Share

บทที่ 12

Auteur: จุ้ยหลิงซู
ผู้ดูแลตะลึงงันไปแล้ว

คืนพิธีแต่งงานใหญ่ ฟ้าก็มืดแล้ว แต่เจ้าสาวกลับจะกลับบ้านหรือ?

"พระชายา เรื่องนี้ไม่เหมาะสม ถ้าท่านอยากจะกลับไป สามวันจากนี้คือวันที่จะได้กลับ"

"รอไม่ได้"

ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็รู้สึกใจเต้นอย่างรุนแรง และไม่มีเวลามาอธิบายกับเขาให้มากความ หันหน้าไปทางหงจั๋วกับเฝิ่นซิง "คอกม้าอยู่ทางไหน?"

สองสาวใช้แม้จะไม่เข้าใจว่านางกำลังจะทำอะไร แต่พอได้ยินน้ำเสียงร้อนรนของนาง จึงชี้ทิศทางไปด้วยสัญชาตญาณ

"อยู่ทางนั้น"

ฟู่จาวหนิงยกกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งตรงไปทางนั้นทันที

"พระชายา พระชายา"

เฝิ่นซิงกับหงจั๋วตกใจ รีบร้อนยกขาวิ่งตามนางไป

ผู้ดูแลพอได้สติกลับมา ก็รีบร้อนสั่งการกับทหาร "พวกเจ้าไปรายงานท่านอ๋อง"

ตัวเขาเองก็ไล่ตามฟู่จาวหนิงออกไป

นี่จะทำอะไรกัน?

ฟู่จาวหนิงวิ่งเร็วมาก แต่จวนอ๋องเองก็ใหญ่เสียเหลือเกิน จนนางวิ่งมาถึงคอกม้า ฟ้าก็ดำขึ้นไปอีก คนใช้ที่ดูแลคอกม้าก็ถูกนางทำให้ตกใจสะดุ้งโหยง

"เจ้า"

"ขอยืมม้าหนึ่งตัว!"

หัวใจที่เต้นของฟู่จาวหนิงตอนนี้ยิ่งแรงขึ้นไปอีก และไม่สนใจเขา สายตากวาดไปยังม้าสีแดงตัวหนึ่งในนั้น พุ่งตัวเข้าไป ปลดเชือกจูงออก

คนใช้หน้าเปลี่ยนสี ตกตะลึงร้องขึ้นมา

"อย่าแตะต้องม้าตัวนั้น! นั่นเป็นม้าคะนองที่ยังไม่เชื่องนะ!"

ถ้าไม่ระวังจะโดนเตะตายเอา!

ม้าตัวนี้หลังจากพากลับมาก็ยังไม่ทันทำให้เชื่อง ในจวนจึงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้มัน ก่อนหน้านี้เขาเอาหญ้าเขาไปให้ก็เกือบไม่รอด

แต่เขาก็ร้องเรียกช้าไป ยิ่งไปกว่านั้นหัวใจของฟู่จาวหนิงก็เต้นอย่างรุนแรง ในหัวสมองนางขาวโพลน แต่จิตใต้สำนึกก็เหมือนมีเสียงหนึ่งกำลังเรียกให้นางรีบกลับไป จงรีบกลับไป

ม้าสีแดงแผดเสียงร้อง

พอได้ยินเสียงนี้ คนใช้ที่ก่อนหน้านี้รู้สึกไม่ค่อยดีกับมันตกตะลึงจนหมุนตัวไปเรียกคน

"ใครก็ได้ ใครก็ได้รีบมาเร็ว!"

เขาคนเดียวคุมม้าคะนองตัวนี้ไม่อยู่ ต้องให้ทหารที่มีวรยุทธ์แข็งแกร่งเหล่านั้นจึงจะไหว

อ๋องเจวี้ยนได้ยินรายงานของทหารแล้ว พอบอกว่าฟู่จาวหนิงจะกลับบ้านตระกูลฟู่เวลานี้ ก็มีคนใช้วิชาตัวเบาบินเข้ามาทันที เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน "นายท่าน พระชายาจะใช้ม้าคะนองตัวนั้น!"

