Share

บทที่ 10

Author: เฉียวเหมย
เฉินมู่พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าคุณสามารถกินอะไรก็ได้ อาหารเช้าแบบด่วนที่นี่สดใหม่มาก!”

ผลของการมโนธรรมที่ชัดเจนและเที่ยงตรง! พอเจ็ดโมงตรงเรียกคนให้ออกมา มันก็ยังมีร้านที่สะอาดอย่างเคเอฟซีไหมล่ะ?

ฮานเฉิงนั่งอยู่ในรถเบนท์ลีย์ด้านนอกประตูร้าน เขารอเจ้านายพลางฟังเสียงหัวเราะของโอวจินทางโทรศัพท์ไปด้วย “นายพูดว่าอะไรนะ? ฮั่วหยุนเซียวทานข้าวกับผู้หญิงเป็นครั้งแรก! แล้วก็กินเคเอฟซีด้วยเหรอ? กินพาอะไรนะ?”

“อาหารเช้าพานินี่ ที่มีชีสและซี่โครงหมู...” ฮานเฉิงตอบอย่างเงียบ ๆ

โอวจินตบโต๊ะ ตะโกนลั่น “ถ้าฮั่วหยุนเซียวกินเสร็จแล้วบอกฉันด้วย! ไอ้อาการแบบนี้ ฉันต้องไปที่บริษัทฮั่วเพื่อหัวเราะเยาะเขาเป็นการส่วนตัวแล้วล่ะ!”

ตัดภาพมาที่ร้านอาหาร ฮั่วหยุนเซียวไม่รำคาญ แถมยังถามต่อ “เหตุผลล่ะ”

ชายในชุดสูทที่สั่งตัดราคาแพงมากนั่งอยู่ในร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งนี้ แสดงให้เห็นว่าเขาถูกบังคับให้มา

ทันใดนั้นเฉินมู่ก็รู้สึกว่ามันน่าเบื่อ ฮั่วหยุนเซียวเป็นมังกรในหมู่คน เธอหลอกลวงคนอื่นเพียงครั้งเดียว เท่านั้น แต่เธอไม่สามารถหลอกพวกเขาได้ตลอด

เฉินมู่เคี้ยวแฮมในปากของตัวเอง ก่อนจะค่อย ๆ พูดอย่างตรงไปตรงมา “เฉินชิงเสวี่ยกำลังจะไปพบคุณที่ตระกูลฮั่ว เพื่อชวนทานอาหารค่ำวันนี้”

“เฉินชิงเสวี่ย?” ฮั่วหยุนเซียวถาม “ใคร?”

“น้องสาวของฉันไง! อาจเป็นเพราะงานเลี้ยงเมื่อวานยัยนั่นขายหน้าคนทั้งงาน วันนี้เลยอยากมาสร้างความประทับใจให้กับคุณมั้ง แล้วยังพาคู่หมั้นฉันมาด้วยอีก เห็นบอกว่าจะคุยเรื่องธุรกิจกับคุณ” เฉินมู่บอกหมดทุกอย่างเพราะไม่ได้ตั้งใจจะเก็บเป็นความลับ

ฮั่วหยุนเซียวขมวดคิ้วอย่างกะทันหัน “คู่หมั้นตระกูลลู่?”

“อืม” เฉินมู่พยักหน้า “คุณรู้จักไหม?”

ดวงตาของฮั่วหยุนเซียวมืดมน “ไม่รู้จัก”

เฉินมู่ก้มศีรษะลงพร้อมคนกาแฟในถ้วยพร้อมบ่นพึมพำ “งั้นคุณก็กลับไปก่อนเถอะ วันนี้ไม่นับว่าเป็นการเลี้ยงอาหารนะ ฉันจะเลี้ยงคุณในวันถัดไป”

ฮั่วหยุนเซียวลุกขึ้น ทำเอาเฉินมู่ถอนหายใจ ฮั่วหยุนเซียวช่วยชีวิตเธอไว้นะ แค่นี้มันไม่ถือว่ามากเกินไปหรอก

“ไปกันเถอะ” ทว่าเสียงอันไพเราะของชายคนนั้นกลับดังขึ้นเหนือศีรษะของเธอ

เฉินมู่รู้สึกเลิกคิ้ว “ห๊า? จะไปไหนเหรอ?”

