เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับซ่งอวิ๋นเหยาชิงอีมองเซียวหลันยวนอย่างกังวลแล้วจะทำอย่างไรดี?ซ่งอวิ๋นเหยากับท่านอ๋องเคยมีมิตรภาพวัยเด็กด้วยกันนี่นา ท่านอ๋องยังจำความอบอุ่นที่ซ่งอวิ๋นเหยามอบให้เขาเมื่อครั้งอดีตได้อยู่ก่อนหน้านี้ในเมืองหลวงมีคนนำซ่งอวิ๋นเหยากับท่านอ๋องมาพูดล้อเล่น เข้าใจมาตลอดว่าซ่งอวิ๋นเหยาจะกลายเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านอ๋องเองก็ไม่คิดจะอธิบายอะไรแต่ตอนนี้ซ่งอวิ๋นเหยากลับเกี่ยวข้องกับเรื่องที่พระชายาหายตัวไป ท่านอ๋องจะทำอย่างไรกัน?"ให้คนจับตาดูไว้""หาคนไปถามเซี่ยซื่อที่บ้านตระกูลหลิน""ขอรับ""คุณหนู"เฉินซานขับรถเข้ามาแล้ว รถเพิ่งจะจอด เสี่ยวเถาก็กระโดดลงมาจากรถม้า สืออีมาประคองตัวนางทันทีถ้าไม่ประคองไว้ ดูท่าเสี่ยวเถาคงได้ขาพลิกแน่สืออีพอเห็นเซียวหลันยวน ก็คารวะทันที"ข้าน้อยสืออี คารวะท่านอ๋อง!"สีหน้าเขาเปลี่ยนไปแล้ว นี่เกิดอะไรขึ้น?เขาปกป้องเสี่ยวเถากับหลินอันห่าวกลับไปหาเซี่ยซื่อ พอกลับมาก็เป็นเช่นนี้ไปแล้วหรือ?สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปบนตัวเขาถูกเขาเหลือบมองมาเช่นนี้ สืออีก็สั่นสะท้านวาบไปทั้งร่าง เขาคุกเข่าลงทันที"ข้าน้อยผิดไปแล้ว! ท่านอ๋องโป
หลังจากที่เซียวหลันยวนเข้ามาก็เดินตรงไปยังศาลาผ่านไปนาน ควันไฟในนี้มอดดับไปแล้ว เขาเข้าไปเดินวนรอบหนึ่งก็ถอยออกมาทันทีฟู่จาวหนิงมองท่าทางของเขา ก็สงสัยว่าเขาน่าจะสังเกตเห็นแล้วว่าในศาลามียาอยู่ไม่เช่นนั้นก่อนหน้านี้ตอนที่เดินเข้ามาในศาลแล้วจะถอยออกไปกะทันหันทำไมกัน?ไร้สีไร้กลิ่น เขาสัมผัสได้นี่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมอยู่ น่าจะเพราะเขาป่วยมานาน ติดพิษมาแล้วหลายครั้ง จนทำให้เขารู้สึกไวต่อสิ่งเหล่านี้เดิมทีฟู่จาวหนิงยังคิด ถ้าเข้ารออยู่แต่ในศาลานั่น ถึงตอนนั้นนางต้องมานั่งแก้พิษให้เขาอีกร่างกายอ่อนแออย่างเซียวหลันยวน จริงๆ คือห้ามติดพิษอะไรอีกแล้ว ทำร้ายต่อร่างกายเขาอย่างมากยังดีที่ตัวเขารู้สึกถึง แค่เข้ามาเดินวนรอบหนึ่งก็ออกไปแล้ว เขาเหมือนกับเข้ามาเพื่อยืนยันอะไรสักอย่างเขายังไปค้นหาที่ต่างๆ ในเรือนต่ออีกรอบหนึ่งจากนั้นจึงถอยออกไปฟู่จาวหนิงอดคิดขึ้นไม่ได้ เขาคงไม่ได้เข้ามาหาตัวนางหรอกกระมัง?เป็นห่วงนางขนาดนี้เลยหรือ?นางรีบออกจากห้องเภสัช รีบวิ่งออกจากเรือนนี้ พอคิดๆ ก็ยังไม่เตรียมออกไปทางประตูใหญ่ประตูใหญ่ทางนั้นจะต้องมีคนเฝ้าอยู่แน่ ในเมื่อเซียวหลันยวนยังเข้ามาเลย ตอน
