ให้มันรู้ไปสิว่ายัยเด็กดื้อที่ชอบหาว่าเขาแก่อย่างนั้นอย่างนี้ จะมานอนครางใต้ร่างของเขาไม่ได้!
View Moreท่ามกลางแสงสีเสียงของสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพมหานคร ตอนนั้นเองทุกสายตาก็มองไปที่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อสมบูรณ์แบบที่สาวๆ คนไหนเห็นก็อยากจะเข้าหา แม้ว่าใบหน้าของเขาจะเย็นชาสักแค่ไหนก็ตาม แต่พวกเธอคิดว่าถ้าได้ขึ้นเตียงกับเขาสักครั้งจะไม่ลืมพระคุณเลยทีเดียว
ซึ่งชายหนุ่มคนนั้นคือ ‘ขุนเขา’ ลูกชายเจ้าพ่อมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลทางด้านค้าอาวุธและอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงกาสิโนที่มีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งชายหนุ่มยังเป็นเจ้าของ TW PUB ผับหรูที่ส่วนมากจะเป็นเหล่าเซเลปและไฮโซทั้งหลายมาดื่มกินกัน
วันนี้ขุนเขาเดินเข้ามาตรวจเช็กดูความเรียบร้อยของผับที่ตนสร้างมากับมือตามปกติ อย่างที่ทำเป็นประจำเมื่อมีเวลาว่าง
“พล วันนี้เป็นยังไงบ้าง หลังบ้านเรียบร้อยดีใช่ไหม?” เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทที่เดินตามมาอยู่ข้างหลัง พร้อมกับกวาดสายตามองดูรอบ ๆ สถานที่แห่งนี้อย่างสบายอารมณ์ ทว่าใบหน้าของชายหนุ่มยังคงความเย็นชาไว้เหมือนเดิม
“เรียบร้อยดีครับนาย และดูเหมือนว่าวันนี้คนที่มาเที่ยวผับจะเยอะกว่าปกติอาจจะเป็นเพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์น่ะครับ” พลตอบกลับเจ้านายกลับไปทันที ไม่แปลกที่วันนี้คนจะเยอะ เพราะเมื่อมีเวลาว่างจากงาน ทุกคนก็มักจะหาความสุขใส่ตัวเองแบบนี้และเป็นการมาพบกันเพื่อหาเพื่อนๆ ในวงสังคมเดียวกัน
“งั้นก็ขยายเวลาปิดร้านหน่อยก็แล้วกัน เพิ่มสักชั่วโมงสองชั่วโมงก็ได้ ในเมื่อวันหยุดคือวันที่กอบโกยก็รีบกอบโกยซะ” ขุนเขาสั่งออกไปอย่างไม่ใส่ใจว่านี่คือการกระทำผิดกฎหมาย เพราะเขาคิดว่าผิดกฎหมายแล้วยังไง เรื่องเปิดผับเกินเวลาไม่ใช่แค่ที่ผับของเขาเท่านั้นที่ทำแบบนี้ ทว่ากลุ่มคนที่มีเส้นสาย มีคนหนุนหลังก็เปิดเกินเวลากันเป็นประจำอยู่แล้ว และผับของเขาก็คือหนึ่งในนั้น แต่สำหรับเขาจะเปิดแค่บางวันเท่านั้น ถือว่าเขายังไว้หน้าเจ้าหน้าที่แถวนี้บ้าง
“อ้อ..ถึงเวลาก็ปิดก็ปิดไฟและประตูหน้าด้านก็แล้วกัน ส่วนข้างในก็ให้ดื่มกินกันให้พอ” ขุนเขาสั่งเพิ่มอีกเพื่อไม่ให้ดูว่าเขาท้าทายกฎหมายมากไป แค่คนที่อยู่ในนี้ก็เพียงพอแล้ว
“รับทราบครับนาย”
ลูกน้องคนสนิทขานรับคำสั่งจากผู้เป็นนายด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปอีกทางเพื่อทำตามคำสั่งทันที จะว่าไปทั้งเจ้านายและลูกน้องสองคนนี้คงมีแต่ความเย็นชาเหมือนกัน หรือไม่ก็คงจะทำงานด้วยมานาน เลยมีลักษณะท่าทางและความคิดไปในทิศทางเดียวกัน
