공유

บทที่ 0162

작가: อี้เสี่ยวเหวิน
หลินจืออี้ได้ยิน ใบหน้าพลันร้อนฉ่า เธอหันกลับไปหมายจะอธิบาย

“ป้าคะ ไม่ใช่…”

กงเฉินก้าวขาเรียวยาว แล้วหันตัวเดินขึ้นบันไดไปทันที ทำให้เสียงของเธอกลืนหายไปกับชั้นบน

หลินจืออี้มองไปที่กงเฉินด้วยความฉงน ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่า ในตาเขาเหมือนมีรอยยิ้มปรากฏอยู่

แต่เมื่อเธอเพ่งมองดีๆ ดวงตาเขากลับยังคงเยือกเย็นเหมือนเดิม

รู้สึกไปเองจริงๆ ด้วย

เมื่อขึ้นไปถึงชั้นหนึ่ง หลินจืออี้ก็ดิ้นขัดขืน “อาเล็กวางฉันลงเถอะ ฉันจะสวมรองเท้าแล้วเดินเอง ห้องที่ฉันพักอยู่มันค่อนข้างอยู่สูง”

กงเฉินไม่พูด เดินขึ้นไปต่อ

หลินจืออี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนชี้ไปที่ชั้นบนสุด“ฉันพักอยู่ชั้นหก อาอุ้มขึ้นไปไม่ไหวหรอก”

“ชั้นสาม”

“อารู้ได้ยังไง?”หลินจืออี้กล่าวด้วยความตกใจ

“เธอคิดว่าไงล่ะ?” กงเฉินหยุดลง มองหลินจืออี้ด้วยแววตาลุ่มลึก

“นี่อาตรวจสอบฉันเหรอ!”

“…”

กงเฉินหรี่ตา วันๆ หนึ่งในหัวเธอคิดอะไรอยู่เนี่ย?

…..

ครู่ต่อมา กงเฉินก็มาหยุดอยู่หน้าประตูห้องของหลินจืออี้

หลินจืออี้เปิดประตูเข้าไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจ เมื่อเข้าไป เธอก็ไปใส่รองเท้าผ้าใบกันลื่น

ในหอพัก เธอเก็บกระเป๋าได้สองใบ นอกจากเสื้อผ้าฤดูต่างๆ แล
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0163

    หลินจืออี้ตกใจไปกับกงเฉินที่แปลกตา ลมหายใจหอบเร็วขึ้นมา พยายามจะผลักเขาออกแต่กลับถูกเขาจับข้อมือไว้ และใช้นิ้วเกลี่ยผิวตรงบริเวณที่มีสีแตกต่างจากผิวส่วนอื่นมันคือผิวที่เกิดขึ้นใหม่หลังจากที่ถูกเผาครั้งก่อน“หายดีแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำของเขาแฝงไปด้วยความคร้านอยู่เล็กน้อยหลินจืออี้เบือนหน้าหนีไม่อยากพูดกงเฉินยกมือขึ้นบังคับให้เธอหันหน้ากลับมา ก่อนจะบีบแก้มเธอเบาๆ“พูดดีๆ เป็นไหม?”“อาเล็ก อาลืมไปแล้วเหรอ ฉันเป็นลาดื้อ” หลินจืออี้กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์กงเฉินเท้าสองมือไว้บนโต๊ะ ก้มหัวลงมา และแอบกลั้นหัวเราะในลำคอ“ฉันพูดดีๆ กับเธอ เธอฟังไม่เข้าหูเลยสักคำ แต่พอพูดไปงั้นๆ กลับจำได้แม่นเชียวนะ”ครั้งนี้น้ำหนักเสียงเขาเบามาก ถึงขนาดผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหลินจืออี้ก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง ทั้งๆ ที่เมื่อครู่พวกเขายังมีท่าทางตึงใส่กันอยู่เลยเธอหลุบตาลง ไม่อยากตอบกงเฉินแต่กงเฉินไม่คิดจะปล่อยเธอไป เขาหยัดกายเข้าใกล้เธอ ปลายนิ้วาถูสัมผัสกับมุมปากเธอ และเข้าใกล้เธออย่างแฝงไปด้วยกลิ่นอายคุกคาม“หลินจืออี้ กงเยี่ยน…”หลินจืออี้ไม่ได้หลบ เงยหน้าขึ้นจ้องเขา พลางกล่าวแฝงไปด้

