เมื่อถึงเวลาเข้าเรียน เด็กหญิงนั่งตัวตรงบนเก้าอี้ส่วนตัวของแก ดวงหน้าน่ารักยิ้มหวานเมื่อสบตาคุณครูที่ยืนอยู่หน้ากระดาน มีแผ่นกระดาษ มีภาพวาด มีอุปกรณ์สำหรับสอนเด็ก อันที่จริงไม่เรียกว่าสอน เรียกว่าหากิจกรรมมาเพิ่มทักษะความรู้ให้กับแม่หนูวัยไร้เดียงสามากกว่า การสอนของนภาพราวจึงเป็นการเล่นสำหรับเด็กน้อยตัวแค่นี้นั่นเอง
“ครูคนใหม่เป็นไงมั่งใจ” ป้าแมวเอ่ยถามเมื่อพี่ใจเดินเข้ามาในครัวเพื่อมาขอน้ำส้มคั้นกับของว่างเอาไปให้คุณครูคนใหม่กับคุณหนูเล็กในช่วงพักเบรก
“ก็ไม่เป็นไงนะ น่ารักดี มีเกมให้คุณหนูเล็กเล่นเยอะแยะไปหมด”
ป้าแมวมุ่นคิ้ว พลางเอ่ยถาม
“ตกลงได้สอนมั่งไหม หรือเอาแต่ชวนคุณหนูเล่น”
“ก็ไม่ค่อยนะ แต่เท่าที่หนูสังเกต ครูน้ำอุ่นมักเน้นการฝึกทักษะมากกว่า แล้วคุณหนูเล็กก็ชอบมากเสียด้วย”
“ชอบกว่าครูคนก่อนหรือเปล่า” ป้าแมวถามต่อ
“ดูจะชอบมากกว่านะ พูดเป็นต่อยหอยเลยป้า ถามคุณครูไม่หยุด คุณครูก็ดูใจเย็นมากเลยนะป้า”
ป้าแมวทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนตอบ
“นี่มันแค่วันแรก เดี๋ยวค่อยดูวันต่อๆ ไปก็แล้วกัน ดูซิว่าจะยังใจเย็นไหวหรือเปล่า”
พี่ใจสบตาป้าแมวแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้แล้วยกถาดของว่างออกไปโดยไม่ตอบโต้อะไร เพราะหล่อนเองก็ชักถูกชะตาครูสาวคนใหม่เหมือนกัน
ช่วงเที่ยง ธราดลกลับเข้ามาตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับลูกสาว ขณะที่กำลังเดินตรงไปยังห้องเรียน ชายหนุ่มพบว่าหนูเล็กกำลังนั่งกินส้มอยู่กับคุณครูของเจ้าหล่อน และหัวเราะคิกคักกันสองคน
“อร่อยไหมคะคุงคู หนูเล็กกินทุกวันเลย พ่อจ๋าปลูกส้มเยอะเท่านี้เลย” หนูน้อยวาดแขนออกไปจนกว้างที่สุดเท่าที่จะกว้างได้ แล้วยิ้มจนเห็นฟันซี่เล็กๆ นัยน์ตายิบหยี ทำให้คนที่มาหยุดมองอยู่หน้าห้องต้องยิ้มตามไปด้วย นภาพราวหันมาพอดีเขาจึงคลายยิ้มลง
“คุณพ่อมาแล้วค่ะ” หญิงสาวบอกลูกศิษย์ตัวเล็ก
หนูน้อยหันขวับก่อนจะรีบวิ่งไปหาคุณพ่อ
“พ่อจ๋ามาแล้ว”
“ครับผม” ชายหนุ่มโน้มตัวลงอุ้มลูกสาวขึ้นมาแนบอก พร้อมกับหอมแก้มนุ่มสูดกลิ่นแป้งเด็กหอมชื่นใจเต็มปอด “วันนี้เรียนเป็นไงบ้าง สนุกไหม”
“สนุกค่า วันนี้หนูเล็กได้เล่นเยอะเลยด้วย”
