" ท่านจะปล่อยข้าไปจริงหรือ"
หลิวซืออินเอ่ยถามด้วยความคาดหวัง อีกฝ่ายพยักหน้ารับ
" หากเจ้าไม่คิดจะแต่งกับข้า ข้าก็จะส่งเจ้ากลับไป แต่ข้าต้องนำเรือลำนี้ ไปส่งคืนเพื่อนของข้าเสียก่อน"
เรือลำนี้ไม่ใช่ของเขา เยี่ยเหวินจ้าวยืมเรือมาจากเพื่อนของเขาคนหนึ่ง เขาจึงต้องนำเรือไปคืนเจ้าของ
" ระหว่างนี้ ข้าให้โอกาสเจ้า คิดทบทวนให้ดี หากเจ้ากลับไป ครอบครัวของเจ้า จะยินดีให้เจ้ากลับไปอยู่ด้วยหรือไม่"
สตรีถูกส่งขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว ก็เหมือนน้ำที่สาดออกนอกเรือน มิอาจรับกลับคืน หลิวซืออินรู้ข้อนี้ดี แต่นางต้องการพบท่านย่า อยากกลับไปดูแลท่าน หวังเพียงท่านอาจะเห็นใจ
"นั่นเป็นปัญหาของข้า เจ้าไม่ต้องคิดแทนข้า"
" เช่นนั้นข้าจะตามใจเจ้า เราคงต้องอยู่บนเรือนี้กันอีกสักสองวัน ระหว่างนี้ เจ้าก็ทบทวนว่าจะทำอย่างไรต่อไป"
"เจ้าส่งเรือคืนแล้ว ก็ส่งข้าขึ้นฝั่ง ข้าจะกลับบ้านเอง"
หลิวซืออินคิดเพียงอยากจะกลับบ้าน โลกของนางคือท่านย่าและบ้านตระกูลหลิว นางไม่คิดจะไปอยู่ที่ใดนอกจากที่นั่น
"เจ้ามันคนโง่ โลกนี้โหดร้ายกว่าที่เจ้าคิด เอาเถอะ หากเจ้ากลับไปแล้วครอบครัวของเจ้าไม่ยอมรับ ข้าก็จะดูแลเจ้าเอง"
เยี่ยเหวินจ้าวเหลือทางเลือกให้นาง เขาเชื่อว่าเมื่อนางกลับไป ครอบครัวคงไม่ยอมรับ ถึงเวลานั้นนางก็ต้องกลับมาหาเขา
" นั่นมันเรื่องของข้า ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะเข้ามายุ่ง เราต่างคนต่างอยู่ ไม่เกี่ยวข้องกันเถอะ"
หลิวซืออินลุกขึ้นเดินหนีเข้าห้องไป เยี่ยเหวินจ้าว มองนางด้วยสายตาระอาใจ สตรีผู้นี้ทั้งดื้อดึงและโง่เขลา หากปล่อยไปจะเอาตัวรอดได้อย่างไร
///
ครอบครัวตระกูลหลิว เร่งเดินทางทั้งคืนปลายทางก็คือเมืองหลวง ระหว่างทางพวกเขาหยุดพักให้ม้าได้ดื่มน้ำที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ระหว่างลงไปหาอะไรกิน ก็ได้ยินคนที่นั่งดื่มเหล้าอยู่พูดถึงหยวนจงเหลียงว่า
"เจ้ารู้หรือไม่ว่า หยวนจงเหลียงตายแล้ว"
"ตายได้อย่างไร ข้าได้ยินข่าวว่าเขาเพิ่งไปรับอนุคนใหม่เข้าเรือนมิใช่หรือ"
"ระหว่างทางถูกโจรดักปล้นกลางทาง หยวนจงเหลียงถูกโจรฆ่าตัดคออย่างโหดเหี้ยม"
ชายคนนั้นยกจอกสุราขึ้นดื่ม ทำหน้าสยดสยอง เขาบังเอิญเดินทางผ่านไปเจอพอดี จึงได้แจ้งทางการ
"มีคนแค้นหยวนจงเหลียงมากมาย อาจจะมีสักคนที่คิดฆ่าเขา แล้วเจ้าสาวของเขาละ ถูกฆ่าด้วยหรือไม่"
"เจ้าสาวถูกโจรฉุดจากเกี้ยว พาขึ้นเรือหนีไปยังไม่รู้ชะตากรรม เฮ้อ... เวรกรรมจริงๆ"
ชาวบ้านที่ได้ยินเรื่องราว ต่างเอ่ยถึงหยวนจงเหลียงว่าสมควรตาย ส่วนเจ้าสาวถูกพวกโจรฉุดตัวไปแบบนั้น คงรู้ชะตากรรมดีว่า จะเกิดอะไรขึ้น
หลิวจื่อเซิ่งทนฟังต่อไม่ไหว จ่ายเงินแล้วลุกหนีกลับไปยังรถม้าของตน
"ซืออินโชคร้าย ถูกโจรฉุดคร่าไป นางคง..."
