Share

บทที่ 19

Author: กากบาทเย่
มิหนำซ้ำ คนในครอบครัวของนางก็ตายกันหมด

เจียงเซิ่นจือราวกับได้เห็นภูตผี ทั้งที่เป็นเรื่องลับสุดยอด ไฉนจึงมีคนชิงลงมือก่อนตระกูลเจียงได้

“ซ่า—”

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด

แม่เฒ่าซุนสะดุ้งตื่นขึ้นมาท่ามกลางความหนาวเหน็บเสียดกระดูก

นางตัวสั่นด้วยความหนาวเย็น เมื่อเห็นรองเท้าหลายคู่ตรงหน้า ก็ตกใจจนรีบร้อนคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อร้องขอชีวิต

“นายท่านไว้ชีวิตด้วย นายท่านไว้ชีวิตด้วยเถิด เรื่องที่ควรสารภาพ ข้าก็สารภาพไปหมดแล้ว ไม่มีปิดบังแม้แต่น้อย ขอร้องนายท่าน...”

เจียงเซิ่นจือมองดูท่าทางน่าสมเพชของนาง ก่อนจะเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงราบเรียบจากทางด้านหลัง

“สารภาพมาอีกรอบ”

ขี้ขลาดเพียงนี้ ยังกล้ามีส่วนร่วมในแผนการสลับตัวลูกของตระกูลเซวียอีกหรือ?

ร่างของแม่เฒ่าซุนแข็งทื่อไปชั่วขณะ ครู่ต่อมา นางจึงค่อย ๆ หันกลับมาทั้งที่ยังคุกเข่าอยู่ เมื่อเห็นบุรุษหนุ่มรูปงามที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ นางก็ถึงกับงุนงงไปชั่วขณะ

เปลี่ยนคนอีกแล้วหรือ?

อีกทั้ง ดูท่าว่าสถานที่ก็เปลี่ยนไปด้วย

“เป็นใบ้ไปแล้วหรือ?”

เจียงเซิ่นจือเอ่ยถามพลางยิ้มบาง นิ้วมือที่วางอยู่บนพนักเท้าแขนเคาะเป็นจังหวะเบา ๆ สองสามครั้ง

เพียงชั่ว
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • เกิดใหม่หนีรักทรยศ มาตกหลุมรักแม่ทัพพิการ   บทที่ 30

    ราตรีเยียบเย็นดุจสายน้ำเซวียหว่านอี้นั่งอยู่ในศาลา ตรงหน้ามีเตาอุ่นขนาดเล็กจุดอยู่กาน้ำดินเผาสีแดงบนเตา มีกลิ่นหอมหวานโชยเอื่อยออกมานางยกจอกสุราข้างกายขึ้นมา เอนกายพิงพนักอย่างเกียจคร้าน ทอดมองเหล่าปลาจิ่นหลี่ที่กำลังแหวกว่ายอย่างสบายอารมณ์อยู่ใต้แสงโคมบัวยามค่ำคืน“คุณหนู บ่าวได้ยินมาว่าพิธีปักปิ่นที่ในจวนจะจัดให้คุณหนู ครานี้จะยิ่งใหญ่กว่าของท่านผู้นั้นเสียอีกนะเจ้าคะ”เฝ่ยชุ่ยถือเครื่องเคียงสองอย่างเดินเข้ามา วางลงบนโต๊ะหินอย่างแผ่วเบา“บางทีอาจเป็นเพราะต้องการเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของคุณหนูแล้วกระมังเจ้าคะ”เซวียหว่านอี้มิได้เอ่ยตอบ นางจิบสุราเพียงเล็กน้อย พวงแก้มก็พลันระเรื่อสีชมพูจาง ๆเฝ่ยชุ่ยเองก็ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบจากคุณหนู จึงพูดต่อไปตามลำพัง“ไม่รู้ว่าท่านผู้นั้นจะคิดอย่างไรบ้างนะเจ้าคะ”เมื่อตอนบ่าย เรือนทิงหลานส่งของมาให้มากมาย ทำให้เรือนว่างซูที่แต่เดิมโล่งกว้าง กลับโอ่อ่าหรูหราขึ้นมาในทันทีแม้ว่าหากเทียบกับจวนอ๋องจวนโหวเหล่านั้น อาจจะไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึงก็ตามสายลมวูบหนึ่งพัดผ่าน เหล่าแมกไม้ใบหญ้าพลันส่งเสียงเสียดสีกัน“พิธีปักปิ่นของท่านผู้นั้นจะจั

