แชร์

บทที่ 7 ข้าเองก็เป็นบุรุษ

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-24 10:10:16

หลิวจินหลันกับความรักครั้งที่สอง

บทที่ 7

ข้าเองก็เป็นบุรุษ

          “ถึงไม่ใช่คำสั่งขององค์หญิง กระหม่อมก็ไม่คิดจะไปทะเลาะกับสตรีอื่นอยู่แล้ว”

          คำพูดของกู้อิ่นมู่ดังเข้ามาในรถม้า

            กู้อิ่นมู่หาใช่คนโง่ ย่อมเข้าใจถึงนัยแฝงที่นางจะสื่ออย่างรวดเร็ว  

            เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายอยู่สักหน่อย นอกจากเขาจะตอบกลับมาทันที ทั้งประโยคนั้นยังคล้ายว่า เขาได้ลั่นคำสาบานว่าจากนี้จะไม่รับผู้หญิงอื่นเข้าจวน

            หัวใจของหลิวจินหลันเบิกบานยิ่งนัก นางนั่งอมยิ้ม สักพักก็ปิดปากหัวเราะคิกคัก

            แม่นมซุนเห็นอย่างนั้นก็อดถามด้วยความสงสัยเสียมิได้

            “องค์หญิงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เช่นนี้ มีเรื่องอะไรให้น่ายินดีหรือเพคะ”

          นางส่ายศีรษะ ทว่ายังอมยิ้มอยู่

            “ไม่มีอะไรหรอก แม่นมซุน”

            “เอ่อ...เพคะ”

            ไหนเลยแม่นมซุนผู้อาบร้อนมาจนอายุจะห้าสิบจะเชื่อ ทว่าหากองค์หญิงบอกว่าไม่มีอะไร ก็ได้แต่พยักหน้าเอ่อออตาม

            รถม้าแล่นไปข้างหน้า สายลมฤดูใบไม้ร่วงเจือความเย็นพัดเข้ามาทางหน้าต่างเป็นระลอก ยามผ้าม่านเปิดพะเยิบพะยาบ กู้อิ่นมู่ที่ควบม้าอยู่ข้างรถก็จะหันมามองนางเป็นระยะ หากตาไม่ฝาด มุมปากของเขายกยิ้มด้วยสินะ

            หัวใจของหลิวจินหลันเต้นตึกตักเมื่อคิดว่ากู้อิ่นมู่เองก็ยอมเปิดใจให้นางแล้ว นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของการเปลี่ยนแปลง แน่นอน ย่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นด้วย  

            เมื่อกลับมาถึงจวนแม่ทัพ กู้อิ่นมู่เข้ามารับหลินจิวหลันลงจากรถม้า หากไม่วายยืนอยู่ที่เดิม

            หลิวจิวหลันเงยหน้ามองเขา      

            กู้อิ่นมู่เอ่ยขึ้นทันทีว่า “ระหว่างเดินทางกลับจวนกระหม่อมรู้สึกสงสัยขึ้นมา”  

            “สงสัยหรือ”

            “ตอนอยู่ในตำหนักฝูโซ่ว เหตุใดองค์หญิงถึงได้พูดปกป้องกระหม่อม เดิมมิใช่ท่านเองหรอกหรือที่ต้องการหย่าร้างกับกระหม่อมให้ได้ หากใช้เรื่องของจางลู่เป็นข้ออ้าง ฝ่าบาทต้องทรงอนุญาตแน่นอน”

            “แล้วหลังจากนั้นเล่า”

            นางย้อนถาม ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยจังหวะไม่ช้าไม่เร็ว 

            กู่อิ่นมู่ก้าวตามมา ไม่ช้าพวกเขาก็เคียงข้างกันขณะเดินเข้าไปในจวน

            ตั้งแต่หลิวจินหลันแต่งเข้าจวนแม่ทัพ นับเป็นครั้งแรกที่สตรีสูงศักดิ์อย่างนางยอมเดินเคียงข้างชายหนุ่ม ทั้งยังยอมสนทนาด้วย

