วิกฤตของ "ภาคินัย กรุ๊ป" เป็นข่าวใหญ่ที่แพร่สะพัดไปทั่ววงการธุรกิจ ไม่เพียงแต่สร้างความกังวลให้แก่ผู้บริหารและพนักงานเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตของ ภาคินัย ด้วย เขาต้องใช้เวลาทั้งหมดทุ่มเทให้กับการแก้ไขปัญหา แทบไม่มีเวลาพักผ่อนเลย
ปลายฝันรับรู้ถึงความหนักใจของภาคินัย เธอเห็นเขาทำงานหามรุ่งหามค่ำ พักผ่อนน้อย และมีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา ในฐานะคนรัก ปลายฝันรู้สึกเป็นห่วงและอยากช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แม้เธอจะไม่ได้มีความรู้โดยตรงด้านการบริหารธุรกิจ แต่เธอก็มีความรู้ความสามารถในด้านการออกแบบและเทคโนโลยี ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในสถานการณ์เช่นนี้
ในคืนหนึ่ง ปลายฝันเดินเข้าไปในห้องทำงานของภาคินัย เขาฟุบหลับอยู่บนโต๊ะทำงาน ใบหน้าซูบผอมจากความเหนื่อยล้า เธอค่อยๆ วางแก้วกาแฟอุ่นๆ ลงข้างๆ เขา แล้วเอื้อมมือไปลูบผมเขาเบาๆ
ภาคินัยค่อยๆ ลืมตาขึ้น มองปลายฝันด้วยแววตาอ่อนล้า "ขอโทษนะปาย...ผมกำลังคิดเรื่องงานอยู่"
"ไม่เป็นไรค่ะคุณภีม" ปลายฝันพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ปายเข้าใจค่ะ...แต่คุณต้องพักบ้างนะคะ" เธอหยิบเอกสารบางอย่างขึ้นมาดู ซึ่งเป็นรายงานเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นกับบริษัท
"ปายพอจะช่วยอะไรได้บ้างไหมคะ" ปลายฝันถามด้วยความตั้งใจ "ปายอาจจะไม่ได้เก่งเรื่องธุรกิจเท่าคุณภีม แต่ปายมีความรู้เรื่องการออกแบบระบบ และเทคโนโลยีบางอย่าง...บางทีอาจจะพอเป็นประโยชน์ได้บ้าง"
ภาคินัยมองปลายฝันด้วยความประหลาดใจ แววตาของเขาฉายแววความหวังเล็กน้อย "คุณจะช่วยได้เหรอปาย"
"แน่นอนค่ะ" ปลายฝันพยักหน้าอย่างมั่นใจ "คุณภีมเล่ารายละเอียดให้ปายฟังได้ไหมคะ โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีทางไซเบอร์ และการรั่วไหลของข้อมูล ปายอาจจะพอช่วยวิเคราะห์หาจุดอ่อน หรือแนะนำแนวทางการป้องกันได้ค่ะ"
จากวันนั้นเป็นต้นมา ปลายฝันก็เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยภาคินัยแก้ไขปัญหาวิกฤตของบริษัท เธอใช้ความรู้ความสามารถทั้งหมดที่มีในการวิเคราะห์ระบบรักษาความปลอดภัยของ "ภาคินัย กรุ๊ป" เธอทำงานร่วมกับทีมไอทีอย่างใกล้ชิด เพื่อระบุช่องโหว่และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบป้องกัน
ปลายฝันใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์ของเธอในการค้นหาความผิดปกติของข้อมูลที่รั่วไหล เธอใช้ความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบมาช่วยในการวางแผนระบบป้องกันใหม่ที่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เธอใช้เวลาหลายชั่วโมงในการศึกษาข้อมูลต่างๆ และหาทางแก้ไขปัญหาอย่างละเอียด
นอกจากนี้ ปลายฝันยังช่วยภาคินัยในด้านอื่นๆ ด้วย เธอช่วยจัดระเบียบเอกสาร ช่วยค้นหาข้อมูลสำคัญ และยังเป็นที่ปรึกษาทางใจให้แก่เขา เธอคอยรับฟังปัญหาของเขา ให้กำลังใจ และเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้เขามีแรงสู้ต่อไป
ในขณะที่ปลายฝันกำลังทุ่มเทช่วยเหลือภาคินัยอย่างเต็มที่ ธามเองก็ปรากฏตัวขึ้น เขาเดินเข้ามาในห้องทำงานของภาคินัยด้วยสีหน้าจริงจัง แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะรู้สึกสับสนและเจ็บปวดกับการที่ทิชาตีตัวออกห่าง แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ปล่อยให้เรื่องส่วนตัวมาบดบังหน้าที่ในฐานะเพื่อน
"ภีม...แกเป็นยังไงบ้าง" ธามเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกังวล "ฉันได้ยินข่าวเรื่องบริษัทของแก...ฉันเป็นห่วงนะ"
