"จาวหนิง? เจ้าทำไมถึงกลับมาตอนนี้?" ฟู่จิ้นเชินมองนางอย่างประหลาดใจ จากนั้นจึงเห็นเซียวหลันยวนเดินตามเข้ามา"เมื่อครู่ไปทำธุระที่พันธมิตรโอสถมา"และก่อนที่นางจะถาม ตอนที่เซียวหลันยวนเดินเข้ามาช้ากว่าก้าวหนึ่ง ก็มีองครักษ์ลับรีบเข้ามารายงานกับเขาแล้วหลี่จื่อเหยาหกล้มตายอยู่ในบ้านคิดไม่ถึงว่าพอเข้าประตูมาก็จะได้ยินประโยคนี้"กำลังพูดถึงหลี่จื่อเหยาหรือ?" เขาถามขึ้นฟู่จิ้นเชินไม่แปลกใจที่เขาจะรู้ อ๋องเจวี้ยนน่าจะมีเส้นทางข่าวของเขาอยู่"ใช่ พวกเราเองก็เพิ่งได้ข่าว หลี่จื่อเหยาหกล้มจนตายในบ้าน"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงนิ่งไปแล้ว"อะไรนะ? หกล้มจนตายหรือ?"ไม่ใช่ว่าชินอ๋องเซียวตายไปแล้วหรือไรกัน?หลี่จื่อเหยาถูกส่งกลับจวนตระกูลหลี่ างยังคิดยอู่ว่าสองวันนี้จะเข้าไปหาข่าวว่าหมอเทวดาหลี่จะรักษาอาการป่วยนางได้ไหม แต่นี่คือหลี่จื่อเหยาตายไปแล้วหรือ?ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนฝันไป"ทำไมถึงหกล้มแล้วตายล่ะ?" ฟู่จาวหนิงหาเสียงตัวเองกลับมาได้ จึงถามไปอีกคำหนึ่ง"พวกเจ้ารู้เรื่องที่เซียวเหยียนจิ่งเขียนจดหมายหย่ากับนางไหม?""จดหมายหย่า?"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนสบตากันผาดหนึ่งเรื่องนี
ฟู่จาวหนิงตบหัวเขา "ครั้งนี้ที่ข้าเพราะมีเรื่องจะพูดกับพวกท่าน"นางหยิบขวดยาใบหนึ่งออกมา "นี่คือยาลูกกลอนที่ข้าสกัดขึ้นมาให้ พวกท่านเก็บเอาไว้"นางบอกกับเขาเรื่องของต้วนฉวิน บอกเรื่องโรคนั้นที่ชินอ๋องเซียวป่วย"่ต้วนฉวิน ตอนที่ข้าเพิ่งกลับเมืองหลวงเขาก็เข้ามารอบหนึ่ง ต่อมาก็ไม่เข้ามาอีกเลย แต่เมื่อวานนี้เขาส่งจดหมายมาฉบับหนึ่ง เชิญข้าไปดื่มสุรา ข้าไม่ได้รับปากไป"ฟู่จิ้นเชินคิดๆ เอ่ยต่อว่า "ต้วนฉวินคนนี้ พวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์ด้วย แต่ว่า ตอนนั้นพวกเรากว่าจะออกไปจากเมืองหลวงได้ ตอนที่มึนงงไม่รู้จะไปไหนอยู่บนถนนทางการก็เจอเข้ากับเขา เขาให้กระเป๋าผ้าเก่าๆ เรามาสองใบ"ตอนนั้นที่ออกจากคุกมา แล้วยังมุดอยู่ในถังของคนเทขยะอีก ดังนั้นพวกเขาจึงตัวสกปรกมาก เสื้อผ้าเหม็นไปหมดต้วนฉวินเองก็ไม่กล้าช่วยพวกเขา กระทั่งไม่พูดกับพวกเขา โยนถุงผ้าลงมาจากรถม้า ด้านในมีเสื้อผ้าใหม่อยู่สองชุดดังนั้น นี่ถือเป็นการส่งฟืนให้กลางหิมะกระมัง"ข้าจำเขาได้แล้ว" เสิ่นเชี่ยวเอ่ยขึ้นมาคำหนึ่ง"เขาป่วยด้วยหรือ?" ฟู่จิ้นเชินถามฟู่จาวหนิง"เปล่า แค่เขากลัวตัวเองตาย ดังนั้นจึงกังวลอยู่ตลอด ข้าให้คนคอยจับตาดูไ
