แชร์

บทที่11

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
"สุรานี้"

"พระชายา ท่านอ๋องในใจมีท่านอยู่แน่นอน" หงจั๋วกับเฝิ่นซิงดูตื่นเต้น มองฟู่จาวหนิงแล้วแอบหัวเราะ "นี่คือสุราเลิศตระกูลอวิ๋น หนึ่งไหหมื่นตำลึงก็ยังซื้อไม่ได้เลยนะ ท่านอ๋องยังห่วงใยจนส่งมาให้ท่านเหยือกหนึ่งด้วย"

ฟู่จาวหนิงรับสุราไป ขึ้นมาชิมก่อนจิบหนึ่ง จากนั้นก็ดื่มรวดเดียวจนหมด

พอเห็นนางดื่มสุราอย่างห้าวหาญเช่นนี้ สาวใช้ทั้งสองก็ตะลึงงันไป

"นี่มันสุราโอสถนี่นา" ฟู่จาวหนิงลิ้มชิมรสของสุรา

"ใช่แล้ว สุราเลิศตระกูลอวิ๋นไม่เพียงแต่หมักบ่มจนหอมเข้ม หอมหวานสดชื่อในปาก รสติดค้างอยู่ในคอเท่านั้น แต่เพราะด้านในของมันมีตัวยาอยู่เก้าชนิด หลายปีมานี้มีคนมากมายค้นคว้าสุราเลิศตระกูลอวิ๋น และค้นคว้าตัวยาเจ็ดชนิดด้านในออกมาได้แล้ว ทว่าจนปัจจุบันก็ยังไม่มีใครรู้ถึงสองชนิดที่เหลือ สุราที่หมักออกมาจึงไม่ใช่รสชาตินี้มาโดยตลอด"

หงจั๋วสูดดมกลิ่นของสุรานี้ จากนั้นจึงพูดต่อว่า "ดังนั้นสุรานี้จึงขายกันแพงลิบลิ่ว แพงขนาดนี้ยังหาซื้อได้ยากเลย"

"พระชายา สุรานี้ดื่มแล้วบำรุงได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่แรงมากด้วย หัวก็ไม่ปวด ท่านดื่มอีกสักสองแก้วสิ" เฝิ่นซิงเอ่ยขึ้น

"พวกเจ้าดื่มด้วยไหม?" ฟู่จาวหนิงถาม

"ข้าน้อยมิกล้า" หงจั๋วกับเฝิ่นซิงรีบร้อนโบกมือ "นี่คือสิ่งที่ท่านอ๋องมอบให้ท่านโดยเฉพาะ พวกเราดื่มไม่ได้"

"พระชายา พวกเข้าน้อยตอนนี้ก็ห้ามดื่มสุราด้วย"

ดูอาการตึงเครียดของพวกนางแล้ว ฟู่จาวหนิงจึงไม่ฝืนบังคับ จวนอ๋องเจวี้ยนก็คงจะมีกฎของที่นี่อยู่

ฟู่จาวหนิงดื่มแก้วที่สองลงไป ดวงตาเปล่งประกายขึ้นมา

นางลิ้มรสออกมาแล้ว ตัวยาเก้าชนิดในนี้นางรู้แล้วว่าคืออะไร!

นางน่าจะหมักสุราเลิศตระกูลอวิ๋นออกมาได้!

เมื่อเป็นเช่นนี้ ถังทองแรกของนางก็รู้แล้วว่าจะหาจากไหน

แต่ว่าตัวยาเก้าชนิดนี้ก็ต้องหามาเสียก่อน พอดีเลย จากนี้สามวันไปหาในเขาจันทร์ลับฟ้าก็ได้ เป็นเช่นนี้ ต่อให้ไม่มีเงื่อนไขนั่นของไท่ซ่างหวง นางก็จะไปเขาจันทร์ลับฟ้านั่นอยู่ดี