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0164

    กงเฉินขวางผู้อำนวยการที่เข้ามาใกล้ “มีเรื่องอะไร?”ผู้อำนวยการรีบเปลี่ยนท่าทางเป็นนอบน้อมทันที “คุณชายสาม คืออย่างนี้ครับ ตึกของเรากำลังจะปรับปรุงใหม่เพื่อให้นักเรียนใหม่เข้ามาพักอยู่ แต่มีแค่หลินจืออี้คนเดียวที่ชักช้าไม่ยอมย้ายออก ผมเห็นใจที่เธอเป็นผู้หญิง ย้ายของคนเดียวคงลำบาก เลยตั้งใจเรียกยามมาช่วยสามคนครับ”“คุณชายสาม ตรงนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมเรียกคนมาช่วยหลินจืออี้ก็ได้แล้ว”สีหน้าเขาเต็มไปด้วยการประจบประแจง แต่กลับไม่กล้าสบตากงเฉิน โดยเฉพาะเวลาที่พูดถึงยามสามคนนั้น น้ำเสียงยิ่งประหม่าดูท่าเขาจะรู้ตัวตนของยามทั้งสามคนนี้แต่เขาทำแบบนี้ทำไม?หลินจืออี้หมายจะซักถามตัวตนของยามสามคนนี้ แต่กลับถูกกงเฉินขวางไว้เขากล่าวขัดขึ้น “คุณหนูรองของตระกูลกงไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาช่วยหรอก”“อะไรนะ? คุณหนูรอง?” ดวงตาผู้อำนวยการแทบจะถลนออกมาเขามองไปที่ยามสามคนอย่างลนลานยามเองก็หัวหดไปครู่หนึ่ง ก่อนถอยออกไปจากหออย่างรวดเร็วหลินจืออี้ขมวดคิ้ว อยากจะไล่ตามออกไปแต่กลับถูกกงเฉินคว้าแขนไว้“ไปกันเถอะ”ไม่รอให้เธอได้ตั้งตัว หลินจืออี้ก็ถูกกงเฉินพาออกมาจากหอเมื่อเดินมาถึงรถ หลิ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0165

    รถเพิ่งมาถึงข้างใต้คอนโด ยังไม่ทันจอดสนิท มือถือของกงเฉินก็ดังขึ้นแล้วหลินจืออี้ได้ยินเสียงก็เหลือบมองครู่หนึ่ง เป็นซ่งหว่านชิวจริงๆ ด้วยผู้อำนวยการที่พายามมาทำไม่สำเร็จ ทางซ่งหว่านชิวก็นั่งไม่ติดแล้วถ้าบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ ใครเชื่อก็บ้าแล้วไม่สิ กงเฉินเชื่อพอเขารับโทรศัพท์ เสียงร่ำไห้ของซ่งหว่านชิวก็ดังมาจากปลายสายหลินจืออี้นั่งอยู่ข้างหน้าต่าง ฟังไม่ค่อยถนัด รู้แค่ว่าเสียงซ่งหว่านชิวฟังดูเหมือนเธอได้รับความทุกข์อย่างใหญ่หลวงเสียงของกงเฉินอ่อนลงไปบางส่วน “เดี๋ยวไปหา”ตอนนี้เองรถเพิ่งจอดสนิท หลินจืออี้เองก็ไม่อยากหาเรื่องฟังต่อไป จึงรีบเปิดประตูลงจากรถอย่างรวดเร็วกงเฉินยื่นมือมาดึงเธอไว้ “ฉันมีธุระไม่ลงจากรถแล้ว ฉันจะให้คนขับรถอยู่ช่วยเธอขนของ”“อืม”หลินจืออี้สะบัดมือเขาออก ก่อนลงรถไปโดยไม่หันกลับมามองกงเฉินทอดมองแผ่นหลังของเธอ คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนส่งสิกให้คนขับรถกับเฉินจิ่นไปช่วยขนของกระเป๋าหลินจืออี้เพิ่งขนไปถึงใต้คอนโดไม่ทันไร กงเฉินก็ไปแล้วเธอดึงกระเป๋าสะพายบนตัวครู่หนึ่ง ก่อนก้มหน้าหอบกล่องหนังสือขึ้นมาแล้วมองไปที่คนขับรถ “รบกวนคุณช่วย

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0166

    เธอซุกหน้าลงกับหมอนอิง หวังจะให้ตัวเองสงบลงได้บ้างในตอนนี้เอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเป็นหลิ่วเหอ“จืออี้ วันนี้เป็นยังไงบ้าง?” เสียงของหลิ่วเหอกลั่วไปด้วยเสียงหัวเราะ มีนัยยะแอบแฝง“ก็ไม่ยังไง” หลินจืออี้สูดหายใจเข้าลึก“เป็นไปไม่ได้สิ เจ้าสามไม่ได้ช่วยแกเหรอ?”“แม่ เอวแม่ไม่ปวดแล้วเหรอ?” หลินจืออี้กล่าวอย่างเคืองๆ “ฉันเคยบอกแม่ก่อนหน้านี้แล้ว อย่ามาจับคุ่ให้ฉันกับเขาอีก พวกเราไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน”“ไม่ใช่แม่นะ! เป็นเขาต่างหากที่พูดว่า…”“แม่ หยุดทำแบบนี้ได้แล้ว มันไม่มีความหมายอะไรเลย” หลินจืออี้กล่าวยืนกรานหลิ่วเหอถอนหายใจออกมาเบาๆ “รู้แล้ว แม่ก็คิดว่าพวกแกสองคนจะคุยกันดีๆ ได้”ในฐานะที่เป็นแม่ของหลินจืออี้ เธอจะดูไม่ออกหรือว่าหลินจืออี้จงใจหาเรื่องกงเฉินทุกทาง?แต่ว่า…นั่นคือกงเฉินเชียวนะ!แม้แต่หลิ่วเหอที่เป็นพี่สะใภ้เมื่อเห็นเขายังต้องก้มหัวให้ แล้วหลินจืออี้จะใช่คู่ต่อสู้เขาเหรอ?เธอก็แค่กลัวว่าหลินจืออี้กับกงเฉินจะกลายเป็นศัตรูกันเพราะเรื่องในคืนนั้น!หลินจืออี้รู้ว่าหลิ่วเหอหวังดี จึงไม่อยากพูดอะไรมาก“แม่ ฉันเหนื่อยแล้ว ขอตัวไปพักก่อนนะ”“อืม”…..ณ ตร