            พ่อบ้านกู้และเหล่าคนรับใช้เมื่อเห็นอย่างนี้ ต่างพากันแสดงสีหน้าตะลึง เหมือนกำลังมองสิ่งน่าอัศจรรย์

            ย้อนกลับมาทางชายหนุ่มหญิงสาว หลังจากหลิวจินหลันบอกว่า ‘แล้วหลังจากนั้นเล่า’ กู้อิ่นมู่ก็เม้มปากรอฟังเหตุผลจากหลิวจินหลันเงียบๆ

            นางกล่าวต่อ “หากข้าใช้เรื่องถูกวางยาพิษเป็นข้ออ้าง แน่นอนว่าฝ่าบาทย่อมทรงอนุญาตให้ข้ากับแม่ทัพกู้หย่าร้างกัน แต่จางลู่เป็นสาวใช้อุ่นเตียงของแม่ทัพกู้ ถือว่าเป็นคนของท่าน คิดหรือว่าท่านจะไม่ได้รับโทษทัณฑ์ จริงอยู่ที่แม่ทัพกู้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทว่าเรื่องภายในราชสำนักซับซ้อนยากจะเข้าใจได้ ดีไม่ดีตระกูลกู้ รวมถึงกู้กุ้ยเฟยอาจพลอยเดือดร้อนไปด้วย ข้าไม่อยากทำให้มหาสมุทรต้องปั่นป่วนเพียงเพราะระลอกคลื่นเล็กๆ”

            เมื่อฟังจบ คิ้วของกู้อิ่นมู่เลิกขึ้นเล็กน้อย

            หลิวจินหลันถอนหายใจเบาๆ ราวกับเรื่องที่กำลังสนทนาหาใช่เรื่องใหญ่ “คงคิดว่าทำไมจู่ๆ ข้าถึงใจดีขึ้นมาน่ะหรือ นั่นเพราะข้าต้องการยกธงขาวแล้ว”

            “ยกธงขาว?”

            กู้อิ่นมู่พูดทวนซ้ำ

            “หลังจากนี้พวกเรามาญาติดีกันเถิด แต่มีข้อแม้อย่างหนึ่ง ข้าไม่ต้องการให้แม่ทัพกู้มีสาวใช้อุ่นเตียง ท่านทำได้หรือไม่”

            กู้อิ่นมู่ขมวดคิ้วใคร่ครวญครู่ใหญ่ พร้อมมองนางเป็นระยะ

            “แต่ข้าเป็นบุรุษ”

            หลิวจิวหลันเข้าใจความหมายนั้น เกิดเป็นผู้ชายย่อมมีความกำหนัดและของแบบนี้ก็ห้ามกันไม่ได้

            เท่าที่รู้มา แม้มีสตรีอื่นอยากปีนขึ้นเตียงแม่ทัพกู้มากแค่ไหน หากกู้อิ่นมู่ก็มีจางลู่เป็นสาวใช้อุ่นเตียงเพียงคนเดียว ทั้งไม่คิดจะยกย่องนางคนนั้นขึ้นมาเป็นอนุ อีกอย่าง ชายหนุ่มก็ไม่เคยมีประวัติเลี้ยงดูคณิกา จึงเดาว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้หมกมุ่นเรื่องผู้หญิง

            ปัญหาสาวใช้อุ่นเตียงนั้น หลิวจินหลันพอมองผ่านได้ เพราะถือว่ากู้อิ่นมู่ไม่ได้หาความสำราญเพราะชอบ เพียงปลดปล่อยความใคร่ตามสัญชาตญาณของความเป็นบุรุษเพศเท่านั้น

            ตอนนี้ทั้งสองเดินเข้ามาถึงเรือนใหญ่แล้ว หลิวจินหลันหยุดยืน เงยใบหน้างามล้ำขึ้นมองชายหนุ่ม 

            กู้อิ่นมู่มองนางกลับ นัยน์ตาสีนิลจับจ้องมองนางราวกับรอคอยว่านางจะตอบสนองอย่างไร 

            หลิวจินหลันแสร้งตีหน้าว่ากำลังลำบากใจ “ทำอย่างไรดีเล่า ข้าเองคงยอมให้แม่ทัพกู้มีจางลู่คนที่สองหรือสามไม่ได้เหมือนกัน”

