แชร์

บทที่ 15

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
"คุณหนู อยู่ที่นี่หมดแล้ว!"

ลุงจงรีบหยิบของส่งออกไป

ฟู่จาวหนิงหยิบสุรา แช่เข็มเงินไว้ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ไปเผาบนเทียน ให้ลุงจงช่วยปลดเสื้อผ้าของผู้เฒ่าฟู่ลง

แล้วนางก็หยิบชิ้นโสมแผ่นหนึ่ง วางไว้ใต้ลิ้นของผู้เฒ่าฟู่

"เสี่ยวเถาหยิบชิ้นอื่นๆ ไปต้มน้ำแกงโสมเสีย"

"เจ้าค่ะ"

เสี่ยวเถารีบออกไป พวกเขาเองก็รู้สึกว่าฟู่จาวหนิงเปลี่ยนไปมาก แต่ก็ไม่มีเวลามานั่งคิด ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ฟู่จาวหนิงพูดตอนนี้ก็ทำให้พวกเขาต้องลงมือทำก่อนอย่างขัดไม่ได้

ฟู่จาวหนิงหยิบเข็มเงิน เพ่งสมาธิแทงลงไปยังตำแหน่งจุดบนร่างกายของผู้เฒ่าฟู่

"อ๊า..."

ลุงจงพอเห็นการกระทำของนางก็เกือบจะร้องอุทานออกมา แต่รีบปิดปากลงสนิท

คุณหนูไม่ได้เรียนหมอมานี่นา นางทำไมจึงกล้าลงเข็มกับท่านผู้เฒ่ากัน?

แต่จิตวิญญาณที่มุ่งมั่นของฟู่จาวหนิง ก็ทำให้เขาไม่กล้ารบกวนด้วยสัญชาตญาณ

ฟู่จาวหนิงเคลื่อนไหวเร็วมาก แทงไปแล้วหนึ่งเข็มมือก็ยังไม่หยุด แทงต่อไปอีกเข็ม ความเร็วในการลงเข็มของนางไวมาก ไม่มีลังเลแม้แต่น้อย และไม่ต้องหาตำแหน่งจุดที่แม่นยำก่อนด้วย หยิบเข็มก็แทงลงไปทันที

ผู้เฒ่าฟู่สลบไปแล้ว ระหว่างขั้นตอนของฟู่จาวหนิงเขาก็ยังไม่ตื่น และไม่มีปฏิกิริยาใดอีกด้วย

ในของลุงจงแขวนขึ้นมาจนถึงคอหอย

เวลานี้ชิงอีกำลังพูดถึงสถานการณ์ที่เห็นกับอ๋องเจวี้ยนที่นอกรถม้า

ฟังไปฟังมา อ๋องเจวี้ยนก็ตัดบทเขา "เจ้าบอกว่าฟู่จาวหนิงพูดกับผู้เฒ่าฟู่ว่าแต่งงานกับข้าแล้ว แล้วยังโกหกอีกบางส่วนเพื่อปลอบประโลมผู้เฒ่าฟู่หรือ นางโกหกอะไรออกไป?"

ชิงอีหน้าแข็งทื่อ

เรื่องนี้ เดิมทีเขาแค่คิดจะพูดข้ามไป ไม่พูดให้ชัดเจนกับท่านอ๋อง แต่ก็คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะจับจุดนี้เอาไว้

แล้วตอนนี้เขาจะพูดดีหรือไม่พูดดี?

