หลังจากนั้นไม่นานธีรเดชก็ขอถอนหมั้นอย่างที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้ และต่อให้เธอจะยืนกรานปฏิเสธ อ้อนวอน ร้องไห้ ถึงพ่อเธอและแม่ของเขาจะคัดค้านก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายสถานะการเป็นคู่หมั้นของทั้งคู่ก็สิ้นสุดลง พร้อมกับการมองหน้ากันไม่ติด อารญาไม่เคยเฉียดกายเข้าใกล้เขาอีกเลย กระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น
อยู่ๆ เช้าวันหนึ่งเธอก็ตื่นขึ้นมาบนเตียงของเขา แถมทั้งคู่ยังมีสภาพเปลืยเปล่าล่อนจ้อน ส่วนเตียงก็ยุ่งเหยิงประหนึ่งผ่านศึกสงครามมา และไม่ต้องบอกเธอก็รู้ดีแก่ใจว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ในเมื่อปวดร้าวตรงกลางกายขนาดนั้น แถมการกระทำบางฉากบางตอนยังติดอยู่ในหัว จะเกิดอะไรได้ นอกจากทั้งคู่นอนด้วยกัน
“อย่าคิดนะ ว่าการที่เธอใช้วิธีสกปรกเพื่อให้ฉันนอนกับเธอได้สำเร็จ จะทำให้ฉันยอมแต่งงานกับเธอ” หลังจากเดินโทงๆ ไปหาเสื้อคลุมใส่อย่างหน้าไม่อาย ธีรเดชก็เดินกลับมายืนกอดอกอยู่ข้างเตียง
“พี่ธีพูดอย่างนี้ได้ยังไง อายไม่รู้เรื่อง อายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมานอนอยู่ในห้องพี่ธีได้ยังไง” คนที่ห่อตัวซุกซ่อนความอัปยศไว้ใต้ผ้านวมสวนกลับเสียงสะท้าน
ธีรเดชแค่นยิ้มกับน้ำคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น เตรียมจะตอบโต้ หากว่าเสียงหนึ่งจะไม่ดังขึ้นเสียก่อน ชั่วอึดใจต่อมาหม่อมเจ้านภาลัยก็เยื้องย่างเข้าสู่ห้องนอนของบุตรชาย
“คุณพระ! มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมน้องอายมานอนที่เตียงของชายธีได้”
“ถามคนดีของท่านแม่ดูสิครับ ว่าเมื่อคืนเธอทำอะไรลงไป”
ท่าทางหัวเสียในแบบที่นานๆ ครั้งจะได้เห็น ทำให้ท่านหญิงนภาลัยทำหน้าไม่ถูก หวนระลึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ หลังจากงานเลี้ยงฉลองครบรอบวันเกิดของตนเสร็จสิ้น อารญาก็เมาไม่ได้สติ ครั้นจะให้กลับบ้าน ดาริกาพี่สาวของเธอซึ่งมาด้วยกันก็เอ่ยทำนองว่าไม่สะดวกที่จะไปส่ง เพราะติดธุระด่วน
ครั้นจะให้รถของวังไปส่ง ดาริกาก็อ้างว่าสาวใช้ที่บ้านลาหยุดกันหมด คงไม่มีคนดูแลอารญาที่เมามากจนน่าเป็นห่วง ฉะนั้นท่านหญิงนภาลัยจึงตัดสินใจให้อารญานอนที่วัง ซึ่งดาริกาอาสาไปส่งน้องสาวที่ห้องนอนของแขก แต่ไม่รู้ไปส่งกันอีท่าไหนอารญาถึงได้มาโผล่ที่เตียงของธีรเดชได้
“พี่ธีพูดอย่างนี้ได้ยังไงคะ อายเป็นผู้เสียหายนะ” คราวนี้อารญาโต้กลับอย่างเหลืออด
