แพรพลอยนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่บนเตียงภายในห้องนอน เนื่องจากวันนี้เธอมีนัดกับตาลุงจอมเจ้าเล่ห์ของเธอตอนเที่ยง หลังจากที่เขาได้ประกาศตัวเองว่าเป็นคนรักของเธอต่อหน้าเพื่อนๆ เธอก็ต้องถูกล้อ บ้างก็ว่าไม่ยอมบอกกันมั่งว่ามีของดีที่แอบซุกซ่อนเอาไว้ แต่ที่หนักที่สุดคงไม่พ้นซินดี้ที่ทั้งเพ้อทั้งต่อว่าเธอไปพร้อมๆ กัน คิดแล้วก็ขำนี่เธอคงหนีเขาไม่พ้นจริงๆ สินะ หวังว่าคงจะไม่ทำให้เธอเสียใจนะตาลุงจอมหื่น
เมื่อใกล้ถึงเวลานัดแพรพลอยก็ออกจากบ้านมาหาภาคภูมิที่โรงแรม เธอไม่อยากให้เขาเสียเวลาออกมารับเนื่องจากการจราจรมันไม่เอื้ออำนวย มาถึงแล้วก็ตรงมาที่ประชาสัมพันธ์ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอจะขึ้นไปบนห้องทำงานของท่านประธานใหญ่ “สวัสดีค่ะ Paradise Hotel ยินดีต้อนรับค่ะ” “สวัสดีค่ะ จะขึ้นไปพบคุณภาคภูมิ ไม่ทราบว่าต้องไปที่ชั้นไหนคะ” แพรพลอยถามกับประชาสัมพันธ์สาวสวยที่ตอนแรกก็เหมือนจะให้การต้อนรับเธอดี แต่พอจะขอเข้าพบพี่ภาคของเธอกลับทำท่าทางไม่พอใจซะงั้น” “คุณภาคภูมิ ท่านประธานน่ะเหรอคะ ไม่ทราบว่านัดไว้ไหมคะ ถ้าไม่ได้นัดคงให้พบไม่ได้ มโนไปเองรึป่าวก็ไม่รู้จู่ๆ จะมาขอเข้าพบคงเห็นว่ารวยล่ะสิท่า” เสียงหวานๆ ในตอนแรกกลับห้วนลงทันทีเมื่อรู้ว่าสาวสวยตรงหน้ามาขอเข้าพบท่านประธานที่เธอหมายตาเอาไว้ เธอไม่อยากจะยอมรับเลยว่าคนตรงหน้าทั้งสวยทั้งดูดีไปทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหน้าที่สะสวย และทรวดทรงองค์เอวที่ดีไม่มีที่ติ “นี่ยัยพรแกพูดกับเขาดีๆ สิ เดี๋ยวก็โดนเจ้านายเล่นงานหรอกถ้าเขานัดเอาไว้จริงๆ” เพื่อนร่วมงานกระซิบบอกศิริพรที่กำลังจะทำเกินหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก่อนจะหันไปสนใจแขกคนอื่นๆ ที่เข้ามาสอบถามรายละเอียดต่างๆ กับเธอ “นัดค่ะ แล้วอีกอย่างท่านประธานของคุณเป็นคนนัดฉันไว้ด้วยตัวเองเลยล่ะ ถ้าไม่เชื่อลองโทรไปถามสิว่าเขาได้นัดคนที่ชื่อ แพรพลอย เอาไว้รึป่าว แต่ก็ระวังตัวเอาไว้หน่อยนะ อาจจะตกงานได้ถ้ายังทำงานเกินหน้าที่” แพรพลอยยืนกอดอกสวยๆ มองดูแม่สาวประชาสัมพันธ์ที่ตอนนี้ทำท่าโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง “คิดว่าฉันจะเชื่องั้นเหรอ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอคิดจะมาจับท่านประธานของฉันน่ะ” จะเป็นไปได้ยังไงตั้งแต่ที่เธอมาทำงานที่นี่ ท่านประธานไม่เคยมีผู้หญิงมาหาเลย แล้วอยู่ๆ ก็มีนังนี่เดินมาขอเข้าพบ แถมยังบอกว่าคุณภาคของเธอนัดเอาไว้อีก “จะเชื่อหรือไม่เชื่อมันเป็นเรื่องของเธอ อ่อ แล้วไม่ทราบว่าเธอเป็นอะไรกับคุณภาคภูมิเหรอ เธอถึงแสดงพฤติกรรมอย่างนี้” แพรพลอยท้าวแขนไว้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ยื่นหน้าเข้าไปหาคนที่เป็นเดือดเป็นร้อนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว ตอนนี้เริ่มมีคนมองแล้ว ส่วนประชาสัมพันธ์อีกสองคนก็พยายามห้ามปรามเพื่อนร่วมงาน เพราะไม่อยากให้มีปัญหา แต่ดูท่าแล้วพวกเธอคงห้ามไม่ได้ ภาคภูมิกำลังเดินมารอแพรพลอยที่ด้านหน้าของโรงแรม เพราะได้เวลานัดแล้ว แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าตรงประชาสัมพันธ์มีคนหยุดมองอะไรเขาจึงก้าวเท้าเร็วๆ ตรงไปยังจุดที่กำลังเป็นที่สนใจ “มีอะไรกัน” เสียงทรงอำนาจเอ่ยเข้ามาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมาถึง ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเข้ามาเห็นว่าคนที่อยู่ตรงนั้นคือแม่ยอดยาหยีของเขาที่กำลังจับข้อมือของประชาสัมพันธ์สาว ต่างฝ่ายต่างจ้องตากันอย่างดุเดือด “ท่านประธาน / พี่ภาคขา” สองสาวหันมาประสานเสียงพร้อมกัน แพรพลอยปล่อยมือออกแล้วเดินมาหยุดยืนตรงหน้าภาคภูมิอย่างเง้างอน “มีเรื่องอะไรกันคะคนสวย เดี๋ยวพี่จัดการให้ หน้าบึ้งเชียวหืม” ภาคภูมิรั้งร่างเล็กเข้ามากอดก้มลงกดจมูกโด่งสูดดมความหอมที่ผมสวย “พลอยว่าเราไปคุยกันที่อื่นดีกว่าค่ะ ตรงนี้คนเริ่มเยอะแล้ว” แพรพลอยกอดเอวหนาไว้แน่น ตอนแรกเธอก็ไม่ได้คิดอะไรจึงโต้ตอบกับฝ่ายตรงข้ามอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์อยู่นาน แต่พอเห็นว่าตอนนี้คนเริ่มมาหยุดมองเยอะแล้วจึงไม่อยากจะเคลียร์ตรงนี้ไปในที่ลับตาคนจะดีกว่า “โอเคครับคนสวย เชิญคุณศิริพร ที่ห้องทำงานผมด้วยนะ อ่อแล้วผมก็ขอประกาศเอาไว้ตรงนี้เลยว่าคุณแพรพลอยคนนี้เป็นคนรักของผมไม่ใช่ใครอื่น ช่วยปฏิบัติตัวกับเธอเหมือนที่ทำกับผมด้วย เข้าใจตรงกันนะ ไม่อย่างนั้นเราคงได้มีปัญหากันแน่” ภาคภูมิประกาศออกไปอย่างชัดเจนแล้วมองศิริพรที่ตอนนี้ยืนก้มหน้านิ่งอย่างไม่สบอารมณ์ การที่เขาพูดออกไปมันจะได้ไม่มีใครกล้ามายุ่งกับน้องพลอยของเขาไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม โดยเฉพาะเพศผู้ถ้ากล้ามาวอแวก็ลองดูเขาจัดหนักมันแน่ ชายหนุ่มเดินโอบเอวแพรพลอยไปยังห้องทำงานของเขาที่ชั้นบน มีศิริพรที่ตอนนี้ไม่กล้าหืออืออะไรตามด้วยจอห์นและโทนี่ที่เดินรั้งท้ายตามเจ้านายไปติดๆ “งานนี้ฉันว่าคุณศิริพรคนสวยคงจบไม่สวยแน่ๆ แกว่าไหมโทนี่” จอห์นกระซิบกระซาบกับโทนี่เดินรั้งท้ายอยู่กับเขา “ฉันก็ว่างั้นแหละ เจ้านายคงไม่ปล่อยไปง่ายๆ หรอก ดันมาทำให้หวานใจเขาอารมณ์ไม่ดีขนาดนั้น” แพรพลอยนั่งอยู่ข้างภาคภูมิที่โซฟารับแขก ตรงข้ามกันเป็นศิริพรที่นั่งก้มหน้านิ่ง ส่วนจอห์นกับโทนี่ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงาน ผู้มีอำนาจสูงสุดไม่สนใจคนที่เขาเรียกมา เขายกมือขึ้นมาโอบเอวบางอ้อนแอ้นอรชรของคนรัก ริมฝีปากก็คอยซับจูบไปที่ข้างขมับหอมกรุ่น “พี่ภาคขา พลอยขอพูดก่อนนะคะ” แพรพลอยไม่รอให้ภาคภูมิอนุญาต และก็ไม่มีทีท่าว่าเขาอยากจะสนใจอะไรเลยนอกจากมายุ่งวุ่นวายกับตัวเธอ “จ้ะ” เขากระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นเมื่อเธอพยายามจะขยับออก “คนของพี่ภาคมาว่าพลอยก่อน ซึ่งพลอยก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสิ่งที่เธอพูด เธอหาว่าพลอยมโนว่าพี่นัดพลอยให้มาหา ไม่ยอมให้เข้าพบ กล่าวหาว่าพลอยจะมาจับพี่ภาคเพราะว่าพี่ภาครวย ทั้งๆ ที่พลอยบอกให้โทรไปถามว่าจริงไหมที่เรานัดกันไว้ ไม่รู้ว่าเธอเป็นประชาสัมพันธ์หรือเป็นเมียท่านประธานกันแน่” มองหน้าคนที่นั่งกอดเธอไว้ด้วยสีหน้าตึงๆ แน่นอนว่าประโยคหลังเธอตั้งใจพูดประชดท่านประธานใหญ่เต็มๆ ส่วนภาคภูมิตอนนี้ขบกรามแน่น กลัวว่าแม่ยอดยาหยีของเขาจะเข้าใจผิด และพาลงอนเขาเขาเลยรั้งร่างเล็กขึ้นมานั่งบนตักกันเธอหนี “เธอจะมาเป็นเมียพี่ได้ยังไง ในเมื่อพี่มีน้องพลอยเป็นเมียจ๋าคนเดียว ระหว่างพี่กับคุณศิริพรไม่มีทางเป็นไปได้เพราะพี่ไม่เคยมองเธอฉันท์ชู้สาวเลย เธอเป็นแค่พนักงานคนหนึ่งเท่านั้น และอีกอย่างพี่ไม่เคยมีอะไรกับเธอ ไม่เชื่อลองถามอเล็กซ์กับโทนี่ได้เลย” อธิบายให้คนสวยบนตักเข้าใจเสียงทุ้มนุ่มก่อนที่เขาจะโดนหางเลขไปมากกว่านี้ “พวกผมยืนยันได้ครับ” จอห์นกับโทนี่พูดยืนยันให้เจ้านายเสียงหนักแน่น แพรพลอยบีบจมูกคนปากหวานด้วยความมันเขี้ยว จริงๆ เธอก็เชื่อใจเขา แต่มันอดไม่ได้ เพราะเท่าที่รู้มาเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้ ยิ่งพี่ชายของเธอที่ชอบพูดกรอกหูให้ฟังด้วยแล้วเธอก็ยิ่งค่อนข้างมั่นใจ “ท่านคะแต่ว่า” ศิริพรนั่งตัวชา กำมือแน่น