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0167

    ฉินซวงเห็นสีหน้าซ่งหว่านชิวดูไม่ค่อยดี จึงรีบเก็บโทรศัพท์บนพื้นขึ้นมาแนบข้างหูทันที“อ๊าก! ผมผิดไปแล้ว!ผมไม่กล้าทำอีกแล้ว! คุณซ่งช่วยผมด้วยครับ!”“คุณซ่งช่วยผมด้วย! ไม่งั้นต่อให้ผมตายไปก็จะไม่มีวันปล่อยคุณไป!”เสียงกรีดร้องของผู้ชายสองสามคนน่าอนาถผิดปกติ ฉินซวงตกใจจนรีบปิดเครื่องเธอนวดหว่างคิ้วกล่าว “เสียงนี่เหมือนจะเป็น…”ซ่งหว่านชิวกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรง “ผู้อำนวยการกับไอ้สารเลวสามคนนั้น…คุณชายสามรู้หมดแล้ว!”“แกใจเย็นๆ ก่อน”ฉินซวงพยายามปลอบซ่งหว่านชิว แต่กลับถูกเธอผลักออกซ่งหว่านชิวไม่มีกะจิตกะใจมารักษาภาพลักษณ์อ่อนหวานสง่างามแล้ว ตอนนี้เธอเดินไปมาอยู่ในห้องนั่งเล่นราวกับคนที่บ้าคลั่ง “จะให้หนูใจเย็นได้ยังไง! คุณชายสามให้หนูอดทน! หนูจะอดทนยังไง!”ฉินซวงกลัวว่าท่าทีแบบนี้ของซ่งหว่านชิวจะถูกคนอื่นเห็นเข้า จึงรีบลุกขึ้นปิดประตูห้องนั่งเล่น แล้วดึงซ่งหว่านชิวนั่งลง“คุณชายสามรีบไปถึงโรงพยาบาลเร็วขนาดนั้น แสดงว่าเขาเองก็กลัวเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อความร่วมมือ ยิ่งบริษัทใหญ่แค่ไหน ก็ยิ่งแคร์เรื่องอื้อฉาวในครอบครัว หรือเขาจะให้คนอื่นรู้ว่าเขาทิ้งคู่หมั้นที่กำลังป่วยไปหาหลินจ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0168

    ขณะที่ทุกคนไม่ทันสังเกต มีร่างๆ หนึ่งเดินออกไปอย่างเงียบเชียบ ซ่งหว่านชิวเหลือบมอง มุมปากยกยิ้มลึกขึ้นกว่าเดิม….. ที่หน้าเคาน์เตอร์ เสิ่นเยียนกำลังจ้องมองการ์ดเชิญในมือบนกระดาษนูนโรยด้วยผงทอง เผยความเปล่งประกายระยิบระยับออกมาเป็นความฟุ้งเฟ้อที่คนอย่างเธอไม่มีทางเอื้อมถึงได้ในชีวิตนี้ในตอนนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากตรงข้าม“อิจฉาเหรอ?”เสิ่นเยียนมองเฉินฮวนที่จะว่ายิ้มก็ไม่ยิ้ม พลางขมวดคิ้วแน่น “เธอเองเหรอ? เธอมาทำอะไร?”เฉินฮวนเดินเข้ามาแล้วชี้ไปที่การ์ดเชิญ “หมาน่ะ ยังไงก็แทนที่เจ้าของไม่ได้หรอก”“อย่ามาพูดจาบ้าๆ ตรงนี้นะ!” เสิ่นเยียนพูดอย่างเดือดดาล“ร้อนใจแล้วเหรอ? หรือว่าฉันพูดผิด? เป็นนกสองหัวน่ะไม่ได้เป็นกันง่ายๆ หรอกนะ” เฉินฮวนยิ้มกว้างขึ้นได้ยินแบบนี้ เสิ่นเยียนถึงกับถอยหลังอย่างระวัง “เธอรู้อะไรมากันแน่?”“ฉันเห็นหมดแล้ว เธอแอบสมรู้ร่วมคิดกับซ่งหว่านชิวเล่นงานหลินจืออี้ รสชาติของการถูกซ่งหว่านชิวตบหน้าคงรู้สึกไม่ดีใช่ไหมล่ะ?” เฉินฮวนพูดแดกดันสีหน้าของเสิ่นเยียนซีดเผือด มองซ้ายขวาอย่างหวาดระแวง กลัวคนอื่นจะได้ยินเข้าอย่างไรอย่างนั้น“เธอจะเอายังไง