“เปลี่ยนสถานที่...รับประทานอาหารเช้าที่สดใหม่” ฮั่วหยุนเซียวพูด

เฉินมู่ตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง ก่อนตอบกลับไป “แล้วคุณ...คุณไม่ไปบริษัทเหรอ?”

“คุณไม่อยากให้ผมพบกับน้องสาวของคุณไม่ใช่เหรอ?” ฮั่วหยุนเซียวถามกลับ

เฉินมู่รู้สึกอบอุ่นวาบในใจ ร่างบางลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามฮั่วหยุนเซียวเข้าไปในรถ “ทานข้าวกัน!”

ฮานเฉิงที่นั่งอยู่เบาะข้างหน้าเอ่ยถาม “บอส เราจะไปไหนกัน?”

“ร้านเซียวเซียงซวน สั่งแค่เมนูอาหารที่ฉันกินครั้งก่อนก็พอแล้ว” ฮั่วหยุนเซียวพูด

ฮานเฉิงขับรถไปยังร้านเซียวเซียงซวน ร้านอาหารชื่อดังในเมืองปินไห่ทันที ที่นั่นทำอาหารเพียงห้าสิบโต๊ะต่อวัน แถมรสชาติอาหารก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเจ้าร้าน แม้แต่คนรวยและคนมีเงินอย่างพวกเขายังต้องต่อแถวเพื่อเสี่ยงโชค

เมื่อเขามาถึงที่ประตูทางเข้าร้าน ฮานเฉิงก็จอดรถ ฮั่วหยุนเซียวก็เดินเข้าไปพร้อมกับเฉินมู่ เขาค่อนข้างคุ้นเคยกับถนนที่นี่ ทั้งสองรีบเดินขึ้นไปชั้นบน เมื่อก้าวเข้าไปในห้อง ก็เห็นว่ามีอาหารเช้านึ่งอยู่บนโต๊ะแล้ว ฮั่วหยุนเซียวนั่งลงพร้อมพูด “ที่นี่สดใหม่มาก กินกันเถอะ”

ขณะที่เฉินมู่เพลิดเพลินกับการทานอาหาร แววตาคู่คมก็เหลือบมองไปที่ฮั่วหยุนเซียวเป็นครั้งคราว เสียงเล็กเอ่ย “ในงานเลี้ยงเมื่อวานนี้ หลายคนบอกว่าคุณไม่ชอบอยู่ใกล้คนแปลกหน้า แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ”

“จริงเหรอ?” ฮั่วหยุนเซียวเอนกายพิงเก้าอี้ มือหนายกกาแฟขึ้นมาดื่ม ท่าทีดูเย็นชาและมีเกียรติ เขาเลิกคิ้วขึ้นตอบเธอ “แล้วคุณคิดยังไงกับผมล่ะ?”

เฉินมู่พูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันไม่ใช่แค่คนแปลกหน้าแล้ว ฉันกินเคเอฟซีกับคุณแล้ว ทำไมจะเข้าใกล้กันไม่ได้ล่ะ”

ฮั่วหยุนเซียวอมยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่พูด...เขาเป็นคนให้เกียรติคน แต่ทำไมถึงไม่มีใครรู้?

เฉินมู่กำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารในจาน ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของฮั่วหยุนเซียวก็ดังขึ้น

“สวัสดี” ฮั่วหยุนเซียวรับโทรศัพท์

เสียงกระทบกันระหว่างถ้วยและจาน เฉินมู่ได้ยินเพียงฮั่วหยุนเซียวพูดว่า “ไม่เจอ”

จากนั้นเขาก็วางสาย ฝ่ายเฉินมู่เองก็ไม่ได้ถามอะไรมาก เธอทำเพียงก้มหน้าทานข้าวต่อ

อีกฝั่งหนึ่ง ณ แผนกต้อนรับของบริษัทฮั่ว

“นี่มันบ้าชัด ๆ! ฉันบอกไปแล้วว่าต้องการพบบอสฮั่ว” เฉินชิงเสวี่ยมองไปที่พนักงานต้อนรับอย่างไม่พอใจ

พนักงานต้อนรับยิ้มตอบ “คุณผู้หญิง ถ้าคุณจะมาพบบอสฮั่ว คุณต้องทำการนัดหมายล่วงหน้าเสมอค่ะ ฉันโทรไปถามผู้ช่วยพิเศษแล้ว ถ้าคุณไม่ได้นัดหมายไว้ ฉันไม่สามารถละเมิดข้อบังคับของบริษัทได้ค่ะ”

ลู่ซีเจ๋อปกป้องเฉินชิงเสวี่ยอยู่ข้างหลัง เสียงเข้มพูดอย่างไม่พอใจ “คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร! ผมเป็นรองประธานของบริษัทลู่! ผมมีธุรกิจกับบริษัทฮั่วด้วย!”

