แชร์

บทที่11

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
"สุรานี้"

"พระชายา ท่านอ๋องในใจมีท่านอยู่แน่นอน" หงจั๋วกับเฝิ่นซิงดูตื่นเต้น มองฟู่จาวหนิงแล้วแอบหัวเราะ "นี่คือสุราเลิศตระกูลอวิ๋น หนึ่งไหหมื่นตำลึงก็ยังซื้อไม่ได้เลยนะ ท่านอ๋องยังห่วงใยจนส่งมาให้ท่านเหยือกหนึ่งด้วย"

ฟู่จาวหนิงรับสุราไป ขึ้นมาชิมก่อนจิบหนึ่ง จากนั้นก็ดื่มรวดเดียวจนหมด

พอเห็นนางดื่มสุราอย่างห้าวหาญเช่นนี้ สาวใช้ทั้งสองก็ตะลึงงันไป

"นี่มันสุราโอสถนี่นา" ฟู่จาวหนิงลิ้มชิมรสของสุรา

"ใช่แล้ว สุราเลิศตระกูลอวิ๋นไม่เพียงแต่หมักบ่มจนหอมเข้ม หอมหวานสดชื่อในปาก รสติดค้างอยู่ในคอเท่านั้น แต่เพราะด้านในของมันมีตัวยาอยู่เก้าชนิด หลายปีมานี้มีคนมากมายค้นคว้าสุราเลิศตระกูลอวิ๋น และค้นคว้าตัวยาเจ็ดชนิดด้านในออกมาได้แล้ว ทว่าจนปัจจุบันก็ยังไม่มีใครรู้ถึงสองชนิดที่เหลือ สุราที่หมักออกมาจึงไม่ใช่รสชาตินี้มาโดยตลอด"

หงจั๋วสูดดมกลิ่นของสุรานี้ จากนั้นจึงพูดต่อว่า "ดังนั้นสุรานี้จึงขายกันแพงลิบลิ่ว แพงขนาดนี้ยังหาซื้อได้ยากเลย"

"พระชายา สุรานี้ดื่มแล้วบำรุงได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่แรงมากด้วย หัวก็ไม่ปวด ท่านดื่มอีกสักสองแก้วสิ" เฝิ่นซิงเอ่ยขึ้น

"พวกเจ้าดื่มด้วยไหม?" ฟู่จาวหนิงถาม

"ข้าน้อยมิกล้า" หงจั๋วกับเฝิ่นซิงรีบร้อนโบกมือ "นี่คือสิ่งที่ท่านอ๋องมอบให้ท่านโดยเฉพาะ พวกเราดื่มไม่ได้"

"พระชายา พวกเข้าน้อยตอนนี้ก็ห้ามดื่มสุราด้วย"

ดูอาการตึงเครียดของพวกนางแล้ว ฟู่จาวหนิงจึงไม่ฝืนบังคับ จวนอ๋องเจวี้ยนก็คงจะมีกฎของที่นี่อยู่

ฟู่จาวหนิงดื่มแก้วที่สองลงไป ดวงตาเปล่งประกายขึ้นมา

นางลิ้มรสออกมาแล้ว ตัวยาเก้าชนิดในนี้นางรู้แล้วว่าคืออะไร!

นางน่าจะหมักสุราเลิศตระกูลอวิ๋นออกมาได้!

เมื่อเป็นเช่นนี้ ถังทองแรกของนางก็รู้แล้วว่าจะหาจากไหน

แต่ว่าตัวยาเก้าชนิดนี้ก็ต้องหามาเสียก่อน พอดีเลย จากนี้สามวันไปหาในเขาจันทร์ลับฟ้าก็ได้ เป็นเช่นนี้ ต่อให้ไม่มีเงื่อนไขนั่นของไท่ซ่างหวง นางก็จะไปเขาจันทร์ลับฟ้านั่นอยู่ดี

เนื่องจากงานเลี้ยงมีสุราเลิศตระกูลอวิ๋น บรรยากาศจึงคึกคักมาก

โดยเฉพาะหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนออกไป พอเขาอยู่ที่นั่น ทุกคนส่วนใหญ่ล้วนทำตัวไม่ถูก มีแรงกดดัน พอเขาออกไป ทุกคนก็ลืมทั้งหมดไปชั่วคราว ชิมสุราก่อนแล้วค่อยว่ากัน

อ๋องเจวี้ยนเซียวหลันยวนกลับมาถึงห้องหนังสือ ชิงอีตามติดเข้ามา ถามขึ้นอย่างลังเล "นายท่าน คืนนี้ท่านจะพักที่ใดหรือ?"

