Beranda / รักโบราณ / ฮูหยินวิปลาส. / ตอนที่8 ยาขี้ผึ้ง

Share

ตอนที่8 ยาขี้ผึ้ง

Penulis: SnailW
last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-06 16:20:07

ตอนที่ 8

การรักษาผ่านไปด้วยดี ในตอนนั้นเองที่ทำให้โจวจวงจื่อพึ่งนึกขึ้นได้ว่า เวลานี้ซูอวี้หนิงยังไม่ได้กินอาหารเช้า เพราะตนเองมัวแต่ตกใจกับเรื่องของเสี่ยวเถา เมื่อจัดการเก็บของเสร็จ นางจึงรีบเข้าครัวเพื่อทำอาหารง่าย ๆ ให้อีกฝ่ายได้กินอย่างรวดเร็ว

ทำให้ตอนนี้ด้านนอกเรือนมีเพียงซูอวี้หนิงและโจวจื่อเฉียง อยู่กันตามลำพังเพียงสองคน

ซูอวี้หนิงยกน้ำชาที่ยังอุ่น­ ๆ ขึ้นมาจิบ เพื่อหลบเลี่ยงสายตาของโจวจื่อเฉียงที่มองมาที่นางด้วยความสงสัย เพราะเมื่อผ่านเหตุการณ์น่าตกใจเมื่อครู่มาได้ โจวจื่อเฉียงก็เริ่มนึกสงสัยพฤติกรรมของนางขึ้นมาได้

เพราะไม่เพียงแค่ซูอวี้หนิงรักษาเจ้าเสี่ยวเถาได้สำเร็จ แต่ท่าทางของนางนั้นกลับชำนาญราวกับนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางทำเช่นนี้

แต่ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากถามนาง ลุงโจวที่ไม่รู้ว่าไปที่ใดมา ก็กลับเข้ามาในลานด้านหน้าอีกครั้ง ทำให้โจวจื่อเฉียงไม่ได้ถามออกไป

ซูอวี้หนิงที่เห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีที่นางจะหนีออกไปจากสถานการณ์น่าอึดอัดเช่นนี้ นางจึงเดินเข้าไปหาโจวจวงจื่อที่ห้องครัวด้านหลัง และเลือกที่จะนั่งกินอาหารเช้าที่ห้องครัวง่าย ๆ โดยไม่ต้องไปพบกับสายตาของอีกฝ่าย

ข่าวเรื่องอาการป่วยของซูอวี้หนิงที่หายเป็นปกติแล้ว ถูกพูดถึงกับเป็นวงกว้างอย่างเงียบ­ ๆ ทั้งภายในหมู่บ้านและนอกหมู่บ้าน มีชาวบ้านหลายคนที่อยากรู้ว่าหญิงสาวหายจากอาการเป็นบ้าใบ้จริงหรือไม่ พวกเขาบางคนถึงกับจงใจเดินผ่านหน้าบ้านของนางเพื่อตรวจสอบดู

ตลอดหลายวันมานี้ ซูอวี้หนิงเริ่มติดตามโจวจวงจื่อเข้าไปในหมู่บ้านบ่อยขึ้น ทั้งเพื่อช่วยซื้อของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ และเพื่อพบปะพูดคุยกับหญิงสาวในหมู่บ้าน นางเริ่มหัดทำอาหารและซักเสื้อผ้าด้วยตนเอง แม้ในตอนแรกจะทำได้อย่างเก้ ๆ กัง ๆ จนโจวจวงจื่อต้องคอยสอน แต่เมื่อทำบ่อยเข้า ซูอวี้หนิงก็เริ่มรู้สึกเพลิดเพลิน

กลิ่นควันไฟจากเตาในครัวเช้าตรู่ทำให้นางนึกถึงภาพครอบครัวในอดีตที่เลือนรางอย่างประหลาด ความอบอุ่นเช่นนี้นางไม่ได้สัมผัสมานานแล้ว

