การแถลงข่าวของภาคินัยสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วสังคม ไม่เพียงแต่จะกอบกู้ชื่อเสียงของเขาและปลายฝันกลับคืนมาได้เท่านั้น แต่ยังทำให้คุณปู่ของภาคินัย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่สูงสุดของตระกูล ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดอย่างแท้จริง และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ท่านเริ่มเห็นความดีและความจริงใจของปลายฝัน
หลังจากข่าวการแถลงข่าวแพร่สะพัดออกไป คุณปู่ภาคินัยที่ปกติเป็นคนเคร่งขรึมและให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของตระกูลเป็นอันดับแรก ก็รู้สึกตกใจและผิดหวังกับการกระทำของทิชาเป็นอย่างมาก ท่านเรียกภาคินัยเข้าพบในทันที
ภาคินัยเดินเข้าไปในห้องทำงานของคุณปู่ด้วยใจที่เต้นรัว เขารู้ดีว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้สำคัญเพียงใด
“ภีม” คุณปู่เอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่แฝงไปด้วยความผิดหวัง “เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี่มันหมายความว่ายังไงกัน”
ภาคินัยถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้คุณปู่ฟังอย่างละเอียด ตั้งแต่ความสัมพันธ์ของเขากับปลายฝัน แผนการของทิชาและรวินท์รยา รวมถึงปมอดีตของเขาที่เคยปิดบังไว้
คุณปู่รับฟังอย่างตั้งใจ ใบหน้าของท่านเรียบเฉย แต่แววตาของท่านกลับฉายแววครุ่นคิด
“แล้วแกจะจัดการกับทิชาและรวินท์รยาอย่างไร” คุณปู่ถามหลังจากที่ภาคินัยเล่าจบ
“ผมจะไม่ฟ้องร้องใครครับคุณปู่” ภาคินัยตอบ “ผมแค่อยากให้ความจริงถูกเปิดเผย และให้ทุกคนได้รับรู้ว่าใครคือคนที่ทำผิด”
คุณปู่พยักหน้าช้าๆ “แกทำถูกแล้วภีม ความจริงย่อมเป็นสิ่งไม่ตาย”
จากนั้น คุณปู่ก็หันมามองภาคินัยด้วยสายตาที่อ่อนโยนขึ้น “แล้วเรื่องปลายฝันล่ะ แกคิดยังไงกับเธอ”
ภาคินัยมองคุณปู่ด้วยแววตาที่จริงใจ “ผมรักปลายฝันครับคุณปู่ ผมอยากจะอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต”
คุณปู่เงียบไปครู่หนึ่ง ท่านจ้องมองภาคินัยอย่างพิจารณา “ปู่เห็นความจริงใจในแววตาของแกนะภีม”
คำพูดของคุณปู่ทำให้ภาคินัยรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
“ปู่รู้ว่าแกต้องผ่านเรื่องราวที่ยากลำบากมามาก” คุณปู่เอ่ยขึ้น “แต่ปู่เชื่อว่าแกจะสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้”
“ขอบคุณครับคุณปู่” ภาคินัยเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกขอบคุณ “ขอบคุณที่เข้าใจผมครับ”
คุณปู่ลุกขึ้นยืนและเดินเข้ามาตบไหล่ภาคินัยเบาๆ “แกเป็นหลานชายของปู่ ปู่เชื่อมั่นในตัวแกเสมอ”
หลังจากนั้น คุณปู่ก็ขอให้ภาคินัยพาปลายฝันมาพบท่านที่บ้าน เพื่อให้ท่านได้พูดคุยกับปลายฝันเป็นการส่วนตัว
ในวันถัดมา ภาคินัยพาปลายฝันมาที่บ้านของคุณปู่ ปลายฝันรู้สึกประหม่าและกังวลเล็กน้อย เพราะเธอรู้ดีว่าคุณปู่ภาคินัยเป็นผู้ใหญ่ที่ทุกคนให้ความเคารพ
เมื่อปลายฝันเดินเข้ามาในห้องรับแขก คุณปู่ก็ยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น ซึ่งทำให้ปลายฝันรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย
“สวัสดีค่ะคุณปู่” ปลายฝันเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ
“สวัสดีปลายฝัน” คุณปู่ตอบด้วยรอยยิ้ม “นั่งก่อนสิ”
ปลายฝันนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกับคุณปู่ โดยมีภาคินัยนั่งอยู่ข้างๆ เพื่อให้กำลังใจ
คุณปู่มองปลายฝันด้วยสายตาที่อ่อนโยน “ปู่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากภีมแล้วนะ”
ปลายฝันพยักหน้าช้าๆ “ค่ะ”
“ปู่รู้ว่าแกคงต้องผ่านเรื่องราวที่ยากลำบากมามาก” คุณปู่เอ่ยขึ้น “ปู่ขอโทษแทนทิชาด้วยนะ”
คำพูดของคุณปู่ทำให้ปลายฝันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าคุณปู่จะเอ่ยคำขอโทษ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณปู่” ปลายฝันตอบ “ปายเข้าใจค่ะ”
“ปู่เห็นความดีในตัวแกนะปลายฝัน” คุณปู่เอ่ยขึ้น “แกเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและจิตใจดี”