เป็นอย่างที่พวกเขาคาดเดาไว้ จวนชินอ๋องเซียวตอนนี้คึกคักน่าดูจวนอ๋องแขวนโคมไฟขาวแล้ว เหมือนกำลังจะจัดงานศพแต่ว่า หมอเทวดาหลี่กำลังด่าทอสาดเสียเทเสียอยู่ที่หน้าประตูจวนอ๋องด่าชินอ๋องเซียว แล้วยังด่าเซียวเหยียนจิ่งด้วย"เซียวเหยียนจิ่งเจ้าคนสารเลว! เจ้าเดรัจฉานไร้น้ำใจ! พ่อเจ้าตายไปยังไม่ทันได้ฝัง เจ้าก็ดันไม่ต้องการภรรยาเสียอย่างนั้น!""ลูกสาวข้าป่วยจากจวนชินอ๋องของพวกเจ้า จวนอ๋องของพวกเจ้ามันสกปรกเลวทราม เจ้าพวกหญิงสาวเหล่านั้นของเจ้าไปพูดเรื่อยเปื่อยกับลูกสาวข้า จนนางเข้าไปเอาของในห้องพ่อเจ้าแล้วติดโรคระบาดมา! พ่อสารเลวของเจ้า ต้องไปมั่วข้างนอกมาแน่ ตัวเองถึงได้ป่วยโรคสกปรกแบบนั้น พอเขาป่วย พวกเจ้าก็ไม่เอาสิ่งของไปเผาทิ้ง แต่ยังเก็บไว้ในบ้านเพื่อทำร้ายคนอื่น!""ลูกสาวข้าเป็นคนบริสุทธิ์ไร้เดียงสา สมองไม่ได้คิดเคี้ยวอะไร นางจึงรังแกง่าย แต่เพราะตามืดบอด เลยถูกวพวกเจ้าทำร้ายเอา แล้วยังถูกถพวกเจ้าสาดน้ำสกปรกใส่อีก!""เดิมทีเรื่องเหล่านั้นเกี่ยวอะไรกับนางกัน? เป็นเพราะเป็นความผิดของจวนชินอ๋องเซียวของพวกเจ้า! เซียวเหยียนจิ่งจ้าสารเลว หลอกหใ้ข้าพาจื่อเหยากลับบ้าน บอกว่ให้ข้าได้รักษา
ตอนนี้พอแง้มประตูเปิดแล้วตัวเองก็ลงไปนั่งหลับแบบนี้ นี่มันอะไรกัน?แต่ว่าเขามีแต่ความคิดจะสะสางบัญชีกับเซียวเหยียนจิ่ง จึงไม่สนใจความแปลกประหลาดจุดนี้พอเข้าประตูมา เขาก็ตรงไปที่ด้านในทันที"เซียวเหยียนจิ่ง เจ้ารีบไสหัวออกมาซะ! เจ้าทำให้จื่อเหยาต้องตาย!"เซียวเหยียนจิ่งอยู่ที่โถงหน้า ผู้ดูแลมาเรียกเขานานแล้ว เขาไม่ให้คนเปิดประตู แต่ตนเองก็ไม่หนีไปไหน คอยจับตาดูอยู่ที่นี่ คิดหาวิธีรับมืออยู่"รัฐทายาท ตอนนี้ทำอย่างไรดี" ผู้ดูแลมองเขาสีหน้ากังวล "พระชายารัฐทายาททำไมถึงตายไปแบบนี้กัน?"เซียวเหยียนจิ่งหงุดหงิดสุดๆ ขมับเต้นตุบๆ "ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร?"เขาเองก็เพิ่งได้ข่าวนี้ เขาเองก็ตกตะลึงเหมือนกันเถอะ!"หมอเทวดาหลี่ถ้าเอาแต่อาละวาดอยู่ข้างนอก เรื่องนี้คงลือออกไปเร็วแน่ จะไม่ดีกับชื่อเสียงของรัฐทายาทเอา""เช่นนั้นก็ห้ามให้เขาเข้ามา! เขาสัมผัสหลี่จื่อเหยาไปสองวันแล้ว ใครจะรู้ว่าเขาติดโรคนั่นมาหรือยัง? แล้วที่บอกว่าหลี่จื่อเหยาสะดุดล้มจนตาย ใครจะรู้ว่าใช่หรือไม่ใช่?"ผู้ดูแลพอได้ยินเซียวเหยียนจิ่งพูดเช่นนี้ ก็อดสูดลมหายใจลึกไม่ได้ "รัฐทายาทสงสัยว่านางป่วยตายหรือ?""พ่อของข้ายังป่ว