"นางบ้าไปแล้ว!"

อ๋องเจวี้ยนลุกพรวดขึ้นมา ร่างไหววูบ ตัวก็เผ่นผลิวออกไปราวภาพมายา

ม้าคะนองตัวนั้นกว่าจะหามาได้ เขาวางแผนว่าม้าตัวนี้ตอนนี้ยังคะนองยังหยิ่งทะนงอยู่ แต่ด้วยสายเลือดที่บริสุทธิ์มาก ขอแค่ทำให้เชื่องได้ จะกลายเป็นม้าศึกที่ทั้งเฉลียวฉลาดและแข็งแกร่งตัวหนึ่ง ทว่าตอนนี้มันยังไม่เชื่องนะ!

นิสัยป่าเถื่อนของม้ายังไม่ถูกขจัด การโจมตีจึงแข็งแกร่งมาก

ฟู่จาวหนิงเกรงว่าจะเอาชีวิตไปทิ้งเสียแล้ว

คอกม้าทางนั้น ฟู่จาวหนิงตอนที่เข้าใกล้ม้าตัวนี้ก็พบว่าม้าตัวนี้มีความป่าเถื่อนเต็มที่ แต่นางก็ไม่มีเวลาไปเลือกม้าตัวอื่นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ก็มีเพียงม้าตัวนี้เท่านั้นที่ต้องตานาง และบางทีอาจจะมีแค่ม้าตัวนี้ถึงจะสามารถวิ่งได้เร็วพอ!

ม้ายังไม่ได้ใส่อาน ฟู่จาวหนิงพอพุ่งเข้าไปก็ยื่นมือไปลูบคอม้า

ตอนที่ม้าเริ่มเคลื่อนไหวนางก็คล่องแคล่วว่องไวพลิกตัวขึ้นไปบนหลังม้าแล้ว จากนั้นก็ลูบไปบนคอม้าอีกครั้ง หมอบตัวลงมา

"ว่าง่ายหน่อยนะ เชื่อฟังด้วย ข้าต้องให้เจ้าช่วย"

ม้าพ่นลมออก กีบเท้าหน้าชูขึ้น พุ่งออกไปจากคอกม้า

"ฮี้!"

"เด็กดี ไป!"

ตอนที่คนใช้เพิ่งเรียกคน ม้าคะนองก็พาฟู่จาวหนิงทะยานผ่านหน้าพวกเขาออกไป ก่อลมขึ้นมาวูบหนึ่ง พัดจนพวกเขาลืมตากันไม่ขึ้น

"หยุดก่อน!"

เสียงทหารเองก็ยังสั่นพร่า

ตอนที่อ๋องเจวี้ยนทะยานตัวเข้ามาก็ช้าไปก้าวหนึ่งแล้ว มองเห็นแผ่นหลังฟู่จาวหนิงอยู่ไวไว

ภายใต้ความโพล้เพล้ ลมหนาวเหน็บ นางขี่อยู่บนม้าสีแดง ผมดำปลิวสยายราวเมฆ ชุดมงคลโบกสะบัด สายลมพัดกระโปรงของนาง ขับเด่นเอวที่เล็กคอดนั่นออกมา

นางควบม้าทะยานออกไปแล้ว

"พระชายา!"

ชิงอีเองก็รีบกวดเข้ามา พอเห็นฉากนี้ ก็ตกตะลึงจนสีหน้าเปลี่ยน

"นายท่าน พระชายาขี่ม้าเป็นด้วย!"

"ม้าตัวนั้นยังไม่ได้สวมอานเลย!"

ฟู่จาวหนิงก็ขี่ม้าเช่นนี้ แต่ก็ยังเร็วเช่นนี้ ดูจากแผ่นหลัง นางก็ยังนั่งอย่างมั่นคงด้วย อธิบายได้ว่าทักษะขี่ม้าของนางยอดเยี่ยมเกินคน

ฟู่จาวหนิงคนนี้ ใช่คนที่พวกเขาเคยได้ยินมาก่อนหน้าจริงหรือ?

