Home / รักโบราณ / เกิดใหม่ทั้งที ดันเป็นเมียโคตรผีดุ / #เป็นเมียผี บทที่ ๑ วิญญาณเฮี้ยนของขุนแสนคำ (๓) Uncut

Share

#เป็นเมียผี บทที่ ๑ วิญญาณเฮี้ยนของขุนแสนคำ (๓) Uncut

last update Last Updated: 2024-12-27 02:01:01

“ได้จ้ะ! จะให้ฉันทำอะไร ฉันยอมหมด” เพราะผีเฮี้ยนตรงหน้านั้นมีแรงอาฆาตสั่งสมมานาน ทำให้นางสาวบีรู้ตัวว่าตนเองไม่สามารถต่อกรกับมันได้แน่ๆ เครื่องมงเครื่องมือหมอผีแบบชาติก่อนก็ไม่มี ไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้ เผลอๆ อาจจะเอาชนะมันไม่ได้ด้วย เลยยอมทำตามที่ผีขุนแสนคำว่ามาแทน เผื่อจะถูกมองว่ามีประโยชน์ และเขาคงจะปล่อยให้ตนเองเป็นอิสระ

แต่คำขอที่ร้ายกาจนั้นกลับถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากหยักลึกที่แตกระแหงมีคราบเลือด ขุนแสนคำกระตุกยิ้มเหี้ยมยกศีรษะที่ห้อยต่องแต่งกลับมาประกอบดังเดิม

‘กลับมาเป็นเมียผีเฮี้ยนอย่างกู ถวายตัวเป็นชู้กูเสียเป็นไง’

นางสาวบีอ้าปากค้าง ไอ้ผีนี่มันบ้าไปแล้วแหงๆ สงสัยจะแค้นนางบัวงามมากจนสติสตังไปหมดแล้ว อะไรก็ได้ขอแค่ได้ลบกลิ่นไอชายชั่วออกจากตัวเมียเป็นพอ

ถึงจะมีแรงอาฆาตแค้นเมียตัวเองอย่างแรงกล้า แต่ในขณะเดียวกันก็คลั่งรักไม่ต่าง มาคิดดูดีๆ ก็น่าสงสารนะ คงทำใจไม่ได้ที่เมียตัวเองมีชู้ เลยยอมได้แม้กระทั่งได้ครอบครองเพียงแค่กายหยาบก็ตาม

แต่... นางสาวบีไม่เคยมีผัว! จะยอมเสียเอกราชด่านแรกให้ผี ก็ออกจะน่าอนาถเกินไปหน่อย

“ไม่ค่ะ หนูยังซิง อย่างน้อยถ้าจะเสียซิง ขอเลือกผู้ชายด้วยตัวเองจะดีกว่า!” ปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด นางสาวบีคิดว่าคนตรงหน้าไม่สนแล้วว่าจิตในร่างจะเป็นใคร ขอแค่ได้ย่ำยีกายหยาบเป็นพอ ลงความเห็นได้ว่าไอ้ผีนี่จิตไม่ปกติแน่แล้ว

ก็คนอยู่ในสนามรบ มันจะปกติได้แค่ไหนกันล่ะ ก็ติดความซาดิสต์มาจากในสงครามนั่นแหละ

‘มึงมิมีโอกาสปฏิเสธกู ชีวิต จิตวิญญาณมึงเป็นของกูมาตั้งแต่ที่เลือกเข้ามาสิงสู่ร่างกายเมียกูแล้ว อีบี’ ผีร้ายตรงหน้าสู่รู้ชื่อของหล่อน พร้อมกับเอื้อมมือชี้หน้าหญิงสาวกลางอากาศ คอระหงถูกคว้าหมับโดยมือที่มองไม่เห็น กำรัดรอบคอจนเส้นเลือดขึ้น นางสาวบีถูกยกห้อยต่องแต่งบนอากาศ ความรู้สึกเหมือนกำลังโดนผูกคอ หายใจไม่ออกจนตาเกือบเหลือกถลน

“ฉะ... ฉันยอมแล้ว! อั่ก... ฉันยอมแล้ว!” เอะอะก็ใช้กำลังข่มขู่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ไร้ทางสู้ ไอ้ผีบ้า ไอ้ผีชั่ว! คอยดูนะถ้ากลับไปโลกเก่าได้จะขอให้แม่เผากงเต๊กอุปกรณ์หมอผีมาสู้กับมันให้ตายไปข้าง!

