แชร์

บทที่ 12

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
ผู้ดูแลตะลึงงันไปแล้ว

คืนพิธีแต่งงานใหญ่ ฟ้าก็มืดแล้ว แต่เจ้าสาวกลับจะกลับบ้านหรือ?

"พระชายา เรื่องนี้ไม่เหมาะสม ถ้าท่านอยากจะกลับไป สามวันจากนี้คือวันที่จะได้กลับ"

"รอไม่ได้"

ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็รู้สึกใจเต้นอย่างรุนแรง และไม่มีเวลามาอธิบายกับเขาให้มากความ หันหน้าไปทางหงจั๋วกับเฝิ่นซิง "คอกม้าอยู่ทางไหน?"

สองสาวใช้แม้จะไม่เข้าใจว่านางกำลังจะทำอะไร แต่พอได้ยินน้ำเสียงร้อนรนของนาง จึงชี้ทิศทางไปด้วยสัญชาตญาณ

"อยู่ทางนั้น"

ฟู่จาวหนิงยกกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งตรงไปทางนั้นทันที

"พระชายา พระชายา"

เฝิ่นซิงกับหงจั๋วตกใจ รีบร้อนยกขาวิ่งตามนางไป

ผู้ดูแลพอได้สติกลับมา ก็รีบร้อนสั่งการกับทหาร "พวกเจ้าไปรายงานท่านอ๋อง"

ตัวเขาเองก็ไล่ตามฟู่จาวหนิงออกไป

นี่จะทำอะไรกัน?

ฟู่จาวหนิงวิ่งเร็วมาก แต่จวนอ๋องเองก็ใหญ่เสียเหลือเกิน จนนางวิ่งมาถึงคอกม้า ฟ้าก็ดำขึ้นไปอีก คนใช้ที่ดูแลคอกม้าก็ถูกนางทำให้ตกใจสะดุ้งโหยง

"เจ้า"

"ขอยืมม้าหนึ่งตัว!"

หัวใจที่เต้นของฟู่จาวหนิงตอนนี้ยิ่งแรงขึ้นไปอีก และไม่สนใจเขา สายตากวาดไปยังม้าสีแดงตัวหนึ่งในนั้น พุ่งตัวเข้าไป ปลดเชือกจูงออก

คนใช้หน้าเปลี่ยนสี ตกตะลึงร้องขึ้นมา

"อย่าแตะต้องม้าตัวนั้น! นั่นเป็นม้าคะนองที่ยังไม่เชื่องนะ!"

ถ้าไม่ระวังจะโดนเตะตายเอา!

ม้าตัวนี้หลังจากพากลับมาก็ยังไม่ทันทำให้เชื่อง ในจวนจึงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้มัน ก่อนหน้านี้เขาเอาหญ้าเขาไปให้ก็เกือบไม่รอด

แต่เขาก็ร้องเรียกช้าไป ยิ่งไปกว่านั้นหัวใจของฟู่จาวหนิงก็เต้นอย่างรุนแรง ในหัวสมองนางขาวโพลน แต่จิตใต้สำนึกก็เหมือนมีเสียงหนึ่งกำลังเรียกให้นางรีบกลับไป จงรีบกลับไป

ม้าสีแดงแผดเสียงร้อง

พอได้ยินเสียงนี้ คนใช้ที่ก่อนหน้านี้รู้สึกไม่ค่อยดีกับมันตกตะลึงจนหมุนตัวไปเรียกคน

"ใครก็ได้ ใครก็ได้รีบมาเร็ว!"

เขาคนเดียวคุมม้าคะนองตัวนี้ไม่อยู่ ต้องให้ทหารที่มีวรยุทธ์แข็งแกร่งเหล่านั้นจึงจะไหว

อ๋องเจวี้ยนได้ยินรายงานของทหารแล้ว พอบอกว่าฟู่จาวหนิงจะกลับบ้านตระกูลฟู่เวลานี้ ก็มีคนใช้วิชาตัวเบาบินเข้ามาทันที เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน "นายท่าน พระชายาจะใช้ม้าคะนองตัวนั้น!"

"นางบ้าไปแล้ว!"

อ๋องเจวี้ยนลุกพรวดขึ้นมา ร่างไหววูบ ตัวก็เผ่นผลิวออกไปราวภาพมายา

ม้าคะนองตัวนั้นกว่าจะหามาได้ เขาวางแผนว่าม้าตัวนี้ตอนนี้ยังคะนองยังหยิ่งทะนงอยู่ แต่ด้วยสายเลือดที่บริสุทธิ์มาก ขอแค่ทำให้เชื่องได้ จะกลายเป็นม้าศึกที่ทั้งเฉลียวฉลาดและแข็งแกร่งตัวหนึ่ง ทว่าตอนนี้มันยังไม่เชื่องนะ!