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0169

    ณ ห้องพักผ่อนหลินจืออี้กำลังใช้ผ้าขนหนูซับคราบไวน์แดงบนกระโปรงเสิ่นเยียนหยิบถุงใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นมาตรงหน้าเธอ “จืออี้ ฉันพกเสื้อผ้ามาเผื่อชุดหนึ่งพอดี เราสองคนสัดส่วนใกล้เคียงกัน เธอใส่แก้ขัดไปก่อนนะ”หลินจืออี้เหลือบมองโลโก้บนถุง ก่อนแกล้งพูดติดตลก “เสิ่นเยียน เธอรวยแล้วเหรอ? เสื้อผ้าร้านนี้ไม่มีชุดไหนต่ำกว่าห้าหลักเลยนะ”สายตาเสิ่นเยียนชะงักไปแวบหนึ่ง ก่อนอธิบาย “ได้เงินเดือนแล้วน่ะ ฉันเลยอยากให้รางวัลตัวเองบ้าง ยังไงก็เป็นงานแรกในชีวิตนี่นา”“งั้นเหรอ แล้วฉันจะกล้าใส่ชุดใหม่ของเธอได้ยังไง? ฉันใส่ชุดนี้ต่อก็ได้ ยังไงฉันก็ไม่ใช่คนสำคัญอะไรอยู่แล้ว” หลินจืออี้พูดพลางจงใจดันถุงกลับไปเสิ่นเยียนตาไหววูบอย่างเห็นได้ชัด ก่อนรีบยัดถุงกลับเข้ามาในอ้อมแขนของหลินจืออี้“จืออี้ เราเป็นเพื่อนรักกันนะ จะมาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องพวกนี้ทำไม? ถ้าเธอยังเป็นแบบนี้ฉันจะโกรธแล้วนะ”“งั้น…ก็ได้ ขอบใจนะ” หลินจืออี้กล่าวด้วยสีหน้าซาบซึ้ง“เอาล่ะ อย่ามัวรีรอ เธอรีบไปเปลี่ยนเถอะ”“อืม”หลินจืออี้ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำ ด้านหลัง เสิ่นเยียนแสยะยิ้ม เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา หลินจืออ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0170

    ชุดกี่เพ้าไร้แขนติดแนบไปกับร่างกายเธอ เผยส่วนเว้าโค้งสมบูรณ์ออกมา ประหนึ่งถูกตัดเย็บขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ สองแขนลู่แนบไปกับลำตัว เปล่งประกายขาวเนียนดุจรากบัวทั้งที่ทั่วตัวบนล่างเผยแค่แขนออกมา แต่กลับดึงดูดสายตาจากทุกทิศทุกทางหลังจากสังเกตุเห็นสายตาของเสิ่นเยียน หลินจืออี้ก็จงใจจัดชุดกี่เพ้าต่อหน้าเธอ“เสิ่นเยียน ฉันสวมเสื้อของเธอแล้วดูคับไปหน่อยนะ”ชาติก่อน หลังจากที่หลินจืออี้กลายเป็นหนูข้ามถนน เสิ่นเยียนก็คร้านจะเสแสร้งต่อ เหยียบร่างเธอที่ล้มอยู่กับพื้นซ้ำ ดูหมิ่นสุดขีด“เธออย่าโทษฉันเลย ใครให้เธอดีกว่าฉันทุกอย่างล่ะ? พูดว่าเป็นเพื่อนกัน แต่เธอมีสิทธิอะไรถึงทะยานขึ้นฟ้าแต่งงานกับคุณชายสามได้?”“ฉันจะบอกอะไรเธอให้ ทุกการกลั่นแกล้งที่เธอต้องเผชิญ ล้วนเป็นแผนการที่ฉันและซ่งหว่านชิวร่วมมือกันรังสรรค์ขึ้น ตอนนี้คุณชายสามเห็นเธอก็รังเกียจแล้ว เธอไปตายยังดีกว่าซะอีก!”เสิ่นเยียนชอบอิจฉาริษยาขนาดนี้ งั้นก็ปล่อยให้เธอใช้ชีวิตในความริษยาไปทุกวันแล้วกันเมื่อเห็นเช่นนี้ เสิ่นเยียนกัดฟันแน่น มือกำชายกระโปรงตัวเองแน่น ความอิจฉาในดวงตาแทบจะซ่อนไว้ไม่อยู่หลินจืออี้ทำเหมือนไม่เห็นสีหน้า