เซียวหลันยวนดึงนางไว้ ใช้กำลังภายในพานางกระโจนออกจากกำแพงเรือน ออกจากหอจันทร์หยาดไป ในนี้เขารู้สึกว่ามันสกปรก ดังนั้นจึงไม่อยากจะให้นางเอาแต่อยู่ในนี้พอคนด้านนอกเห็นพวกเขาออกมา ก็ล้วนเข้ามารรับอย่างยินดีปรีดา"ท่านอ๋อง พระชายา!""พระชายาท่านกลับมาแล้วหรือ?""คุณหนู!" เสี่ยวเถาเองก็รีบโถมตัวเข้ามา แต่พอวิ่งมาถึงด้านหน้าตอนที่เห็นมือของฟู่จาวหนิงถูกอ๋องเจวี้ยนจูงไว้นางก็รีบหยุดเท้าตัวโก่ง ไม่กล้าโถมเข้าไปแล้ว"เอ่อ ข้าไม่เป็นไร"พอเห็นพวกเขาเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกเขินหน่อยๆนางยังเห็นสืออีที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วย สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กๆ "สืออี เจ้าทำอะไรน่ะ?""คุณหนู สืออีบกพร่องในหน้าที่ ทำให้ท่านตกอยู่ในอันตราย สืออีรู้ผิดแล้ว"สืออีคุกเข่าอยู่นานแล้ว ไม่กล้าขยับเขยื้อนเลย"ลุกขึ้นมา"ฟู่จาวหนิงเรียกให้เขาลุกขึ้น แต่สืออียังคงคุกเข่าอยู่"เจ้าบกพร่องในหน้าที่ตรงไหนกัน? เป็นข้าที่ให้เจ้าคุ้มกันน้องสาวข้าออกไป เจ้าก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น เจ้าทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว เจ้าบกพร่องในหน้าที่ตรงไหนกัน?"ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะลงโทษสืออีเช่นนี้ พอเห็นว่าเขายังนั่งนิ่
วันนี้วุ่นวายมาทั้งวัน พอมาถึงจวนอ๋องเจวี้ยน หงจั๋วเฝิ่นซิงทั้งสองคนก็ดีอกดีใจวุ่นวายกันขึ้นมา เตรียมน้ำให้นางอาบ เช็ดผมให้นาง จากนั้นก็เตรียมอาหารค่ำให้พวกเขารอจนฟู่จาวหนิงสวมเสื้อผ้าใหม่กินอาหารค่ำเลิศรสแล้ว ก็ถูกหงจั๋วคลุมเสื้อคลุมตัวหนึ่งลงมาให้"พระชายา อ๋องเจวี้ยนอยู่ในเรือนรอท่านอยู่""รอข้าทำไมกัน?""ไปเดินเล่นย่อยอาหารกระมัง" หงจั๋วเม้มปากยิ้มขึ้นมา "สมัยก่อนท่านอ๋องล้วนเดินอยู่คนเดียว ตอนนี้พระชายาไปเดินเป็นเพื่อนท่านอ๋องด้วยกันได้แล้ว"ไม่สิ หน้าตามีความสุขของเด็กคนนี้มันอะไรกัน?นางแม้จะรู้ว่าการเดินหลังจากกินนั้นดีมาก แต่ว่านางวันนี้เหนื่อยแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นจะดูด้วยว่ารีบกลับไปบ้านตระกูลฟู่เพื่อถามเสี่ยวเถาเสียหน่อย ว่าวันนี้หลินอันห่าวกลับไปแล้วเป็นอย่างไรบ้างเซี่ยซื่อจะให้อันห่าวออกมาคนเดียวได้อย่างไรกัน?วันนี้ดูท่าเซี่ยซื่อคงตกอกตกใจมากกระมังแต่ว่านางก็ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกหงจั๋วผลักออกมาจากเรือนแล้วหลังออกมาก็เห็นเซียวหลันยวนคลุมผ้าคลุมผืนหนึ่ง กำลังยืนอยู่ด้านนอก ท่าทางเหมือนกำลังรอนางอยู่จริงๆนางหันหน้ากลับมองหงจั๋วผาดหนึ่ง หงจั๋วเองก็ส่งสัญญาณม