นิสัยป่าเถื่อนของม้ายังไม่ถูกขจัด การโจมตีจึงแข็งแกร่งมาก

ฟู่จาวหนิงเกรงว่าจะเอาชีวิตไปทิ้งเสียแล้ว

คอกม้าทางนั้น ฟู่จาวหนิงตอนที่เข้าใกล้ม้าตัวนี้ก็พบว่าม้าตัวนี้มีความป่าเถื่อนเต็มที่ แต่นางก็ไม่มีเวลาไปเลือกม้าตัวอื่นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ก็มีเพียงม้าตัวนี้เท่านั้นที่ต้องตานาง และบางทีอาจจะมีแค่ม้าตัวนี้ถึงจะสามารถวิ่งได้เร็วพอ!

ม้ายังไม่ได้ใส่อาน ฟู่จาวหนิงพอพุ่งเข้าไปก็ยื่นมือไปลูบคอม้า

ตอนที่ม้าเริ่มเคลื่อนไหวนางก็คล่องแคล่วว่องไวพลิกตัวขึ้นไปบนหลังม้าแล้ว จากนั้นก็ลูบไปบนคอม้าอีกครั้ง หมอบตัวลงมา

"ว่าง่ายหน่อยนะ เชื่อฟังด้วย ข้าต้องให้เจ้าช่วย"

ม้าพ่นลมออก กีบเท้าหน้าชูขึ้น พุ่งออกไปจากคอกม้า

"ฮี้!"

"เด็กดี ไป!"

ตอนที่คนใช้เพิ่งเรียกคน ม้าคะนองก็พาฟู่จาวหนิงทะยานผ่านหน้าพวกเขาออกไป ก่อลมขึ้นมาวูบหนึ่ง พัดจนพวกเขาลืมตากันไม่ขึ้น

"หยุดก่อน!"

เสียงทหารเองก็ยังสั่นพร่า

ตอนที่อ๋องเจวี้ยนทะยานตัวเข้ามาก็ช้าไปก้าวหนึ่งแล้ว มองเห็นแผ่นหลังฟู่จาวหนิงอยู่ไวไว

ภายใต้ความโพล้เพล้ ลมหนาวเหน็บ นางขี่อยู่บนม้าสีแดง ผมดำปลิวสยายราวเมฆ ชุดมงคลโบกสะบัด สายลมพัดกระโปรงของนาง ขับเด่นเอวที่เล็กคอดนั่นออกมา

นางควบม้าทะยานออกไปแล้ว

"พระชายา!"

ชิงอีเองก็รีบกวดเข้ามา พอเห็นฉากนี้ ก็ตกตะลึงจนสีหน้าเปลี่ยน

"นายท่าน พระชายาขี่ม้าเป็นด้วย!"

"ม้าตัวนั้นยังไม่ได้สวมอานเลย!"

ฟู่จาวหนิงก็ขี่ม้าเช่นนี้ แต่ก็ยังเร็วเช่นนี้ ดูจากแผ่นหลัง นางก็ยังนั่งอย่างมั่นคงด้วย อธิบายได้ว่าทักษะขี่ม้าของนางยอดเยี่ยมเกินคน

ฟู่จาวหนิงคนนี้ ใช่คนที่พวกเขาเคยได้ยินมาก่อนหน้าจริงหรือ?

"เตรียมรถม้า"

อ๋องเจวี้ยนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

ตอนนี้ฟู่จาวหนิงถือเป็นพระชายาของเขาแล้ว วันนี้มีพิธีแต่งงานใหญ่ ถ้านางไปเป็นอะไรด้านนอก เขาคงดิ้นจากความสัมพันธ์นี้ไม่พ้น

ยิ่งไปกว่านั้นพรุ่งนี้นางต้องไปเขาจันทร์ลับฟ้าด้วย วันนี้ก็รับปากเบื้องหน้าองค์จักรพรรดิไปแล้ว ถ้าหากเกิดเรื่องจนพรุ่งนี้ไปไม่ได้ ฮองเฮาคงเอาโทษล้อเล่นต่อจักรพรรดิคาดลงไปบนหัวนางแน่

เขาจำใจต้องไล่ตามไป

ฟู่จาวหนิงขี่ม้าราวกับสายลมสายหนึ่งแล่นผ่านถนนยาว คนบนถนนล้วนไม่ทันเห็นว่าเป็นใคร คนก็หายไปแล้ว

อาศัยจากความทรงจำ ในที่สุดนางก็มาถึงบ้านตระกูลฟู่

ได้ยินว่าตระกูลฟู่ก่อนหน้านี้รุ่งโรจน์มาก กระทั่งขับเคลื่อนทั้งตระกูลเลยทีเดียว ผู้เฒ่าฟู่เองก็เคยถูกคนล้อมหน้าล้อมหลัง ลูกหลานเครือญาติต่างล้วนเคารพนับถือ

แต่สิบปีก่อนตระกูลฟู่เกิดเรื่องขึ้น ล้มพังลงอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่ปีทรัพย์สินของตระกูลก็ถูกขายจนหมด คนในตระกูลก็ทยอยกันตัดสัมพันธ์กับตระกูลฟู่

ตอนนี้สถานที่ที่ผู้เฒ่าฟู่อาศัยอยู่คือคฤหาสน์รูปแบบสวนที่ใหญ่โต แต่เรือนต่างๆ ในนั้นส่วนใหญ่ถูกคนในตระกูลใช้เหตุผลต่างๆ นานายึดครองไป ผู้เฒ่าฟู่จึงพาฟู่จาวหนิงย้ายมายังเรือนเล็กเรียบง่ายแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับประตูหลังที่สุด