เดิมทีอ๋องเจวี้ยนไม่คิดมาก เพียงแค่รู้สึกประหลาดใจเท่านั้น แต่เขาเห็นปฏิกิริยาของชิงอี จึงสงสัยขึ้นมา

"พูดมา ฟู่จาวหนิงพูดอะไรไว้? บรรยายออกมาห้ามตกหล่น"

เขาจะฟังว่าฟู่จาวหนิงอธิบายสถานการณ์ของตัวนางอย่างไร

ชิงอีจำใจ ทำได้แค่เล่าคำพูดของฟู่จาวหนิงออกมาโดยไม่ตกหล่นให้อ๋องเจวี้ยนฟัง

อ๋องเจวี้ยนหลังจากฟัง ในรถม้าก็เงียบไปครู่หนึ่ง

"เฮอะ"

ผ่านไปครู่หนึ่ง อ๋องเจวี้ยนก็เสียงเย็นชา "ข้าชื่นชมต่อตัวนางมาก? พบรักกับนาง? แล้วยังคิดจะกลับมากับนางอย่างเป็นห่วงเป็นใยหรือ?"

"นายท่าน คุณหนูฟู่น่าจะอยากจะรีบปลอบประโลมผู้เฒ่าฟู่เท่านั้น"

"เจ้าบอกว่านางยังเรียกคำว่าสามีอีกด้วย?"

"เอ่อ ขอรับ"

"เหอเหอ หน้าหญิงสาวคนนี้ไม่บางเลยจริงๆ"

ไม่ห่างออกไปนักมีการเคลื่อนไหว สายตาอ๋องเจวี้ยนเปลี่ยนไปเล็กน้อย "ดูท่ามีคนจับตาดูบ้านตระกูลฟู่อยู่"

เขาเดิมทีคิดจะเข้าไปดูว่าฟู่จาวหนิงจะทำอย่างไรได้อีกอยู่ ไม่ก็ให้นางอยู่ที่บ้านตระกูลฟู่ไปเลย ถึงอย่างไรนางก็ต้องกลับมาอยู่แล้ว เขามีพระชายาก็เพียงพอ แล้วที่พระชายาไม่ได้พักอยู่ในวังอ๋อง เขายังรู้สึกยินดีและเป็นสุขเสียกว่า

แต่ไม่รู้ว่าคนที่ลอบจับตาดูตระกูลฟู่เป็นใคร เขาจึงทิ้งฟู่จาวหนิงไว้ที่นี่ไม่ได้

"เข้าไปบอกฟู่จาวหนิง ว่ารถม้าจะรออยู่ที่นี่ หลังจากนางเสร็จธุระให้กลับจวนอ๋อง" อ๋องเจวี้ยนพูดพลางเอนหมอนลงหมอนนิ่ม นวดๆ หน้าผาก

เขาวันนี้แต่เดิมก็เร่งเดินทางกลับเมืองหลวง จากนั้นยังมาแต่งงานเป็นฝั่งฝาอย่างแปลกประหลาดอีก ยังไม่ได้พักผ่อนดีดีเลย

"นายท่านจะกลับไปก่อนไหม"

"ข้าจะรออยู่ที่นี่ เล่นตามน้ำแล้วก็ต้องเล่นให้จบ ฟู่จาวหนิงกังวลต่อท่านปู่จนต้องกลับบ้านตระกูลฟู่ในคืนวันแต่งงาน อ๋องอย่างข้าก็รอนางกลับไปพร้อมกันอย่างรู้ใจ เช่นนี้ละครจึงจะถูกต้อง ใช่ไหม?"

ชิงอีไม่กล้าตอบกลับ

เขากระโจนลงจากรถม้าเข้าไปในบ้านตระกูลฟู่

"นายท่าน ซื้อปิ่นทองกลับมาแล้วเรียบร้อย เมื่อครู่คนใช้บ้านตระกูลฟู่นำปิ่นทองเล่มนี้ไปจำนำไว้ที่โรงหมอแห่งหนึ่ง แลกเข็มเงินหนึ่งชุด สุราเหลืองหนึ่งขวดกับโสมที่อายุสามสิบปีมา"

"ใช้เงินซื้อกลับมาไปเท่าไรกัน?"