ภาคินัยเงยหน้าขึ้นมองธาม "ไม่เป็นไรหรอกธาม...ฉันจัดการได้" เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะเข้มแข็ง
"จัดการได้ยังไงวะภีม" ธามสวนกลับ "บริษัทแกกำลังเจอวิกฤตหนักนะเว้ย" เขาเดินเข้าไปใกล้ภาคินัย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ฉันรู้ว่าแกอาจจะไม่เชื่อฉัน แต่ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกแก"
ธามเล่าเรื่องทั้งหมดให้ภาคินัยฟัง ตั้งแต่เรื่องที่ทิชาพยายามตีสนิทกับเขา การที่ทิชาใช้เขาเป็นเครื่องมือในการดึงดูดความสนใจจากภาคินัย ไปจนถึงการที่ทิชาตีตัวออกห่างจากเขาอย่างไม่มีเหตุผลเมื่อแผนการไม่เป็นไปตามที่เธอคาดหวัง ธามเล่าทุกอย่างอย่างละเอียด โดยไม่มีการปิดบังใดๆ
"ฉันรู้ว่าแกอาจจะไม่เชื่อ" ธามพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวด "แต่ฉันเพิ่งมารู้ตัวว่าถูกทิชาหลอกใช้เหมือนกัน...ฉันไม่รู้ว่าเธอวางแผนอะไรไว้บ้าง แต่ฉันสงสัยว่าเธออาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย"
ภาคินัยฟังธามอย่างตั้งใจ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกตกใจและประหลาดใจในสิ่งที่ธามเล่า เขาไม่เคยคิดว่าทิชาจะสามารถทำเรื่องที่ซับซ้อนและเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้
"แกมั่นใจนะธาม" ภาคินัยถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"ฉันมั่นใจภีม" ธามตอบ "ฉันอาจจะโง่ที่หลงเชื่อเธอ...แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเธอเป็นคนยังไง" เขาเว้นวรรคเล็กน้อย "และฉันจะไม่ยอมให้เธอทำร้ายแกได้อีก"
ธามเสนอตัวที่จะเข้ามาช่วยภาคินัยแก้ไขปัญหาวิกฤตของบริษัท เขาใช้ความสามารถในการสืบสวนและหาข้อมูลต่างๆ เพื่อรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตภายใน และการโจมตีจากภายนอก ธามทำงานร่วมกับทีมกฎหมายและฝ่ายบุคคลอย่างใกล้ชิด เพื่อระบุตัวผู้กระทำผิดและหาช่องทางในการดำเนินการทางกฎหมาย
มิตรภาพที่แข็งแกร่งของธามและภาคินัยถูกพิสูจน์ในยามวิกฤตนี้ แม้ว่าพวกเขาจะเคยมีเรื่องราวที่ซับซ้อนเกี่ยวกับทิชา แต่พวกเขาก็ยังคงยืนหยัดเคียงข้างกันในฐานะเพื่อน
ด้วยความช่วยเหลือจากปลายฝันและธาม ภาคินัยก็เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ปลายฝันช่วยในการแก้ไขปัญหาระบบไอทีและการป้องกันข้อมูลรั่วไหล ส่วนธามช่วยในการสืบสวนหาต้นตอของการทุจริตและการโจมตีจากภายนอก
พวกเขาทั้งสามคนทำงานร่วมกันอย่างหนัก ไม่เว้นวันหยุด พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องทำงานของภาคินัย แลกเปลี่ยนข้อมูล วางแผน และหาทางออกให้กับปัญหาต่างๆ
ปลายฝันใช้ความรู้ด้านเทคโนโลยีของเธอในการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ที่แข็งแกร่งและซับซ้อนยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ในอนาคต เธอวิเคราะห์ร่องรอยดิจิทัลที่ผู้โจมตีทิ้งไว้ และใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการติดตามหาตัวผู้กระทำผิด
ส่วนธาม เขาใช้ความสามารถในการสืบสวนของเขาในการเจาะลึกเข้าไปในเครือข่ายของผู้ทุจริตภายใน เขาค้นพบหลักฐานสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างผู้กระทำผิดและคู่แข่งทางธุรกิจของ "ภาคินัย กรุ๊ป" รวมถึงหลักฐานที่บ่งชี้ว่าทิชามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย
ภาคินัยรู้สึกซาบซึ้งใจกับการช่วยเหลือของทั้งปลายฝันและธามอย่างมาก เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะได้รับความช่วยเหลือที่สำคัญและจริงใจขนาดนี้ ในยามที่เขาต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต
เขารู้ว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว เขามีปลายฝันคนที่เขารักอยู่เคียงข้าง และเขาก็มีธามเพื่อนแท้ที่พร้อมจะช่วยเหลือเขาเสมอ
วิกฤตการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญสำหรับภาคินัย เขาได้เรียนรู้ว่าความไว้วางใจที่มากเกินไปอาจนำมาซึ่งความเสียหาย และการประมาทเลินเล่ออาจทำให้ต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่เลวร้าย
แต่ในขณะเดียวกัน วิกฤตการณ์นี้ก็ทำให้เขาได้เห็นถึงความรักและความจริงใจจากคนที่อยู่รอบข้าง เขาได้เห็นว่าปลายฝันรักเขามากแค่ไหน และธามก็เป็นเพื่อนที่แท้จริง
ด้วยความช่วยเหลือของปลายฝันและธาม "ภาคินัย กรุ๊ป" ค่อยๆ ฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ที่หนักหนาสาหัส การแก้ไขปัญหาต่างๆ ดำเนินไปอย่างเป็นระบบ และหลักฐานที่รวบรวมได้ก็เพียงพอที่จะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำผิดได้
การทุจริตภายในถูกเปิดโปง ผู้เกี่ยวข้องถูกดำเนินคดี การโจมตีทางไซเบอร์ถูกแก้ไข และระบบป้องกันถูกเสริมสร้างให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ส่วนคู่แข่งทางธุรกิจที่พยายามฉวยโอกาส ก็ต้องเผชิญกับการฟ้องร้องทางกฎหมายจากการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ภาคินัยรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อวิกฤตการณ์เริ่มคลี่คลายลง เขามองไปยังปลายฝันและธามที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาด้วยรอยยิ้ม
"ขอบคุณมากนะปาย...ธาม" ภาคินัยเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงใจ "ถ้าไม่มีพวกแก ฉันคงไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี"
ปลายฝันยิ้มตอบ "ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณภีม"
ธามตบบ่าภาคินัยเบาๆ "เราเพื่อนกันนะภีม"
วิกฤตครั้งนี้ทำให้ "ภาคินัย กรุ๊ป" แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม และยังตอกย้ำให้ความสัมพันธ์ระหว่างภาคินัย ปลายฝัน และธาม แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีก บทเรียนที่ได้รับจากความยากลำบากครั้งนี้ จะเป็นพลังขับเคลื่อนให้พวกเขาก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและระมัดระวังยิ่งขึ้น
ตอนที่ 122 บทส่งท้ายกาลเวลาหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทรงจำที่สวยงามยังคงถูกถักทอขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของภาคินัย ปลายฝัน ธามและน้ำหวาน ทุกเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมา ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือท้าทาย ล้วนหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคนที่สมบูรณ์ในวันนี้ บทสรุปของเรื่องราวนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความรักที่อบอุ่น และอนาคตที่สดใส ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นด้วยกันวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สดใสครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน รวมถึงธามและน้ำหวาน ได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้สัมผัสผืนทรายและน้ำทะเลด้วยตัวเองรถตู้คันใหญ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทเพลงจากเด็กๆ น้องเมฆและน้องเมษาที่ตอนนี้เริ่มเดินได้คล่องแคล่ว ต่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย"คุณภีมคะ ดูสิคะน้องเมฆชี้ไปที่ทะเลใหญ่เลย" ปลายฝันยิ้มอย่างมีความสุข"เมษาก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะคุณธาม" น้ำหวานเสริม พลางมองลูกสาวที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเดินทางถึงรีสอร์ตหรูริมทะเล ภาคินัยและธามต่างช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ ส่วนปลายฝันและน้ำหวานก็ดูแลเด็กๆ ที่วิ่งสำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความกระตือ
ตอนที่ 121 บทสรุปของความรักชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดำเนินมาถึงบทสรุปที่งดงาม พวกเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในทุกมิติ ทั้งในด้านความรักที่มั่นคง ครอบครัวที่อบอุ่น และหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ ความรักของพวกเขาสุกงอมและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับธามและน้ำหวาน ที่ต่างก็สร้างสรรค์ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างลงตัว บทสรุปของความรักครั้งนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความเข้าใจ และการเติมเต็มซึ่งกันและกันผ่านมาหลายปี นับตั้งแต่น้องเมฆลืมตาดูโลก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยาที่รักกันอย่างลึกซึ้ง ความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งทวีคูณขึ้นตามกาลเวลา แม้จะมีความรับผิดชอบมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยละเลยที่จะเติมเต็มความปรารถนาและความเร่าร้อนให้แก่กันและกันค่ำคืนหนึ่งหลังจากที่น้องเมฆหลับไปแล้ว แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนอย่างนุ่มนวล ภาคินัยโอบกอดปลายฝันจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอซบหน้ากับแผงอกที่คุ้นเคยของเขา"ปายครับ คุณสวยที่สุดเลยนะ" ภาคินัยกระซิบเสียงพร่า พลางจูบลงบนไหล
ตอนที่ 120 ความสุขหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งความรัก ความสุข ความท้าทาย และการเติบโตในบทบาทใหม่ ทุกคู่ต่างค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง ภาคินัยกับปลายฝัน และธามกับน้ำหวาน ต่างได้ใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาปรารถนา เติมเต็มความหมายของคำว่า "ความสุขที่แท้จริง" ในแบบฉบับของตัวเองชีวิตของภาคินัยและปลายฝันตอนนี้เปรียบเสมือนภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ ทุกองค์ประกอบต่างถูกเติมเต็มอย่างลงตัว ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นจากน้องเมฆ และความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ภาคินัยยังคงทุ่มเทให้กับการบริหารภาคินัย กรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาให้สมดุลระหว่างงานและครอบครัว เขามักจะตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกับน้องเมฆก่อนไปทำงาน และพยายามกลับบ้านให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เวลาช่วงเย็นกับภรรยาและลูกชาย การเห็นน้องเมฆเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา"วันนี้น้องเมฆเรียก 'ป๊า' ชัดขึ้นเยอะเลยนะครับปาย" ภาคินัยเล่าด้วยรอยยิ้มกว้างในมื้อเย็นปลายฝันยังคงเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาคินัย เธอทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่ได้อย่างไม่มีที่ติ ดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อบอุ่
ตอนที่ 119 มิตรภาพที่ยั่งยืนท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตในบทบาทใหม่ ทั้งการเป็นพ่อแม่และการบริหารธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มิตรภาพที่ถักทอขึ้นระหว่างภาคินัยและธาม รวมถึงปลายฝันและน้ำหวาน กลับยิ่งแข็งแกร่งและหยั่งรากลึก พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แต่กลับยิ่งเปล่งประกายและเป็นพลังใจให้แก่กันเสมอครั้งหนึ่ง ภาคินัยและธามเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในสนามแข่งขัน