"แต่ว่า เขาปฏิเสธหรือ?"เซียวหลันยวนพยักหน้า "ใช่ เขาปฏิเสธแล้ว""ฮองเฮาขายหน้าจนหมดจดต่อหน้าฮูหยินหรงเยว่ เพราะนางคิดว่าเรื่องนี้ถ้านางเอ่ยปากเองคือมั่นใจไปเก้าส่วนแล้ว ผลลัพธ์คือทำให้ฮูหยินหรงเยว่ก็ถูกฟู่จิ้นเชินปฏิเสธอีกครั้ง นางตอนนั้นก็อับอายจนแทบจะไปโขกเสาอยู่แล้ว""นี่มันอ่อนแอเสียจริง"และเพราะชายหนุ่มที่อยากออกเรือนด้วยไม่ยินยอมรับนางเป็นภรรยา ดังนั้นเลยอยากจะตายหรือ?แต่ดูฮูหยินหรงเยว่ก็ไม่เหมือนพวกที่จะยอมเป็นยอมตายง่ายแบบนั้นเลยนี่นา"ตอนนั้นเพื่อไม่ให้เรื่องบานปลายจนจัดการไม่ไหว องค์รัชทายาทก็น่าจะอณุญาตอะไรบางอย่างให้กับฮู่หยินหรงเยว่ ดังนั้นตอนที่องค์รัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์ หลังจากที่นางขึ้นเป็นฮองเฮา จึงให้ประโยชน์บางอย่างกับฮูหยินหรงเยว่ กลายมาเป็นเบื้องหลังของนาง"ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้"แต่ข้ารู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะไม่ได้ง่ายดายเช่นนี้? แค่เพื่อหน้าตาเท่านั้นหรือ?""พวกเขาต่อมาจะต้องมีแผนชั่วอะไรอยู่แน่ๆ อย่างเช่นหอจันทร์หยาดของฮูหยินหรงเยว่นี้ อันที่จริงมีเงินของฮองเฮาอยู่ด้วย นี่อาจจะเป็นลู่ทางหาเงินให้ตนเองของฮองเฮาอีกทางก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้นฮองเฮามีเรื่องอะ
ทั้งสองคนล้วนดิ่งสู่ความเงียบงันหลังจากคำพูดนี้ของเซียวหลันยวนและไม่รู้เพราะอะไรถึงรู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองอย่างประหลาดเซียวหลันยวนคิดถึงความรู้สึกในใจที่ควบคุมไม่ได้อย่างหนัก ตอนที่พบว่าคนในศาลาทำเรื่องเช่นนั้นในวันนี้ช่วงบ่าย"ท่านกลัวว่าเป้าหมายที่แต่งงานกับข้ายังไม่สำเร็จ แล้วข้าเกิดเรื่องขึ้นมาก่อนสินะ" ฟู่จาวหนิงถามถึงอย่างไรเขาก็คิดจะรอให้พวกของฟู่หลินซื่อกลับมาอยู่แล้ว ตอนนี้ฟู่หลินซื่อยังไม่กลับมา ถ้าหากนางเกิดเรื่องอะไรขึ้นจนทำให้เขาจำใจต้องหย่าร้างกับนาง เช่นนั้นการแต่งงานนี้ก็จะสูญเปล่าสินะ?ถึงตอนนั้นยังทำให้เขาต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านอีก อับอายขายขี้หน้า"ก่อนหน้านี้เจ้าก็ชอบไล่ตามเซียวเหยียนจิ่งมายังหอจันทร์หยาด แล้วครั้งนี้เซียวเหยียนจิ่งนัดเจ้าออกมาหรือ?"เซียวหลันยวนพอพูดถึงเรื่องนี้ ในใจก็เจ็บจี๊ดเขามีความรู้สึกเช่นนี้เป็นครั้งแรก ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่"เรื่องนี้น่ะ มันเกิดขึ้นเพราะตัวท่านเลยเถอะ!"เขาไม่พูดยังพอว่า แต่พอพูดออกมา ฟู่จาวหนิงก็เดือดดาล"ข้า?" เซียวหลันยวนชี้ตนเอง"ท่านนั่นล่ะ คนที่นัดข้าออกมาคือซ่งอวิ๋นเหยา ข้าไม่เชื่