โจวจวงจื่อเองก็เริ่มยิ้มมากขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวค่อย ๆ เรียนรู้วิถีชีวิตในหมู่บ้านอย่างตั้งใจ

ซูอวี้หนิงนั่งอยู่ที่ลานบ้านของครอบครัวโจว ขณะยกผ้าขี้ริ้วขึ้นเช็ดมือหลังจากซักผ้าเสร็จ ก็เห็นลุงโจวเดินเข้ามาจากประตูรั้วด้านหน้า

วันนี้ท่าทางของเขาผิดไปจากทุกครั้ง ขาเขายกสูงไม่ถนัด และการก้าวเดินสั้นจนดูชัดว่าบาดเจ็บ เขาใช้ไม้เท้าค้ำตัวมากกว่าปกติ ทำให้เสียงปลายไม้เท้ากระทบพื้นดังถี่และหนัก

ซูอวี้หนิงกับโจวจวงจื่อที่เห็นดังนั้นจึงรีบวางของในมือแล้ววิ่งเข้าไปพยุงแขนเขา

“ท่านพ่อ! วันนี้ท่านไปทำอะไรมา ทำไมเดินถึงได้ลำบากขนาดนี้?” โจวจวงจื่อถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

ลุงโจวส่ายหน้าเบา ๆ สีหน้าแฝงความเหนื่อยล้า “ไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่ขาเจ็บเก่ากำเริบ… วันนี้ต้องเดินทางไกลกว่าปกติ เลยทำให้ปวดขึ้นมาอีก”

ซูอวี้หนิงประคองเขาไปนั่งบนม้านั่งใต้ต้นไม้ ก่อนจะย่อตัวลงตรวจดูที่ขาอย่างระมัดระวัง เมื่อเธอสัมผัสเบา ๆ ลุงโจวก็เผลอสะดุ้งเล็กน้อย

“ขาอักเสบจนร้อน น่าจะเป็นเพราะใช้แรงมากเกินไป” ซูอวี้หนิงเอ่ยเสียงนิ่ง 

“ท่านลุง ท่านช่วยเปิดบาดแผลเก่าของท่านให้ข้าดูได้หรือไม่?” ซูอวี้หนิงขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยถามอีกฝ่าย

ลุงโจวชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำขอของซูอวี้หนิง แววตาเขาเต็มไปด้วยความลังเล แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาจริงจังของหญิงสาว เขาก็ถอนหายใจยาวเหมือนยอมแพ้

“เจ้าจะไม่ตกใจรึ?” เขาถามเสียงต่ำ

ซูอวี้หนิงส่ายหน้า “ไม่เจ้าค่ะ”

ได้ยินดังนั้น ลุงโจวจึงค่อย ๆ พับขากางเกงขึ้น เผยให้เห็นขาข้างซ้ายที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นเก่า รอยหนึ่งเด่นชัดที่สุด เป็นรอยยาวพาดตั้งแต่เหนือเข่าลงมาถึงน่อง คล้ายถูกของมีคมฟันลึกจนแทบขาดจากกัน

รอยแผลเป็นนั้นขรุขระผิดปกติ ผิวหนังที่เชื่อมกันไม่เรียบตึง บางช่วงยุบลึกจนเห็นได้ชัดว่าเส้นเอ็นภายในเคยขาดและต่อกันไม่สมบูรณ์

ซูอวี้หนิงนิ่งไปชั่วขณะ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเวทนา ก่อนจะยื่นมือไปแตะเบา ๆ เพื่อคลำดูแนวของเส้นเอ็นใต้ผิวหนัง ลุงโจวสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็อดทนไม่ขยับหนี

“นี่เป็นบาดแผลเก่าที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีตั้งแต่แรก” นางเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “เส้นเอ็นที่ขาดตอนนั้นคงไม่ได้รับการเย็บหรือจัดให้เข้าที่ ทำให้เมื่อสมานกันแล้วเกิดพังผืดเกาะ จึงทำให้ท่านปวดเรื้อรังทุกครั้งที่เดินมากเกินไป”

โจวจวงจื่อที่ยืนมองอยู่ข้าง ๆ กำมือแน่นด้วยความเจ็บใจแทน “ตอนนั้นหมอที่หมู่บ้านไม่ได้ทำอะไรเลยหรือ?”

ลุงโจวหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เสียงเต็มไปด้วยความขมขื่น “ข้าถูกฟันกลางป่าตอนออกไปตัดฟืนตั้งแต่หนุ่ม ๆ ตอนนั้นเลือดไหลไม่หยุด กว่าจะมีคนไปตามหมอมาก็เกือบจะสายแล้ว หมอเพียงแค่หยุดเลือดให้ข้าเท่านั้น”

แค่รอดชีวิตมาได้ก็ประเสริฐมากแล้ว ลุงโจวคิดในใจ

ซูอวี้หนิงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงแน่วแน่ “ก่อนหน้านี้ข้าอ่านเจอ ตำรับยาขี้ผึ้งชนิดหนึ่ง เอาไว้ทาลดอาการปวด หากท่านลุงไม่รังเกียจ ข้าจะทำมันให้ท่าน­ เอาไว้ทาก่อนนอนดีหรือไม่เจ้าคะ" ซูอวี้หนิงถามอีกฝ่าย

แต่แทนที่ลุงโจวจะกังวลว่ายาที่หญิงทำขึ้นอาจจะเป็นอันตรายได้ เขากลับยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนราวกับว่าต่อให้นางเอายาพิษมาให้เขากิน เขาก็จะยิ้มรับมันดื่มเข้าไป…

เพราะเหตุใดกัน?…

หากเป็นซูอวี้หนิงคนก่อนอาจไม่คิดอะไร… แต่นางที่ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มากมายมาแล้วชีวิตหนึ่ง ย่อมมองออกถึงความผิดปกตินี้

“เอาสิ ลุงจะลองใช้ดู” ลุงโจวกล่าวกับซูอวี้หนิงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

วันรุ่งขึ้น หลังจากที่ช่วยโจวจวงจื่อทำงานบ้านเสร็จ ซูอวี้หนิงก็จัดรายการสมุนไพรลงบนแผ่นไม้เขียนด้วยถ่าน พร้อมทั้งระบุสัดส่วนที่ต้องการอย่างชัดเจน ก่อนจะยื่นให้โจวจื่อเฉียงที่กำลังจะเข้าเมือง

“พี่จื่อเฉียง หากวันนี้ท่านเข้าเมืองได้ ช่วยหาสมุนไพรเหล่านี้ให้ข้าด้วยนะเจ้าคะ” ซูอวี้หนิงยื่นแผ่นไม้ให้ น้ำเสียงสุภาพแต่จริงจัง

โจวจื่อเฉียงรับมาอ่าน ไล่ตามตัวอักษรที่เขียนด้วยลายมือที่ค่อนข้างอ่านยากของนาง “เถาวัลย์เถื่อน ขมิ้นป่า รากเจียวกู่ และน้ำมันงา?” เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เจ้านี่รู้จักสมุนไพรพวกนี้ได้ยังไงกัน?”

