงไปเรื่อยๆตามริมชายหาด “สวยจังเลยนะคะ” หนูอัญวางศีรษะนาบบนไหล่ด้านหลังของชอว์ สายตามองทอดยาวออกไปไกลยังผืนท้องน้ำทะเลที่ค่อยๆเปลี่ยนสี ตอนนี้เธอกับชอว
“ชอว์! คุณทำเค้าไปไม่ถูกเลย...แต่เค้าชอบนะคะ ชอว์แบบไหนก็ได้เค้ารักหมดใจ แค่เป็นชอว์ที่ไม่มีสายตามองผู้หญิงคนไหนอีกต่อไปแล้วเท่านั้น...” ชอว์ยิ้มตอบกลับให้เธอ หนูอัญเดินตามการจูงของเขา เขาพาเธอเดินผ่านเตียงนอนขนาดใหญ่ไปอีกด้านของประตูทางออก ฟิ้ววววว ลมทะเล เสียงคลื่นซัดสาดกระทบโขดหิน ผืนท้องน้ำ ชอว์หันกลับมาเผชิญหน้ากับเธอ เขาล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋า หนูอัญยิ้มออกมา กำไลประจำตำแหน่งของเธอเขาจับแขนเธอและสวมมันกลับคืนเข้าไป เขายังไม่ปล่อยมือเธอ เขาล้วงกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง คราวนี้ในมือเขามันคือแหวน ชอว์คุกเข่า เขาไม่เอ่ยอะไรแต่เขาค่อยๆสวมแหวนวงนั้นเข้าไปที่นิ้วนางข้างซ้าย จุ๊บ เขาจุมพิตที่แหวน จุ๊บ เขาจุมพิตที่นิ้วนางข้างนั้น จุ๊บ เขาจุมพิตที่หลังมือเธอ “พระชายาของผม” หนูอัญยิ้มออกมาอย่างสุขใจ พรึ่บ! เธอคุกเข่าลงต่อหน้าเขา สองมือเล็กกอบกุมใ
ชีวิตความยิ่งใหญ่ในวงการมืดของผมเริ่มต้นนับจากวันนั้น ความรักที่พวกเขามีต่อผม ผมเอามาสร้างประโยชน์ต่อเส้นทางมืดดำของผม เพราะผมไม่อยากได้เส้นทางสว่างอีกต่อไปแล้ว ผมเติบโตขึ้นเรื่อยๆในวงการมืด ผมรับงานฆ่าคนรวมถึงเปิดเผยจุดดำมืดของเหยื่อออกสู่สาธารณะชน แล้วแต่ทางผู้ว่าจ้างต้องการให้เหยื่อตายแบบไหน ตายเงียบๆ หรือตายแบบเป็นอุบัติเหตุ หรือตายแบบฆ่าตัวตาย แบบไหนผมจัดให้ได้หมด ผลงานอายุการทำงานสร้างชื่อเสียงให้กับผมไม่น้อย แม้ผมจะเริ่มจากทำงานคนเดียวแต่ชื่อเสียงขอผมมากขึ้นกว้างขวางขึ้น ผมต้องมีลูกน้อง คนแรกเขาชื่อแอล และคนต่อๆมาก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ผมต้องมีผู้คุ้มกัน ใครๆก็บอกว่าผมเป็นมาเฟีย แต่เหล่าพวกลูกน้องบอกว่าผมไม่ใช่มนุษย์ แล้วเป็นอะไรละตอนนั้นผมถามพวกเขา พวกเขาบอกว่าผมเป็นอสูร ยิ่งวิถีการใช้ชีวิตของผมที่มักจะนอนตอนกลางวันและออกล่าตอนกลางคืน แบบนี้มันวิถีอสูรชัดๆร่างกำยำในชุดสีเข้มเนี๊ยบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า บดบังดวงตาสีเทาเข้มด้วยแว่นตากันแดดแบรนด์ดัง คนระดับอย่างชอว์หากไม่สวมชุดประจำชาติเสื้อผ้าเข้าของเครื่องใช้ของเขาก็เป็นแบรนด์ดังทั้งนั้น ยิ่งขับให้เข
“ลูกแม่! ลูกต้องหนีไป” แม่พูดอย่างรวดเร็วแม่เก็บเสื้อผ้าของผมได้เท่าที่หยิบได้ในเวลาอันสั้น แม่ยัดมันใส่ไปในเป้ “เอาเงินนี่ติดตัวไว้ และรีบไปเร็ว อย่ากลับมาหาแม่ อย่ากลับมาที่นี่อีกเป็นอันขาด” ประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินจากแม่คือ “แม่รักลูก...ลาก่อน สเปนส์ลูกรักของแม่” และแม่ก็พลักผมออกจากห้องเช่า สติของผมกลับเมื่อลมเย็นปะทะใบหน้า ตอนนั้นผมจำต้องวิ่ง ผมวิ่งเอาตัวรอดอีกครั้ง ผมวิ่ง วิ่ง วิ่งไม่หยุด ผมไม่รู้ว่าผมวิ่งไปทิศทางใด แต่กว่าผมจะหยุดวิ่งผมก็เกือบจะขาดใจเพราะความเหนื่อยเกินขีดจำกัดของร่างกาย หลังจากนั้นผมก็ซ่อนตัวตามแหล่งชุมชนคนพเนจร ผมเดินทางด้วยเท้าบ้างด้วยรถประจำทางบ้างไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก หิวก็กิน ค่ำไหนก็นอนนั้น ชีวิตผมเป็นแบบนี้อยู่ครึ่งเดือน จนข่าวเรื่องแม่หายไปจากหน้าจอทีวี ตอนนั้นแม่บอกว่าเธอฆ่าสามีเธอเอง หลักฐานทุกอย่างก็ชี้ชัดไปในทิศทางแบบนั้น เพราะหน้าตาบอบช้ำจากการถูกทำร้าย ซึ่งก็สมเหตุสมผล เรื่องเกี่ยวกับผมไม่ได้เป็นประเด็นมาก แม่คงบอกกับตำรวจไปว่าไม่รู้ว่าผมไปไหน แม่คงมีวิธีพูดให้ทางเจ้าหน้







