“อ่ะ...อื้อ เจ็บนะ” ความไม่คุ้นชินและแปลกใหม่ทำให้มือเล็กยกมือปัดตีมือใหญ่ออกจากหน้าอกของตัวเอง สองแก้มนวลแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย แต่มือใหญ่ก็ดื้อดึงไม่ยอมผละออกกลับดึงมือเธอขึ้นมาจูบเสียด้วยซ้ำ
“อือ...อย่าห้ามข้าเลยเถียนเถียน ตอนนี้ข้าไม่อาจหยุดทุกอย่างได้แล้ว เจ้าสวยเช่นนี้ ข้าจะปล่อยไปได้ยังไงกันเล่า ว่าไหมชายาข้า”
กาลนี้จ้าวซ่านลู่ได้บอกกับตัวเองไว้แล้วว่าจักมีแค่เพียงนางคนเดียวเท่านั้น หญิงอื่นใดก็เทียบเท่าซู่หลิงเถียนไม่ได้ ปากหนาขบเม้มเคลื่อนไล้ซุกไซ้ซอกคอระหงไล้มายังเนินอกอวบอูม กายสาวของนางเคลื่อนไหวบิดเร่าส่ายหนี แต่กลับเป็นการตอบสนองมากกว่าเมื่อกายของซู่หลิงเถียนนั้นแอ่นเด้งเร่าขึ้นหาตัวเขา แม้ว่านางจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็เป็นการตอบสนองที่ให้ความร้อนรุ่มดีเหลือเกิน
“จ้าวซ่านล่ะ...ท่าน อ่า...อื้อ” เสียงครางกระเส่าหวามไปกับสัมผัสหวามแปลกใหม่ที่อ๋องใหญ่กำลังยัดเยียดให้เธอ มันทำให้ร้อนวูบไหวในอกและท้องน้อย อยากจะผลักไสเขาออกห่าง แต่ก็ยากเหลือเกิน เรี่ยวแรงที่เคยมีมันหดหายไปไหนหมดเธอก็ไม่รู้
“อ่า...เจ้าต้องการข้าแล้วคนงามของข้า อ่า...เถียนเถียนของข้า เจ้าหอมเหลือเกิน อื้อ...” ปลายจมูกโด่งของจ้าวซ่านลู่ถูไถตามร่องอกอวบอูมมายังหน้าท้องแบนราบ ขบเม้มประทับตราบนร่างงามทุกส่วนที่เคลื่อนผ่าน
“อ่า...ท่านทำอะไรกับข้า จ้าวซ่านลู่ อ่ะ...อื้อ” เธอบิดแอ่นเด้งเร่าเอวเล็กคอดส่ายหนี แต่ถูกมือหนาคว้ากอดรั้งไว้พร้อมหน้าของเขาซุกถูไถกับหน้าท้องของเธอ มือน้อยพยายามดันหน้าของเขาออกห่าง แต่ก็เหมือนลูบหัวของอีกฝ่ายเท่านั้น
ความหอมของซู่หลิงเถียนทำให้จ้าวซ่านลู่อยากเคลื่อนกายสอดเร่าประสานกายหลอมรวมเป็นหนึ่งกับนางในเร็วไว แต่ก็อยากสัมผัสสูดดมกลิ่นกายสาวของนางให้สมอารมณ์หมายเสียก่อน เขาเคลื่อนมาหยุดใบหน้าที่หว่างขาสวยที่ตอนนี้ถีบป่ายไปมาด้วยความทรมานซ่าน
“อ่า...เจ้าสวยงามยิ่งนักชายาข้า อ่า...” มือใหญ่ลูบไล้ความอวบอูมโหนกนูนของความเป็นสตรีของนางพร้อมกับนวดขยำขยุ้มดึงรั้งเส้นไหมสีดำของนางไปด้วย
