Beranda / โรแมนติก / อามาร์ / 3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 2

Share

3 : คือความจริงมิใช่ฝัน 2

last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-08 02:44:14

“คุณเป็นตัวอะไรกันแน่ บอกฉันมา”

“ข้าก็กำลังจักบอกเจ้านี่ไงเล่าดวงใจข้า” เขาพูดพร้อมยกมือยื่นไปหมายจะลูบจับแก้มนวลเนียน แต่นางก็ปัดมือของเขาออกพร้อมกับสั่งเสียงแข็ง

“อย่าแตะต้องฉัน”

หึหึ

นางกำลังสั่งเขาทั้งๆ ที่นางไม่รู้เลยสักนิดว่าชั่วชีวิตนี้มิมีใครกล้าออกคำสั่งกับเขาได้ แต่...เมื่ออดีตนางก็เป็นคนเดียวที่กล้าออกคำสั่งกับเขาและตอนนี้ก็กลับเป็นนางอีกครั้งที่กล้าออกคำสั่งกับตน

“ข้ามีนามว่า ‘อามาร์’ ข้ามิใช่มนุษย์เหมือนเจ้า แต่ข้ามีใจที่เฝ้ารอและปรารถนาเพียงเจ้ามาตลอดพันกว่าปีที่ข้ามีลมหายใจ”

“ไม่ใช่มนุษย์? แล้วนายเป็นตัวอะไรกันแน่”

“หากข้าบอก เจ้าจักรังเกียจตัวตนที่แท้จริงของข้า”

“คุณก็บอกฉันมาสิว่าเป็นตัวอะไรกันแน่” แม้จะกลัว แต่เธอก็ยังอยากรู้ว่าเขามีตัวตนที่แท้จริงเป็นอะไรกันแน่

“หึหึ...ข้ามิเคยปิดบังเจ้าและจักเป็นเช่นนั้นไม่ว่าปัจจุบันหรืออดีตที่ผ่านมาพันกว่าปี” พูดจบอามาร์ก็เปิดเผยร่างจริงของตนเองให้นางในดวงใจดู

กรี๊ด!

พอได้เห็นคนตัวโตที่นั่งบนเก้าอี้ข้างหน้าตัวเองมีปีกงอกออกจากด้านหลัง มองแล้วเหมือนค้างคาว และในมือก็ถือไม้เท้าหัวค้างคาว ดวงตาสีแดงมีชีวิตชีวา

เสียงร้องกรี๊ดหวาดกลัวของนางทำให้หัวใจของอามาร์เจ็บปวด แต่ก็ฝืนยกยิ้มมุมปาก เพราะรู้อยู่แล้วว่านางจักต้องตกใจเมื่อได้เห็นร่างและตัวตนที่แท้จริงของตน

“หึหึ...ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจักต้องหวาดกลัวตัวตนที่แท้จริงของข้า...พุฒิตา แต่มันคือตัวตนของข้า และข้าก็หวังเหลือเกินว่าเจ้าจักคุ้นชินกับร่างนี้ของข้า ตัวข้าเป็นเวตาลเรื่องเล่าในนิทานก่อนนอนของมนุษย์มานานนับแต่กลียุคจนถึงปัจจุบัน โดยที่มิมีผู้ใดรู้ว่าข้ามีตัวตนจริง ข้าแฝงเร้นซ่อนกายกลืนกินไปกับมนุษย์ แต่ในยามค่ำคืนข้าก็คือตัวข้าเหมือนเช่นตอนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเจ้า...พุฒิตา”

เธอกรีดร้องสั่นกลัวคนตรงหน้า แต่ก็ไม่สามารถลุกเดินหนีไปได้ ร่างของเธอมันชาและแข็งทื่อไปกับเตียงจนไม่อาจขยับเคลื่อนไหวได้ตามใจคิด แม้อยากหนีแต่ก็ไม่รู้จะหนีไปจากโลกมายาที่บุรุษตรงหน้าสร้างขึ้นได้ไหม และเธอก็ได้มองสำรวจใบหน้าหล่อเข้มทรงเสน่ห์และตัวตนที่แท้จริงของเขาแล้วก็คิดตามคำพูดของเขา ทุกอย่างมันไม่ใช่เรื่องโกหกหรือฝัน มันคือความจริง เขาคือ ‘เวตาล’ เหมือนกับนิทานและรูปที่เคยเห็นตามหนังสือ แต่ก็ไม่อยากเชื่อว่าโลกนี้จะมีเวตาลจริงๆ