หลิวจื่อเซิ่งไม่อยากคิดต่อ แม้ไม่ได้รักใคร่หลานคนนี้นัก แต่ก็เลี้ยงดูมาหลายปี เดิมหลิวซืออินชีวิตก็น่าเวทนาอยู่แล้ว เมื่อยอมขึ้นเกี้ยวแทนหลิวชิงหลิน กลับถูกโจรฉุดตัวไป คิดแล้วก็ปวดใจกับชะตากรรมอาภัพของหลานสาว
"ท่านพี่อย่าคิดมากเลย หยวนจงเหลียงตายไปแล้ว พวกเราก็ปลอดภัย เราย้ายไปอยู่เมืองหลวง เริ่มต้นกันใหม่นะท่านพี่"
นางหลี่จูกลับรู้สึกโล่งใจ ที่ส่งหลิวซืออินขึ้นเกี้ยวแทนลูกสาวของตน อีกฝ่ายโชคร้ายเองถึงได้โดนโจรฉุดไป เมื่อหยวนจงเหลียงถูกฆ่าตาย พวกเขาก็ปลอดภัยไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
"ซืออิน... ซืออินหลานย่า !"
แม่เฒ่าหลิวที่นอนอยู่ในรถม้า ได้ยินบุตรชายกับสะใภ้คุยกันแล้ว ก็กรีดร้องขึ้นมา
"ท่านแม่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง"
หลิวจื่อเซิ่งรีบเข้าไปดูอาการมารดา
"ซืออิน ซืออิน อ้อก ! "
แม่เฒ่าหลิวร้องเรียกหลานสาว ก่อนจะชักกระตุก หัวใจถูกความเสียใจบีบรัดจนทนไม่ไหว สิ้นใจตายลงไปในทันที
"ท่านแม่!"
"เพราะข่าวของซืออิน ท่านแม่ถึงได้จากไปแบบนี้"
นางหลี่จูกล่าวโทษหลานสาวสามี ในใจกลับรู้สึกยินดี ที่ตัวภาระอีกคนจากไป นางจับกาฝากอย่างหลิวซืออิน โยนขึ้นเกี้ยวออกไปไม่ถึงวัน มารดาของสามีก็ตายจากไปอีกคน วันข้างหน้าไม่ต้องคอยดูแลคนป่วย นางกับลูกสาวย่อมมีชีวิตที่สุขสบายกว่านี้
///
บทที่ 80ตอน วิวาห์ของสองเรา /2 (จบ)“ท่านแม่ ข้าง่วงแล้ว”ผิงอันอ้าปากหาว อี้หนิงเองก็เริ่มตาปรือ วันนี้พวกเขาตื่นเต้นกับงานมาก ตื่นเช้ามาแต่งตัวเข้าร่วมขบวนแห่ มาถึงก็เล่นกันในงานจนตอนนี้หมดแรงแล้ว“ง่วงก็นอนลง มาแม่ห่มผ้าให้”เด็กน้อยทั้งสองนอนลงบนเตียง ให้มารดานอนตรงกลาง ผิงอันกอดมารดาเอาหน้าซุกอกนอนหลับตาพริ้ม หลิวซืออินเกาหลังให้อี้หนิงแบบที่ทำทุกคืน ลูกชายนางขาดคนเกาหลังจะนอนไม่หลับ คืนนี้เด็กชายถูกมารดาเกาหลังจนเพลินหลับไปแล้วแกรก !