“แล้วเจ้าจะไปเป็นของใครได้ถ้าไม่ใช่ของข้า เจ้ามาเพื่อเป็นของข้าเถียนเถียน” เขาพูดพร้อมกับเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงออกให้อีกฝ่าย
“ไม่เป็นของใครทั้งนั้น ไม่ว่าของเจ้าหรือของใคร ข้าก็ไม่เป็นทั้งนั้น”
หึหึ
“แต่ตอนนี้เจ้าเป็นของข้าแล้วเถียนเถียน เจ้าแต่งงานกับข้าแล้ว”
“ท่านบังคับ”
“ถ้าเจ้าดื้อไม่ยอม ข้าก็ไม่บังคับ แต่เจ้าก็ยินยอมพร้อมใจแต่งงานเองมิใช่รึ” อ๋องใหญ่เอ่ยเมื่อนึกถึงหลายวันก่อนที่เขาบอกสาวงามที่ตรึงใจตั้งแต่แรกเห็นในกระจกจนตอนนี้มากุมหัวใจที่แข็งกระด้างของเขาไปเสียแล้ว หากนางดื้อไม่ยอม เขาก็จะไม่บังคับ แต่นางยอม แถมไม่โวยวายด้วย
“ก็วันนั้นข้าคิดว่าท่านพูดเล่นกับข้า ใครจะคิดว่าวันนี้จะได้แต่งงานจริงๆ ข้ายังไม่อยากแต่งงาน”
“แต่ตอนนี้ก็แต่งแล้ว และตอนนี้ก็เป็นเวลาที่เราต้องทำมันด้วยกันแล้วนะเจ้า”
“ข้าไม่พร้อม”
“แต่ข้าพร้อม เจ้าก็รู้มิใช่รึว่าข้าต้องการเจ้ามากแค่ไหน นอนหลับบนเตียงด้วยกันทุกค่ำคืนแต่ไม่อาจแตะต้องได้ ข้าทรมานมากแค่ไหน เจ้ารู้รึไม่”
น้ำเสียงแววตาของเขาที่จดจ้องมายังซู่หลิงเถียนนั้นแสดงความเจ็บปวดออกมาให้เห็นชัดเจนจนเธอเริ่มลังเลแล้วว่าจะสมยอมอ๋องใหญ่ในคืนเข้าหอนี้หรือไม่ หรือยังไงกัน แต่แล้วเธอก็ไม่อาจยอมได้ เพราะเพิ่งจะเจอกันไม่นานจะให้ร่วมหออุ่นเตียงกันได้ยังไง เธอจึงรีบเอ่ยบอกแนะนำอีกฝ่ายไป
“ท่านก็มีสนมเผยเผย ทำไมไม่ไปหานางล่ะ”
“ก็ข้าไม่อยากได้ใคร ข้าอยากได้เจ้าได้ยินไหมเถียนเถียน เจ้าคนเดียวเท่านั้น ตอนนี้ที่ข้าปรารถนา” มือใหญ่จับดวงหน้าสวยของนางในดวงใจพร้อมลูบไล้มายังลำคอระหง
“แต่ข้าไม่...”
“อย่าปฏิเสธข้าเลยเถียนเถียน”
“ก็ข้าไม่ได้อยากเป็นเมียท่าน” คำพูดที่สวนกลับรวดเร็วทำให้คนฟังขึงโกรธขึ้นมาทันที
“ไม่อยากเป็นเมียข้า แล้วเจ้าอยากเป็นเมียผู้ใดเถียนเถียน บอกข้ามาว่าเจ้ามีใครนอกจากข้ารึเปล่า” เขาจับหัวไหล่เล็กเขย่าแรงๆ ด้วยความหึง
“ท่านเป็นอะไรจ้าวซ่านลู่ จะมาขึ้นเสียงใส่ข้าไม่ได้นะ ข้าจะมีใครหรือไม่มีก็เรื่องของข้ามิใช่ของท่าน ข้ากับท่านเราอยู่กันคนละยุคจะให้มาแต่งงานกันแบบนี้ได้ยังไง ปล่อยได้แล้ว ข้าจะเปลี่ยนชุดนอน หนักหัวก็หนัก” เธอปัดมือของอ๋องใหญ่ออกจากไหล่ตัวเองแล้วลุกขึ้นหมายจะเดินไปยังห้องเปลี่ยนชุด แต่ก็ถูกคว้าเอวเล็กสวมกอดจากทางด้านหลังรั้งไว้
“ให้ข้าถอดให้ เป็นของข้านะเถียนเถียน เป็นของข้า ข้าต้องการเจ้าจริงๆ” อ๋องใหญ่ไม่เข้าใจหรอกว่าที่นางพูดนั้นคือะไร คนละยุคอะไรกัน เขารู้แต่ว่าตอนนี้นางคือของเขาและจักต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