เซียวหลันยวนได้ยินคำพูดของนางก็อยากจะขำ"ดังนั้น เจ้าเผ่นไปที่ไหนกัน? ขนาดองค์รักษ์เงามังกรยังหาเจ้าไม่พบเลย?" จุดนี้ทำให้เซียวหลันยวนแปลกใจอย่างที่สุด"ถึงอย่างไรท่านก็บอกว่าข้าเกิดปีหนูไม่ใช่หรือ ท่านก็มองข้ามุดไปซ่อนในรูเลยก็แล้วกัน"ฟู่จาวหนิงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว "แต่ว่าท่านใช้งานองครักษ์เงามังกรเช่นนี้ ไม่ใช่เป็นการงัดกับเบื้องหลังของฮูหยินหรงเยว่หรอกหรือ ไม่กลัวองค์จักรพรรดิกริ้วหรือไร?"หอจันทร์หยาดที่องค์จักรพรรดิฮองเฮาคิดจะปกป้อง ท่านคิดจะปิดก็ปิดเลยแบบนี้ มิน่าองค์จักรพรรดิถึงได้เอาแต่คอยระแวงเขา"กลัว?" เซียวหลันยวนมองนาง หัวเราะร่าขึ้นมา "ข้าเพราะกังวลพระชายา จึงไม่ได้คิดให้รอบคอบ ลนลานไปหมด เช่นนี้ก็น่าจะเข้าใจได้กระมัง? จะว่าไป องครักษ์เงามังกรอยู่ในมือข้า เขายังต้องมาวุ่นวายอีกหรือว่าข้าจะใช้งานอย่างไร?"มีฝีมือก็มาเอาองครักษ์เงากลับไปสิประโยคนี้เซียวหลันยวนไม่ได้พูด แต่ว่าฟู่จาวหนิงฟังออกแล้ว"เฮอะไ ตอนนี้องค์จักรพรรดิไม่ใช่ว่าคิดจะเก็บอำนาจในมือท่านหรือไรกัน? ท่านเองก็ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ถ้าวันไหนองครักษ์มังกรเงาถูกเก็บกลับไปล่ะก็ เช่นนั้นท่านก็ย่ำแย่แ
ฟู่จาวหนิงหลังจากถามออกมาก็ไม่รอให้เซียวหลันยวนตอบ เข้าใจขึ้นมาทันที "ท่านกำลังกังวลว่าจะข้าไปทำให้ซ่งอวิ๋นเหยาเดือดร้อนหรือ ดังนั้นจึงคิดจะมาขวางข้าที่นี่?"เซียวหลันยวนยกมือดีดไปที่หน้าผากนางทีหนึ่งเสียงดัง "เผียะ""คิดอะไรของเจ้า?" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น "ข้าจู่ๆ เพิ่งนึกออกได้ว่าเคยเห็นตราหยกของเฮ่อเหลียนเฟยที่ไหน รูปภาพนั้นน่ะ""หา?ฟู่จาวหนิงงงงัน "ที่ไหนกัน?""จากบนตัวของคนที่มาจากต้าเฮ่อคนหนึ่ง" เซียวหลันยวนเอ่ยถึงท่านเสิ้น"เสิ่นเสวียน?"หลังจากที่ฟู่จาวหนิงได้ยินเรื่องราวของเสิ่นเสวียนจากตระกูลเสิ่นแห่งต้าเฮ่อจึงพบว่า ตนเองถูกเซียวหลันยวนพามายังโถงหน้าเพื่อกินข้าวเช้าอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวเสียแล้ว"อืม เขาคือคนที่จากแคว้นเจาพร้อมกับซ่งอวิ๋นเหยา ซ่งอวิ๋นเหยาจะพาหมอเทวดาหลี่ไปรักษาเขา แต่เหมือนว่าต้องรออีกสามวัน เสิ่นเสวียนจึงต้องหยุดพักลงมาเสียก่อน""แล้วทำไมถึงเป็นสกุลเสิ่นกันล่ะ?"ฟู่จาวหนิงดูงงงัน เพราะบนตราหยกชิ้นนั้นสลักอักษรฟู่ไว้ตอนนี้บนเสื้อผ้าของคนสกุลเสิ่นมีภาพนั้นอยู่ รู้สึกว่าดูไม่ค่อยเข้าทีเลย"ตระกูลเสิ่น เป็นตระกูลเก่าแก่มีชื่อเสียงเลื่องชื่อแห่ง