"เตรียมรถม้า"

อ๋องเจวี้ยนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

ตอนนี้ฟู่จาวหนิงถือเป็นพระชายาของเขาแล้ว วันนี้มีพิธีแต่งงานใหญ่ ถ้านางไปเป็นอะไรด้านนอก เขาคงดิ้นจากความสัมพันธ์นี้ไม่พ้น

ยิ่งไปกว่านั้นพรุ่งนี้นางต้องไปเขาจันทร์ลับฟ้าด้วย วันนี้ก็รับปากเบื้องหน้าองค์จักรพรรดิไปแล้ว ถ้าหากเกิดเรื่องจนพรุ่งนี้ไปไม่ได้ ฮองเฮาคงเอาโทษล้อเล่นต่อจักรพรรดิคาดลงไปบนหัวนางแน่

เขาจำใจต้องไล่ตามไป

ฟู่จาวหนิงขี่ม้าราวกับสายลมสายหนึ่งแล่นผ่านถนนยาว คนบนถนนล้วนไม่ทันเห็นว่าเป็นใคร คนก็หายไปแล้ว

อาศัยจากความทรงจำ ในที่สุดนางก็มาถึงบ้านตระกูลฟู่

ได้ยินว่าตระกูลฟู่ก่อนหน้านี้รุ่งโรจน์มาก กระทั่งขับเคลื่อนทั้งตระกูลเลยทีเดียว ผู้เฒ่าฟู่เองก็เคยถูกคนล้อมหน้าล้อมหลัง ลูกหลานเครือญาติต่างล้วนเคารพนับถือ

แต่สิบปีก่อนตระกูลฟู่เกิดเรื่องขึ้น ล้มพังลงอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่ปีทรัพย์สินของตระกูลก็ถูกขายจนหมด คนในตระกูลก็ทยอยกันตัดสัมพันธ์กับตระกูลฟู่

ตอนนี้สถานที่ที่ผู้เฒ่าฟู่อาศัยอยู่คือคฤหาสน์รูปแบบสวนที่ใหญ่โต แต่เรือนต่างๆ ในนั้นส่วนใหญ่ถูกคนในตระกูลใช้เหตุผลต่างๆ นานายึดครองไป ผู้เฒ่าฟู่จึงพาฟู่จาวหนิงย้ายมายังเรือนเล็กเรียบง่ายแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับประตูหลังที่สุด

เวลาพวกเขาเข้าออกก็ใช้ประตูหลัง ไม่เคยเข้าออกทางประตูหน้า

ตอนนี้ฟู่จาวหนิงกำลังควบม้ามาถึงประตูหลัง

นางไม่ทันหยุดม้า ก็รีบกระโจนลงมา รีบเดินไปเคาะประตู

ปังๆๆ

เคาะอยู่พักหนึ่งก็ยังไม่มีใครมาเปิดประตู ฟู่จาวหนิงใจดำดิ่ง ข้างกายผู้เฒ่าฟู่ยังมีคนอยู่ด้วย สามีภรรยาคู่หนึ่งที่อยู่กับเขามานาน และยังมีเหล่าลูกชายของพวกเขาก็อยู่รับใช้ที่ตระกูลฟู่ด้วย และยังมีสาวใช้เสี่ยวเถาที่คอยอยู่กับนางอีกคนหนึ่ง แต่ว่าครั้งนี้นางรีบร้อนออกไปแต่งงานที่จวนอ๋องเซียว คนที่คอยอยู่ข้างๆ ผู้เฒ่าเซียวไม่พอ จึงทิ้งเสี่ยวเถาไว้ที่นี่

สถานที่พวกเขาอยู่ห่างจากประตูหลังไม่มาก ลุงจงคนใช้เก่าเองก็คอยมาคุ้มกันที่ประตูหลังตลอด นางเคาะจนดังขนาดนี้ ลุงจงที่มักจะมาลาดตระเวณดูบ่อยๆ ต้องได้ยินแน่นอน ก่อนหน้านี้จะรีบตรงมาเปิดประตูทันที แล้วทำไมตอนนี้จึงไม่มีการเคลื่อนไหวกัน?

