ในร้านกาแฟ หญิงสาวสองคนนั่งตรงข้ามกัน
"เธอแน่ใจเหรอว่าหล่อนจะมา?"
"ฉันแน่ใจ ฉันไปหาหล่อนที่บ้านและขอร้องด้วยตัวเอง ไม่มีทางไม่มาหรอ"
หลี่หลิงเจินที่นั่งอยู่ตรงข้ามถอดแว่นกันแดดออก เผยให้เห็นใบหน้าที่มีรอยฟกช้ำสีม่วงดำ จางเหยียนอี้รู้สึกประหลาดใจมาก เธอไม่คิดว่าหลินซินจะลงมือทำร้ายอดีตแม่เลี้ยง
หลี่หลิงเจินค่อยๆ เพิ่มแรงมือที่ถือแก้วไว้ แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง "ถึงเวลาแล้ว แผนของเราต้องไร้ที่ติ เราต้องทำให้หลินซินเสื่อมเสียชื่อเสียง!"
"ไม่ต้องห่วงหรอก ถึงเวลานั้นฉันจะได้เป็นสะใภ้รองของตระกูลฉิน ส่วนเธอจะได้เงินไปตั้งรกรากที่ต่างประเทศ เราทั้งคู่จะได้ในสิ่งที่ต้องการ"
ทั้งคู่สบตากันและยิ้ม คราวนี้พวกเธอจะทำให้หลินซินล่มจม! หลังจากที่พูดคุยกันเสร็จแล้ว ทั้งสองคนก็ออกจากร้านกาแฟ แต่ในมุมหนึ่งของร้านนั้น มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่โดยที่ไม่ได้สั่งอาหาร ไม่มีใครสังเกตเห็นชายคนนี้ เขาได้ยินบทสนทนาทั้งหมดอย่างชัดเจน เมื่อพวกนั้นไปแล้วเขาจึงกดหูฟังบูลทูทเพื่อติดต่อบอส
"หัวหน้า หลี่หลิงเจินและจางเหยียนอี้พบกันที่ร้านกาแฟ พวกเขาวางแผนที่จะจัดการกับคุณ"
หลินซินยิ้มในขณที่พิงหน้าต่างบานใหญ่ "001 สืบหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลี่หลิงเจินและจางเหยียนอี้"
เธอนึกสมเพชพวกนั้นในใจ อยากเล่นงั้นเหรอ…ได้จะเล่นด้วยหน่อยแล้วกัน คนโง่เง่าสองคนนั้นจะทำอะไรเธอได้ หลินซินคนนี้ไม่ใช่คนไร้เดียงสาเหมือนชาติที่แล้ว
"รับทราบ"
ชายคนนั้นดึงหมวกของตัวเองลงมา แล้วก็ออกจากร้านกาแฟ
งานเลี้ยง, บ้านตระกูลจาง
คฤหาสน์ตระกูลจางเป็นบ้านสไตล์ยุโรปขนาดใหญ่สีครีม ตกแต่งอย่างหรูหรา เวลานี้ไฟสว่างไสว เป็นวันที่จางเหยียนอี้แต่งงานกับตระกูลฉิน เนื่องจากเป็นการแต่งงานครั้งแรกของตระกูลฉินรุ่นนี้ คุณนายฉินจึงเดินทางด้วยตนเอง
เมื่อจางเหยียนอี้เห็นคุณนายฉินมาถึง เธอก็รีบวางแก้วเหล้าลงและเดินเข้าไปประคองท่านด้วยมือทั้งสองข้าง เธอยิ้มอย่างสุภาพและทักทาย "คุณยายคะ ฉันคือคนรักของฉินเสิ่นจางเหยียนอี้ค่ะ"
"ดีจริง ดีๆ เป็นคนสวยน่ารัก" คุณนายฉินมองจางเหยียนอี้จากหัวจรดเท้า เธอดูไร้เดียงสาและอ่อนโยน เห็นแบบนี้ก็รู้สึกสบายใจขึ้น
"คุณยายดูแลผิวดีจังค่ะ ดูอ่อนกว่าในรูปเยอะเลย สุขภาพแข็งแรงด้วย ฉันอิจฉาฉินเสิ่นจังที่มีคุณยายดีๆ แบบนี้"