คิดไม่ถึงว่าตรงนี้ยังมีเรื่องของนางอยู่ด้วย?"ข้าน้อยพบว่า สินค้ามากมายของนายท่านเจี๋ยเป็นของที่ฮูหยินอู๋คนนั้นให้มา ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านเจี๋ยก็ยังฟังคำพูดฮูหยินอู๋มากด้วย ฮูหยินเฉิงคิดว่านายท่านเจี๋ยชอบนางมากจริงๆ แต่อันที่จริงคนที่นายท่านเจี๋ยชอบคือฮูหยินอู๋"เซียวหลันยวนขมวดคิ้วพูดไปพูดมาก็ยังวกอยู่กับความรักของคนสามคนนั้น? สับสนยุ่งเหยิงไปหมดแต่เซียวหลันยวนเองก็รู้ว่าคนผู้นี้พอพูดถึงฮูหยินอู๋แล้ว เรือ่งก็น่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาจึงระงับความรำคาญแล้วฟังต่อไป"นายท่านเจี๋ยมาที่เมืองจื่อซวี เป็นคำสั่งของฮูหยินอู๋ และที่นายท่านเจี่ยเลือกฮูหยินเฉิง ก็เป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย นายท่านเจี่ยให้ข้าไปคัดคน ให้พวกเขาขึ้นยอดเขาโยวชิงหาตัวพระชายามารักษาโรค น้ำเสียงที่บอกกับข้ามาตอนนั้น ก็เหมือนจะเป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย"ฟังถึงจุดนี้ เซียวหลันยวนก็หน้าขรึมลง"ดังนั้น นี่เป็นคำสั่งของตระกูลอู๋รึ?""เรียนท่านอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่กล้ายืนยัน พูดได้แค่ว่าข้าน้อยได้ยินมาคือแบบนี้ ไม่กล้าปิดบังท่านอ๋อง เพื่อไม่ให้ท่านอ๋องตรวจสอบผิดทิศทาง""ให้เงินประชาชนพวกนั้นไปเท่าไร?""
พอได้ยินว่าหวดแส้ห้าสิบที แล้วยังสาดน้ำเกลืออีก คนติดตามคนนั้นก็พับยวบลงไป"อ๋องเจวี้ยนโปรดไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย!""ตี" เซียวหลันยวนไม่มีปราณี พอเห็นว่าไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไรก็คิดจะตีลงมาฟาดแสห้าสิบที ชีวิตคงไม่เหลือแน่ๆ"ข้าบอกข้าบอกแล้ว!" คนติดตามตกใจจนน้ำหูน้ำตาไหลชิงอีเห็นเขาก็ร้องหึในลำคอ"ขี้ขลาดแบบนี้ ยังกล้าคิดจะวางแผนทำร้ายพระชายาเราอีก?"ยังคิดว่าจะแข็งกร้าวหน่อย ที่แท้ก็แค่นี้เอง?"ข้าน้อยแต่ก่อนเคยอยู่ที่เมืองหลวงจริงขอรับ เป็นญาติบ้านฝ่ายหญิงฮูหยินรองแห่งจวนตระกูลซ่งในเมืองหลวง"จวนตระกูลซ่ง ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยายังเป็นท่านหญิง จวนตระกูลซ่งทุกวันก็เต็มไปด้วยรถม้าสัญจรไปมา เป็นตระกูลที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูซ่งอวิ๋นเหยาคิดจะทำร้ายฟู่จาวหนิง นางกับตระกูลซ่งถูกเซียวหลันยวนถอนรากถอนโคน ตอนนี้ในเมืองหลวงไม่มีจวนตระกูลซ่งอยู่อีกแล้วเซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้คิดว่าที่นี่จะมีคนที่เกี่ยวข้องไปถึงจวนตระกูลซ่งอยู่ด้วย"หลังจากจวนตระกูลซ่งเกิดเรื่อง ครอบครัวของเราเองก็ล้วนหดหัวใช้ชีวิตกัน พวกเพื่อนๆที่เคยเรียกกันเป็นพี่น้องของข้าก็ทอดทิ้งข้าไม่สนใจข้า ร้านรวงที่เกี่ยวข้องกับจว
