Share

ตอนที่ 4 สาวใช้คนสนิ๊ทสนิท

last update Last Updated: 2025-08-30 15:12:40

จินฝูมาถึงได้ไม่นานกู้เหยียนฉีก็ออกมาจากห้องนอนพอดี หญิงสาวลอบพรูลมหายใจออกมา โชคดีที่นางมาทันไม่อย่างนั้นอาจจะโดนทำโทษที่มาสายอีกหนึ่งกระทง

 กู้เหยียนฉีปรายตามองเหล่าสตรีตรงหน้าคราหนึ่ง อย่างไรก็ต้องเลือกพวกนางให้มารับใช้ในเรือนใหญ่อยู่ดี หากเขาไม่ทำเช่นนี้ เจี่ยงฮองเฮาย่อมไม่ยอมรามือไม่สู้ตามน้ำนางไปก่อนก็ไม่นับว่าเสียหายอันใด

ด้านฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์ที่เห็นว่าจินฝูมาทันเวลา ก็ดีใจมาก พวกนางเป็นห่วงจินฝูแทบตายเกรงว่านางจะถูกทำโทษซ้ำสอง

"จินฝู ตาเจ้า?"

ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์ชี้ไม้ชี้มือมาที่ดวงตาของนาง จินฝูบอกเพียงว่าระหว่างที่เดินมาที่นี่นางเกิดหกล้มตากระแทกพื้นและไม่ได้เอ่ยอันใดต่ออีก

 ยามนี้ดวงตาของนางคงช้ำเลือดได้ที่แล้ว ดีมาก เป็นไปตามแผน ใครอยากจะปรนนิบัติเขาก็ทำไปเถอะ นางยอมต่อยตาตนเองจนบอดก็จะไม่ยอมตกเป็นทาสรักของเขา

กู้เหยียนฉีมองสำรวจสตรีทุกคนในห้องโถงอย่างละเอียด วันนี้พวกนางตั้งใจผลัดแป้งแต่งหน้ากันอย่างตั้งใจ กลิ่นเครื่องประทินโฉมลอยมาแตะจมูกจนเขารู้สึกฉุน ชายหนุ่มเดินมาหาเหล่านางกำนัลที่ยืนอยู่พลางมองสำรวจพวกนางไปทีละคน เหล่านางกำนัลที่ถูกเขาจ้องมองก็เขินอายจนตัวม้วน บางคนถึงกับลอบส่งสายตายั่วยวนให้เขาอย่างโจ่งแจ้ง กู้เหยียนฉียกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา

"พ่อบ้านตู้ นางกำนัลห้าคนนี้ส่งสายตาไม่เหมาะไม่ควรให้แก่ข้า ส่งพวกนางกลับวังหลวงไปเสียและห้ามไสหัวกลับมาอีก หากพวกนางยังไม่ยอมจากไป ก็ขายทิ้งไปเป็นทาสซะ"

เหล่านางกำนัลที่ลอบส่งสายตายั่วยวนให้กู้เหยียนฉีถึงกับเข่าอ่อน ยังไม่ทันได้ร้องขอความเมตตาพวกนางก็ถูกลากตัวออกไปจากเรือนใหญ่เสียแล้ว เหล่านางกำนัลคนอื่นๆเริ่มหวาดกลัวและไม่กล้ามีความคิดที่ไม่บังควรอีก

 จินฝูลอบซูดปาก ประหลาดคนเกินไปแล้ว เขามาอารมณ์ไหนกัน แบบนั้นก็ไม่ชอบ แบบนี้ก็ไม่ถูกใจ เรื่องมากเช่นนี้ใครจะอยากรับใช้เขากัน หากต้องปรนนิบัติคนเช่นนี้ นางยอมเอาส่วนนั้นถูเสาเสียดีกว่า!

