คำนี้ของฟู่จาวหนิง ทำเอามุมปากเจ้าอารามโยวชิงกระตุกเขามองนางอย่างจนใจ ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมนางถึงพูดแบบนี้ออกมาได้"เสี่ยวเซ่อบอกมาหรือ?"หยวนอี้ตั้งสติกลับมาจากความกลืนไม่เข้าคายไม่ออก"ท่านเดาว่านี่เป็นสิ่งที่แม่นางคนนั้นพูดมา แสดงว่ามีเรื่องนี้อยู่จริงสินะ?"ฟู่จาวหนิงมองใบหน้าเซียวหลันยวน จุ๊ปากขึ้นมา "อายวนของข้าก็หน้าตาหล่อเหลาจริงอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสายเลือดราชวงศ์แคว้นเจาด้วย ตัวตนสูงส่ง ราชวงศ์แคว้นหมิ่นของพวกท่านไม่ใช่แค่จะเลือกใบหน้า แต่ยังให้ความสำคัญกับตัวตนฐานะอีกด้วยกระมัง?"ไม่เช่นนั้น นางที่หน้าตาดีขนาดนี้ คนอื่นทำไมถึงไม่คิดแบบนี้กับนางล่ะ?เพราะนางตัวตนฐานะไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงคู่ควรแค่ให้พวกเขาใช้งาน ให้นางไปทำงานงั้นสินะตัวตนฐานะแบบเซียวหลันยวน คือสายเลือดที่พวกเขาต้องการหยวนอี้สีหน้าจริงจัง "ข้าสงสัยมาตลอด ว่าที่เสี่ยวเซ่อทรยศข้ากับท่านพ่อ น่าจะเพราะนางเข้าหาคนอื่นๆ ในราชวงศ์ พอได้ฟังพระชายาพูดเช่นนี้ เช่นนั้นก็ยืนยันได้แล้ว ว่าเรื่องที่นางพูด น่าจะเป็นสิ่งที่เจ้านายคนอื่นของนางพูดไว้ ข้ากับท่านพ่อไม่มีความคิดเช่นนี้กับอ๋องเจวี้ยนเลย"นางตบโต๊ะ สีหน
หยวนอี้ไม่รู้ว่าเจ้าอารามโยวชิงมองออกได้อย่างไรนางใช้ตัวตนผู้ชายในโลกภายนอกมาตั้งแต่เด็ก พูดได้ว่า ตอนนี้ถ้าจะให้นางกลับไปเป็นหญิง นางเองก็ไม่รู้ว่าควรจะเดินเหินพูดจาอย่างไรด้วยซ้ำ พฤติกรรมการกระทำของนางเคยชินกับชายหนุ่มไปแล้วขนาดที่ฟู่จาวหนิงเป็นหมอคนหนึ่งก็ยังมองไม่ออก เจ้าอารามกลับมองออกเสียอย่างนั้นหยวนอี้รู้สึกหวาดๆ เจ้าอารามโยวชิงขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว"คุณหนูหยวน?" ฟู่จาวหนิงมองนางหยวนอี้มุมปากกระตุก ยอมรับแล้ว"ถูกต้อง ข้าเป็นหญิง"ทุกคนล้วนรู้สึกเกินคาดแต่ในใจเซียวหลันยวนกลับดีใจอย่างประหลาดเพราะพวกเขารู้มานานแล้ว ว่าหยวนอี้เข้ามาเพราะฟู่จาวหนิง ก่อนหน้านี้เขารู้สึกมาตลอดว่ามีชายหนุ่มอีกคนหมายปองพระชายาอยู่ ในใจขุ่นมั่วมากตอนนี้พอรู้ว่าหยวนอี้เป็นหญิง เช่นนั้นก็ไม่ได้มีความคิดแบบนั้นกับจาวหนิงแล้ว"แต่ข้าไม่ได้มาแต่งเป็นชายเพื่อมายังแคว้นเจา ไม่ใช่จงใจเพื่อมาหลอกพวกท่าน ข้าถูกเลี้ยงดูเป็นชายตั้งแต่ยังเด็กแล้ว"ในเมื่อพูดออกมาแล้ว หยวนอี้ก็เลยพูดให้ชัดเจนไปเลยนางมองฟู่จาวหนิง "ตอนนี้พระชายาเองก็น่าจะเชื่อ ว่าข้าไม่มีเจตนาร้ายกับท่าน กระทั่งว่า ในฐานะหญิงสาว ข้าย