ทว่าพนักงานแผนกต้อนรับเองก็รู้ว่าหน้าที่ต้องเป็นหน้าที่ “คุณลู่ แม้ว่าคุณลู่มาเอง เราก็ต้องนัดหมายกันล่วงหน้านะคะ”

ในห้องโถงที่มีผู้คนพลุกพล่าน หลายคนต่างมองชายหญิงที่ส่งเสียงดังทั้งสอง จนเฉินชิงเสวี่ยต้องดึงลู่ซีเจ๋ออย่างเชื่องช้า และค่อย ๆ เกลี้ยกล่อม “ซีเจ๋อ ช่างเถอะ เราไม่มีนัดคงเข้าไปไม่ได้ รออีกสองสามวัน แล้วค่อยส่งคำเชิญวันเกิดไปให้อีกครั้งดีกว่า”

ลู่ซีเจ๋อทำได้เพียงยอมแพ้เมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังเริ่มเสียภาพลักษณ์ เฉินชิงเสวี่ยเข้าใจทันทีว่าเขารู้สึกอับอายเลยแนะนำอย่างเอาใจใส่

“ซีเจ๋อ คุณยังไม่ได้กินอะไรเลยในตอนเช้า ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าของร้านเซียวเซียงซวนนั้นพิเศษมาก ไปลองทานด้วยกันไหม?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นลู่ซีเจ๋อก็ลังเล ครั้งสุดท้ายที่เขาไปที่ร้านเซียวเซียงซวน เพราะเขาไปพบกับพ่อ และเขาก็เอาบัตรสมาชิกของร้านเซียวเซียงซวนไปด้วย

ผู้หญิงที่แผนกต้อนรับเตือนเสียงแผ่ว “คุณหนูคะ ร้านเซียวเซียงซวนต้องจองคิวเข้าแถว ฉันได้ยินมาว่าคิวเดือนนี้เต็มแล้ว”

เฉินชิงเสวี่ยเหลือบมองที่พนักงานแผนกต้อนรับอย่างจิกกัด

“คนธรรมดาเท่านั้นที่ต้องเข้าแถว! แฟนของฉันรู้จักกับเจ้าของร้านเซียวเซียงซวน แน่นอน...ฉันสามารถไปทานอาหารเช้าได้ทุกเมื่อที่ต้องการ! ใช่ไหมคะ ซีเจ๋อ?”

เมื่อมองไปที่ดวงตาที่คาดหวังของเฉินชิงเสวี่ย ลู่ซีเจ๋อก็ลูบหัวของเฉินชิงเสวี่ย แล้วตอบกลับ “ใช่ ไปเดี๋ยวนี้เลยก็ได้”

“ซีเจ๋อ คุณช่างดีกับฉันเหลือเกิน!” เฉินชิงเสวี่ยมีความสุขมาก การรับประทานอาหารเช้าที่ร้านเซียวเซียงซวนก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอที่จะอวดในโซเชียลไปได้อีกหนึ่งเดือน!

ลู่ซีเจ๋อเรียกคนมารับอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พาเฉินชิงเสวี่ยไปที่ร้านเซียวเซียงซวนทันที

ผู้หญิงที่แผนกต้อนรับฉลาดมาก เมื่อตอนที่เธอโทรไปขอคำแนะนำจากผู้ช่วยพิเศษ ได้ยินว่าบอสฮั่วกำลังทานอาหารเช้าอยู่ที่นั่น แถมคนยังลือกันว่าฮั่วหยุนเซียวเคยไปร้านเสี่ยวเซียงซวนหลายครั้ง

เธอรีบโทรรายงานฮานเฉิง “ผู้ช่วยพิเศษฮาน! คุณลู่ออกไปแล้วค่ะ ได้ยินว่าเขากำลังจะไปทานอาหารที่ร้านเซียวเซียงซวน! ไม่รู้ว่าจะไปรบกวนบอสหรือเปล่า?”