"เจ้าสองคน ต่อไปคอยทำความสะอาดเรือนใหญ่ของข้า ข้าเลือกพวกเจ้า"

ฉินเซียงกับซ่งเอ๋อร์ที่ได้รับเลือกก็ดีใจมาก แม้จะเป็นเพียงสาวใช้ทำความสะอาดนอกเรือนก็ถือว่าดีถมเถไป ยามใดที่ท่านอ๋องอารมณ์ดีและตกรางวัลให้พวกนางเล็กๆน้อยๆก็ถือว่าเมตตาพวกนางมากแล้ว แต่ถ้าหากเขาโปรดปราณรับพวกนางเป็นอนุ เช่นนั้นก็ถือว่าเป็นวาสนาแปดชาติ

กู้เหยียนฉีเดินสำรวจนางกำนัลคนแล้วคนเล่า จนมาหยุดอยู่ตรงหน้าจินฝู ชายหนุ่มย่นหว่างคิ้วเล็กน้อย

"ตาเจ้าไปโดนอันใดมา?"

จินฝูที่ได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้าไปมองเขาพร้อมกับยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

"เรียนท่านอ๋อง หม่อมฉันคงไม่อาจปรนนิบัติพระองค์ในเรือนใหญ่ได้แล้วเพคะ เพราะหม่อมฉันเป็นโรคเลือดรอบดวงตาไม่ไหลเวียนเพคะ อาการมักจะกำเริบทุกสามวันห้าวัน หม่อมฉันไม่อยากนำไออัปมงคลมาให้ท่านอ๋องเพคะ"

"โรคเลือดรอบดวงตาไม่ไหลเวียน?"

"เพคะ"

กู้เหยียนฉีลอบเยาะหยันในใจ ก่อนจะหันไปมองพ่อบ้านตู้ที่ยืนอยู่ไม่ไกล วันนี้พ่อบ้านตัวดีของเขาเงียบผิดปกติ อีกทั้งดวงตาของพ่อบ้านตู้ก็ช้ำเลือดช้ำหนองไม่ต่างจากจินฝูด้วย

 จินฝูหันไปสบตากับพ่อบ้านตู้โดยไม่ตั้งใจก่อนที่นางจะสะดุ้งโหยง พ่อบ้านตู้ก็ตกใจไม่ต่างกัน กู้เหยียนฉีนึกสนุกขึ้นมา

“พวกเจ้าสองคน ป่วยเป็นโรคเลือดรอบดวงตาไม่ไหลเวียนเหมือนกันเลยหรือ?”

จินฝูยกมือขึ้นเกาศีรษะ ด้านพ่อบ้านตู้ก็ร้องโอดครวญขึ้นมาทันที

"ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง นางกำนัลจิน ไหนเจ้าบอกว่าการต่อยตาตนเองจะช่วยบำรุงดวงตาได้ ข้าทำตามเจ้าแล้ว แต่ตอนนี้ตาข้าเบลอไปหมด อีกเดี๋ยวต้องไปหาท่านหมอให้ช่วยตรวจให้ นี่มันเป็นวิธีที่เจ้าใช้บำรุงดวงตาจริงๆหรือ!"

จินฝูลอบจุดเทียนไว้อาลัยให้กับตนเองพลางก่นด่าพ่อบ้านตู้ในใจ พ่อบ้านตู้ตาแก่บัดซบนี่ ผู้ใดใช้ให้มาต่อยตาตามนางกันเล่า!

กู้เหยียนฉีเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็คาดเดาเรื่องราวได้ในทันที จินฝูไม่อยากรับใช้เขา นางจึงต่อยดวงตาตนเองแล้วอ้างว่าป่วย?

เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเจอสตรีบ้าบอคอแตกเช่นนี้!

"ต่อไปเจ้าคอยรับใช้อยู่ข้างกายข้า"

"หา!"

จินฝูถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินที่กู้เหยียนฉีเอ่ย แต่เมื่อเห็นสายตาเหมือนจะฆ่าคนของเขาแล้ว นางจึงรีบยกมือขึ้นปิดปากตนเองทันที

ไหนพ่อบ้านตู้บอกว่าเขาชอบสตรีที่ดวงตางดงามระยิบระยับไม่ใช่หรือ สภาพดวงตานางช้ำเลือดขนาดนี้เขายังเลือกนางอีกหรือ โด่ พ่อบ้านตู้นี่เชื่อไม่ได้เลย!

