Share

บทที่ 15

"คุณหนู อยู่ที่นี่หมดแล้ว!"

ลุงจงรีบหยิบของส่งออกไป

ฟู่จาวหนิงหยิบสุรา แช่เข็มเงินไว้ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ไปเผาบนเทียน ให้ลุงจงช่วยปลดเสื้อผ้าของผู้เฒ่าฟู่ลง

แล้วนางก็หยิบชิ้นโสมแผ่นหนึ่ง วางไว้ใต้ลิ้นของผู้เฒ่าฟู่

"เสี่ยวเถาหยิบชิ้นอื่นๆ ไปต้มน้ำแกงโสมเสีย"

"เจ้าค่ะ"

เสี่ยวเถารีบออกไป พวกเขาเองก็รู้สึกว่าฟู่จาวหนิงเปลี่ยนไปมาก แต่ก็ไม่มีเวลามานั่งคิด ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ฟู่จาวหนิงพูดตอนนี้ก็ทำให้พวกเขาต้องลงมือทำก่อนอย่างขัดไม่ได้

ฟู่จาวหนิงหยิบเข็มเงิน เพ่งสมาธิแทงลงไปยังตำแหน่งจุดบนร่างกายของผู้เฒ่าฟู่

"อ๊า..."

ลุงจงพอเห็นการกระทำของนางก็เกือบจะร้องอุทานออกมา แต่รีบปิดปากลงสนิท

คุณหนูไม่ได้เรียนหมอมานี่นา นางทำไมจึงกล้าลงเข็มกับท่านผู้เฒ่ากัน?

แต่จิตวิญญาณที่มุ่งมั่นของฟู่จาวหนิง ก็ทำให้เขาไม่กล้ารบกวนด้วยสัญชาตญาณ

ฟู่จาวหนิงเคลื่อนไหวเร็วมาก แทงไปแล้วหนึ่งเข็มมือก็ยังไม่หยุด แทงต่อไปอีกเข็ม ความเร็วในการลงเข็มของนางไวมาก ไม่มีลังเลแม้แต่น้อย และไม่ต้องหาตำแหน่งจุดที่แม่นยำก่อนด้วย หยิบเข็มก็แทงลงไปทันที

ผู้เฒ่าฟู่สลบไปแล้ว ระหว่างขั้นตอนของฟู่จาวหนิงเขาก็ยังไม่ตื่น และไม่มีปฏิกิริยาใดอีกด้วย

ในของลุงจงแขวนขึ้นมาจนถึงคอหอย

เวลานี้ชิงอีกำลังพูดถึงสถานการณ์ที่เห็นกับอ๋องเจวี้ยนที่นอกรถม้า

ฟังไปฟังมา อ๋องเจวี้ยนก็ตัดบทเขา "เจ้าบอกว่าฟู่จาวหนิงพูดกับผู้เฒ่าฟู่ว่าแต่งงานกับข้าแล้ว แล้วยังโกหกอีกบางส่วนเพื่อปลอบประโลมผู้เฒ่าฟู่หรือ นางโกหกอะไรออกไป?"

ชิงอีหน้าแข็งทื่อ

เรื่องนี้ เดิมทีเขาแค่คิดจะพูดข้ามไป ไม่พูดให้ชัดเจนกับท่านอ๋อง แต่ก็คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะจับจุดนี้เอาไว้

แล้วตอนนี้เขาจะพูดดีหรือไม่พูดดี?

เดิมทีอ๋องเจวี้ยนไม่คิดมาก เพียงแค่รู้สึกประหลาดใจเท่านั้น แต่เขาเห็นปฏิกิริยาของชิงอี จึงสงสัยขึ้นมา

"พูดมา ฟู่จาวหนิงพูดอะไรไว้? บรรยายออกมาห้ามตกหล่น"

เขาจะฟังว่าฟู่จาวหนิงอธิบายสถานการณ์ของตัวนางอย่างไร

ชิงอีจำใจ ทำได้แค่เล่าคำพูดของฟู่จาวหนิงออกมาโดยไม่ตกหล่นให้อ๋องเจวี้ยนฟัง

อ๋องเจวี้ยนหลังจากฟัง ในรถม้าก็เงียบไปครู่หนึ่ง

"เฮอะ"

ผ่านไปครู่หนึ่ง อ๋องเจวี้ยนก็เสียงเย็นชา "ข้าชื่นชมต่อตัวนางมาก? พบรักกับนาง? แล้วยังคิดจะกลับมากับนางอย่างเป็นห่วงเป็นใยหรือ?"

"นายท่าน คุณหนูฟู่น่าจะอยากจะรีบปลอบประโลมผู้เฒ่าฟู่เท่านั้น"

"เจ้าบอกว่านางยังเรียกคำว่าสามีอีกด้วย?"