            คำตอบของนางทำเอากู้อิ่นมู่ถึงกับยิ้มมุมปาก หากเพียงครู่ก็หุบยิ้มลง แล้วเปลี่ยนมาทำสีหน้าลำบากใจยิ่งกว่า

            “ในเมื่อองค์หญิงไม่ยอมให้กระหม่อมมีสาวใช้อุ่นเตียง ทั้งกระหม่อมเองก็เป็นบุรุษสุขภาพดีถึงเพียงนี้ องค์หญิงคิดว่าพวกเราควรหาทางออกกับเรื่องนี้อย่างไรดี” เขาสูดปากพลางครุ่นคิด สักพักก็ได้ข้อเสนอ “เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ นับจากนี้กระหม่อมจะไปค้างแรมที่เรือนอวี้หลัน แต่ว่า องค์หญิงคงต้องลำบากสักหน่อยแล้ว”  

            กู้อิ่นมู่ยามนี้ไม่ได้รักหลิวจินหลัน ทว่าองค์หญิงผู้เย็นชา จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นสตรีขี้อ้อนในตอนที่จับไข้ และยังพูดจาทะลึ่งทะเล้นอย่างเรื่อง ‘ยิ่งทะเลาะยิ่งลูกดก’ ได้อย่างหน้าตาเฉย จึงทำให้เขารู้สึกสนใจในตัวนางขึ้นมา

            หลิวจินหลันรู้ว่ากู้อิ่นมู่ต้องการลองใจ แต่สำหรับนางแล้วถือว่าเป็นโอกาส!

            เห็นนางเงียบไป กู้อิ่นมู่คิดว่าที่พูดๆ กันมานั้นนางเพียงนึกสนุกอยากแกล้งให้เขาตายใจเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนคำพูด

            “องค์หญิงอย่าได้กังวล กระหม่อมไม่ได้ชั่วช้าถึงขั้นฝืนใจสตรีที่ไม่ยินยอมร่วมหลับนอนด้วยหรอกพ่ะย่ะค่ะ”

            “แม่ทัพกู้เข้าใจผิดแล้ว”

            “หือ...?”

            “พอแม่ทัพกู้บอกว่าจะมาค้างที่เรือนอวี้หลัว ข้าก็เกิดความคิดที่ว่าจากนี้ไปจะมีเหลนให้เสด็จย่าสักกี่คนดีนะ”

            นอกจากคำตอบจะอยู่เหนือความคาดหมาย หลิวจินหลันยังเจตนาพูดส่อไปทางนั้น กู้อิ่นมู่ตะลึงจนเก็บสีหน้าไม่อยู่ ริมฝีปากประเดี๋ยวอ้าประเดี๋ยวหุบ

            นางยิ้มกริ่ม หมุนปลายเท้า ก่อนจะเยื้องย่างออกจากเรือนด้วยสีหน้าอารมณ์ดี 

            “จ....เจ้า...องค์หญิง...”

            กู้อิ่นมู่มองตามแผ่นหลังหลิวจิวหลัน

            “ท่านแม่ทัพ ท่านทะเลาะกับองค์หญิงรองหรือขอรับ” พ่อบ้านกู้ถามอย่างงุนงง เพราะตอนเดินเข้ามาในจวนเห็นอยู่ว่าทั้งสองพูดคุยกันตามปกติ 

            “เฮ้อ...” กู้อิ่นมู่ถอนหายใจเฮือก หลังเก็บอาการตะลึงแล้วเขาก็โบกมือบอกพ่อบ้านกู้ว่า “ช่างเถอะ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาของท่านแม่ทัพ   บทที่ 38 บทพิเศษ