หลังได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่เธอแอบหลงรักมานานพูดแบบนี้ ภาคภูมิเองก็ไม่รอให้ศิริพรได้พูดจบเขาก็ยกมือขึ้นห้ามแล้วสวนขึ้นมาทันที “ผมไม่รู้นะว่าเคยไปทำอะไรให้คุณคิดว่าผมสนใจในตัวคุณ แต่ผมยืนยัน และสาบานได้เลยว่าไม่เคยเห็นคุณเป็นคนพิเศษที่เกินกว่าเจ้านายกับลูกน้อง สิ่งที่คุณได้พูดกับน้องพลอยในวันนี้ผมยอมไม่ได้ มันแย่มาก คุณไม่มีสิทธิ์มาตัดสินคนอื่นทั้งที่ตัวเองไม่ได้รู้จริงในเรื่องนั้นๆถึงแม้ว่าคนที่คุณว่าเขาในวันนี้อาจไม่ใช่คนรักของผม ผมก็จะไม่ปล่อยคุณไว้ แล้วผมจะบอกเอาไว้เลยนะว่าผมไม่ใช่คนที่ยุติธรรมอะไร คนที่ผมจะเข้าข้างก็คือน้องพลอย ผมแคร์เฉพาะคนสำคัญของตัวเองเท่านั้น สรุปก็คือคุณไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะทำงานที่นี่ต่อ และหวังว่าคุณคงไม่ทำอะไรให้ตัวเองเดือดร้อนไปมากกว่านี้หรอกนะ โทนี่ จอห์น พาเธอออกไปจากที่นี่ซะ” “เชิญครับคุณศิริพร” โทนี่พูดกับศิริพรโดยมีจอห์นคอยเปิดประตูรออยู่ “ไม่นะ คุณจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะคะ ฉันรักคุณมาตั้งนานแล้วอยู่ๆ นังนี่มันก็มาชุบมือเปิปไป ไอบ้าปล่อยฉันสิ” ศิริพรจะพุ่งเข้าไปหาแพรพลอยกับภาคภูมิแต่โทนี่คว้าตัวเอาไว้ก่อนเธอเลยได้แต่ยืนกระทืบเท้าเร่าๆ “พูดบ้าอะไรของเธอ ฉันไม่ได้ไปแย่งพี่ภาคมาจากเธอสักหน่อย ผู้ชายเขาไม่ได้รักไม่ได้ชอบ เธอจะดันทุรังเข้าข้างตัวเองไปทำไม ทำตัวให้มันมีค่าสิ” แพรพลอยลุกจากตักของภาคภูมิเดินมาหาศิริพรที่ยังไม่ยอมเข้าใจ “ฮือ” ศิริพรร่ำไห้ออกมาจนมาสคาร่าเปรอะเปื้อนจนหน้าตาดูไม่ได้ “เอาตัวไปโทนี่” ภาคภูมิสั่งเสียงเฉียบขาดแล้วต้องถอนหายใจออกมายาวๆ “เสียดายเหรอคะ” แพรพลอยหันขวับไปทันทีที่ได้ยินเสียงถอนหายใจของภาคภูมิ “โธ่! คนดีพี่แค่โล่งใจต่างหากล่ะเมียจ๋า” ภาคภูมิเดินมาโอบกอดแพรพลอยที่ตีหน้ายักษ์ใส่เขาอยู่ “นี่แน่ะ ใครเป็นเมียพี่ภาคไม่ทราบอย่ามาโมเมนะ” แพรพลอยหยิกหมับเข้าที่หน้าท้องแกร่งชอบพูดมั่วๆ อยู่เรื่อย คนอื่นได้ยินจะเข้าใจผิดหมด “ไม่ได้มั่วสักหน่อย ต่อไปนี้พี่จะเรียกน้องพลอยว่าเมียจ๋า ส่วนน้องพลอยต้องเรียกพี่ว่าพี่ภาคขา ตกลงนะครับ” ถึงแม้ว่าเขายังไม่ได้ปฏิบัติจริงแต่ก็ขอเรียกไว้ก่อนเผื่อว่าน้องพลอยจะยอมใจอ่อนเร็วๆ “ไม่เอามันน่าเกลียด เรายังไม่ถึงขั้นนั้นนะคะ” แพรพลอยปฏิเสธหน้ายู่ อยู่ๆ จะมาเรียกเธอแบบนั้นได้ไงอีตาลุงจอมเจ้าเล่ห์ ดูซิเนี่ย พอปฏิเสธก็สะบัดก้นเดินหนีไปนั่งหน้าตูมที่โต๊ะทำงานเชียว “อย่างอนนะคะพี่ภาคขา” ส่ายหน้าให้กับคนเอาแต่ใจ หญิงสาวเดินตามคนขี้งอน นวดไหล่เอาใจ ทำทีเป็นว่ากำลังยุ่งกับงานเอกสารตรงหน้า คิ้วงี้ขมวดเป็นโบเชียว เมื่อเห็นว่านวดให้แล้วก็ไม่ยอมพูดกับเธอแพรพลอยจึงเอาแขนเรียวสวยคล้องคอแกร่ง เอาแก้มแนบแก้มแล้วจุ๊บไปที่ริมฝีปากได้รูปเบาๆ จนคนที่ทำทีเป็นยุ่งอมยิ้มแก้มตุ่ย ดึงร่างบางลงมานั่งตัก จับศีรษะเล็กไว้มั่น ค่อยๆ บรรจงจูบอย่างเร่าร้อน ผละมือมาขย้ำที่อกอวบอย่างหนักหน่วงสลับกันทั้งสองข้างไม่ให้น้อยหน้ากัน เกาะอกที่สวมใส่อยู่ถูกล่นลงมากองที่เอวคอดเช่นเดียวกับชั้นใน ปากร้อนค่อยๆ ละเลียดมาตามลำคอขาวผ่องและมาหยุดอยู่ที่เต้าอวบ ดูดกินราวทารก “หวานจังคนดี” ภาคภูมิพูดชิดอกอวบที่เขาตั้งหน้าตั้งตากิน “อืออ พอเถอะค่ะพี่ภาคขา พลอยเสียว เหมือนจะขาดใจเลย” แพรพลอยตอนนี้ขนลุกชันไปทั้งร่างกัดริมฝีปากไว้แน่น เธอไม่เคยได้รับสัมผัสแบบนี้มาก่อน มันอธิบายไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร “แต่พี่ยังกินนมไม่อิ่มเลยค่ะ” ภาคภูมิอุ้มแพรพลอยให้ขึ้นนั่งบนโต๊ะทำงานโดยที่ปากยังไม่ละออกจากเต้าอวบใหญ่ ส่วนตัวเขาก็นั่งที่เก้าอี้เพื่อที่จะได้ชิมนมสดจากเต้าได้ถนัด “หืออ คนหื่น” แพรพลอยจับไหล่ภาคภูมิไว้แน่นเพื่อระบายความเสียวซ่านที่เธอได้รับ “ชื่นใจจัง ให้พี่กินนมสดจากเต้าบ่อยๆ นะจ๊ะเมียจ๋า” ภาคภูมิยอมละปากออกจากเต้าสวย ช่วยแต่งตัวแต่ก็ยังไม่วายยุ่มย่ามกับร่างบางจนถูกเธอดุจึงยอมตัดใจอย่างจำยอม “ทะลึ่งใหญ่แล้วนะคะ เดี๋ยวเถอะ” แพรพลอยชี้นิ้วดุคนทะลึ่งที่ทำหน้าทะเล้นใส่เธออย่างคาดโทษ “อย่าดุพี่สิจ๊ะ พี่หิวข้าวแล้ว เราไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันดีกว่า กินนมเมื่อกี้ยังไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่” “พี่ภาค คนบ้า” แพรพลอยทุบคนพูดมากไปหลายทีก่อนจะประคองกันออกไปหาอะไรทานกันภาคภูมิจับขาเรียวสวยที่หนีบแน่นกางออก ตาคมมองสำรวจร่างงดงามตรงหน้าอย่างหลงใหล ริมฝีปากแดงเข้มพรมจูบขาเรียวสวยทั้งสองข้าง ก่อนจะใช้มือใหญ่ลูบไล้กุหลาบงามอย่างแผ่วเบา แพรพลอยสะดุ้ง พยายามจะหนีบขาไว้ แต่ก็โดนมือหนาล็อกเอาไว้ ร่างสูงเลื่อนตัวลงนอนกลางหว่างขาขาว ค่อยๆ ก้มหน้าลงจูบลงหอมทั่วกุหลาบสาว “อือ พี่ภาคขาพลอยเสียว” แพรพลอยนอนครวญครางเสียงหวาน บิดตัวเร่าๆ “เมียจ๋า