“เธอเอายาปลุกเซ็กส์มาเป็นเครื่องมือ เพื่อจะทำให้ตัวเองเป็นผู้เสียหายต่างหากล่ะ”
น้ำเสียงขุ่นคลั่กที่กดต่ำเกือบเป็นคำรามทำอารญาตาโต อ้าปากค้าง ส่วนท่านหญิงนภาลัยก็ถึงกับยกมือขึ้นทาบอก สีหน้ากระอักกระอ่วน แล้วเอ่ยถามอย่างร้อนใจ
“จริงเหรอน้องอาย”
“อายไม่ได้ทำนะคะท่านป้า จะให้อายไปสาบานที่วัดไหนก็ได้”
“แล้วไอ้ที่เธอใส่ลงไปในแก้วกาแฟของฉันล่ะ”
คราวนี้อารญาถึงกับสะอึก รู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมาเสียดื้อๆ เมื่อกระหวัดคิดไปถึงกาแฟที่ตัวเองขันอาสาไปชงให้อีกฝ่าย ทั้งที่ชงกาแฟไม่เป็นแต่ก็อยากเอาใจคนที่ติดเคสสำคัญลากยาวจนถึงช่วงหัวค่ำ หากไม่มีกาแฟช่วยคงอยู่ร่วมงานไม่ไหว ฉะนั้นทันทีที่ก้าวเข้างานเขาก็ให้สาวใช้ไปชงกาแฟให้ แต่กลับเป็นอารญาที่เสนอตัว กาแฟเจ้าปัญหาเป็นเธอชงจริงๆ แต่ดาริกาคอยบอก และกำกับว่าจะต้องใส่ส่วนผสมอะไรบ้าง
“คอฟฟี่เมทไงคะ อายใส่คอฟฟี่เมท” เธอตอบอย่างซื่อๆ
“คอฟฟี่เมทที่พี่สาวเธอยื่นให้น่ะสิ”
ธีรเดชสวนกลับเสียงกระด้าง มุมปากหยักลึกปรากฏรอยยิ้มหยัน
จากนั้นเขาก็เอาภาพวีดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิด ที่เลขาเพิ่งส่งเข้ามือถือมาเปิดให้เธอและมารดาดู ภาพที่ได้เห็นทำให้อารญาช็อกจนพูดไม่ออก ส่วนท่านหญิงนภาลัยนั้นหันขวับไปมองสาวน้อยที่ตนรักใคร่ และเอ็นดู จนอยากได้มาเป็นสะใภ้ ด้วยสายตาผิดหวัง แล้วตำหนิเสียงเย็น
“น้องอายไม่น่าทำอย่างนี้เลย เสียแรงที่ป้ารักและเอ็นดู”
“ท่านป้าขา อายไม่ได้…”
อารญาส่ายหน้าปฏิเสธทั้งน้ำตา ทว่ายังเอ่ยไม่จบประโยคเสียด้วยซ้ำผู้สูงวัยก็ตัดบทเสียก่อน
“หลักฐานก็เห็นกันอยู่ทนโท่ ภาพจากกล้องวงจรปิดชัดขนาดนั้น หยุดแก้ตัว แล้วไปซะอารญา แล้วก็อย่ามาเหยียบที่นี่อีก วังรื่นฤดีไม่ต้อนรับเด็กหน้าไหว้หลังหลอกอย่างเธอ!”
วาจาเฉียบขาด และสรรพนามเรียกขานที่แปรเปลี่ยนไปเป็นเหินห่าง ทำให้อารญาน้ำตาไหลพราก พยายามเอื้อมมือไปไขว่คว้าแขนของอีกฝ่าย ทว่าหม่อมเจ้านภาลัยกลับมองอย่างเย็นชา สะบัดหน้าพรืด แล้วก้าวฉับๆ จากไป
“พี่ธี…”
“จะร้องไห้ทำไมอารญา ที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะฝีมือเธอทั้งนั้น ถ้าจะมีใครต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้คนคนนั้นสมควรเป็นเธอ” เขาเอ่ยอย่างเฉียบขาด
“แต่ในเมื่อคุณชายทำลูกสาวอาเสียหาย คุณชายก็ต้องรับผิดชอบ”
นายปพลบิดาของอารญาที่เพิ่งเดินสวนกับท่านหญิงนภาลัยเข้ามา เอ่ยเสียงเข้มมีแววบีบบังคับ แต่หาได้ทำให้คนฟังสะทกสะท้านแต่อย่างใด ธีรเดชยังคงวางหน้านิ่ง
“คุณชายต้องแต่งงานกับลูกสาวอา!”
