เสียงดนตรีบรรเลงคลอเคล้า บทสนทนาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ภาคินัย กรุ๊ป กำลังเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ หลังจากการฟื้นฟูบริษัท วันนี้คือวันพิสูจน์ว่าความมุ่งมั่นและความร่วมมือกันของทุกคนสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ และแน่นอนว่าในงานเลี้ยงอันหรูหรานี้ เพื่อนรักอย่าง ปลายฝันก็อยู่เคียงข้างภาคินัยเสมอ เช่นเดียวกับน้ำหวาน และธามที่มาในฐานะแขกคนสำคัญ พร้อมกับความสัมพันธ์บทใหม่ที่กำลังเบ่งบาน
ค่ำคืนนี้ ณ ห้องบอลรูมสุดหรูของโรงแรมใจกลางเมือง ถูกเนรมิตให้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จของ ภาคินัย กรุ๊ป แสงไฟระยิบระยับสะท้อนกับคริสตัลแชนเดอเลียร์ ประดับประดาด้วยดอกไม้นานาชนิด และกลิ่นหอมอ่อนๆ ของอาหารเลิศรสอบอวลไปทั่วบริเวณ แขกผู้มีเกียรติมากมายจากวงการธุรกิจต่างมารวมตัวกันเพื่อร่วมยินดีกับความสำเร็จของ ภาคินัย
ภาคินัย ในชุดสูทสั่งตัดดูสง่างามและภูมิฐาน ยืนต้อนรับแขกด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและโล่งใจ ข้างๆ เขาคือปลายฝัน ที่วันนี้มาในชุดราตรีสีเขียวมรกตขับผิวขาวผ่องของเธอให้โดดเด่นงดงาม เธอส่งยิ้มต้อนรับแขกทุกคนด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติและเป็นกันเอง ราวกับเป็นเจ้าของงานร่วมกับ ภาคินัย
"ยินดีด้วยนะครับคุณภีม ไม่คิดเลยว่าคุณจะทำได้จริงๆ" นักธุรกิจคนหนึ่งกล่าวชื่นชม
"ขอบคุณมากครับคุณสมศักดิ์ ผมทำคนเดียวไม่ได้หรอกครับ ถ้าไม่ได้ทุกคนช่วยกัน" ภาคินัย ตอบอย่างถ่อมตน พลางกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องที่เต็มไปด้วยพนักงานที่เขาภาคภูมิใจ
ปลายฝันกระซิบข้างหูภาคินัย "เห็นไหม ฉันบอกแล้วว่าคุณภีมต้องทำได้"
ภาคินัยหันมายิ้มให้ปลายฝัน แววตาของเขามีความหมายลึกซึ้ง ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ใช่แค่ของบริษัท แต่ยังเป็นของพวกเขาที่ร่วมต่อสู้กันมาตลอด
ไม่นานนักน้ำหวานและธามก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้างาน น้ำหวานสวมชุดราตรีสีชมพูพาสเทลที่ดูอ่อนหวานและสดใส รับกับใบหน้าที่ดูมีความสุขของเธอ ธาม ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มยืนเคียงข้างเธอด้วยท่าทางที่ดูมั่นใจและอบอุ่น ทั้งคู่ดูเหมาะสมกันอย่างยิ่งและออร่าแห่งความสุขก็แผ่ออกมาจากตัวของพวกเขา
"น้ำหวาน! คุณธาม!" ปลายฝันเอ่ยทักด้วยความดีใจ เธอเดินเข้าไปกอด น้ำหวาน แน่น
"ปาย! ยินดีด้วยนะจ๊ะ คุณภีมกับปายนี่เก่งจริงๆ เลย" น้ำหวานชมเชย
"ขอบใจนะน้ำหวาน แกเองก็ดูสดใสขึ้นเยอะเลยนะ" ปลายฝันสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเพื่อน
ภาคินัยเดินเข้ามาหา "ยินดีต้อนรับครับน้ำหวาน ธามขอบคุณที่มาร่วมงานในวันนี้"
ธามยื่นมือไปจับมือ ภาคินัย "ยินดีด้วยนะภีม นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ดีใจด้วยมาก ๆ"
"ขอบใจนะธาม" ภาคินัยยิ้ม
"ดีใจที่เห็นพวกคุณมีความสุขกันนะครับ"
น้ำหวานอมยิ้มเล็กน้อย พลางเหลือบมองธามที่ยืนอยู่ข้างๆ เธออย่างอบอุ่น สายตาของพวกเขาประสานกันอย่างอ่อนโยน เป็นการยืนยันว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังไปได้สวย
เมื่อการทักทายกับแขกผู้มีเกียรติเริ่มซาลง ภาคินัยและปลายฝัน ก็ปลีกตัวมาอยู่รวมกับน้ำหวานและธาม พวกเขาทั้งสี่คนยืนคุยกันอย่างสนุกสนานราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