อ๋องเจวี้ยนรับปิ่นทองที่ทหารส่งเข้ามา เทียนในรถม้าส่องสว่างไปบนตัวปิ่น แกว่งไกวแสงเจิดจ้าสีทอง

กลางดอกไม้ของปิ่นเล่มนี้ยังมีไข่มุกกับอัญมณีชั้นสูงสลักไว้ เขารู้สึกว่าฟู่จาวหนิงคงไม่ทันได้มองอย่างชัดเจน ไม่เช่นนั้นปิ่นเล่มนี้จะแลกของกลับมาแค่นี้ได้อย่างไร

นี่คือสิ่งของจากจวนอ๋องเจวี้ยน มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง นางก็ช่างกล้านำไปจำนำเสียแล้ว

"รายงานนายท่าน จ่ายไปหนึ่งพันตำลึงขอรับ"

"อืม ถอยไปก่อน"

ดีมาก คืนแต่งงานฟู่จาวหนิงติดค้างเขาแล้วหนึ่งพันตำลึง

คขของโรงหมอนี้น่าจะมองออกถึงชุดที่ไม่ธรรมดาของทหารเขา ไม่กล้าโขกสับราคากลับ แต่ก็ยังดูสูงกว่าราคาของพวกนั้น มิเช่นนั้น เอาแค่มูลค่าของปิ่นเล่มนี้ ถ้าไม่ถึงสามสี่ห้าพันตำลึง ใครก็คงไม่ยอมคืนให้แน่

เขาหลับตาลง ในที่สุดก็ไอขึ้นมาอย่างทนไม่ไหว

ตอนที่ชิงอีเข้ามาฟู่จาวหนิงก็ปักเข็มสุดท้ายลงไปพอดี ตอนนี้บนตัวผู้เฒ่าฟู่มีรูเข็มอยู่เต็มไปหมด ดูแล้วน่ากลัวอย่างมาก

เขาผอมอย่างน่ากลัว แทบจะเป็นหนังหุ้มกระดูกอยู่แล้ว เข็มเย็นเฉียบเหล่านั้นแทงลงไปบนผิวหนังเขา น่าสงสารจับใจ

ฟู่จาวหนิงตาแดงรื้น

นางได้ยินเสียงเดินของชิงอี แต่ก็ไม่เงยหน้าขึ้น ยื่นมือบีบเข้มเล่มนึ่งค่อยๆ บิดมันขึ้นมา

การลงเข็มของนาง ไม่ใช่แค่ให้เข็มปักลงไปก็จบ แต่ยังต้องบิดเข็มดีดเข็มด้วย เพื่อกระตุ้นจุดชีพจรอย่างรุนแรง ทำให้ร่างกายสามารถเคลื่อนเลือดลมได้ในเวลาที่สั้นที่สุด เพื่อดึงยื้อชีวิตกลับมา

เข็มคืนสวรรค์กระบวนนี้ก็สิ้นเปลืองจิตวิญญาณมาก ดังนั้นฟู่จาวหนิงตอนนี้จึงไม่สนสิ่งอื่นใดอีก

ชิงอีมองท่าทีใจจดใจจ่อตั้งสมาธิของนางจึงไม่กล้าส่งเสียง

ฟู่จาวหนิงที่ตั้งใจนิ่งสงบเช่นนี้ ทำเอารู้สึกน่าศรัทธาขึ้นอย่างประหลาด

เขายืนคอยคุ้มกันอยู่ข้างๆ

มือของฟู่จาวหนิงมั่นคงมาก ทุกเข็มที่บิดหรือดีด ความเร็วของท่าทางแทบจะเหมือนกันทั้งหมด ชิงอีกระทั่งพบว่า จำนวนแรงสั่นสะเทือนของเข็มทั้งหมดล้วนเท่ากันไม่ผิดเพี้ยน

เขาตกตะลึงในใจ ยิ่งรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงคนนี้เก่งกาจมาก

ถ้าผู้เฒ่าฟู่อาการดีขึ้นได้จริง เช่นนั้นก็อธิบายได้ว่าท่านอ๋องของพวกเขาก็รอดแล้ว!