จางเหยียนอี้คิดในใจว่า ถ้าชมคุณยายแบบนี้ ท่านน่าจะประทับใจเพราะนี่คือการพบกันครั้งแรก
"ตระกูลฉินของเราโชคดีที่มีลูกสะใภ้แบบเธอ"
ทั้งสองต่างก็มีเล่ห์เหลี่ยม คุณนายฉินมองจางเหยียนอี้ด้วยความเมตตา แต่แววตาอันเฉียบแหลมก็แฝงไปด้วยความหมายที่จับต้องไม่ได้ ก่อนที่คุณนายฉินจะมา ได้ส่งคนไปสืบหาข้อมูลแล้ว ตระกูลจางไม่ใช่ตระกูลใหญ่ สินทรัพย์ของตระกูลบริษัทในเครือ ล้วนน้อยกว่าตระกูลฉินครึ่งหนึ่ง
ตระกูลจางมีเพียงลูกสาวสองคน พี่สาวคนโตได้ยินมาว่าแต่งกับตระกูลเฉินไปแล้ว ส่วนจางเหยียนอี้เป็นเพียงลูกสาวคนเล็ก พ่อของหล่อนก็เคยมีเรื่องอื้อฉาวมาก่อน จึงไม่มีอยากสนใจมากนัก
ครอบครัวนี้ไม่มีอะไรน่ากังวล แต่เพื่อตรวจสอบความจริง จึงเดินทางมาจากบ้านหลังใหญ่โดยเฉพาะ หลังจากที่มั่นใจแล้วก็รู้สึกสบายใจ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ลูกนอกสมรสของตระกูลฉิน จะได้รับการสนับสนุนจากตระกูลอื่น เธอไม่อนุญาติอย่างเด็ดขาดที่จะให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น!
เมื่อฉินเสิ่นเห็นคุณนายฉินมาถึง เขาก็เดินเข้าไปหาคุณยายเพื่อทักทาย
"คุณยาย ช่วงนี้สุขภาพเป็นอย่างไรบ้างครับ?"
"ฮึ! แกยังคิดว่าฉันเป็นยายอีกเหรอ?" คุณนายฉินตบโต๊ะ สีหน้าไม่พอใจ
"คุณยาย... ผม... ช่วงนี้บริษัทยุ่งมากครับ พอเสร็จจากบริษัทแล้ว ผมว่าจะไปเยี่ยมคุณยาย"
มีเพียงฉินเสิ่นเท่านั้นที่รู้ ว่าคุณยายเป็นคนสั่งห้ามไม่ให้เขาเข้าใกล้บ้านหลังใหญ่ แต่ตอนนี้กลับดีเสียเหลือเกิน โยนความผิดมาให้เขาหมด
"ยุ่งเหรอ? ฉันว่าแกคงยุ่งอยู่กับการหาผู้หญิง ใช้เส้นสายของตระกูลผู้หญิง มาช่วยแกแย่งสมบัติมากกว่า แล้วก็เลิกคิดเรื่องบริษัทซะ ที่นั่นไม่ต้องการคนนอกอย่างแกมาวุ่นวาย มันเป็นของพี่ชายแกเท่านั้น"
คุณนายฉินพูดจี้ใจดำ ทำให้ฉินเสิ่นพูดไม่ออก ในห้องโถงมีเสียงแก้วกระทบกันดังกึกก้อง บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข ทว่าในเวลานี้ประตูเปิดออก คนกลุ่มหนึ่งหยุดพูดคุยและหันไปมองหลินซิน ที่สวมรองเท้าส้นสูงเดินเข้ามา
เธอสวมชุดราตรีสีเขียวมรกตที่ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ระดับโลก ผมดัดลอนสลวยไล่ระดับอยู่บนแผ่นหลัง ต่างหูเพชรที่ห้อยอยู่ ยิ่งเพิ่มความสง่างามให้กับบุคลิกของเธอ
"คุณหนูบ้านไหนน่ะ ดูมีรสนิยมจัง"
"พี่สาวคนนี้สวยจังเลย ออร่าก็ดีมาก ชุดสีเขียวมรกตโดดเด่นสุดๆ"
"แค่ชอบเรียกร้องความสนใจ ไม่น่ามอง"
"..."