กู้เหยียนฉีเดินเข้ามาใกล้ๆจินฝู ก่อนจะเอ่ยกับนางช้าๆ

"ข้าลืมบอกเจ้าไป ข้าชอบคนที่ดวงตาช้ำเลือดช้ำหนองเป็นที่สุด มันดูแปลกใหม่น่าค้นหาดี"

ตาเถร น่ากลัวนัก รสนิยมเขาจะดำดิ่งเกินไปแล้ว!

จินฝูลอบก่นด่ากู้เหยียนฉีในใจแต่กลับไม่อาจโอดครวญออกมาได้

ท้ายที่สุด มีเพียงนางกำนัลสามคนที่ได้รับเลือกคือ จินฝู ฉินเซียง และซ่งเอ๋อร์

"ต่อไปพวกเจ้าสามคนย้ายขึ้นมาอยู่เรือนปีกข้าง ข้าจะได้เรียกใช้งานพวกเจ้าได้สะดวก"

จินฝูหมดอาลัยตายอยากแล้ว ยิ่งหนียิ่งเจอ นางรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังจะเอานางไปทรมานเสียอย่างไรอย่างนั้น

เมื่อไม่มีอันใดแล้วกู้เหยียนฉีจึงบอกให้พวกนางแยกย้ายกันออกไปได้ จินฝูและสหายอีกสองคนต้องเก็บของไปอยู่ที่เรือนปีกข้าง เหล่านางกำนัลคนอื่นๆต่างมองนางด้วยสายตาริษยา โดยเฉพาะเสิ่นหลีที่มองจินฝูอย่างไม่ละสายตา จินฝูเองเข้าใจได้ เสิ่นหลีหมายตาที่จะเป็นอนุของกู้เหยียนฉี อยากรับใช้ข้างกายเขา แต่กลับไม่ได้รับเลือก นางจะแค้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด

หลังจากที่พวกนางย้ายเข้ามาอยู่ที่เรือนปีกข้างแล้ว เช้าวันต่อมาจินฝูก็ต้องมาทำหน้าที่ดูแลในเรือนใหญ่ตามที่ได้รับมอบหมาย ส่วนฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์นั้นก็ไปทำความสะอาดรอบๆเรือนใหญ่ตามหน้าที่ของตน

 เหล่านางกำนัลคนอื่นๆอิจฉานางจนตาลุกเป็นไฟ เพราะมีเพียงนางเท่านั้นที่สามารถรับใช้ใกล้ชิดกู้เหยียนฉีได้ แต่จินฝูไม่รู้สึกดีใจแม้แต่น้อย นางยังไม่รู้ว่าจะต้องรับมือกับเขาอย่างไร แล้วหากต้องปรนนิบัติเขาเรื่องอย่างว่าจริงๆ หากนางทำไม่ถูกใจเขาแล้วเขาบีบคอนางตายคาเตียง นางคงไม่อาจจะขัดขืนได้

"นางกำนัลจิน เจ้าจะยืนเหม่ออีกนานหรือไม่?”

จินฝูได้สติกลับคืนมาทันทีที่ได้ยินเสียงพ่อบ้านตู้ นางจึงหันไปยิ้มให้เขาเล็กน้อย พ่อบ้านตู้ที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยกับจินฝูทันที

“นี่คืออาหารเช้าของท่านอ๋อง ท่านอ๋องชอบกินโจ๊กไก่ในยามเช้า ส่วนยามบ่ายต้องจัดเป็นชาหลงจิ่งคู่กับขนมดอกกุ้ยฮวา รสชาติห้ามหวานเลี่ยนเกินไป  จำไว้ว่าจะต้องปรนนิบัติท่านอ๋องให้ดี อย่าให้ขาดตกบกพร่องเข้าใจหรือไม่?"

"เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ"

จินฝูรับคำก่อนจะจัดการยกอาหารเข้าไปด้านใน ยามนี้กู้เหยียนฉีเพิ่งจะอาบน้ำเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จ เมื่อออกมาก็พบว่าจินฝูกำลังยืนรออยู่และยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน แต่รอยยิ้มของนางดูฝืดฝืนชอบกล

"ท่านอ๋อง ได้เวลาเสวยอาหารเช้าแล้วเพคะ"

กู้เหยียนฉีพยักหน้าคราหนึ่ง แล้วจึงเดินมาที่โต๊ะอาหาร เขานั่งกินอาหารอย่างไม่รีบไม่ร้อน ท่วงท่าดูสง่างามจนจินฝูละสายตาไปจากเขาไม่ได้ กู้เหยียนฉีลอบยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยทำเป็นมองไม่เห็นสายตาที่นางลอบมองเขา

อยู่ๆท้องของจินฝูก็เกิดร้องขึ้นมา นางถึงกับทำหน้าไม่ถูก นั่นเป็นเพราะว่านางหิวมากจริงๆ เมื่อเช้ายังไม่ได้กินอาหารเช้าเลย และคงต้องรอให้เขากินอิ่มเสียก่อน นางจึงจะสามารถไปกินได้ กู้เหยียนฉีที่ได้ยินเสียงท้องของนางร้องก็ทำเป็นไม่ได้ยิน อีกทั้งยังเอ่ยถามนางเรื่องอื่นอีกด้วย

"คุ้นเคยกับเรือนใหญ่หรือยัง?"

"โจ๊กหอมมากเพคะ"

กู้เหยียนฉีที่กำลังจะคีบอาหารขึ้นมากินพลันหันขวับมามองจินฝูทันที จินฝูสะดุ้งโหยงพลางยิ้มกลบเกลื่อน

"เมื่อครู่เจ้าเอ่ยว่าอันใดนะ?"

"เอ่อ เมื่อครู่ท่านอ๋องทรงถามว่าอันใดนะเพคะ?”

"ข้าถามว่า เจ้าคุ้นเคยกับเรือนใหญ่แล้วหรือยัง?"

"อ้อ คุ้นเคยแล้วเพคะ แหะแหะ"

แม้ปากจะพูดกับเขาแต่ดวงตาของนางกลับเอาแต่จ้องมองซาลาเปาบนโต๊ะอย่างไม่ละสายตา กู้เหยียนเกิดมาก็เพิ่งเคยเจอสตรีที่แสดงท่าทางตละกละอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ทำเอาเขาเอ่ยวาจาใดไม่ออกไปชั่วขณะ

จินฝูลอบกลืนน้ำลายลงคอ ตอนนี้โจ๊กในถ้วยถูกเขากินไปแล้ว แต่ซาลาเปาแป้งนุ่มเด้งนั่นเขายังไม่ได้กินเลย ดูสิ น่ากินนัก นางอยากจะกินมันทีเดียวให้หมดจานเลย

"น้ำลายเจ้าไหลจะถึงคางแล้ว"

จินฝูเมื่อได้ยินก็รีบยกมือขึ้นปิดปากพร้อมกับสงวนท่าทีให้สงบเสงี่ยมมากยิ่งขึ้น กู้เหยียนฉีไม่เอ่ยอันใด เขายื่นมือไปยกจานซาลาเปามามอบให้นาง จินฝูที่เห็นอย่างนั้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก

“ให้หม่อมฉันหรือเพคะ?”

“ไม่อยากกินหรือ?”

“อยากกินสิเพคะ พระกรุณาจากท่านอ๋อง หม่อมฉันย่อมต้องรับเอาไว้อยู่แล้ว”

จินฝูรีบยื่นมือไปรับจานซาลาเปามาทันที

วันนี้เขาหล่อมาก หล่อกว่าทุกวัน หล่อชั่วฟ้าดินสลาย!