ฟู่จาวหนิงมีความเป็นไปได้มากที่จะรักษาท่านอ๋องให้ดีขึ้น

พอคิดถึงจุดนี้ ชิงอีจึงตื่นเต้นขึ้นมา เขาตอนนี้กลั้นลมหายใจรอฟู่จาวหนิงลงเข็มของนางต่อ

หน้าผากฟู่จาวหนิงเองก็มีเม็ดเหงื่อผุดซึม ดูออกว่าใช้พลังงานไปมากพอควร

ลุงจงกับเสี่ยวเถาเองก็คอยดูแลอยู่ข้างๆ ไม่กล้าส่งเสียง

ผ่านไปครึ่งประมาณครึ่งชั่วยาม ฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ดึงเข็มออกมาจนหมด ยื่นมือประคองตัวผู้เฒ่าฟู่เอียงไปยังขอบเตียง ยื่นมือนวดเค้นบนแผ่นหลังของเขา ผู้เฒ่าฟู่ก็กระอักเลือดพุ่งออกมา

"ท่านผู้เฒ่า!"

"คุณหนู นี่มัน..."

ลุงจงกับเสี่ยวเถาหน้าเปลี่ยนสีขึ้นทันที เกือบจะกระโดดตัวเหยง

กระทั่งใจของชิงอีก็ยังกระเด็นขึ้นมาถึงคอหอย

เกิดอะไรขึ้น?

ฟู่จาวหนิงประคองตัวผู้เฒ่าฟู่ให้นอนลง ถอนหายใจยาวออกมา

"ไม่เป็นไร นี่คือการกระอักเลือดพิษที่สะสมไว้นานออกมา ตอนนี้ท่านปูก็สบายขึ้นมาหน่อยแล้ว"

โชคดีที่ก่อนหน้านี้นางกินอิ่มที่จวนอ๋องเจวี้ยน ตอนนี้จึงมีเรี่ยวแรงเพียงพอ ไม่เช่นนั้นนางถ้าความหิวของนางแล่นกลับมา คงจะทนไว้ไม่ไหวจริงๆ

"เลือดพิษ?" ชิงอีจับจุดสำคัญไว้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (11)
goodnovel comment avatar
nongnapat
จ่ายรายสัปดาแล้ว แต่อ่านต่อไม่ได้หรอคะ เขียนว่าต้องปลดล็อค
goodnovel comment avatar
สุบิน สาริกา
นิยายเรื่องนี้น่าติดตามที่สุดเนื้อเรื่องดี แต่พิมพ์ผิดมากบางวรรค บางตอนอ่านแทบจะไม่เข้าใจ
goodnovel comment avatar
orawan maneechavakajorn
จ่ายเงินแล้ว ทำไมดูไม่ได้คะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2581

    ฟู่จาวหนิงยกนิ้วโป้งให้กับเซียวหลันยวน"ตอนนี้ท่านมีความรู้เรื่องแพทย์บ้างแล้วนี่นา มองออกด้วยว่าเป็นตำรับยาบำรุงครรภ์""สามปีก่อนตำรับยาที่เจ้าใช้ข้าเคยเห็นอยู่ แน่นอนว่าต้องจำได้สิ"เซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้เรียนแพทย์มา เพียงแต่ตอนนั้นตำรับยาที่ฟู่จาวหนิงกินเขาเองก็ได้อ่านอย่างละเอียดอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนั้นเขายังคอยมองดูของที่นางกินเข้าปากอย่างระมัดระวังด้วย ดังนั้นจึงจำวัตถุดิบยาที่เกี่ยวข้องได้กระทั่งของที่สตรีมีครรภ์ไม่ควรกินไม่ควรแตะต้องเขาก็ยังจำเอาไว้ดังนั้นตอนนี้พอเขาเห็นตำรับยานี้ก็สามารถมองออกได้ทันที"หนิงหนิง เจ้า..."สายตาของเซียวหลันยวนเหลือบมองลงไปบนท้องนางตามสัญชาตญาณ กลั้นหายใจ รู้สึกตึงเครียดหน่อยๆก่อนหน้านี้เดิมทีเขายังคิดว่า จาวหนิงตั้งครรภ์แค่ครั้งเดียวก็พอ จะลูกชายหรือลูกสาวก็ได้ถึงอย่างไรการคลอดเด็กสำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นเรื่องที่เหมือนเดินผ่านประตูผีเลยทีเดียวฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้ก็เคยคิดว่าตนเองจะตั้งครรภ์แค่ครั้งเดียวพอแต่ว่า น่าจะเพราะเด็กสองคนในครรภ์ที่แล้วว่าง่ายเกินไป ไม่ดื้อไม่ซนเกินไป คลอดออกมาได้ง่ายเสียขนาดนั้น จึงทำให้นางตอนนี้กัง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2580