หลังจากที่ออกคำสั่งเรียบร้อย ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาอย่างขุนเขาก็เดินไปหย่อนกายลงนั่งลงบนโซฟาสำหรับแขกวีไอพีพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าชายหนุ่มกำลังอารมณ์ดีเนื่องจากว่าช่วงนี้กิจการสถานบันเทิงที่นี่กำลังเป็นไปได้ด้วยดี เลยรู้สึกสบายใจเป็นพิเศษที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่ได้วางแผนเอาไว้
บทที่ 7ขณะนี้เป็นเวลาเกือบ ๆ เจ็ดโมงเช้า เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงบของห้องนอน จึงส่งผลให้หญิงสาวที่ขดตัวอยู่บนเตียงนอนจำต้องขยับเขยื้อนร่างกายเล็กน้อยเพื่อเอื้อมมือไปปิดเสียงนั้น เพราะมีเสียงรบกวนนั้นดังมาจากบริเวณโต๊ะข้างหัวเตียงถ้ายังปล่อยให้ดังต่อไป เธอนอนต่อไม่ได้แน่เมื่อเสียงนาฬิกาปลุกเงียบลง เธอก็มุดตัวนอนอยู่ใต้ผ้าห่มต่อด้วยความขี้เซาจึงทำให้ พายอาร์ เลือกที่จะหลับตานอนต่อโดยลืมไปว่าตัวเองจะไปตามนัดของเพื่อนสายได้ถ้ายังไม่ลุกขึ้นอาบน้ำตอนนี้ เธอยังนอนอย่างมีความสุขต่อไป แต่ทว่าอยู่ ๆ เสียงสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ครั้งนี้พายอาร์เริ่มที่จะหมดความอดทน เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เพื่อที่จะได้ต่อว่าได้ถูกคน ก่อนจะเห็นเต็มสองตาว่าต้นสายคือผู้เป็นแม่ จึงจำเป็นที่จะต้องตื่นขึ้นมารับสายอย่างปฏิเสธไม่ได้“ว่าไงคะแม่...” น้ำเสียงงัวเงียของหญิงสาวร่างบางถามขึ้นด้วยความสงสัยว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้แม่โทรมาหาเธอได้แต่เช้าตรู่ขนาดนี้ ก่อนจะค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง เพื่อหวังให้ตัวเองตื่นตัวเสียที[พาย ตื่นหรือยังลูก?] เสียงอ่อนโยนถามออกมาจากโทรศัพท์“ตื่นพอดีค่ะแม่
บทที่ 6“ขุนเขา!”วินาทีนั้นบันดาลโทสะของผู้เป็นพ่อสวนขึ้นมาอย่างทันควัน ก่อนจะหยัดกายขึ้นยืนเพื่อหวังที่จะข่มลูกชาย ไม่ให้เหิมเกริมไปมากกว่านี้ เขาเป็นมาเฟียที่ใคร ๆ ต่างก็เกรงกลัว แต่มีคนหนึ่งที่ไม่เคยกลัวเขาเลยก็คือไอ้ลูกชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขานี่แหละ“ใจเย็น ๆ กันทั้งคู่เลย ถ้าลูกไม่อยากทำก็ปล่อยเถอะค่ะคุณ พูดไป ก็มีแต่จะทะเลาะกันเปล่า ๆ” คุณหญิงจิตตรีเห็นท่าไม่ดีก็ลุกขึ้นยืนตามสามี ทีแรกเธอก็หวังเอาไว้ว่าสองพ่อลูกจะพูดคุยกันดี ๆ ไม่ใช้อารมณ์เหนือเหตุผล แต่ก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่ได้เป็นไปตามที่เธอคาดเอาไว้เลยแม้แต่น้อย“คุณก็ดูลูกคุณสิ ผมบอกให้ทำอะไร มีหรือจะไม่ดี แต่ก็ยังดื้อด้าน ไม่ยอมเชื่อฟังอยู่แบบนั้น” ศิลานั่งลงและพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ“ผมก็ไม่ได้บอกว่ามันไม่ดี แต่ผมแค่ไม่ชอบ ซึ่งอะไรที่ผมไม่ชอบผมก็จะไม่ทำ หวังว่าหลังจากนี้พ่อจะไม่เอาเรื่องนี้มาบังคับผมอีกแล้วนะครับ เพราะผมยังยืนยันคำตอบว่าจะไม่สานต่อ เข้าใจตรงกันนะครับ ผมขอตัวกลับไปทำงานก่อน คงไม่ว่างมานั่งเถียงอยู่แบบนี้แล้วล่ะครับ”ขุนเขาเอ่ยทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจะรีบสืบเท้าเดินออกไปจากโต๊ะอาหาร โดยมีแม่ของเขาเด