นางรับซาลาเปามากิน พบว่ารสชาติดีมาก เนื้อในซาลาเปาฉ่ำน้ำยิ่งนัก นางกินหมดไปหนึ่งลูกแล้ว และกำลังจะกินลูกที่สอง อยู่ๆกู้เหยียนฉีก็เอ่ยขึ้นมา

"บางคราซาลาเปานี่อาจมีพิษ เจ้ากินไปแล้ว ก็สังเกตดูอาการของตนเองด้วย หากไม่ตายก็คือรอด"

จินฝูชะงักไปชั่วขณะ พลางมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง นี่เขากำลังหลอกใช้นางเพื่อทดสอบพิษในอาหารอย่างนั้นหรือ!

ชั่วช้าสามานย์ถึงเพียงนี้เชียวพ่อหนุ่ม?

กู้เหยียนฉีที่เห็นว่านางมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกก็รู้สึกสนุกมากขึ้นทุกที

"เจ้ากลัวตายหรือไม่นางกำนัลจิน?"

จินฝูที่ถูกถามเช่นนี้แผ่นหลังก็พลันเยียบเย็นขึ้นมา หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วจึงเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"กลัวเพคะ แต่กลัวไม่ได้กินมากกว่า"

เอ่ยจบนางก็ยัดซาลาเปาที่เหลือในจานเข้าปากจนหมด ไหนๆก็ใกล้จะตายแล้ว เรื่องอะไรนางจะยอมหิวจนตายกันเล่า ไม่สู้กินให้อิ่มจนท้องแตกตายเสียยังดีกว่า จากนั้นก็ซ้อมตาย เลือกท่าตายที่สวยที่สุด อย่างไรก็เป็นถึงอดีตนางเอกดาวรุ่ง จะตายทั้งทีต้องสวยไว้ก่อน

 หลังจากกินซาลาเปาหมดแล้ว นางจึงหันมาเอ่ยกับกู้เหยียนฉีด้วยสีหน้าจริงจัง

"ท่านอ๋องเพคะ ไหนๆหม่อมฉันก็จะต้องตายเพราะพิษในอาหารอยู่แล้ว เช่นนั้น เกี้ยวนึ่งกับปลาราดพริกสองจานนั้น หม่อมฉันขอกินก่อนตายได้ไหมเพคะ?"

กู้เหยียนฉี"......"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   ตอนพิเศษ

    กู้เหยียนฉีจำได้ว่าช่วงเวลานั้นเป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ในตอนนั้นเขาและจินฝูยังเป็นเพียงข้ารับใช้และเจ้านาย ไม่ได้มีความรักลึกซึ้งอันใดต่อกันเลยแม้แต่น้อยอากาศเช้านี้ค่อนข้างเย็นสบายไม่น้อยเลย หลังจากที่เตรียมอาหารมื้อเช้าให้กู้เหยียนฉีเสร็จเรียบร้อยแล้ว จินฝูก็ตรงมายังห้องโถงใหญ่เพื่อปรนนิบัติเขากินอาหารมื้อเช้า นี่คืองานที่นางต้องทำในแต่ละวัน จะขาดตกบกพร่องไม่ได้ เมื่อมาถึงก็พบว่ากู้เหยียนฉีตื่นนอนแล้ว ชายหนุ่มกินอาหารเช้าและแบ่งให้นางกินเหมือนกับทุกวันที่เคยทำ จินฝูรู้สึกฟินมาก ท้องอิ่มหนังตาก็เริ่มหย่อน แต่นางยังไม่ทันจะไปนอนก็ได้ยินกู้เหยียนฉีเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน"ตามข้าไปที่ห้องนอนด้วย"เอ่ยจบเขาก็เดินตรงไปรอนางที่ห้องนอนทันที จินฝูที่ได้ยินเช่นนั้นใจก็เต้นถี่ระรัว นางกำมือแน่น พลางครุ่นคิดในใจอย่างหวาดหวั่นนี่นางกับเขา ต้องทำเรื่องอย่างว่ากันแล้วอย่างนั้นหรือ?!แม้ในใจจะร้องโอดครวญ แต่กลับไม่อาจปฏิเสธ ในเมื่อนางเป็นคนของเขาแล้ว การที่เขาจะทำอันใดกับนางก็นับว่าไม่ผิด หญิงสาวถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง แล้วจึงเดินตามเขาเข้าไปในห้องนอน เมื่อมาถึงก็พบว่ายามนี้กู้เหยียนฉีกำลังนั่งอยู่บนเตี

