เข้าสู่ระบบ“คนอย่างฉันไม่ต้องการความเห็นใจจากเธอ”
จอมทัพจ้องหน้านักโทษของเขาด้วยความโกรธแค้น เขาเห็นสายตาที่มัลลิกามองไปทางชุดแต่งงาน จับกระแสความสงสารได้ในน้ำเสียง เขาไม่ต้องการความสงสารหรือความเห็นใจ ไม่จำเป็นต้องแสดงสีหน้ารู้สึกผิด ต่อให้คนตรงหน้ารู้สึกผิดมากแค่ไหน ก็ไม่อาจทำให้คนรักของเขาฟื้นขึ้นมาเข้าพิธีวิวาห์กับเขาได้
ทั้งที่วันนี้ควรจะเป็นวันที่เขากับพิมพ์ลดามีความสุขมากที่สุด เธอควรจะอยู่ในอ้อมกอดของเขาตลอดทั้งคืน ไม่ใช่อยู่ไกลกันในสภาพตายครึ่งรอดครึ่งแบบนี้!
เสื้อผ้าถูกฉีกกระชากจนไม่เหลือชิ้นดี จอมทัพเคี่ยวกรำร่างกายของคนใต้ร่างอย่างหนักหน่วงครั้งแล้วครั้งเล่า ระบายทุกความโกรธแค้นและความผิดหวังเสียใจกับร่างกายของมัลลิกาตลอดทั้งคืน
เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าในอ้อมกอดมีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่ เขาหวังให้เป็นใบหน้างดงามของพิมพ์ลดา แต่ย่อมรู้ดีว่าไม่ใช่
จอมทัพผลักหญิงสาวออกจากตัว เหม่อมองคราบน้ำตาที่ยังแห้งไม่สนิท คงเพราะคนตรงหน้าร้องไห้ติดต่อกันเป็นเวลายาวนานตลอดทั้งคืน กระทั่งสลบไปก่อนรุ่งสางไม่นาน
แววตาเย็นชามองคราบเลือดบนผ้าปูที่นอน ก่อนจะสำรวจไปตามแนวกระดูกสันหลัง คล้ายจะจำได้ว่าเมื่อหนึ่งเดือนก่อนตอนที่สัมผัสกับต้นแขนของหล่อน ตัวเธอไม่ได้ให้ความรู้สึกมีแต่กระดูกเช่นนี้ แววตากลับยิ่งเย็นชาขึ้นกว่าเดิม ทุกอย่างมันก็สาสมแล้ว
แม่บ้านรีบยกอาหารออกมาเสิร์ฟทันทีที่เห็นจอมทัพนั่งลง ชายหนุ่มต้องทานอาหารทุกเช้าก่อนไปทำงาน แม้จะกลับบ้านไม่เคยเป็นเวลา แต่เขาไม่เคยตื่นนอนผิดเวลา
8 โมงตรงเขาต้องทานอาหารเช้า ไม่เกิน 9 โมงเขาต้องเข้าประจำการที่สถานีตำรวจ
เมื่อเห็นคนตรงหน้าเอาแต่จ้องหน้าตน ไม่ยอมทานข้าวต้มในชามเสียที ยายชื่นจึงอดถามไม่ได้
“เรื่องของเด็กสาวคนนั้นหรือคะ”
เห็นสีหน้าไม่โกรธแต่ก็ไม่ยินดีของเจ้านาย ยายชื่นก็ถอนหายใจ “นมก็นึกว่าคุณจอมตั้งใจพาเธอมาเพื่อทดแทนในคืนวันสำคัญ นมจึงให้แม่หนูไปรอในห้อง”
เส้นเลือดบนขมับพลันกระตุกทันที
เขาพยายามระงับโทสะ หากว่าไม่ใช่แม่นมคนนี้ที่เขารักและเคารพเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง เขาคงระบายความโกรธออกไปแล้ว แต่จะว่าไป หากไม่ใช่แม่นมคนนี้ คนอื่นไหนเลยจะกล้ายุ่มย่ามกับเรื่องส่วนตัวของเขา
จอมทัพไม่อยากเสียเวลาแก้ไขความเข้าใจผิด เขาก้มหน้าก้มตาทานข้าวต้ม รู้สึกว่ารสชาติถูกปากจึงทานหมดไปสองถ้วย
“เห็นคุณจอมเจริญอาหาร ซ้ำสีหน้ายังดูสดใสขึ้น นมดีใจเหลือเกิน” จอมทัพทนฟังต่ออีกไม่ไหวจึงต้องรีบเดินหนีออกจากบ้าน
สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากเหยียบเข้าห้องทำงานคือมองหารายงานความคืบหน้าของกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่หนีไปกบดานอยู่ทางใต้ เป็นโชคดีของประวิทย์ที่เมื่อวานเจ้านายของเขาเมาหัวราน้ำตั้งแต่ตะวันยังไม่ทันคล้อย เขาจึงมีเวลาร่างสรุปรายงานจากคู่หูส่งให้เจ้านายทันในตอนเช้าพอดิบพอดี
“ถือว่ารอดตัวไป”
จอมทัพส่งเสียงเย็นขณะกวาดตาอ่านรายละเอียดถี่ยิบ แม้จะยังไม่ได้ความคืบหน้ามากนัก แต่ก็ถือว่าเกินความคาดหวัง สงสัยแค่ธีรเมศฐ์คนเดียวอาจจะไม่ทันการ
“ยิ่งใกล้ถึงวันเลือกตั้ง ท่านนายกก็ยิ่งเป็นกังวล”
ได้ยินคำเปรยของเจ้านาย เกลียวขนบนแผ่นหลังก็ลุกชัน “นายไปเตรียมตัว อาทิตย์หน้าตามไปสมทบกับไอ้ธีร์ รีบหาตัวพวกมันให้เจอ ก่อนมันจะลำเลียงระเบิดเข้ามาอีก”
เป็นอย่างที่หวาดกลัวจริงๆ
เห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของลูกน้องคนสนิท เขาก็นึกอยากจะถีบไอ้หมอนี่อีกคน “ถ้าพวกมึงไม่ได้ความคืบหน้า กูก็ต้องตามลงไปด้วย” ว่าแล้วก็ยันโครมเข้าให้
ผู้กองประวิทย์รีบลุกขึ้นยืนทันที ต่อหน้าเจ้านายจะแสดงความปวกเปียกไม่ได้เด็ดขาด
มัลลิการู้สึกตัวเพราะร่างกายสัมผัสกับไอเย็น
มือบางควานหาผ้าห่ม สัมผัสอ่อนนุ่มของผ้าราคาแพง
ให้ความรู้สึกไม่คุ้นชิน จึงพยายามเปิดเปลือกตาหนักอึ้ง แล้วก็ต้องพบกับความเจ็บปวดรวดร้าวทั่วทั้งร่าง
เธอจำเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ทันที หญิงสาวรีบหดคอหลบเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่ม โผล่ออกมาเพียงดวงตามองหาเจ้าของห้อง แต่ทั้งห้องมีแค่เธอ เขาคงออกไปแล้ว
หญิงสาวมองสำรวจร่างเปลือยเปล่าของตนเอง ครั้งแรกของความเป็นสาว ถูกผู้ชายใจร้ายคนนั้นย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดี แต่มัลลิการู้ดีว่าเขาไม่ได้กอดเธอ ตลอดทั้งคืน เธอได้ยินเพียงชื่อลดาซ้ำไปซ้ำมา…
ภายในบ้านหลังใหญ่ของจอมทัพเงียบสงัดราวกับป่าช้า เธอไม่กล้าหนีกลับห้องเช่าของตัวเอง จึงเลือกเดินเข้าไปในครัว
“อ้าวแม่หนู มานั่งนี่สิ” เป็นเสียงของคุณยายคนเดิม “มาๆ ทานข้าวต้มก่อน”
คนแก่มองสำรวจสภาพเด็กสาว แล้วจึงเปลี่ยนใจให้แม่หนูไปอาบน้ำอาบท่า แล้วค่อยออกมาทานมื้อเช้าในยามสาย
“ชื่ออะไร แล้วเป็นใครมาจากไหน” น้ำเสียงใจดีเอ่ยถาม
มัลลิกาลังเล เธอวางช้อนลงก่อนตอบด้วยเสียงแผ่วเบา “หนูชื่อมิ้งค่ะ เป็นพยาบาล” แล้วเธอก็ไม่รู้จะต่อประโยคว่าอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนยังมีงานทำอยู่หรือไม่
เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเด็กสาว ยายชื่นจึงไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ สายตาคมกริบของคนแก่เหลือบไปเห็นรอยแดงเป็นจ้ำเลือดรอบลำคอจนถึงเนินอก พลอยนึกไปถึงสีหน้าสดชื่นของจอมทัพเมื่อเช้านี้ แววตาพลันอ่อนโยนลง
“กินเข้าไปอีก ร่างกายผอมบางแบบนี้คุณจอมท่านไม่ชอบหรอกนะ”
หญิงสาวฟังไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมทานต่ออีกหลายคำ
ตอนพิเศษ 6ครอบครัวอบอุ่นของผู้กองจอมทัพอาณาเขตของบ้านพงศ์พานิชถูกขยับขยายเต็มพื้นที่ ตัวบ้านหลังเดิมถูกต่อเติมเพิ่มขึ้นอีกหลายห้องเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ของบ้าน ทางด้านหลังมีการขุดลอกทำคลองเพื่อนำน้ำจากธรรมชาติมาใช้สอยรดพืชผักสวนครัวและเลี้ยงไก่ทางด้านหน้าติดประตูรั้วเป็นสถานพยาบาลเบื้องต้น ขนาดไม่ใหญ่มาก ทว่าก็มีชาวบ้านเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสาย วันนี้ยังไม่ทันถึงเวลาเปิดให้บริการก็มีเสียงตะโกนเรียก น้ำเสียงฟังดูตื่นตระหนก “พ่อเฒ่าไถลลงบันได ถูกตะปูตำ แผลลึกเลยอีหล้า” มัลลิการีบกุลีกุจอออกมา ไม่ทันแม้แต่ถอดผ้ากันเปื้อน “ไปเอาชุดล้างแผลมาให้แม่หน่อยได้ไหมคะหนูลิน” เด็กหญิงวัยสิบขวบขานรับฉะฉาน สองเท้าก้าวอย่างฉับไวเข้าไปในสถานพยาบาลของมารดา มัลลิการีบมองประเมินบาดแผล เลือดหยุดไหลแล้ว แต่บาดแผลก็ลึกพอสมควร เห็นทีต้องรีบล้างแผลและให้ญาติพาตัวคนเจ็บเข้าไปฉีดยากันบาดทะยักที่อนามัยโดยเร็วที่สุด “พี่รบครับ พี่รบไปบอกคุณพ่อให้ช่วยหยิบน้ำเกลือให้คุณแม่หน่อยได้ไหมครับ” มัลลิกาหันไปหาเด็กชายตัวป้อมที่ยืนเกาะแขนเธอไม
ตอนพิเศษ 5ยัยโจรห้าร้อยกับผู้กองเอวดุประวิทย์ไม่คาดคิดว่าคนอย่างเขาจะมีช่วงเวลาแห่งความเหงา นับตั้งแต่คู่หูมีคนเข้ามาดามใจ ธีรเมศฐ์ก็ไม่เคยไปไหนมาไหนกับเขาอีกเลย เฝ้าแต่คุยโทรศัพท์ทางไกลกับเมียเด็ก “ไอ้ธีร์ เย็นนี้เอ็งไปดื่มเป็นเพื่อนข้าหน่อยสิวะ ข้าเหงา” ได้ยินเสียงหัวเราะของผู้กองธีร์แทนคำตอบ “ใครจะไปรู้ ว่าคนเจ้าชู้อย่างเอ็งจะมานั่งบ่นว่าเหงา ฮ่าๆๆ”เขาตบบ่าเพื่อนรักพลางลุกออกไปจากโต๊ะ“เลิกเจ้าชู้เห๊อะไอ้วิทย์ ระวังเถอะ สักวันเวรกรรมจะตามสนอง”นอกจากเพื่อนรักจะไม่เหลียวแล มันยังทิ้งคำสาปแช่งไว้ให้อีก มันน่านัก เดี๋ยวพ่อก็แช่งให้เมียเด็กเอ็งมีชู้ซะนี่!สุดท้ายผู้กองวิทย์ก็พาตนเองมาคลายความเหงาที่ผับดังแห่งหนึ่งย่านรัชดา เขามาที่นี่บ่อยครั้ง แต่ละครั้งก็ได้สาวกลับไปกินที่คอนโดไม่ซ้ำหน้าทว่าวันนี้ไม่รู้ทำไมมองไปทางไหนก็มีแต่ความเบื่อหน่าย“เฮ้อ… กลับก็ได้วะ”ขณะลุกขึ้น ด้านหลังก็ถูกชนเข้าอย่างจังจนเสียหลักพุ่งชนเหลี่ยมขอบโต๊ะ จุกไปทั้งหน้าท้อง อารมณ์ขุ่นเคืองที่สั่งสมมานานหลายวันพลันปะทุขึ้น“ระวังหน่อยสิวะ!”พอหันกลับไปก็ต้องตะลึงงัน ดาราที่ไหนวะเนี่ย…เขาผ่านผู้ห