"เอ่อ ขอรับ"

"เหอเหอ หน้าหญิงสาวคนนี้ไม่บางเลยจริงๆ"

ไม่ห่างออกไปนักมีการเคลื่อนไหว สายตาอ๋องเจวี้ยนเปลี่ยนไปเล็กน้อย "ดูท่ามีคนจับตาดูบ้านตระกูลฟู่อยู่"

เขาเดิมทีคิดจะเข้าไปดูว่าฟู่จาวหนิงจะทำอย่างไรได้อีกอยู่ ไม่ก็ให้นางอยู่ที่บ้านตระกูลฟู่ไปเลย ถึงอย่างไรนางก็ต้องกลับมาอยู่แล้ว เขามีพระชายาก็เพียงพอ แล้วที่พระชายาไม่ได้พักอยู่ในวังอ๋อง เขายังรู้สึกยินดีและเป็นสุขเสียกว่า

แต่ไม่รู้ว่าคนที่ลอบจับตาดูตระกูลฟู่เป็นใคร เขาจึงทิ้งฟู่จาวหนิงไว้ที่นี่ไม่ได้

"เข้าไปบอกฟู่จาวหนิง ว่ารถม้าจะรออยู่ที่นี่ หลังจากนางเสร็จธุระให้กลับจวนอ๋อง" อ๋องเจวี้ยนพูดพลางเอนหมอนลงหมอนนิ่ม นวดๆ หน้าผาก

เขาวันนี้แต่เดิมก็เร่งเดินทางกลับเมืองหลวง จากนั้นยังมาแต่งงานเป็นฝั่งฝาอย่างแปลกประหลาดอีก ยังไม่ได้พักผ่อนดีดีเลย

"นายท่านจะกลับไปก่อนไหม"

"ข้าจะรออยู่ที่นี่ เล่นตามน้ำแล้วก็ต้องเล่นให้จบ ฟู่จาวหนิงกังวลต่อท่านปู่จนต้องกลับบ้านตระกูลฟู่ในคืนวันแต่งงาน อ๋องอย่างข้าก็รอนางกลับไปพร้อมกันอย่างรู้ใจ เช่นนี้ละครจึงจะถูกต้อง ใช่ไหม?"

ชิงอีไม่กล้าตอบกลับ

เขากระโจนลงจากรถม้าเข้าไปในบ้านตระกูลฟู่

"นายท่าน ซื้อปิ่นทองกลับมาแล้วเรียบร้อย เมื่อครู่คนใช้บ้านตระกูลฟู่นำปิ่นทองเล่มนี้ไปจำนำไว้ที่โรงหมอแห่งหนึ่ง แลกเข็มเงินหนึ่งชุด สุราเหลืองหนึ่งขวดกับโสมที่อายุสามสิบปีมา"

"ใช้เงินซื้อกลับมาไปเท่าไรกัน?"

อ๋องเจวี้ยนรับปิ่นทองที่ทหารส่งเข้ามา เทียนในรถม้าส่องสว่างไปบนตัวปิ่น แกว่งไกวแสงเจิดจ้าสีทอง

กลางดอกไม้ของปิ่นเล่มนี้ยังมีไข่มุกกับอัญมณีชั้นสูงสลักไว้ เขารู้สึกว่าฟู่จาวหนิงคงไม่ทันได้มองอย่างชัดเจน ไม่เช่นนั้นปิ่นเล่มนี้จะแลกของกลับมาแค่นี้ได้อย่างไร

นี่คือสิ่งของจากจวนอ๋องเจวี้ยน มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง นางก็ช่างกล้านำไปจำนำเสียแล้ว

"รายงานนายท่าน จ่ายไปหนึ่งพันตำลึงขอรับ"

"อืม ถอยไปก่อน"

ดีมาก คืนแต่งงานฟู่จาวหนิงติดค้างเขาแล้วหนึ่งพันตำลึง

คขของโรงหมอนี้น่าจะมองออกถึงชุดที่ไม่ธรรมดาของทหารเขา ไม่กล้าโขกสับราคากลับ แต่ก็ยังดูสูงกว่าราคาของพวกนั้น มิเช่นนั้น เอาแค่มูลค่าของปิ่นเล่มนี้ ถ้าไม่ถึงสามสี่ห้าพันตำลึง ใครก็คงไม่ยอมคืนให้แน่

เขาหลับตาลง ในที่สุดก็ไอขึ้นมาอย่างทนไม่ไหว

ตอนที่ชิงอีเข้ามาฟู่จาวหนิงก็ปักเข็มสุดท้ายลงไปพอดี ตอนนี้บนตัวผู้เฒ่าฟู่มีรูเข็มอยู่เต็มไปหมด ดูแล้วน่ากลัวอย่างมาก