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 33 ครองราชย์

    วันคืนล่วงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็กู้เหยียนฉีและจินฝูก็ได้แต่งงานกัน พิธีการจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมฐานะมีผู้คนมาร่วมเฉลิมฉลองกันอย่างคึกคัก ก่อนที่เขาและนางจะแต่งงานกัน กู้เหยียนฉีพาจินฝูไปเที่ยวชมสถานที่งดงามและกินดื่มอย่างสำราญใจ นางจึงมีความสุขเป็นอย่างยิ่งการแต่งงานครั้งนี้มิใช่การแต่งงานธรรมดา แต่เป็นการสถาปนาการขึ้นครองราชย์ของกู้เหยียนฉีด้วยแม้จะไม่ต้องการสักเท่าไร่ แต่กู้เหยียนฉีรู้ดีว่าสุดท้ายแล้ว มันคือหน้าที่ของเขา อย่างน้อยเขาก็ยังมีจินฝูที่เป็นแสงสว่างในชีวิตของเขา ขอเพียงมีนางในวังหลวงที่น่าเบื่อแห่งนี้ก็งดงามขึ้นมาทันตาหลังจากกู้เยียนฉีขึ้นครองราชย์ กู้ฟานก็สละราชบัลลังก์ เขาใช้บั้นปลายชีวิตไปกับการอ่านตำราและวาดภาพอยู่ที่ตำหนักท้ายวังหลวง ทุกวันผ่านไปอย่างมีความสุข กู้เหยียนฉีเองก็ดูแลเขาเป็นอย่างดี ส่วนจินฝูนั้นเป็นเด็กร่าเริงอารมณ์ดี นางมักจะชอบมาเล่าเรื่องต่างๆให้เขาฟัง ทำให้เขาไม่เหงาเลยแม้แต่น้อยรัชศกฉีปีที่หนึ่ง กู้เหยียนฉีขึ้นครองราชย์ และแต่งตั้งจินฝูเป็นฮองเฮา เหล่าขุนนางไม่กล้าคัดค้าน เพราะฮองเฮาพระองค์ใหม่คือกำลังสำคัญเช่นกันที่ทำให้ฝ่าบาททรงได้ขึ้นค

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 32 สงบสุขร่มเย็น

    กบฏตระกูลเจี่ยงถูกสังหารสิ้นแล้ว อีกทั้งราชสำนักยังประกาศความชั่วของพวกเขาให้ราษฏรทั่วทั้งใต้หล้าได้รับรู้เจีี่ยงฉยงอดีตแม่ทัพใหญ่ มีใจคิดไม่ซื่อ ลอบวางยาพิษเจ้าแผ่นดิน และลอบสังหารอดีตชินอ๋อง โชคดีที่สวรรค์เมตตาให้อดีตชินอ๋องทรงรอดชีวิตกลับมาได้ และกลับมาทวงคืนความยุติธรรมให้บ้านเมืองได้สำเร็จส่วนเจี่ยงหว่าน อดีตฮองเฮานั้น เพียงเพราะหลงใหลในอำนาจ จึงตบตาฮ่องเต้แต่งเข้าวังหลังมาทั้งที่ตั้งครรภ์บุตรกับชายอื่น และยังฆ่าปิดปากชายคนรักเพื่อไม่ให้เขากลับมาเปิดโปงความเลวทรามต่ำช้าของตน ซ้ำร้ายยังลอบส่งนักฆ่าไปสังหารกู้เหยียนฉีหลายต่อหลายครั้งด้วย กู้ม่อหลีแท้จริงแล้วไม่ใช่บุตรของโอรสสวรรค์ เขาเป็นองค์ชายตัวปลอม ส่วนองค์ชายใหญ่ที่แท้จริงซึ่งมีสายเลือดของฝ่าบาทไหลเวียนอยู่ในกายคือกู้เหยียนฉี องค์ชายใหญ่ตัวจริงที่ต้องปิดบังสถานะของตนเองเพื่อหาทางเอาตัวรอดและกำจัดคนชั่ว คนตระกูลเจี่ยงมีโทษหลอกลวงเบื้องสูง ให้ขายบ่าวในจวนทิ้งไปเสีย ยึดทรัพย์สินทั้งหมดเข้าคลังหลวง บุรุษให้สังหารทิ้งทั้งหมด ส่วนสตรีให้เนรเทศไปอยู่ที่ชายแดนแร้นแค้น ชั่วชีวิตนี้อย่าได้คิดจะกลับเข้าเมืองหลวงอีกผู้คนที่ได้รับรู้ต