“อ่ะ...ท่าน อ่า...ยะ...หยุดก่อน อ่ะ...” ซู่หลิงเถียนไม่ไหวแล้ว ทั้งเขินทั้งอายและร้อนวูบไหวในท้องน้อย เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกตอนนี้คืออะไรกันแน่ หรือมันคือความต้องการของร่างกายที่เรียกว่าปรารถนาอีกฝ่ายเหมือนอย่างที่เขาบอก
“อ่า...หยุดไม่ได้แล้วดวงใจข้า ข้าหยุดไม่ได้แล้ว เจ้าช่างสวยงามหวานฉ่ำเหลือเกินเถียนเถียน”
เรียวลิ้นสากลากถูไถไปตามกลีบสวาทของสตรีตรงหน้าที่อาบฉ่ำไปด้วยน้ำหวานรสน้ำผึ้งของนาง ตั้งแต่เกิดมาอ๋องใหญ่ไม่เคยต้องการหรือทำเช่นนี้ให้กับสตรีนางใดมาก่อน แม้แต่พระสนมเผยเผยก็ยังไม่เคยได้รับความอ่อนโยนจากปลายลิ้นของเขาแบบนี้มาก่อน
“อ่า...ท่าน...ท่าน ข้าไม่ไหวแล้วจ้าวซ่านลู่ อื้อ...อ่า”
“อ่า...ข้าเองก็เช่นกันเถียนเถียน ข้าปรารถนาเจ้าเหลือเกิน ต้องการเหลือเกิน ต่อไปนี้เป็นของข้าแล้วนะเจ้า อ่า...อืม”
อ๋องใหญ่เคลื่อนตัวผละจากความฉ่ำหวานของนางในดวงใจออกมาปลดเปลื้องชุดของตัวเองออก แล้วกลับไปทาบทับกายเปลือยของซู่หลิงเถียนอีกครั้ง และครั้งนี้เขากดมือเล็กสอดประสานกับมือเขากดไว้ข้างลำตัวพร้อมแนบอิงท่อนเนื้อมังกรยืดหยุ่นแข็งร้อนของบุรุษเสียดสีถูไถไปมากับความเป็นสตรีของนาง
“อ่ะ...ท่าน...ทำอะไรกับข้าจ้าวซ่านลู่ ทะ...ทำไมข้าร้อนแบบนี้ อ่า...” นางครางกระเส่าร้อนผ่าวไปทั่วเรือนกายเปลือย และยิ่งเขินอายจนตัวแดงเมื่อได้เห็นกายกำยำของบุรุษเหนือร่างที่ขาวผุดผ่องไม่ต่างจากหญิงสาว และใบหน้าของเขาก็อาบชื้นไปด้วยเหงื่อไม่ต่างจากเธอ
“ข้าก็จักทำให้เจ้าเป็นของข้าน่ะสิ ดวงใจข้า อ่า...เจ้ารู้ไหมว่าข้ารอวันนี้มานานแค่ไหนเถียนเถียน”
จากที่ทำได้แค่มองตลอดคืนที่ผ่านมา ตอนนี้อ๋องใหญ่ได้ทำทุกอย่างตามที่ใจเฝ้าคอยมาตลอดแล้ว เขาแนบอิงท่อนเนื้อมังกรร้อนอวบใหญ่ของตัวเองไปกับความฉ่ำของนางพร้อมถูไถเสียดสีไปมาให้เกิดความร้อนรุ่มและให้นางมีอารมณ์อ่อนไหวไปกับตน
“อ่า...ท่าน...ท่านทำให้ข้าร้อน อื้อ...”
“ข้ารู้ว่าเจ้าร้อนเพราะเรื่องใด และตอนนี้เจ้าจักเป็นชายาข้าแล้วเถียนเถียน เจ้าเป็นของข้าทั้งร่างกายและหัวใจ นับแต่นี้ไปเจ้าคือของข้าแต่เพียงผู้เดียว อ่า...”