แต่ด้วยความจริงใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาก็ได้ก้าวข้ามกำแพงแห่งการแข่งขันและแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่ง การมีลูกในเวลาใกล้เคียงกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบ่ายวันหนึ่ง ภาคินัยโทรหาธามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแกมขบขัน "เฮ้ยธาม! วันนี้น้องเมฆงอแงไม่ยอมนอนเลยว่ะ ฉันแทบไม่ได้ทำงานเลย"ธามหัวเราะจากปลายสาย "ฉันก็เหมือนกันภีม! น้องเมษาวันนี้เล่นไม่หยุดเลย พลังเยอะจริงๆ เด็กสมัยนี้"บทสนทนาของพวกเขาไม่ใช่เรื่องธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องราวของผ้าอ้อม นมผง และการนอนไม่พอ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นคุณพ่อมือใหม่กลายเ
ตอนที่ 118 การเติบโตของภาคินัย กรุ๊ปหลังจากที่น้องเมฆเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน แรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ไม่เพียงแต่ในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการบริหารงานของภาคินัย กรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การนำของภาคินัย และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากปลายฝัน บริษัทก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิมเช้าวันหนึ่งที่สดใสในเดือนมิถุนายน ภาคินัยเดินนำปลายฝันและน้องเมฆที่อยู่ในรถเข็นเด็ก เข้าสู่ล็อบบี้สุดหรูของภาคินัย ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ภาคินัยในชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและสง่างามกว่าเคย ส่วนปลายฝันในชุดเดรสสีอ่อนสบายตาดูสวยสดใสในมาดคุณแม่ลูกหนึ่ง น้องเมฆตัวน้อยในรถเข็นมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มอ้อแอ้ตลอดเวลา"วันนี้ลูกชายมาเยี่ยมบริษัทป๊าครั้งแรกนะลูก" ภาคินัยกระซิบกับน้องเมฆพลางยิ้มอบอุ่นปลายฝันหัวเราะเบาๆ "สงสัยจะชอบบรรยากาศนะคะเนี่ย"พนักงานในล็อบบี้ที่กำลังสัญจรไปมา ต่างหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นและสมบูรณ์แบบนี้ หลายคนส่งยิ้มและโค้งคำนับให้ผ
ตอนที่ 117 คุณปู่กับทายาทเมื่อน้องเมฆเติบโตขึ้นในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่ภาคินัยและปลายฝันเท่านั้นที่ภาคภูมิใจ แต่ยังมีคุณปู่ของภาคินัย ผู้เป็นรากฐานของอาณาจักรภาคินัย กรุ๊ป ที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นทายาทคนใหม่ การมาถึงของน้องเมฆไม่เพียงแต่เติมเต็มความหมายของคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่ยังเป็นการยืนยันว่าธุรกิจที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย จะมีผู้สืบทอดต่อไปอย่างมั่นคงคุณปู่ของภาคินัย แม้จะอยู่ในวัยชรา แต่ดวงตาท่านยังคงเปล่งประกายด้วยความสุขและความเฉียบแหลม การมาถึงของน้องเมฆ เหลนชายและทายาทของเหลนคนเดียวของตระกูล ทำให้หัวใจของคุณปู่เต็มตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่านเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนาน วันที่จะได้เห็นสายเลือดของตระกูลยังคงดำเนินต่อไปคุณปู่ก็เดินทางมาเยี่ยมเหลนชายที่บ้านทันที ท่านนั่งลงข้างเปลนอนของน้องเมฆ มองเหลนชายตัวน้อยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู"ตาหนูเมฆของปู่ ในที่สุดเจ้าก็มา" คุณปู่กระซิบเสียงแผ่ว พลางเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นลูบไล้แก้มยุ้ยของน้องเมฆอย่างอ่อนโยนภาคินัยและปลายฝันยืนมองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้ง พวกเขารับรู้ได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่คุณ