"เมื่อไหร่คุณธามจะชวนน้ำหวานแต่งงานซะทีล่ะคะเนี่ย ฉันลุ้นจะแย่แล้วนะ" ปลายฝันแซวขึ้นมา
ธามหัวเราะเบาๆ พลางมองหน้า น้ำหวานที่หน้าแดงเล็กน้อย "เรื่องนั้นเดี๋ยวผมจัดการเองครับคุณปาย"
"อะไรกันปาย!" น้ำหวานแกล้งตีแขนปลายฝันเบาๆ
ภาคินัยอมยิ้มมองดูเพื่อนทั้งสอง เขาดีใจที่เห็นน้ำหวานกลับมามีความสุขได้อีกครั้งหลังจากที่ต้องเจอเรื่องราวมากมาย
"น้ำหวานสบายดีขึ้นแล้วใช่ไหมครับ" ภาคินัยถามด้วยความเป็นห่วง
"สบายดีค่ะคุณภีม ขอบคุณคุณภีมกับปายมากเลยนะคะที่เป็นห่วงฉันตลอด" น้ำหวานตอบอย่างจริงใจ
"ไม่เป็นไรหรอกน้ำหวาน พวกเราเป็นเพื่อนกันนี่นา" ปลายฝันโอบไหล่เพื่อนรัก
บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสุข ธามไม่ปล่อยมือจาก น้ำหวานเลยตลอดงาน เขาคอยดูแลเธอไม่ห่างคอยรินเครื่องดื่มให้ คอยตักอาหารให้และคอยกระซิบคำหวานๆ ให้เธอได้ยินอยู่เสมอ
น้ำหวานรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิงในคืนนี้ เธอไม่เคยคิดเลยว่าความรักของเธอจะกลับมาเบ่งบานได้อีกครั้งและครั้งนี้มันแข็งแกร่งกว่าเดิม เพราะมันผ่านบททดสอบที่สำคัญที่สุดมาแล้ว
เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญภาคินัยเดินขึ้นไปบนเวทีท่ามกลางเสียงปรบมือดังกึกก้องแสงสปอตไลท์สาดส่องมาที่เขา ทำให้เขายิ่งดูโดดเด่นและมีออร่าของความเป็นผู้นำ
"สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านพนักงาน ภาคินัย กรุ๊ป ทุกคนและที่สำคัญที่สุด เพื่อนๆ ที่รักของผมทุกท่านครับ" ภาคินัยเริ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง
"วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขและภูมิใจที่สุดในชีวิตครับ"
เขาหยุดพักเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อ
"เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ภาคินัย กรุ๊ป ของเราต้องเผชิญกับวิกฤตที่หนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลายคนมองว่าเราคงจะล้มลง แต่ด้วยความมุ่งมั่น ความตั้งใจ และที่สำคัญที่สุดคือความร่วมมือร่วมใจของพนักงานทุกคน และการสนับสนุนจากคนรอบข้าง ผมกล้ายืนยันว่า ภาคินัย กรุ๊ป ได้กลับมายืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งกว่าเดิมแล้วครับ!"
เสียงปรบมือดังกึกก้องทั่วทั้งห้อง พนักงานบางคนถึงกับน้ำตาคลอด้วยความตื้นตัน
ภาคินัยกวาดสายตาไปที่ปลายฝันที่ยืนมองเขาอยู่ด้านล่างเวทีด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ แววตาของพวกเขาสื่อถึงกันอย่างลึกซึ้ง
"ผมขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณคนสำคัญคนหนึ่งครับ ที่อยู่เคียงข้างผมมาตลอด ไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไร เขาก็ไม่เคยทิ้งผมไปไหน เขาคือกำลังใจที่สำคัญที่สุดของผมครับปลายฝันครับ"
ปลายฝันยิ้มเขินเล็กน้อย ผู้คนต่างปรบมือและหันมามองเธอด้วยสายตาชื่นชม
"และผมก็ต้องขอขอบคุณเพื่อนรักของผมด้วยครับน้ำหวานและธามที่คอยให้กำลังใจผมมาตลอดและในวันนี้ ผมก็ดีใจที่เห็นความรักของพวกคุณกลับมาเบ่งบานอีกครั้งนะครับ" ภาคินัย กล่าว
น้ำหวานและธา ยิ้มให้กันอย่างอบอุ่น พวกเขารู้สึกซาบซึ้งใจกับคำพูดของ ภาคินัย
ภาคินัยกล่าวสรุปด้วยความมุ่งมั่น
"ต่อจากนี้ไป ภาคินัย กรุ๊ป จะก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคมและผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวังครับ ขอบคุณครับ!"