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 31 ร่ำลา

    กู้เหยียนฉีเดินเข้าไปในตำหนักที่กู้ฮ่องเต้พักรักษาตัวอยู่ด้วยใบหน้าที่เลื่อนลอย ครั้งนี้จินฝูไม่ได้ตามไปด้วย เพราะอยากให้พ่อลูกได้พูดคุยกันอย่างเปิดใจกู้ฮ่องเต้ได้สติฟื้นตื่นขึ้นมาแล้ว แต่เพราะสำลักควันไฟเข้าไปเป็นจำนวนมาก และยังถูกพิษมาก่อนหน้านี้ ทำให้ร่างหายของเขาย่ำแย่ลงไปมาก เขาให้นางกำนัลประคองตนนอนเอนพิงหมอนบนเตียง แล้วจึงให้พวกนางออกไปให้หมด ยามนี้จึงเหลือเพียงกู้เหยียนฉีและกู้ฟานเพียงเท่านั้นกู้ฮ่องเต้กระแอมไออยู่ตลอดเวลา เขาพยายามฝืนประคองตนให้ยืนหยัดเอาไว้ แล้วจึงเงยหน้าไปมองกู้ฟานน้องชายของตน"น้องสี่ ขอบใจเจ้ามากนะ หากไม่มีเจ้า ข้าคงไร้สามารถไม่อาจทำสิ่งใดได้ แค่กแค่ก"กู้ฟานน้ำตาไหล เขารีบเดินเข้าไปจับมือพี่ชายตนเอาไว้"พี่สาม ท่านเก่งที่สุดแล้ว ถึงแม้พวกเราจะไมได้เกิดจากมารดาคนเดียวกัน แต่ข้าก็รักท่านมาก รักท่านเหมือนพี่ชายร่วมมารดาเดียวกัน"กู้ฮ่องเต้พยักหน้า ก่อนจะหันมามองกู้เหยียนที่ยืนอยู่ไม่ไกล กู้ฮ่องเต้ยิ้มอย่างอ่อนแรงรู้สึกว่าตนเองเริ่มจะไม่ไหวมากขึ้นทุกที"ฉีหลาง เจ้ายังโกรธพ่ออยู่หรือ แต่ช่างเถิด ยามนี้คนตระกูลเจี่ยงตายสิ้นแล้ว เจ้าโกรธพ่อนานอีกสักหน่อย พ่อก