เสียงพูดคุยดังไปทั่ว มีทั้งคนที่อิจฉา ชื่นชม และดูถูก หลินซินไม่สนใจ เธอทำเหมือนว่ากำลังฟังเสียงกบร้อง มีคนหนึ่งที่อยู่มุมห้องมองหลินซินที่โดดเด่นแล้วก็ชมไม่ขาดปาก ดวงตาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะครอบครอง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ก็ยกแก้วไวน์แดงขึ้นดื่มรวดเดียวแล้วดึงเนคไทลง
"หึ เดี๋ยวเธอก็ตกเป็นของฉันแล้ว"
จางเหยียนอี้เห็นรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นของหลินซินก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก ทุกครั้งที่พี่สาวปรากฏตัว เธอซึ่งเป็นตัวเอกก็จะกลายเป็นตัวประกอบทันที
"พี่สาว ฉันนึกว่าคุณจะไม่มาซะแล้ว"
"ก็ต้องมาสิ" หลินซินยิ้มแล้วหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา มองจางเหยียนอี้ด้วยสายตาที่ดูถูก "ไม่งั้นจะเป็นไปตาม…ที่เธอคิดได้ยังไง"
จางเหยียนอี้หัวเราะแห้งๆ แต่ในใจก็ยังตื่นตระหนก หลินซินคงไม่รู้แผนของเธอหรอกมั้ง... แต่คิดอีกทีก็ไม่น่าจะใช่ ไม่งั้นหลินซินจะมาทำไม ในเวลานี้พิธีกรเดินขึ้นไปบนเวที เชิญจางเหยียนอี้และฉินเสิ่นซึ่งเป็นคู่บ่าวสาวขึ้นไปพูดคำอวยพร พร้อมกับประกาศเริ่มงานเลี้ยง
จางเหยียนอี้รับไมโครโฟนแล้วมองผู้คนด้านล่างด้วยรอยยิ้ม "ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มางานของตระกูลจางในวันนี้ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรของทุกท่าน"
"และต้องขอบคุณคุณยายของฉินเสิ่นด้วย ที่เลี้ยงดูเขามาอย่างยากลำบาก จนทำให้ฉินเสิ่นเก่งขนาดนี้"
คุณยายฉินที่อยู่ด้านล่างยิ้มจนปากแทบฉีกถึงหู ไม่คิดว่าหลานสะใภ้คนนี้จะฉลาดพูด
"วันนี้ ฉันจะมอบของขวัญให้คุณยายต่อหน้าแขกทุกท่าน"
แขกที่อยู่ด้านล่างต่างก็ชมจางเหยียนอี้กันไม่ขาดปาก รู้สึกว่าเธอยังไม่ทันแต่งงานก็มีความกตัญญูมากขนาดนี้แล้ว หลินซินจิบไวน์แดงแล้วมองไปที่บนเวที ละครกำลังจะเริ่ม จางเหยียนอี้ยื่นกล่องไม้จันทน์ให้คุณยายฉิน ให้ท่านเปิดด้วยตัวเอง
คุณนายฉินหยิบขึ้นมาชั่งดูก็รู้ว่าของข้างในไม่ธรรมดา รอยยิ้มที่มุมปากยิ่งกว้างขึ้นไปอีก เปิดกล่องออกมา ก็ได้กลิ่นหอมอ่อนของวัตถุโบราณ คุณยายฉินเพ่งมองดูก็พบว่าเป็นรูปปั้นพระพุทธรูป จางเหยียนอี้เห็นรอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนใบหน้าของคุณยายตรงหน้า ก็รู้ว่าของขวัญชิ้นนี้ถูกใจแล้ว ในขณะที่ทั้งสองคนมีความสุข รูปปั้นพระพุทธรูปก็ตกลงมาจากกล่อง จางเหยียนอี้ตกใจ