ซูอวี้หนิงยิ้มบาง ๆ “ข้าเคยอ่านตำราอยู่บ้างเจ้าค่ะ สมุนไพรพวกนี้เมื่อบดรวมกันจะช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดข้อได้ ข้าอยากลองทำให้ท่านลุงใช้ดู”

โจวจื่อเฉียงพยักหน้า แต่สายตายังคงเต็มไปด้วยความสงสัย เขาไม่ได้ซักต่อ เพียงเอ่ยเสียงเรียบ “ได้ ข้าจะลองหามาให้”

ระหว่างทางเข้าเมือง เขาอดนึกไม่ได้ว่าหญิงสาวที่เคยเงียบงันอย่างคนไร้สติ กลับรู้จักสมุนไพรและการปรุงยาดีขนาดนี้ ถึงขั้นเขียนสัดส่วนและวิธีการมาให้เขาได้อย่างชัดเจน

เมื่อโจวจื่อเฉียงกลับมาในช่วงบ่ายพร้อมห่อสมุนไพร ซูอวี้หนิงก็ขอบคุณเขาอย่างจริงใจ ก่อนจะขอตัวไปจัดการในครัว นางนำสมุนไพรที่ได้มาล้างให้สะอาด ตากหมาด ๆ แล้วตำรวมกับน้ำมันงาและน้ำร้อนเล็กน้อยจนกลายเป็นเนื้อยาข้น กลิ่นหอมฉุนอ่อน ๆ ของสมุนไพรลอยอบอวลไปทั่วครัวในบ้านของนาง

โจวจวงจื่อที่เดินผ่านถึงกับชะงัก “กลิ่นสมุนไพรแรงขนาดนี้เชียว?”

ซูอวี้หนิงเงยหน้าขึ้นยิ้ม “ใช่ ข้าจะทำยาทาให้ท่านลุง ลองดูสักหน่อยว่าจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้หรือไม่”

ตกเย็น หลังมื้ออาหาร นางจึงนำยาที่ทำเสร็จแล้วออกมาให้ลุงโจว พร้อมสาธิตวิธีนวดให้ถูกทิศทาง เพื่อให้ตัวยาแทรกซึมเข้าเส้นเอ็นได้ดีขึ้น ลุงโจวเพียงมองนางด้วยสายตาอ่อนโยนอย่างบอกไม่ถูก ราวกับรู้สึกซาบซึ้งอยู่ลึก ๆ

โจวจื่อเฉียงยืนพิงเสาเงียบ ๆ ไม่พูดอะไร แต่ในใจกลับครุ่นคิดหนักขึ้นเรื่อย ๆ 

ในยามดึก ค่ำคืนนั้นบ้านของตระกูลโจวเงียบสงัดกว่าปกติ ลมเย็นเอื่อย ๆ พัดกลิ่นหอมของสมุนไพรจาง ๆ จากขี้ผึ้งที่ซูอวี้หนิงทำยังคงอบอวลอยู่ในเรือน

ลุงโจวซึ่งปกติแล้วมักจะนอนพลิกตัวไปมาด้วยความปวดหน่วงที่ขา กลับหลับสนิทตั้งแต่หัวค่ำ เสียงลมหายใจของเขาสม่ำเสมอจนผิดสังเกต

โจวซื่อซึ่งตื่นมาดื่มน้ำกลางดึก นางถึงกับชะงักเมื่อหันกลับไปมองสามีของตนที่นอนอยู่ด้านข้าง

แสงตะเกียงสลัวในห้องเผยให้เห็นร่างของลุงโจวที่นอนหงายหลับสนิท ขาข้างที่ปกติจะกระตุกเพราะความปวดก็สงบนิ่งผิดปกติ

โจวซื่อกลืนน้ำลาย ก่อนจะค่อย­ ๆ เอื้อมมือแตะที่จมูกของสามีเบา ๆ เพื่อดูว่ายังหายใจอยู่หรือไม่

เมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่ออกมาอย่างสม่ำเสมอ นางถึงได้ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก นั่งลงบนขอบเตียง มองใบหน้าที่ดูผ่อนคลายของสามีอย่างแปลกใจ

“หลายปีแล้วที่ข้าไม่เคยเห็นท่านหลับสนิทเช่นนี้…” นางพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน

โจวซื่ออดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองขี้ผึ้งสมุนไพรที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง กลิ่นหอมยังอวลอยู่ชัดเจน นางเผลอยกยิ้มบาง ๆ ขึ้นมาอย่างขอบคุณในใจ