    เกิดใหม่เป็นฮูหยินของแม่ทัพ(อสูร)นั้นไม่ง่าย บทที่ 38บทพิเศษ วันเวลาล่วงเลยมาอีกเล็กน้อย แม้บาดแผลบนเอวของมู่ฉีหลินยังไม่หายสนิท ทว่าเวลาขยับตัวก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใดแล้ว นับตั้งแต่วันที่สุ่ยเซียนพูดความในใจออกมา การใช้ชีวิตของพวกเขายังคงดำเนินไปอย่างปกติ เหมือนการสารภาพครั้งนั้นไม่เคยเกิดขึ้น นั่นทำให้มู่ฉีหลินเกิดความกังวล กลัวว่าความหวานล้ำในวันนั้นอาจจะเป็นแค่ความฝัน และเป็นเขาเองที่ละเหม่อมเพ้อไปฝ่ายเดียว หลังมื้อเย็นของวันนี้ มู่ฉีหลินเดินออกมานอกจวน ภายนอกอาจดูเหมือนแม่ทัพอยู่ในอารมณ์สุนทรีย์ ออกมารับลมกลางคืน แต่แท้จริงชายหนุ่มกำลังคิดไม่ตก ไม่รู้ว่าจะเริ่มสานสัมพันธ์กับฮูหยินของตนอย่างไร อากาศกลางคืนยิ่งดึกยิ่งหนาวเย็น มู่ฉีหลินหมุนปลายเท้า เดินกลับเข้าจวน ภายในห้องนอนของฮูหยินท่านแม่ทัพ สุ่ยเซียนนั่งอ่านหนังสือประโลมโลกตรงโต๊ะกลางห้อง แม้ว่าสายตาของนางจะจดจ่ออยู่บนตัวหนังสือ แต่จิตใจกลับคิดไปเรื่องอื่น หลังจากวันนั้น สุ่ยเซียนกับมู่ฉีหลินก็ยังแยกห้องนอนเหมือนเดิม ไม่มีอะไรต่างออกไป ทั้งที่พวก

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาของท่านแม่ทัพ   บทที่ 37 บทส่งท้าย

    เกิดใหม่เป็นฮูหยินของแม่ทัพ(อสูร)นั้นไม่ง่าย บทที่ 37บทส่งท้าย “ม...มู่ฉีหลิน!?” ไม่เพียงถูกโอบกอดด้วยวงแขนอบอุ่น คำสารภาพครั้งที่สองทั้งหนักแน่นทั้งทรงพลัง ทำเอาสุ่ยเซียนถึงกับใจเต้นโครมคราม ตั้งแต่ที่มู่ฉีหลินกลับจวนมา ดูเหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย แม้ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย และถึงจะเข้าใจยาก แต่พอทุกอย่างดำเนินมาถึงตรงนี้ สุ่ยเซียนถึงเพิ่งเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร สุ่ยเซียนยกมือขึ้นผลักอกมู่ฉีหลิน เขาส่งเสียง “อึก!” พร้อมกับสีหน้าเจ็บปวดเล็กน้อย เมื่อเห็นอย่างนั้น สุ่ยเซียนรีบกล่าวขอโทษขอโพย ด้วยเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามู่ฉีหลินยังบาดเจ็บอยู่ “ขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจ” “ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้เจ็บหนักขนาดนั้น อีกอย่าง เป็นข้าต่างหากที่ต้องขอโทษเจ้า...สุ่ยเซียน ข้าขอโทษที่หลอกลวงเจ้า แต่บาดแผลนี้ได้มาจากการปะทะกับกลุ่มโจรพวกนั้นเป็นเรื่องจริง” สุ่ยเซียนไม่ได้ถือสาที่ถูกหลอกลวง ขอแค่เขาไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว กระนั้น ก็ไม่วายถามด้วยความเป็นห่วง “ท่านเจ็บหรือไม่” มู่ฉีหลินส่ายหน้าตอบ

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาของท่านแม่ทัพ   บทที่ 36 ความดีของมู่ฉีหลิน ได้รับการตอบแทนแล้ว