นี่เธอซื้อมาจากประเทศไทยด้วยราคาแพงมากนะ แล้วทำไม...ทำไม
คุณยายฉินยิ่งโกรธมาก ผู้หญิงคนนี้กล้าเอาพระพุทธรูปที่ชำรุดมาหลอกเธออย่างนั้นเหรอ คนรุ่นเก่าส่วนใหญ่จะงมงายยิ่งไปกว่านั้น พระพุทธรูปที่อยู่ต่อหน้าหล่อนหักหัวหักมือ เป็นใครก็รับไม่ได้
"โอ้โห ผู้หญิงคนนี้ หล่อนแช่งให้ฉันตายงั้นเหรอ"
คุณยายฉินโยนกล่องทิ้งแล้วก็เดินเข้าไปตบ จางเหยียนอี้ลูบใบหน้าครึ่งหนึ่งที่แดงก่ำ รีบอธิบาย "ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ... คุณยายฟังฉันอธิบายก่อน"
ฉินเสิ่นเห็นว่าจางเหยียนอี้กำลังทำเรื่องยุ่ง จึงเดินเข้าไปดึงเธอออก จางเหยียนอี้ร้องไห้ปานขาดใจทำเหมือนกับว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ แต่ที่พระพุทธรูปถูกเปลี่ยนก็ไม่เกี่ยวกับเธอจริงๆ
หลินซินคิดในใจ อยากจะฆ่าฉัน แล้วก็อยากจะเหยียบหัวฉัน เพื่อแต่งงานกับตระกูลฉิน เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะให้น้องสาวสมหวังได้ดั่งใจ จางเหยียนอี้ได้รับการช่วยเหลือจากฉินเสิ่น แล้วก็ออกจากห้องโถงไปชั่วคราว คุณยายฉินก็โกรธมากเช่นกันไม่เข้าร่วมงานเลี้ยง
หลังจากละครจบ บรรยากาศในงานก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง ในเวลานี้พนักงานเสิร์ฟที่ถือถาดเดินผ่านหลินซิน เท้าก็พลิกแล้วเผลอทำไวน์หกใส่เธอ
"ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะคุณหนู" พนักงานเสิร์ฟรีบขอโทษ
"ไม่เป็นไร"
"คุณหนูคะ มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่หลังเวที ฉันจะพาคุณไปเปลี่ยนชุดนะคะ"
"ได้ค่ะ"
หลินซินเดินตามพนักงานเสิร์ฟไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังเวที ซึ่งไม่มีใครอยู่ พนักงานเสิร์ฟฉวยโอกาสตอนที่หลินซินกำลังเลือกชุดราตรี หยิบผ้าขนหนูผืนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าอย่างเงียบๆ
"คุณคิดว่าชุดนี้... อื้อ..."
พนักงานเสิร์ฟใช้ผ้าขนหนูชุบยาที่มีความเข้มข้นสูง ปิดปากและจมูกของหลินซินในขณะที่เธอเผลอ ทำให้เธอหมดสติ พนักงานเสิร์ฟพยุงหลินซินที่หมดสติเข้าไปในห้องแล้วก็จากไป
พอดีกับที่ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องที่หลินซินหมดสติ