  • เกิดใหม่หนีรักทรยศ มาตกหลุมรักแม่ทัพพิการ   บทที่ 29

    นางยิ้มบางเบา “หากท่านไม่เต็มใจ พวกเราสลับตัวเจ้าสาวกันก็ได้”นางกำลังเดิมพัน เดิมพันว่าชาตินี้เซวียหมิงเฟยไม่กล้าแต่งให้เย่จั๋วอีกเป็นอันขาดหากเดิมพันชนะ นางก็สามารถยืมอำนาจของจวนเจิ้นกั๋วกงมาจัดการฉู่ยวนให้ตายตกไปเดิมพันแพ้ ก็แค่แต่งออกไป ในคืนวันเข้าหอ ก็ไปสู่ปรโลกพร้อมกับเขาไม่ฉู่ยวนตาย ก็พวกเขาตายด้วยกันเซวียหมิงเฟยตัวสั่นสะท้านอย่างมิอาจควบคุมนางส่ายหน้า ไม่แยแสต่อสีหน้าตื่นเต้นยินดีของอนุชิว พลางกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “อย่าพูดจาเหลวไหล เจ้ากับเจิ้นกั๋วกงมีพระราชทานสมรสตามราชโองการของฝ่าบาท หากเรื่องสลับตัวเจ้าสาวถูกเปิดโปง ตระกูลเซวียของพวกเราเกรงว่าจะต้องเผชิญกับภัยพิบัติล้างตระกูล”ชาติก่อนนางถูกเย่จั๋วทรมานจนตายด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมที่สุด ชาตินี้จะยังกล้าแต่งไปหาเขาได้อย่างไรอย่าว่าแต่แต่งเลย แค่ได้ยินชื่อของเย่จั๋ว นางก็รู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วทั้งร่างแล้วแสงสว่างในแววตาของอนุชิวดับวูบลงอย่างสิ้นเชิง“ข้าเกิดก่อนเจ้าเล็กน้อย ต่อไปอย่าเรียกข้าว่าน้องหญิงอีกเลย”นางไม่รู้ว่าเซวียหมิงเฟยมีสีหน้าเช่นไร จึงกล่าวต่อ “หากเจ้าเรียกไม่ถนัดปาก เช่นนั้นต่อไปพวกเราก็เรียกชื