คนตัวโตเลิกคิ้วสูง ก่อนจะหันไปสบตาครูสาวราวจะหยอกผ่านสายตาว่าตกลงเรียนหรือเล่น นภาพราวจึงยิ้มตอบเขาพลางบอก
“วันแรกน้ำอุ่นเริ่มเบาๆ ไปก่อนค่ะ วันนี้เลยให้แกเล่นเป็นส่วนใหญ่ เพิ่มทักษะพื้นฐาน สอดแทรกความรู้บ้างเล็กน้อย เด็กวัยนี้ควรเริ่มต้นจากสิ่งที่แกสนใจก่อนเป็นอันดับแรก แล้วเราค่อยๆ สอดแทรกความรู้เข้าไปทีละนิด”
ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างพอใจกับคำตอบ จากนั้นเขาก็อุ้มลูกสาวออกจากห้องเรียน แต่ก้าวไปไม่กี่ก้าว เขาก็หันไปมองหญิงสาวที่ยืนนิ่งอยู่หน้าห้อง
“มาด้วยกันสิคุณ”
เมื่อถูกเอ่ยชวนเช่นนั้น นภาพราวจึงผ่อนลมหายใจที่เผลอกลั้นหายใจเสียตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบได้ จากนั้นก็รีบสืบเท้าตามร่างสูงใหญ่ของธราดลไปยังอีกห้องหนึ่ง
“มากันแล้ว มามา มากินข้าวกันก่อน ครูอุ่นเชิญนั่งค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยิ้มให้กับพี่ใจที่วางจานข้าวให้ทันทีที่หล่อนนั่ง หญิงสาวหันไปมองหนูน้อยที่บอกความจำนงกับพ่อจ๋าของเจ้าหล่อน
“หนูเล็กจะนั่งตรงนี้” คนตัวเล็กสมชื่อชี้มาตรงเก้าอี้ที่ติดกับนภาพราว คนเป็นพ่อจึงพยักหน้าตามใจ
“ได้สิครับ” เขาดึงเก้าอี้ตัวเดิมออก แล้วนำเก้าอี้สำหรับเด็กเข้าไปวางแทนที่ ส่วนตัวเองนั้นนั่งติดกับลูกสาว
“คุงคูกินเยอะๆ นะคะ จะได้โตเร็วๆ ต้องกินผักด้วยนะคะ” หนูน้อยเริ่มต้นมื้อนี้ด้วยการยื่นมือออกไปหยิบถั่วฝักยาวมาใส่จานคุณครูพี่น้ำอุ่นของเจ้าหล่อน ทำให้ทุกคนในโต๊ะอาหารต่างมองด้วยความทึ่ง เพราะปกติแล้วคุณหนูเล็กจะไม่ยอมสนิทกับใครรวดเร็วแบบนี้ง่ายๆ มาก่อน
“ขอบคุณค่ะ งั้นคุณหนูเล็กก็ต้องกินผักเยอะๆ เหมือนคุณครูด้วยนะคะ จะได้โตเร็วๆ โตทันครูยังไงล่ะ โอเคไหม”
หนูน้อยยิ้มแป้นพลางพยักหน้าอีกที
“โอเคค่า” พูดจบหนูน้อยก็หยิบแตงกวามากัดกร้วมๆ ทำให้ผู้ใหญ่ที่นั่งมองกันไปมาต่างอมยิ้มเป็นแถว ครูสาวเองก็มองหนูน้อยด้วยสายตาเอ็นดู ก่อนชะงักลงเล็กน้อยเมื่อหันไปสบตาคมกริบที่กำลังมองมายังหล่อน แต่เพียงแวบเดียวเขาก็เบือนหน้ากลับไปสนใจกับจานข้าวของตัวเอง ทำให้หญิงสาวมึนงงเล็กน้อยว่าหล่อนทำอะไรผิดไปหรือเปล่า
หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงอิ่มหนำสำราญแล้ว แม่หนูน้อยเล่นกับพ่อได้สักพัก คุณพ่อของแกก็ต้องกลับไปทำงานต่อ นภาพราวจึงรับช่วงต่อจากธราดล หญิงสาวชวนหนูน้อยทำกิจกรรมเบาๆ สิบนาทีเพื่อย่อยอาหาร จากนั้นก็พาคนตัวเล็กนอนกลางวัน
การทำงานวันแรกถือว่าดำเนินไปอย่างราบรื่นและดีเกินคาด หนูน้อยน่ารักมากจริงๆ เจ้าหล่อนดูผ่านๆ เหมือนจะขี้อาย แต่เมื่อได้สนิทสนมกันแล้วจึงรู้ว่าเป็นเด็กร่าเริงทีเดียว
เมื่อหมดเวลางาน หญิงสาวคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากนั้นก็โบกมือลาคุณหนูเล็กที่เดินออกมาพร้อมพี่เลี้ยงยืนโบกมือร้องบอกบ๊ายบายอยู่หน้ามุขก่อนสตาร์ตรถและขับออกไป ระหว่างทางต้องผ่านสวนส้มที่ให้ผลดกเป็นพวงด้วยความรู้สึกชื่นฉ่ำใจ ตอนนั้นเอง ที่หญิงสาวหันไปเห็นธราดลกำลังยืนคุยอยู่กับกลุ่มคนงานของเขา ทุกคนต่างหยุดคุยและหันมามองหญิงสาว นภาพราวจึงยิ้มให้คนเหล่านั้นก่อนจะขับผ่านไป
เมื่อครูสาวคนใหม่ขับผ่านไปแล้ว หัวหน้าคนงานจึงเอ่ยถามนายจ้างของตน
“คุณครูคนใหม่ใช่ไหมครับ”
“อืม” ชายหนุ่มตอบ พร้อมกับคีบบุหรี่ขึ้นมาดูดแล้วพ่นควันออกไป ดวงตาสีสนิมมองผ่านควันสีเทาเห็นร่างที่ผ่านไปเพียงบางเบาก่อนหันกลับมา
“กลับบ้านกันได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่”
เมื่อทุกคนแยกย้าย ชายหนุ่มจึงเป็นคนสุดท้ายที่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น บริเวณเนินดินซึ่งห่างมาจากต้นส้มไม่มาก แล้วคิดถึงอดีตที่ผ่านมา กับใครบางคนที่จากไป
“จริงๆ อุ่นน่ะพอแล้วนะคะ แค่หนูเล็กกับนักรบอุ่นก็พอใจแล้ว ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง กำลังพอดีเลย”ตอบพลางลูบไล้อกของสามีไปด้วย แต่คนตัวโตรู้สึกว่ากำลังถูกปลุกเร้าอารมณ์ให้เตลิดจนต้องวางมือทาบทับมือเรียวของหญิงสาวให้อยู่นิ่ง จนอีกฝ่ายสบตาเขาเป็นคำถาม แต่เมื่อเห็นแววตาพร่ามัวที่เต็มไปด้วยความต้องการทางสายตาหัวใจดวงน้อยก็เต้นถี่รัวขึ้นมา“ผมอยากมีเพิ่มสักคนนะ แต่ถ้าอุ่นพอแค่นี้ ผมก็ตามใจอุ่น” เขาตอบด้วยความรู้สึกจากใจจริง เพราะทุกคำพูดและแววตาของนภาพราวทำให้เขาลืมไปว่าหนูเล็กไม่ใช่ลูกของอีกฝ่าย ซึ่งทำให้เขาอิ่มเอิบหัวใจอย่างบอกไม่ถูกหญิงสาวขยับตัวแล้วลูบแก้มของเขาแผ่วๆ ก่อนจะยื่นหน้าไปจูบริมฝีปากได้รูป