ผีขุนแสนคำยอมปล่อยมือผีที่ยืมมือมาจนร่างที่ลอยกลางอากาศหล่นตุบลงทับกับเศษซากของศพเหล่าทหาร มันคือภาพลวงตาที่สร้างโดยพลังวิญญาณเฮี้ยนของขุนแสนคำ ยิ่งตายทั้งที่สั่งสมอาคมก็ยิ่งมีพลังและบริวารมาก ผีที่เคยจับมาเป็นบริวารสมัยยังมีชีวิต ยังคงจงรักภักดีทำงานกับเขาต่อไปแม้แต่นายของมันจะตายไปแล้วก็ตาม

ร่างระหงนั้นอยู่ในชุดรัดอกที่เปรอะเลือด นุ่งซิ่นงามที่เมื่อขยับตัว ซิ่นก็เลิกขึ้นเห็นเรียวขาขาวเนียน ผีชายฉกรรจ์ฉีกยิ้ม พลางดึงมีดที่ปักอยู่ตรงอกออกมาจนเลือดกระเซ็นเปรอะแผงอกหนาที่ลงยันต์อักขระอาคม ใช้ปลายคมดาบอาบเลือดตนเองเชยคางสาวเจ้าที่ไอค่อกแค่กด้วยแรงบีบคอทำให้ขาดอากาศหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง

‘จงยินดีปรีดาเสียเถิด ผีเร่ร่อนที่มิรู้แม้แต่เพศแลรอวันสูบลงนรกอย่างมึง จักมีผัวเป็นผีต่างระดับที่มีกำลังวังชามากอย่างกู ดูอย่างไรมึงก็ได้ประโยชน์เห็นๆ จริงไหม’

สีหน้าของนางสาวบีที่ส่งผ่านร่างกายนางบัวงามซีดขาว เธอเข้าใจว่าเมื่อคนเราตายกลายเป็นผี ถ้าเป็นคนธรรมดาที่มีห่วงจะกลายเป็นแค่วิญญาณเร่ร่อนรอคนทำบุญส่งไปเกิด ไม่ก็นับวันรอลงนรกไปโดนลงฑัณฑ์ต่อไป ภาพที่ผีเฮี้ยนตรงหน้าที่มีพลังวังชามากมองเธอ ไม่ได้มองเธอเป็นมนุษย์ผู้หญิงที่มีสิทธิ์ร้องเรียกความยุติธรรมให้ตัวเอง ไม่สนใจว่าก่อนจะกลายเป็นวิญญาณเธอคือหญิงสาวบริสุทธิ์ที่ไม่ควรโดนข่มเหงอย่างทารุณมาก่อน ในเมื่อภูตผีวิญญาณในโลกหลังความตายมันไม่มีเพศ เขามองเห็นเธอเป็นแค่ดวงวิญญาณอ่อนแอที่ไม่มีแม้แต่แรงอาฆาตที่จะปกป้องตัวเองตนหนึ่งเท่านั้น

โหดร้าย... โหดร้ายมาก!

ยอนจิน ตั้งแต่นี้ฝันของฉันคือเธอ

จะกลายเป็นผีที่เอาชนะไอ้ขุนแสนคำนี่ให้ได้เลยคอยดูสิ!

“กะ... ก็ได้ ถ้าพี่ต้องการอย่างนั้น” แววตาที่สบกลับมานั้นมีแววชิงชังปนอยู่พร้อมกับอารมณ์อยากเอาชนะ ผีขุนแสนคำนึกชอบใจในความใจสู้ของวิญญาณเร่ร่อนตนนี้ เลยใช้ดาบยกร่างนางขึ้นยืน

‘งั้นไปสู่รังกระดูกของกูเสีย จักทำให้มึงมิมีหน้าไปคบหาชู้สู่ชายที่ไหนอีกเลย’

และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของอดีตนางสาวบีลูกสาวหมอผีอันดับหนึ่ง ที่กลับกลายเป็นผีเร่ร่อนที่บังเอิญย้อนภพมาเกิดใหม่ในกายหยาบของหญิงชั่วกลางชนวนยุคกรุงศรีอโยธยา ที่ต้องกลายมาเป็นทาสสวาทแบบผีๆ ให้อดีตผัวของกายหยาบคนนั้นไปโดยไม่มีทางเลือก

โคตรของโคตรซวย!