ฟังจบฮานเฉิงก็วางสาย ก่อนจะก้าวฉับเข้าไปในห้องอาหาร เมื่อเฉินมู่เห็นฮานเฉิงรีบเข้ามา เธอก็ลุกขึ้นอย่างมีไหวพริบพร้อมเอ่ย “ฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อน”

หลังจากเฉินมู่ออกไป ฮานเฉิงก็รายงานคนเป็นหัวหน้าทันที “ท่านประธานลู่ซีเจ๋อกับเฉินชิงเสวี่ยกำลังเดินทางมาที่นี่ครับ”

ฮั่วหยุนเซียวขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “พวกเขามีกำหนดการนัดหมายไหม?”

ฮานเฉิงส่ายหัว พร้อมตอบว่า “ไม่ครับ ผมเพิ่งตรวจสอบรายชื่อคิวของร้านเซียวเซียงซวนสำหรับเดือนนี้ พวกเขาไม่มีชื่ออยู่ที่นั่น แต่ลู่ซีเจ๋อบอกว่าเขารู้จักกับเจ้าของที่นี่”

ฮั่วหยุนเซียวผงะ เขาเม้มริมฝีปากบางพลางกระตุกยิ้ม “อวดดีจังเลยนะ”

มือหนาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดหมายเลขหาใครบางคน “มาที่ร้านเซียวเซียงซวน!”

“พี่ชาย?” ฮั่วหยุนเซียวยังคงนิ่ง “ทำไมพี่ถึงไปที่ร้านเซียวเซียงซวนแต่เช้าล่ะ?”

“ให้เวลาสิบนาที...รีบมาเคลียร์ร้าน ไม่งั้นร้านนี้จะไม่ได้เปิดอีก” ฮั่วหยุนเซียววางสายเรียบร้อย

ฮั่วหยุนเซียวลุกขึ้นพร้อมกับนึกถึงชะตากรรมตัวเอง แม้ว่าฮั่วหยุนเซียวจะเป็นคนอารมณ์เย็นที่ไม่สนิทสนมกับคนแปลกหน้า แต่เขาก็ไม่เคยอารมณ์เสียแบบนี้ ไม่รู้ว่าใครเป็นต้นเหตุ แม้แต่ร้านอาหารที่พาเธอมาก็ยังดูท่าจะโชคไม่ดี

ในขณะนี้ลู่ซีเจ๋อพาเฉินชิงเสวี่ยไปที่ร้านอาหาร ชายหนุ่มก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก โชคดีที่ตอนเช้ามีคนไม่กี่คน ดังนั้นเขาจึงขอให้ผู้ช่วยช่วยจองที่นั่งให้

พวกเขาทั้งสองนั่งรอในล็อบบี้ ส่วนเฉินชิงเสวี่ยก็เก็บกระเป๋าของตนแล้วหันหลังเดินไปห้องน้ำ แต่เมื่อเธอผลักประตูเข้าไป ก็พบกับเฉินมู่!

“เฉินมู่!” เฉินชิงเสวี่ยกรีดร้อง “เธอมาทำอะไรที่นี่!”

เฉินมู่อุตส่าห์มาที่นี่เพื่อซ่อนตัวหล่อน แต่ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างน้องสาวคนนี้เสียจริง...

เฉินมู่เมินเธอ คิดเพียงล้างมือเสร็จแล้วก็จะออกไป อันที่จริงทานข้าวก็เกือบจะเสร็จแล้วด้วย เธอไม่อยากจะพัวพันที่นี่นาน ๆ

แต่เฉินชิงเสวี่ยกลับคว้าข้อมือของเธอไว้ “เฉินมู่! ทำไมเธอถึงมาที่นี่? มากับใคร?”

เฉินมู่ขมวดคิ้ว เฉินชิงเสวี่ยเพิ่งคว้าข้อมือที่บาดเจ็บของเธอไว้ และมันรู้สึกเจ็บมากจนต้องกัดฟัน“ปล่อย”

“บอกมาสิ! เธอมากับใคร? อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว! เธอตามเรามาใช่ไหม ทำเป็นมาบอกว่าไม่สนใจซีเจ๋อ แต่มาทำเรื่องไร้ยางอายลับหลังเนี่ยนะ!”