  • เกิดใหม่หนีรักทรยศ มาตกหลุมรักแม่ทัพพิการ   บทที่ 28

    เซวียหว่านอี้ทอดมองอย่างเย็นชาชาติก่อน การถูกทรมานให้เป็นมนุษย์หมูตลอดหลายปี ทำให้นางสูญเสียการรับรู้ทางอารมณ์ไปเกือบหมดสิ้นนางถึงกับสัมผัสได้ว่า ฮูหยินเจียงมิได้เห็นนางสำคัญถึงเพียงนั้นที่มากกว่านั้นคือความอัปยศอดสูจากการถูกอนุชิวสับเปลี่ยนตัวบุตรไปหากบัดนี้ให้ฮูหยินเจียงเลือก ระหว่างนางกับเซวียหมิงเฟยมิต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาทุกคนย่อมเลือกเซวียหมิงเฟยฮูหยินเจียงอยากให้อนุชิวตาย ทว่านั่นมิได้หมายความว่าจะทอดทิ้งบุตรสาวคนนี้ความผูกพันฉันแม่ลูกตลอดสิบห้าปี ไหนเลยจะตัดขาดกันได้โดยง่ายเซวียมู่เจาในยามนี้ไม่คิดจะเอ่ยปากทว่าก็อดมิได้ที่จะสงสารยามเห็นเซวียหมิงเฟยร่ำไห้จนควบคุมตนเองไม่อยู่ท่านพ่อไม่สะดวกเอ่ยปากนัก เพราะจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของท่านพ่อและท่านแม่ทว่าคนผู้นี้…“น้องหญิงรอง เจ้าไม่มีสิ่งใดอยากพูดบ้างหรือ?” เขาเอ่ยปากขึ้นจนได้ทุกสายตาจับจ้องไปยังเซวียหว่านอี้เป็นจุดเดียวอนุชิวมิได้เอ่ยปาก ทว่าแววตาที่มองมากลับเปี่ยมไปด้วยความเวทนาและอ้อนวอนส่วนเซวียหมิงเฟย กลับลุกขึ้นวิ่งไปทรุดกายคุกเข่าลงเบื้องหน้าเซวียหว่านอี้อีกคราเมื่อสัมผัสได้ว่ามือที่กำลังอด

  • เกิดใหม่หนีรักทรยศ มาตกหลุมรักแม่ทัพพิการ   บทที่ 27

    นางมองคนทั้งสองที่ยืนอยู่หน้าโถงด้วยความโกรธ ก่อนจะเหยียดยิ้ม “ช่างเป็นภาพพี่น้องที่รักใคร่กลมเกลียวกันดียิ่งนัก”เซวียมู่เจา: “...”เมื่อเห็นแววตาเย็นชาเมินเฉยของฮูหยินเจียง ในใจของเซวียมู่เจาก็วูบไหวด้วยความตื่นตระหนกเขาไม่รู้ว่าตนไปทำสิ่งใดให้ท่านแม่ไม่พอใจ ถึงขั้นทำให้นางต้องมองเขาด้วยสายตาเช่นนี้ฮูหยินเจียงกล่าวเสียงเย็นเยียบ “หลายปีมานี้ หว่านอี้ต้องอยู่อย่างไรในจวนแห่งนี้ พวกเจ้าย่อมรู้แก่ใจดี”“พวกเราไม่รู้เรื่องที่สลับตัวลูกก็จริง แต่อนุชิว...”นางชี้ไปยังสตรีที่คุกเข่าอยู่หน้าโถง “นางที่เป็นตัวการเรื่องนี้ จะไม่รู้ได้อย่างไร?”“สับเปลี่ยนลูกสาวของข้าแล้ว ยังเหยียบย่ำข่มเหงนางไม่หยุดหย่อน”นางลุกขึ้น เดินไปหยุดอยู่หน้าอนุชิว ก่อนจะก้มลงเชยคางของอีกฝ่ายขึ้นมาทอดมองอีกฝ่ายจากมุมสูง แล้วกล่าวว่า “เจ้าคงลำพองใจมากกระมัง ที่ลอบใช้ลูกสาวของข้ามาดูความน่าสมเพชของข้า ทำให้เจ้ารู้สึกว่าปั่นหัวข้าไว้ในกำมือได้”“เป็นเพียงอนุภรรยา แต่กลับอาศัยลูกสาวแท้ ๆ ของข้า มาหลอกปั่นหัวข้าที่เป็นนายหญิงแห่งตระกูลเซวียจนโง่งมงายอยู่เบื้องหลัง เจ้าช่างเก่งกาจเสียจริง”นางสะบัดใบหน้าของอน