“อือ...ปล่อยข้านะจ้าวซ่านลู่”
“ไม่ปล่อยจนกว่าเจ้าจะเป็นของข้า และคืนนี้ข้าจักไม่ปล่อยเจ้าได้นอนหลับเหมือนทุกคืนแล้วเถียนเถียน ข้ามิอาจใจเย็นนอนมองแผ่นหลังเจ้าได้เหมือนทุกคืนที่ผ่านมาได้อีกแล้ว” เขาเกยคางไปกับไหล่เล็กของเธอพร้อมกับหันหน้าแนบถูปลายจมูกโด่งไปกับซอกคอระหงของซู่หลิงเถียน
“อือ...อย่าทำแบบนี้จ้าวซ่านลู่ ข้ายังไม่พร้อม”
“เดี๋ยวข้าทำให้เจ้าพร้อมเองเถียนเถียน”
“มะ...ไม่ได้นะ”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ชายหญิงเราถูกสร้างมาเพื่อให้เป็นของกันและกัน และเจ้า...เถียนเถียน เจ้าก็ถูกสร้างมาเพื่อข้าเหมือนข้าที่ถูกสร้างมาเพื่อครอบครองเจ้า”
“ไม่เลย ท่านไม่ใช่ของข้าคนเดียว ท่านเป็นของคนอื่นด้วย ท่านไม่ได้มีแค่ข้าคนเดียว” เธอแย้งเขา
“เจ้าไม่ชอบรึที่ข้ามีสนม หรือเจ้าหวงข้าเถียนเถียน”
“ไม่ใช่สักหน่อย ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น ที่ข้าพูดเพราะข้า...เอ่อ...” เธอหาคำพูดของตัวเองไม่เจอซะงั้น ตอนนี้หัวใจของซู่หลิงเถียนนั้นเต้นแรงเหลือเกิน เพราะใจมันอ่อนแอหรือเพราะตกหลุมรักอ๋องใหญ่คิดหื่นไปแล้วกันแน่
“งั้นเจ้าหมายความว่ายังไงเถียนเถียน”
เขาหมุนตัวเธอให้หันมาเผชิญหน้ากับตัวเองพร้อมเชยคางมนสวยให้แหงนเงยขึ้นหาตัวเองที่ก้มหน้ามองดูเธออยู่ ยิ่งเห็นริมฝีปากแดงระเรื่อเม้มแน่นก็ยิ่งอยากโน้มลงไปกัดเม้ม และก็ไม่ปล่อยให้ความต้องการนั้นอยู่ในหัวนาน อ๋องใหญ่โน้มลงมาบดจูบปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อของแม่นางในดวงใจตัวเองพร้อมกับบังคับคางมนให้อยู่นิ่งไม่ให้ขยับบิดเบือนดิ้นหนีจูบร้อนของตัวเอง
“อ่ะ...อื้อ”
ซู่หลิงเถียนพยายามบิดหน้าหนี แต่ก็ถูกมือใหญ่บีบล็อกคางไว้จนเจ็บ และหนักเครื่องประดับบนหัวอีก ปากที่เม้มแน่นปิดสนิทถูกบังคับจูบพร้อมเขาขบเม้มปากของเธอให้ปากเปิดให้เขาได้สอดแทรกเรียวลิ้นเข้ามาในโพรงปาก เธอรู้สึกแปลกและทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกบังคับปล้ำเอาจูบแรกไปแบบนี้ พยายามดันร่างสูงตรงหน้าออกแต่ยิ่งพยายามก็ยิ่งถูกอ๋องใหญ่กอดรัดฟัดแน่น
“อ่า...อื้อ”
เมื่อบ้านเมืองสงบ หน้าด่านนอกก็สงบ ตอนนี้ชู่เอ๋อก็ตั้งครรภ์ได้สามเดือน และท่านหญิงหมิงเทียนก็เช่นกัน ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันนับตั้งแต่นั้นมา ท่านหญิงหมิงเทียนก็แวะเวียนมาที่จวนอ๋องตู้บ่อยๆ “ท่านอ๋องตู้” ชู่เอ๋อเอ่ยเรียกพระสวามีที่เพิ่งกลับมาจากด่านหน้าเมือง และคล้อยหลังตู้เหลียงเฉิงก็คือบิดาของนาง “ท่านพ่อ” “ชู่เอ๋อเป็นอย่างไรบ้าง