“ผมจะรับผิดชอบทุกอย่าง ยกเว้นการแต่งงาน”
“มันจะมากไปแล้วนะ!”
“คุณอาอยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามาเถอะครับ อย่าอ้อมค้อมให้เสียเวลานักเลย”
คนเบื่อดูการเล่นละครของตาเฒ่ามากเล่ห์เอ่ยเสียงเรียบ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่านายปพลกำลังดิ้นตายเพราะเดือดร้อนเรื่องเงิน และถ้าเดาไม่ผิดบ้านนี้ก็คงวางแผนกันมาเพื่อหวังว่าจะจับเขาเป็นลูกเขย
“พ่อคะ…พอเถอะค่ะ ได้โปรด” หญิงสาวส่ายหน้าวิงวอนทั้งน้ำตา
“หุบปากไปเลยนังลูกไม่รักดี! แกจะยอมให้เขาเจาะไข่แดงฟรีๆ หรือไง” หลังจากตวาดลูกสาวเสียงดังสนั่น นายปพลก็หันมายืนกรานเสียงแข็ง
“ยังไงคุณชายก็ต้องแต่งงานกับลูกสาวผม”
“ก็บอกแล้วไง ว่าผมให้ได้แค่เงิน ถ้าจะเอาก็ว่ามา” ชายหนุ่มยังย้ำคำเดิมอย่างหนักแน่น
“สิบล้าน”
“คุณพ่อ!”
อารญาอุทานเสียงหลง มองบิดาอย่างตกตะลึง ท่านกำลังจะขายความเป็นคนของเธอ
“ตกลงครับ” เขาตอบตกลงอย่างไม่ต้องคิด เดินไปเอาสมุดเช็คในลิ้นชักโต๊ะทำงาน จรดปากกาเซ็นตัวเลขลงไปอย่างรวดเร็ว แล้วยื่นให้นายปพล พร้อมเอ่ยออกมา
“ต่อไปนี้ ทั้งคุณและลูกสาวคุณ เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ถ้าหมดธุระแล้วก็เชิญครับ”
การไล่อย่างสุภาพแต่เฉียบขาดทำให้คนที่ได้เงินสมใจหน้าตึง แต่ก็ยอมก้าวดุ่มๆ จากไปอย่างไม่เหลียวหลัง ลืมแม้กระทั่งลูกที่เขาขายศักดิ์ศรีจำนวนสิบล้านที่นั่งน้ำตาไหลพรากอยู่บนเตียง
พ่อขายพรหมจรรย์ของเธอให้เขาอย่างเลือดเย็น
ส่วนเขาผลักไสเธอออกไปจากชีวิตอย่างสิ้นเยื่อขาดใย
จะมีอะไรเจ็บปวดไปกว่าการโดนผู้ชายที่รักมากที่สุดในชีวิตทั้งสองคนทำร้ายในเวลาเดียวกันล่ะ
“หยุดบีบน้ำตา แล้วลุกขึ้นมากินยา”
“ยา?” เธอทวนคำเสียงปนสะอื้น
“ก็ยาคุมฉุกเฉินไง เธอคงไม่อยากท้องในวัยเรียนหรอกจริงไหม”
“ค่ะ”
อารญาพยักหน้าทั้งน้ำตา ลุกขึ้นมากินยา โดยมีเขายืนคุมอยู่ไม่ห่าง กระทั่งกินยาเสร็จ ธีรเดชถึงเอายาคุมฉุกเฉินเม็ดที่เหลือยัดใส่มือเรียว และกำชับว่าให้กินให้ครบตามวิธีที่เขาบอกไป หากเธอตุกติกเขาจะเล่นงานเธออย่างหนัก
“ไปแต่งตัว เสร็จแล้วก็ลงไปข้างล่าง ฉันจะให้คนขับรถไปส่ง”
เขาช่างใจร้ายและเย็นชาเหลือเกิน
“ก่อนจะไป อายขอถามอะไรพี่ธีหน่อยได้ไหมคะ”