최신 챕터

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0196

    ในเมื่อซ่งหว่านชิวซ่อนตัวอยู่ในบ้านและแท้งลูก งั้นเธอก็สามารถวางแผนอื่นๆ ของเธอได้ต่อไปแล้วหลินจืออี้ถือโอกาสที่เข้าห้องน้ำโทรหาหลิ่วเหอ“แม่ วันนี้คุณอาอยู่ที่บริษัทหรือเปล่า?”“อยู่ มีอะไรเหรอ?”“ฉันอยากไปหาเขากินฉันข้าวมื้อน่ะ”ขณะที่พูด หลินจืออี้ก็ก้มลงมองถุงที่อยู่ข้างเท้า ในนั้นมีเสื้อนอกของกงเฉินวางอยู่เธอกลัวว่าถ้าตัวเองไปหากงเฉินโดยตรง เขาจะเห็นอะไรบางอย่างแต่ถ้าเขากินข้าวกับกงสือเหยียน เธอก็สามารถหาข้ออ้างคืนเสื้อผ้าของกงเฉินได้หลิ่วเหอคิดไปคิดมา กลับพูดว่า “ช่างมันเถอะ วันนี้อาของเธอยุ่งมากแน่ๆ”หลินจืออี้พูดอย่างประหลาดใจว่า “คุณอามีออเดอร์ใหญ่เหรอ?”“ไม่ใช่” หลิ่วเหออยากจะพูดแต่ก็หยุด สุดท้ายก็ถอนหายใจ “อาของเธอบอกว่าเจ้าสามป่วยน่ะ ก่อนหน้านี้กระโดดลงทะเลสาบไปช่วยเธอ ทั้งตัวเปียกปอนพาเธอไปโรงพยาบาล เมื่อคืนกงเยี่ยนเกิดอุบัติเหตุ เขาไม่ได้นอนทั้งคืนเพื่อจัดการงานที่เหลือของกงเยี่ยน ตอนเช้าก็ไปบริษัทอีก เขาก็เป็นคนเหมือนกัน จะไม่ป่วยได้ยังไง?”"ป่วย...ป่วยเหรอ?” หลินจืออี้สะดุ้งโหยงในใจนึกถึงอุณหภูมิร่างกายที่ผิดปกติของกงเฉินเมื่อคืนอย่างอธิบายไม่ได้ เธอยัง

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0195

    หลินจืออี้ไม่เคยคิดว่ากงเฉินจะบ้าขนาดนี้แม้ว่าจะดึกมากแล้ว แต่รอบๆ โรงพยาบาลก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อย แต่เขากลับยัดมือของเธอไว้ใต้เสื้อสเวตเตอร์มือที่เย็นเฉียบของเธอสัมผัสเอวที่ร้อนผ่าวของชายหนุ่ม ทำเอาเธอร้องเสียงต่ำออกมาอย่างควบคุมไม่ได้คนที่ได้ยินเสียงของเธอต่างหันมามอง เธอก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว พยายามดิ้นรนอย่างหนัก แต่มือกลับถูกเขากดแน่นอยู่บนขอบเอวหลินจืออี้ขดนิ้วมือ กล้ามเนื้อแน่นๆ รีดฝ่ามือของเธอ หนียังไงก็หนีไม่พ้นเพียงแค่คนรอบข้างก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวก็จะเห็นมือของเธอสอดเข้าไปในเสื้อสเวตเตอร์ของเขาไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า อุณหภูมิบนฝ่ามือของเธอสูงจนน่าตกใจเธอเตือนอย่างลุกลี้ลุกลนว่า “อาเล็ก อาบ้าไปแล้ว ถ้ามีคนถ่ายรูปได้จะทํายังไง?”กงเฉินจ้องเธอด้วยสายตาเย็นชา เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “แต่งตัวแบบนี้มาหากงเยี่ยนตอนดึกดื่นไม่กลัว แต่อยู่ด้วยกันกับฉันกลับกลัวงั้นเหรอ? แล้วทําไมตอนนั้นถึงเข้ามาในห้องฉันล่ะ?”หลินจืออี้อึ้งไปเล็กน้อย ไม่กล้าสบตาเขา เพราะในอดีตเธอเคยรักผู้ชายคนนี้อย่างเร่าร้อนจริงๆแต่ตอนนี้...เธอก้มหน้าลง "ฉันเสียใจแล้วได้ไหม? ถ้าสามารถเริ่มต