ฟู่จาวหนิงหมุนตัวไปมองม้าคะนองตัวนั้น กวัวมือ "มานี่ ยังต้องให้เจ้าช่วยอีก"

ม้าก็เดินเข้ามาจริงๆ ฟู่จาวหนิงให้มันยืนอยู่ข้างกำแพงเรือน จากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนหลังม้า ยืนขึ้นมา ม้าตัวนี้ร่างสูงใหญ่ ขนบนผิวส่องประกายมันขลับ แต่นางก็ยังยืนได้มั่นคงบนหลังม้า กระโจนอย่างแรง สองมือคว้ากำแพงเรือนไว้แน่น จากนั้นก็ปีนกำแพงเรือนขึ้นไปอย่างคล่องแคล่ว

นางกระโจนตัวลงมา จากนั้นก็รีบเดินไปเปิดประตู พาม้าเข้าไปด้วย

นี่เป็นม้าของอ๋องเจวี้ยน ถ้านางทำหายคงชดใช้ไม่ไหว

หลังปิดประตู ฟู่จาวหนิงก็รีบเดินตรงไปทางเรือนของผู้เฒ่าฟู่

จุดที่เดินผ่านล้วนเงียบสนิท และไม่มีการจุดตะเกียงไฟ

เรือนเล็กข้างหน้าสองเรือน เรือนหนึ่งคือเรือนที่ผู้เฒ่าฟู่กับพวกลุงจงสามคนทั้งครอบครัวอยู่ ส่วนอีกเรือนคือของนางกับเสี่ยวเถา

เรือนของนางกับเสี่ยวเถาเวลานี้มืดสนิทไม่มีแสง แต่เรือนของผู้เฒ่าฟู่ก็เหมือนมีแสงอยู่วอมแวม

ฟู่จาวหนิงวิ่งออกไป พอเข้าใกล้ เสียงในเรือนก็ดังลอดมาเข้าหูนาง

"ท่านลุง ท่านจะออกไปฟังหน่อยไหม ว่าตอนนี้ทั้งเมืองหลวงเขาพูดถึงเจาหนิงกันอย่า่งไร?"
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Commentaires (1)
goodnovel comment avatar
titima
นางเอกเป็นหมอจริงๆใช่มั้ยหมออะไรก่อนน
VOIR TOUS LES COMMENTAIRES

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2444

    ท้ายสุด ก็ยังเป็นฟู่จาวหนิงที่เอานกพิษเหล่านั้นไปค้นคว้านางไม่ได้กลับไปที่วังจักรพรรดิที่สวนสมุนไพรนี้ นางให้คนจัดเตรียมห้องไว้ให้นางโดยเฉพาะแล้วห้องหนึ่ง กำแพงหน้าต่างแน่นหนา ด้านในจัดแต่งไว้ตามที่นางบอกนางไม่ต้องเอาของเหล่านี้กลับไปที่วังจักรพรรดิ ค้นคว้าในสวนสมุนไพรนี่ไปเลยฟู่จาวหนิงจะค้นคว้าของเหล่านี้ แน่นอนว่าไม่มีทางแค่ค้นคว้าส่วนประกอบของพิษออกมา แต่ต้องค้นคว้ายาแก้พิษออกมาด้วยอันที่จริงสองสามปีนี้ นางเองก็ใส่วัตถุดิบยาเข้าไปในมิติไม่น้อยเลยวัตถุดิบยาหลากชนิด นางล้วนเก็บเอาไว้พอสมควร ชนิดเองก็ครบถ้วนครบครันปกติตอนที่ว่าง นางก็จะสกัดพลังชีวิตของวัตถุดิบยาเหล่านี้ออกมา บางส่วนที่สามารถเพาะกล้าได้ก็เพาะมันเลยหลังจากที่กำหนดสวนสมุนไพรแล้ว นางก็จะคิดหาเหตุผลต่างๆ นำเอาต้นกล้าวัตถุดิบยาจำนวนมากออกมาจากในมิติไปปลูกไว้ในสวนสมุนไพรดังนั้น คนของลัทธิเทพทำลายล้างคิดว่าพอถูกพวกเขานำวัตถุดิบยาออกไปหมดแล้ว เซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงตอนที่เจอกับพิษก็จะทำอะไรกันไม่ได้ ที่จริงก็คิดเยอะเกินไปฟู่จาวหนิงมีสารอาหารเหลวที่มีประโยชน์อย่างมากต่อพืชและวัตถุดิบยา สารอาหารเหลวชนิดนี้ถ้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2443