    เกิดใหม่เป็นฮูหยินของแม่ทัพ(อสูร)นั้นไม่ง่าย บทที่ 36ความดีของมู่ฉีหลิน ได้รับการตอบแทนแล้ว เป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่าๆ ที่มู่ฉีหลินเดินทางลงใต้ ปราบโจรชั่ว และใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวง การปราบปรามโจรไม่ได้ลำบากด้านฝีมือ แต่เสียเวลากับการเดินทาง และยังยุ่งยากกับการหาที่ซ่อนตัวของพวกมัน สรุปแล้ว มู่ฉีหลินจัดการกลุ่มโจรชั่วได้อย่างเสร็จสรรพ และเป็นไปตามกำหนดการที่วางเอาไว้ ทว่า...ถ้าจะพูดถึงปัญหาคงติดอยู่เรื่องเดียว นั่นคือการได้รับบาดเจ็บระหว่างต่อสู้กับกลุ่มโจรพวกนั้น และเพราะเรื่องนี้เอง ทำให้การกลับเข้าเมืองหลวงครั้งนี้ มู่ฉีหลินไม่ได้นั่งบนหลังอาชาศึกด้วยท่วงท่างามสง่า แต่ได้นั่งๆ นอนๆ อยู่ในรถม้า ทั้งร่างกายและบนใบหน้ายังถูกพันด้วยผ้าพันแผลเต็มไปหมด “แปลกเสียจริง เหตุใดถึงไม่เห็นแม่ทัพอสูรเล่า” “จริงด้วย” “ที่ว่ากันว่า โจรชั่วพวกนั้นเป็นยอดฝีมือในยุทธภพเห็นจะเป็นเรื่องจริง” “ทำไมรึ” “ก็ถ้าไม่เห็นแม่ทัพอสูรนั่งอยู่บนหลังม้าหน้าขบวนอย่างทุกที อาจเป็นไปได้ว่าเขาจะถูกโ

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาของท่านแม่ทัพ   บทที่ 35 นั่นเรียกว่าความคะนึงหา

    เกิดใหม่เป็นฮูหยินของแม่ทัพ(อสูร)นั้นไม่ง่าย บทที่ 35นั่นเรียกว่าความคะนึงหา ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น ณ คฤหาสน์ตระกูลมู่ ปัง! เสียงทุบโต๊ะดังขึ้น ก่อนที่เสียงโกรธเกรี้ยวของมู่ฮูหยินจะดังตามมาทีหลัง “ทั้งที่เพิ่งแต่งภรรยาไม่นาน ฉีหลินเสนอตัวออกไปปรามโจรชั่ว เดินทางแต่ละครั้งใช้เวลาเป็นเดือนๆ ต่อให้มีปัญหากัน แต่ทำเช่นนี้ไม่เกินไปหน่อยรึ” ในช่วงบ่ายแก่ๆ ทันทีที่มู่ซื่อจื่อผู้เป็นสามีกลับมาถึงคฤหาสน์ บอกกล่าวเรื่องของมู่ฉีหลินบุตรชายคนรอง ซึ่งอาสาออกไปปราบกองโจรที่กำลังเป็นปัญหาในเมืองทางใต้ตอนนี้ให้ภรรยาฟัง มู่ฮูหยินก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ทุบโต๊ะอย่างไม่ยั้งกำลัง ทำให้โต๊ะไม้จื่อถานสีดำที่มีความหนาเกิดรอยร้าวเล็กน้อย “ข้าเองก็กังวลใจไม่แพ้ฮูหยิน อัดอั้นอยากรีบกลับมาบอกโดยเร็ว แต่ที่กรมก็มีงานให้สะสางมากมาย อีกอย่าง ดูจากท่าทาง เหมือนฉีหลินต้องการเร่งออกเดินทางเร็วๆ พวกเราควรทำเช่นไรดี” มู่จื่อซื่อบอกและถามภรรยาในประโยคเดียวกัน “ข้าจะไปถามฉีหลินให้รู้เรื่อง” มู่ฮูหยินลุกพรวด “ช้าก่อนท่านแม่”

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาของท่านแม่ทัพ   บทที่ 34 หวั่นไหว และ อาการของความเสียใจ

