Share

ตอนที่ 3 ไก่ แมว นางกำนัล

last update Last Updated: 2025-08-30 15:12:19

"ดูจินฝูสิ ตั้งแต่เช้าข้าเห็นนางวิ่งไม่หยุดเลย เดี๋ยวไก่จิกแมว เดี๋ยวแมวไล่ตีไก่ ตัวนางเองยังพลอยโดนแมวกับไก่ไล่ตีไปด้วย"

ฉินเซียงเอ่ยไปพลางมองดูจินฝูที่วิ่งไล่แมวไล่ไก่อยู่ในสวนด้วยสายตาเห็นใจ ซ่งเอ๋อร์เองก็พยักหน้าเห็นด้วย

"ได้ยินนางกำนัลคนอื่นบอกว่า ท่านอ๋องทรงไม่ถือสานางจึงทำโทษให้นางมาเลี้ยงไก่เลี้ยงแมว แต่ถ้าหากนางปราบพยศเจ้าสองตัวนั่นไม่ได้ นางอาจจะไร้หนทางรอด"

"เวรกรรมแท้ๆ"

ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์หันมาสบตากันคราหนึ่งพลางถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินตรงไปที่โรงครัวเพื่อจะไปเอาขนมอร่อยๆมาให้จินฝูกินเพิ่มพลังในการวิ่งไล่เจ้าแมวเจ้าไก่สองตัวนั่น

ยามนี้จินฝูกำลังนั่งหอบอยู่ที่ใต้ต้นไม้ มือหนึ่งอุ้มแมวไว้ อีกมือก็กอดไก่  ปากก็ด่าไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังคิดจะสู้กันไม่หยุด นางไม่คิดเลยว่าการเลี้ยงเจ้าสองตัวนี่จะยุ่งยากถึงเพียงนี้ ยามนี้นางเข้าใจแล้วว่าเหตุพ่อบ้านตู้จึงส่งสายตาเช่นนั้นมาให้นาง

"ให้ตายเถอะ พวกเจ้าเลิกตีกันเสียที ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!"

จินฝูปรารถออกมาอย่างเหนื่อยใจเดิมทีนางคิดว่าจับพวกมันแยกกันเช่นนี้ได้ผลนัก แต่เพียงไม่นานเจ้าแมวก็ขู่เจ้าไก่ เจ้าไก่ก็จ้องพุ่งเข้าใส่เจ้าแมว เสียงร้องของแมวและไก่ทำเอานางรู้สึกเวียนหัว เห็นชัดๆว่าเจ้าแมวไม่ได้ตั้งใจกัดเจ้าไก่ให้ตาย แต่การที่พวกมันหยั่งเชิงกันไปมาเช่นนี้คนที่เหนื่อยที่สุดก็คือนาง

ท้ายที่สุดเจ้าแมวเจ้าไก่ก็หลุดจากการควบคุมของนาง พวกมันวิ่งไล่ตีกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

จินฝูวิ่งตามพวกมันไปจนขาพันกัน นางหายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกแข้งขาอ่อนแรงไปหมด จึงล้มตัวลงไปนอนหงายบนพื้นหญ้าพลางกรีดร้องออกมาสุดเสียง

ภายในเรือนใหญ่ยามนี้กู้เหยียนฉีกำลังนั่งจิบชาชั้นดีอย่างสบายอารมณ์ พร้อมกับนั่งดูนางรำร่ายรำไปด้วย ไม่นานเขาก็รู้สึกเบื่อจึงไล่พวกนางออกไปเสีย แล้วจึงหันมาเอ่ยถามพ่อบ้านตู้

“นางกำนัลผู้นั้นเป็นอย่างไรบ้าง?"

พ่อบ้านตู้เทชาร้อนเพิ่มให้เจ้านายพร้อมกับเอ่ยตอบอย่างนอบน้อม

"นางวิ่งไล่จับเจ้าแมวกับเจ้าไก่จนขาพันกันไปหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ ยามนี้กำลังนอนกรีดร้องเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ในสวน"

"ดี ข้าชอบดูนางเป็นบ้า เจ้าแมวส้มกับเจ้าไก่ทองไม่ได้กำราบได้โดยง่าย ข้าเลี้ยงพวกมันมาตั้งนานรู้นิสัยพวกมันดีที่สุด เดิมทีข้าไม่อยากจะถือสาหาความกับความปากเสียของนาง แต่หากไม่ลงโทษคนอื่นๆจะว่าข้าลับหลังเอาได้"

“ท่านอ๋องทรงเมตตามากแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

พ่อบ้านตู้ทำได้เพียงเอ่ยชมเชยยกย่อง ไม่กล้าเอ่ยวาจาขัดใจเจ้านาย ทั้งที่ในใจลอบไว้อาลัยให้จินฝูไปหลายรอบแล้ว กู้เหยียนฉีปรายตามองพ่อบ้านตู้คราหนึ่ง พลางเอ่ยถาม

"ทำไม เจ้าเห็นใจนางหรือ?"