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 30 ความจริงที่แสนเจ็บปวด

    กู้เหยียนฉีที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันไปมองกู้ฟานด้วยความสงสัย ด้านจินฝูนั้นคิดว่าเรื่องที่พวกเขาจะพูดคุยกันย่อมเป็นเรื่องสำคัญ นางจึงบอกว่าจะไปรอเขาที่ด้านนอกตำหนักเสียก่อน แต่ทว่ากู้เหยียนฉีกลับยื่นมือของตนมารั้งตัวนางเอาไว้ จินฝูมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความสงสัยปราดหนึ่ง แล้วจึงพบว่าเขากำลังมองนางด้วยแววตาอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง"เสด็จอา นางเป็นคนรักของหลานเป็นคนที่พวกเราไว้ใจได้พ่ะย่ะค่ะ อีกทั้งเรื่องที่เหล่ากองทัพเสริมของเจี่ยงฉยงถูกระเบิดจนล้มตายไปกว่าครึ่ง ก็เป็นฝีมือของนาง"กู้ฟานหันมามองจินฝูด้วยสายตาเอ็นดู"ที่แท้ก็เป็นหลานสะใภ้ของข้าเองหรือ"จินฝูยิ้มให้กู้ฟานอย่างนอบน้อม ตอนที่ได้ยินว่าเขายังไม่ตาย นางแอบตกใจอยู่ไม่น้อย ไม่คิดเลยว่าเรื่องราวต่างๆจะซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากมายถึงเพียงนี้กู้ฟานเองเมื่อรู้ว่าจินฝูคือคนสำคัญของกู้เหยียนฉีก็ไม่ได้ระแวดระวังสิ่งใดอีกเขาทอดถอนใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า"ฉีหลาง อารู้ว่าหลายปีมานี้เจ้าคับแค้นใจมาก เจ้าคงรู้แล้วว่าเสด็จพี่คือบิดาของเจ้า อาเองก็มีส่วนผิดเช่นกันที่รู้เรื่องราวทุกอย่างแต่กลับไม่อาจบอกกล่าวกับเจ้าได้"กู้เหยียนฉีกำมือแน่น ใบหน้าฉายแววเย็

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 29 สะสางหนี้แค้นระหว่างกัน

    กู้เหยียนฉีและจินฝูรีบกลับเข้าเมืองหลวง ก่อนไปยังสั่งให้องค์รักษ์พาครอบครัวของจินฝูและคนในจวนอ๋องกลับเข้าเมืองหลวงโดยเร็ว ส่วนพ่อบ้านตู้และฉินเซียง ซ่งเอ๋อร์ก็เร่งรุดกลับไปที่จวนอ๋องเพื่อตรวจดูว่ามีตรงไหนเสียหายบ้างหรือไม่ ระหว่างทางที่กลับเข้าวังหลวง เขาและนางได้พบเจอกู้ม่อหลีเข้าเสียก่อน กู้ม่อหลีจ้องมองกู้เหยียนฉีด้วยความเคียดแค้น เขาไม่มีทางเชื่อว่าตนเองไม่ใช่บุตรของโอรสสวรค์ อีกทั้งยังคิดจะแย่งจินฝูมา กู้เหยียนฉีคร้านจะสนใจคนบัดซบนี่ เขาจึงยิงหน้าไม้เข้าใส่กู้ม่อหลีทันที กู้ม่อหลีไม่ทันระวังทำให้ลูกศรแทงเข้าที่ลำคอ กู้ม่อหลีสิ้นใจตายทั้งที่ดวงตายังเบิกกว่าง ไม่มีผู้ใดสนใจความเป็นตายของเขาเลยแม้แต่น้อยกู้เหยียนฉีได้เล่าให้จินฝูฟังแล้วว่า กู้ม่อหลีไม่ใช่บุตรแท้ๆของฮ่องเต้ จินฝูตกใจไม่น้อย แต่กลับดีใจมากกว่า คนเช่นนี้ไม่เหมาะจะเป็นองค์ชายเลยด้วยซ้ำ สมควรแล้วที่ถูกสังหารเช่นนี้กู้เหยียนฉีและจินฝูวิ่งไปตามทางเดินในวังหลวงอย่างรีบร้อน เมื่อมาถึงตำหนักมังกรสวรรค์ก็พบว่าในตำหนักกำลังเกิดเพลิงไหม้โหมแรงมาก พวกเขาเข้าไปไม่ได้ ทำได้เพียงมองดูอยู่ด้านนอก“ฝ่าบาทยังทรงประทับอยู่ด้านใน รีบช

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status