ขุนแสนคำพาหญิงสาวไปที่รังกระดูกดังว่า บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน ฝุ่นและไอควันรายล้อม ไม่ได้มีอารมณ์น่าเสพสมแบบที่พ่อผีฉกรรจ์ตรงหน้าพยายามจะหว่านล้อม (หรือบังคับ) ตรงไหน นางสาวบีที่อยู่ในร่างนางบัวงามเหลียวมองไปรอบๆ พบแต่กองกระดูกมากมายถูกดัดแปลงเป็นฟูกนอน ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าหรือสถานที่รกร้าง

คงไม่ใช่ครั้งแรกจะให้โล้สำเภากันกลางป่าช้าใช่ไหม?

เธอรู้สึกหวั่นๆ ถ้าครั้งแรกเป็นที่นี่คงได้อารมณ์ตลกร้ายไม่หยอก ประสบการณ์สุดแหวกแนวตั้งแต่เกิดมาครบยี่สิบห้าปีของสาวซิงนางหนึ่ง

พลั่ก

“กรี๊ด!!”

ไม่ต้องใช้มือตัวเองให้เปลืองแรงเปล่า ผีขุนแสนคำเหวี่ยงกายหยาบของนางบัวงามไปบนฟูกนอนด้วยมือที่มองไม่เห็น แสดงอภินิหารหายตัวมาโผล่ตรงหน้าพร้อมกับขึ้นคร่อมทับกายสาว กลิ่นคาวเลือดจากบาดแผลสมจริงยิ่งกว่าซีจีจากค่ายหนังมาเวล

นี่เขาคิดว่าตัวเองอยู่ในหนังแอ็คชั่นหรือไง?

“พร้อมตกเป็นของผีหรือไม่ น้องบัวงาม” ผีชายหนุ่มตรงหน้าเพรียกหาชื่อของเมียที่ทั้งรักทั้งชังออกมา สลับสรรพนามแทนสถานะตนเองที่ตายไปแล้วพร้อมกับหักคอกรอบแกรบหัวเราะชั่ว ถึงจิตจะไม่ใช่แต่อย่างไรกายหยาบที่คร่อมทับก็ยังเป็นหน้าค่าตาของเมียเขา ทั้งคิดถึงคะนึงหา แต่ก็คลั่งแค้นเสียเหลือเกิน

อยากจะฉีกทึ้งร่างนั้นจนขาดกระจุยกระจาย แต่ในเดียวกันก็ถวิลหาอยากถนอมกายสวยงามนี้เอาไว้

นางบัวงามถือเป็นลูกหลวงที่ขึ้นชื่อเรื่องความงาม กว่าจะเกี้ยวพาราสีมาเป็นเมียนั้น เลือดตาแทบกระเด็น จะทำลายร่ายกายที่ราวกับนางสวรรค์เร็วๆนี้ ก็คงน่าเสียดาย

“ดะ... เดี๋ยวก่อน” ฝ่ามือเล็กยกประชิดคางแกร่งเมื่อผีหนุ่มโน้มหน้ามาใกล้ กลิ่นน้ำเลือดน้ำหนองยิ่งสาดซัดซ้ำทำเอาอยากอาเจียนและไม่มีอารมณ์สวีทหวานอะไรทั้งนั้น นางสาวบีแสดงสีหน้าพะอืดพะอมออกมาอย่างปิดไม่มิด “พี่พอดับกลิ่นแผลพี่ได้ไหม เหม็นจนเน่าเลยอ่ะพี่”

“กูตายอย่างโหดเหี้ยมเลยมาเช่นนี้ หรือจักให้กูแปลงตนให้รูปงามดังเก่าเล่า”