ตอนพิเศษ 4หนูชื่อก้านแก้วไม่ใช่แก่นแก้วธีรเมศฐ์แทบไม่อยากเชื่อสายตาว่าหญิงสาวในชุดนักศึกษาทรวดทรงนาฬิกาทรายที่เพิ่งเดินผ่านหน้าบ้านไปจะเป็นยายเด็กจอมแก่นคนนั้นจริงๆ เขาถือโอกาสที่มาร่วมงานแต่งของท่านจอมขอลาพักร้อนกลับมาพักใจที่บ้าน เพิ่งทราบเดี๋ยวนี้เองว่าตนเป็นคนบ้านเดียวกันกับมัลลิกา หมู่บ้านของหล่อนอยู่ถัดจากบ้านของเขาไปไม่ได้ไกลมาก ห่างกันราวสิบกิโลเห็นจะได้ พอนึกว่าแต่ก่อนหล่อนอยู่ห่างไปเพียงแค่ไม่กี่หลังคากั้น เขากลับไม่เคยมีบุญวาสนาจะได้พานพบ ก็คงเป็นเพราะชะตาฟ้าลิขิตไม่ให้พวกเขาได้เป็นคู่กันแน่แท้แล้ว สีหน้าของผู้กองพลันเซื่องซึม เขาถอนหายใจจนมารดาแก่ชราอดบ่นไม่ได้ ไม่ใช่แค่ผู้กองที่ลอบสังเกตเห็น แต่ ‘ก้านแก้ว’ เองก็เห็นชายหนุ่มแล้วเช่นกัน ‘พี่ธีร์’ พี่ชายข้างบ้านที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เรียกว่าเป็นฮีโร่ในวัยเยาว์ก็ว่าได้ นับตั้งแต่พี่ธีร์ย้ายไปเรียนกรุงเทพ กระทั่งเข้ารับราชการในกรมตำรวจ เขาก็กลับมาเยี่ยมบ้านแทบจะนับครั้งได้ และทุกครั้งที่เขากลับมา แก้วก็มักจะคอยลุ้นอยู่เสมอว่าจะได้เห็นเขาหอบลูกหอบเมียกลับมาด้วยหรือไม่ ครั้งนี้ก็เ
ตอนพิเศษ 3ไม่ว่าน้องอยากได้อะไรพี่ก็จะหามาให้บ้านหลังใหม่ของมัลลิกามีทั้งหมดสี่ห้องนอน เดิมเธอกับบิดามารดารวมกันยังเหลือห้องว่างอีกสองห้อง แต่พอคณะของจอมทัพย้ายเข้ามา บ้านหลังใหญ่ก็ดูคับแคบลงไปถนัดตายายชื่นได้พักหนึ่งห้อง อีกห้องจึงให้ป้านวลกับแป้งอาศัยอยู่ร่วมกัน เศษส่วนเกินที่เหลือจึงกลายเป็นจอมทัพ ชายหนุ่มยืนอยู่ในห้องของมัลลิกาด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่มแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ผิดกับเจ้าของห้องที่มีสีหน้าเก้อกระดาก เธออยากไล่เขาไปนอนที่อื่น ติดที่ไม่รู้จะอธิบายกับบิดามารดาว่าอย่างไร “เดี๋ยวพี่ออกไปพักในเมืองก็ได้ พรุ่งนี้ค่อยขับรถกลับมา” ระยะทางไปกลับระหว่างตัวเมืองกับเขตอำเภอไม่ใช่ใกล้ๆ ใช้เวลาอย่างน้อยก็หนึ่งชั่วโมง คะเนจากสีหน้าท่าทางก็รู้ว่าเขามั่นใจอยู่แล้วว่าเธอคงไม่กล้าปล่อยให้เขาทำอย่างนั้น “ทำไมจะมาถึงไม่บอกก่อนคะ” เธอแสร้งเปลี่ยนเรื่อง หมุนตัวไปหยิบผ้านวมผืนใหญ่ออกมาจากตู้ จอมทัพฉวยโอกาสที่หญิงสาวหันหลังเดินเข้าไปสวมกอด ลอบสูดดมกลิ่นกายหอมละมุนที่แสนคิดถึงให้ฉ่ำปอด “ก็เธอไม่ยอมบอกเบอร์ติดต่อ พี่จะบอกเธอยังไง”