คำพูดของคุณปู่ทำให้ปลายฝันรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่คิดว่าจะได้รับคำชมจากผู้ใหญ่ที่น่าเคารพเช่นนี้
“ปู่รู้ว่าภีมรักแกมาก” คุณปู่กล่าวต่อ “และปู่ก็เชื่อว่าแกจะสามารถทำให้ภีมมีความสุขได้”
ปลายฝันยิ้มบางๆ น้ำตาคลอเบ้า “ปายจะพยายามค่ะคุณปู่”
“ปู่จะสนับสนุนความรักของพวกแกนะ” คุณปู่เอ่ยขึ้น “ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องทิชาอีกแล้ว”
คำพูดของคุณปู่ทำให้ภาคินัยและปลายฝันรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก พวกเขาทั้งสองมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
หลังจากที่ได้รับคำปลอบใจและกำลังใจจากคุณปู่ ภาคินัยและปลายฝันก็รู้สึกเข้มแข็งขึ้นอย่างมาก พวกเขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาทุกรูปแบบที่กำลังจะเกิดขึ้น
ภาคินัยเริ่มเดินหน้าแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัทของเขาอย่างเต็มที่ โดยมีธามคอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง หุ้นของบริษัทเริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นของหุ้นส่วนก็กลับคืนมา
ในขณะเดียวกัน ทิชาและรวินท์รยาที่เห็นว่าแผนการของพวกเธอกำลังล้มเหลว ก็รู้สึกโกรธแค้นและผิดหวังอย่างมาก
“คุณแม่คะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้คะ” ทิชาถามคุณหญิงรัญจวนด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ
คุณหญิงรัญจวนถอนหายใจเล็กน้อย “แม่ก็ไม่คิดว่าคุณปู่จะยอมเข้าข้างยัยปลายฝัน”
“แล้วเราจะทำยังไงต่อไปคะ” ทิชาถาม “เราจะปล่อยให้ยัยนั่นมีความสุขไม่ได้นะคะ”
คุณหญิงรัญจวนเงียบไป เธอเริ่มรู้สึกว่าสถานการณ์กำลังจะพลิกผัน และพวกเธออาจจะต้องยอมแพ้
รวินท์รยาเองก็รู้สึกผิดหวังไม่แพ้กัน เธอไม่คิดว่าภาคินัยจะรักปลายฝันมากถึงขนาดนี้
“ฉันไม่น่ากลับมาเลย” รวินท์รยาพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย
ในขณะที่ทุกคนกำลังเผชิญหน้ากับผลลัพธ์ของการกระทำของตัวเอง ภาคินัยและปลายฝันก็ยังคงใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข พวกเขาไปเที่ยว ไปทานข้าว และทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน เพื่อเป็นการชดเชยเวลาที่ผ่านมา
ความรักของพวกเขากำลังเบ่งบานอย่างงดงาม และดูเหมือนว่าอุปสรรคต่างๆ ที่ผ่านมาจะยิ่งทำให้ความรักของพวกเขายิ่งแข็งแกร่งขึ้น
วันหนึ่ง ภาคินัยพาปลายฝันไปที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขาเคยมาเดทกันครั้งแรก
“ปายครับ” ภาคินัยเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณ”
ปลายฝันหันมามองภาคินัยด้วยรอยยิ้ม “อะไรคะคุณภีม”
ภาคินัยคุกเข่าลงตรงหน้าปลายฝัน และหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงขึ้นมา เขานำแหวนเพชรที่ส่องประกายระยิบระยับออกมา
“แต่งงานกับผมนะครับปาย” ภาคินัยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ “อยู่กับผมไปตลอดชีวิตนะครับ”
ปลายฝันถึงกับน้ำตาคลอเบ้า เธอไม่คิดว่าภาคินัยจะขอเธอแต่งงานในวันนี้
“คุณภีมคะ” ปลายฝันตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “ปาย...ปายตกลงค่ะ”
ภาคินัยยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เขาสวมแหวนให้กับปลายฝัน และดึงเธอเข้ามากอดแน่น
“ผมรักคุณนะปาย” ภาคินัยเอ่ยขึ้น “รักมากที่สุดเลย”
ปลายฝันยิ้มตอบ “ปายก็รักคุณค่ะคุณภีม”
เรื่องราวความรักของภาคินัยและปลายฝันกำลังจะเริ่มต้นบทใหม่ และดูเหมือนว่าความสุขกำลังจะเข้ามาแทนที่ความเจ็บปวดที่พวกเขาเคยเผชิญหน้ามา
ตอนที่ 122 บทส่งท้ายกาลเวลาหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทรงจำที่สวยงามยังคงถูกถักทอขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของภาคินัย ปลายฝัน ธามและน้ำหวาน ทุกเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมา ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือท้าทาย ล้วนหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคนที่สมบูรณ์ในวันนี้ บทสรุปของเรื่องราวนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความรักที่อบอุ่น และอนาคตที่สดใส ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นด้วยกันวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สดใสครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน รวมถึงธามและน้ำหวาน ได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้สัมผัสผืนทรายและน้ำทะเลด้วยตัวเองรถตู้คันใหญ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทเพลงจากเด็กๆ น้องเมฆและน้องเมษาที่ตอนนี้เริ่มเดินได้คล่องแคล่ว ต่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย"คุณภีมคะ ดูสิคะน้องเมฆชี้ไปที่ทะเลใหญ่เลย" ปลายฝันยิ้มอย่างมีความสุข"เมษาก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะคุณธาม" น้ำหวานเสริม พลางมองลูกสาวที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเดินทางถึงรีสอร์ตหรูริมทะเล ภาคินัยและธามต่างช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ ส่วนปลายฝันและน้ำหวานก็ดูแลเด็กๆ ที่วิ่งสำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความกระตือ
ตอนที่ 121 บทสรุปของความรักชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดำเนินมาถึงบทสรุปที่งดงาม พวกเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในทุกมิติ ทั้งในด้านความรักที่มั่นคง ครอบครัวที่อบอุ่น และหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ ความรักของพวกเขาสุกงอมและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับธามและน้ำหวาน ที่ต่างก็สร้างสรรค์ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างลงตัว บทสรุปของความรักครั้งนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความเข้าใจ และการเติมเต็มซึ่งกันและกันผ่านมาหลายปี นับตั้งแต่น้องเมฆลืมตาดูโลก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยาที่รักกันอย่างลึกซึ้ง ความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งทวีคูณขึ้นตามกาลเวลา แม้จะมีความรับผิดชอบมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยละเลยที่จะเติมเต็มความปรารถนาและความเร่าร้อนให้แก่กันและกันค่ำคืนหนึ่งหลังจากที่น้องเมฆหลับไปแล้ว แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนอย่างนุ่มนวล ภาคินัยโอบกอดปลายฝันจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอซบหน้ากับแผงอกที่คุ้นเคยของเขา"ปายครับ คุณสวยที่สุดเลยนะ" ภาคินัยกระซิบเสียงพร่า พลางจูบลงบนไหล
ตอนที่ 120 ความสุขหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งความรัก ความสุข ความท้าทาย และการเติบโตในบทบาทใหม่ ทุกคู่ต่างค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง ภาคินัยกับปลายฝัน และธามกับน้ำหวาน ต่างได้ใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาปรารถนา เติมเต็มความหมายของคำว่า "ความสุขที่แท้จริง" ในแบบฉบับของตัวเองชีวิตของภาคินัยและปลายฝันตอนนี้เปรียบเสมือนภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ ทุกองค์ประกอบต่างถูกเติมเต็มอย่างลงตัว ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นจากน้องเมฆ และความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ภาคินัยยังคงทุ่มเทให้กับการบริหารภาคินัย กรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาให้สมดุลระหว่างงานและครอบครัว เขามักจะตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกับน้องเมฆก่อนไปทำงาน และพยายามกลับบ้านให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เวลาช่วงเย็นกับภรรยาและลูกชาย การเห็นน้องเมฆเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา"วันนี้น้องเมฆเรียก 'ป๊า' ชัดขึ้นเยอะเลยนะครับปาย" ภาคินัยเล่าด้วยรอยยิ้มกว้างในมื้อเย็นปลายฝันยังคงเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาคินัย เธอทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่ได้อย่างไม่มีที่ติ ดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อบอุ่