“ถ้าพี่จะให้ฉันเสียพรหมจรรย์ ข้อแม้คือบรรยากาศก็สำคัญจ้า” อะไรคือมั่นหน้าว่าตัวเองตอนมีชีวิตรูปหล่อ? ตลกชิบ นางสาวบีหยุดเบ้หน้าไม่ได้เลย กลิ่นเลือดคาวคลุ้งยิ่งกว่า บาดแผลนั้นลึกฉกรรจ์มากจนเห็นกล้ามเนื้อสีเข้มด้านในเต้นตุบๆ อีแบบนี้ใครจะไปอีโรติกด้วยลง “อึก...! ฉันเอียนกลิ่นเลือดพี่จนจะอ้วกแล้ว”

“น่ารำคาญเสียจริง” ผีหนุ่มสะบัดหน้าออกจากร่างกายอ้อนแอ้นที่ปิดจมูกรังเกียจทำท่าจะอาเจียนออกมาให้ได้ชวนให้หมดอารมณ์ พลางสบถเสียงต่ำอย่างหงุดหงิด เขาบริกรรมคาถา พึมพำขมุกขมัวให้รอยแผลฉกรรจ์หายไป แปลงกายลวงตาเป็นผีหนุ่มรูปงามดังที่ปากเคยว่า พอไม่มีแผลโหดๆ ก็คือชายกำยำหน้าตาดีผู้หนึ่งนี่เอง

แบบนี้ค่อยเป็นผู้เป็นคนขึ้นหน่อย

หล่อจริงว่ะ ผัวหล่อล่ำขนาดนี้นางบัวงามนอกใจได้ลงได้ยังไงกันนะ เป็นอีบีนะจะรวบเช้าเหมาเย็น เอาให้ไม่มีเวลาได้ออกไปสู้รบปรบมือที่ไหนเลย

“โอเคจ้ะ ลุคนี้ดี” ว่าพลางล้มตัวทอดกายลงนอนที่เดิม ไม่รู้สึกอยากอาเจียนอีกต่อไปแล้วเพราะพอพ่อผีเฮี้ยนแปลงกายมาหล่อกลิ่นเลือดกลิ่นน้ำหนองก็หายไป อย่างไรอายุอานามก็ปาไปยี่สิบห้าแต่ยังไม่มีผัว ถึงเสียตัวให้ผีแต่ถ้าผีมันหล่อ ใครจะปฏิเสธได้ลง

ยังไงมันก็ผีเหมือนๆ กัน เธอเองก็ตายไปแล้ว ไม่เป็นไรหรอกมั้ง

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
สุทวน ทับทิมทอง
เอ๊า!แล้วแบบไหน
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • เกิดใหม่ทั้งที ดันเป็นเมียโคตรผีดุ   #เป็นเมียผี ๑๖ เงาของความตาย และชายผู้เยียวยา (๔)

    “เช่นนั้นข้าก็วางใจ” เขาตอบเพียงเเค่นั้น พลางคลี่ยิ้มบางซ่อนความไม่พึงใจภายใต้รอยยิ้มนั้นไว้ “ข้าได้จัดเรือนรับรองไว้ให้แล้ว ขุนอิน เจ้าพำนักอยู่ที่นี่สักเดือนหนึ่งเถิด จักพอมีเพลาอยู่กับข้าได้หรือไม่่?” ขุนอินยิ้มน้อยๆ เมื่อร่างชายวัยกลางคนชักชวน ดวงตาภายใต้เเว่นกรอบหนาเปี่ยมด้วยไมตรีจิตที่จริงใจ “ครานี้สนามรบหาได้คึกคักไม่ ข้าไม่มีภาระอันใดดอก ข้าจักอยู่เป็นเพื่อนเอ็งเอง จักมิปล่อยให้เอ็งเผชิญความลำบากนี้โดยลำพังเป็นอันขาด” นางสาวบีเผลอประทับใจกับความสัมพันธ์ของชายทั้งสองจนสายตาวาววับเป็นประกาย อย่างน้อยเเม้ไม่มีใครจริงใจกับขุนเเสนคำเลยเเม้เเต่เมียตนเอง เเต่เขาก็ยังมีมิตรเเท้ที่หาได้ยากยิ่งในช่วงเวลานี้อยู่ หญิงสาวฉีกยิ้มบาง ดูเต็มไปด้วยอารมณที่ดีนักหนา โดยที่ไม่เข้าใจตนเองเลยจริงๆ ว่าทำไมถึงต้องดีใจไปกับเรื่องดีๆ ของเขา ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าภาพเหล่านั้นกำลังอยุ่ในสายตาของหมอหนุ่มในทุกอิริยาบถของเธอ “งั้นข้าขอตัวก่อน เสร็จธุระเเล้ว” ขุนอินโพล่งขึ้นมาด้วยรอยยิ้มบาง ซุกซ่อนความรู้สุกบางอย่างไว้ใต้พรมเเห่งความคิด ขุนเเสนคำในร่างพระยาสิงขรจึงฝากฝังให้ข้าไทประจำเรือนรับรองพาชายหนุ่มไ