เนื่องจากงานเลี้ยงมีสุราเลิศตระกูลอวิ๋น บรรยากาศจึงคึกคักมาก

โดยเฉพาะหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนออกไป พอเขาอยู่ที่นั่น ทุกคนส่วนใหญ่ล้วนทำตัวไม่ถูก มีแรงกดดัน พอเขาออกไป ทุกคนก็ลืมทั้งหมดไปชั่วคราว ชิมสุราก่อนแล้วค่อยว่ากัน

อ๋องเจวี้ยนเซียวหลันยวนกลับมาถึงห้องหนังสือ ชิงอีตามติดเข้ามา ถามขึ้นอย่างลังเล "นายท่าน คืนนี้ท่านจะพักที่ใดหรือ?"

พิธีแต่งงานครั้งนี้ของอ๋องเจวี้ยนจัดขึ้นอย่างฉุกละหุกเหลือเกิน ข่าวทีส่งกลับมาก็ยังไม่ทันแจ้งอย่างชัดเจน ผู้ดูแลจึงจัดแจงใช้เรือนของเขาเป็นห้องหอ ตอนนี้ฟู่จาวหนิงเจ้าสาวคนใหม่ที่ยังมีตัวตนฐานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกก็ยังอยู่ที่นั่น

หรือว่าจะไล่นางออกไปดี?

อ๋องเจวี้ยนขมวดคิ้ว ปลดหน้ากากลง

รอยแผลเป็นบนหน้าเขาแม้จะนานมากแล้ว แต่พอใส่หน้ากากนานๆ มันก็จะเจ็บปวดคันคะเยอขึ้นมา ถ้าหากทนไม่ไหวแล้วไปเกาเขา แผลเป็นก็จะหลุดเน่าและแพร่เชื้อต่อ

เขาเองก็คิดถึงปัญหาข้อนี้

"ให้คนไปจัดการเรือนหนึ่งให้นางเสีย" เซียวหลันยวนไม่คิดที่จะอยู่ห้องเดียวกับฟู่จาวหนิง และไม่คิดที่จะร่วมหอลงโรงกับนางจริงๆ

"ขอรับ แต่ว่าวันนี้เกรงว่าจะไม่ทันแล้ว" ชิงอีมองท้องฟ้าผาดหนึ่ง

ในจวนวุ่นวายมาครึ่งค่อนวัน ตอนนี้งานเลี้ยงก็มาถึงช่วงท้ายแล้ว เหล่าคนใช้ยังต้องดูแลงานเลี้ยง อีกครู่พอส่งแขกเหรื่อเสร็จก็ยังต้องเก็บกวาดอีก แล้วกว่าจะไปจัดเรือนให้ฟู่จาวหนิงคงได้รอจนฟ้ามืดพอดี

เซียวหลันยวนเหล่มองเขา

"ให้คนไปตรวจสอบตระกูลฟู่แล้วหรือยัง"

ฟู่จาวหนิงคนนี้ ดูแตกต่างจากคุณหนูฟู่ที่เขาเคยได้ยินมาก่อนหน้าอยู่

"ไปตรวจสอบแล้ว"

เซียวหลันยวนจัดการเรื่องเหล่นี้ในห้องหนังสือ ฟู่จาวหนิงกลับรออยู่นานสองนานก็ยังไม่พบตัวเขา

พอเห็นว่าฟ้ามืดแล้ว เทียนแดงในเรือนหอก็จุดมาแล้วสองเล่ม หงจั๋วกับเฝิ่นซิงออกไปดู ก็เห็นว่าแขกเหรื่อทยอยกันลากลับ แต่อ๋องเจวี้ยนก็ยังไม่โผล่มา

ฟู่จาวหนิงรอต่อไม่ไหวแล้ว

"ท่านอ๋องของพวกเจ้าอยู่ที่โถงหน้าไหม?"