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0194

    หลังจากกงสือเหยียนตอบรับ เขาก็เดินตามหลินจืออี้ไปเมื่อกงเฉินหันกลับมา กงเยี่ยนก็มองเขายิ้มบางๆ“อาเล็ก ขอบคุณที่มาเยี่ยมผมนะครับ ตอนนี้ผมรู้สึกเต็มไปด้วยพลัง”กงเฉินมองไปที่กงเยี่ยน ในดวงตามีประกายแหลมคมแวบผ่าน “อ้อ? งั้นนายก็เก็บไว้ใช้บ้างนะ”รอยยิ้มของกงเยี่ยนจางลง จ้องมองทิศทางที่กงเฉินหายไป สีหน้าคลุมเครือไม่ชัดเจน……หลินจืออี้ตามกงสือเหยียนลงไปชั้นล่าง เขารับโทรศัพท์และส่งเสียงอืมสองสามครั้งทันใดนั้น เขามองหลินจืออี้อย่างลําบากใจ “จืออี้ อาให้คนขับรถส่งเธอกลับไปนะ พอดีอาต้องไปเอาเอกสารที่บริษัท”“คุณอา ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันใช้แอพเรียกรถมารับแล้ว”หลินจืออี้คิดว่าหลิ่วเหอยังรอเขาอยู่ที่บ้าน เรียกแท็กซี่แถวนี้ก็ต้องรออีกตั้งนาน จึงปฏิเสธความหวังดีของเขา“เด็กคนนี้นี่ มักกลัวจะรบกวนคนอื่นตลอดเลย”“คุณอาคะ คนขับรถมาแล้ว คุณอารีบขึ้นรถเถอะ แม่ฉันยังบ่นว่าช่วงนี้คุณอากลับดึกตลอด” หลินจืออี้ผลักเขาขึ้นรถ“เดี๋ยวอาเอาอาหารว่างยามดึกไปให้แม่เธอ เขาก็ดีใจแล้ว” กงสือเหยียนพูดด้วยรอยยิ้ม“ค่ะๆ คุณอาสองคนรักกันไปเถอะค่ะ”หลินจืออี้ปิดประตูรถแล้วโบกมือลาหลังจากส่งกงสือเหยียนออกไ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0193

    หลินจืออี้ยืนพิงกําแพง ใบหน้าขาวซีด ในสมองมีแต่ตอนจบของกงเยี่ยนในชาติก่อนและตอนนี้ กงเฉินก็ต้องการทําลายกงเยี่ยนอีกครั้ง!ทําลายคนเดียวในตระกูลกงที่ทําดีกับเธอ!เธอหายใจติดขัด ปลายนิ้วข่วนกําแพงจนรู้สึกเจ็บไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็หันหลังและจากไปอย่างเงียบๆหลินจืออี้กลับไปที่วอร์ดผู้ป่วยอีกครั้งในเวลานี้ กงเยี่ยนเจ็บแผลถลอกจนพลิกตัวยาก แต่เมื่อเห็นหลินจืออี้ก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมาทันที“จืออี้ ฉันคิดว่าเธอจะไม่กลับมาแล้ว”“ไม่หรอก” หลินจืออี้เดินไปนั่งที่ข้างเตียง ถามเสียงเบาว่า “พี่ใหญ่ เมื่อกี้ฉันลืมถามไป ทําไมพี่ถึงเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ล่ะ?”“เมืองไห่มีขนมอบพิเศษ ฉันอยากจะเอากลับมาให้เธอลองชิม แค่รีบร้อนเท่านั้น” กงเยี่ยนพูดจบก็ไม่อธิบายให้มากความหลินจืออี้สังเกตเห็นช่องโหว่ในคําพูดของเขา “พี่ใหญ่ คนขับรถเป็นคนขับ ไม่ว่าพี่จะรีบแค่ไหน คนขับรถก็ไม่สามารถเอาชีวิตของพี่มาล้อเล่นได้...”ดวงตาของกงเยี่ยนหมองคล้ำ พูดตัดบทว่า “จืออี้ ไม่ต้องถามแล้ว เรื่องบางเรื่องก็ให้จบลงเท่านี้เถอะ”“พี่ใหญ่ อุบัติเหตุทางรถยนต์ต้องมีปัญหาแน่ๆ ใช่ไหม? พี่บอกฉันได้ไหม?”หลินจืออี้แค่อ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0192