  • เกิดใหม่ทั้งที ดันเป็นเมียโคตรผีดุ   #เป็นเมียผี ๑๖ เงาของความตาย และชายผู้เยียวยา (๓)

    “เขา... จะไม่ตายใช่หรือเปล่าจ๊ะ?” เธอถามเสียงแผ่ว ขุนอินยังคงสับสนไม่รู้ว่าหล่อนรู้เรื่องชายผู้นี้ที่บาดเจ็บอยู่ในเรือนได้อย่างไร เขายังคงสับสนหลายๆ อย่างเพราะรู้จักขุนเเสนคำมานาน รวมถึงรู้จักบัวงามในฐานะเมียของเพื่อน เเต่ในตอนนี้หล่อนจับพลัดจับผลูมาเป็นเมียของผู้ที่เราทั้งสองเคารพรัก เเละดูเหมือนท่านจะไว้วางใจในตัวนางให้รู้เรื่องราวทุกอย่างเสียงด้วย ขุนอินเหลือบมองหล่อนเพียงแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบก้มหน้ากลับลง “ถ้านี่มิใช่กระสุนอาคมเจาะเนื้อหนัง ก็ตอบได้ทันทีว่าไม่... หากแต่ตอนนี้กระผมตอบไม่ได้” พระยาสิงขรเม้มปากแน่น “กระสุนนี้เป็นกระสุนที่ข้าได้มาเพื่อกำจัดผู้มีอวิชาฟันเเทงมิเข้า” ขุนอินไม่ตอบอะไรเมื่อเขาอธิบาย ชายหนุ่มเพียงหยิบเอาใบยาฝานบางแช่น้ำสมุนไพรที่มีกลิ่นฉุนจากดีปลี ขมิ้นอ้อย และรากขันทองพยาบาท ค่อยๆ วางแนบบริเวณแผล แล้วปิดทับด้วยผ้าขาวสะอาด เขาหยิบแหนบเล็กจากปลอก มีปลายงอนคมเหมือนงาช้าง แล้วล้วงลึกลงไปในแผลที่เป็นรูโดนกระสุนฝังในร่างกายของมัน ร่างของไอ้เหล็กกระตุกเบาๆ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด รวมถึงนางสาวบีที่เเสดงสีหน้าเหยเกเพราะเป็นการรักษาสดๆ ต่อหน้าโดยที่ไร

  • เกิดใหม่ทั้งที ดันเป็นเมียโคตรผีดุ   #เป็นเมียผี ๑๖ เงาของความตาย และชายผู้เยียวยา (๒)