ผู้ดูแลตัวแข็งทื่อ เดินไปที่ธรณีประตูทางนั้น เพียงแค่มองใจก็เย็นวาบไปแล้วทำไมถึงบังเอิญขนาดนี้?ตอนที่หมอเทวดาหลี่ล้มลงมา ก็กระแทกเข้ากับธรณีประตูอย่างจัง แล้วก็แรงมากเลยทีเดียว ทำเอาหน้าผากของเขาแตกจนเป็นแผลใหญ่ ตอนนี้เลือดทะลักออกมาแล้วยิ่งไปกว่านั้น มุมปากเขาก็มีเลือดไหลด้วยเป็นไปได้ว่าการถีบของรัฐทายาททำเอาเขาใกล้ตายเลยทีเดียวเขาย่อตัวลงมา ยื่นมือไปผลักๆ หมอเทวดาหลี่ "หมอเทวดาหลี่ รีบตื่นเถอะ!"หมอเทวดาหลี่แน่นิ่งไปแล้วเขายื่นมือไปวัดลมหายใจ แล้วก็รีบหดมือกลับอย่างรวดเร็ว หันหน้าไปมองเซียวเหยียนจิ่ง "รัฐทายาท เขา ไม่หายใจแล้ว!"เซียวเหยียนจิ่งร่างโงนเงน สมองขาวโพลนไปหมดเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงถึงแม้จะไม่เห็นฉากนี้ แต่ว่าเซียวหลันยวนกำลังภายในมากล้น ระยะห่างแค่นี้ แล้วยังเสียงดังขนาดนี้ เขาได้ยินมันอย่างชัดเจนเขาบอกกับฟู่จาวหนิง"เซียวเหยียนจิ่งสังหารหมอเทวดาหลี่แล้ว"เขายังคิดไม่ถึง ว่าเรื่องจะบานปลายมาขนาดนี้ฟู่จาวหนิงงงเป็นไก่ตาแตก"ทำไมพ่อลูกหัวกระแทกตายกันหมดเลยล่ะ?"นี่มันบังเอิญจนประหลาดไปไหม?ถึงแม้หลี่จื่อเหยาจะหกล้มไปเอง หมอเทวดาหลี่ถูกถีบลอยออกไปถ
เซียวหลันยวนอธิบาย "แล้วตอนนี้ องค์จักรพรรดิจะปกป้องเซียวเหยียนจิ่งหรือ? พวกเขาแทบจะไม่มีคุณค่าอะไรแล้ว ต่อให้เขาคิดจะปกป้อง ก็จะมีคนมากดดันเขาเอง"ใครให้สมาคมหมอใหญ่มีตัวตนสูงส่งขนาดนี้ในใต้หล้ากันล่ะ?"ดังนั้น เซียวเหยียนจิ่งคือจบเห่แล้วหรือ?""ใช่"เซียวหลันยวนมองจวนชินอ๋องเซียว น้ำเสียงเย็นลงเล็กน้อย "เขาเองก็น่าจะจบเห่แล้ว"แล้วก็ตามคาด เพียงไม่นาน เซียวเหยียนจิ่งก็ถูกคุมตัวออกมาเขาไม่อยากเชื่อว่าคนในที่ว่าการจะกล้าจับเขาจริงๆ ยังคิดจะต่อต้านอยู่ แต่คิดไม่ถึงว่าคนที่นำมาจะพูดกับเขาเสียงแหบต่ำว่า "รัฐทายาทเซียว เกรงว่าท่านคงยังไม่รู้ องค์จักรพรรดิยังกังวลว่าโรคระบาดจะแพร่ออกมาจากพวกเจ้าทางนี้ ตอนนี้พวกเจ้าตายก็ตายไป ต้องรับโทษก็รับโทษไป เหมาะเจาะพอดี"พอคำพูดนี้ออกมา ใจของเซียวเหยียนจิ่งก็ดิ่งลงทันควันเขาเข้าใจขึ้นมาในพริบตาองค์จักรพรรดิกลัวตายขนาดนั้นเชียว!กลัวตายเพราะชินอ๋องเซียวป่วยตาย องค์จักรพรรดิเลยกลัวว่าเขาจะติดโรคนั่นด้วย ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนในราชวงศ์ ถ้าหากเกิดไปสัมผัสกับคนในราชวงศ์คนอื่น ก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่โรคจะระบาดไปถึงตัวองค์จักรพรรดิได้ดังนั้น อง