“บอกฉันสิว่ามันไม่จริง” เธอถามเขาเสียงสั่นหลังจากกรีดร้องเสียงดังและควบคุมสติตัวเองได้แล้ว

“เจ้าคิดว่าเช่นไรเล่า นี่คือตัวตนที่แท้จริงของข้า เจ้ารังเกียจและหวาดกลัวข้า” เขาถามทั้งๆ ที่ทุกอย่างมันชัดเจนบนใบหน้างามของนางอยู่แล้ว

“ฉันไม่ปฏิเสธ คุณน่ากลัวจริงๆ และฉันไม่อยากเชื่อว่าในโลกนี้จะมี ‘เวตาล’ จริงๆ ฉันนึกว่ามันเป็นแค่เรื่องเล่าหลอกเด็กก่อนนอนเท่านั้น”

หึหึ

อามาร์แค่นขำแล้วเขาก็กลับคืนร่างมนุษย์เพื่อให้นางไม่หวาดกลัวตนเองไปมากกว่านี้แล้วก็เอ่ยตอบกลับ

“ใช่ว่าทุกอย่างจักมิใช่เรื่องจริง เรื่องเล่าก็มาจากเรื่องจริงทั้งนั้นพุฒิตา”

“แล้วคุณจับฉันมาทำไม?” แม้เขาจะบอกว่าเมื่อครั้งอดีตชาติ ตนเองและเขาเป็นคนรักกัน แต่ใช่ว่าชาตินี้เธอจักรักเขา และเธอก็กำลังแต่งงานกับนับสิบคู่หมั้นหนุ่มด้วย เขาไปลักพาตัวเธอมาอยู่ในโลกที่เขาสร้างขึ้น

“เจ้าเป็นของข้า มิว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบันพุฒิตา จักมิมีผู้ใดได้ครอบครองเจ้านอกจากข้า ข้าที่เป็นชายคน ‘แรก’ ของเจ้าและ ‘รัก’ เดียวของเจ้าดวงใจข้า”

น้ำเสียงทุ้มนุ่มทว่าหนักแน่นเต็มไปด้วยความจริงจังทำให้พุฒิตาไม่กล้าตอบกลับ แล้วเธอก็ต้องตาโตเมื่ออยู่ๆ ผู้ชายที่นั่งตรงหน้าและบอกว่าคือคน ‘รัก’ ของตนเมื่อชาติที่แล้วขยับลุกขึ้นจากเก้าอี้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วมาก้มโน้มหน้าลงบดจูบปากอวบอิ่มของเธอพร้อมกับมือหนาโอบไปด้านหลังรั้งท้ายทอยให้แหงนเงยขึ้นรองรับปากหนาสีเข้มของเขา

“อะ...อื้อ” ปากหนาบดจูบหนักหน่วงดุดันเอาแต่ใจพร้อมดุนดันเรียวลิ้นสากอุ่นร้อนเข้าไปในปากน้อยของสาวเจ้าพร้อมกันนั้นก็ดันร่างเล็กให้ล้มนอนไปกับเตียงนอนนุ่มแล้วตัวเองก็เคลื่อนไหวคร่อมทับกักร่างของนางไว้ใต้ร่างไม่ให้ขยับดิ้นหนีจากใต้ร่างใหญ่ตนเอง

“อ่า...อื้อ” เสียงครางอู้อี้ดังลอดออกมาจากริมฝีปากทั้งสอง แม้ปากเล็กของพุฒิตาจะพยายามบิดเบี่ยงหลบหนี แต่ก็มิอาจหนีพ้นปากของเวตาลในนิทานได้

“อ่า...อื้อ” พุฒิตาน้ำตาคลอไหลอาบทางหางตาเมื่อพ่ายแพ้ต่อแรงของบุรุษเหนือร่าง และยิ่งไปกว่านั้นเธอเองก็รู้สึกว่าใจของเธอมันเริ่มสั่นไหว มันแปลกมากทั้งๆ ที่เพิ่งเคยเจอกับชายประหลาดพูดจาลิเกครั้งแรก แถมเขายังไม่ใช่มนุษย์แบบตนด้วย