เขาซุกปลายจมูกโด่งไปกับซอกคอระหงชื้นเหงื่อของนาง และยิ่งผมยาวสลวยสยายไปตามหมอนที่นอนหนุนยิ่งยั่วยวนจนเขาต้องเคลื่อนมาปิดปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อของนางแล้วบดจูบสอดแทรกดุนดันปลายลิ้นกอดเกี่ยวคลอเคลียหยอกเย้าในโพรงปากเล็ก เอวหนาของเขาก็แอบอิงสอดแทรกท่อนเนื้อร้อนของมังกรหยกที่กดแนบเสียดสีตามกลีบสตรีแล้วกดแนบกรีดกรายหลอมรวมเป็นหนึ่งกับนาง
“อ่ะ...เจ็บ! อื้อ...ทะ...ท่าน ข้าเจ็บ อ่า...จ้าวซ่านลู่! ฉันเจ็บ!” เธอหลุดพูดแบบยุคปัจจุบันออกมาเมื่อคนเหนือร่างไม่ยอมขยับตัวถอยหนี แต่กลับกระแทกกายสอดลึกเข้ามาจนเจ็บจุกอึดอัดท้อง
“อ่า...เจ้าแน่นเหลือเกินชายาข้า อ่า...เถียนเถียนอดทนเพื่อเราเถิด ดวงใจข้า อ่า...”
อ๋องใหญ่กัดฟันแน่นเจ็บปวดท่อนเนื้อในกายของเขาไม่ต่างกัน ความคับแน่นตอดรัดเร่งเร้าให้เขาขยับ แต่เมื่อเห็นดวงหน้าสวยชื้นไปด้วยเหงื่อและดวงตาสดใสซุกซนนั้นอาบคลอไปด้วยน้ำตา จ้าวซ่านลู่ก็จูบเปลือกตาสวยของนางเพื่อปลอบประโลม
“อือ...ข้าเจ็บ! ท่านได้ยินไหมข้าเจ็บและอึดอัด อ่ะ...อื้อ”
ปากน้อยของนางถูกปิดด้วยปากหนาของเขาพร้อมบดจูบอีกครั้ง ตอนนี้อ๋องใหญ่กำลังใช้จูบร้อนรุ่มอ่อนโยนเอาแต่ใจของตัวเองหลอกล่อความสนใจของนางให้ออกจากความเจ็บปวดความเป็นสตรีของนาง และเมื่อนางแอ่นเด้งยกร่างขึ้นหาเผลอจูบตอบเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวโยกเร่ากายเนื้อมังกรเคลื่อนไหวเสียดสีเร่าร้อนเข้าออกในความเป็นสตรีของนาง
เมื่อบ้านเมืองสงบ หน้าด่านนอกก็สงบ ตอนนี้ชู่เอ๋อก็ตั้งครรภ์ได้สามเดือน และท่านหญิงหมิงเทียนก็เช่นกัน ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันนับตั้งแต่นั้นมา ท่านหญิงหมิงเทียนก็แวะเวียนมาที่จวนอ๋องตู้บ่อยๆ “ท่านอ๋องตู้” ชู่เอ๋อเอ่ยเรียกพระสวามีที่เพิ่งกลับมาจากด่านหน้าเมือง และคล้อยหลังตู้เหลียงเฉิงก็คือบิดาของนาง “ท่านพ่อ” “ชู่เอ๋อเป็นอย่างไรบ้าง ท่านอ๋องตู้บอกว่าเจ้าแพ้ท้องยังมิหาย” ชู่เว่ยเอ่ยถามบุตรสาวที่ตอนนี้อวบอิ่มกว่าแต่ก่อนเพราะเจ้าตัวเล็กในครรภ์ “ก็เพลียเจ้าค่ะท่านพ่อ กินอะไรก็อาเจียน” นางเอ่ยตอบบิดาของนางที่เดินมานั่งเก้าอี้ข้างๆ นาง “ก็อย่างที่ท่านอาจารย์เห็นนั่นแหละ ข้าล่ะสงสารชู่เอ๋อที่ต้องมาลำบากเพราะลูกของข้า หากเป็นไปได้ข้าอยากแพ้ท้องแทนนาง” ตู้เหลียงเฉิงเอ่ย “ท่านอ๋องตู้ก็...มิลำบากหรอกเพคะ หม่อมฉันทนได้