หกปีหลังจากนั้น เด็กหญิงนีลาญาก็กลายเป็นพี่ใหญ่ของบ้าน มีน้องน้อยเพิ่มมาอีกสี่คน คนที่หนึ่งชื่อเด็กชายธีราภัทร หรือน้องธาม คนที่สองเป็นผู้หญิงชื่อเด็กหญิงนีลาภา หรือน้องนีน ส่วนคนที่สามและสี่เป็นแฝดชายหญิง ชื่อเด็กหญิงนารีญา หรือน้องนิ่ม ส่วนแฝดน้องชื่อเด็กชายธงไทย หรือน้องไทน์ ห้าพี่น้องต่างรักใคร่กลมเกลียว และซนระดับพระกาฬ โดยเฉพาะสี่หน่อที่เกิดไล่เลี่ยกัน หากอยู่บ้านก็ทำเอาคนแก่ทั้งวังรื่นฤดีปวดเศียรเวียนเกล้าไปตามๆ กัน “อาบจ๋า นีนอยากกินลูกชุบ” หนูน้อยนีลาภาวัยสี่ขวบเอ่ยฉะอ้อนแม่นมวัยดึกอย่างน่ารักน่าชัง ตากลมแป๋วที่ล้อมกรอบด้วยแพขนตายาวดกดำเหมือนตุ๊กตาจ้องลูกชุบสีสวยในถาดไม่กะพริบ “คุณหนูนีนของแม่อาบ จะกินรูปผลไม้อันไหนคะ เดี๋ยวแม่อาบจะหยิบให้ค่ะ” คนแก่ที่หลงเด็กน้อยเสียเหลือเกินเอ่ยอย่างเอาใจ ก่อนจะถือโอกาสก้มลงหอมแก้มป่องๆ อย่างมันเขี้ยว “มะม่วงค่า”นิ้วป้อมๆ ชี้ไปยังลูกชุบสีเขียวอมเหลืองที่ถูกปั้นเป็นรูปมะม่วง แม่อาบยิ้มกริ่ม แล้วหยิบลูกชุบส่งให้ เด็กน้อยพนมมือไหว้อย่างน่าเอ็นดู แล้วยัดลูกชุบใส่ปาก ก่อนจะเคี้ยวด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย “ปี้นีน! ปี้นีน!”เ
คนที่เพิ่งกลับขึ้นมาบนห้องนอน หลังจากหนีลงไปรดน้ำผักที่สวนครัวหลังวังรื่นฤดีตั้งแต่เช้าตรู่ เห็นสามีนั่งกอดอกทำหน้าตึงอยู่ปลายเตียงก็ถึงกับกลั้นยิ้มจนปวดแก้ม แต่ทำทีเป็นไม่สนใจ เดินนวยนาดไปเปิดประตูเชื่อมสู่ห้องนอนลูก ครั้นเห็นเด็กน้อยกับแมวนอนกอดกันหลับปุ๋ยก็อมยิ้มด้วยความเอ็นดู ก่อนจะค่อยๆ งับประตูลงอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็เดินมาหยุดลงตรงหน้าสามีที่กำลังเรียกร้องความสนใจแบบซึนๆ “วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอคะ”“ไป แต่ไม่มีคนอาบน้ำให้” น้ำเสียงราบเรียบ และท่าทางมึนตึง แต่ความหมายของคำพูดทำให้คนฟังมองค้อนด้วยความหมั่นไส้เธอไม่น่าอาบน้ำให้เขาจนเขาเสียนิสัยแบบนี้เลย ให้ตาย! “ถ้าจะอาบก็ตามมาค่ะ”อารญาเอ่ยสั้นๆ แล้วเดินนำไปยังห้องน้ำ ยังไม่ง้อคนที่กำลังน้อยใจ หากเดาไม่ผิดก็คงเพราะเธอหนีไปรดน้ำผักตั้งแต่เช้า ทิ้งเขาไว้เพียงลำพังที่ห้องนอน ธีรเดชเป็นอย่างนี้เสียทุกครั้งหากตื่นมาไม่เห็นเธอก็จะงอน และคนที่ง้อก็มักเป็นเธออยู่ร่ำไป วันนี้ก็คงเป็นเช่นนั้น เพราะรู้ว่าเขามีประชุมสำคัญที่บริษัทในช่วงสาย “มาค่ะ อายถอดเสื้อผ้าให้”มือเรียวคว้าเข้าที่ข้อมือใหญ่ แล้วลากร่างทรงพลังไปยืนพิงเ
เวลาผ่านไปแต่ละวินาทีช่างเชื่องช้าและยาวนานเหลือเกิน ธีรเดชรู้สึกเหมือนมันเป็นระเบิดเวลา ในหัวเขาอัดแน่นไปด้วยความตึงเครียดจนถึงขีดสุด ในใจมีแต่ความหวาดหวั่นและวิตกกังวลสารพัด การรอคอยช่างสุดแสนทรมานแทบขาดใจ ร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างเดินไปเดินมาไม่หยุด กระทั่งในที่สุดประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก เขาถลาไปหยุดลงตรงหน้าหัวหน้าทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างหมอปริญ แล้วถามไถ่ด้วยความร้อนใจ “ภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับ” “ขอแสดงความยินดีด้วยครับ การผ่าตัดสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ภรรยาของคุณปลอดภัย แต่ต้องแอดมิดดูอาการก่อน เผื่อมีผลข้างเคียงอะไร”นายแพทย์หนุ่มเอ่ยบอกไปตามสถานการณ์ ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ เมื่อคุณชายหมอที่ขึ้นชื่อเรื่องความสุขุมเยือกเย็นละล่ำละลักขอบคุณเขา “ดีใจด้วยนะคะ”ปานระพีเอ่ยอย่างยิ้มๆ“ขอบคุณมากครับหมอแพร”ธีรเดชเอ่ยขอบคุณปานระพีด้วยความซาบซึ้งใจ คล้อยหลังอีกฝ่ายร่างใหญ่ก็เดินไปทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าห้องผ่าตัด แล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปยาวนานเท่าใด อารญาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งบรรยากาศข้างนอกที่มองผ่านกระจกหน้าต่างก็ปกคลุมไปด้วยความมืดมิดเสียแล้ว
หนึ่งสัปดาห์ก่อนผ่าตัด ธีรเดชก็พาอารญากับลูก รวมทั้งแมวอ้วน มาเที่ยวที่บ้านพักตากอากาศส่วนตัวบนดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย บรรยากาศหน้าหนาวของที่นี่ในตอนเช้าๆ สวยจับตา เธอตื่นแต่เช้าออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ บนชานเรือนไม้สองชั้นที่ตั้งอยู่บนเนินเขา มองเห็นวิวทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตา ด้านบนม่านสายหมอกปกคลุมไปทั้งอาณาบริเวณ ต่ำลงมาก็จะเป็นแปลงชาที่ทอดตัวยาวลงไปเกือบจรดตีนเขา รอบๆ ตัวบ้านมีแปลงดอกไม้รายล้อมอยู่รอบนอกในลักษณะวงกลม ถัดเข้ามาก็จะจัดสรรค์พื้นที่เป็นแปลงผัก และแปลงสตรอว์เบอร์รี กั้นบริเวณลานหน้าบ้านส่วนหนึ่งสำหรับสนามเด็กเล่น มีเครื่องเล่นที่ลูกเธอชอบอย่างครบครัน บนกองทรายมีของเล่นแมวอยู่สองสามอย่าง ใต้ต้นพญาเสือโคร่งที่กำลังออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งมีชิงช้าไม้ ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาได้ว่าเขาเตรียมทุกอย่างไว้เพื่อเธอกับลูก รวมทั้งแมวอ้วนด้วย ช่างเป็นสามี เป็นพ่อ และเป็นทาสแมว ที่ประเสริฐเสียจริง เจ้าของนัยน์ตากลมโตทอดมองทุกสิ่งที่อยู่ในครรลองสายตา แล้ววกกลับมาสำรวจแปลงผักเขียวขจีด้วยความชอบใจ ปากอิ่มคลี่ยิ้มบางๆ ร่างอ้อนแอ้นที่ห่อหุ้มด้วยเสื้อกันหนาวไหมพรมสีส้มอิฐพลันสะดุ้งน้