หลังจากคำกล่าวอันน่าประทับใจของภาคินัยงานเลี้ยงก็ดำเนินไปอย่างสนุกสนาน ผู้คนต่างลุกขึ้นมาเต้นรำและพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง
ธามพาน้ำหวานออกมาเต้นรำด้วยกัน ท่ามกลางเสียงเพลงช้าที่โรแมนติก น้ำหวานซบหน้าลงกับอกของธามรู้สึกถึงความสุขที่เอ่อล้นในใจ
"มีความสุขไหมครับน้ำหวาน" ธามกระซิบถาม
"มีความสุขมากเลยค่ะคุณธาม" น้ำหวานตอบ
"ไม่คิดเลยว่าวันนี้ฉันจะมีความสุขได้ขนาดนี้"
"ผมก็มีความสุขมากครับ ที่ได้เห็นคุณยิ้มได้แบบนี้" ธามพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น "ผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจอีกแล้วครับ สัญญา"
น้ำหวานเงยหน้าขึ้นมองธามแววตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและความเชื่อใจ เธอรู้ว่าธามคือคนที่จะอยู่เคียงข้างเธอไปตลอดชีวิต
ในอีกมุมหนึ่งของงานภาคินัยกำลังเต้นรำอยู่กับปลายฝันพวกเขาทั้งคู่ดูมีความสุขไม่แพ้กัน
"วันนี้ปายภูมิใจในตัวคุณภีมมากเลยนะปาย" ปลายฝันเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภูมิใจ
"ผมก็ภูมิใจในตัวปายมากเลยนะ ถ้าไม่มีปาย ผมก็คงไม่มีวันนี้หรอกนะ" ภาคินัยมองปลายฝันด้วยแววตาซาบซึ้ง
"ผมรักปายนะ"
ปลายฝันหน้าแดงก่ำเธอไม่คิดว่าภาคินัยจะพูดคำนี้ออกมาในงานนี้
"ปายก็รักคุณภีมเหมือนกันค่ะ" ปลายฝันตอบด้วยเสียงแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความรู้สึก
ภาคินัยดึงปลายฝันเข้ามาจูบที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน เป็นการยืนยันความรักที่พวกเขามีให้กัน
งานเลี้ยงฉลองความสำเร็จของภาคินัย กรุ๊ป เป็นมากกว่าแค่การฉลองชัยชนะทางธุรกิจแต่มันยังเป็นการฉลองให้กับความรัก ความผูกพัน และมิตรภาพที่แข็งแกร่งของพวกเขาด้วย
ธามและน้ำหวาน ได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาว่าความรักต้องอาศัยความเชื่อใจ การสื่อสารและการให้อภัย พวกเขาเริ่มต้นบทใหม่ของความสัมพันธ์ด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกอุปสรรคไปด้วยกัน
ส่วนภาคินัยและปลายฝัน ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากเพื่อนร่วมงานสู่คู่รักที่คอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กันในทุกสถานการณ์ความสำเร็จของ ภาคินัย กรุ๊ป เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา
เมื่อเพลงสุดท้ายบรรเลงจบลงแขกผู้มีเกียรติต่างทยอยเดินทางกลับเหลือเพียงเพื่อนรักทั้งสี่คน ธามโอบน้ำหวานไว้ส่วนภาคินัยก็กุมมือปลายฝันไว้แน่น
"วันนี้สนุกมากเลยนะคะ" น้ำหวานพูดด้วยรอยยิ้ม
"ใช่แล้วปายก็สนุกมาก" ปลายฝันพูดเสริมขึ้นมาอีกคน
"ดีใจที่ทุกคนมีความสุขกันนะครับ" ธามเองก็พูดขึ้นมาเช่นเดียวกัน
"แน่นอนอยู่แล้ว" ภาคินัยยิ้มกว้าง
"เพราะเราคือครอบครัวเดียวกันนี่นา"
คำพูดของภาคินัยทำให้ทุกคนรู้สึกอบอุ่นในใจ พวกเขาทั้งสี่คนไม่ใช่แค่เพื่อนสนิทแต่เป็นเหมือนครอบครัวที่คอยอยู่เคียงข้างกันในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ใช่แค่ของภาคินัย กรุ๊ป แต่เป็นของทุกคนที่ร่วมกันสร้างมันขึ้นมาด้วยความรักความผูกพันและความเชื่อมั่นในกันและกัน
แสงไฟในห้องบอลรูมเริ่มหรี่ลงแต่แสงแห่งความสุขและความรักในใจของพวกเขากลับส่องสว่างกว่าเดิม ความสุขเหล่านี้จะไม่มีวันจางหายไปไหน เพราะมันถูกสร้างขึ้นด้วยความจริงใจและผูกพันจากใจจริงของทุกคน
ตอนที่ 122 บทส่งท้ายกาลเวลาหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทรงจำที่สวยงามยังคงถูกถักทอขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของภาคินัย ปลายฝัน ธามและน้ำหวาน ทุกเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมา ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือท้าทาย ล้วนหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคนที่สมบูรณ์ในวันนี้ บทสรุปของเรื่องราวนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความรักที่อบอุ่น และอนาคตที่สดใส ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นด้วยกันวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สดใสครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน รวมถึงธามและน้ำหวาน ได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้สัมผัสผืนทรายและน้ำทะเลด้วยตัวเองรถตู้คันใหญ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทเพลงจากเด็กๆ น้องเมฆและน้องเมษาที่ตอนนี้เริ่มเดินได้คล่องแคล่ว ต่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย"คุณภีมคะ ดูสิคะน้องเมฆชี้ไปที่ทะเลใหญ่เลย" ปลายฝันยิ้มอย่างมีความสุข"เมษาก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะคุณธาม" น้ำหวานเสริม พลางมองลูกสาวที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเดินทางถึงรีสอร์ตหรูริมทะเล ภาคินัยและธามต่างช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ ส่วนปลายฝันและน้ำหวานก็ดูแลเด็กๆ ที่วิ่งสำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความกระตือ
ตอนที่ 121 บทสรุปของความรักชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดำเนินมาถึงบทสรุปที่งดงาม พวกเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในทุกมิติ ทั้งในด้านความรักที่มั่นคง ครอบครัวที่อบอุ่น และหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ ความรักของพวกเขาสุกงอมและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับธามและน้ำหวาน ที่ต่างก็สร้างสรรค์ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างลงตัว บทสรุปของความรักครั้งนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความเข้าใจ และการเติมเต็มซึ่งกันและกันผ่านมาหลายปี นับตั้งแต่น้องเมฆลืมตาดูโลก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยาที่รักกันอย่างลึกซึ้ง ความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งทวีคูณขึ้นตามกาลเวลา แม้จะมีความรับผิดชอบมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยละเลยที่จะเติมเต็มความปรารถนาและความเร่าร้อนให้แก่กันและกันค่ำคืนหนึ่งหลังจากที่น้องเมฆหลับไปแล้ว แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนอย่างนุ่มนวล ภาคินัยโอบกอดปลายฝันจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอซบหน้ากับแผงอกที่คุ้นเคยของเขา"ปายครับ คุณสวยที่สุดเลยนะ" ภาคินัยกระซิบเสียงพร่า พลางจูบลงบนไหล
ตอนที่ 120 ความสุขหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งความรัก ความสุข ความท้าทาย และการเติบโตในบทบาทใหม่ ทุกคู่ต่างค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง ภาคินัยกับปลายฝัน และธามกับน้ำหวาน ต่างได้ใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาปรารถนา เติมเต็มความหมายของคำว่า "ความสุขที่แท้จริง" ในแบบฉบับของตัวเองชีวิตของภาคินัยและปลายฝันตอนนี้เปรียบเสมือนภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ ทุกองค์ประกอบต่างถูกเติมเต็มอย่างลงตัว ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นจากน้องเมฆ และความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ภาคินัยยังคงทุ่มเทให้กับการบริหารภาคินัย กรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาให้สมดุลระหว่างงานและครอบครัว เขามักจะตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกับน้องเมฆก่อนไปทำงาน และพยายามกลับบ้านให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เวลาช่วงเย็นกับภรรยาและลูกชาย การเห็นน้องเมฆเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา"วันนี้น้องเมฆเรียก 'ป๊า' ชัดขึ้นเยอะเลยนะครับปาย" ภาคินัยเล่าด้วยรอยยิ้มกว้างในมื้อเย็นปลายฝันยังคงเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาคินัย เธอทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่ได้อย่างไม่มีที่ติ ดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อบอุ่