เฝิ่นซิงส่ายหัว "ข้าน้อยเมื่อครู่ออกไปดู ท่านอ๋องไม่อยู่ที่งานเลี้ยงนานแล้ว"

"ข้าก็คิดเช่นนั้น ร่างกายเขาแบบนั้นจะไปดื่มสุราได้อย่างไร" ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นยืน "แล้วเขาอยู่ที่ไหนกัน"

พระชายาคงไม่ได้จะเรียกท่านอ๋องมาร่ำสุราใช่ไหม?

"เรื่องนี้ ข้าน้อยเองก็ไม่ทราบ"

พวกนางเองก็ไม่กล้าเข้าไปหาข่าวเรื่องท่านอ๋องเช่นกัน

ฟู่จาวหนิงมองท้องฟ้า รู้สึกว่าตนเองรอต่อไปอีกไม่ได้แล้ว จึงเปิดประตูแล้วเดินออกไป

"พระชายา!"

เฝิ่นซิงกับหงจั๋วรีบร้อนตามออกไป

ก่อนหน้านี้ฟู่จาวหนิงถูกประคองเข้ามาในเรือนทั้งผ้าคลุมหน้า จึงไม่ทันเห็นชัด ตอนนี้พอออกมาก็พบกว่าเรือนแห่งนี้ใหญ่โตมาก สวนดอกไม้งามตา หินดำปูพื้น ไผ่ดำต้นกล้วยขึ้นกันเรียงราย

ที่หัวมุมเผยให้เห็นศาลา เชื่อมกับระเบียงยาว ผ่านไปยังเรือนข้างๆ อีกเรือนหนึ่ง

ตอนนี้ในเรือนแขวนประดับประดาด้วยโคมแดง พันด้วยผ้าแพรแดงมงคล แต่อันที่จริงดูไม่มีชีวิตชีวาเลย

ฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดว่าจวนอ๋องเจวี้ยนจะหาเรือนสักเรือนทำเป็นห้องหอ แต่ตอนนี้พอดูแล้ว ที่นี่เดิมทีเป็นเรือนนอนของอ๋องเจวี้ยนใช่หรือไม่กัน?

ออกจาเรือนจึงเพิ่งเห็นว่ามีคน แต่ว่าไม่ใช่นางมองเห็น แต่เป็นนางพบว่ามีทหารแอบซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดต่างหาก

ทหารสองนายรับผิดชอบคุ้มกันเรือนนอนอ๋องเจวี้ยน เดิมทีพวกเขาซ่อนตัวไว้อย่างดี นอกจากท่านอ๋องกับชิงอีแล้ว ไม่เคยมีใครพบพวกเขา แต่พวกเขากลับเห็นฟู่จาวหนิงเดินตรงมายังตำแหน่งที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่

นายทหาร ก "..."

"ท่านพี่ทหาร" ฟู่จาวหนิงเปิดก้านกล้วยที่บังตัวเขาอยู่ออกถาม "เจ้ารู้ไหมว่าอ๋องเจวี้ยนอยู่ที่ไหน?"

ทหาร ก. ตะลึงงัน ไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับไปอย่างไรดีพักหนึ่ง

ยิ่งไปกว่านั้นฟู่จาวหนิงยังหน้าตาสะสวยมาก ตอนนี้พออยู่ในชุดแต่งงานเจ้าสาว ก็ยิ่งขับเด่นใบหน้านางราวกับดอกท้อ สวยงามเกินมนุษย์

ใบหน้างดงามเช่นนี้จู่ๆ มาปรากฎตรงหน้า สำหรับเขาแล้วถือเป็นการโจมตีทางรูปโฉมเลย

ฟู่จาวหนิงพอเห็นเขาไม่มีปฏิกิริยา ก็ยังคิดว่าเขาไม่รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนอยู่ที่ไหน จึงทำได้เพียงถอนหายใจ ชี้ไปยังทหาร ข. ทางนั้น "ถ้าเจ้าไม่รู้ ข้าจะไปถามพี่ทหารทางนั้นแล้วกัน"

ทหาร ข. ที่ถูกชี้ถึงตำแหน่งซ่อนตัวอย่างแม่นยำ "..."

เจ้าอย่ามาทางนี้นะ!