เวลาพวกเขาเข้าออกก็ใช้ประตูหลัง ไม่เคยเข้าออกทางประตูหน้า

ตอนนี้ฟู่จาวหนิงกำลังควบม้ามาถึงประตูหลัง

นางไม่ทันหยุดม้า ก็รีบกระโจนลงมา รีบเดินไปเคาะประตู

ปังๆๆ

เคาะอยู่พักหนึ่งก็ยังไม่มีใครมาเปิดประตู ฟู่จาวหนิงใจดำดิ่ง ข้างกายผู้เฒ่าฟู่ยังมีคนอยู่ด้วย สามีภรรยาคู่หนึ่งที่อยู่กับเขามานาน และยังมีเหล่าลูกชายของพวกเขาก็อยู่รับใช้ที่ตระกูลฟู่ด้วย และยังมีสาวใช้เสี่ยวเถาที่คอยอยู่กับนางอีกคนหนึ่ง แต่ว่าครั้งนี้นางรีบร้อนออกไปแต่งงานที่จวนอ๋องเซียว คนที่คอยอยู่ข้างๆ ผู้เฒ่าเซียวไม่พอ จึงทิ้งเสี่ยวเถาไว้ที่นี่

สถานที่พวกเขาอยู่ห่างจากประตูหลังไม่มาก ลุงจงคนใช้เก่าเองก็คอยมาคุ้มกันที่ประตูหลังตลอด นางเคาะจนดังขนาดนี้ ลุงจงที่มักจะมาลาดตระเวณดูบ่อยๆ ต้องได้ยินแน่นอน ก่อนหน้านี้จะรีบตรงมาเปิดประตูทันที แล้วทำไมตอนนี้จึงไม่มีการเคลื่อนไหวกัน?

ฟู่จาวหนิงหมุนตัวไปมองม้าคะนองตัวนั้น กวัวมือ "มานี่ ยังต้องให้เจ้าช่วยอีก"

ม้าก็เดินเข้ามาจริงๆ ฟู่จาวหนิงให้มันยืนอยู่ข้างกำแพงเรือน จากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนหลังม้า ยืนขึ้นมา ม้าตัวนี้ร่างสูงใหญ่ ขนบนผิวส่องประกายมันขลับ แต่นางก็ยังยืนได้มั่นคงบนหลังม้า กระโจนอย่างแรง สองมือคว้ากำแพงเรือนไว้แน่น จากนั้นก็ปีนกำแพงเรือนขึ้นไปอย่างคล่องแคล่ว

นางกระโจนตัวลงมา จากนั้นก็รีบเดินไปเปิดประตู พาม้าเข้าไปด้วย

นี่เป็นม้าของอ๋องเจวี้ยน ถ้านางทำหายคงชดใช้ไม่ไหว

หลังปิดประตู ฟู่จาวหนิงก็รีบเดินตรงไปทางเรือนของผู้เฒ่าฟู่

จุดที่เดินผ่านล้วนเงียบสนิท และไม่มีการจุดตะเกียงไฟ

เรือนเล็กข้างหน้าสองเรือน เรือนหนึ่งคือเรือนที่ผู้เฒ่าฟู่กับพวกลุงจงสามคนทั้งครอบครัวอยู่ ส่วนอีกเรือนคือของนางกับเสี่ยวเถา

เรือนของนางกับเสี่ยวเถาเวลานี้มืดสนิทไม่มีแสง แต่เรือนของผู้เฒ่าฟู่ก็เหมือนมีแสงอยู่วอมแวม

ฟู่จาวหนิงวิ่งออกไป พอเข้าใกล้ เสียงในเรือนก็ดังลอดมาเข้าหูนาง

"ท่านลุง ท่านจะออกไปฟังหน่อยไหม ว่าตอนนี้ทั้งเมืองหลวงเขาพูดถึงเจาหนิงกันอย่า่งไร?"
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
titima
นางเอกเป็นหมอจริงๆใช่มั้ยหมออะไรก่อนน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 13