ท่านอ๋องตู้บอกว่าเจ้าแพ้ท้องยังมิหาย” ชู่เว่ยเอ่ยถามบุตรสาวที่ตอนนี้อวบอิ่มกว่าแต่ก่อนเพราะเจ้าตัวเล็กในครรภ์ “ก็เพลียเจ้าค่ะท่านพ่อ กินอะไรก็อาเจียน” นางเอ่ยตอบบิดาของนางที่เดินมานั่งเก้าอี้ข้างๆ นาง “ก็อย่างที่ท่านอาจารย์เห็นนั่นแหละ ข้าล่ะสงสารชู่เอ๋อที่ต้องมาลำบากเพราะลูกของข้า หากเป็นไปได้ข้าอยากแพ้ท้องแทนนาง” ตู้เหลียงเฉิงเอ่ย “ท่านอ๋องตู้ก็...มิลำบากหรอกเพคะ หม่อมฉันทนได้
“ชู่เอ๋อ”ตู้เหลียงเฉิงรีบวิ่งไปหาพระชายาที่นั่งคุกเข่ากับพื้นทันที พร้อมกับผลักทหารสองนายที่ยืนขนาบข้างนางออก “ชู่เอ๋อ ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้” อ๋องหนุ่มรีบแก้มัดที่มือและผ้าที่ปิดปากนางออกอย่างรวดเร็ว “ข้าจะไม่ทำโทษพวกเจ้า เพราะพวกเจ้าทำตามคำสั่งของท่านหญิง ไสหัวไปซะ ก่อนที่ข้าจะตัดหัวพวกเจ้า” เมื่อให้อิสระแม่ยอดดวงใจแล้วเขาก็หันมาตวาดเสียงแข็งใส่ทหาร และทหารทั้งสองก็รีบไปอย่างรวดเร็วด้วยรู้ดีว่าท่านอ๋องตู้เป็นคนเลือดเย็น “ท่านอ๋องตู้” ชู่เอ๋อโอบกอดชายคนรักแน่น “ปลอดภัยแล้ว ต่อจากนี้เราจะอยู่ด้วยกัน จักไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้อีกชู่เอ๋อของพี่” เขาดันนางออกห่างพร้อมพรมจูบดวงหน้างามแล้วมาหยุดที่แก้มนวลเนียนที่ฟกช้ำ “ใครทำเจ้าชายาข้า” “หม่อมฉันโดนท่านหญิงหมิงเทียนตบเพคะ” นางตอบเสีย
ภาพที่ตู้เหลียงเฉิงตวัดดาบตัดหัวของมู่เหลียงเฉิงทำให้หลิงหลิงสาวใช้ของท่านหญิงหมิงเทียนแทบก้าวขาไม่ออก ความโหดเหี้ยมของท่านอ๋องตู้นั้นสังหารพี่ชายเพียงดาบเดียว หลิงหลิงก้าวเท้าออกมาจากที่ซ่อนของตัวเองเดินเข้าไปหาท่านอ๋องตู้ที่กำลังจะเดินไปทางม้าของท่านอ๋อง “เจ้าหลิงหลิง คนของท่านหญิงหมิงเทียนนี่” เขามองไปทางคนที่เดินตัวสั่นมาทางตนเองพร้อมเอ่ยถาม “เพคะท่านอ๋องตู้ หม่อมฉันมาส่งข่าวเพคะ” “ข่าวอะไรของเจ้า” “ท่านหญิงหมิงเทียนให้หม่อมฉันมาทูลท่านอ๋องตู้ว่าตอนนี้พระชายาชู่เอ๋อนั้นอยู่กับท่านหญิงที่ตำหนักเพคะ” นางเอ่ยเสียงสั่นเบาในลำคอ “ขอบใจเจ้าที่มาบอกข้า หากเจ้าไม่มาบอก ข้าคงตามหาพระชายาแบบไร้จุดหมาย” น้ำเสียงเข้มห้าวเอ่ยพร้อมกับเหวี่ยงตัวโหนขึ้นหลังม้า “ฟ่านตง เจ้าเข้าไปในวังหลวงก่อน เราจะไปหาพ