    หลินจืออี้รีบก้าวไปข้างหน้าและยื่นมือออกมา แต่ก็ไม่กล้าแตะต้องเขา กลัวว่าจะทําให้เขาเจ็บ“พี่ใหญ่...”หลินจืออี้รู้สึกแสบจมูก ความรู้สึกผิดในใจก่อตัวมากขึ้นถ้าไม่ใช่เพราะเธอ กงเยี่ยนก็คงไม่ทําแบบนี้กงเยี่ยนมองเธอ ยื่นมือดึงเธอมานั่งที่ข้างเตียง ยกมือขึ้นเช็ดหางตาของเธอกลางคืนในปลายฤดูใบไม้ร่วงอุณหภูมิต่ำมาก หลินจืออี้แต่งตัวไม่เยอะ ผมเผ้ายุ่งเหยิงเล็กน้อยจากการเดินทาง ขนตายาวหลายเส้นที่แขวนอยู่บนขนตาที่เปียกชื้นเล็กน้อย ขับให้ดวงตาแดงก่ำชุ่มชื้นคู่นั้นยิ่งดึงดูดเขามือของเขาหยุดที่แก้มของเธออย่างไม่เต็มใจและยิ้มเบาๆ เพื่อปลอบโยน "ไม่เป็นไรจริงๆ หรือจะให้ฉันลงมาเดินสักรอบสองรอบ?"หลินจืออี้รีบเอื้อมมือไปจับมือเขา เอ่ยห้ามว่า “พี่อย่าขยับไปไหนนะ โตป่านนี้แล้วยังล้อเล่นอีก?”เขาจ้องมองหลินจืออี้แล้วยิ้มโดยไม่พูดอะไร แต่ชั่วพริบตาก็กวาดสายตามองไปทางด้านหลังของเธอหลินจืออี้สังเกตเห็น พอกําลังจะหันตัวกลับ กงเยี่ยนกลับล้มตัวลงไปหาเธอราวกับไม่มีแรงเธอยื่นมือไปกอดกงเยี่ยนตามสัญชาตญาณกงเยี่ยนถือโอกาสโอบเธอไว้ ตบหลังเธอเบาๆ พูดเสียงเบาว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่เป็นไร”หลินจืออี

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0191

    หลังจากได้ยินคําพูดของหลิ่วเหอ สมองของหลินจืออี้ก็สับสนวุ่นวายไปหมดเธอคิดไม่ออกจริงๆ ว่าชื่อย่อของใครคือ LHคิดไปคิดมา เธอได้แต่พูดว่า “แม่ ช่วยฉันจับตาดูหน่อยได้ไหม? คราวหน้าที่พวกเขานัดพบกันต้องบอกฉันนะ”หลิ่วเหอไม่ได้รับปากทันที น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความกระสับกระส่าย “จืออี้ แกคิดจะทําอะไรกันแน่? แกอยากอยู่ให้ห่างจากพวกซ่งหว่านชิวมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”หลินจืออี้เม้มปาก ลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่าง มองดูดวงดาวบนท้องฟ้าเมื่อก่อนเธอคิดแบบนี้จริงๆเพราะเธอสัญญากับซิงซิงว่าจะเป็นนักออกแบบเครื่องประดับที่มีความสุข ยิ่งเดินยิ่งไกล ต้องชดเชยความเสียใจในอดีตให้ได้ดังนั้นความคิดเดียวของเธอคือการเปลี่ยนชะตากรรมเดิมของเธอเติมเต็มความปรารถนาของเธอและซิงซิงแต่ตอนที่เธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้และฟังกงเฉินขู่เธอว่าจะเข้าข้างซ่งหว่านชิว เลือดก็แพร่กระจายจากร่างกายส่วนล่างของเธอ ราวกับได้สัมผัสกับความเจ็บปวดจากการสูญเสียดวงดาวอีกครั้งถ้าตอนนั้นเธอไม่ได้กินยาคุมกําเนิด วันนี้ซิงซิงของเธอก็คงกลายเป็นก้อนเลือดไปแล้วเธอไม่สามารถระงับเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังได้อีกต่อไป เธอไม่สามารถลืมใบหน้าที

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0190

    ตอนนี้ซ่งหว่านชิวเป็นนักออกแบบเครื่องประดับชื่อดัง มีสตูดิโอและแบรนด์เป็นของตัวเองเธอยังคลอดลูกชายคนโตให้กงเฉินอีกด้วย กำลังอยู่ในช่วงรุ่งเรืองสุดขีด แม้แต่เส้นผมก็เหมือนเปล่งประกาย ดวงตาเต็มไปด้วยความหยิ่งยโสเสิ่นเยียนที่อยู่ข้างเธอก็พลอยสบายไปด้วย แต่งตัวหรูหราถือกระเป๋าโซ่ใบเล็กๆที่ราคาสูงถึงหลายแสนเด็กสาวคนนั้นที่ตอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยพร้อมกับหลินจืออี้และเคยพูดว่าจะขยันทำงานเพื่ออนาคต ตอนนี้ก็ถูกความมืดกลืนกินไปแล้วเสิ่นเยียนเล่นกระเป๋าในมืออย่างไม่ใส่ใจพลางพูดว่า “หลินจืออี้กับลูกสาวแทบไม่ออกจากบ้านเลย แม้แต่คุณท่านก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันกับตระกูลหลิวช่วย คุณจะมีหลักฐานว่าหลินจืออี้ใส่ร้ายพวกคุณแม่ลูกได้ยังไง? ยิ่งกว่านั้น ตระกูลหลิวยังช่วยหา ตัวอย่างเข้าคู่ให้พวกคุณด้วย ถ้าเธอรู้ว่าคุณโกหกและใช้ประโยชน์จากเธอมาตลอด…”“หุบปาก! นี่เธอกำลังขู่ฉันเหรอ?” ซ่งหว่านชิวเปลี่ยนสีหน้าและท่าทางที่ทั้งโหดและดุร้าย“คุณหนูซ่ง อย่าว่าฉันพูดมากเลยนะคะ ตระกูลหลิวนี่บอกจะล่มก็ล่ม คุณหนูตระกูลหลิวคนนั้นมาขู่คุณและคนที่จะช่วยคุณได้ก็มีแค่ฉันเท่านั้น ฉันก็แค่เอาสิ่งที่ฉันควรได้ เ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0189