    "ฮูหยินรอง ท่านอย่าพูดเช่นนี้เลย ท่านผู้เฒ่าใกล้จะไม่ไหวอยู่แล้วนะ!"เสียงร้องไห้ของหญิงสาวคนหนึ่งน่าเวทนาอย่างมาก"นังสารเลวอย่างเจ้ากำลังร้องไห้ให้ท่านลุงหรือ? เขาอยู่สภาพนี้มาตั้งสองปีแล้ว เจ้ายังจะมาร้องห่มร้องไห้ คนไม่รู้จะคิดว่าเขาตายไปแล้วนะ!"เสียงหญิงสาวใจดำโหดร้ายนั่นก็ลอดออกมาอีกครั้ง "จะว่าไป ข้าพูดผิดหรือ? จาวหนิงเป็นเด็กคนเดียวของบ้านแล้ว ท่านลุงเลี้ยงชุบเลี้ยงนางมาจนโต ตอนนี้นางกลับไปทำเรื่องอับอายน่าขายหน้าภายนอก ข้าต้องบอกเรื่องนี้กับท่านลุงสิ""จาวหนิงเด็กคนนี้อกตัญญูเสียจริง นางไปผิดใจกับคุณหนูใหญ่หลี่ ท่านลุงหลังจากนี้เลิกคิดเรื่องไปซื้อยาที่ร้านขายยาได้เลย ถ้าวันหนึ่งตื่นเต้นจนหายใจไม่ทันขึ้นมา ก็คงจะเชิญหมอมาไม่ได้อย่างแน่นอน! หมอเทวดาหลี่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงเสียขนาดนั้น หมอทั้งหมดจึงล้วนฟังเขา เขาแค่พูดมาประโยคเดียว ก็คงจะไม่มีหมอสักคนเข้ามารักษาท่านลุงอีก""จาวหนิงยังไปผิดใจกับรัฐทายาทเซียวด้วย รัฐทายาทเซียวเองก็พูดมาแล้ว ว่าจาวหนิงหลังจากนี้จะขายไม่ออกอีกแน่นอน ไม่แน่ว่าจาวหนิงที่ถูกถอนหมั้นตอนนี้คงคิดไม่ตก ไม่กล้ากลับมา จนตนเองไปคิดสั้นแล้วก็ได้""พรวด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 14

    อ๋องเจวี้ยนมองมาทางลุงจงลุงจงเองก็ตกตะลึงยืนอยู่กับที่อย่าว่าแต่ประตูหลังเลย ต่อให้เป็นประตูหน้าจวนตระกูลฟู่ก็ไม่มีแขกเข้ามานานหลายปีแล้วแต่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ตรงหน้านี้ สวมชุดเลอค่าสูงส่ง สวมหน้ากากครึ่งหน้าดูลึกลับ แต่ใบหน้าอีกด้านกลับใบหน้างดงาม หูตาจมูกได้รูป ดูแล้วทำให้คนรู้สึกว่าตัวตนฐานะไม่ธรรมดา"พวกเจ้า"สายตาของอ๋องเจวี้ยนตกไปอยู่บนปิ่นทองในมือเขาชิงอีกเองก็มองเห็น สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย"เจ้าจะนำปิ่นทองเล่มนี้ไปที่ใด?" เสียงอ๋องเจวี้ยนเย็นเยียบลุงจงซ่อนปิ่มทองเล่มนั้นไปด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ "นี่ นี่เป็นของคุณหนูข้า"ใช่แล้ว เรื่องที่คุณหนูกำชับมาจะชักช้าไม่ได้ลุงจงรีบปิดประตูทันที กัดฟัน คารวะไปทางอ๋องเจวี้ยน "นายท่านโปรดให้อภัย ข้าน้องมีเรื่องต้องรีบไปทำ เวลานี้ไม่อาจปล่อยให้พวกท่านเข้าไปได้!"ไม่ว่าจะใครก็ตาม ห้ามทำให้เรื่องนี้ชักช้า!พูดจบประโยคนี้ ลุงจงก็หยิบปิ่นทองเล่มนั้นยกเท้าวิ่งอ้าว"ตามไปดูหน่อย" เสียงของอ๋องเจวี้ยนขรึมขึ้นมาจะให้เขาเอาของของจวนอ๋องเจวี้ยนวิ่งหนีไปหรือ?"ขอรับ"ทหารคนหนึ่งตามไปทันทีอ๋องเจวี้ยนมองประตูหลังทรุดโทรมบานนี้ หัว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 15

    "คุณหนู อยู่ที่นี่หมดแล้ว!"ลุงจงรีบหยิบของส่งออกไปฟู่จาวหนิงหยิบสุรา แช่เข็มเงินไว้ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ไปเผาบนเทียน ให้ลุงจงช่วยปลดเสื้อผ้าของผู้เฒ่าฟู่ลงแล้วนางก็หยิบชิ้นโสมแผ่นหนึ่ง วางไว้ใต้ลิ้นของผู้เฒ่าฟู่"เสี่ยวเถาหยิบชิ้นอื่นๆ ไปต้มน้ำแกงโสมเสีย""เจ้าค่ะ"เสี่ยวเถารีบออกไป พวกเขาเองก็รู้สึกว่าฟู่จาวหนิงเปลี่ยนไปมาก แต่ก็ไม่มีเวลามานั่งคิด ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ฟู่จาวหนิงพูดตอนนี้ก็ทำให้พวกเขาต้องลงมือทำก่อนอย่างขัดไม่ได้ฟู่จาวหนิงหยิบเข็มเงิน เพ่งสมาธิแทงลงไปยังตำแหน่งจุดบนร่างกายของผู้เฒ่าฟู่"อ๊า..."ลุงจงพอเห็นการกระทำของนางก็เกือบจะร้องอุทานออกมา แต่รีบปิดปากลงสนิทคุณหนูไม่ได้เรียนหมอมานี่นา นางทำไมจึงกล้าลงเข็มกับท่านผู้เฒ่ากัน?แต่จิตวิญญาณที่มุ่งมั่นของฟู่จาวหนิง ก็ทำให้เขาไม่กล้ารบกวนด้วยสัญชาตญาณฟู่จาวหนิงเคลื่อนไหวเร็วมาก แทงไปแล้วหนึ่งเข็มมือก็ยังไม่หยุด แทงต่อไปอีกเข็ม ความเร็วในการลงเข็มของนางไวมาก ไม่มีลังเลแม้แต่น้อย และไม่ต้องหาตำแหน่งจุดที่แม่นยำก่อนด้วย หยิบเข็มก็แทงลงไปทันทีผู้เฒ่าฟู่สลบไปแล้ว ระหว่างขั้นตอนของฟู่จาวหนิงเขาก็ยังไม่ตื่น และไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 16