ฟู่จาวหนิงเดินตรงเข้ามาทางเขาแล้ว เงยหน้าขึ้น ทหาร ข. นั่งยองอยู่บนเขาจำลองลูกหนึ่ง เสื้อผ้าเดิมทีก็ผสานกลืนกินไปกับภูเขาจำลองแล้ว แค่เขาไม่ขยับ คนมากมายที่เดินผ่านหน้าเขาจำลองไปมาก็จะไม่พบตัวเขา แต่ฟู่จาวหนิงกลับไม่ต้องหาเลย มองเห็นเขาแทบจะในทันที

นายทหาร ข. ก้มหน้าลงมองฟู่จาวหนิง หน้าแดงแจ๋ขึ้นมาทันที

พวกเขาติดตามอ๋องเจวี้ยนอยุ่ในยอดเขาโยวชิงอยู่นาน ขนาดยุงตัวเมียก็แทบจะไม่ค่อยได้เจอ ไร้เดียงสาบริสุทธิ์อย่างมาก

"เจ้ารู้ไหมว่าอ๋องเจวี้ยนอยู่ที่ใด? ข้ามีเรื่องด่วนต้องหาเขา"

ตอนที่ผู้ดูแลเดินเข้ามาก็เห็นฉากนี้พอดี เขาก็ใจสั่นรัว รีบร้อนเดินเข้ามา

"พระชายา!"

"เจ้าคือผู้ดูแลใช่ไหม?" ฟู่จาวหนิงจำเสียงของเขาได้ "ดีเลย อ๋องเจวี้ยนล่ะ?"

ผู้ดูแลคิดถึงคำพูดที่อ๋องเจวี้ยนกำชับไว้ "ท่านอ๋องคืนนี้มีธุระทางการต้องจัดการ"

พอได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจแล้ว

อ๋องเจวี้ยนไม่อยากพบนางนี่เอง

"ให้เขายุ่งของเขาไป แต่ว่าอยากจะกลับบ้านตระกูลฟู่สักรอบหนึ่ง ขอให้ผู้ดูแลจัดรถม้าให้สักคันได้หรือไม่?" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่มีความคิดจะไปหาอ๋องเจวี้ยนเช่นกัน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2440

    ผู้อาวุโสจี้พอได้ยินเสียงเรียกของหงจั๋ว ก็เงยหน้ามองมาหงจั๋วกวักมือมาทางเขาอย่างระมัดระวังผู้อาวุโสจี้เห็นท่าทางนางแบบนี้ ก็อดมองฟู่จาวหนิงทางนั้นไม่ได้ เด็กสาวนี่ไม่คิดจะทำให้จาวหนิงตกใจหรือเปล่านะ?เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า?ผู้อาวุโสจี้จึงเดินเข้ามาหานาง"มีอะไรหรือ?" เขาเองก็กดเสียงลงต่ำหงจั๋วบอก "ผู้อาวุโสจี้ ท่านออกมาก่อนได้ไหม? ออกมาค่อยว่ากัน อย่าเพิ่งไปรบกวนพระชายา"ผู้อาวุโสจี้เหลือบมองไปทางฟู่จาวหนิงผาดหนึ่งตอนนี้ฟู่จาวหนิงกำลังก้มตัวยุ่งอยู่กับถังอู๋เยว่ แล้วยังหันหลังมาทางนี้ ดังนั้นจึงมองไม่เห็นหงจั๋วเขาพยักหน้า เดินตามหงจั๋วออกมาพอมาถึงจุดที่ฟู่จาวหนิงไม่ได้ยิน หงจั๋วจึงพูดขึ้นมาว่า"ท่านอ๋องยิงฝูงนกพิษมาหรือ?" ผู้อาวุโสจี้ก็ตกตะลึง "ฝีมือของลัทธิเทพทำลายล้าง?""ท่านอ๋องกำลังรออยู่ด้านนอก เชิญผู้อาวุโสจี้ไปดูหน่อย ว่ามียาแก้พิษชนิดนี้หรือไม่เจ้าค่ะ""ไปๆๆ ข้าไปดูหน่อย"ผู้อาวุโสจี้ตอนนี้ก็รู้ว่าเพราะอะไรถึงต้องทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ไปรบกวนฟู่จาวหนิงจาวหนิงเพิ่งจะพูดวิธีการที่ลัทธิเทพทำลายล้างน่าจะใช้ อ๋องเจวี้ยนก็ดันยิงนกพิษมาแล้วฝูงหนึ่งดูท่าลัทธิเท