ชายหนุ่มยกมือขึ้นกระชับต้นคอระหง แล้วกดน้ำหนักของริมฝีปากตนเองเข้าหา พลางสอดปลายลิ้นตวัดรัดปลายลิ้นอ่อนนุ่ม“อันที่จริงอุ่นไม่มีปัญหาเรื่องมีลูกเพิ่ม ไม่ว่าจะกี่คนอุ่นก็รักทั้งนั้น เพราะพวกเขาเป็นลูกๆ ของเรา แต่อุ่นห่วงความรู้สึกของหนูเล็กมากกว่า”ชายหนุ่มสบตาหญิงสาวด้วยความรู้สึกแปลกใจแต่ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกขอบคุณ เพราะไม่ว่าจะเรื่องอะไร นภาพราวจะคิดถึงผลกระทบที่จะส่งผลถึงลูกสาวของเขาเสมอชายห
หลังจากกรำงานมานาน ธราดลก็พาภรรยาและลูกๆ ไปเที่ยวทะเลในช่วงปิดเทอมใหญ่ ส่วนย่าและยายขอพักผ่อนอยู่บ้านเพราะไม่อยากเดินทางนานๆ ทริปท่องเที่ยวครั้งนี้จึงมีเพียงสี่คนพ่อแม่ลูกเท่านั้น “พ่อฮาฟ น้ำเยอะเลย” หนูน้อยนักรบทำปากจู๋ ดวงตาเป็นประกายสดใสขณะนั่งมองทิวน้ำอยู่บนคาร์ซีตเด็กด้านหลัง ส่วนพี่สาวนั่งคาร์ซีตข้างๆ กันก็พยักหน้าเห็นด้วย“พี่หนูเล็กเคยมาทะเลแล้วตั้งหลายครั้งนะน้องรบ ในนั้นมีเบบีชาร์กด้วยน้า”“หูว เบบี้ชักๆ ๆ ๆ” หนูน้อยนักรบครวญเบาๆ ถึงน้ำกับปลาฉลามพลางยกมือขึ้นประกบกันทำท่าฉลามประกอบเพลงไปด้วย แม้เขาจะเคยมาแล้วหลายครั้งแต่ก็จำไม่ได้เพราะตอนนั้นยังเล็กมากเกินไป ตอนนี้เริ่มรู้เรื่องมากแล้วจึงตื่นเต้นราวกับว่าเพิ่งมาเห็นครั้งแรกกระนั้นทั้งหมดมาถึงบ้านพักที่จองเอาไว้ในช่วงบ่าย หลังจากสำรวจบ้านเรียบร้อย นภาพราวก็พาเด็กๆ ลงไปเล่นน้ำ ธราดลคุยโทรศัพท์สักพักใหญ่จึงได้ตามลงไปทีหลัง พอลงไปถึงเขาก็เห็นลูกๆ กำลังวักน้ำใส่กันด้วยท่าทางสนุกมากเชียว“พ่อจ๋า มาเล่นน้ำกัน”ร่างสูงในชุดเสื้อสีสันแสบตากับกางเกงผ้าร่มขาสั้นพร้อมลงเล่นน้ำ เดินแกมวิ่งตรงไปหาลูกๆ ส่วนนภาพราวอยู่ในเสื้อยืดสีชมพูกับก
บทส่งท้ายเสียงของเด็กหญิงและเด็กชายกำลังถกเถียงอยู่กลางสวนส้ม ทำให้คนเป็นพ่อที่กำลังคุยอยู่กับหัวหน้าคนงานต้องก้าวออกมายืนกอดอกมอง ริมฝีปากข้างหนึ่งยกสูงอย่างขบขันยามยืนฟังเด็กสองคนพยายามงัดเอาเหตุผลของตนเองออกมาหักล้างกันและกัน“ไปดูไดโนเสาร์กันไหม” พี่สาวเอ่ยถาม“ไป” คนน้องรับคำ จากนั้นทั้งสองก็ปั่นจักรยานคนละคันซอกซอนไปตามโคนต้นไม้ เพื่อหาไดโนเสาร์ในจินตนาการของพวกเขา“รบเจอแล้ว” น้องชายร้องบอกพี่สาว