    ทั้งที่พ่อทำให้แม่ต้องตรอมใจถึงเพียงนั้น ยังจะกล้ามองเขาเป็นลูกที่น่าภูมิใจอีกหรือ? ตลกสิ้นดี เผยธาตุแท้ออกมาเถิด ให้เขาได้เห็น ให้ผู้คนทั้งพระนครได้เห็นว่าพ่อก็เป็นเพียงชายผู้มีจิตใจคับแคบ เห็นแก่ตัว มัวเมาในราคะและหลงเชื่อหญิงโง่เง่ามากกว่าคนในครอบครัว ดังที่เคยทำจนชื่อเสียงเสื่อมเสียไปทั้งเมือง พ่อไม่เคยนึกถึงเลยหรือ ว่าตระกูลเราต้องอับอายมากถึงเพียงไหน? เขาเกลียดนัก เกลียดความใจดีเเละเสแสร้งนั่น เกลียดแววตาภาคภูมิใจเวลาที่พ่อมองมาที่เขา ทั้งที่ไม่ต้องการ ใช่... เขาอยากเห็นสีหน้าแบบนี้แหละ หน้าตาเต็มไปด้วยความชิงชัง ริษยา รวมถึงพิษร้ายอย่างความหึงหวง สมแล้วกับหน้ากากของพระยาสิงขรผู้ยิ่งใหญ่ที่เบื้องหลังฟอนเฟะยิ่งกว่ากระไรดี ขอบคุณท่านจริงๆ เจ้าคุณพ่อ... ขอบคุณที่ในที่สุดก็เผยไส้ในให้ลูกได้เห็นเสียที ข้าจะได้ก้าวข้ามท่านโดยไร้ความลังเลอีกต่อไป หนึ่งวันผ่านไป ตกช่วงเย็นใกล้ฟ้ามืด ก็มีเสียงม้าดังเร่งฝีเท้าเข้ามาท่ามกลางความเงียบของเรือนใหญ่ของท่านพระยา บัวงามเปิดม่านเเพรอย่างตื่นเต้น เพราะทันทีที่ขุนเเสนคำส่งข้อความไปถึง ‘ขุนอินเวชะสรรพ์’ หรือหมอหลวงที่เป็นสหายเก่าของขุนเเสนคำ

  • เกิดใหม่ทั้งที ดันเป็นเมียโคตรผีดุ   #เป็นเมียผี ๑๖ เงาของความตาย และชายผู้เยียวยา (๑)

    มิ่งขวัญหลบตัวอยู่ภายในห้องตั้งเเต่ช่วงเวลาที่เกิดเรื่อง ไม่ยอมออกมาร่วมวงทานข้าวกลางวันกับผู้ใดในเรือน ก็แน่ล่ะ มันเล่นทำเรื่องงามหน้าเอาไว้ถึงขนาดนั้นนี่ นางบัวงามนั่งลงที่สำรับด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ข้อมือของหล่อนยังปรากฏรอยแดงให้เห็นชัดถนัดตา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนั้นไอ้เด็กเวรนั่นออกแรงฉุดยื้อเเรงเเค่ไหน และเมื่อถึงเวลาที่คิดว่ายอดหล้าน่าจะสำเร็จโทษความผิด กลับทำท่าทีหนีปัญหา ไม่คิดรับผิดรับชอบอะไรในสิ่งที่ทำเลยสักนิด ก็ขี้ขลาดตาขาวสมกับเป็นมันดี แม้สุดท้ายจะหลงเหลือมันเพียงคนเดียวในโลก บีก็ไม่ได้คิดที่จะแลแม้ปลายหางตา ผู้ชายที่ไหนพอโดนอ่อยเลยเพิ่งมาคลั่ง เเถมยังใช้วิธีคลั่งเเบบบังคับใจอีกฝ่าย นี่มันพฤติกรรมของเด็กน้อยชัดๆ คิดเเล้วยังหงุดหงิดหัวเสียไม่หาย ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่เข้าหาบัวงามในร่างนี้ด้วยเจตนาร้าย จะเป็นชายที่นางเคยคว้ามาโดยไร้ความคิด หรือแม้แต่ที่คิดมาอย่างถี่ถ้วนแล้วก็ตาม สุดท้ายล้วนไม่เข้าท่าสักคน รวมถึงขุนแสนคำด้วย หลังจากที่เขาทรมานนายเหล็กอยู่แทบทั้งคืน ดูท่าชายผู้นั้นจะปากหนักไม่ยอมเอ่ยความใดถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังเลยสักนิด แววตาพร่าเลือนประหนึ่งคนที่พร้อมจะส