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2439

    เซียวหลันยวนตอนที่เห็นหนูหลายตัวนั้นมีน้ำหนองไหลออกมาไม่น้อย ความรู้สึกชิงชังลัทธิเทพทำลายล้างก็พุ่งสูงขึ้นไปอีกลัทธิเทพทำลายล้าง เป็นสำนักที่ทำให้คนชิงชังเสียจริง"ครั้งนี้ ข้าต้องทำลายล้างลัทธิเทพทำลายล้างให้สิ้นซาก"ลัทธิเทพทำลายล้างลงมือกับเขาเนื่องจากสายเลือดราชวงศ์ตงฉิงของเขา ตอนนี้เองก็อยู่ที่ตงฉิงพอดี เช่นนั้นก็ให้ความบาดหมางของพวกเขากับตงฉิงสะสางให้เรียบร้อยเสียที่นี่ไปเลย"ท่านอ๋อง พวกเขาใช้ลูกไม้แบบนี้ จะต้องมีแผนหลังจากนี้อยู่อีกแน่" พวกชิงอีกับสืออีล้วนสีหน้าเคร่งขรึมครั้งนี้ถ้าไม่ใช่ท่านอ๋องมาที่หอเมืองพอดี เห็นฝูงนกนี้เข้าพอดี ผลลัพธ์ที่ตามมาคงเลวร้ายเกินกว่าจินตนาการแน่ถึงอย่างไรถ้าเป็นพวกเขา คงไม่มีใครรู้สึกว่านกฝูงนั้นผิดปกติแน่ และยิ่งไม่มีใครคิดด้วย ว่าต้องยิงพวกนกทิ้งก่อนที่จะบินเข้ามาใกล้"ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ให้ทุกคนเพิ่มความระมัดระวัง นับจากนี้เป็นต้นไป ห้ามปล่อยนกหรือสัตว์เข้ามาแม้แต่ตัวเดียว"เซียวหลันยวนเองก็รู้ว่านี่เป็นแค่ก้าวแรกการเคลื่อนไหวของลัทธิเทพทำลายล้างเท่านั้นและพวกเขาก็ไม่ได้เดาผิด ตอนนี้คนเหล่านั้นที่ตรงมาทางเมืองหลวง ก็คือคนของลัทธิเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2438

    ฝีมือยิงธนูของคนอื่นก็ไม่เลวนักเซียวหลันยวนฝีมือยิงธนูคือยิงร้อยโดนร้อยพอเขายิงโดนตัวที่นำหน้ามาจากนั้นก็ยิงออกไปอีกสามดอกอย่างรวดเร็วสี่ดอก ยิงโดนนกสี่ตัวส่วนคนอื่นก็แทบจะไม่พลาดเป้ากันเลยมีแค่สองตัวที่ตกใจบินหนีไป"เตรียมม้า เปิดประตูเมือง ไปเก็บนกเหล่านั้นกลับมา" เซียวหลันยวนออกคำสั่ง "ระวังด้วย สวมถุงมือไว้ อย่าใช้มือสัมผัสนกพวกนั้น"องครักษ์มังกรครามรับคำสั่งออกไปเซียวหลันยวนรออยู่บนหอเมือง มองดูพวกเขาควบทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว"ท่านอ๋อง ท่านคิดว่านกพวกนั้นมีอะไรผิดปกติหรือ?" ชิงอีถาม"รู้สึกไม่ค่อยถูกต้องน่ะ"เซียวหลันยวนเองก็บอกไม่ถูกว่าอะไรที่ผิดปกติ แต่เมื่อครูตอนนี้ที่เห็นนกฝูงนั้นบินมาทางนี้ ในสมองเขาก็เกิดความรู้สึกขึ้นฉับพลัน ว่าห้ามให้พวกมันบินเข้ามาเด็ดขาดน่าจะเพราะลัทธิเทพทำลายล้างมีวิธีการชั่วร้ายมาแต่ไหนแต่ไร ทำให้เขาระมัดระวังมากยิ่งไปกว่านั้น จาวหนิงพูดไว้ไม่ผิด ลัทธิเทพทำลายล้าง จ้องตงฉิงมาหลายปีแล้ว พวกเขาเข้ามาตงฉิงตั้งนานขนาดนี้ เคลื่อนไหวกันเสียขนาดนี้ แต่กลับไม่เจอลัทธิเทพทำลายล้างเลย นี่มันผิดปกติลัทธิเทพทำลายล้างไม่มีทางหดหัวอยู่แบบนี้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2437