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งที่พวกนางก่อนหน้านี้ทะเลาะกันใหญ่โตขนาดนั้นแท้ๆ และรู้ว่าหล่อนต้องไม่ชอบนางแน่ แต่ก็ยังวิ่งแจ้นมาโผล่ตรงหน้าเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อยในเมื่อกระทั่งเซียวหลันยวนก็ยังปล่อยวางแล้ว เช่นนั้นก็ควรจะอยู่ห่างจากนางหน่อยถึงจะถูก"นี่ท่าน...""หลบไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงผลักนางออกไปข้างๆ เดินผ่านข้างตัวนางไป"ฟู่จาวหนิง!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดจะยื่นมือไปดึงนาง แต่เสี่ยวเยว่ก็เข้ามาขวางแทนฟู่จาวหนิงแล้ว "องค์หญิงใหญ่โปรดสำรวมด้วย"อย่าเอาแต่พัวพันกับคุณหนูของพวกเขาให้ตายสิ แค่เพื่ออ๋องเจวี้ยนคนเดียว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพัวพันคุณหนูของพวกนางนานเกินไปแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้แค่มองฟู่จาวหนิงเดินจากไปนางกัดฟัน เต็มไปด้วยความจนใจและผิดหวังเซียวหลันยวนลงเขาไป เพียงไม่นานก็ตรวจสอบจนเจอคนที่ยุยงคนเหล่านั้นให้ขึ้นไปหาฟู่จาวหนิงบนยอดเขาโยวชิงแม้จะไม่ใช่ฮูหยินเฉิง แต่ก็เกี่ยวข้องกับฮูหยินเฉิงอยู่ระดับหนึ่งหลังจากเจ้าอุทยานเฉินตายไป มีพ่อค้ามั่งคั่งคนหนึ่งนำขบวนพ่อค้าผ่านเมืองจื่อซวี ตนเองก็คิดไม่ถึงว่า จะสามารถทำกำไรอย่างมา
"แต่ที่ข้าเห็นในการทำนายดารา ถ้าหากข้ายังอยู่กับอ๋องเจวี้ยน สุด้ายข้าก็ถูกท่านฆ่าตายอยู่ดี! ท่านรู้ไหมว่าทำไมท่านถึงมาฆ่าข้า? เพราะท่านกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ด้วยกันตลอด หลังจากนี้ก็จะเจอความยากลำบากครั้งใหญ่ด้วยกัน เรื่องเหล่านั้นจะกดดันตัวท่าน ทำให้ท่านพังทลาย ตอนนั้นท่านก็บิดเบี้ยวไปหมดแล้ว เอาแต่จะเกาะเขาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวทั้งหมดที่เข้าใกล้อ๋องเจวี้ยน ท่านล้วนเกลียดชัง ล้วนคิดจะฆ่าทิ้งให้หมด!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลัวฟู่จาวหนิงไม่ฟัง ดังนั้นจึงพูดออกมาอย่างรวดเร็วและร้อนรนนางยื่นมือจะจับแขนฟู่จาวหนิง แต่ก็ถูกฟู่จาวหนิงเบี่ยงออก"จริงนะ แม้ข้าจะถูกเจ้าฆ่าตายไปแล้ว แต่สุดท้ายสภาพเจ้าแบบนั้นก็น่ากลัวมาก! เจ้าเปลี่ยนไปหมด เหมือนนางปีศาจไม่มีผิด ไม่ใช่หมอเทวดาที่ผู้คนยกย่องอีกแล้ว ไหนๆ ก็รู้จักกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ล้วนเป็นหญิงสาว ท่านเองก็ยังเคยรักษาโรคของข้ามาแล้ว ข้าไม่อยากเห็นท่านกลายเป็นแบบนั้นในตอนท้ายเลยจริงๆ!""ถึงตอนนั้น อ๋องเจวี้ยนก็จะรังเกียจท่าน ไม่ดีกับท่านอีกแล้ว สุดท้ายพวกท่านก็จะเกลียดชังกัน ข้าไม่เห็นว่าตอนสุดท้ายพวกท่านเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายท่านก็สู้เขาไม่ได
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม