ตอนที่ 35 ธามกับความรู้สึกที่ซับซ้อน

ตอนที่ 35 ธามกับความรู้สึกที่ซับซ้อน

หลังจากที่ทิชาจัดงานแถลงข่าวบิดเบือนข้อมูลอย่างน่ารังเกียจ สถานการณ์ก็เลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว ภาคินัยต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลทั้งจากสื่อมวลชนและหุ้นส่วนทางธุรกิจที่เริ่มสั่นคลอน ปลายฝันเองก็เจ็บปวดกับการถูกตราหน้าว่าเป็นมือที่สาม ขณะที่ธามซึ่งอยู่ตรงกลางของเรื่องราวทั้งหมดนี้ ก็รู้สึกสับสนและเจ็บปวดไม่แพ้กัน

ธามนั่งอยู่ในห้องทำงานของภาคินัยหลังจากที่ข่าวแพร่สะพัดออกไป เขามองดูเพื่อนสนิทที่ใบหน้าหมองคล้ำและแววตาเต็มไปด้วยความเครียด ธามรู้ดีว่าภาคินัยกำลังรับมือกับเรื่องนี้อย่างหนัก แต่ในใจของธามเองก็มีความรู้สึกที่ซับซ้อนไม่ต่างกัน เขาเข้าใจดีถึงปมอดีตของภาคินัยที่ถูกเปิดเผยอย่างบิดเบือน และโกรธแค้นแทนเพื่อน แต่ในอีกมุมหนึ่ง เขาก็เห็นภาพทิชาที่เคยอ่อนแอและต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดที่เห็นเธอเปลี่ยนไปเป็นคนแบบนี้

“แกจะทำยังไงต่อไปวะภีม” ธามถามด้วยน้ำเสียงกังวล “หุ้นบริษัทแกดิ่งลงเหวแล้วนะ”

ภาคินัยกำหมัดแน่น “ฉันจะจัดการแถลงข่าวพรุ่งนี้ธาม ฉันจะเปิดเผยความจริงทั้งหมด”

“แกแน่ใจนะภีม” ธามถามย้ำ “นี่มันเดิมพันสูงมากเลยนะ”

“ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วธาม” ภาคินัยตอบอย่างหนักแน่น “ฉันจะไม่ยอมให้ทิชาทำลายทุกอย่างที่ฉันสร้างมา และฉันจะปกป้องปลายฝันให้ได้”

ธามพยักหน้าช้าๆ เขาเชื่อมั่นในตัวเพื่อน และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเสมอ แต่ในใจเขากลับนึกถึงทิชา เขายังจำรอยยิ้มแรกที่เธอแสดงออกถึงความขอบคุณเมื่อเขาช่วยกอบกู้บริษัทได้ ภาพทิชาที่เคยดูเปราะบางแตกต่างจากทิชาในวันนี้ราวฟ้ากับเหว อะไรทำให้เธอเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้? ความรู้สึกผิดหวังเล็กๆ ผสมกับความเสียใจผุดขึ้นในใจเขา

ธามเริ่มวางแผนการตอบโต้กับภาคินัยอย่างเร่งด่วน พวกเขาทำงานกันจนดึกดื่นเพื่อรวบรวมหลักฐานและข้อมูลที่จะใช้ในการแถลงข่าวครั้งสำคัญนี้ ธามใช้ความสามารถและความสัมพันธ์ของเขาในการประสานงานกับสื่อมวลชนที่ยังคงมีจรรยาบรรณ และติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์

ในขณะที่ธามกำลังทุ่มเทให้กับการช่วยเหลือภาคินัย เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากทิชาในวันรุ่งขึ้นก่อนการแถลงข่าว

“คุณธามคะ” เสียงของทิชาฟังดูเย็นชา “ดิฉันไม่คิดว่าคุณธามจะเข้าข้างยัยปลายฝันขนาดนี้”

ธามถอนหายใจ “ผมไม่ได้เข้าข้างใครครับคุณทิชา ผมแค่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง”

“ถูกต้องงั้นเหรอคะ” ทิชาหัวเราะเยาะ “คุณธามกำลังช่วยคนที่ทำลายความสุขของคนอื่นนะ”

“คุณทิชาครับ” ธามเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผมรู้เรื่องราวในอดีตของคุณภีมทั้งหมดแล้ว และผมก็รู้ว่าอะไรคือความจริง”

คำพูดของธามทำให้ทิชาเงียบไปเล็กน้อย

“คุณธามจะเสียใจนะคะที่ทำแบบนี้” ทิชาพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ “คุณกำลังเลือกข้างที่ผิดนะ”

“ผมไม่เคยเสียใจที่ได้ทำในสิ่งที่ผมเชื่อว่าถูกต้องครับคุณทิชา” ธามตอบอย่างหนักแน่น “และผมก็หวังว่าคุณจะคิดทบทวนการกระทำของคุณใหม่นะครับ”

ธามวางสายไปทันที เขารู้สึกเจ็บปวดที่ต้องพูดแบบนี้กับทิชา แต่เขาก็ไม่สามารถทนเห็นเธอทำลายชีวิตของคนอื่นได้อีกต่อไป

หลังจากวางสายจากทิชา ธามก็นั่งนิ่งอยู่พักหนึ่ง เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาเหม่อลอย ความรู้สึกที่ตีกันในใจทำให้เขาปวดหนึบ ทิชาเคยเป็นคนที่เขามองเห็นแววตาของความเจ็บปวดและเปราะบาง เขาเคยรู้สึกสงสารและอยากจะช่วยเธอให้พ้นจากความทุกข์ แต่ตอนนี้เธอกลับกลายเป็นคนที่เขาไม่รู้จักอีกแล้ว

ธามรู้ดีว่าการที่เขาเข้าไปช่วยภาคินัยในครั้งนี้ อาจทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับทิชาต้องขาดสะบั้นลงอย่างถาวร แต่นั่นเป็นสิ่งเดียวที่เขาทำได้ในฐานะเพื่อน และในฐานะคนที่ต้องการเห็นความถูกต้อง

ในใจลึกๆ ของธาม เขายังคงมีความหวังเล็กๆ ว่าทิชาจะคิดได้ เขาอยากให้เธอหยุดการกระทำที่ทำลายตัวเองและผู้อื่น เขาอยากให้เธอกลับมาเป็นทิชาคนเดิมที่เขามองเห็นในวันแรกที่เธอเข้ามาขอความช่วยเหลือ แต่เขาก็รู้ว่ามันคงเป็นไปได้ยากแล้ว

ขณะเดียวกัน ปลายฝันที่เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาคินัยและธาม ก็รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น เธอตัดสินใจที่จะยืนหยัดเคียงข้างภาคินัย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

“คุณภีมคะ ปายจะอยู่ข้างคุณภีมเสมอนะคะ” ปลายฝันบอกภาคินัยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันค่ะ”

ภาคินัยยิ้มให้ปลายฝัน เขารู้สึกอบอุ่นในหัวใจ การมีปลายฝันและธามอยู่เคียงข้าง ทำให้เขารู้สึกเข้มแข็งขึ้นอย่างมาก

ในวันแถลงข่าว บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด สื่อมวลชนจำนวนมากมารวมตัวกันเพื่อรอฟังคำชี้แจงจากภาคินัย ทิชาและรวินท์รยาเองก็มาปรากฏตัวในงานด้วยสีหน้าเย้ยหยัน

ภาคินัยเดินขึ้นไปบนเวทีด้วยสีหน้าจริงจัง โดยมีธามยืนอยู่ข้างๆ เพื่อให้กำลังใจ

“สวัสดีครับสื่อมวลชนทุกท่าน” ภาคินัยเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “วันนี้ผมขออนุญาตชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดครับ”

ภาคินัยเริ่มต้นเล่าเรื่องราวในอดีตของเขากับรวินท์รยาอย่างละเอียด เขาเล่าถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ความเข้าใจผิดที่ว่ารวินท์รยาเสียชีวิต และความเจ็บปวดที่เขาต้องแบกรับมาตลอดหลายปี เขาไม่ได้บิดเบือนข้อมูลใดๆ แต่เล่าด้วยความจริงใจและเจ็บปวด

“ผมขอโทษที่ผมเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับมาตลอด” ภาคินัยกล่าว “ผมกลัวความเจ็บปวด และผมก็กลัวการสูญเสียคนที่ผมรักไปอีกครั้ง”

จากนั้น ภาคินัยก็พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับปลายฝัน

“ปลายฝันไม่ได้เป็นมือที่สาม และเธอไม่เคยคิดที่จะทำลายความสัมพันธ์ของใคร” ภาคินัยเอ่ยขึ้นอย่างชัดเจน “ผมรักปลายฝัน และผมจะไม่มีวันทิ้งเธอไปเด็ดขาด”

คำพูดของภาคินัยสร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนในงานเป็นอย่างมาก สื่อมวลชนต่างพากันบันทึกภาพและเสียงอย่างรวดเร็ว

ทิชาและรวินท์รยาที่ได้ยินคำชี้แจงของภาคินัย ก็รู้สึกโกรธจัด ใบหน้าของพวกเธอซีดเผือด

“คุณภาคินัยกำลังโกหก!” ทิชาตะโกนขึ้น “เขาพยายามจะบิดเบือนความจริง!”

แต่คำพูดของทิชากลับไม่ได้รับความสนใจมากนัก เพราะคำชี้แจงของภาคินัยดูน่าเชื่อถือและจริงใจมากกว่า

ธามที่ยืนอยู่ข้างภาคินัย ก็มองไปที่ทิชาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจ เขารู้สึกว่าทิชาได้เดินไปไกลเกินกว่าที่จะกลับมาได้แล้ว

การแถลงข่าวของภาคินัยสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วสังคม หุ้นของบริษัทภาคินัยเริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่ชื่อเสียงของทิชากลับตกต่ำลงอย่างไม่น่าเชื่อ

ปมรักสามเส้าที่เคยซับซ้อน กำลังจะถูกคลี่คลาย และบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดก็ใกล้เข้ามาทุกที