ทำให้หนูเล็กที่กำลังส่ายตาหาหันขวับ พอเห็นน้องหยิบกิ่งไม้ขึ้นมาพี่สาวก็ส่ายหน้าหวือ“ไม่ช้าย อันนั้นไม่ใช่ อันนั้นกิ่งไม้”“ช่าย นี้ไดโนเฉา” น้องชายตอบเสียงแจ่ม หน้าตาแลขึงขัง บ่งบอกว่าไม่ชอบใจที่พี่สาวตอบ“ไม่ใช่นะ อันนั้นกิ่งไม้ ไดโนเสาร์ต้องเป็นแบบนี้” ว่าแล้วทำท่าประกอบ แต่น้องชายเริ่มเบะปากส่ายหน้า“ไม่ช้าย นี่ไดโนเฉา” หนูน้อยยังยืนยันเสียงแข็ง“น้องรบหยุดพูดเลยนะ”“ไม่หยุด” คนตัวเล็กเถียงกลับทันที“หยุดซี ห้ามพูดเลย ห้ามเถียงพี่นะน้องรบ”“น้องจะพูด น้องมีปาก” นักรบร้องขึ้นหน้าแดงจัด แล้วทำท่าว่าจะเถียงต่อจนพ่อต้องเข้ามาห้ามทัพ“เดี๋ยวๆ หยุดทั้งคู่เลย ทะเลาะกันเรื่องอะไรเนี่ย”คน
หญิงสาวยอมให้เขาติดตะขอสร้อยให้ ก่อนจะจูบลงบนอกอิ่มที่มีล็อกเกตบรรจุรูปลูกๆ ของทั้งคู่พาดอยู่บนนั้น“คุณใส่แล้วน่ารักมากรู้ไหม” ชายหนุ่มชมภรรยาของเขา พลางกดริมฝีปากลงบนซอกคอระหง ฉกปลายลิ้นหยอกเย้าปลุกเร้าอารมณ์จนนภาพราวหัวเราะคิกออกมา“น่ารักแล้วรักไหมคะ”“รักสิ รักมาก” เขาตอบอย่างไม่อิดออด พลางดึงเสื้อนอนสายเดี่ยวออกไปทางศีรษะ เผยเนื้อตัวท่อนบนเปลือยเปล่า สายตาของเขาปลุกเร้าอารมณ์ของนภาพราวได้เป็นอย่างดี เพราะแค่สบตาขนกายของหล่อนก็ลุกชัน โดยเฉพาะเมื่อปลายนิ้วเรียวยาวของเขาลูบไล้เรือนร่างของหล่อนไม่หยุด หญิงสาวก็ยิ่งวาบหวาม เร่าร้อนในอก“คุณดล”“บอกรักผมก่อน หอมแก้มผมด้วย” เขาเอ่ยต่อรองอย่างเป็นต่อ เพราะรู้ดีว่าหญิงสาวกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน และต้องการอะไรจากเขานภาพราวหยัดอกขึ้นอย่างเสียวซ่านเมื่อสามีตัวดีตวัดปลายลิ้นลงชิมปลายยอดที่ชูชันเรียกร้องให้เขาครอบครองอย่างล้ำลึกก่อนเปิดตามองเขา“ทำไมชอบถามตอนนี้ค่ะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างข้องใจ ทำให้คนถามยกยิ้มขัน“ก็ตอนปกติอุ่นไม่ค่อยบอกรักผมเลยนี่”คำตอบของเขาทำเอาหญิงสาวยิ้มเขิน ก่อนจะยกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาของสามี แล้วรั้งเขาขึ้นมาจูบหน้