เสียงประตูเปิดออก พร้อมกับร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์สีแดง ก้าวเข้ามาในห้องหอ กว่าที่ฉู่หมิงฮ่าวจะปลีกตัวออกมาได้ ก็ถูกเพื่อนในกองทัพ พี่ชายตนเอง และพี่ชายเจ้าสาว รินเหล้าส่งให้ไม่หยุดหย่อน เขาอาศัยตัวเองคอแข็งจึงรับมือได้ไม่ยากนัก แต่ให้ดื่มจนไม่ได้เข้าหอ เขาคงกลายเป็นคนโง่ แม่ทัพหนุ่มจึงดื่มบ้างแอบเทรดแขนเสื้อบ้าง แสร้งทำเมามายจึงมีโอกาสได้เข้าหอเสียทีภายในห้องหอเทียนแดงมงคลจุดให้ความสว่างเหลือเพียงครึ่งแท่งแล้ว สุรามงคลบนโต๊ะรอเจ้าบ่าวเจ้าสาว มาคล้องแขนดื่มกิน เจ้าสาวคนงามสวมชุดวิวาห์สีแดงนั่งรออยู่บนเตียงฉู่หมิงฮ่าวหยิบคันชั่ง เดินไปยังเตียงด้วยอารมณ
บทที่ 79 ตอน วิวาห์ของสองเรา /1 เกี้ยวเจ้าสาวสีแดง ถูกแบกออกจากหน้าประตูจวนของเสนาบดีหยาง วันนี้หยางอี้หลันบุตรีของท่านเสนาบดีออกเรือน สินเดิมของเจ้าสาวถูกจัดเตรียมไว้มากมาย สมกับเป็นลูกสาวของเสนาบดีกรมคลังการแต่งงานครั้งนี้เจ้าบ่าวคือ ฉู่หมิงฮ่าว แม่ทัพใหญ่ของแคว้นเป่ยฉี เขาเป็นบุตรชายคนรองของใต้เท้าฉู่อี้หนาน ท่านโส่วฝู่ผู้เป็นที่ไว้วางพระทัยของฮ่องเต้ แม่ทัพหนุ่มอยู่ในชุดเจ้าบ่าวสีแดงสวมหน้ากากเงินปกปิดใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง ขี่อาชาสีขาวดูสง่างาม บนนั้นยังมีร่างของเด็กชายตัวน้อยสวมชุดสีแดงนั่งอยู่ด้วย ผู้คนที่พากันมามุงดูขบวนแต่งงาน ต่างตื่นตะลึงกับรูปโฉมของเจ้าบ่าว“ท่านแม่ทัพฉู่หมิงฮ่าว สวมหน้ากากเงินปกปิดใบหน้า เพราะเขาเป็นแม่ทัพของกองทัพวายุทมิฬ คนในกองทัพนี้ล้วนลึกลับ จนถูกขนานนามว่า กองทัพปีศาจ”คนที่พากันมุงดูซุบซิบถึงเจ้าบ่าว พวกเขาได้ยินชื่อของกองทัพวายุทมิฬก็พากันกลัวตัวสั่น ได้ข่าวว่าแม่ทัพฉู่เพิ่งจัดการกับโจรสลัดที่โหดเหี้ยมผู้หนึ่งของหนานไห่ได้ ฮ่องเต้จึงพระราชทานสมรสให้แต่งกับบุตรีท่านเสนาบดีหยาง“บุตรีท่านเสนาบดีหยาง พลัดพรากจากครอบครัวตั้งแต่เล็ก ท่านแม่ทัพฉู่หมิงฮ
บทที่ 78 ตอน พบผู้มีพระคุณทั้งสอง/2ฉู่เฟยหยางเป็นฝาแฝดกับฉู่หมิงฮ่าวย่อมหน้าตาคล้ายกัน บุตรของเขาหน้าตาเหมือนบิดาทั้งคู่ จึงดูคล้ายกันเหมือนฝาแฝด แม่หนูผิงอันมองหน้าท่านพ่อกับท่านลุง แล้วมองหน้าพี่ชายตนกับลูกชายท่านลุง“โอย เหมือนกันจนข้าแยกไม่ออกแล้ว ข้าตาลายไปหมดแล้วเจ้าค่ะท่านย่า”ผิงอันน้อยเอียงหน้าซบท่อนแขนของท่านย่า พลางกรอกตาไปมา ท่าทางนั้นทำให้ทุกคนที่เห็นต่างพากันหัวเราะขบขัน หลงเสน่ห์ของแม่หนูน้อยเข้าไปแล้ว“ท่านพ่อท่านแม่ นี่คือหยางอี้หลันภรรยาข้า”หลิวซืออินเดินเข้ามาได้เห็นทุกคนในห้องกำลังหัวเราะท่าทางตลกของผิงอันพอดี เมื่อฉู่หมิงฮ่าวแนะนำนางให้ครอบครัวของเขา จึงประสานมือย่อตัวลงทำความเคารพอย่างนอบน้อม รูปร่างหน้าตาของนางทำให้ทุกคนหันมาจ้องมองอย่างสนใจ“เหมือนข้าคุ้นหน้าเจ้า”ใต้เท้าโส่วฝู่มองบุตรีของเสนาบดีหยาง พลันรู้สึกว่าเคยพบเจอสตรีนางนี้มาก่อน ฮูหยินเองก็มองจ้องหน้านาง คิ้วขมวดเล็กน้อยเหมือนกำลังครุ่นคิด“ท่านทั้งสองคือ... คือผู้มีพระคุณของข้ากับลูก อี้หนิงผิงอัน รีบคุกเข่าเร็ว”หลิวซืออินจำทั้งสองได้ในทันที นางไม่เคยลืมใบหน้าของผู้มีพระคุณ ที่ช่วยชีวิตนางกับลูกน้อ
บทที่ 77 ตอน พบผู้มีพระคุณทั้งสอง/1รถม้าเคลื่อนจากหน้าจวนเสนาบดีหยางแล่นไปจอดยังหน้าจวนของใต้เท้าโสว่ฝู่ หน้าประตูฉู่หมิงฮ่าวยืนรอรับภรรยากับลูกๆ เมื่อเห็นรถม้ามาจอดก็รีบเดินไปหมายจะช่วยพาหลิวซืออินกับอี้หนิงผิงอันลงมา แต่คนที่เดินลงมาก่อนกลับเป็นบุรุษผู้หนึ่งหน้าตาหล่อเหลาท่าทางสง่างาม“ท่านคงเป็นพี่ชายของภรรยาข้า คารวะท่านพี่ภรรยา”ฉู่หมิงฮ่าวรู้ว่าท่านเสนาบดีมีลูกชายคนหนึ่ง ชื่อว่า หยางเทียน เป็นพี่ชายของภรรยาเขา จึงประสานมือทำความเคารพอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม“เจ้าคือโจรชั่วที่บังอาจฉุดตัวน้องสาวข้าสินะ วันนี้ได้พบหน้าเจ้า เราคงต้องมีเรื่องพูดจากันสักหน่อย”หยางเทียนมองหน้าบุตรชายคนรองของท่านโส่วฝู่ เขาไม่เคยพบกับฉู่หมิงฮ่าวมาก่อน อีกฝ่ายเป็นแม่ทัพประจำการอยู่ค่ายทหาร คนที่เขารู้จักดีคือ ฉู่เฟยหยางบุตรชายคนโตของท่านโส่วฝู่ ตอนเด็กทั้งสองเคยเรียนสำนักศึกษาเดียวกัน โตมาถึงได้แยกย้ายไป ฉู่หมิงฮ่าวเป็นน้องชายฝาแฝดของฉู่เฟยหยาง ใบหน้าของทั้งคู่คล้ายกันมาก ต่างเพียงแววตาของฉู่หมิงฮ่าวดูแข็งกร้าวกว่าฉู่เฟยหยางเล็กน้อย“พี่เทียน ท่านโปรดละเว้นสามีข้าด้วยเถอะเจ้าค่ะ”หลิวซืออินลงจากรถม้า พร้อม