พิธีแต่งงานครั้งนี้ของอ๋องเจวี้ยนจัดขึ้นอย่างฉุกละหุกเหลือเกิน ข่าวทีส่งกลับมาก็ยังไม่ทันแจ้งอย่างชัดเจน ผู้ดูแลจึงจัดแจงใช้เรือนของเขาเป็นห้องหอ ตอนนี้ฟู่จาวหนิงเจ้าสาวคนใหม่ที่ยังมีตัวตนฐานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกก็ยังอยู่ที่นั่น

หรือว่าจะไล่นางออกไปดี?

อ๋องเจวี้ยนขมวดคิ้ว ปลดหน้ากากลง

รอยแผลเป็นบนหน้าเขาแม้จะนานมากแล้ว แต่พอใส่หน้ากากนานๆ มันก็จะเจ็บปวดคันคะเยอขึ้นมา ถ้าหากทนไม่ไหวแล้วไปเกาเขา แผลเป็นก็จะหลุดเน่าและแพร่เชื้อต่อ

เขาเองก็คิดถึงปัญหาข้อนี้

"ให้คนไปจัดการเรือนหนึ่งให้นางเสีย" เซียวหลันยวนไม่คิดที่จะอยู่ห้องเดียวกับฟู่จาวหนิง และไม่คิดที่จะร่วมหอลงโรงกับนางจริงๆ

"ขอรับ แต่ว่าวันนี้เกรงว่าจะไม่ทันแล้ว" ชิงอีมองท้องฟ้าผาดหนึ่ง

ในจวนวุ่นวายมาครึ่งค่อนวัน ตอนนี้งานเลี้ยงก็มาถึงช่วงท้ายแล้ว เหล่าคนใช้ยังต้องดูแลงานเลี้ยง อีกครู่พอส่งแขกเหรื่อเสร็จก็ยังต้องเก็บกวาดอีก แล้วกว่าจะไปจัดเรือนให้ฟู่จาวหนิงคงได้รอจนฟ้ามืดพอดี

เซียวหลันยวนเหล่มองเขา

"ให้คนไปตรวจสอบตระกูลฟู่แล้วหรือยัง"

ฟู่จาวหนิงคนนี้ ดูแตกต่างจากคุณหนูฟู่ที่เขาเคยได้ยินมาก่อนหน้าอยู่

"ไปตรวจสอบแล้ว"

เซียวหลันยวนจัดการเรื่องเหล่นี้ในห้องหนังสือ ฟู่จาวหนิงกลับรออยู่นานสองนานก็ยังไม่พบตัวเขา

พอเห็นว่าฟ้ามืดแล้ว เทียนแดงในเรือนหอก็จุดมาแล้วสองเล่ม หงจั๋วกับเฝิ่นซิงออกไปดู ก็เห็นว่าแขกเหรื่อทยอยกันลากลับ แต่อ๋องเจวี้ยนก็ยังไม่โผล่มา

ฟู่จาวหนิงรอต่อไม่ไหวแล้ว

"ท่านอ๋องของพวกเจ้าอยู่ที่โถงหน้าไหม?"

เฝิ่นซิงส่ายหัว "ข้าน้อยเมื่อครู่ออกไปดู ท่านอ๋องไม่อยู่ที่งานเลี้ยงนานแล้ว"

"ข้าก็คิดเช่นนั้น ร่างกายเขาแบบนั้นจะไปดื่มสุราได้อย่างไร" ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นยืน "แล้วเขาอยู่ที่ไหนกัน"

พระชายาคงไม่ได้จะเรียกท่านอ๋องมาร่ำสุราใช่ไหม?

"เรื่องนี้ ข้าน้อยเองก็ไม่ทราบ"

พวกนางเองก็ไม่กล้าเข้าไปหาข่าวเรื่องท่านอ๋องเช่นกัน

ฟู่จาวหนิงมองท้องฟ้า รู้สึกว่าตนเองรอต่อไปอีกไม่ได้แล้ว จึงเปิดประตูแล้วเดินออกไป

"พระชายา!"