เมื่อเฉินชิงเสวี่ยคิดถึงความพยายามอันเหน็ดเหนื่อยของเฉินมู่ที่จะมาที่นี่เพื่อเกลี้ยกล่อมลู่ซีเจ๋อ ก็ทำให้เธอรู้สึกรำคาญ และอยากจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด

เฉินมู่ต้องการสะบัดมือออก แต่ข้อมือของเธอได้รับบาดเจ็บอยู่ แล้วเธอก็ไม่กล้าใช้กำลังใด ๆ ดังนั้นเฉินชิงเสวี่ยจึงลากคนเป็นพี่ไปที่ห้องโถง

เฉินมู่ใช้โอกาสนี้ในการพยายามตีตัวออก แต่คิดไม่ถึงว่าเฉินชิงเสวี่ยจะเหวี่ยงตัวเองลงกับพื้นตรง ๆ แบบนั้น ซ้ำยังกรีดร้องออกมาอีก “พี่! พี่คิดจะทำอะไร!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 255

    ฮั่วหยุนเซียวไม่รู้ว่าควรจะสงสารสาวน้อยตรงหน้าดี หรือควรจะภูมิใจในความหนักแน่นในสถานการณ์ที่อันตรายของเธอดีเขายกมือพร้อมขมวดคิ้ว “ฮานเฉิง จัดการให้เรียบร้อย”“ครับ บอส”ฮานเฉิงยกโทรศัพย์อยู่หลายสาย และแล้วนักข่าวที่สมควรจะอยู่ที่นี่ต่อ กลับแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเฉิงหยวนกระพริบตา “ทำไมพวกเขาไปกันหมดแล้วล่ะ?”เมื่อฝูงชนสลายตัว สายตาเฉินมู่ก็สะดุดเข้ากับรถเบนท์ลีย์หรูที่จอดอยู่ข้างทาง“ปีศาจร้ายปรากฎตัวแล้ว” เธอกล่าวเฉิงหยวนถือถุงขนมของตัวเองตามไปและถามต่อ “อะไรนะ?”เฉินมู่ช่วยถือของในมือเธอ แล้วพูดว่า “ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านก่อนแล้วกัน”ใต้แสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาว สองสาวพูดคุยถึงเรื่องในอนาคต และรถหรูระดับโลกอย่างเบนท์ลีย์คันนั้นก็ขับตามหลังมาอย่างช้า ๆฮานเฉิงถามอย่างสุขุม “บอสครับ พวกเราจะขับช้าขนาดนี้จริงเหรอครับ?”ฮั่วหยุนเซียวมองแผ่นหลังหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ แล้วพยักหน้า “ขับช้ากว่านี้”ฮานเฉิง “...”เมื่อเดินมาถึงใต้อาคาร เฉินมู่ก็พูดว่า “คุณไปเก็บของให้เรียบร้อยแล้วเราไปโรงพยาบาลกัน”เฉิงหยวนปัดมือไปมา “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน พวกเขาแค่ขว้างปาผักมาขู่ฉัน

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 254

    เธอลงจากรถแล้วเห็นเฉิงหยวนที่ถูกฝูงชนล้อมเอาไว้ เหมือนแมวที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ และไม่มีที่ซ่อนตัวเธอวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป แล้วดึงเฉิงหยวนเข้ามายังอ้อมอก พร้อมถามอย่างกังวลว่า “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เมื่อเฉิงหยวนเห็นเฉินมู่ ก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมาเธอยื่นมือไปปัดเศษผักบนตัวของเฉินมู่ออกให้ พร้อมส่ายหัว “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”เฉินมู่ประคองเธอให้ลุกขึ้น และแล้วไข่ไก่ฟองหนึ่งก็ลอยมา แต่เฉินมู่ยกมือขึ้นรับไว้ได้อย่างแม่นยํา“แกร๊ก” ไข่ไก่ในมือถูกบดขยี้จนแหลก และไข่ไก่เหลว ๆ ก็ไหลลงมาตามข้อมือของเธอ แววตาอันโหดเหี้ยมของเฉินมู่ทำให้ฝูงชนและนักข่าวต่างค่อย ๆ สงบลงเธอพูดกับหน้ากล้องที่ใกล้ที่สุด ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “จรรยาบรรณของนักข่าวคือการนำเสนอความเป็นจริง หวังว่าสื่อมวลชนทุกคนจะตระหนักข้อนี้ไว้หน่อย”พลันมีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ความจริงก็คือเฉิงหยวนเป็นมือที่สาม! คนทั้งโลกต่างก็รู้เรื่องนี้!”“ใช่ ๆ คุณเป็นใคร! ทำไมถึงได้แก้ตัวแทนเฉิงหยวน!”เฉินมู่ตอบอย่างเยือกเย็น “เธอไม่ใช่มือที่สาม หวังว่าหลังจากวันที่ความจริงกระจ่างแล้ว ทุกคนในที่นี้ต้องขอโทษต่อการกระทำที่ทำต่อเฉิงหยวน”จ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 253