  • เกิดใหม่ทั้งที ดันเป็นเมียโคตรผีดุ   #เป็นเมียผี ๑๕ สั่นไหวในเงาแค้น (๕) จบตอน

    นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย นางสาวบียกมือเรียวสวยขึ้นกุมขมับ เมื่อเช้าวันต่อมามิ่งขวัญโผล่หัวมาพร้อมกับท่าทางราวกับคนไม่ได้หลับนอนมาทั้งคืน บุรุษหนุ่มหุ่นลีนโผล่หัวเข้ามาหน้าเรือนพระยาทั้งที่ยังสวมเสื้อตัวบางหลวมโพรก ผมเผ้ายุ่งเหยิง แววตาหวานเจือคลั่งจนไม่อาจปิดบังเอาไว้ได้ มิ่งขวัญกำลังยืนหอบหายใจอยู่ตรงหน้าหล่อน หน้าเเดงก่ำ เหงื่อผุดพราย หมอนี่เกิดเฮี้ยนอะไรขึ้นอีกล่ะ? “ฉันคิดถึงหล่อนทั้งคืน... จนแทบจะบ้าคลั่งอยู่เเล้ว” ประโยคเเรกที่หลุดรอดออกมาจากเด็กวัยรุ่นทำเอานางบัวงามยกมือขึ้นทาบอก เเค่คืนเดียวที่ยั่วยวนไปเเบบไม่ได้ตั้งใจผสมอารมณ์เคืองขุ่น กลับได้ผลลัพธ์ที่บ้าบอยิ่งกว่า ร่างเล็กถอนหายใจเฮือกใหญ่ กึ่งจะเชื่อว่าตนหลุดมาอยู่ในละครจักรๆ วงศ์ๆ สลับร่างฉับพลันกับหญิงในอดีตซึ่งดูเหมือนจะมีผู้ชายวนเวียนรอบกายไม่หยุดไม่หย่อน เเตกต่างจากก่อนจะตายที่เธอไม่มีใครมาขายขนมจีบให้เลยเเม้เเต่คนเดียว มันก็ดี เเต่ชักเริ่มรำคาญใจ “เจ้ามิ่งมาเรือนนี้แต่เช้าด้วยเหตุใดจ๊ะ” นางเอ่ยราวต้องการปัดรูปประโยคคลั่งไคล้ของเขาออกไปให้พ้นทาง เริ่มเว้นระยะห่างด้วยการถอยหนีอย่างกระอั่กกระอ่วน หากเเต่เด็กหนุ่ม

  • เกิดใหม่ทั้งที ดันเป็นเมียโคตรผีดุ   #เป็นเมียผี ๑๕ สั่นไหวในเงาแค้น (๔)

    “พี่ เดี๋ยวฉันจัดการเองดีกว่า” บีเห็นว่าท่าไม่ดีจึงรีบโพล่งขึ้นมา ร่างเล็กยังเจ็บขาอยู่เเต่ก็ฝืนใจลุกขึ้น เซไปเล็กน้อยท่ามกลางสายตาที่สั่นไหวเพียงชั่วครู่จากเสี้ยวหน้าดุดัน รอยฝีเท้าเปล่าที่ย่ำลงพื้นไม้ของหล่อนนั้นซวนเซจากอาการบาดเจ็บ หากแต่หนักแน่นพอจะทำให้ความเงียบของเรือนที่มืดเเละสงบอย่างน่ากลัวแตกกระจาย เธอก้าวเข้ามาช้าๆ ดวงตาสบกับดวงตาเดือดดาลของชายพม่าผู้เคยมั่นใจในฝีมือของตนว่าเป็นนักรบอันเกรียงไกร เเต่ผู้หญิงตรงหน้ากลับทำให้มันเปลี่ยนความคิด นังนี่เป็นใครกันเเน่ ไอ้เหล็กที่นั่งอยู่ต่ำกว่ามองผู้หญิงตัวเล็กเหนือร่างด้วยความฉงนปนเคืองเเค้นยิ่งนัก ขุนแสนคำยังคงไม่พูดอะไร เพียงแต่เหลือบตามองเธอ ก่อนจะหันกลับไปยังไอ้เหล็กอีกครั้ง “มิต้อง” เขาห้ามปรามความอวดเก่งของเมียตนเอง ฝ่ามือหนาดันไหล่เธอออกน้อยๆ “พี่จัดการเอง” พะ... พี่? นางสาวบีเผลอขนลุกให้สรรพนามนั้นเล็กน้อย ก่อนที่ต่อมาจะเข้าใจได้ว่าเขากำลังเล่นละครปาหี่ต่อหน้าไอ้เหล็กอยู่ “มึงมิกลัวความตายงั้นรึ” เขากล่าวเสียงเรียบ แต่น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยโทสะที่กรุ่นร้อนราวขี้เถ้าใต้กองไฟที่พร้อมลุกโชนขึ้นอีกครั้ง “เช่นนั้น กูจักไม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status