ฮือ!เสียงหอบเหนื่อยของทั้งสองดังขึ้นพร้อมกับสองเท้าหยุดวิ่งเมื่อคิดว่าหนีมาไกลจนปลอดภัยแล้ว แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งตัวเกร็งเมื่อมีดาบยื่นมาจากด้านหลังจ่อที่ลำคอของนาง“คิดเหรอว่าจะหนีรอด หากไม่มีเจ้า ท่านพี่อ๋องตู้ก็คงเลือกข้าเป็นพระชายา” เสียงเล็กแหลมดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับเจ้าของต้นเสียงเดินมาหยุดตรงหน้านาง ชู่เอ๋อมองเจ้าของน้ำเสียงเล็กแหลมน่าเกลียดด้วยความเดือดดาล แต่ทำอะไรไม่ได้เมื่อที่คอมีดาบจ่ออยู่“ทหารจับตัวมันไป” ท่านหญิงหมิงเทียนเอ่ยสั่งทหารของตนเองให้จับชู่เอ๋อและหลันหลงพร้อมสั่งมัดมือมัดปากของทั้งสองก่อนจะพาขึ้นรถม้าตัวเอง“อือ...ยัยท่านหญิง อ่ะ...อื้อ” แล้วเสียงชู่เอ๋อก็หลุดหายไปในลำคอเมื่อมีผ้าปิดปากเผียะ!“ตอนนี้ชีวิตของเจ้าอยู่ในกำมือข้า นังชู่เอ๋อ” มือเล็กตวัดตบหน้าของชู่เอ๋อก่อนจะเดินขึ้นรถม้าตัวเองไปแล้วชู่เอ๋อและสาวใช้ก็ถูกทหารของนางลากดึงขึ้นรถม้าตามหลังไป และทันทีที่ทุกคนขึ้นมาบนรถม้าแล้ว รถม้าก็เคลื่อนตัวไปทันที“หลิงหลิง เจ้าไปดักรอที่หน้าจวนอ๋องตู้เพื่อส่งข่
“ลุย!” ตู้เหลียงเฉิงร้องสั่งทหารของตัวเองและเหล่าแม่ทัพของตัวเองให้บุกโจมตีกบฏในยามเช้ามืดเฮ!เสียงทหารและเสียงม้าศึกได้วิ่งควบบุกเข้าโจมตีค่ายของกบฏด้วยความห้าวหาญ เสียงดาบดังกระทบกันหนักหน่วงพร้อมเสียงร้องโหยหวนของกบฏและทหารที่พลาดพลั้งเสียท่าเพล้ง! ฉัวะ! เพล้ง! ฉัวะ! เสียงคมดาบกระทบกระทั่งกันพร้อมเสียงร้องทรมานของผู้เสียท่า“ท่านอ๋องตู้มิต้องห่วงทางนี้ ท่านนำทหารของเราไปในเมืองจับกุมท่านอ๋องมู่เถอะพ่ะย่ะค่ะ” เสียงเข้มทุ้มของแม่ทัพใหญ่ชู่เว่ยเอ่ยดังขึ้น“งั้นทางนี้ข้าฝากท่านอาจารย์ด้วย ข้ากับฟ่านตงจักไปจับท่านอ๋องมู่ก่อนที่ทางนั้นจะไหวตัวทัน”“พ่ะย่ะค่ะ” ชู่เว่ยรับคำแล้วควบม้าไปร่วมต่อสู้กับทหารคนอื่น“ตามข้ามาฟ่านตง และพวกเจ้าด้วย” เสียงเข้มเอ่ยเหี้ยมพร้อมควบม้าวิ่งไปอีกทางทันที โดยมีฟ่านตงและเหล่าทหารศึกควบม้าวิ่งตามเขาไปกุก กุดุดุก กุดุมู่เหลียงเฉิงไม่รู้เลยว่าตอนนี้ค่ายลับของตัวเองได้ถูกตู้เหลียงเฉิงปราบ
ปึก! เสียงประตูปิดแนบสนิทพร้อมกับเพลิงกามสวาทได้เริ่มบรรเลงขึ้น เมื่อเสื้อผ้าอาภรณ์ของชู่เอ๋อถูกปลดเปลื้องออกด้วยมือของพระสวามี ตู้เหลียงเฉิงปลดเปลื้องอาภรณ์ของนางยอดรักและของตนออกทิ้งแล้วอุ้มนางไปยังเตียงนอนนุ่มที่อยู่ห่างจากหน้าประตูมิไกลนัก “อ่ะ...อื้อ ท่านอ๋องตู้ ท่าน...อ่า...ท่านกำลังแกล้งหม่อมฉันใช่รึไม่เพคะ” ตอนนี้ชู่เอ๋อรู้แล้วว่าแท้จริงแล้วพระสวามีหาได้เกรี้ยวโกรธตัวเองไม่ “หึหึ...ข้าแกล้งอันใดเจ้ายอดรักของข้า” ปากหนาที่เคลื่อนไล้จูบขบเม้มลำคอระหงผละออกมาเอ่ยถามนางในดวงใจ “ก่อนหน้านี้ท่านมิได้โกรธหม่อมฉันใช่รึไม่เพคะ” หึหึ เขาทำเพียงขำตอบ และนั่นก็ยิ่งทำให้ชู่เอ๋อรู้สึกขุ่นเคืองเมื่อโดนอ๋องตู้ร้อยเล่ห์หลอกอีกครั้ง “ท่านมันคนร้อยเล่ห์”&nbs