    ฟู่จาวหนิงไม่ได้ตอบกลับชิงอีนี่คือเรื่องของบ้านนาง ไม่จำเป็นต้องอธิบายกับชิงอีให้ชัดเจนขนาดนั้นนางตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าอ๋องเจวี้ยนเป็นคนแบบไหน"ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วชั่วคราว" ฟู่จาวหนิงพูดกับลุงจง "รบกวนลุงจงใช้น้ำร้อนเช็ดตัวให้ท่านปู่ด้วย""คุณหนูไม่ต้องเกรงใจกับข้าน้อยขนาดนี้" ลุงจงพอได้ยินว่าท่านผู้เฒ่าไม่เป็นไรแล้ว ก็เช็ดตาอย่างปีติ"ป้าจงกับพี่หู่ล่ะ?"ฟู่จาวหนิงเวลานี้เพิ่งมีเรี่ยวแรงถามคำถามนี้ออกมาเดิมทีป้าจงกับลูกชายของพวกเขาหู่จือควรจะอยู่ที่นี่ด้วย แต่นางกลับมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว ที่นี่อาละวาดจนเป็นขนาดนี้ก็ยังไม่เห็นแม่ลูกทั้งสองคนพอได้ยินนางถามขึ้นมา ลุงจงก็น้ำตาหลั่งทะลักออกมา เสี่ยวเถาเองก็หน้าซีดขาว"คนล่ะ?"ฟู่จาวหนิงพอเห็นปฏิกิริยาของพวกเขาก็รู้แล้วว่าเกิดเรื่องขึ้นแน่นอน ไม่เช่นนั้นป้าจงกับหู่จือจะต้องอยู่ดูแลที่นี่แน่ มีหรือจะปล่อยให้ฮูหยินรองอาละวาดคลั่งแบบนี้?ลุงจงเป็นคนซื่อสัตย์พูดน้อย แต่ป้าจงกลับเป็นคนฉุนเฉียว หู่จือเองก็แข็งแกร่งหยาบกระด้าง มีแม่ลูกอย่างพวกเขาอยู่ เหล่าคนใช้ของบ้านอื่นก็ล้วนไม่กล้ากำเริบเสิบสานกัน"คุณหนู ฮือๆๆ" เสี่ยวเถาอดร้องไห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 17

    "อาจจะเพราะอ๋องเจวี้ยนคนนี้จะมีอายุมากกว่าเขาก็ได้"ฮูหยินรองคาดเดา "รัฐทายาทเซียวก็ไม่ใช่แค่เคารพต่อผู้อาวุโสหรือไร? ที่นั่นคือกลางถนนนะ ยังจะไปปะทะกับผู้อาวุโสได้อย่างไร? ถ้าอีกฝ่ายเอาเรื่องไปแจ้งต่อองค์จักรพรรดิขึ้นมาล่ะ?"ฟู่หมิงจูตะลึงงันไป "เป็นอย่างนั้นหรือ?""ทำไมจะไม่ใช่? องค์ชายของจักรพรรดิตั้งกี่คนที่ถูกถอนตำแหน่งอ๋อง เจ้าไม่เคยได้ยินหรือไร?"ฟู่หมิงจูคิด ก็รู้สึกว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆนางดีใจขึ้นมาทันที "ท่านแม่ แต่ว่าพวกเขาพูดว่าพอฟู่จาวหนิงอาละวาดกับรัฐทายาทเซียวก็หันไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนเลยนะ!"ฮูหยินรองมุมปากกระตุกจนดึงเอาแผลบนใบหน้าเข้า ความเจ็บปวดทำให้นางคิดถึงฟู่จาวหนิงเมื่อครู่ขึ้นอีกครั้ง เคียดแค้นจนเข็ดฟันเลยทีเดียว"ฟู่จาวหนิงนิสัยเสียนั่นเจ้ายังไม่รู้อีกหรือ? ก่อนหน้านี้ท่านปู่นางป่วยจนใกล้ตาย บอกว่าไม่วางใจนาง นางก็ยังหน้าด้านไร้ยางอายวันวันเอาแต่ไปเฝ้ารัฐทายาทเซียวอยู่นั่น จะแต่งกับเขาเสียให้ได้ เห็นๆ อยู่ว่าจวนอ๋องเซียวไม่ยอมรับการหมั้นหมาย เจ้าคิดว่านางที่น่าอดสูเสียขนาดนี้ พอถูกรัฐทายาทเซียวถอนหมั้น ก็รู้สึกว่าเสียหน้า เลยต้องจับผู้ชายส่งๆ คนหนึ่งมาแ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 18