    เกิดใหม่เป็นฮูหยินของแม่ทัพ(อสูร)นั้นไม่ง่าย บทที่ 34หวั่นไหว และ อาการของความเสียใจ สุ่ยเซียนรู้สึกว่ากำลังถูกมู่ฉีหลินหลบหน้าอยู่? ตั้งแต่วันที่เซี่ยงจวิ้นมาเพื่อตัดความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิง ในตอนนั้นมู่ฉีหลินยื่นมือออกมาทำท่าจะคว้าสุ่ยเซียน สายตาสื่อคล้ายต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง สุ่ยเซียนตั้งใจว่าหลังกลับเข้าจวนจะถามมู่ฉีหลินให้รู้ความ รวมถึงบอกกล่าวความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเซี่ยงจวิ้นที่คลี่คลายแล้ว การพูดคุยกันอย่างเปิดอก บอกกล่าวเรื่องราวอย่างตรงไปตรงมา เป็นการแสดงออกอย่างบริสุทธิ์ใจในแบบของนาง ทว่า มู่ฉีหลินกลับหนีออกจากจวนไปดื้อๆ หลังจากนั้นก็เหมือนว่าจะคาดกันตลอด มู่ฉีหลินตื่นเช้ากว่าปกติ และออกจากจวนไปก่อนที่นางจะออกจากห้อง หากเช้าวันไหนบังเอิญเจอกันกลางห้องโถง เขาเพียงแค่ทักทายนางด้วยการพยักศีรษะพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ในช่วงเย็น มู่ฉีหลินจะกลับเย็นกว่าปกติ ซ้ำยังบอกว่ากินมื้อเย็นมาจากบ้านเฉินเจี๋ยซูแล้วเนื่องจากมีเรื่องสำคัญต้องปรึกษา สำหรับสุ่ยเซียน ดูอย่างไรเขาก็ตั้งใจหลบหน้านางไม่ใช่หรือ จากความสงสัยเริ่มกลายเป็

  • เกิดใหม่เป็นภรรยาของท่านแม่ทัพ   บทที่ 33 แผนของเฉินเจี๋ยซู

    เกิดใหม่เป็นฮูหยินของแม่ทัพ(อสูร)นั้นไม่ง่าย บทที่ 33แผนของเฉินเจี๋ยซู แม้ไม่อยากคิด แต่ก็เคยสงสัยว่าหากสุ่ยเซียนกับเซี่ยงจวิ้นตกลงปลงใจด้วยกันจริงๆ ตนจะยอมรับเรื่องนี้ได้มากน้อยแค่ไหน ถึงสุ่ยเซียนไม่เคยบอกว่าเลือกทางนั้น ลำพังแค่เพียงเรื่องเข้าใจผิดระหว่างมู่ฉีหลินกับนาง เหมารวมเอาความใส่ใจที่นางมอบให้มาคิดเข้าข้างตัวเองว่าเป็นความรัก นั่นก็เพียงพอทำให้มู่ฉีหลินรู้ว่าตนเองไม่ได้เข้มแข็งเลยสักนิด ความรู้สึกที่มาไกลทำให้มู่ฉีหลินเจ็บปวดและอับอายทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับสุ่ยเซียน ยิ่งต้องมาทนเห็นนางออกไปพบเซี่ยงจวิ้นก็ยิ่งยอมรับไม่ได้ จึงเป็นฝ่ายหนีออกจากจวนทางประตูหลังเพื่อหลบไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง รู้ตัวอีกที มู่ฉีหลินก็มาหยุดอยู่หน้าบ้านของเฉินเจี๋ยซูเสียแล้ว ตั้งแต่มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่มั่นคง เฉินเจี๋ยซูก็ย้ายออกจากตระกูลใหญ่เพื่อมาอยู่คนเดียว ด้วยการซื้อบ้านหลังเล็กในตรอกที่เงียบสงบ ถึงกระนั้น ชายหนุ่มตัวคนเดียวและรักสันโดษอย่างเฉินเจี๋ยซูหาได้ขาดตกบกพร่องเรื่องอาหารการกินแต่อย่างใด เพราะมารดาของเขามักจะทำอาหารและส่งมาให้ลูกชายอยู่เ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status