เฝิ่นซิงกับหงจั๋วรีบร้อนตามออกไป

ก่อนหน้านี้ฟู่จาวหนิงถูกประคองเข้ามาในเรือนทั้งผ้าคลุมหน้า จึงไม่ทันเห็นชัด ตอนนี้พอออกมาก็พบกว่าเรือนแห่งนี้ใหญ่โตมาก สวนดอกไม้งามตา หินดำปูพื้น ไผ่ดำต้นกล้วยขึ้นกันเรียงราย

ที่หัวมุมเผยให้เห็นศาลา เชื่อมกับระเบียงยาว ผ่านไปยังเรือนข้างๆ อีกเรือนหนึ่ง

ตอนนี้ในเรือนแขวนประดับประดาด้วยโคมแดง พันด้วยผ้าแพรแดงมงคล แต่อันที่จริงดูไม่มีชีวิตชีวาเลย

ฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดว่าจวนอ๋องเจวี้ยนจะหาเรือนสักเรือนทำเป็นห้องหอ แต่ตอนนี้พอดูแล้ว ที่นี่เดิมทีเป็นเรือนนอนของอ๋องเจวี้ยนใช่หรือไม่กัน?

ออกจาเรือนจึงเพิ่งเห็นว่ามีคน แต่ว่าไม่ใช่นางมองเห็น แต่เป็นนางพบว่ามีทหารแอบซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดต่างหาก

ทหารสองนายรับผิดชอบคุ้มกันเรือนนอนอ๋องเจวี้ยน เดิมทีพวกเขาซ่อนตัวไว้อย่างดี นอกจากท่านอ๋องกับชิงอีแล้ว ไม่เคยมีใครพบพวกเขา แต่พวกเขากลับเห็นฟู่จาวหนิงเดินตรงมายังตำแหน่งที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่

นายทหาร ก "..."

"ท่านพี่ทหาร" ฟู่จาวหนิงเปิดก้านกล้วยที่บังตัวเขาอยู่ออกถาม "เจ้ารู้ไหมว่าอ๋องเจวี้ยนอยู่ที่ไหน?"

ทหาร ก. ตะลึงงัน ไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับไปอย่างไรดีพักหนึ่ง

ยิ่งไปกว่านั้นฟู่จาวหนิงยังหน้าตาสะสวยมาก ตอนนี้พออยู่ในชุดแต่งงานเจ้าสาว ก็ยิ่งขับเด่นใบหน้านางราวกับดอกท้อ สวยงามเกินมนุษย์

ใบหน้างดงามเช่นนี้จู่ๆ มาปรากฎตรงหน้า สำหรับเขาแล้วถือเป็นการโจมตีทางรูปโฉมเลย

ฟู่จาวหนิงพอเห็นเขาไม่มีปฏิกิริยา ก็ยังคิดว่าเขาไม่รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนอยู่ที่ไหน จึงทำได้เพียงถอนหายใจ ชี้ไปยังทหาร ข. ทางนั้น "ถ้าเจ้าไม่รู้ ข้าจะไปถามพี่ทหารทางนั้นแล้วกัน"

ทหาร ข. ที่ถูกชี้ถึงตำแหน่งซ่อนตัวอย่างแม่นยำ "..."

เจ้าอย่ามาทางนี้นะ!

ฟู่จาวหนิงเดินตรงเข้ามาทางเขาแล้ว เงยหน้าขึ้น ทหาร ข. นั่งยองอยู่บนเขาจำลองลูกหนึ่ง เสื้อผ้าเดิมทีก็ผสานกลืนกินไปกับภูเขาจำลองแล้ว แค่เขาไม่ขยับ คนมากมายที่เดินผ่านหน้าเขาจำลองไปมาก็จะไม่พบตัวเขา แต่ฟู่จาวหนิงกลับไม่ต้องหาเลย มองเห็นเขาแทบจะในทันที

นายทหาร ข. ก้มหน้าลงมองฟู่จาวหนิง หน้าแดงแจ๋ขึ้นมาทันที

พวกเขาติดตามอ๋องเจวี้ยนอยุ่ในยอดเขาโยวชิงอยู่นาน ขนาดยุงตัวเมียก็แทบจะไม่ค่อยได้เจอ ไร้เดียงสาบริสุทธิ์อย่างมาก

"เจ้ารู้ไหมว่าอ๋องเจวี้ยนอยู่ที่ใด? ข้ามีเรื่องด่วนต้องหาเขา"

ตอนที่ผู้ดูแลเดินเข้ามาก็เห็นฉากนี้พอดี เขาก็ใจสั่นรัว รีบร้อนเดินเข้ามา

"พระชายา!"

"เจ้าคือผู้ดูแลใช่ไหม?" ฟู่จาวหนิงจำเสียงของเขาได้ "ดีเลย อ๋องเจวี้ยนล่ะ?"