“ให้มันรู้ซะบ้าง ว่านี่เมียใคร” ธีรเดชยักคิ้วเย้ย จากนั้นก็ก้มลงหอมแก้มนวลฟอดใหญ่อย่างหน้าตาเฉย ท่าทางเปิดเผยความรู้สึกที่คงจุกอกมาเนิ่นนานของไอ้หนุ่มคลั่งรัก ทำให้พลชระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ไม่นานเอวาก็ยกอาหารออกมาเสิร์ฟ ทันทีที่เห็นอารญาก็ทำท่าดีใจยกใหญ่ เธอจึงดึงอีกฝ่ายมากระซิบกระซาบว่าจะไปหาที่ครัว ส่วนพลชก็เอ่ยขอตัว เพราะไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอ จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มลงมือทานมื้อค่ำ เสียงเพลงคลอเบาๆ ทำให้เธอเจริญอาหารมากยิ่งขึ้น แต่อยู่ๆ ไฟทั้งผับก็ดับพรึ่บลง มีเสียงดนตรีสุดโรแมนติกดังขึ้น พร้อมไฟสปอร์ตไลต์ส่องลงมาที่โต๊ะของทั้งคู่ทันใดนั้นคุณชายธีรเดชก็ผุดลุกขึ้น ทำให้เธอพลอยลุกขึ้นยืนไปด้วยโดยอัตโนมัติ เพราะไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะตาโต อ้าปากค้าง หัวใจเต้นคร่อมจังหวะ เมื่อเห็นอีกฝ่ายค่อยๆ คุกเข่าลงต่อหน้า เสียงเพลงเงียบลง พร้อมกับที่เขาหยิบแหวนที่อกเสื้อออกมา แล้วเงยหน้าเอ่ยกับเธออย่างนุ่มนวล“น้องอายครับ ได้โปรดแต่งงานกับพี่นะครับ” คนถูกคุกเข่าขอแต่งงานแบบไม่ทันตั้งตัว ถึงกับยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกตะลึง และดีใจจนพูดไม่ออก เพราะคาดไม่ถึงว่าชั่วชีวิตน
หลังจากเรื่องเลวร้ายทุกอย่างจบลง พร้อมกับการตายของดาริกา ส่วนมารตีถูกศาลตัดสินให้ประหารชีวิต อารญากับลูก รวมทั้งแมว ก็ต้องย้ายไปอยู่กับสามีที่วังรื่นฤดี ส่งคืนบ้านเช่าที่ตัวเองทั้งรักและผูกพันเพราะอยู่มานานให้เจ้าของ เนื่องจากไม่อาจทนอยู่ในบ้านที่มีคนตายได้ ถึงแม้จะยังอาลัยอดีตอันแสนสุขที่เคยอยู่ร่วมกันกับลูกและแมว ทำใจยากที่จะจากต้นไม้และพืชผักสวนครัว แต่ธีรเดชก็เอาใจและชดเชยความรู้สึกของเมียรัก ด้วยการอนุญาตให้เธอปลูกพืช และผักสวนครัว ได้ตามแต่ใจต้องการ ไม่ว่าเธอจะปรารถนาสิ่งใดเขาย่อมประเคนให้อย่างไม่เกี่ยง ยกเว้นก็แต่เรื่องที่เธออ้อนขอไปทำงาน ธีรเดชปฏิเสธอย่างไม่มีอ่อนข้อ เพราะเป็นห่วงเรื่องกระสุนที่ฝังอยู่ในศีรษะของเธอ ซึ่งอารญาทำเพียงงอนนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจแหละว่าเขาเป็นห่วง พร้อมกับรับปากว่าหลังจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างจริงจัง หากจะเป็นอะไรไปเธอก็ไม่ต้องห่วงแล้วว่าลูกจะไม่มีคนดูแล วันนี้ธีรเดชพาอารญามาปรึกษานิวโรศัลย์เรื่องการผ่าตัด ซึ่งหมอก็ลงความเห็นว่าจะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด ไม่เกินภายในระยะเวลาสองอาทิตย์ และครั้งนี้เธอตอบตกลงอย่างไม่ลังเล “