    เซียวหลันยวนวางชามชาลง แล้วจึงเหยียบขึ้นเส้นทางกลับเมืองหลวงอีกครั้งพอเข้าเมือง ความเจริญรุ่งเรืองและความคึกคักก็พุ่งเข้ามาทันทีในเมืองดอกไม้บานสะพรั่ง ประชาชนและพ่อค้าที่สัญจรไปมา ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่นี่มาสองปีหรือว่าเพิ่งจะเข้ามา ก็อดไม่ได้ที่จะต้องมองไปรอบๆ เนื่องจากถูกทิวทัศน์อันงดงามของเมืองหลวงและร้านรวงต่างๆ รายรอบดึงดูดและข้างถนนก็ยังมีร้านรวงอีกไม่น้อย วางขายของกระจุกกระจิกต่างๆ ของเหล่านี้พ่อค้าที่มาจากภายนอกก็ชอบไปเดินชม เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาไปสถานที่อื่นแล้วยังไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยความสดใหม่พ่อค้าที่มายังตงฉิงช่วงนี้ ยังมีบางส่วนที่พาครอบครัวมาด้วย น่าจะเพราะพอกลับไปเล่า เหล่าภรรยาและลูกก็รู้สึกสนใจต่อตงฉิงอย่างมาก ดังนั้นคนที่มีฐานะหน่อยจึงพาครอบครัวมาด้วยด้วยเหตุนี้ บนถนนเมืองหลวง จึงสามารถมองเห็นคนต่างถิ่นที่พาครอบครัวเข้ามาด้วย"องค์จักรพรรดิกลับเมืองแล้ว"ขณะที่รถม้าของเซียวหลันยวนแล่นไปตามถนนใหญ่ ประชาชนสองฝั่งทางถนนกับเหล่าพ่อค้าก็มองเข้ามา ในสายตาล้วนเป็นความภาคภูมิใจ สีหน้าล้วนแสดงถึงความเลื่อมใสศรัทธา"นั่นคืออ๋องเจวี้ยนหรือ?" ข้างทางม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2579