  • เกิดใหม่หนีรักทรยศ มาตกหลุมรักแม่ทัพพิการ   บทที่ 26

    เซวียมู่เจาพยายามอย่างยิ่งที่จะเค้นความทรงจำ หรือควรกล่าวว่ากำลังพยายามล้างสมองตนเองอยู่ในความทรงจำของเขาน้องหญิงรองผู้นี้ แท้จริงแล้วเป็นคนเช่นไรคงเป็นเด็กขี้ขลาด หวาดกลัว และไร้ซึ่งความสดใสมีชีวิตชีวาส่วนเรื่องรูปร่างหน้าตา ดูเหมือนจะไม่เคยอยู่ในความทรงจำของเขาเลยแม้แต่น้อยก็ไม่น่าแปลกใจขนาดคนรับใช้ในจวนยังกล้ามองข้ามเซวียหว่านอี้ได้อย่างสิ้นเชิง หรือควรกล่าวว่าไม่เคยเห็นนางอยู่ในสายตาเลยต่างหากนี่สะท้อนให้เห็นเพียงว่า ทั่วทั้งตระกูลเซวีย หามีเจ้านายคนใดให้ความสำคัญต่อนางไม่ขอเพียงมีสักคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตามที่ปฏิบัติต่อนางดีสักสามส่วน พวกบ่าวไพร่ในจวนก็ย่อมไม่กล้าแสดงท่าทีเช่นนี้ฉะนั้น การที่เซวียมู่เจาจำรูปลักษณ์ของเซวียหว่านอี้ไม่ได้ จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างยิ่งเซวียหว่านอี้ย่อกายคารวะ “คารวะท่านพี่เจ้าค่ะ”กิริยาท่วงท่าของนางนับว่าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติความสมบูรณ์แบบนี้ หากพูดให้ฟังดูดีคือนางเป็นแบบอย่างของสตรีสูงศักดิ์ แต่หากพูดให้ฟังดูแย่ ก็คือความห่างเหินจนเกินไปไม่ทราบเพราะเหตุใด เซวียมู่เจาพลันรู้สึกขัดตาอยู่บ้าง“พี่น้องกันแท้ ๆ ไม่จำเป็นต้องมากพิ

  • เกิดใหม่หนีรักทรยศ มาตกหลุมรักแม่ทัพพิการ   บทที่ 25

    เมื่อเห็นใบหน้าที่คล้ายคลึงกันตรงหน้าทั้งสอง แม้จะไม่อยากยอมรับเพียงใด แต่ในใจของเซวียหมิงเฟยก็บังเกิดความคิดอันน่าสะพรึงกลัวขึ้นมาอนุชิว คือมารดาผู้ให้กำเนิดของนางชีวิตสิบห้าปีที่ผาสุกในจวนซึ่งนางได้รับมา แท้จริงแล้วควรเป็นของเซวียหว่านอี้ฮูหยินเจียงมองคนทั้งสองในโถงด้วยสายตาเรียบเฉยไม่อยากยอมรับก็ไร้ประโยชน์อนุชิวและเซวียหมิงเฟย ช่างเหมือนกันเสียจริงนางปรายตามองเซวียฉงที่อยู่ข้างกายนางแวบหนึ่งไม่ว่าเขาจะรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ฮูหยินเจียงก็บังเกิดความแค้นเคืองต่อเขาแล้วเป็นเพราะความโปรดปรานที่บุรุษผู้นี้มีต่ออนุภรรยา จึงทำให้อนุชิวบังเกิดจิตใจอำมหิตถึงเพียงนี้แต่ตัวนางและบุตรสาวแท้ ๆ ช่างเป็นผู้บริสุทธิ์ยิ่งนักพลันนึกขึ้นได้ว่า เซวียหว่านอี้ได้รับพระราชทานสมรสกับจวนเจิ้นกั๋วกงแล้วหากเป็นเมื่อสองวันก่อน ฮูหยินเจียงย่อมไม่พอใจอยู่แล้วเรื่องสมรสของบุตรีอนุ ไฉนเลยจะสูงส่งกว่าบุตรสาวของนางได้แต่บัดนี้กลับไม่เหมือนเดิมแล้วนางเป็นถึงคุณหนูใหญ่จากจวนโหวโดยแท้ความรู้สึกนั้นจะมองว่าสำคัญก็ได้ หรือไม่สำคัญก็ได้ ทุกอย่างล้วนผูกพันกับผลประโยชน์ของตระกูล“นับแต่นี้ไป เบ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status