ตอนที่ 119 มิตรภาพที่ยั่งยืนท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตในบทบาทใหม่ ทั้งการเป็นพ่อแม่และการบริหารธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มิตรภาพที่ถักทอขึ้นระหว่างภาคินัยและธาม รวมถึงปลายฝันและน้ำหวาน กลับยิ่งแข็งแกร่งและหยั่งรากลึก พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แต่กลับยิ่งเปล่งประกายและเป็นพลังใจให้แก่กันเสมอครั้งหนึ่ง ภาคินัยและธามเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในสนามแข่งขัน แต่ด้วยความจริงใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาก็ได้ก้าวข้ามกำแพงแห่งการแข่งขันและแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่ง การมีลูกในเวลาใกล้เคียงกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบ่ายวันหนึ่ง ภาคินัยโทรหาธามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแกมขบขัน "เฮ้ยธาม! วันนี้น้องเมฆงอแงไม่ยอมนอนเลยว่ะ ฉันแทบไม่ได้ทำงานเลย"ธามหัวเราะจากปลายสาย "ฉันก็เหมือนกันภีม! น้องเมษาวันนี้เล่นไม่หยุดเลย พลังเยอะจริงๆ เด็กสมัยนี้"บทสนทนาของพวกเขาไม่ใช่เรื่องธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องราวของผ้าอ้อม นมผง และการนอนไม่พอ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นคุณพ่อมือใหม่กลายเ
ตอนที่ 118 การเติบโตของภาคินัย กรุ๊ปหลังจากที่น้องเมฆเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน แรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ไม่เพียงแต่ในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการบริหารงานของภาคินัย กรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การนำของภาคินัย และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากปลายฝัน บริษัทก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิมเช้าวันหนึ่งที่สดใสในเดือนมิถุนายน ภาคินัยเดินนำปลายฝันและน้องเมฆที่อยู่ในรถเข็นเด็ก เข้าสู่ล็อบบี้สุดหรูของภาคินัย ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ภาคินัยในชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและสง่างามกว่าเคย ส่วนปลายฝันในชุดเดรสสีอ่อนสบายตาดูสวยสดใสในมาดคุณแม่ลูกหนึ่ง น้องเมฆตัวน้อยในรถเข็นมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มอ้อแอ้ตลอดเวลา"วันนี้ลูกชายมาเยี่ยมบริษัทป๊าครั้งแรกนะลูก" ภาคินัยกระซิบกับน้องเมฆพลางยิ้มอบอุ่นปลายฝันหัวเราะเบาๆ "สงสัยจะชอบบรรยากาศนะคะเนี่ย"พนักงานในล็อบบี้ที่กำลังสัญจรไปมา ต่างหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นและสมบูรณ์แบบนี้ หลายคนส่งยิ้มและโค้งคำนับให้ผ
ตอนที่ 117 คุณปู่กับทายาทเมื่อน้องเมฆเติบโตขึ้นในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่ภาคินัยและปลายฝันเท่านั้นที่ภาคภูมิใจ แต่ยังมีคุณปู่ของภาคินัย ผู้เป็นรากฐานของอาณาจักรภาคินัย กรุ๊ป ที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นทายาทคนใหม่ การมาถึงของน้องเมฆไม่เพียงแต่เติมเต็มความหมายของคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่ยังเป็นการยืนยันว่าธุรกิจที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย จะมีผู้สืบทอดต่อไปอย่างมั่นคงคุณปู่ของภาคินัย แม้จะอยู่ในวัยชรา แต่ดวงตาท่านยังคงเปล่งประกายด้วยความสุขและความเฉียบแหลม การมาถึงของน้องเมฆ เหลนชายและทายาทของเหลนคนเดียวของตระกูล ทำให้หัวใจของคุณปู่เต็มตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่านเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนาน วันที่จะได้เห็นสายเลือดของตระกูลยังคงดำเนินต่อไปคุณปู่ก็เดินทางมาเยี่ยมเหลนชายที่บ้านทันที ท่านนั่งลงข้างเปลนอนของน้องเมฆ มองเหลนชายตัวน้อยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู"ตาหนูเมฆของปู่ ในที่สุดเจ้าก็มา" คุณปู่กระซิบเสียงแผ่ว พลางเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นลูบไล้แก้มยุ้ยของน้องเมฆอย่างอ่อนโยนภาคินัยและปลายฝันยืนมองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้ง พวกเขารับรู้ได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่คุณ