เป็นคืนที่วุ่นวายที่สุดในเมืองหลวง ถนนหลายสายถูกปิดกั้น รถติดเป็นทางยาว และท้องฟ้ายามค่ำคืนมีเครื่องบินส่วนตัวหลายลำบินผ่านไปมา ชาวเมืองคิดว่าเป็นการซ้อมรบทางทหาร จึงพากันซุบซิบหลินซินกับทีมที่เจ็ดที่อยู่หน้าประตูโรงพยาบาล ถูกโจมตีจากหน่วยคอมมาโดต่างชาติอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเริ่มเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ แต่กระนั้นก็ยังคงยิงได้แม่นยำ แต่การเคลื่อนไหวเริ่มช้าลง ลูกกระสุนที่บรรจุก็ไม่ราบรื่นเหมือนตอนแรก ดูเหมือนว่าศัตรูจะไม่มีวันหมดสิ้น ฆ่าหนึ่งคนก็มีคนใหม่เข้ามาแทนหลินซินเหงื่อแตกพลั่ก ทั้งเหนื่อยและหงุดหงิด"ใช้ยุทธวิธีฝูงชน น่ารำคาญจริงๆ" เธอยิงศัตรูที่กำลังวิ่งเข้ามา ยิงได้แม่นยำและฆ่ามันได้ทันที"หัวหน้า ศัตรูเยอะเกินไป เราไม่มีทางชนะ พวกเราจะถูกพวกมันฆ่าหมดถ้ายังสู้แบบนี้" 001 เปลี่ยนกระสุนซุ่มยิง"ฉันรู้!" หลินซินขมวดคิ้ว ในขณะที่เธอกำลังคิดหาวิธีแก้ไข ทีมที่เจ็ดที่อยู่ในห้องฉุกเฉินก็มาวิ่งมาหา ในแววตาแสดงถึงความหวัง"หัวหน้า! ทีมฉุกเฉินย้ายผู้ป่วยสำเร็จแล้ว พวกเขาให้เรามาแจ้งข่าว"ขอบคุณพระเจ้า!หากการผ่าตัดล้มเหลวหรือยืดเยื้อไปกว่านี้ พวกเขาทั้งหมดอาจต้องสังเวยชีวิต เธอไม
เงียบเกินไป เงียบจนหน้ากลัว ในขณะนี้ เธอได้ยินเพียงเสียงคลื่นทะเลตึก...ตึก...ตึก...บอดี้การ์ดคนหนึ่งเอามือกุมบาดแผลที่หน้าอก เดินขากะเผลกเข้ามาหาหลินซิน ด้วยความเจ็บปวดเขาคุกเข่าลงพูดด้วยเสียงแผ่วเบา "นายหญิงหนีไปเถอะ...คุณชายมีอาการกำเริบ ครั้งนี้น่ากลัวมากไม่สามารถระงับได้ ผู้ช่วยเฉินให้ผมมาบอก คุณรีบออกจากเกาะตอนนี้เลย"หลินซินตัวเย็นเหงื่อท่วม เธอโยนของทุกอย่างในมือทิ้ง จับเสื้อของบอดี้การ์ดถามอย่างเร่งรีบ "ว่าอะไรนะ?! จือหานมีอาการกำเริบงั้นเหรอ ทำไมไม่แจ้งฉันเร็วกว่านี้!""นายหญิง เกาะที่คุณไปไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ข้อความจึงส่งไปไม่ถึง" บอดี้การ์ดไอเป็นเลือดในขณะนั้นโทรศัพท์ในกระเป๋าของหลินซินส่งเสียงเตือน เธอดึงออกมาดูพบว่ามีสายเรียกเข้าและข้อความแจ้งเตือนมากมาย"แย่แล้ว!"หลินซินทิ้งโทรศัพท์วิ่งตรงไปยังบ้านพัก ศพของสาวใช้และบอดี้การ์ดนอนเกลื่อนกลาด เลือดท่วมเต็มห้องนั่งเล่น มีโทรศัพท์ตกอยู่ข้างโซฟา เฉินอวี้พยายามยื่นมือไปหยิบเพื่อเรียกความช่วยเหลือ แต่ในวินาทีต่อมา เฉินจือหานเห็นการกระทำของเขา ยิงปืนจนโทรศัพท์แตกเป็นเสี่ยงๆจือหานเดินมาหาเฉินอวี้ใช้ปืนจ่อที่หัวเขา ริมฝีป