“ชู่เอ๋อ”ตู้เหลียงเฉิงรีบวิ่งไปหาพระชายาที่นั่งคุกเข่ากับพื้นทันที พร้อมกับผลักทหารสองนายที่ยืนขนาบข้างนางออก “ชู่เอ๋อ ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้” อ๋องหนุ่มรีบแก้มัดที่มือและผ้าที่ปิดปากนางออกอย่างรวดเร็ว “ข้าจะไม่ทำโทษพวกเจ้า เพราะพวกเจ้าทำตามคำสั่งของท่านหญิง ไสหัวไปซะ ก่อนที่ข้าจะตัดหัวพวกเจ้า” เมื่อให้อิสระแม่ยอดดวงใจแล้วเขาก็หันมาตวาดเสียงแข็งใส่ทหาร และทหารทั้งสองก็รีบไปอย่างรวดเร็วด้วยรู้ดีว่าท่านอ๋องตู้เป็นคนเลือดเย็น “ท่านอ๋องตู้” ชู่เอ๋อโอบกอดชายคนรักแน่น “ปลอดภัยแล้ว ต่อจากนี้เราจะอยู่ด้วยกัน จักไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้อีกชู่เอ๋อของพี่” เขาดันนางออกห่างพร้อมพรมจูบดวงหน้างามแล้วมาหยุดที่แก้มนวลเนียนที่ฟกช้ำ “ใครทำเจ้าชายาข้า” “หม่อมฉันโดนท่านหญิงหมิงเทียนตบเพคะ” นางตอบเสีย
ภาพที่ตู้เหลียงเฉิงตวัดดาบตัดหัวของมู่เหลียงเฉิงทำให้หลิงหลิงสาวใช้ของท่านหญิงหมิงเทียนแทบก้าวขาไม่ออก ความโหดเหี้ยมของท่านอ๋องตู้นั้นสังหารพี่ชายเพียงดาบเดียว หลิงหลิงก้าวเท้าออกมาจากที่ซ่อนของตัวเองเดินเข้าไปหาท่านอ๋องตู้ที่กำลังจะเดินไปทางม้าของท่านอ๋อง “เจ้าหลิงหลิง คนของท่านหญิงหมิงเทียนนี่” เขามองไปทางคนที่เดินตัวสั่นมาทางตนเองพร้อมเอ่ยถาม “เพคะท่านอ๋องตู้ หม่อมฉันมาส่งข่าวเพคะ” “ข่าวอะไรของเจ้า” “ท่านหญิงหมิงเทียนให้หม่อมฉันมาทูลท่านอ๋องตู้ว่าตอนนี้พระชายาชู่เอ๋อนั้นอยู่กับท่านหญิงที่ตำหนักเพคะ” นางเอ่ยเสียงสั่นเบาในลำคอ “ขอบใจเจ้าที่มาบอกข้า หากเจ้าไม่มาบอก ข้าคงตามหาพระชายาแบบไร้จุดหมาย” น้ำเสียงเข้มห้าวเอ่ยพร้อมกับเหวี่ยงตัวโหนขึ้นหลังม้า “ฟ่านตง เจ้าเข้าไปในวังหลวงก่อน เราจะไปหาพ
ฮือ!เสียงหอบเหนื่อยของทั้งสองดังขึ้นพร้อมกับสองเท้าหยุดวิ่งเมื่อคิดว่าหนีมาไกลจนปลอดภัยแล้ว แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งตัวเกร็งเมื่อมีดาบยื่นมาจากด้านหลังจ่อที่ลำคอของนาง“คิดเหรอว่าจะหนีรอด หากไม่มีเจ้า ท่านพี่อ๋องตู้ก็คงเลือกข้าเป็นพระชายา” เสียงเล็กแหลมดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับเจ้าของต้นเสียงเดินมาหยุดตรงหน้านาง ชู่เอ๋อมองเจ้าของน้ำเสียงเล็กแหลมน่าเกลียดด้วยความเดือดดาล แต่ทำอะไรไม่ได้เมื่อที่คอมีดาบจ่ออยู่“ทหารจับตัวมันไป” ท่านหญิงหมิงเทียนเอ่ยสั่งทหารของตนเองให้จับชู่เอ๋อและหลันหลงพร้อมสั่งมัดมือมัดปากของทั้งสองก่อนจะพาขึ้นรถม้าตัวเอง“อือ...