    ฟู่จาวหนิงพุ่งตัวไปยังประตูห้องฟืนที่มีไม้กระบองขัดไว้อยู่ ซัดตีไม้กระบองออก ยกเท้าถีบโครมเข้าไป "โครม!"ในห้องเก็บฟืนที่ดำมืดมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งพอดมเข้ากับกลิ่นนี้ สีหน้าฟู่จาวหนิงเองก็เปลี่ยนไ"ชิงอี!"ชิงอีพอเห็นนางเข้าไปซัดคนอย่างปราดเปรียวห้าวหาญก็ตกตะลึง ตอนนี้ได้ยินนางตะโกนเรียกจึงได้สติกลับมา รีบร้อนเดินตรงไปทางนี้ฟู่จาวหนิงคว้าโคมไฟที่แขวนอยู่ด้านนอกเดินเข้าไปที่มุมห้องฟืนมีคนนอนอยู๋คนหนึ่ง สวมเสื้อผ้าสีฟ้าเก่ามาก สองขากางเกงมีแต่เลือด เสื้อผ้าบนตัวยังขาดวิ่นหลายแห่ง นอนอยู่ที่นั่นราวกับเหมือนไม่มีลมหายใจ ไม่ขยับเขยื้อน"คุณหนู นี่คือท่านพี่หู่!"เสี่ยวเถาพอเห็นหู่จือเป็นเช่นนี้ น้ำตาก็ไหลร่วงลงมาหู่จือถูกพวกเขาตีจนตายแล้วหรือเปล่านะ?ฟู่จาวหนิงรีบเดินเข้ามา ยื่นมือเข้าไปแตะที่ต้นคอหู่จือ ถอนใจโล่งออกมา "เขายังมีชีวิตอยู่ ชิงอี รบกวนเจ้าแบกเขากลับไปที่พวกเราทางนั้นที""ขอรับ"ชิงอีไม่พูดอะไรมาก เดินเข้าไปทันที แบกหู่จือขึ้นหลัง รีบเดินออกไปด้านนอก บนขาของหู่จื่อเต็มไปด้วยเลือด เขาเองก็ไม่รังเกียจ แต่กลับยังถอนใจออกมาเสียงหนึ่ง ขาของเขาถูกตีจนหักไปแล้ว วัยหน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 19

    ฟู่จาวหนิงรีบเดินไปที่ข้างเตียงเขาทันที คุกเข่าลงมา กุมมือเขาไว้"ท่านปู่ ข้าอยู่ที่นี่"ผู้เฒ่าฟู่ค่อยๆ ลืมตาขึ้น แสงในดวงตาที่ยังดูโรยรา ค่อยๆ กลับมารวมกันลุงจงที่กำลังปาดน้ำตาอย่างน่าเวทนาตอนที่เห็นลูกชายพอเห็นท่านผู้เฒ่าได้สติกลับมาจริงๆ ก็ตื่นเต้นขึ้นมา"ท่านผู้เฒ่าฟื้นแล้วจริงๆ!"พวกเขาเดิมทีคิดว่าครั้งนี้ท่านผู้เฒ่าคงทนต่อไม่ไหวแล้ว ไม่คิดว่าคุณหนูจะช่วยเขากลับมาได้จริง!คุณหนูเก่งจริงๆ!"จาวหนิง เจ้า เจ้าเป็นอย่างที่อาสะใภ้พูดจริง จริงหรือ?" ผู้เฒ่าฟู่กุมมือของฟู่จาวหนิงไว้แน่นเขารู้สึกว่าในปากตนเองมีชิ้นโสมอยู่ รสโสมหวานชื่อทำให้เขาได้สติขึ้นมาหน่อย แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจเรื่องนี้แล้ว แค่อยากรุ้ว่าหลานสาวที่รักถูกจวนอ๋องเซียวถอนหมั้นแล้วจริงไหม"เซียว รัฐทายาทเซียวถอนหมั้นกับเจ้ากลางถนนจริงหรือ?"หลังจากผู้เฒ่าฟู่รีบร้อนถามประโยคนี้ก็ไอขึ้นมา เขาไอจนในคอหอยเหมือนมีกังหันกำลังหมุนอยู่ ฟังแล้วเหมือนที่ปอดเต็มไปด้วยรูอย่างไรอย่างนั้น ทำให้ใจคนไม่วางใจขึ้นมาด้วยเช่นกันฟู่จาวหนิงรีบเข้าไปบีบง่ามนิ้วมือเขาทันที"ท่านปู่ ท่านไม่ต้องร้อนรน! ข้าไม่ใช่บอกกับท่านแล้วหรือ? ข้า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 20