เขาผอมอย่างน่ากลัว แทบจะเป็นหนังหุ้มกระดูกอยู่แล้ว เข็มเย็นเฉียบเหล่านั้นแทงลงไปบนผิวหนังเขา น่าสงสารจับใจ

ฟู่จาวหนิงตาแดงรื้น

นางได้ยินเสียงเดินของชิงอี แต่ก็ไม่เงยหน้าขึ้น ยื่นมือบีบเข้มเล่มนึ่งค่อยๆ บิดมันขึ้นมา

การลงเข็มของนาง ไม่ใช่แค่ให้เข็มปักลงไปก็จบ แต่ยังต้องบิดเข็มดีดเข็มด้วย เพื่อกระตุ้นจุดชีพจรอย่างรุนแรง ทำให้ร่างกายสามารถเคลื่อนเลือดลมได้ในเวลาที่สั้นที่สุด เพื่อดึงยื้อชีวิตกลับมา

เข็มคืนสวรรค์กระบวนนี้ก็สิ้นเปลืองจิตวิญญาณมาก ดังนั้นฟู่จาวหนิงตอนนี้จึงไม่สนสิ่งอื่นใดอีก

ชิงอีมองท่าทีใจจดใจจ่อตั้งสมาธิของนางจึงไม่กล้าส่งเสียง

ฟู่จาวหนิงที่ตั้งใจนิ่งสงบเช่นนี้ ทำเอารู้สึกน่าศรัทธาขึ้นอย่างประหลาด

เขายืนคอยคุ้มกันอยู่ข้างๆ

มือของฟู่จาวหนิงมั่นคงมาก ทุกเข็มที่บิดหรือดีด ความเร็วของท่าทางแทบจะเหมือนกันทั้งหมด ชิงอีกระทั่งพบว่า จำนวนแรงสั่นสะเทือนของเข็มทั้งหมดล้วนเท่ากันไม่ผิดเพี้ยน

เขาตกตะลึงในใจ ยิ่งรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงคนนี้เก่งกาจมาก

ถ้าผู้เฒ่าฟู่อาการดีขึ้นได้จริง เช่นนั้นก็อธิบายได้ว่าท่านอ๋องของพวกเขาก็รอดแล้ว!

ฟู่จาวหนิงมีความเป็นไปได้มากที่จะรักษาท่านอ๋องให้ดีขึ้น

พอคิดถึงจุดนี้ ชิงอีจึงตื่นเต้นขึ้นมา เขาตอนนี้กลั้นลมหายใจรอฟู่จาวหนิงลงเข็มของนางต่อ

หน้าผากฟู่จาวหนิงเองก็มีเม็ดเหงื่อผุดซึม ดูออกว่าใช้พลังงานไปมากพอควร

ลุงจงกับเสี่ยวเถาเองก็คอยดูแลอยู่ข้างๆ ไม่กล้าส่งเสียง

ผ่านไปครึ่งประมาณครึ่งชั่วยาม ฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ดึงเข็มออกมาจนหมด ยื่นมือประคองตัวผู้เฒ่าฟู่เอียงไปยังขอบเตียง ยื่นมือนวดเค้นบนแผ่นหลังของเขา ผู้เฒ่าฟู่ก็กระอักเลือดพุ่งออกมา

"ท่านผู้เฒ่า!"

"คุณหนู นี่มัน..."

ลุงจงกับเสี่ยวเถาหน้าเปลี่ยนสีขึ้นทันที เกือบจะกระโดดตัวเหยง

กระทั่งใจของชิงอีก็ยังกระเด็นขึ้นมาถึงคอหอย

เกิดอะไรขึ้น?

ฟู่จาวหนิงประคองตัวผู้เฒ่าฟู่ให้นอนลง ถอนหายใจยาวออกมา

"ไม่เป็นไร นี่คือการกระอักเลือดพิษที่สะสมไว้นานออกมา ตอนนี้ท่านปูก็สบายขึ้นมาหน่อยแล้ว"

โชคดีที่ก่อนหน้านี้นางกินอิ่มที่จวนอ๋องเจวี้ยน ตอนนี้จึงมีเรี่ยวแรงเพียงพอ ไม่เช่นนั้นนางถ้าความหิวของนางแล่นกลับมา คงจะทนไว้ไม่ไหวจริงๆ

"เลือดพิษ?" ชิงอีจับจุดสำคัญไว้
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Namtip Madamesussi
สนุก มีลุ้น
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

Bab terbaru

DMCA.com Protection Status