“อ่า...อื้อ” เสียงครางอู้อี้ยังคงดังลอดออกมาจากริมฝีปากทั้งสอง ตอนนี้เรียวลิ้นอุ่นร้อนของอามาร์ไล่ต้อนเรียวลิ้นเล็กไร้เดียงสาของคนใต้ร่างให้จนมุมแล้วตวัดดูดกลืนลิ้มรสหวานของปากน้อย

“อ่า...อื้ม” แล้วอามาร์ก็ถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง เพราะถ้าขืนยังบดจูบต่อมีหวังได้เกินเลยกว่านี้เป็นแน่ เขาอยากให้นางได้พักผ่อนร่างกาย เพราะค่ำคืนที่ผ่านมาตนได้ตักตวงหาความสุขกับร่างนางแล้ว และเขากับนางยังมีชีวิตอยู่ด้วยกันอีกนานจนกว่าจะหมดลม

“เจ้าพักผ่อนเถอะ และนั่นอาหารของเจ้า” เขาผละออกมานั่งข้างคนที่นอนปากบวมเจ่อเพราะรสจูบของตนแล้วชี้มือไปทางโต๊ะทานอาหารที่อยู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นกลางห้องพร้อมกับอาหารเต็มโต๊ะ

“ทำไม...” เธอยังไม่ทันได้พูดจบ เสียงเข้มของอามาร์ก็ดังแทรกขึ้นก่อน

“ในโลกนี้มิมีสิ่งใดที่ข้าเนรมิตให้เจ้ามิได้พุฒิตา ข้ามิรู้ว่าเจ้าชอบทานสิ่งใด ข้าจึงเตรียมให้เจ้าเต็มโต๊ะ”

“ฉันจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ของฉันได้รึยัง และฉันต้องการติดต่อพวกท่านด้วย”

“ทานข้าวซะ ส่วนเรื่องพ่อแม่ของเจ้ามิต้องห่วงไป ไม่ช้าก็เร็วเจ้าจักได้เจอพวกเขาและเรื่องระหว่างข้ากับเจ้าก็ต้องบอกพวกเขาเช่นกัน โดยเฉพาะไอ้มนุษย์นั่นมันควรรับรู้ว่าเจ้าคือของข้ามิใช่ของมัน” อามาร์บอกเน้นคำในประโยคแล้วก็อุ้มนางลุกขึ้นพาเดินไปนั่งยังเก้าอี้ที่โต๊ะรับประทานอาหาร

“ต้องให้ข้าป้อนรึไม่?” พอวางร่างเล็กลงกับเก้าอี้แล้ว เขาก็ถามเมื่อเห็นว่านางไม่ยอมลงมือทาน

“มะ...ไม่ต้อง” พุฒิตาปฏิเสธเสียงสั่นแล้วมองอาหารบนโต๊ะตรงหน้าตัวเองแล้วก็กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ ทุกอย่างน่ากินทั้งนั้นมีทั้งอาหารไทยและอาหารต่างชาติเต็มโต๊ะไปหมด

“ข้าจริงใจกับเจ้าและหวังว่าเจ้าจักจริงใจตอบเช่นกันพุฒิตา” เมื่อเห็นว่านางเริ่มลงมือทาน เขาก็ยกยิ้มมุมปากแล้วก็หายไปจากในห้องโดยไม่บอกกล่าวลาหญิงสาวแม้แต่คำเดียว

“ให้ตายเถอะ! คิดจะไปก็ไป!” เธอยกมือขึ้นทาบอกบ่นให้กับคนที่หายไปกับอากาศ ก่อนจะสนใจอาหารตรงหน้า ตอนนี้ให้ท้องอิ่มก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธีหนีออกไปจากโลกมายาของเวตาลอามาร์

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • อามาร์   ตอนพิเศษ เดรัจฉานน้อยอาชา