    ตอนที่ฟู่จาวหนิงกับผู้อาวุโสจี้เร่งเตรียมยา เซียวหลันยวนก็มาถึงด้านบนหอเมืองของเมืองหลวงแล้วบนหอเมืองตอนนี้มีองครักษ์มังกรครามกลุ่มหนึ่งดูแลอยู่องครักษ์มังกรครามช่วงนี้ก็รับคนหนุ่มจากเมืองอั้นเข้ามาบางส่วน และมีบางส่วนที่อันเหนียนชี้ทางมาจากชายแดนของแคว้นเจาคนเหล่านี้จัดมาแปดสิบคน องครักษ์มังกรครามช่วงนี้ก็คอยฝึกฝนพวกเขาอยู่ตลอด ครึ่งเดือนกว่ามานี้ก็เริ่มเห็นผลแล้วพวกเขาล้วนสวมชุดเกราะ พกมีดพก ดูแล้วสง่าน่าเกรงขามทีเดียวเซียวหลันยวนใจป้ำกับพวกเขามาก อาหารที่กินทุกวันล้วนเป็นอาหารโภชนาการที่ฟู่จาวหนิงแนะนำ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีน้ำแกงที่ฟู่จาวหนิงจัดไว้ให้พวกเขาอีกด้วยคนเหล่านี้เดิมทีส่วนใหญ่ก็ใช้ชีวิตกันลำบาก มีบางส่วนที่มีภาวะขาดสารอาหาร หลายคนตอนที่เข้ามาผอมโซ หลังจากผ่านไปเกือบหนึ่งเดือน แต่ละคนก็มีเนื้อหนังขึ้นมาแล้ว ร่างกายดูแข็งแรงขึ้นมากบวกกับการฝึกขององครักษ์มังกรครามส่วนใหญ่เป็นการเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่ง ตอนนี้รูปร่างเองก็กำยำขึ้นมาบ้างแล้วแปดสิบคนนี้ จะกลายเป็นทหารรักษาเมืองชุดแรก หลังจากแบ่งไปยังประตูเมืองทั้งสี่ ภายหลังถ้ามีคนเพิ่มเข้ามาก็ให้พวกเขานำฝึกต่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2436