ยัยท่านหญิง อ่ะ...อื้อ” แล้วเสียงชู่เอ๋อก็หลุดหายไปในลำคอเมื่อมีผ้าปิดปากเผียะ!“ตอนนี้ชีวิตของเจ้าอยู่ในกำมือข้า นังชู่เอ๋อ” มือเล็กตวัดตบหน้าของชู่เอ๋อก่อนจะเดินขึ้นรถม้าตัวเองไปแล้วชู่เอ๋อและสาวใช้ก็ถูกทหารของนางลากดึงขึ้นรถม้าตามหลังไป และทันทีที่ทุกคนขึ้นมาบนรถม้าแล้ว รถม้าก็เคลื่อนตัวไปทันที“หลิงหลิง เจ้าไปดักรอที่หน้าจวนอ๋องตู้เพื่อส่งข่
“ลุย!” ตู้เหลียงเฉิงร้องสั่งทหารของตัวเองและเหล่าแม่ทัพของตัวเองให้บุกโจมตีกบฏในยามเช้ามืดเฮ!เสียงทหารและเสียงม้าศึกได้วิ่งควบบุกเข้าโจมตีค่ายของกบฏด้วยความห้าวหาญ เสียงดาบดังกระทบกันหนักหน่วงพร้อมเสียงร้องโหยหวนของกบฏและทหารที่พลาดพลั้งเสียท่าเพล้ง! ฉัวะ! เพล้ง! ฉัวะ! เสียงคมดาบกระทบกระทั่งกันพร้อมเสียงร้องทรมานของผู้เสียท่า“ท่านอ๋องตู้มิต้องห่วงทางนี้ ท่านนำทหารของเราไปในเมืองจับกุมท่านอ๋องมู่เถอะพ่ะย่ะค่ะ” เสียงเข้มทุ้มของแม่ทัพใหญ่ชู่เว่ยเอ่ยดังขึ้น“งั้นทางนี้ข้าฝากท่านอาจารย์ด้วย ข้ากับฟ่านตงจักไปจับท่านอ๋องมู่ก่อนที่ทางนั้นจะไหวตัวทัน”“พ่ะย่ะค่ะ” ชู่เว่ยรับคำแล้วควบม้าไปร่วมต่อสู้กับทหารคนอื่น“ตามข้ามาฟ่านตง และพวกเจ้าด้วย” เสียงเข้มเอ่ยเหี้ยมพร้อมควบม้าวิ่งไปอีกทางทันที โดยมีฟ่านตงและเหล่าทหารศึกควบม้าวิ่งตามเขาไปกุก กุดุดุก กุดุมู่เหลียงเฉิงไม่รู้เลยว่าตอนนี้ค่ายลับของตัวเองได้ถูกตู้เหลียงเฉิงปราบ
ปึก! เสียงประตูปิดแนบสนิทพร้อมกับเพลิงกามสวาทได้เริ่มบรรเลงขึ้น เมื่อเสื้อผ้าอาภรณ์ของชู่เอ๋อถูกปลดเปลื้องออกด้วยมือของพระสวามี ตู้เหลียงเฉิงปลดเปลื้องอาภรณ์ของนางยอดรักและของตนออกทิ้งแล้วอุ้มนางไปยังเตียงนอนนุ่มที่อยู่ห่างจากหน้าประตูมิไกลนัก “อ่ะ...อื้อ ท่านอ๋องตู้ ท่าน...อ่า...ท่านกำลังแกล้งหม่อมฉันใช่รึไม่เพคะ” ตอนนี้ชู่เอ๋อรู้แล้วว่าแท้จริงแล้วพระสวามีหาได้เกรี้ยวโกรธตัวเองไม่ “หึหึ...ข้าแกล้งอันใดเจ้ายอดรักของข้า” ปากหนาที่เคลื่อนไล้จูบขบเม้มลำคอระหงผละออกมาเอ่ยถามนางในดวงใจ “ก่อนหน้านี้ท่านมิได้โกรธหม่อมฉันใช่รึไม่เพคะ” หึหึ เขาทำเพียงขำตอบ และนั่นก็ยิ่งทำให้ชู่เอ๋อรู้สึกขุ่นเคืองเมื่อโดนอ๋องตู้ร้อยเล่ห์หลอกอีกครั้ง “ท่านมันคนร้อยเล่ห์”&nbs