    “สวยมากเลยครับพ่อ” เด็กชายอาชา เวตาลน้อยทายาทคนแรกของนายอามาร์ผู้เป็นอมตะอยู่มานานนับพันกว่าเกือบหมื่นปีพาลูกชายวัยหกขวบบินขึ้นมาดูพระจันทร์และแขนอีกหนึ่งข้างของเขาก็กอดภรรยาสุดที่รักด้วย แขนทั้งสองข้างของเขาตอนนี้มีไว้เพื่อกอดแม่ของลูกและลูกเท่านั้น ตอนนี้ในท้องของพุฒิตาก็กำลังมีลูกคนที่สองและเป็นลูกสาวด้วย “ครั้งหนึ่งพ่อเคยพาแม่เจ้ามายังที่แห่งนี้” อามาร์เอ่ยบอกลูกชาย แต่ตามองภรรยาด้วยสายตากรุ้มกริ่มและพุฒิตาก็นึกย้อนไปถึงอดีตคืนพระจันทร์เต็มดวงที่เขาพาตนขึ้นมาทำลามกหื่นกามต่อหน้าพระจันทร์ “เวตาลลามก” พุฒิตาตบอกสามีเก้อเขิน หึหึ “ก็เจ้าทำให้ข้าอดใจมิไหวนี่เมียข้า อาชาลูกรักของพ่อ ถึงเวลาที่เจ้าจักต้องแสดงฝีมือให้พ่อกับแม่ดูแล้ว” อามาร์บอกลูกชายพร้อมกับปล่อยแขนข้างที่กอดอุ้มหนูน้อยแล้วเวตาลน้อยลูกครึ่งมนุษย์ก็มีป

  • อามาร์   13 : ทำไมคิดสั้นแบบนี้ลูก 2

    “มันจริงเหรอยัยตา” ปพนถามลูกสาวและพุฒิตาก็พยักหน้าตอบยืนยันคำพูดของเวตาลเจ้าเล่ห์ “ฉันจะเป็นลมคุณปพน” นางทิพย์ยกมือทาบอกเอนหัวซบไหล่สามี คนเป็นสามีก็โอบไหล่ลูบปลอบ “หนูขอโทษนะคะคุณพ่อคุณแม่ แต่หนู ‘รัก’ คุณอามาร์ค่ะ และตอนนี้หนูก็กำลังท้องกับเขา”พุฒิตายอมรับความรู้สึกตัวเองต่อหน้าท่านทั้งสองแล้วเคลื่อนตัวลงจากโซฟาไปนั่งยังพื้นพรมแล้วยกมือพนมขึ้นแนบอกก่อนจะก้มลงกราบ ส่วนอามาร์ผู้ไม่เคยก้มหัวและกราบไหว้เท้าใครก็ทำตามแม่ยอดดวงใจเพื่อขอขมาทั้งสองที่ล่วงเกินลูกสาวของทิพย์กับปพน “ผมขอรับผิดชอบพุฒิตากับลูก ยกเธอและลูกให้ผมนะครับ” น้ำเสียงหนักแน่น แววตาที่จริงจังเมื่อได้สบตาทำให้ปพนต้องหันมาสบตาภรรยาแล้วก็ถอนหายใจ “เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องยอมรับความจริงนะคุณ ถึงแม้จะไม่ชอบนายอามาร์ แต่ลูกเราท้องกับเขาแล

  • อามาร์   13 : ทำไมคิดสั้นแบบนี้ลูก 1

    ปกติแล้วลูกสาวเป็นคนตื่นเช้าและไม่เคยเข้าบริษัทสาย แต่วันนี้รถยังจอดอยู่ นางกับสามีกลับมาจากทำบุญที่วัดก็ถามเด็กรับใช้ พอรู้ว่ายังอยู่บนห้อง นางและสามีก็ขึ้นมาเคาะประตูปลุกเอง ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ปพนเคาะประตูห้องเมื่อขึ้นมาถึงหน้าห้องของลูกสาว “เป็นอะไรรึเปล่าลูก” สามีเป็นคนเคาะประตู ทิพย์เป็นคนเอ่ยถาม เงียบ! ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ลูกสาวยังไม่ตอบ ปพนก็ยกมือขึ้นเคาะประตูห้องอีกครั้งและก็เงียบเหมือนเดิม “เป็นอะไรรึเปล่ายัยตา ทำไมวันนี้ไม่ไปทำงานลูก ไม่สบายตรงไหนบอกแม่ได้นะ” ทิพย์เอ่ยร้องถามด้วยความเป็นห่วง ก๊