หลินซินตื่นเพราะเสียงคลื่นทะเล และถูกปลุกด้วยการถูกใบไม้เกามือ เมื่อเธอลืมตาใบหน้าหล่อเหลาของเฉินจือหานก็ปรากฏตรงหน้า เขาหนุนศีรษะด้วยมือข้างหนึ่งและใช้ใบไม้ด้วยมืออีกข้างเกาเธอเล่น"ถ้าเธอไม่ตื่น ฉันคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ""…"เป็นเพราะถูกเกาจนตื่นต่างหาก! เฉินจือหานถูกจับได้คาหนังคาเขาแต่ก็ไม่สนใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสนุกสนาน หลินซินนั่งขึ้นด้วยความโกรธ แต่ด้วยแรงที่มากไป ผ้าห่มที่คลุมอกเธอก็เลื่อนลงมา เผยให้เห็นเรือนร่างเธอรีบคลุมผ้าห่มขึ้นกลิ่นของทะเลโชยเข้ามาในลำคอทำให้เธอรู้สึกแห้งผาก เมื่อมองไปรอบๆ ต้นมะพร้าวขนาดใหญ่บังแสงอาทิตย์ไว้ ปล่อยให้มีพื้นที่ร่มรื่น ที่นั่งของพวกเขามีผ้าพื้นเมืองสีสันสดใสรองไว้กันทราย"พวกเราเมื่อคืนไม่ได้กลับบ้านเหรอ" สายลมทะเลพัดผมที่ต้นคอของหลินซินเบาๆ"ใช่ เห็นเธอนอนหลับสบายเกินไป ฉันไม่อยากปลุก เลยสั่งให้เฉินอวี้เอาผ้าห่มมาให้ เรานอนที่นี่ทั้งคืน""อย่างนี้ก็แปลว่า..."เฉินอวี้เห็นพวกเราหมดแล้วสิ! หลินซินหน้าแดงจัด เฉินจือหานหัวเราะในลำคอ ความอบอุ่นซ่านในใจ เขาคิดว่าเธอน่ารักเหลือเกิน"ยังจะหัวเราะอีก!" หลินซินขว้างหมอนอิงใส่สามีด้วยความโกรธ
คลื่นทะเลซัดสาดเข้าหาชายหาดราวกับจิตใจที่ปั่นป่วนของหลินซิน ดวงตาเธอแดงขึ้นเมื่อไรก็ไม่รู้ ใจเกิดความรู้สึกหวั่นไหวจนไม่รู้จะพูดอะไรออกมา"ฉันก็รักคุณค่ะ จือหาน ชาตินี้ ชาติหน้า หรือชาติไหน ฉันก็จะรักคุณ"เฉินจือหานสวมแหวนเพชรที่นิ้วนางของหลินซิน และจูบที่หลังมือเธอราวกับเป็นการสาบาน ทั้งสองนั่งที่โต๊ะ เขารินไวน์แดงให้เธอ"นี่คือ นี่คือน้ำแห่งความรักของเรา ดื่มเพื่อฉลอง""ดื่มเพื่อฉลอง"แก้วไวน์ชนกัน หลังจากดื่มไวน์แดงไปหลายแก้ว แก้มของหลินซินเริ่มแดง ตาเธอพร่ามัว และมีอาการเมา เฉินจือหานเข้ามาใกล้อุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน ลมหายใจร้อนของเขาพ่นลงบนลำคอ ทำให้เธอยิ่งรู้สึกหวั่นไหว ประคองใบหน้าของสามีและจูบเขา ทั้งสองแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม"ที่รัก เธอทำแบบนี้ ฉันก็แย่สิ…" เฉินจือหานพูดเสียงแหบมีนัยยั่วยวนหลินซินยกมือขึ้นไปแตะเป้ากางเกงของเขา ทำให้ชายหนุ่มมีปฏิกิริยาตื่นตัว เธออายจนก้มหน้าลง เฉินจือหานอุ้มภรรยามาที่ใต้ต้นมะพร้าว เขาถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวออก วางรองหลังเธอเพื่อป้องกันไม่ให้ทรายบาดผิว"จะทำที่นี่เหรอ..." หลินซินกัดริมฝีปาก มองไปรอบๆ สถานที่นี้ดีมาก มีป่ามะพร้าวใหญ่บังสายตาได้อย่างดี เป