    เฉินมู่ซบอยู่ในอ้อมกอดลู่ซีเจ๋อพร้อมเช็ดน้ำตาด้วยท่าทีน้อยใจ “พี่คะ พี่เชื่อฉันสักครั้งเถอะ…”ลู่ซีเจ๋อหมดความอดทนกับเฉินมู่อย่างสิ้นเชิง เขาตะโกนอย่างเหลืออดว่า “ออกไป! ไสหัวออกไป!”เฉินมู่มองท่าทีที่ปวดใจของลู่ซีเจ๋อ แล้วถอนหายใจ “ลู่ซีเจ๋อ คุณ…”ลู่ซีเจ๋อมองหน้าเธอด้วยความโกรธเคืองเฉินมู่จึงได้เงียบลง พลางคิดว่าทำไมต้องปริปากพูดคำนี้ทั้ง ๆ ที่่ก่อนหน้านี้เธองัดหลักฐานเป็นร้อย ๆ อย่างเพื่อให้เห็นถึงจิตใจอันโหดเหี้ยมของเฉินชิงเสวี่ย แต่ลู่ซีเจ๋อก็มองไม่เห็นเธอจะเกลี้ยกล่อมเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ แถมยังต้องถูกเฉินชิงเสวี่ยตอกกลับว่าเธออิจฉา“คุณคิดจะพูดอะไรอีก?” ลู่ซีเจ๋อมองเธอด้วยโกรธเคืองเฉินมู่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรแล้ว แต่มีอะไรอยากจะบอกคู่หมั้นสุดที่รักของคุณหน่อย”เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัว “พี่มีอะไรอยากให้ฉันช่วยคะ...”เฉินมู่หัวเราะ แล้วพูดว่า “รบกวนเธอฝากบอกซุยซินยี่กับเฉินชิงโหรวด้วยนะ ว่าเฉิงหยวนจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงเร็ว ๆ นี้”เฉินชิงเสวี่ยจ้องมองเฉินมู่อย่างปวดใจ พลันเอ่ย “พี่คะ เฉิงหยวนเป็นมือที่สาม ทำไมพี่ยังจะคบหากับคนแบบนั้นอยู่อีก?”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 252

    แผลเป็นที่หน้าเกลียดน่ากลัวเหมือนตัวหนอนเกาะอยู่บนใบหน้า แถมยังมีรอยแดง ๆ อยู่รอบ ๆ เฉินชิงเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งใจ แผลเป็นยังอยู่!ตอนที่กำลังลองชุดคราวก่อน เธอได้ข่าวว่าเฉินมู่กำลังรักษารอยแผลพวกนี้ มันทำเธอทุรนทุรายไปหลายวันเธอกลัวว่าเฉินมู่จะรักษาร่อยรอยแผลบนใบหน้าจนหายดี เพราะหากใบหน้านี้หายดีแล้ว มันจะกลับมาทำให้ชาวเมืองปินไห่ตกตะลึงอีกครั้ง เฉินชิงเสวี่ยหัวเราะอย่างโล่งใจ แถมยังเย้ยหยันเฉินมู่ต่อว่า “ได้ยินว่าเธอไปรักษาใบหน้า ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะ?”เธอชี้ไปยังใบหน้าของเฉินมู่ พร้อมหัวเราะเยาะเย้ย “เธอดูไม่ออกเหรอว่ามันอาการหนักกว่าเมื่อก่อนอีกน่ะ?”“เฉินมู่ อย่าพยายามต่อไปเลย หน้าของเธอยังไงก็รักษาไม่หายหรอก เธอต้องแบกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลแบบนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะตลอดเวลา และถูกทอดทิ้งตลอดไป”เฉินมู่ง้างมือขึ้นแล้วกระแทกไปที่ใบหน้าของคนเจ็บอย่างแรง ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยหันไปตามเสียงดัง “เพี๊ยะ”เฉินชิงเสวี่ยโดนตบจนโกรธมาก เธอจ้องมองเฉินมู่ด้วยความเคียดแค้น “สมควร ใครให้เธออยู่เป็นหนามยอกอกในตระกูลเฉิน เธอควรตายไปพร้อมกับแม่ของเธอตั้งนานแล้ว!”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 251