    “มีเรื่องงั้นเหรอ? หึๆ ผมกำลังพักผ่อนอยู่เลยนะ อยู่ดีๆก็โดนล็อกคอลากเข้าไปที่ห้องฉุกเฉิน หมอสูติฯ สามคนยืนอยู่ข้างๆ ผมมองหน้ากันงงไปหมด รู้ไหมพวกเขาถามผมว่าอะไร?”หลี่ฮวนแสดงท่าทางประกอบอย่างเว่อร์วังราวกับกำลังเล่นละครฉากใหญ่หลินจืออี้ถามอย่างงุนงง “ถามว่าอะไรเหรอคะ?”หลี่ฮวนเลียนเสียงหมอผู้หญิงพูดเสียงแหลมว่า “คุณหมอหลี่คะ จะรักษาอะไรเหรอคะจะรักษาการตั้งครรภ์หรือรักษาประจำเดือนดีคะ?”“ทีนี้รู้หรือยังว่าแผลพวกนี้ฉันได้มายังไง? คราวหน้ารบกวนช่วยเตือนเขาด้วยว่า ถึงจะรีบก็อย่าล็อกคอผมอีก”หลินจืออี้พอได้ยินมาถึงตรงนี้ก็เริ่มเข้าใจว่าหลี่ฮวนพูดถึงเรื่องอะไรแต่สีหน้าของเธอกลับไม่แสดงอารมณ์ใดๆเพียงแค่ก้มหน้าลงโดยไม่พูดอะไรหลี่ฮวนไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของเธอ เขามองไปรอบๆแล้วถามขึ้น“คุณชายสามล่ะ? ไม่ใช่ว่าเขาเฝ้าคุณตลอดหรือไง?”“กลับไปแล้วค่ะ” หลินจืออี้ตอบเสียงเย็นชาที่กงเฉินเฝ้าเธอก็แค่เพราะต้องการแน่ใจว่าจะได้เตือนเธอทันทีที่ตื่นขึ้นว่า "อย่าพูดอะไรที่ไม่ควรพูด"ตอนนั้นเอง หลี่ฮวนก็เริ่มสังเกตได้ว่าบรรยากาศแปลกไปเขานิ่งไปชั่วครู่ ไม่รู้ควรพูดอย่างไร จึงรีบเปลี่ยนห

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0188

    หลิ่วเหอหลังจากคลอดหลินจืออี้ออกมาร่างกายก็ได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถมีลูกได้อีกบ้านใหญ่จึงมีหลานชายเพียงคนเดียวคือกงเยี่ยน ส่วยบ้านรองก็ไม่มีลูกเช่นกัน หากบ้านสามอย่างกงเฉินแต่งงานกับผู้หญิงที่มีลูกไม่ได้อีกคน คุณท่านกงจะยอมได้ยังไง?เมื่อสังเกตเห็นสายตาของหลินจืออี้ ซ่งหว่านชิวก็ยกมือขึ้นปิดท้องโดยไม่รู้ตัวท่าทางนี้ทำให้หลินจืออี้รู้สึกแปลกใจชาติที่แล้วเพราะเธอแต่งงานกับกงเฉินก่อน ซ่งหว่านชิวจึงหนีตามไปพร้อมลูกในท้องแต่ตอนนี้ในเมื่อไม่มีสิ่งใดขัดขวางระหว่างซ่งหว่านชิวกับกงเฉิน หากเธอประกาศว่าท้องการแต่งงานระหว่างสองคนก็ไม่น่าจะมีปัญหาแต่ทำไมซ่งหว่านชิวถึงไม่เพียงแค่ไม่ยอมรับลูกในท้อง ยังถึงขั้นไม่กล้าเปิดเผยเลยแม้แต่นิด?“หลินจืออี้ ฉันรู้ว่าเธอกำลังเจ็บปวดใจ ไม่เป็นไรนะ เพราะความเจ็บปวดยิ่งกว่านี้กำลังจะมา คุณชายสามบอกว่าพอเซ็นสัญญาร่วมมือเสร็จเขาจะแต่งงานกับฉัน”“เห็นมั้ย? ฉันเคยบอกแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็จะเลือกฉัน ส่วนเธอน่ะ ก็แค่ของเล่นที่ไม่ต้องเสียเงิน”ซ่งหว่านชิวหัวเราะออกมาเบาๆอย่างเยาะเย้ย จากนั้นก็หมุนตัวออกจากห้องผู้ป่วยร่างกายของหลินจืออี้ที่ฝืนทนจนถ

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status