ครางหวานจัง ผัวขาช๊อบชอบ” ภาคภูมิพูดเสียงอู้อี้ชิดกุหลาบสีชมพูสดที่ตอนนี้มีน้ำหวานไหลเยิ้มออกมาให้เขาได้ชิม ตั้งแต่เขาเริ่มได้ปลดปล่อยความต้องการทางธรรมชาติกับหญิงสาวคนอื่นๆ ไม่เคยมีใครที่เขาทำแบบนี้มาก่อน เพราะเขาไม่สามารถทำแบบนี้กับคนที่ไม่ได้รักได้ แต่แพรพลอยคือคนที่เขารักและเธอก็คือข้อยกเว้นทุกอย่างสำหรับเขา“อืออออ หยุดเถอะคะจะขาดใจแล้ว” แพรพลอยจิกเล็บลงบนบ่ากว้างระบายความเสียวซ่าน ขาเรียวสวยก็หนีบใบหน้าหล่อคมไว้แน่น “อืมม บอกให้พี่พอแต่ขาเมียจ๋านี่หนีบหน้าพี่แน่นเลยนะคนดี” ภาคภูมิพูดเสียงอู้อี้ “ก็มันเสียว!” แพรพลอยพูดเสียงสะบัด ภาคภูมิละใบหน้าออกจากกุหลาบงามเคลื่อนตัวขึ้นมาทาบทับร่างบางที่นอนมองเขาด้วยดวงตาหวาน
แพรพลอยเดินไปหยิบเสื้อผ้าในห้องนอนใหญ่ แล้วเดินกลับออกมาคืนนี้และคืนต่อๆ ไปเธอคิดไว้ว่าจะไปนอนที่ห้องนอนเล็ก ซึ่งเธอจะยึดพื้นที่ให้เป็นของเธอนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ยิ้มย่องในใจเมื่อเข้ามาได้เธอก็จัดการล็อกประตูอย่างเสร็จสรรพ ถอดเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายเพื่อเตรียมตัวนอน แค่คิดว่าจะได้นอนแบบสงบสุขเธอก็มีความสุขแล้ว ใช้เวลาอาบน้ำประมาณครึ่งชั่วโมง บำรุงผิวพรรณอีกครึ่งชั่วโมง รวมแล้วเธอใช้เวลาไปประมาณหนึ่งชั่วโมง หลังจากเสร็จขั้นตอนทุกอย่างแล้วแพรพลอยก็นอนเล่นโทรศัพท์ คุยกับเพื่อนๆ และเช็คข่าวสารต่างๆ บนโลกโซเชียลมีเดียจนกระทั่งเริ่มง่วง และหลับไปในที่สุด ส่วนภาคภูมิตอนนี้กำลังนั่งอ่านแฟ้มเอกสารที่โทนี่และอเล็กซ์เอามาให้เขาอย่างจริงจัง เพราะเขาไม่อยากให้งานของเขาทุกงานออกมาผิดพลาด และเขาก็เกือบจะเผลอร้องไชโยออกมาเมื่อโทนี่บอกว่านี่เป็นแฟ้มสุดท้ายแล้ว เขาจะได้ไปนอนกอดแม่ทูนหัวคนสวยของเขาสักที หลังจากแยกกันมาสองชั่วโมงกว่าเกือบสามชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่ติดไองานบ้าๆ นี่ป่านนี้เขากับน้องพลอยไปถึงไหนแล้ว คิดอย่างเซ็งๆ ได้แต่หวังว่าแพรพลอยจะยังไม่เข้านอน หลังจากเคลียร์งานเสร็จภาคภูมิก็ตรงดิ่