    “นี่คุณ!” ลู่ซีเจ๋อถูกเฉินมู่ปั่นหัวจนออกอาการโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทั้งป่าเถื่อนและชั่วร้ายอย่างเธอมาก่อนเฉินชิงเสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง “ไม่เป็นไรหรอก พี่สาวก็แค่ล้อเล่น คุณไปเถอะ”เฉินชิงเสวี่ยออดอ้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอยากจะทานของหวานหน้าโรงพยาบาล ลู่ซีเจ๋อจึงได้แต่ทำตามคู่หมั้น แต่ก่อนเดินออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่เฉินมู่อีกหนึ่งทีทันทีที่เขาเดินออกไป เฉินมู่ก็ขมวดคิ้วมองไปทางร่างบนเตียงอย่างเร็ว “เหลือเราแค่สองคนแล้ว มีอะไรอยากพูดไม่ใช่เหรอ?”ครั้งแรกเฉินลี่ซานสั่งให้เธอมาที่นี่ ครั้งที่สองลู่ซีเจ๋อก็พาเธอมาด้วยตัวเองอีกหนึ่งครั้ง เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนทั้งหมดให้เฉินมู่มาที่นี่ ไม่รู้ว่าเธอจะมีแผนการอะไรอีกเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนสีหน้าในทันที ใบหน้าอ่อนหวานเมื่อสักครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเธอมองหน้าเฉินมู่อย่างหงุดหงิด พร้อมพูดว่า “เธออย่ายุ่งเรื่องของตระกูลซุย!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนถามว่า “ทำไมเหรอ? ตระกูลซุยทำไมเหรอ?”เฉินชิงเสวี่ยพูดตรง ๆ ว่า “ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี ตระกูลซุยกับตระกูลเราทำธุรกิจร่วมกันมา ถ้าเธอทำงานแต่งซินยี่

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 250

    เฉินมู่ยักไหล่เล็กน้อย “ถึงฉันจะทำร้ายเธอจนตาย ฉันก็จะไม่รู้สึกผิด”ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้ว “เฉินมู่ คุณทำร้ายเสวี่ยเอ๋อถึงขั้นนั้น เธอยังไม่ถือโทษโกรธ แค่บอกให้คุณอย่าเข้าไปยุ่งกับตระกูลซุย แค่คุณไปเยี่ยมเธอบ้าง มันยากนักหรือไง?”เธอหัวเราะเยาะเล็กน้อย “แค่เธอบอกว่าไม่ถือโทษโกรธฉัน คุณก็เชื่อเหรอ? ลู่ซีเจ๋อ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าในสมองคุณมันมีรอยหยักบ้างไหม”ลู่ซีเจ๋ออึ้งไปสักพัก เขาไม่ใช่คนที่ทะเลาะวิวาทกับใครบ่อย ๆ ร่างสูงลากเฉินมู่ไปเรื่อย ๆ แล้วพูดว่า “ไปโรงพยาบาลกับผม!”ช่วงเวลาเลิกเรียนนักศึกษาทุกคนเดินลงจากอาคาร ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงนั้น และแล้วทั้งสองก็เริ่มตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนเฉินมู่ไม่อยากตกเป็นประเด็นของคนทั้งมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ จึงสะบัดมือออกอย่างจำใจและตอบว่า “ปล่อย ฉันเดินเองได้”ลู่ซีเจ๋อปล่อยมือเธอ เฉินหยวนจึงรีบวิ่งมาดึงแขนเฉินมู่ไว้ “ฉันไปเป็นเพื่อนนะ”เฉินมู่แตะมือเธอเบา ๆ “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก เธอกลับหอพักไปก่อนเถอะ”เฉินหยวนพูดด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง “งั้นเธอต้องระวังตัวนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรีบโทรหาฉันนะ หรือไม่ก็… โทรหาตัวรวจเลย!”เฉินหยวนหัวเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status