ตอนพิเศษ 2ผู้กองจอมทัพแห่งสภ.พานจอมทัพเพิ่งย้ายมาประจำการยังสภ.พานไม่ถึงเดือนแต่อันธพาลกลับไม่มีเหลือ กิตติศัพท์ของเขาเลื่องชื่อระบือไกลไปจนถึงเขตปกครองของสภ.ข้างเคียง หากเจอขาใหญ่ประจำถิ่นคนไหนออกอาละวาด เพียงแค่เอ่ยชื่อผู้กองคนนี้ ขาใหญ่ก็ขาใหญ่เถอะ ล้วนกลัวจนหัวหด ม้วนหัวเก็บหางกลับไปแทบไม่ทัน ครั้งหนึ่งมีคนอยากลองของอันธพาลคนนั้นเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเจ้าของห้างทองที่ใหญ่ที่สุดในเขตอำเภอพาน ทั้งยังเป็นเจ้าของตลาดสดในตัวอำเภอ ทั้งส่งออก ทั้งรับซื้อ ผูกขาดเพียงเจ้าเดียวเด็กหนุ่มคนนี้ขูดรีดค่าแผงกับแม่ค้าเป็นอาจิณ อาศัยความเป็นเจ้าหนี้ปล่อยกู้ ลูกสาวบ้านไหนถูกตาต้องใจก็ถูกบังคับเอาตัวมาขัดดอก ชาวบ้านต่างพากันหวาดกลัว พวกตำรวจก็พากันปวดหัวเพราะทำอะไรขาใหญ่คนนี้ไม่ได้ แว่วว่าเบื้องหลังมีการส่งส่วยให้กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่วันนั้นจอมทัพแวะตลาดหลังเลิกงานเพื่อซื้อของสดกลับบ้าน ขณะส่งเงินให้แม่ค้า กลับถูกใครบางคนคว้าเงินไปจากมือ“อันนี้ถือเป็นค่าแผงวันนี้นะ”ผู้กองในชุดนอกเครื่องแบบปรายตามอง แต่อีกฝ่ายไม่ได้มองเขา ชายคนนั้นยังเป็นวัยรุ่น อายุไม่น่าเกินยี่สิบห้า ผ
ตอนพิเศษ 1 มิอาจเลือกทางเดินไม่คิดเลยว่าชีวิตของคนคนหนึ่งจะสามารถถูกกำหนดด้วยนามสกุลที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด พิมพ์ลดากดปิดรูปถ่ายของชายหนุ่มที่ถูกส่งมาทางอีเมลเป็นคนที่เท่าไหร่ไม่รู้โดยไม่แม้แต่จะสนใจอ่านรายละเอียดที่แนบมาด้วยเธอเบื่อเหลือเกิน นับแต่จำความได้ ชีวิตก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ทั้งเรื่องเรียน เรื่องสังคม กระทั่งเรื่องความรักขณะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นสายทางไกลที่เธอมิอาจเลี่ยงได้ บิดาของเธอนั่นเอง“คุณพ่อคะ ลดาเพิ่งจะ 20 เองนะ”มันเป็นประโยคเดิมๆที่เคยพูดกับบิดามาตลอดสองปีจนตอนนี้เธอหนีจากบ้านมาเรียนไกลถึงประเทศอังกฤษ บิดาก็ยังไม่เลิกจับคู่ทางการเมืองให้เสียที“อีกสามวันจอมทัพจะบินไปเยี่ยมหลานสาวที่โน้น ยายหนูมิริน ไปพบพี่เขาซะ คนนี้พ่อเลือกแล้ว”ลดาเบิกตากว้าง ครั้งนี้ไม่ใช่ประโยคคำถาม หากแต่เป็นประโยคคำสั่งที่เธอขัดขืนไม่ได้“คุณพ่อ!!!” เธอไม่อยากจะเชื่อเลย “ถ้าเขาเป็นญาติพี่ขุน ก็แปลว่าเป็นพวกในเครื่องแบบใช่ไหมคะ”ได้ยินปลายสายตอบกลับ“ใช่ น้องชายเจ้าขุน พ่อกำลังหมายตาจะให้เขาเข้ามารับตำแหน่งพันตรี ขึ้นตรงกับพ่อโดยตรง เขาทั้งหนุ่ม ทั้งขยัน อน