เช้าวันถัดมา ลุงโจวตื่นขึ้นด้วยสีหน้าสดชื่นกว่าทุกครั้ง ก้าวเดินออกจากห้องได้โดยไม่ต้องพยุงไม้เท้าแน่นเหมือนก่อน

“ท่านพ่อ! วันนี้ท่านเดินได้ดีขึ้นมากเลยนะ!” โจวจวงจื่อร้องอย่างตื่นเต้น

“เมื่อคืนข้าหลับสนิททั้งคืน ไม่ตื่นเลยสักครั้ง ข้ารู้สึกว่าขาเบากว่าที่เคย” ลุงโจวหัวเราะเบา ๆ สีหน้าดูผ่อนคลาย

ซูอวี้หนิงที่นั่งอยู่เงียบ ๆ ในลานบ้านเพียงยิ้มบาง ๆ พลางเอ่ยเสียงนุ่ม “ดีแล้วเจ้าค่ะ ข้าจะทำเพิ่มให้ท่านใช้ต่ออีกสองสามวัน หากอาการดีขึ้น อาจช่วยให้ท่านเดินทางได้สะดวกขึ้นเรื่อย ๆ”

ลุงโจวมองหญิงสาวด้วยสายตาอ่อนโยนอีกครั้ง “อย่าปล่อยให้ตนเองเหนื่อยล่ะ หากเป็นงานหนักเจ้าบอกให้จวงจื่อคอยช่วย เจ้าพึ่งหายป่วยอย่าหักโหม”

“เจ้าค่ะ” ซูอวี้หนิงยิ้มให้อีกฝ่าย

……………………

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ฮูหยินวิปลาส.   บทที่18 ฉากหลังของแต่ละคน2

    ตอนที่ 18“ลองกล่าวมา เห็นด้วยหรือไม่ข้าจะตัดสินเอง” โจวต้าซานกล่าวเสียงแข็ง เพราะสถานการณ์ตอนนี้เขาเองก็มองไม่เห็นทางออกใด ๆ ได้เลยเช่นกัน“ตอนนี้เสี่ยวซูเองก็อยู่วัยต้องออกเรือนแล้ว มิสู้ใช้เรื่องนี้ ให้เสี่ยวซูออกเรือนไปกับเฟิ่งอวี่เซียน…”ปัง!!“เจ้าจะบ้าหรือ!!” ยังไม่ทันที่หลี่เจิ้นกัวจะกล่าวจบ เยี่ยหลัวก็ตวาดขึ้นทันทีใบหน้าของเขาเกรี้ยวกราด คนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ก็ขมวดคิ้วพร้อมทำสีหน้าอย่างไม่เห็นด้วยเช่นกัน“แต่ข้ากลับเห็นด้วยกับเจิ้นกัว” ยังไม่ทันที่บรรยากาศภายในกระท่อมจะสงบ เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหน้าประตู เสียงนั้นแม้ไม่ดังนัก ทว่ากลับแฝงพลังหนักแน่นจนทุกคนเงียบกริบ เงาร่างในผ้าคลุมก้าวเข้ามาทีละก้าว เสียงฝีเท้าเบาราวกับลมพัด แต่ละก้าวกลับทำให้บรรยากาศภายในกระท่อมแปรเปลี่ยนไปในทันใด“ท่านหมอหู…” โจวต้าซานเอ่ยออกมาช้า ๆ ดวงตาเผยแววตื่นตระหนก เพราะน้อยครั้งนักที่หูเทียนเหิงจะเข้าร่วมพูดคุยในที่ลับเช่นนี้ มีเพียงคำสั่งของนายหญิงเท่านั้นที่จะสั่งการเขาได้ แต่การที่อีกฝ่ายมาปรากฏตัวที่นี่ นั่นย่อมต้องมีเรื่องที่เกี่ยวกับนายหญิงที่ล่วงลับไปอย่างแน่นอนหูเทียนเหิงเข้