ตกเย็นภาคภูมิก็มารับแพรพลอยไปอยู่กับเขาที่คอนโด แพรพลอยได้ให้สัญญากับคุณพ่อคุณแม่ว่าจะกลับมานอนที่บ้านบ่อยๆ ฝ่ายภาคภูมิก็นั่งยิ้มไม่หุบตั้งแต่ขับรถออกจากบ้านของแพรพลอย มือหนาก็คอยกอบกุมมือบางเอาไว้ขณะขับรถ “พี่ภาคขาเราจะแยกห้องกันนอนใช่ไหมคะ” แพรพลอยถามออกไปทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่มีทางยอม แต่ก็ถามเผื่อได้เอาไว้ ภาคภูมิเหลือบมองหน้างามแวบหนึ่งอย่างยิ้มๆ รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังจะถามนะน้องพลอย “น้องพลอยคิดว่าไงล่ะ” ภาคภูมิย้อนถามแพรพลอยที่กำลังนั่งเอียงข้างมองเขาตาแป๋ว ก่อนจะตอบสะบัดใส่เขา “ก็คิดว่าพี่ภาคคงไม่ยอม และก็คิดว่าพี่ภาคต้องจับพลอยกินแหงๆ พลอยพูดถูกไหมคะ”แพรพลอยหรี่ตาพูดอย่างรู้ทันคนเจ้าแผนการณ์ ที่ตอนนี้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาลั่นรถเมื่อได้ฟังคำพูดของเธอ “ฮ่าๆ น้องพลอยนี่รู้ใจพี่ไปหมดซะทุกเรื่องเลย ถ้ารู้อย่างนั้นแล้วก็ยอมให้กินซะดีๆคนสวย พี่จะได้เป็นผัวขาของน้องพลอยอย่างเต็มรูปแบบไม่ใช่ครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้” ภาคภูมิส่งสายตาวิบวับมาให้คนที่นั่งข้างเขา ทำอะไรมากไม่ได้เพราะกำลังขับรถอยู่ “ทำไมชอบพูดจาทะลึ่งตึงตังจังคะ ไม่คิดบ้างเหรอว่าพลอยจะอายมากแค่ไหน” แพรพลอยบิดหูคนพูดจาไม่
“มากันแล้วเหรอลูก เดี๋ยวอีกสักพักคุณพ่อคงลงมา” คุณกานดารับไหว้คนรักของลูก กอดตอบลูกสาวคนสวยที่กอดเอวแม่แน่น แม้อายุจะเข้าใกล้เลขหกแล้วแต่ผิวพรรณและรูปร่างคุณกานดาไม่ได้ต่างจากสมัยตอนสาวๆ มากนัก เพราะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี และยิ่งเป็นถึงเจ้าของห้องเสื้อชื่อดังที่มีแต่เหล่าคนดังมาตัดเย็บด้วยยิ่งต้องทำให้ตัวเองดูดีอยู่ตลอด “ครับคุณแม่” ภาคภูมิยิ้มให้คุณกานดาและมองคนตัวเล็กที่กำลังอ้อนแม่ “ไปทำงานกับพี่ภาคเป็นยังไงบ้างลูก” คุณกานดาถามลูกสาวที่นั่งซบไหล่นางอยู่ “คุณแม่ต้องถามเจ้านายน้องพลอยแล้วล่ะค่ะว่าน้องพลอยทำงานเป็นยังไงบ้าง” แพรพลอยโยนไปให้คนตัวโตตอบจะให้เธอบอกมารดาอย่างไรล่ะเพราะเธอไม่ได้ทำงานอะไรเลยนอกจากคอยให้คนตัวโตหากำไรจากร่างกายของเธอ “น้องพลอยทำงานเก่งครับคุณแม่หัวไวสอนอะไรไปก็เข้าใจได้เร็ว” ภาคภูมิตอบคุณกานดาและแอบเหล่ตามองร่างบางที่ตอนนี้นั่งทำหน้าตูมและส่งค้อนวงใหญ่มาให้เขาเขาได้แต่อมยิ้มอย่างชอบใจที่เธอเข้าใจความหมายของเขาเป็นอย่างดี “งั้นก็ดีแล้วจ้ะยังไงแม่ฝากน้องไว้กับภาคด้วยนะ” คุณกานดายิ้มมองลูกสาวที่กำลังทำปากขมุบขมิบใส่ภาคภูมิอยู่ “น้องพลอยอ้อนอะไรเมียพ่ออีกหะเร