รวมถึงเจ้าอารามโยวชิงด้วยนางเดิมทีก็ลุกขึ้นมาครึ่งตัวแล้ว จึงค่อยๆ นั่งกลับลงไปคนเหล่านี้ ในใจเย็นชากันมากแต่พวกเขาไม่สนใจ นางเองก็ไปสนใจไม่ได้ตอนนี้นางมองออกแล้ว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไม่เป็นอะไรเลย เป็นได้แค่ภาระ เป็นได้แค่ความยุ่งยาก"ไปดูหน่อย อย่าให้นางวิ่งพล่านในจวนอ๋อง" เซียวหลันยวนส่งสายตาให้สือลิ่ว"ขอรับ"สือลิ่วตามออกไปทันทีหยวนอี้ตกตะลึงอีกครั้ง "ความหมายของอ๋องเจวี้ยนคือ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจะไม่วิ่งออกไปจากจวนอ๋องเจวี้ยนหรือ?"เมื่อครู่พอนางพูดแล้วก็พุ่งออกไปแบบนั้น นางยังคิดว่าจะออกจากจวนอ๋องเจวี้ยนไปเสียอีกเซียวหลันยวนหัวเราะเย็นชา "หลังจากนางวิ่งออกไปก็เลี้ยวซ้าย นั่นไม่ใช่ทิศของประตูจวนอ๋องเสียหน่อย"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลัวตายมาก นางรู้ว่าต้าชื่อไม่คิดจะล้มเลิกเรื่องจับตัวนาง ในเมืองหลวงเองก็ไม่รู้ว่ามีองครักษ์ต้าชื่อคอยหาตัวนางอยู่หรือเปล่าถ้านางออกจากจวนอ๋องเจวี้ยนไปคนเดียว คืออันตรายมากดังนั้นนางไม่มีทางออกไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็มีโชคติดตัวอยู่จรงิๆ เจอกับอันตรายหลายครั้งขนาดนี้ นางก็ยังรอดมาได้แบบไร้ริ้วรอยหยวนอี้รู้สึกหมดคำจะพูดเจ้าอาราม
ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนครั้งนี้กลับเมืองหลวงมาแค่ไม่กี่วัน ก็ต้องไปที่เขาชิงถงรักษาน้องชายเขาแบบที่รับปากถังอู๋เจวี้ยนไว้ก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าเจ้าอารามตอนนี้จะพูดความคิดนี้ออกมา จะให้พวกเขาพาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไปที่เขาชิงถงฟู่จาวหนิงหลังได้สติก็หัวเราะขึ้นมา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยอมไปเขาชิงถงหรือ?" นางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างขำๆองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองเจ้าอารามโยวชิงอย่างตกตะลึงระคนสงสัยก่อนหน้านี้ไม่เห็นเคยเผยความคิดนี้กับนางมาก่อนเลยแต่พอสบสายตากับเจ้าอารามโยวชิงแล้ว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เข้าใจ ว่าต่อให้พวกเขาจะอยู่ในห้องเดียวกันกับเขามาตลอดถึงสองคืนะเพื่อความปลอดภัยในเมืองเล็กนั่น แต่เจ้าอารามก็ไม่เคยคิดจะพานางไปด้วยเพื่อปกป้องนางไปตลอดเลยเจ้าอารามโยวชิงเอ่ยขึ้นเรียบๆ "เขาชิงถงถือว่าปลอดภัยอยู่ คนของต้าชื่อถ้าไม่ล้อมกรอบโจมตีแคว้นเจา ก็ไม่มีทางไปถึงเขาชิงถงจับตัวเจ้าได้"ถ้าคิดจะไปจับคนจากตระกูลถัง นั่นก็ต้องเคลื่อนกำลังพลไม่น้อย ต้าชื่อถ้าเคลื่อนคนมากขนาดนี้เข้ามาในแคว้นเจา แคว้นเจาคงไม่เห็นด้วยแน่หรือก็คือ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอยู่ในเขาชิงถงคือปลอดภัยแต่ว่า นับจาก