    ฟู่จาวหนิงคิดไว้ดีแล้ว ถ้าหากคนของลัทธิเทพทำลายล้างจะบุกเข้ามาในเมืองหลวงจริง เช่นนั้นนางก็จะใช้พิษใช้วิธีของอีกฝ่ายโต้คืนอีกฝ่ายกลับไปถึงอย่างไรพวกเขากับลัทธิเทพทำลายล้างเดิมทีก็เป็นศัตรูคู่แค้นอยู่แล้ว ไม่มีทางจะยิ้มแล้วลืมความบาดหมางกันได้ ดังนั้นควรแก้แค้นก็ต้องแก้แค้น ควรจะขัดขวางไม่ให้พวกเขาเข้าเมืองก็ต้องขวางไว้"ยังต้องรวบรวมมาอีกหรือ?" ถังอู๋เยว่ถาม"อู๋เยว่ เอาที่เจ้ารวบรวมมาแล้วส่งมาให้ข้าก่อน"ผู้อาวุโสจี้ไม่เห็นด้วยหน่อยๆ "ตอนนี้เจ้าตั้งท้องอยู่นะ จะมาจัดการเรื่องยาพิษได้ยังไงกัน? ถ้าเผื่อเกิดอะไรขึ้นล่ะ ใครจะรับผิดชอบไหว?"พอได้ยินผู้อาวุโสจี้พูดแบบนี้ ถังอู๋เยว่ก็พยักหน้า รู้สึกว่าไม่ควรเอาผงพิษเหล่านี้ส่งให้กับฟู่จาวหนิง"พี่หญิงจาวหนิง ไม่งั้นก็สอนพวกนี้ให้ข้าแล้วกัน ข้าจัดการให้"ถังอู๋เยว่ก็รู้สึกว่าร่างกายของฟู่จาวหนิงตอนนี้ไม่ควรมาจัดการเรื่องผงพิษจริงๆผงนี่นะ ถ้าหากไม่ระวัง แค่จามนิดเดียวก็ฟุ้งขึ้นแล้ว แล้วถ้าสูดเข้าไปตอนฟุ้งกระจายล่ะ?"ไม่หรอก เจ้าสิ่งนี้ต้องให้ข้าจัดการเอง"ฟู่จาวหนิงจะเอาของพวกนี้เข้าไปในห้องเภสัช ตอนนี้สอนถังอู๋เยว่ไม่ได้ยิ่งไป

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2435

    ความคิดนี้ของฟู่จาวหนิงไม่ใช่การคิดไปเองอย่างไร้สาระต้องรู้ว่าคนของลัทธิเทพทำลายล้างวางแผนกันมาก่อนหลายปีแล้ว ในเมื่อตรวจสอบพบว่าเซียวหลันยวนเป็นไปได้มากที่จะเป็นสายเลือดราชวงศ์ตงฉิงนานแล้ว ต้องการเอาชีวิตเขาแต่เนิ่นๆ จึงวางแผนเอาไว้มากมายแล้วในช่วงหลายปีนี้ จะไม่มายังตงฉิงได้อย่างไร?พวกเขาอาจจะคนน้อย ไม่เหมือนเซียวหลันยวนที่สามารถสั่งกององครักษ์เข้ามาได้ แต่การจะเดินไปตามเส้นทางที่เดินได้ หาที่มั่นเหมาะปักหลักตั้งค่าย ก็ยังมีความเป็นไปได้สูงอยู่"ตั้งหลายปีแล้ว การที่พวกเขาจะหาวังจักรพรรดิกับวังใต้ดินเจอก็เป็นเรื่องปกติ"ฟู่จาวหนิงเอ่ยต่ออีก "ลัทธิเทพทำลายล้างหลังถูกกวาดล้างยังฟื้นคืนชีพกลับมาไดั แล้วยังคอยสร้างความปั่นป่วนอยู่เป็นระยะอีก อธิบายได้ว่าในลัทธิยังมีคนที่เก่งกาจอยู่ ดังนั้น แม้ว่าวังจักรพรรดิและวังใต้ดินจะมีค่ายกลและกลไกอยู่มากมาย จะซ่อนเร้นไว้มากเพียงใด ก็ย่อมมีคนหาเจอและเข้าไปได้แน่"เซียวหลันยวนพยักหน้า "เจ้าพูดถูกต้อง""ท่านยังจำคนพวกนั้นของตระกูลถังได้ไหม? สายเลือดราชวงศ์ตงฉิง ช่วงนี้คือตัวท่าน แต่ก็ไม่ใช่ว่ายังมีคนอื่นอยู่อีกหรือ?"ดังนั้น กลไกของวังจักรพ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status