  • ฮูหยินวิปลาส.   ตอนที่17 ฉากหลังของแต่ละคน1

    ตอนที่ 17กลางดึก ฟ้ามืดสนิทราวกับผืนผ้าไหมดำ เงาเมฆบดบังแสงจันทร์จนทั่วทั้งป่าดูลึกลับน่าหวาดหวั่น เสียงจิ้งหรีดแผ่วเบาดังก้องอยู่ไกล ๆ สายลมเย็นพัดผ่านใบไม้เกิดเสียงซู่ซ่าดั่งเสียงกระซิบภายในกระท่อมไม้หลังเล็กกลางป่าลึก แสงตะเกียงเพียงดวงเดียวส่องแสงวาบวับ เผยให้เห็นเงาร่างของคนสิบกว่าคนในชุดอาภรณ์ดำที่ปกปิดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า พวกเขานั่งเรียงรายอยู่รอบโต๊ะไม้เก่า ทุกสายตาจับจ้องไปยังชายชราผู้หนึ่งที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ที่ทุกคนในหมู่บ้านเรียกเขาว่า โจวต้าซาน หรือท่านลุงโจวโจวจื่อเฉียงยืนอยู่ด้านหลังของบิดาด้วยทีท่าสงบ ไม่มีท่าทางขี้เล่นเหมือนที่แล้วมาแต่อย่างใด ทุกคนที่อยู่ภายในกระท่อมต่างทำความเคารพทั้งสองคนชุดดำที่เห็นว่าทั้งสองคนพ่อลูกเดินทางมาถึงแล้วพวกเขาก็ต่างถอดผ้าคุมหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าที่อยู่ด้านใน หากคนภายในหมู่บ้านเห็นคนเหล่านี้ ทุกคนจะรู้จักพวกเขาทั้งหมด เพราะพวกเขาเหล่านี้ต่างใช้ชีวิตแฝงตัวอยู่ภายในหมู่บ้าน เป็นชาวบ้านทั่วไป จนคนในหมู่บ้านต่างหลงลืมไปแล้วว่าพวกเขาเป็นคนต่างถิ่นที่มาอาศัยภายในหมู่บ้านนี้เพียงสิบกว่าปีนี้เท่านั้น“เรื่องข่าวลือจัดการเรียบร้อยแล้วหรือไ

  • ฮูหยินวิปลาส.   ตอนที่16 ข่าวลือที่แพร่สะพัด

    ตอนที่ 16เพียงไม่นานหลังจากเหตุการณ์นั้น เสียงลือเสียงเล่าอ้างก็แพร่กระจายรวดเร็วราวไฟลามทุ่ง จากปากของชาวบ้านที่อยู่ริมธาร ทั้งหมู่บ้านต่างพูดถึงเรื่อง “หญิงวิปลาสที่กล้าจูบศพชายที่ลอยน้ำมา”ซูอวี้หนิงที่นั่งอยู่ข้างเตียงคนเจ็บเพื่อเฝ้าดูอาการเขาอย่างเงียบงันไม่ได้รับรู้ถึงเรื่องเล่านี้เลยแม้แต่น้อย เสียงลมพัดผ่านหน้าต่างไม้ไผ่เบา ๆ กลิ่นยาสมุนไพรยังลอยคลุ้งในอากาศ ชายที่อยู่บนเตียงยังคงไม่ได้สติ แต่สีหน้าดูสงบขึ้นมาก ชีพจรสม่ำเสมอขึ้นทีละน้อย“ซูอวี้หนิง!”เสียงทุ้มแหบของชายวัยกลางคนดังขึ้นจากด้านนอกก่อนร่างของ ลุงโจว จะปรากฏที่หน้าประตู สีหน้าของเขาในตอนนี้กลับเคร่งขรึมและไม่สบอารมณ์นัก และนี่เป็นครั้งแรกเช่นกันที่โจวจวงจื่อจะเห็นสีหน้าของบิดาที่มักจะอ่อนโยนต่อซูอวี้หนิงอยู่เสมอ แสดงสีหน้าน่ากลัวเช่นนี้ซูอวี้หนิงเงยหน้าขึ้นไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวอีกฝ่ายแต่อย่างใด ต่างจากโจวจวงจื่อที่ตอนนี้กระโดดหลบไปอยู่ด้านหลังของซูอวี้หนิงอย่างไม่รู้ตัว พร้อมกับตกใจจนหน้าซีดเผือดลุงโจวเดินเข้ามาในเรือนด้วยสีหน้าบึ้งตึง ดวงตาเขาเหลือบไปมองร่างชายแปลกหน้าที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะหันกลับมามองหน้าซู