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหน้าแดงก่ำฟู่จิ้นเชิน!เขาเป็นแค่ประชาชนธรรมดาคนนึงเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นพ่อตาของอ๋องเจวี้ยนก็ตาม!เขากล้าได้อย่างไร? ทำไมจึงกล้าพูดหยามหมิ่นนางแบบไม่ไว้หน้ากันเช่นนี้?มีสิทธิ์อะไรบอกว่าอ๋องเจวี้ยนไม่มีทางรักนางอย่างจริงใจ?นางไม่ดีตรงไหนกันแน่?แต่นางก็ไม่สามารถโต้เถียงจุดนี้กับฟู่จิ้นเชินด้วยตัวเอง นางจะถามกลับไปได้หรือ ว่านางไม่ดีตรงไหนกัน ตรงไหนที่สู้ฟู่จาวหนิงไม่ได้?องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นรุ้สึกว่า ถ้านางถามคำนี้ออกไป ฟู่จิ้นเชินคงซัดกลับมาโหดร้ายยิ่งกว่า!นางโงนเงนเหมือนจะล้มอ๋องเจวี้ยนตอนนี้ดันพยักหน้าให้อย่างเห็นด้วย "ท่านพ่อตาพูดได้ถูกต้อง ข้าไม่มีทางรักใคร่คนประเภทนี้"ประเภทนี้ พูดให้ชัดเจนสิ ว่านางเป็นคนประเภทไหน!หยวนอี้เดิมทียังคิดจะดูอยู่ห่างๆ แต่พอนางเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเหมือนจะเ็นลม ก็รู้สึกเห็นใจขึ้นมาถึงอย่างไรก็เป็นหญิงสาวอ่อนแอคนนึง ทำไมถึงต้องถูกรังแกขนาดนี้?นางมุมปากกระตุก สายตากวาดไปทางฟู่จิ้นเชิน และก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยน เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ทั้งสองท่าน ว่ากันว่าบุรุษควรมีใจกว้างขวาง เปิดเผยตรงไปตรงมา พวกท่านพูดแบบนี้เ
เจ้าอารามโยวชิงหลังจากเห็นฟู่จิ้นเชิน จู่ๆ ก็ลังเลขึ้นมาแล้วเดิมทีเขาคิดจะให้อ๋องเจวี้ยนรับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเอาไว้ถึงอย่างไรเขากับองค์หญิงใหญ่ก็เคยสัมผัสกันในถ้ำภูเขาบนยอดเขาโยวชิงมาแล้ว เขาจึงรู้สึกติดค้างนาง รู้สึกต้องหาทางดูแลนางให้ ไม่เช่นนั้นในใจคงรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยแต่ว่า ฟู่จิ้นเชินมาจากที่ไหนกันแน่?ถ้าหากฟู่จิ้นเชินเป็นรุ่นหลังของตระกูลฟู่นั้น แบบนี้ฟู่จาวหนิงก็เท่ากับเป็นรุ่นหลังของตงฉิงเช่นนั้นความคิดเขาก็อาจจะเปลี่ยนไปนิดหน่อยแล้วถึงอย่างไร เขาเคยคิดว่าจะจะค้นหาคนของตงฉิงที่ยังมีชีวิตอยู่เหล่านั้นออกมาอยู่แล้วถ้าตงฉิงคิดจะฟื้นฟูแคว้น ก็จำเป็นต้องมีประชาชน ไม่มีประชาชน แล้วจะมีแคว้นได้อย่างไร?ส่วนประชาชนที่อยู่ในแคว้นอี้ แม้ภายหลังยังสามารถไปตงฉิงได้ แต่จะคู่ควรมาเป็นคนในเมืองหลวงตงฉิงได้อย่างไรกัน?"เจ้าอาราม..." องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเขานิ่งเงียบ ใจก็อดดำดิ่งไม่ได้ นางมองเขาอย่างอ้อนวอนไม่สนใจนางไม่ได้สิ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมีเรื่องอะไรถึงไม่พูดออกมาเองหรือ?" ฟู่จิ้นเชินเหลือบมองนางผาดหนึ่งเขามองออกแล้ว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดจะให้เจ้าอารามโยวชิงพูด