บทที่ 5ตกบ่ายในวันเดียวกัน…ขุนเขามาตามนัดของผู้เป็นแม่ สีหน้าและท่าทางของชายหนุ่มดูไม่พอใจสักเท่าไหร่นัก เมื่อเห็นว่าวันนี้พ่อของเขาก็มาร่วมวงรับประทานอาหารมื้อเที่ยงด้วยเช่นเดียวกันซึ่งเขาแทบอยากจะเดินถอยหลังกลับ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยกมือไหว้ทั้งสองคนด้วยความเคารพ“สวัสดีครับพ่อ สวัสดีครับแม่ ไหนว่าแม่มีนัดกินข้าวกับเพื่อนไม่ใช่เหรอครับ นี่พ่อเป็นแม่เป็นเพื่อนกันเหรอครับ” เขาถามออกไปแบบประชดประชัน เพราะถ้าเขารู้ว่าจะมาเจอกับพ่อ เขาไม่มาแน่นอน“อ้าวมาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิลูก กินไปคุยไป จะได้ไม่เสียเวลามากเท่าไหร่”คุณหญิงจิตตรีเอ่ยบอกกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมกับส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดูตามประสาคนเป็นแม่ตามไปติดๆ โดยทำเป็นไม่สนใจเสียงประชดของลูกชาย ส่วนเจ้าพ่อมาเฟียยังนั่งนิ่ง ๆ ทำเพียงเหลือบตามองลูกชายเล็กน้อยเท่านั้น แล้วนั่งกินอาหารต่อ“เข้าเรื่องเถอะครับ ไม่ต้องยืดเยื้อให้เสียเวลาเลยจะดีกว่า” ขุนเขาพูดขึ้นเมื่อนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามพ่อกับแม่ของตัวเองแล้ว“พ่อตัดสินใจแล้วว่าอีกไม่กี่เดือนจะพักผ่อน แต่ก็ยังหาคนที่ไว้ใจให้ดูแลธุรกิจไม่ได้ เลยจะให้แ
บทที่ 4ครืด! ครืด!“แป๊บหนึ่งนะ กูรับโทรศัพท์ก่อน” ขุนเขาเหลือบตามองโทรศัพท์แล้วพูดขึ้น“ครับนาย” พลที่รู้หน้าที่ดีก็เดินเลี่ยงออกไปอีกทางขุนเขาเห็นลูกน้องเดินเลี่ยงออกมาอีกทาง เขาก็เพื่อคุยโทรศัพท์กับผู้เป็นแม่“ว่าไงครับแม่” ขุนเขาถามออกไปเสียงอ่อนลงกว่าปกติเล็กน้อยแต่ก็ยังคงความเคร่งขรึมอยู่[ขุน วันนี้ช่วงบ่ายว่างหรือเปล่าลูก พอดีแม่มีนัดทานข้าวกับเพื่อนน่ะ แล้วขุนก็ต้องไปกับแม่ด้วย] เสียงปลายสายตอบกลับมา และน้ำเสียงความอ่อนหวานอยู่มาก“ผมไม่ว่างครับแม่ วันนี้คิวงานผมแน่นมาก คงหาเวลาว่างไปด้วยไม่ได้ ขอโทษด้วยนะครับ” ขุนเขาลอบถอนหายใจออกมาแล้วเมื่อรู้จุดประสงค์ที่แม่โทรมาหาเขาแต่เช้าแล้วเขาเลือกที่จะปฏิเสธคำเชิญชวนของผู้เป็นแม่ไปด้วยความรำคาญใจ[ไม่ว่างไม่ได้ เพราะเรามีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับลูกที่จะต้องพูดคุยกัน ขาดเจ้าของเรื่องไปก็คงจะดูไม่ดีนะลูก มาเถอะ ถือว่าแม่ขอร้องก็ได้]น้ำเสียงของแม่ที่โดนปฏิเสธในตอนแรกแข็งขึ้นมาเล็กน้อย แต่พอนึกขึ้นได้ว่าไม่มีใครบังคับลูกชายได้จึงใช้น้ำเสียงในเชิงขอร้องแทนในช่วงหลัง“แล้วทำไมแม่ถึงไม่บอกผมล่วงหน้าก่อนล่ะครับ ผมจะได้ให้พลจัดเวลางานเอาไว้ให