    หยกตงฉิงขายออกไปครึ่งปีแล้ว และค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้นมาในแต่ละแคว้น อีกทั้งด้วยเหตุผลอีกหลายประการ ปัจจุบันปริมาณยังไม่มากพอ ดังนั้นราคาจึงถูกปั่นจนสูงลิบฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเสวียนทั้งสองคนหารือถึงความร่วมมือกับพ่อค้าใหญ่ในแคว้นต่างๆ ในนี้มีคำสั่งซื้ออยู่ไม่น้อยเลย แค่เหมืองหยกของตงฉิงแห่งนี้ ก็สามารถนำกำไรมหาศาลมาให้ตงฉิงได้แล้วเพราะการปรากฏตัวของหยกตงฉิง จึงดึงดูดพ่อค้าจำนวนมากหันมาสนใจตงฉิงมากขึ้นและตงฉิงตอนนี้ถ้าจะเข้ามาต้องได้ใบรับรองที่ด่านชิงอวี้ก่อน ด่านชิงอวี้นี้ เฉิงอวิ๋นเจี้ยนนำคนเข้าไปประจำการอยู่พวกเขามีสายลับอยู่ พอพบว่าคนที่จะเข้าตงฉิงมีพิรุธ ก็จะส่งข่าวไปที่ตงฉิงอย่างรวดเร็ว และหอเมืองของตงฉิงก็จะเตรียมปืนใหญ่พิทักษ์แคว้นขึ้นทันทีพวกของเซียวหลันยวนในช่วงสองปีที่ตระเตรียมเรื่องเหล่านี้ หลายครั้งที่ทำงานหนักจนลืมกินลืมนอน ยุ่งกันมากๆแต่ก็อาจเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างยุ่ง จึงไม่มีมีเวลาอยู่ด้วยกันบ่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ยินเรื่องราวของอีกฝ่ายจากปากของคนอื่น ความสัมพันธ์ระหว่างเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงกลับมีแนวโน้วที่ดีขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะตอนที่ได้ยินประชาชนหรือข้าร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2578

    ความหมายที่ว่าเซียวหลันยวนไม่ได้ตรงไปตรงมานักก็คือ สองปีนี้อันที่จริงเขาก็ส่งสายลับไปหาเรื่องแคว้นต่างๆ อยู่เนืองๆคนพวกนั้นจะทำทุกวิถีทางเพื่อส่งข้อมูลผิดพลาดให้กับจักรพรรดิของแต่ละแคว้น หรือไม่ก็สร้างความขัดแย้งและปัญหาบางอย่างในหมู่ขุนนางพวกเขา เพื่อให้พวกเขาไม่หันมาสนใจตงฉิงมากนักกระทั่งยังทำให้พวกเขาคิดว่า ตงฉิงทางนี้เกิดภัยธรรมชาติขึ้นอีกครั้ง ต่อให้พวกเขามาแย่งชิงไปก็ไม่คุ้ม ไม่ค่อยได้รับประโยชน์เท่าไรตอนนี้ในเมืองหลวงแคว้นต่างๆ พอได้ยินชื่อตงฉิง ก็มีข่าวลวงผิดพลาดสับสนวุ่นวายอยู่ไม่น้อยเลยเซียวหลันยวนไม่สนใจสักนิดว่าตงฉิงตอนนี้จะมีชื่อเสียงดีหรือไม่ดี เพราะตอนนี้สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือช่วงชิงเวลาที่เพียงพอมาทำให้ตงฉิงขยับขยายอย่างแข็งแกร่งขึ้นมา"แต่เหมือนข้าจะเห็นว่าช่วงนี้ในเมืองหลวงมีคนหน้าใหม่ไม่น้อยเลยนะ" อันชิงเอ่ยขึ้น"มีคนที่ดูเหมือนพวกพ่อค้าเข้ามาไม่น้อยเลย" องค์หญิงหนานฉือเองก็พูดขึ้นมาฟู่จาวหนิงยิ้มๆ "แน่นอน เรื่องอย่างหาเงินหากำไร พวกพ่อค้ามักจะมีความรู้สึกไวอยู่เสมอ ขณะที่พวกเราส่งข่าวลวงไปทางแคว้นต่างๆ พวกนั้น ก็จะแอบส่งข่าวปกติให้กับพ่อค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2577