บทที่ 76 ตอน ช่วงเวลาแห่งความสุข/2ณ จวนตระกูลหยางท่านเสนาบดีหยางพาบุตรีพร้อมหลานๆ กลับมาถึงจวน ได้จัดเรือนหลังหนึ่งให้พวกเขาพัก ฮูหยินสั่งซื้อข้าวของใหม่ให้บุตรีและหลานทั้งสอง เรียกร้านเสื้อผ้าส่งช่างมาวัดตัวตัดเสื้อผ้าชุดใหม่หลายชุด ล้วนเป็นผ้าไหมชั้นดี สีสันลวดลายงดงามกว่าผ้าทั่วไป ที่สามแม่ลูกเคยสวมใส่ ร้านเครื่องประดับนำสิ้นค้าชั้นดี มาให้เลือกถึงเรือน ฮูหยินมองชิ้นไหนล้วนถูกใจไปหมด นำมาเท่าไหร่ก็ซื้อให้บุตรี จนหลิวซืออินไม่กล้ารับไว้ "ท่านแม่ ของพวกนี้ล้วนราคาแพง ท่านซื้อให้ข้ามากเกินไปแล้ว""จะแพงสักเท่าไหร่แม่ก็จะซื้อให้เจ้า ถึงเวลาออกเรือนไป จะได้เป็นสินเดิมติดตัวเจ้าไปมากสักหน่อย ท่านพ่อเจ้าเป็นถึงเสนาบดีกรมคลัง เจ้าต้องแต่งตัวให้สมฐานะบุตรีท่านเสนาบดี อย่าได้ทำให้ท่านพ่อเจ้าขายหน้า"ฮูหยินถือโอกาสอบรมบุตรี ชีวิตก่อนหน้าของหลิวซืออินเคยยากจนลำบากมามาก จึงมัธยัสถ์เห็นคุณค่าของเงินทอง จับจ่ายมากไป แพงไป ล้วนปวดใจเพราะเสียดายเงินทอง ยามนี้นางกลับคืนฐานะบุตรีของท่านเสนาบดี ของสิ่งใดควรได้ ควรหามาใช้ ต้องจัดให้สมฐานะ "ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่"หลิวซืออินรับคำมารดา ตอนนี้นา
บทที่ 75 ตอน ช่วงเวลาแห่งความสุข/1หนึ่งเดือนต่อมา เสนาบดีหยางพาบุตรีกับหลานทั้งสองเดินทางไปถึงเมืองหลวง หลิวซืออินได้กลับมาอยู่ร่วมกับครอบครัวอีกครั้งด้านฉู่หมิงฮ่าวนำเรื่องของเขากับหลิวซืออินไปบอกบิดามารดา ใต้เท้าโส่วฝู่ได้รู้เรื่องที่บุตรชายกระทำต่อบุตรีของเพื่อนรักก็โมโหยิ่งนัก ลงโทษให้เขาคุกเข่าอยู่ในศาลบรรพชนทั้งคืน ก่อนจะยอมรับปากไปสู่ขอและจัดงานแต่งให้เขาครอบครัวตระกูลฉู่กลับมาพร้อมหน้า จึงร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกัน“หากเจ้าไม่ตัดหน้าไปเสียก่อน เจ้าบ่าวของบุตรีท่านเสนาหยางคงเป็นข้า”ฉู่เฟยหยางเอ่ยเย้าน้องชาย ตัวเขาเพิ่งรักษาตาที่บอดจากการถูกลอบทำร้ายจนหายสนิท เมื่อปีที่แล้วบิดามารดาคิดทาบทามบุตรีของขุนนางหลายตระกูลให้เขาดูตัว แต่ฉู่เฟยหยางปฏิเสธบอกว่า จะแต่งกับบุตรีท่านลุงเสนาหยางตามสัญญาหมั้นหมาย เขาอาศัยเรื่องนี้ครองตัวรอดพ้นจากการถูกบังคับแต่งงานมาได้เนิ่นนาน ผู้ใดจะคิดว่าบุตรีท่านลุงหยางยังมีชีวิตอยู่ และมีความสัมพันธ์กับน้องชายฝาแฝดของตน คิดหาข้ออ้างหลบเลี่ยงงานแต่งคงยากเสียแล้ว“ท่านพี่ เรื่องอื่นข้ายอมท่านได้ แต่เรื่องนี้ข้าไม่ยอมเด็ดขาด ท่านหาสตรีคนอื่นเป็นแม่เลี้ยงให้ฉู