ผู้ดูแลคิดถึงคำพูดที่อ๋องเจวี้ยนกำชับไว้ "ท่านอ๋องคืนนี้มีธุระทางการต้องจัดการ"

พอได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจแล้ว

อ๋องเจวี้ยนไม่อยากพบนางนี่เอง

"ให้เขายุ่งของเขาไป แต่ว่าอยากจะกลับบ้านตระกูลฟู่สักรอบหนึ่ง ขอให้ผู้ดูแลจัดรถม้าให้สักคันได้หรือไม่?" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่มีความคิดจะไปหาอ๋องเจวี้ยนเช่นกัน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2581

    ฟู่จาวหนิงยกนิ้วโป้งให้กับเซียวหลันยวน"ตอนนี้ท่านมีความรู้เรื่องแพทย์บ้างแล้วนี่นา มองออกด้วยว่าเป็นตำรับยาบำรุงครรภ์""สามปีก่อนตำรับยาที่เจ้าใช้ข้าเคยเห็นอยู่ แน่นอนว่าต้องจำได้สิ"เซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้เรียนแพทย์มา เพียงแต่ตอนนั้นตำรับยาที่ฟู่จาวหนิงกินเขาเองก็ได้อ่านอย่างละเอียดอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนั้นเขายังคอยมองดูของที่นางกินเข้าปากอย่างระมัดระวังด้วย ดังนั้นจึงจำวัตถุดิบยาที่เกี่ยวข้องได้กระทั่งของที่สตรีมีครรภ์ไม่ควรกินไม่ควรแตะต้องเขาก็ยังจำเอาไว้ดังนั้นตอนนี้พอเขาเห็นตำรับยานี้ก็สามารถมองออกได้ทันที"หนิงหนิง เจ้า..."สายตาของเซียวหลันยวนเหลือบมองลงไปบนท้องนางตามสัญชาตญาณ กลั้นหายใจ รู้สึกตึงเครียดหน่อยๆก่อนหน้านี้เดิมทีเขายังคิดว่า จาวหนิงตั้งครรภ์แค่ครั้งเดียวก็พอ จะลูกชายหรือลูกสาวก็ได้ถึงอย่างไรการคลอดเด็กสำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นเรื่องที่เหมือนเดินผ่านประตูผีเลยทีเดียวฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้ก็เคยคิดว่าตนเองจะตั้งครรภ์แค่ครั้งเดียวพอแต่ว่า น่าจะเพราะเด็กสองคนในครรภ์ที่แล้วว่าง่ายเกินไป ไม่ดื้อไม่ซนเกินไป คลอดออกมาได้ง่ายเสียขนาดนั้น จึงทำให้นางตอนนี้กัง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2580

    เซียวหลันยวนวางชามชาลง แล้วจึงเหยียบขึ้นเส้นทางกลับเมืองหลวงอีกครั้งพอเข้าเมือง ความเจริญรุ่งเรืองและความคึกคักก็พุ่งเข้ามาทันทีในเมืองดอกไม้บานสะพรั่ง ประชาชนและพ่อค้าที่สัญจรไปมา ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่นี่มาสองปีหรือว่าเพิ่งจะเข้ามา ก็อดไม่ได้ที่จะต้องมองไปรอบๆ เนื่องจากถูกทิวทัศน์อันงดงามของเมืองหลวงและร้านรวงต่างๆ รายรอบดึงดูดและข้างถนนก็ยังมีร้านรวงอีกไม่น้อย วางขายของกระจุกกระจิกต่างๆ ของเหล่านี้พ่อค้าที่มาจากภายนอกก็ชอบไปเดินชม เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาไปสถานที่อื่นแล้วยังไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยความสดใหม่พ่อค้าที่มายังตงฉิงช่วงนี้ ยังมีบางส่วนที่พาครอบครัวมาด้วย น่าจะเพราะพอกลับไปเล่า เหล่าภรรยาและลูกก็รู้สึกสนใจต่อตงฉิงอย่างมาก ดังนั้นคนที่มีฐานะหน่อยจึงพาครอบครัวมาด้วยด้วยเหตุนี้ บนถนนเมืองหลวง จึงสามารถมองเห็นคนต่างถิ่นที่พาครอบครัวเข้ามาด้วย"องค์จักรพรรดิกลับเมืองแล้ว"ขณะที่รถม้าของเซียวหลันยวนแล่นไปตามถนนใหญ่ ประชาชนสองฝั่งทางถนนกับเหล่าพ่อค้าก็มองเข้ามา ในสายตาล้วนเป็นความภาคภูมิใจ สีหน้าล้วนแสดงถึงความเลื่อมใสศรัทธา"นั่นคืออ๋องเจวี้ยนหรือ?" ข้างทางม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2579

    หยกตงฉิงขายออกไปครึ่งปีแล้ว และค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้นมาในแต่ละแคว้น อีกทั้งด้วยเหตุผลอีกหลายประการ ปัจจุบันปริมาณยังไม่มากพอ ดังนั้นราคาจึงถูกปั่นจนสูงลิบฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเสวียนทั้งสองคนหารือถึงความร่วมมือกับพ่อค้าใหญ่ในแคว้นต่างๆ ในนี้มีคำสั่งซื้ออยู่ไม่น้อยเลย แค่เหมืองหยกของตงฉิงแห่งนี้ ก็สามารถนำกำไรมหาศาลมาให้ตงฉิงได้แล้วเพราะการปรากฏตัวของหยกตงฉิง จึงดึงดูดพ่อค้าจำนวนมากหันมาสนใจตงฉิงมากขึ้นและตงฉิงตอนนี้ถ้าจะเข้ามาต้องได้ใบรับรองที่ด่านชิงอวี้ก่อน ด่านชิงอวี้นี้ เฉิงอวิ๋นเจี้ยนนำคนเข้าไปประจำการอยู่พวกเขามีสายลับอยู่ พอพบว่าคนที่จะเข้าตงฉิงมีพิรุธ ก็จะส่งข่าวไปที่ตงฉิงอย่างรวดเร็ว และหอเมืองของตงฉิงก็จะเตรียมปืนใหญ่พิทักษ์แคว้นขึ้นทันทีพวกของเซียวหลันยวนในช่วงสองปีที่ตระเตรียมเรื่องเหล่านี้ หลายครั้งที่ทำงานหนักจนลืมกินลืมนอน ยุ่งกันมากๆแต่ก็อาจเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างยุ่ง จึงไม่มีมีเวลาอยู่ด้วยกันบ่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ยินเรื่องราวของอีกฝ่ายจากปากของคนอื่น ความสัมพันธ์ระหว่างเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงกลับมีแนวโน้วที่ดีขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะตอนที่ได้ยินประชาชนหรือข้าร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2578

    ความหมายที่ว่าเซียวหลันยวนไม่ได้ตรงไปตรงมานักก็คือ สองปีนี้อันที่จริงเขาก็ส่งสายลับไปหาเรื่องแคว้นต่างๆ อยู่เนืองๆคนพวกนั้นจะทำทุกวิถีทางเพื่อส่งข้อมูลผิดพลาดให้กับจักรพรรดิของแต่ละแคว้น หรือไม่ก็สร้างความขัดแย้งและปัญหาบางอย่างในหมู่ขุนนางพวกเขา เพื่อให้พวกเขาไม่หันมาสนใจตงฉิงมากนักกระทั่งยังทำให้พวกเขาคิดว่า ตงฉิงทางนี้เกิดภัยธรรมชาติขึ้นอีกครั้ง ต่อให้พวกเขามาแย่งชิงไปก็ไม่คุ้ม ไม่ค่อยได้รับประโยชน์เท่าไรตอนนี้ในเมืองหลวงแคว้นต่างๆ พอได้ยินชื่อตงฉิง ก็มีข่าวลวงผิดพลาดสับสนวุ่นวายอยู่ไม่น้อยเลยเซียวหลันยวนไม่สนใจสักนิดว่าตงฉิงตอนนี้จะมีชื่อเสียงดีหรือไม่ดี เพราะตอนนี้สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือช่วงชิงเวลาที่เพียงพอมาทำให้ตงฉิงขยับขยายอย่างแข็งแกร่งขึ้นมา"แต่เหมือนข้าจะเห็นว่าช่วงนี้ในเมืองหลวงมีคนหน้าใหม่ไม่น้อยเลยนะ" อันชิงเอ่ยขึ้น"มีคนที่ดูเหมือนพวกพ่อค้าเข้ามาไม่น้อยเลย" องค์หญิงหนานฉือเองก็พูดขึ้นมาฟู่จาวหนิงยิ้มๆ "แน่นอน เรื่องอย่างหาเงินหากำไร พวกพ่อค้ามักจะมีความรู้สึกไวอยู่เสมอ ขณะที่พวกเราส่งข่าวลวงไปทางแคว้นต่างๆ พวกนั้น ก็จะแอบส่งข่าวปกติให้กับพ่อค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2577