    หนึ่งปีต่อมา ทุกด้านของตงฉิงก็เข้าที่เข้าทางแล้วและตอนนี้เอง จักรพรรดิและเหล่าขุนนางของแคว้นอื่นจึงเพิ่งได้ยินข่าวที่มากขึ้นของตงฉิงอันที่จริงครึ่งปีก่อนพวกเขาเองก็ได้ยินมาแล้วแต่ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้ใส่ใจนัก รู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนเซียวหลันยวนแค่ถูกจักรพรรดิเจาบีบจนไม่มีทางเลือก ดังนั้นจึงต้องหาทางรอดในสถานการณ์สิ้นหวังก่อนหน้านี้แต่ละแคว้นก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ส่งคนออกไปสำรวจซากปรักหักพังของตงฉิง ซึ่งมีทั้งที่หาไม่พบ มีทั้งหาพบบ้างบางส่วน จากนั้นก็ได้พบว่ามันเป็นเมืองร้างที่ "ตาย" ไปในกระแสประวัติศาสตร์แล้วต้องใช้แรงคนและทรัพยากรมหาศาลเลยทีเดียว แล้วพวกเขาเองก็มีแผ่นดินของตนเองอยู่แล้ว จึงไม่ได้ไปทุ่มเทเสาะหาต่อเท่าไรนักดังนั้นในใจคนมากมาย ตงฉิงก็เป็นเช่นนั้น เจอกับซากปรักหักพังแล้วทำไมล่ะ? เมื่อไม่มีคน ทั้งหมดก็สูญเปล่าจะให้พวกเขาส่งคนมากมายเข้ามา ก็น่าจะต้องเหน็ดเหนื่อยทั้งกายใจ ไม่รู้ว่าจะต้องลงทุนเงินทองอีกเท่าไรจึงจะสร้างให้ดีขึ้นได้ทุกคนแม้จะสนใจต่อทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ในอดีตของตงฉิง แต่ถ้าจะต้องบุกเบิกก็ไม่มีความสนใจกันแล้วดังนั้น ต่อให้รู้ว่าเซียวหลันยวนพาคนไปที่ตงฉิ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2576

    สามเดือนต่อมา ตงฉิงฟื้นฟูแคว้นราชวงศ์ตงฉิงเซียวหลันยวนขึ้นเป็นจักรพรรดิ มีนามว่าจักรพรรดิหมิงหนึ่งเดือนต่อมา จักรพรรดิหมิงสถาปนาฟู่จาวหนิงขึ้นเป็นฮองเฮา เซียวหลิงอี้ลูกชายคนโตขึ้นเป็นองค์รัชทายาทซืออวี๋ชิงจวินเป็นราชครูแคว้น เสิ่นเสวียนเป็นเสนาบดีซ้าย อันเหนียนเป็นเสนาบดีขวาฟู่จิ้นเชินขึ้นเป็นพระสัสสุระแห่งราชวงศ์ฟู่จาวเฟยถูกแต่งตั้งเป็นขุนพลเฟยหู่ จงเจี้ยนเป็นผู้บัญชาการราชองครักษ์ถังอู๋เจวี้ยนไม่ต้องการเป็นข้าราชการ ถังอู๋เยว่เข้าร่วมสำนักหมอหลวง แต่เพียงแค่ดูแลการรับแพทย์มาชั่วคราวเท่านั้น เพราะตอนนี้สำนักหมอหลวงยังมีแค่คนไม่กี่คนส่วนต่งฮ่วนจือศิษย์พี่รองฟู่จาวหนิงก็พาคนเข้ามาหลายคน แนะนำให้เข้าไปยังสำนักหมอหลวงองค์หญิงหนานฉือกับอันชิงทั้งสองคนเปิดสำนักศึกษาหญิงขึ้นแห่งหนึ่ง มีชื่อว่าสำนักศึกษาอวิ๋นจานหน่วยตีอาวุธของตงฉิงปัจจุบันถือว่าสำคัญอย่างยิ่งยวด ถังอู๋เจวี้ยนเองก็มีตำแหน่งอยู่ในนี้ คอยช่วยงานชั่วคราวฮองเฮาฟู่จาวหนิง ในช่วงนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความรอบรู้และพรสวรรค์หลากหลายของนาง นางแทบจะกลายเป็นคนที่มีความสามารถในทุกที่ สำนักหมอหลวงมักเชิญนางไปสอน หน่วยตีอา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status