    ฟู่จาวหนิงจึงเพิ่งรู้ว่าอ๋องเจวี้ยนมาด้วยตนเองนางมองเห็นชิงอี ยังคิดว่าชิงอีมาแค่คนเดียวเสียอีก"ไม่ใช่บอกว่า ตอนนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นพระชายาหรอกหรือ?"ฟู่จาวหนิ่งตอนนี้พอเจออ๋องเจวี้ยน ในใจก็กังวลขึ้นมา นางสะกดความคิดที่จะยื่นมือไปลูบผมลงไป บางทีอ๋องเจวี้ยนก่อนหน้านี้คงไม่ทันสังเกตถึงปิ่นปักผมกับกำไลของนางกระมังแล้วถ้าเกิดพบว่าในวันแต่งงานใหญ่นางเอาเครื่องประดับของจวนอ๋องเจวี้ยนไปจำนำล่ะก็ คงไม่รู้เลยว่าจะมองนางเช่นไรพรุ่งนี้ต้องขึ้นเขาจันทร์ลับฟ้า นางต้องขุดยาให้ดี กลับมาแล้วจะเอาไปขายแล้วไถ่ของทั้งสองชิ้นนั้นคืนมา"นายท่าน ม้าตัวนี้" ชิงอีเดินเข้ามาอย่างกระอักกระอ่วน "ข้านอยพามันกลับไปไม่ได้"เดิมทีคิดว่าฟู่จาวหนิงคงจะต้องขึ้นรถม้ากลับไปกับท่านอ๋องแน่ แล้วม้าตัวนั้นเขาต้องพากลับไป ผลลัพธ์คือพอเขาเตรียมจะเข้าใกล้ม้าตัวนั้น ม้าตัวนั้นก็พ่นลม ก้าวเดินอย่างฮึดฮัด ดูแล้วเหมือนจะพัดถีบเขาได้ตลอดเวลาชิงอีในใจทั้งตกตะลึงและจำใจม้าตัวนี้ทำไมจึงยอมให้คุณหนูฟู่ขี่กัน ไม่มีอานม้า แต่นางก็ยังควบทะยานจากจวนอ๋องเจวี้ยนกลับมาบ้านตระกูลฟู่ได้ราวกับสายลมอ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิง สา

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2068

    ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2067

    เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2066

    คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2065

    พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2064

    ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2063

    เจ้าอารามสูดลมหายใจลึก"ผลลัพธ์นี้ไม่ค่อยดีนัก สิ่งที่มันชี้นำไป ทำให้อายวนเดินไปยังทางเลือกที่จะพาสู่ความพินาศ"พอได้ยินคำพูดเขา ฟู่จาวหนิงก็หน้าเปลี่ยนสีแต่นางกลับโมโหขึ้นมา"เฮอะ"ก่อนหน้านี้นางยังรู้สึกว่าจะอย่างไรก็ได้แต่ว่าตัวนางจะเป็นอย่างไร นางก็ยังไม่สนใจได้ เพราะนางไม่ใส่ใจ และไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับตัวนางแต่เรื่องดันไปอยู่บนตัวเซียวหลันยวน นางก็ไม่ชอบใจขึ้นมาแล้วยิ่งไปกว่านั้น นางไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนจะได้รัรบผลกระทบไหม ตัวนางเป็นคนที่ผ่านการข้ามภพมา แต่เขาไม่ใช่"อายวน" นางยื่นมือไปประคองเซียวหลันยวนเขาจับมือนางลุกขึ้นยืน มองดุนาง ยื่นมือลูบใบหน้านาง สีหน้าดูซับซ้อน"เจ้าลองดู"ฟู่จาวหนิงใจดำดิ่งหน่อยๆเพราะเขารู้สึกแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด ปฏิกิริยานี้คือถูกส่งผลกระทบเข้าแล้วเมื่อครู่เขายังบอกนางอยู่เลยว่าถ้าไม่อยากคะเนทำนายก็ไม่ต้องทำ ตอนนี้เขากลับบอกว่าให้ลองดูเสียแล้วจิตใจต่อต้านกับความอยากเอาชนะของฟุ่จาวหนิงถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้ว"ได้"นางขานรับ และไม่ลังเลอีก นั่งลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามผืนนั้น"ไข่มุกหมึก"เซียวหลันยวนส่งไข่มุกหมึก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2062

    เขาไม่อยากให้นางต้องฝืนตัวทำอะไรเพื่อตัวเขา"ข้ายินยอมทดสอบดู ไม่เป็นไร" ฟู่จาวหนิงบอกเขาเซียวหลันยวนชะงักไป "เช่นนั้นข้าก่อนแล้วกัน เจ้าลองดูผลลัพธ์ของข้าก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยตัดสินใจ"ตอนนี้เขาเองก็ยอมที่จะคะเนทำนายด้วย เพราะคำพูดประโยคนั้นที่เจ้าอารามพูดเมื่อครู่สามปีก่อนตอนที่เขาจะกลับเมืองหลวง ก็มีการวัดคะเนดาราไว้จริงๆ ทำให้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าเขาควรจะออกจากยอดเขาโยวชิงเวลานั้น และไปถึงเมืองหลวงในวันนั้นเขาเจอกับจาวหนิงถอนหมั้นกลางถนนในวันนั้น แต่งงานกับนางในวันนั้น ตอนนี้พอมาคิดก็ดูจะเป็นคู่รักวาสนาที่ฟ้าประทานมาจริงๆเพื่อความแม่นยำครั้งนี้ เขาเองก็ไม่กังขากับการวัดคะเนดาราเซียวหลันยวนนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามชิ้น ยื่นมือไปทางเจ้าอาราม "ไข่มุกหมึก""เจ้าจำไว้ด้วยว่าต้องขจัดสิ่งรบกวนออก อย่าต่อต้านการชี้นำ" เจ้าอารามส่งไข่มุกหมึกให้เขา จากนั้นจึงจุดธูปขึ้นเซียวหลันยวนหลับตา สองมือกุมไข่มุกหมึกตอนที่เขาเข้าสู่สภาวะลืมตนอย่างสมบูรณ์ ฟู่จาวหนิงก็แหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยสัญชาตญาณ เหมือนจะพบว่าแสงดาวเต็มท้องฟ้าจะสว่างเจิดจ้ากว่าเดิมเซียวหลันยวน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2061