    คนของลัทธิเทพทำลายล้างต้องจ้องเอาชีวิตเซียวหลันยวนแน่นอนฟู่จาวหนิงรู้จุดนี้ ในใจเองก็ชิงชังมากตั้งแต่เซียวหลันยวนยังเด็กก็ลอบทำร้ายมาตลอดไม่หยุดหย่อน ไม่ตายไม่เลิกรามาจนถึงปัจจุบัน"เทพทำลายล้าง พูดเสียน่าฟัง สู้เรียกลัทธิเทพชั่วช้าไปเลยดีกว่า มีแต่ใช้วิธีสกปรก วางยาพิษ ใส่ร้ายคนอื่น ไม่เคยจะเห็นพวกเขาออกมาสู้อย่างเปิดเผยเลยสักครั้ง"ฟู่จาวหนิงจับมือของเซียวหลันยวนไว้ จ้องมองเขา "ถ้าไม่กำจัดลัทธิเทพทำลายล้าง ข้าเองก็บำรุงครรภ์อย่างสบายใจไม่ได้""หนิงหนิง ยังมีข้าอยู่นะ..."เซียวหลันยวนพอได้ยินคำของนางก็รู้สึกไม่ค่อยดีแล้ว เขาอยากจะบอกนางว่าเขาไม่มีทางแพ้ให้กับลัทธิเทพทำลายล้างหรอก ให้นางสบายใจได้แต่คำพูดของเขายังไม่ทันพูดจบ ฟู่จาวหนิงก็ตัดบทเขาแล้ว"อายวน ท่านต้องเชื่อข้า ข้าเป็นหมอ และยังเป็นหมอที่วิชาแพทย์ดีมากด้วย ข้ารู้สุขภาพของข้าดี"มืออีกข้างของฟู่จาวหนิงทาบลงไปบนท้องของตนเอง เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วว่า "ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเองก็รู้สถานการณ์ของลูกดี พวกเขาสุขภาพแข็งแรงกันหมด พวกเขาจะต้องเป็นเด็กที่เก่งกาจมากแน่นอน ถึงอย่างไรพ่อของพวกเขาก็เก่งมาก"สายตาของเซียวหลันยวนตกไปอยู่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2442