  • อามาร์   12 : ยอมรับรึยังว่ารักข้า? 2

    “ว้าย! คุณอามาร์ คุณทำไมยังอยู่ แล้วมันกี่โมงแล้ว” เธอมองเห็นเขานั่งคุกเข่าซบหน้ากับท้องตนเองก็รีบผลักไสแล้วก็ถาม “แปดโมงกว่า” เขาตอบเธอสั้นๆ “แล้วทำไมไม่ปลุกฉัน แล้วทำไมคุณไม่กลับไป อยู่ทำไมอีก” “ข้าจักมิไปไหนทั้งนั้นเมียข้า เจ้ารู้รึไม่ว่าตอนนี้เจ้ากำลังมีเวตาลน้อยให้ข้าพุฒิตา ข้าดีใจเหลือเกินเมียรักของข้า” อามาร์ลุกขึ้นนั่งลงบนเตียงแล้วประคองคนตัวเล็กลุกขึ้นมานั่งพิงซบอกตนเองพร้อมกอดเอวเล็กคอดหลวมๆ คำพูดของอามาร์ทำให้เธองงไม่เข้าใจว่าเวตาลตนนี้พูดอะไรกันแน่ “คุณหมายถึงอะไรคุณอามาร์” “เจ้ามิรู้รึว่าตอนนี้เจ้ากำลังมีลูกกับข้ายอดรัก” พุฒิตานิ่งอึ้งไปชั่วขณะกับสิ่งที่ได้รู้ เขารู้ได้ยังไงว่าเธอ ‘ท้อง’ ขนาดตัวเธอเองยังไม

  • อามาร์   12 : ยอมรับรึยังว่ารักข้า? 1

    บาซากลับมาหาแม่คนงามของตนเองที่คอนโดห้องพักของนางในกลางดึก ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเขากับนักข่าวสาวได้มีความคืบหน้าขึ้นกว่าเดิมจากที่สร้างภาพฝันให้นางหลงเข้าใจผิดก่อนหน้า บาซาก็เปลี่ยนเป็นมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวแบบคนปกติทั่วไปตามคำแนะนำของนายท่านตน “มีอะไรรึเปล่าคะคุณบาซา” พิมพ์พรเอ่ยถามคนที่มาเคาะประตูห้องตนในเวลาดึก “ผมขอเข้าไปคุยในห้องได้ไหมพิมพ์พร” บาซาไม่ตอบ แต่ขอเข้าห้องสาวตรงหน้า “ฉันว่าเราไปคุยกันข้างนอกดีกว่าค่ะ ในห้องฉันไม่สะดวก”ก็ห้องของเธอรกยังไม่ได้เก็บกวาด ไม่พร้อมให้ชายหนุ่มเห็นสภาพห้องตอนนี้ “แต่ผมสะดวก”แล้วบาซาก็ผลักเจ้าของห้องเข้าไปในห้องแล้วตัวเองเดินเข้าห้องตามพร้อมปิดล็อกประตูสนิท “คุณบาซา”เธอเรียกเขาพร้อมวิ่งไปขวางทางไม่ให้เขาเดินต่อ แต่ไม่ทันแล้วเขาเห็นสภาพห้องรกๆ ของเธอแล

  • อามาร์   11 : เย้ยจันทร์

    พุฒิตาสะดุ้งตื่นกลางดึกรีบใช้มือเปิดโคมไฟข้างหัวเตียงของตัวเองทันทีเมื่อได้ยินเสียงลมพัดตีหน้าต่างของตนเองจนเสียงดัง เธอว่าเธอปิดและล็อกหน้าต่างดีแล้ว แต่ทำไมหน้าต่างถึงเปิดออก พอลงจากเตียงไปจะปิดหน้าต่างก็เห็นอามาร์บินอยู่ด้านนอกหน้าต่างตรงหน้า “คุณ!” “ข้าเองพุฒิตา” บรั่นดีขวดเดียวมิสามารถทำอะไรเขาได้ อามาร์บินมาหยุดตรงหน้าคนที่อยู่ในห้องแล้วก็ยื่นแขนออกไปกอดอุ้มนางออกมานอกห้อง ว้าย! เธอตกใจเมื่อถูกกอดอุ้มลอยออกนอกหน้าต่าง สองมือน้อยรีบกอดเอวสอบ “ข้าจักพาเจ้าไปดูโลกที่ข้าอยู่” แล้วอามาร์ก็พาแม่ยอดดวงใจบินร่อนขึ้นไปยังฟ้าเบื้องบน แม้ว่าเธอจะหวาดกลัวในตอนแรก แต่พุฒิตาก็มั่นใจว่าอามาร์จักดูแลตัวเองเป็นอย่างดี “ลืมตาและมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเจ้าเมียข้า” อาม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status