หลังสถานการณ์สงบลงมีเสียงปิดประตูดังขึ้น เฉินอวี้ออกไปแล้ว เหลือเพียงเฉินจือหานนั่งดื่มเหล้าอยู่ในห้องทำงาน หนึ่งแก้ว…แล้วอีกแก้ว ดูเหมือนจะไม่มีความตั้งใจที่จะหยุด เมื่อเห็นเขาลุกขึ้นเตรียมจะไปที่ระเบียงเพื่อสูบบุหรี่ หลินซินก็รีบกลับไปที่ระเบียงของห้องนอนเมื่อกลับมาถึงห้อง หลินซินรู้สึกไม่สบายใจเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ใจร้อน แต่เรื่องที่เฉินจือหานถูกพิษ ทำให้เธอรู้สึกตื่นตระหนก ตราบใดที่มาดามหมิงยังอยู่ที่บ้านตระกูลเฉิน การที่จือหานต้องอยู่ภายใต้การข่มขู่ของเธอเป็นเวลาหนึ่งวัน ทำให้มาดามหมิงเห็นได้ชัดว่าเธอเป็นจุดอ่อนของลูกชาย การฆ่าคนง่าย แต่การฆ่าคนที่สามารถจับจุดอ่อนของตนได้มันยากมากหลินซินหยิบโทรศัพท์พิเศษออกมา และโทรหาหมายเลข 001“ไปตรวจสอบบุคคลที่ชื่อว่า หมิงฉวน ฉันต้องการให้ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดของหล่อนอย่างละเอียด ใช่, มันสำคัญมาก”สั่งเสร็จก็วางโทรศัพท์ลง เธอกลับไปนอนบนเตียงและห่มผ้าห่ม…แต่ลืมตาตื่นตลอดทั้งคืนเช้าวันถัดมาหลินซินตื่นขึ้นและพบว่า ฉินจือหานไม่ได้กลับมาที่ห้องนอน เขาอยู่ที่ห้องทำงาน ซึ่งเต็มไปด้วยขวดเหล้า จึงสั่งให้แม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาด หลายวันผ่านไปหลินซินไม
“หยุดเดี๋ยวนี้!” เสียงชายหนุ่มที่เย็นเยียบดังขึ้นมาดามหมิงหยุดมือ ซ่อนเจตนาฆ่าที่เพิ่งแสดงออกเมื่อสักครู่ กลับมามีท่าทางใจดีอีกครั้งเมื่อมองลูกชาย เขาเดินมาจากสวนไกลๆ เห็นหลินซินถูกบังคับให้คุกเข่าอยู่บนสนามหญ้า ลมหนาวพัดผ่านผมของเธอ เขาโกรธสุดขีด ผู้หญิงของเขาไม่เคยต้องทนความอับอายแบบนี้!ปัง!เฉินจือหานหยิบปืนออกมา ยิงบอดี้การ์ดชาวต่างชาติสองคนที่กักขังหลินซินทันที ทั้งสองมีรูเลือดดำทมึนที่หัวล้มลงกับพื้นทันที หลินซินไม่มีที่พึ่งก็ล้มลงบนสนามหญ้า เฉินจือหานเดินมาอย่างรวดเร็วแล้วกอดภรรยาไว้ ใส่เสื้อคลุมให้เธอเมื่อเห็นเศษแก้วบนขาของหลินซินแ ละมือที่แดงจากการถูกน้ำร้อนลวก เฉินจือหานก็แทบเป็นบ้า ดวงตาสีเข้มของเขาเต็มไปด้วยความโกรธรุนแรงพุ่งเป้ามองไปที่คุณนายหมิง “คุณกล้าแอบทำร้ายผู้หญิงของผม! หมิงฉวน!” ปลายกระบอกปืนจ่อที่หน้าผากมาดามหมิง หล่อนไม่หลบไม่หนี ยังคงมีท่าทางใจดีเหมือนเดิม“อาจือ ทำแบบนี้แม่จะเสียใจนะ” แกล้งร้องไห้และปล่อยน้ำตาหยดสองหยด“มันสมควรแล้วไหม แต่เดิมคุณซ่อนตัวอยู่ต่างประเทศ อยู่ไปจนตายก็ไม่มีใครสน แต่เมื่อกลับมาผมจะส่งคุณลงนรก ผลของการทำร้ายผู้หญิงของผมคือความตาย