หญิงสาวเม้มปาก ก่อนจะมองเขาอย่างตัดพ้อ ธราดลยังคงเป็นผู้ชายที่อยู่ในใจของหล่อนเสมอมา แม้ทุกวันนี้จะมีสามีที่แสนดีและลูกสาวที่น่ารักแล้วก็ตาม“เด็กคนนี้ใช่ไหม ที่คุณเอามาอ้างกับผมในวันนั้น”จู่ๆ ชายหนุ่มก็เอ่ยถามเรื่องที่คาใจมานาน แสงตะวันนิ่งงันไปหลายอึดใจก่อนจะลากสายตาไปยังน้องพรีม ดวงตาอ่อนแสงยามมองลูกสาวที่กำลังหัวเราะเสียงใสกับลูกสาวของธราดลใช่แล้ว น้องพรีมคือเด็กที่หล่อนเคยคิดจะเอามาต่อรองกับเขาในวันนั้น ทุกอย่างเป็นเพราะเขา ส่วนพ่อของลูกคือคนที่เฝ้ารักเฝ้ารอหล่อนมาโดยตลอดเช่นกัน เขารู้ว่าหล่อนไม่เคยรักเขาเลย แต่ก็ไม่เคยสนใจ เขาขอแค่ได้รักหล่อน ทำให้หญิงสาวใจอ่อนยอมรับและตกลงปลงใจกับเขา จนเวลาผ่านเลยไป หล่อนพาลูกสาวมาเข้าเรียนที่นี่ มีโอกาสได้พบลูกสาวของเขาหลายครั้ง แล้ววันหนึ่งหล่อนได้เห็นว่าทั้งคู่มาส่งลูกสาวที่โรงเรียนพร้อมกัน หนูเล็กดูรักนภาพราวมาก เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่ดูรักภรรยามากจนใครๆ ต้องอิจฉา ความรักของเขาชัดเจนทั้งในแววตาและการแสดงออก มันทำให้หล่อนอิจฉาจนไปลงกับเด็กน้อยไร้เดียงสาคนหนึ่ง“ฉันขอโทษ”ชายหนุ่มหันไปมองลูกสาว ดวงตาคมกริบเย็นชายามมองแสงตะวันแปรเปลี่ยนเป็นอ
“คุณยังมีเบอร์ติดต่อคุณแสงอยู่หรือเปล่าคะ” นภาพราวเอ่ยถามหลังจากชายหนุ่มขับรถออกมาได้ไม่นานธราดลส่ายหน้า เขาไม่มีความจำเป็นต้องเก็บเบอร์ของผู้หญิงในอดีตเอาไว้ เพราะผู้หญิงคนเดียวที่เขาต้องการนั่งอยู่ข้างๆ แล้ว“ไม่เป็นไรค่ะ อุ่นจะถามคุณครูให้ก็แล้วกัน แล้วเดี๋ยวจะเป็นคนนัดเธอเอง คุณโอเคไหม หรือคุณจะเป็นคนนัดเธอเองก็ได้นะคะ” หญิงสาวมองเขาอย่างขอความเห็น“ให้อุ่นเป็นคนนัดหมายก็แล้วกัน”หญิงสาวยิ้มเมื่อเขามอบหมายให้หล่อนเป็นคนจัดการ“โอเคค่ะ ก่อนกลับบ้านแวะซื้อของสักหน่อยนะคะ”“ได้จ้ะ” ธราดลตอบรับภรรยาอย่างน่ารัก จากนั้นเขาจึงเลี้ยวรถเข้าไปยังห้างสรรพสินค้า ร่างสูงดันรถเข็นเดินตามภรรยาเข้าไปในแผนกเสื้อผ้าเด็ก หญิงสาวหยิบกางเกงกับเสื้อซับในสำหรับหนูเล็กขึ้นมาดู เพราะของเดิมที่มีอยู่เริ่มเก่าแล้ว จึงอยากซื้อใหม่ให้หนูน้อยสักครึ่งโหล เมื่อได้แล้วจึงเดินไปยังชั้นถุงเท้า หยิบมาดูเนื้อผ้าอย่างละเอียดพอเจอที่พอใจจึงหยิบมาอีกสองแพ็ก ก่อนจะเดินเข้าแผนกเด็กอ่อน หยิบของใช้ที่จำเป็นสำหรับลูกชายตัวน้อย ก่อนตรงไปยังแผนกเครื่องสำอาง ก่อนจะหันไปมองสามีที่เดินตามมาไม่ห่าง“ครีมโกนหนวดของคุณใกล้หมดแล้ว ค