    "หนิงหนิง เป็นแบบที่เจ้าว่าก่อนหน้านี้เลย ลัทธิเทพทำลายล้างหมายปองตงฉิงมาหลายปีแล้ว เช่นนั้นก็อธิบายได้ว่าพวกเขาที่จริงมาถึงตงฉิงนานแล้ว ไม่แน่ ความลับมากมายของตงฉิง ตอนนี้พวกเขาอาจจะเข้าใจยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก"เซียวหลันยวนตอนนี้กังวลกับอีกปัญหาหนึ่ง"ดูจากสถานการณ์เมืองอั้นที่พวกเราเจอมาครั้งนี้ ข้าก็อยากจะเชื่อ ว่าสถานการณ์บาดเจ็บล้มตายของตงฉิงในครั้งนั้นอาจจะเบากว่าที่คนนอกรู้ หรือก็คือ ตงฉิงอาจจะมีประชาชนของหลายเมืองหรือหลายหมู่บ้าน ที่คอยปกป้องบ้านของตนอยู่"เขาบอกฟู่จาวหนิงว่า "และเพราะเหตุผลต่างๆ นานา ประชาชนที่รอดชีวิตไม่มีหนทางจะเดินต่อ และไม่มีหนทางที่จะออกจากตงฉิง และพวกเขาอาจคิดว่าไม่จำเป็น หรือไม่รู้สถานการณ์ภายนอกว่าเป็นอย่างไร จึงไม่กล้าออกไปกัน"พวกฟู่จาวหนิงกับผู้อาวุโสจี้พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน ก็อดพูดขึ้นมาไม่ได้ ว่านี่ก็เป็นไปได้มากอยู่"ดังนั้น ประชาชนที่ยังมีชีวิตอยู่ของตงฉิง จำนวนน่าจะมากกว่าที่พวกเราจินตนาการกันไว้ ไม่มีทางจะมีอยู่แค่เมืองอั้นแห่งเดียวแน่นอน"พอคิดถึงจุดนี้ เซียวหลันยวนก็รู้สึกว่าซับซ้อนหน่อยๆนี่ถือเป็นเรื่องดี เป็นเรื่องมงคลที่ทำใ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2441

    "ท่านอ๋อง พิษแบบนี้ ให้ข้าไปค้นคว้าเสียหน่อย จากนั้นจะเขียนออกมา แล้วไปค้นคว้ากับอู๋เยว่อีกที ลองดูว่าจะแก้มันได้ไหม"ผู้อาวุโสจี้รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนไม่อยากให้จาวหนิงต้องมาสัมผัสกับพิษพวกนี้ แต่ว่าเขาก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรนัก"อู๋เยว่อันที่จริงก็มีพรสวรรค์อยู่ ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่ ไม่คิดจะกลับไปเขาชิงถงแล้ว ถ้างั้นก็สู้ให้เขาหาโอกาสได้เรียนรู้กับจาวหนิงไปเลยดีกว่าไหม?"พอได้ยินผู้อาวุโสจี้พูดเช่นนี้ ในใจเซียวหลันยวนก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา"พวกท่านเอาอย่างนี้ หาคำถามจากพิษตัวนี้ออกมา แล้วคิดหาวิธีให้จาวหนิงสอน ว่ามันเป็นพิษอะไร ใช้ยาอะไรมาแก้"ก็คือแอบถามเสีย อย่าให้จาวหนิงรู้ว่าพวกเขาได้พิษชนิดนี้มาพอสิ้นเสียงเขา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นคำพูดของเซียวหลันยวนหยุดลงทันที ส่งสายตาให้ชิงอี ให้เขารีบเก็บนกพิษเหล่านี้แต่น่าเสียดาย การเคลื่อนไหวของชิงอีไม่ได้เร็วขนาดนั้น ชั่วขณะหนึ่ง ไม่เข้าใจความหมายของเขาอย่างถ่องแท้ฟู่จาวหนิงยังมาไม่ถึง แต่เสียงก็ดังลอดเข้ามาก่อนแล้ว"พิษอะไร ยาอะไรหรือ?"นางถามมาแบบนี้ ฝีเท้าก็เร่งเร็วขึ้นมาอีก"เซียวหลันยวน! นี่ท่านมีอะไรปิดบังข้าอีกแล้วใช่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2440

    ผู้อาวุโสจี้พอได้ยินเสียงเรียกของหงจั๋ว ก็เงยหน้ามองมาหงจั๋วกวักมือมาทางเขาอย่างระมัดระวังผู้อาวุโสจี้เห็นท่าทางนางแบบนี้ ก็อดมองฟู่จาวหนิงทางนั้นไม่ได้ เด็กสาวนี่ไม่คิดจะทำให้จาวหนิงตกใจหรือเปล่านะ?เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า?ผู้อาวุโสจี้จึงเดินเข้ามาหานาง"มีอะไรหรือ?" เขาเองก็กดเสียงลงต่ำหงจั๋วบอก "ผู้อาวุโสจี้ ท่านออกมาก่อนได้ไหม? ออกมาค่อยว่ากัน อย่าเพิ่งไปรบกวนพระชายา"ผู้อาวุโสจี้เหลือบมองไปทางฟู่จาวหนิงผาดหนึ่งตอนนี้ฟู่จาวหนิงกำลังก้มตัวยุ่งอยู่กับถังอู๋เยว่ แล้วยังหันหลังมาทางนี้ ดังนั้นจึงมองไม่เห็นหงจั๋วเขาพยักหน้า เดินตามหงจั๋วออกมาพอมาถึงจุดที่ฟู่จาวหนิงไม่ได้ยิน หงจั๋วจึงพูดขึ้นมาว่า"ท่านอ๋องยิงฝูงนกพิษมาหรือ?" ผู้อาวุโสจี้ก็ตกตะลึง "ฝีมือของลัทธิเทพทำลายล้าง?""ท่านอ๋องกำลังรออยู่ด้านนอก เชิญผู้อาวุโสจี้ไปดูหน่อย ว่ามียาแก้พิษชนิดนี้หรือไม่เจ้าค่ะ""ไปๆๆ ข้าไปดูหน่อย"ผู้อาวุโสจี้ตอนนี้ก็รู้ว่าเพราะอะไรถึงต้องทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ไปรบกวนฟู่จาวหนิงจาวหนิงเพิ่งจะพูดวิธีการที่ลัทธิเทพทำลายล้างน่าจะใช้ อ๋องเจวี้ยนก็ดันยิงนกพิษมาแล้วฝูงหนึ่งดูท่าลัทธิเท

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2439

    เซียวหลันยวนตอนที่เห็นหนูหลายตัวนั้นมีน้ำหนองไหลออกมาไม่น้อย ความรู้สึกชิงชังลัทธิเทพทำลายล้างก็พุ่งสูงขึ้นไปอีกลัทธิเทพทำลายล้าง เป็นสำนักที่ทำให้คนชิงชังเสียจริง"ครั้งนี้ ข้าต้องทำลายล้างลัทธิเทพทำลายล้างให้สิ้นซาก"ลัทธิเทพทำลายล้างลงมือกับเขาเนื่องจากสายเลือดราชวงศ์ตงฉิงของเขา ตอนนี้เองก็อยู่ที่ตงฉิงพอดี เช่นนั้นก็ให้ความบาดหมางของพวกเขากับตงฉิงสะสางให้เรียบร้อยเสียที่นี่ไปเลย"ท่านอ๋อง พวกเขาใช้ลูกไม้แบบนี้ จะต้องมีแผนหลังจากนี้อยู่อีกแน่" พวกชิงอีกับสืออีล้วนสีหน้าเคร่งขรึมครั้งนี้ถ้าไม่ใช่ท่านอ๋องมาที่หอเมืองพอดี เห็นฝูงนกนี้เข้าพอดี ผลลัพธ์ที่ตามมาคงเลวร้ายเกินกว่าจินตนาการแน่ถึงอย่างไรถ้าเป็นพวกเขา คงไม่มีใครรู้สึกว่านกฝูงนั้นผิดปกติแน่ และยิ่งไม่มีใครคิดด้วย ว่าต้องยิงพวกนกทิ้งก่อนที่จะบินเข้ามาใกล้"ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ให้ทุกคนเพิ่มความระมัดระวัง นับจากนี้เป็นต้นไป ห้ามปล่อยนกหรือสัตว์เข้ามาแม้แต่ตัวเดียว"เซียวหลันยวนเองก็รู้ว่านี่เป็นแค่ก้าวแรกการเคลื่อนไหวของลัทธิเทพทำลายล้างเท่านั้นและพวกเขาก็ไม่ได้เดาผิด ตอนนี้คนเหล่านั้นที่ตรงมาทางเมืองหลวง ก็คือคนของลัทธิเ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status