    หนึ่งปีต่อมา ทุกด้านของตงฉิงก็เข้าที่เข้าทางแล้วและตอนนี้เอง จักรพรรดิและเหล่าขุนนางของแคว้นอื่นจึงเพิ่งได้ยินข่าวที่มากขึ้นของตงฉิงอันที่จริงครึ่งปีก่อนพวกเขาเองก็ได้ยินมาแล้วแต่ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้ใส่ใจนัก รู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนเซียวหลันยวนแค่ถูกจักรพรรดิเจาบีบจนไม่มีทางเลือก ดังนั้นจึงต้องหาทางรอดในสถานการณ์สิ้นหวังก่อนหน้านี้แต่ละแคว้นก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ส่งคนออกไปสำรวจซากปรักหักพังของตงฉิง ซึ่งมีทั้งที่หาไม่พบ มีทั้งหาพบบ้างบางส่วน จากนั้นก็ได้พบว่ามันเป็นเมืองร้างที่ "ตาย" ไปในกระแสประวัติศาสตร์แล้วต้องใช้แรงคนและทรัพยากรมหาศาลเลยทีเดียว แล้วพวกเขาเองก็มีแผ่นดินของตนเองอยู่แล้ว จึงไม่ได้ไปทุ่มเทเสาะหาต่อเท่าไรนักดังนั้นในใจคนมากมาย ตงฉิงก็เป็นเช่นนั้น เจอกับซากปรักหักพังแล้วทำไมล่ะ? เมื่อไม่มีคน ทั้งหมดก็สูญเปล่าจะให้พวกเขาส่งคนมากมายเข้ามา ก็น่าจะต้องเหน็ดเหนื่อยทั้งกายใจ ไม่รู้ว่าจะต้องลงทุนเงินทองอีกเท่าไรจึงจะสร้างให้ดีขึ้นได้ทุกคนแม้จะสนใจต่อทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ในอดีตของตงฉิง แต่ถ้าจะต้องบุกเบิกก็ไม่มีความสนใจกันแล้วดังนั้น ต่อให้รู้ว่าเซียวหลันยวนพาคนไปที่ตงฉิ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2576

    สามเดือนต่อมา ตงฉิงฟื้นฟูแคว้นราชวงศ์ตงฉิงเซียวหลันยวนขึ้นเป็นจักรพรรดิ มีนามว่าจักรพรรดิหมิงหนึ่งเดือนต่อมา จักรพรรดิหมิงสถาปนาฟู่จาวหนิงขึ้นเป็นฮองเฮา เซียวหลิงอี้ลูกชายคนโตขึ้นเป็นองค์รัชทายาทซืออวี๋ชิงจวินเป็นราชครูแคว้น เสิ่นเสวียนเป็นเสนาบดีซ้าย อันเหนียนเป็นเสนาบดีขวาฟู่จิ้นเชินขึ้นเป็นพระสัสสุระแห่งราชวงศ์ฟู่จาวเฟยถูกแต่งตั้งเป็นขุนพลเฟยหู่ จงเจี้ยนเป็นผู้บัญชาการราชองครักษ์ถังอู๋เจวี้ยนไม่ต้องการเป็นข้าราชการ ถังอู๋เยว่เข้าร่วมสำนักหมอหลวง แต่เพียงแค่ดูแลการรับแพทย์มาชั่วคราวเท่านั้น เพราะตอนนี้สำนักหมอหลวงยังมีแค่คนไม่กี่คนส่วนต่งฮ่วนจือศิษย์พี่รองฟู่จาวหนิงก็พาคนเข้ามาหลายคน แนะนำให้เข้าไปยังสำนักหมอหลวงองค์หญิงหนานฉือกับอันชิงทั้งสองคนเปิดสำนักศึกษาหญิงขึ้นแห่งหนึ่ง มีชื่อว่าสำนักศึกษาอวิ๋นจานหน่วยตีอาวุธของตงฉิงปัจจุบันถือว่าสำคัญอย่างยิ่งยวด ถังอู๋เจวี้ยนเองก็มีตำแหน่งอยู่ในนี้ คอยช่วยงานชั่วคราวฮองเฮาฟู่จาวหนิง ในช่วงนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความรอบรู้และพรสวรรค์หลากหลายของนาง นางแทบจะกลายเป็นคนที่มีความสามารถในทุกที่ สำนักหมอหลวงมักเชิญนางไปสอน หน่วยตีอา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status