  • ฮูหยินวิปลาส.   ตอนที่15 ช่วยชีวิต

    ตอนที่15ซูอวี้หนิงโน้มตัวลงโดยไม่ลังเล มือทั้งสองประคองใบหน้าของชายหนุ่มให้หงายขึ้น ดวงตาเธอแน่วแน่ไร้ความลังเลใด ๆ“จวงจื่อ รีบหาผ้ามาซับตัวเขาไว้ก่อน แผลตรงหัวไหล่ห้ามให้โดนน้ำอีก!”เสียงสั่งนั้นหนักแน่นและเฉียบขาดจนอีกฝ่ายรีบทำตามโดยไม่กล้าซักถาม ซูอวี้หนิงยกคางชายผู้นั้นขึ้นเล็กน้อย ใช้นิ้วตรวจโพรงปากอย่างรวดเร็วเพื่อดูว่ามีสิ่งใดขวางอยู่หรือไม่ ก่อนสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วโน้มตัวลงริมฝีปากอุ่นสัมผัสกับริมฝีปากเย็นเฉียบของชายแปลกหน้า นางเป่าลมหายใจเข้าไปอย่างสม่ำเสมอ สลับกับกดหน้าอกตามจังหวะที่คำนวณไว้ในใจ เสียงน้ำที่หยดลงจากปลายผมของนางผสมกับเสียงลมหายใจที่เป่ารัว ๆ กลายเป็นจังหวะที่เร่งเร้าทุกคนที่ยืนดูอยู่เงียบกริบ บ้างก็เอามือปิดปาก บ้างก็หันหน้าหนีไปทางอื่น ความตกใจและความหวาดกลัวปรากฏบนใบหน้าโดยไม่ปิดบัง“นาง... นางกำลังทำอะไรกับศพนั้นกัน?!”“บาปหนา! นางเป็นบ้าไปแล้ว!”คำพูดของชาวบ้านที่มาที่ริมลำธารต่างวิพากษ์วิจารณ์เสียงดัง แต่ซูอวี้หนิงไม่ได้ยินสักคำ เสียงในหัวนางมีเพียงจังหวะชีพจรที่พยายามตามหา ความเงียบงันในวินาทีนั้นยาวนานราวนิรันดร์จนกระทั่ง —“แค่ก! แค่ก แค่กกก!”เ