ตอนที่ 119 มิตรภาพที่ยั่งยืนท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตในบทบาทใหม่ ทั้งการเป็นพ่อแม่และการบริหารธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มิตรภาพที่ถักทอขึ้นระหว่างภาคินัยและธาม รวมถึงปลายฝันและน้ำหวาน กลับยิ่งแข็งแกร่งและหยั่งรากลึก พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แต่กลับยิ่งเปล่งประกายและเป็นพลังใจให้แก่กันเสมอครั้งหนึ่ง ภาคินัยและธามเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในสนามแข่งขัน แต่ด้วยความจริงใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาก็ได้ก้าวข้ามกำแพงแห่งการแข่งขันและแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่ง การมีลูกในเวลาใกล้เคียงกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบ่ายวันหนึ่ง ภาคินัยโทรหาธามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแกมขบขัน "เฮ้ยธาม! วันนี้น้องเมฆงอแงไม่ยอมนอนเลยว่ะ ฉันแทบไม่ได้ทำงานเลย"ธามหัวเราะจากปลายสาย "ฉันก็เหมือนกันภีม! น้องเมษาวันนี้เล่นไม่หยุดเลย พลังเยอะจริงๆ เด็กสมัยนี้"บทสนทนาของพวกเขาไม่ใช่เรื่องธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องราวของผ้าอ้อม นมผง และการนอนไม่พอ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นคุณพ่อมือใหม่กลายเ
ตอนที่ 118 การเติบโตของภาคินัย กรุ๊ปหลังจากที่น้องเมฆเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน แรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ไม่เพียงแต่ในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการบริหารงานของภาคินัย กรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การนำของภาคินัย และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากปลายฝัน บริษัทก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิมเช้าวันหนึ่งที่สดใสในเดือนมิถุนายน ภาคินัยเดินนำปลายฝันและน้องเมฆที่อยู่ในรถเข็นเด็ก เข้าสู่ล็อบบี้สุดหรูของภาคินัย ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ภาคินัยในชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและสง่างามกว่าเคย ส่วนปลายฝันในชุดเดรสสีอ่อนสบายตาดูสวยสดใสในมาดคุณแม่ลูกหนึ่ง น้องเมฆตัวน้อยในรถเข็นมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มอ้อแอ้ตลอดเวลา"วันนี้ลูกชายมาเยี่ยมบริษัทป๊าครั้งแรกนะลูก" ภาคินัยกระซิบกับน้องเมฆพลางยิ้มอบอุ่นปลายฝันหัวเราะเบาๆ "สงสัยจะชอบบรรยากาศนะคะเนี่ย"พนักงานในล็อบบี้ที่กำลังสัญจรไปมา ต่างหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นและสมบูรณ์แบบนี้ หลายคนส่งยิ้มและโค้งคำนับให้ผ
ตอนที่ 117 คุณปู่กับทายาทเมื่อน้องเมฆเติบโตขึ้นในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่ภาคินัยและปลายฝันเท่านั้นที่ภาคภูมิใจ แต่ยังมีคุณปู่ของภาคินัย ผู้เป็นรากฐานของอาณาจักรภาคินัย กรุ๊ป ที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นทายาทคนใหม่ การมาถึงของน้องเมฆไม่เพียงแต่เติมเต็มความหมายของคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่ยังเป็นการยืนยันว่าธุรกิจที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย จะมีผู้สืบทอดต่อไปอย่างมั่นคงคุณปู่ของภาคินัย แม้จะอยู่ในวัยชรา แต่ดวงตาท่านยังคงเปล่งประกายด้วยความสุขและความเฉียบแหลม การมาถึงของน้องเมฆ เหลนชายและทายาทของเหลนคนเดียวของตระกูล ทำให้หัวใจของคุณปู่เต็มตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่านเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนาน วันที่จะได้เห็นสายเลือดของตระกูลยังคงดำเนินต่อไปคุณปู่ก็เดินทางมาเยี่ยมเหลนชายที่บ้านทันที ท่านนั่งลงข้างเปลนอนของน้องเมฆ มองเหลนชายตัวน้อยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู"ตาหนูเมฆของปู่ ในที่สุดเจ้าก็มา" คุณปู่กระซิบเสียงแผ่ว พลางเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นลูบไล้แก้มยุ้ยของน้องเมฆอย่างอ่อนโยนภาคินัยและปลายฝันยืนมองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้ง พวกเขารับรู้ได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่คุณ