    เจ้าอารามถอนใจอย่างจนใจอีกครั้ง ร้องเรียกพวกเขาไว้"กลับมาก่อน ทำไมพูดไม่ถูกหูหน่อยเดียวก็จะไปแล้วล่ะ? เดี๋ยวนี้อารมณ์ขึ้นง่ายขนาดนี้เชียว? ข้าก็แค่พูดเฉยๆ ไม่ใช่ว่ามองเสี่ยวฟู่แบบนี้เสียหน่อย"ฟู่จาวหนิงเองก็ยืนนิ่ง นางดึงเซียวหลันยวนไว้ตอนนี้นางเองก็น่าจะมองการวัดคะเนดาราของเจ้าอารามเป็นเหมือนเกมลึกลับเกมนึง เมื่อครู่ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น นางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งไปกว่านั้น ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเจ้าอารามทำให้นางจับทางไม่ถูกเหมือนกัน คนผู้นี้ต้องมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาสำหรับเซียวหลันยวนแน่นอนสำหรับฮูหยินเฉิง เซียวหลันยวนบทจะไม่ยอมรับก็ไม่ยอมรับได้ จะหมดความผูกพันนั่นก็หมดไป แต่สำหรับเจ้าอารามนั้นไม่ได้เด็ดขาดไม่เช่นนั้นคงไม่พานางเดินทางนับพันลี้มายอดเขาโยวชิงแค่เพราะคำๆ เดียวของเจ้าอารามหรอกนางเองก็อยากรู้มาก สาเหตุอะไรที่ต้องให้พวกเขามาทำนายชะตาอะไรนี่ เจ้าอารามคิดจะทำอะไรกันแน่นอกเหนือจากนี้ ตัวนางเองก็ยังอยากรู้ ว่าการที่นางมายังแคว้นเจานี่ เป็นเพราะมีพลังลึกลับอะไรหรือเปล่าถ้าไม่ทำให้ชัดเจน หลังจากนี้นางคงจะตั้งรับไม่ไหวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถึ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2060

    เขามองไปทางเจ้าอารามอีกครั้ง น้ำเสียงเข้มงวดขึ้นมา"ท่านน้าเฉิงถ้าพูดแบบนี้จริง เช่นนั้นสายตานางก็ตื้นเขินไม่รู้จักกาลเทศะ นางเองก็ไม่เข้าใจจาวหนิง และยิ่งไม่เข้าใจว่าจาวหนิงผ่านอะไรมาบ้าง แล้วมีสิทธิ์อะไรถึงใช้ความคิดของตัวเองมาสรุป ดูท่าหลายปีนี้คงถูกเอาอกเอาใจในเมืองจื่อซวีจนเสียคนแล้วจริงๆ"เดิมทีเขาได้ยินว่าฮูหยินเฉิงตาแดงก่ำลงจากเขาไป ยังเคยคิดว่าว่าเพราะช่วยนี้เย็นชากับนางมากเกินไปหรือเปล่า เอาไว้ตอนที่จะกลับ พอผ่านอุทยานเขาเฉิงอวิ๋น ยังคิดจะเข้าไปบอกลานางเสียหน่อยแต่ตอนนี้เขารู้สึกแล้วจริงๆ ว่าใจคนมันพังไปแล้ว เช่นนั้นก็ยากที่จะได้รับการเคารพจากคนอื่นจริงๆ"ข้าจดจำได้ว่าตอนที่ข้ายังเล็กท่านน้าเฉิงเคยมาดูแลอยู่หลายครั้ง แต่อันที่จริงพวกเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น หลังจากข้าโตมา พวกเราก็เจอกันน้อยครั้งมาก เจอกันก็เพียงแค่ทักทาย ข้าเรียกนางว่าท่านน้า ก็เพราะเคยชินมาจากตอนเด็กเท่านั้น"เซียวหลันยวนตอนพูดถึงจุดนี้น้ำเสียงก็เย็นลงมา"ตอนยังเล็กนางดูแลข้ามาหลายครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาเจ้าอุทยานกำชับไว้ ข้าจึงเคารพนาง แต่นางก็ควรวางตัวให้ถูก ไม่ใช่จะขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสของข้าจริ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status