  • ฮูหยินวิปลาส.   ตอนที่14 อคติ

    ตอนที่ 14แสงอาทิตย์ยามสายส่องลอดผ่านยอดไม้เข้ามาในลานเล็ก ๆ ด้านหน้าบ้านของซูอวี้หนิง กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสมุนไพรที่ถูกต้มไว้ตั้งแต่รุ่งเช้าโชยคลุ้งไปทั่ว เรื่องที่มีคนถูกหมาป่ากัดเมื่อคืนนี้เองก็รับรู้กันทั่วทั้งหมู่บ้าน“ได้ยินว่าเมื่อคืนมีคนถูกหมาป่ากัด!"“ใช่ ๆ ว่ากันว่าเลือดไหลแทบหมดตัว แต่ซูอวี้หนิงใช้วิธีแปลก ๆ เย็บแผลเอาไว้จนยังมีชีวิตอยู่” “เย็บแผล? ใช่หรือไม่ที่ว่ากันว่าเหมือนเอาเข็มร้อยผ้าของหญิงสาวมาใช้กับร่างคน!”“ข้าบอกแล้วว่านางเป็นหญิงบ้าคนหนึ่ง จะมาเป็นหมอได้อย่างไร?”เสียงซุบซิบเริ่มกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับคลื่นน้ำที่ซัดกระทบผนังไม้ไม่หยุดหย่อน ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงความสงสัย แต่ปนด้วยความกลัวและรังเกียจ“ได้ยินมาว่า นางเย็บเนื้อคนเข้าด้วยกันจริง ๆ!”“ข้าเห็นกับตาเมื่อคืน เลือดเต็มมือ เหมือนพวกวิปลาสเลยต่างหาก!”“หากวันหนึ่งนางถือมีดไปปาดคอผู้อื่น ใครจะรับผิดชอบ!”ซูอวี้หนิงและคนอื่น ๆ ไม่ได้รับรู้ข่าวลือที่แพร่กระจายออกไปเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเมื่อคืนกว่านางจะได้นอนก็เกือบรุ่งสางเสียแล้ว นางได้นอนพักสายตาชั่วครู่ ก็ตื่นขึ้นมาเพื่อดูอาการของผู้ป่วยก่อน แ

  • ฮูหยินวิปลาส.   ตอนที่13 ผู้ป่วยคนแรก

    ตอนที่ 13ยามดึกคืนนั้น แสงจันทร์ข้างแรมสาดผ่านม่านไม้ไผ่เข้ามาในห้องพักของซูอวี้หนิง นางเพิ่งจะวางแผ่นไม้ไผ่ที่จดบันทึกตำราสมุนไพรลงบนโต๊ะ กำลังเตรียมจะดับตะเกียงเพื่อพักผ่อน ทว่าทันใดนั้นกลับได้ยินเสียงโกลาหลดังมาจากลานด้านหน้าเสียงฝีเท้าหนักรีบร้อนดังขึ้นพร้อมเสียงของโจวจวงจื่อ“เสี่ยวซู! เร็วเข้า! มีคนเจ็บ ถูกหมาป่ากัด”ประตูไม้ถูกเคาะแรง ๆ สามครั้ง ซูอวี้หนิงรีบลุกขึ้นผลักประตูออกไป เห็นโจวจวงจื่อใบหน้าซีดเผือดเต็มไปด้วยเหงื่อ ส่วนด้านหลัง โจวจื่อเฉียงกำลังประคองชายหนุ่มร่างใหญ่ที่แขนขวาถูกกัดจนเนื้อฉีก เห็นได้ชัดว่าถูกหมาป่าฉีกกระชาก เลือดสดไหลทะลักจนชุ่มเสื้อผ้าแต่แทนที่ซูอวี้หนิงจะตื่นตกใจ นางกลับใจเย็นอย่างที่สองพี่น้องโจวไม่เคยเห็นมาก่อน“พาเข้ามาในเรือนด้านหน้าก่อน แล้วให้ใครก็ได้ไปตามหมอหู!” เสียงนางเด็ดขาดโดยไม่ลังเล“ข้าให้คนไปตามแล้ว” โจวจื่อเฉียงที่หามคนเจ็บมากล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มไม่นาน หมอหูก็มาถึงด้านหน้าเรือนของซูอวี้หนิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด แต่ทันทีที่เห็นบาดแผลที่แขนชายหนุ่ม เขาก็ขมวดคิ้วแน่น “บาดแผลลึกมาก หากเสียเลือดมากกว่านี้ เกรงว่าจะไม่รอดถึงรุ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status