จวนชินอ๋องเซียวล้มหายไปอย่างรวดเร็วและกะทันหัน คนของเมืองหลวงล้วนไม่ทันได้ตั้งตัวยังจำได้ดีที่จวนชินอ๋องเซียวตอนนั้นดูถูกฟู่จาวหนิง ในวันพิธีสร้างความอับอายขนาดนั้นให้กับนาง ตอนนั้นคนทั้งหมดยังรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงไม่คู่ควรกับเซียวเหยียนจิ่งจริงๆ ล้วนคิดกันว่าหลังจากที่นางถอนหมั้นกลางถนนแล้ว นางจะยังแต่งงานกับใครได้อีก ที่จะดีไปกว่าเซียวเหยียนจิ่งใครจะรู้ ว่าตอนนี้จวนชินอ๋องเซียวจะพังไม่เป็นท่าไปแล้วแบบนี้ ชินอ๋องเซียวตายแล้ว เซียวเหยียนจิ่งก็ถูกเนรเทศสามพันลี้ยิ่งไปกว่านั้น ตอนแรกหลี่จื่อเหยายังมีพ่อเป็นหมอเทวดา กำเริบเสิบสานต่อหน้าฟู่จาวหนิงเสียขนาดนั้นแล้วใครจะรู้ ว่าตอนนี้หมอเทวดาหลี่จะถูกสังหาร ตัวนางเองจะถูกหย่าจนหกล้มแล้วตายไป แต่ฟู่จาวหนิงกลับยังเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนอย่างสบายไร้กังวล ยิ่งไปกว่านั้นยังเข้าร่วมกับสมาคมหมอใหญ่แล้วด้วยหลังจากหมอเทวดาหลี่ตาย ในเมืองหลวงก็เหลือคนของสมาคมหมอใหญ่แค่คนเดียวแล้ว ตัวตนฐานะของฟู่จาวหนิงก็สูงขึ้นไปอีกหลังจากนี้ถ้าเจอโรคยากๆ ก็ทำได้แค่ต้องมาหานางแล้ว ไม่มีหมอเทวดาหลี่อีกแล้วประชาชนต่างก็รู้สึกเศร้าเสียใจกับการจากไปของหมอเทวดาหล
เซียวหลันยวนกำลังคุยเรื่องนี้กับฟู่จาวหนิงเพระาคนที่ช่วยคนในที่ว่าการไว้ คือลุกน้องของหลานหรงหลานหรงสั่งคนส่งจดหมายกลับเมืองหลวง แล้วเจอกับพวกผู้ประสบภัยก่อเรื่องขึ้น ช่วยออกมาอย่างหวุดหวิดได้แค่คนเดียว"ให้ตายเถอะ" ฟู่จาวหนิงอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา "องครักษ์ตอนนั้นช่วยเซียวเหยียนจิ่งไม่ทันหรือ? ลูกน้องของหลานหรงน่าจะรู้จักเซียวเหยียนจิ่งกระมัง?"พอได้ยินนางถามเช่นนี้ เซียวหลันยวนจึงเอียงตัวเข้ามา มองนางนิ่งๆ"ทำอะไรน่ะ? ทำไมถึงมองข้าแบบนั้น..." ฟู่จาวหนิงถอยหลัง เขาก็ยังบีบชิดเข้ามา มือรองไปที่หลังขาเธอ ไม่ได้เธอหกล้อม"เจ้าอยากจะช่วยชีวิตเซียวเหยียนจิ่งหรือ?""ทำไมข้าต้องอยากช่วยชีวิตเขา? ข้าก็แค่อยากรู้อยากเห็นเท่านั้น ถึงอย่างไรเขาก็เป็นสายเลือดราชวงศ์คนหนึ่ง จะว่าไป ลูกน้องของเขาก็ไม่น่าจะยืนมองเขาถูกผู้ประสบภัยไปนี่นา เพราะว่าหลานหรงทางนั้นยังไม่รู้ว่าช่วงนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?"ฟู่จาวหนิงเห็นสภาพของเซียวหลันยวนก็รู้ว่าเขาหึงเสียแล้ว อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้"ถ้าข้าอยากช่วยชีวิตเซียวเหยียนจิ่ง วันนั้นข้าแค่ขวางท่านไม่ให้ไปแจ้งทางการก็พอแล้วไหม? ถ้าตอนนั้นพวกเราไม่แ
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม
เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก
คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ
พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย
ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