บทที่ 3ถ้อยคำหยาบคายหลุดออกมาจากปากของชายหนุ่ม พร้อมกับดึงกระดาษที่มีรูปของชายหนุ่มที่ถูกพูดถึงมาขยำ และปาใส่หน้าของนลินอย่างไม่ไยดีคนอย่างขุนเขา ไม่ชอบผูกมัดกับใคร เขามีผู้หญิงเข้ามาหาไม่เคยขาด และเขายังผู้หญิงเลี้ยงไว้หลายคน โดยถ้าหากอีกฝ่ายอยากไปมีคนใหม่อีกเป็นร้อยเป็นพันคน เขาก็ไม่ได้เดือดร้อน เพราะบางทีเขาก็ละเลยเธอไปบ้างเพราะงานยุ่ง เพียงแต่ก่อนจะไปก็บอกให้รู้ก่อนว่าจะไป อย่าทำให้เขารู้เองว่ากำลังถูกทับรอยแบบนี้และที่สำคัญหากโกหกขึ้นมาแล้วเขาจับได้ก็มีแต่จะซวยกับซวยเท่านั้น เพราะเขาไม่เคยให้โอกาสใครที่ละเมิดกฎไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือผู้หญิง“ขุนใจเย็น ๆ ก่อนนะ ลินอธิบายได้” นลินเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายรู้ความจริงแล้วก็ทำท่าจะขยับเข้าไปหา แต่ขุนเขายกมือห้ามไว้ ทำให้เธอต้องนั่งลงที่เดิมและพูดแก้ตัวออกมาอย่างร้อนรน“ไม่ต้องอธิบายแล้ว แค่จำเอาไว้ก็พอว่าอย่าคิดจะมาโกหกผมอีก คนอย่างผม ก่อนจะถามอะไร มักจะรู้คำตอบอยู่แล้ว ถ้าคิดจะโกหก ก็ทำให้มันเนียนกว่านี้หน่อย แบบนี้ยังเด็กน้อยเกินไป พล...ฝากจัดการต่อด้วย”ขุนเขาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา และพอพูดกับหญิงสาวจบเขาก็ลุกขึ้นแล้วหันไปสั่งล
บทที่ 2“คุณนลินมาแล้วครับนาย ให้เรียกมาที่นี่เลยไหมครับ?” ลูกน้องมือขวาที่สแตนด์บายรออยู่เอ่ยบอกเจ้านายด้วยความนอบน้อมแต่ก็ยังคงผสมความเย็นชาที่ไม่ต่างจากผู้เป็นนาย ก่อนจะรอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ “อืม เรียกเธอมาได้เลย” ขุนเขาสั่งเสียงเข้มและทรงอำนาจ“ได้ครับนาย”สิ้นคำของลูกน้องได้ไม่นาน หญิงสาวสวยเซ็กซี่ที่ดูเย้ายวนอย่างนลินก็สาวเท้าเดินตรงดิ่งเข้ามาหาขุนเขาตามที่ได้นัดหมายกันเอาไว้ ซึ่งดูเหมือนทั้งสองจะมีเรื่องสำคัญที่ต้องพูดคุยกัน ถึงได้นัดกันมาที่นี่อย่างกะทันหันแบบนี้เพราะปกติขุนเขาจะนัดเธอมาที่นี่ก็จริง แต่จะไปที่ห้องทำงานของเขาทั้งข้างบน ไม่ได้มานั่งปะปนกับลูกค้าคนอื่นแบบนี้“ขุนมีอะไร ทำไมถึงมานั่งตรงนี้ ไม่ใช่ข้างบน” หญิงสาวถามขึ้นทันทีเหมือนไม่พอใจที่เขาไม่ให้เกียรติเธอ“นั่งก่อนสิครับ ดื่มไปคุยไป น่าจะดีกว่า ว่าไหมครับคุณลิน?” ขุนเขาไม่สนใจเสียงหงุดหงิดนั่น แต่เขายังพูดกับเธอด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเรียบนิ่งเย็นชาตามแบบของเขา“ขุนพูดมาเลยดีกว่าค่ะ ว่าเรียกลินมาทำไม มีเรื่องสำคัญอะไรอย่างนั้นเหรอคะ?” นลินกล่าวตอบพลางลดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ กันกับชายหนุ่ม และไม่ลืมที่จะมองหน้าเ
Comments