08.00 น. สองร่างต่างไซซ์นอนกอดเกยกันอยู่บนเตียงกว้าง วงแขนกอดเกี่ยวเอวคอดกิ่ว ขาพาดก่ายเรียวขาสวยประหนึ่งหมอนข้าง คนที่ลืมตาคนแรกคือเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่น แววตาคู่คมมีแต่ความอ่อนโยนยามทอดมองคนหลับตาพริ้ม เรียวปากบางสวยแย้มน้อยๆ ทำชายหนุ่มอดที่จะยิ้มตามไม่ได้ เขาจูบแก้มนุ่ม สูดดมความหอมจากซอกคอขาวผ่อง ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความอย่างทะนุถนอม ใจจริงยังไม่อยากปลุกนางฟ้าให้ตื่น แต่มีธุระสำคัญที่ต้องไปด้วยกันจึงจำเป็นต้องปลุก แพรพลอยกำลังนอนหลับสบายรู้สึกเหมือนมีอะไรมาไต่อยู่แถวๆ บั้นท้ายจึงพยายามปัดออก แต่ปัดเท่าไหร่เจ้าตัวน่ารำคาญมันก็ไม่ไปสักทีเธอจึงส่งเสียงปรามเบาๆ คิ้วขมวดทั้งที่เปลือกตาบังปิดสนิท คนลงมือปลุกยิ่งนึกสนุกค่อยๆ เลิกชายเสื้อเชิ้ตที่ทูนหัวใส่นอน เผยให้เห็นความอวบอั๋น ตาคู่คมวาววับ ขยับกายลงไปจูบ และหอมด้วยใบหน้าระรื่น หญิงสาวฝืนลืมตาขึ้นมาเพราะรู้สึกแปลกๆ เปียกชื้น และร้อนผ่าว ความสงสัยเกิดขึ้นได้ไม่นานเมื่อพบว่าคนบางคนกำลังฟัดก้นเธอ เสียงหวานๆ จึงเแว้ดดุคนมักมากอย่างมีน้ำโห “พี่ภาค คนโรคจิต!” ดวงหน้าเรียวงอง้ำแดงก่ำ ขยับลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง โกยผ้าผ่มขึ้นมาปกปิดเรือนร่าง คล
“พี่ไม่ได้เมา พี่แค่น้อยใจ อยากจะแต่งงานกับคนที่รักแต่เธอก็ดันไม่อยากแต่งด้วย อยากใช้ชีวิตร่วมกับเธอทุกวัน และที่อยากรู้มากที่สุดก็คือธอเคยรักพี่บ้างหรือเปล่า น้องพลอยช่วยไปถามเธอให้พี่ทีได้ไหม” ที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากเธอเลย มีแต่เขาที่พูด หญิงสาวยิ้มอ่อน เขี่ยแก้มสาก “พลอยไปถามเธอมาให้พี่ภาคนานแล้วล่ะค่ะว่าเธอคิดยังไง รู้สึกยังไงกับพี่ อยากฟังไหมคะ ?” ภาคภูมิครางรับในลำคอ “เธอบอกว่าที่ยังไม่อยากแต่งงานตอนนี้ไม่ใช่เพราะว่าไม่อยากแต่ง แต่ขอเวลาให้ได้เรียนรู้กันไปอีกสักพักนึงก่อน แล้วเรื่องที่พี่ภาคอยากรู้ว่าเธอรักพี่ภาคไหม” สองมือนุ่มนวลประคองแก้มสาก สายตาประสาน และเป็นภาคภูมิเองที่อดรนทนไม่ไหว “พี่อยากรู้ใจจะขาดแล้ว อย่าแกล้งกันเลยคนดี” ตอนนี้เขาแทบลืมหายใจไปแล้วด้วยซ้ำ แพรพลอยมองคนตรงหน้าอย่างขำๆ ท่าทางของเขาตอนนี้เหมือนเด็กที่อยากได้ของขวัญแล้วโดนขัดใจประมาณนั้นเลย “เธอบอกว่ารักพี่ภาคมากค่ะ พลอยรักพี่ภาคนะคะ ถ้าไม่รักคงไม่ยอมให้ลวนลามแบบนี้หรอก” บู้บี้แก้มสากก่อนยื่นปากจุ๊บเบาๆ สีหน้าคนสมปรารถนาตอนนี้แม้แต่เด็กน้อยยังรู้ว่าเขากำลังดีใจ “พี่ก็รักน้องพลอยค่ะ รักมากจนคิ