"มิกล้าพ่ะย่ะค่ะ"

"ดี พรุ่งนี้ให้นางพักหนึ่งวัน ส่วนเจ้า พรุ่งนี้ให้นางกำนัลทั้งหมดมาพบข้าที่นี่ ข้าจะเลือกพวกนางสักสองสามคนมารับใช้ในเรือนใหญ่ด้วยตนเอง"

"พ่ะย่ะค่ะ"

พ่อบ้านตู้เอ่ยรับคำ ก่อนจะออกไปจากเรือนไม่อยู่รบกวนความเงียบสงบของเจ้านายอีก ส่วนกู้เหยียนฉีก็ทะยานกายออกไปทางหน้าต่าง และไปหยุดยืนอยู่บนหลังคา ดวงตาคู่คมทอดมองไปยังจินฝูที่กำลังวิ่งไล่สัตว์เลี้ยงสองตัวของเขาพล่างก่นด่าพวกมันไปด้วย ไม่นานนางก็จับพวกมันได้และทิ้งกายลงไปนอนแผ่หราบนพื้นหญ้าพร้อมกับเจ้าแมวเจ้าไก่

ดูเหมือนว่าเจ้าแมวส้มและเจ้าไก่ทองจะหมดฤทธิ์เสียแล้ว มันไม่วิ่งไล่กันอีกและยังนอนซบจินฝูอย่างว่าง่าย

เป็นไปได้อย่างไรกัน เขาพยายามตั้งนานพวกมันยังไม่ยอมเลิกตีกัน แต่จินฝูกลับทำได้

ความสงสัยมากมายผุดขึ้นในใจของเขา สตรีนางนี้น่าสนใจดี แววตาที่นางมองเขาไม่ได้มีสิ่งใดแอบแฝงนอกจากความหวาดกลัว อีกทั้งยังไม่มีการยั่วยวนให้เห็นในดวงตาคู่งาม ช่างต่างจากนางกำนัลเหล่านั้นที่วันๆลอบหว่านเสน่ห์ให้เขาไม่หยุด พวกนางหมายใจจะให้เขาเด็ดบุปผาชมความงามให้ได้ ที่พวกนางทำเช่นนี้ส่วนหนึ่งอาจเพราะมีใจชอบพอในตัวเขาจริงๆ แต่อีกส่วนหนึ่งก็เพราะเจี่ยงฮองเฮาสั่งมา หากทำให้เขาหลงใหลสำเร็จ นอกจากอำนาจเงินทองที่พวกนางจะได้รับแล้ว ยังสามารถคาบความลับในจวนของเขาไปบอกกับเจี่ยงฮองเฮาได้อีกด้วย ทำเช่นนี้เท่ากับได้รางวัลสองต่อ ช่างโลภมากนัก!

เขาไม่อยากผูกพันกับสตรีนางใดทั้งสิ้น ตราบใดที่เขายังไม่อาจจัดการสะสางเรื่องเก่าหนหลังได้สำเร็จย่อมไม่อาจทำให้ความรักกลายเป็นจุดอ่อนในชีวิตของตนเองได้

ชายหนุ่มละสายตาจากจินฝู ก่อนจะกลับไปที่เรือนของตนและไม่สนใจนางอีก

ด้านจินฝูนั้นเพราะรบกับเจ้าแมวเจ้าไก่สองตัวจนเหนื่อย หลังกลับมาถึงเรือนนอนคืนนั้นก็หลับเป็นตาย กว่าจะรู้สึกตัวตื่นอีกคราก็เป็นเวลาสายของอีกวัน นางกำนัลคนอื่นๆตื่นกันหมดแล้ว ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์พยายามปลุกนางอยู่หลายรอบกว่านางจะยอมตื่น จินฝูกลัวว่าสหายทั้งสองจะเดือดร้อนไปด้วยจึงบอกให้พวกนางล่วงหน้าไปก่อนส่วนตนจะรีบตามไปทีหลัง ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์พยักหน้าอย่างจำใจ พร้อมกับเอ่ยย้ำให้จินฝูรีบตามไปโดยเร็ว จินฝูพยักหน้าและรีบจัดการตนเองทันที

เมื่อแต่งกายเรียบร้อยดีแล้วจินฝูจึงรีบเร่งฝีเท้าเพื่อจะได้ตามนางกำนัลคนอื่นๆไปได้เร็วๆ ระหว่างทางนางพบกับพ่อบ้านตู้เข้าพอดี พ่อบ้านตู้ที่เห็นว่าเมื่อวานนี้จินฝูได้รับความลำบากมาไม่น้อยจึงไม่อยากจะตำหนินางเรื่องตื่นสายอีก

"นางกำนัลจิน เจ้าตื่นสายหรือ ให้ตายเถอะ วันนี้ข้าจะละเว้นเจ้าสักวันก็แล้วกัน เจ้ารีบไปที่เรือนใหญ่เร็วเข้า วันนี้ท่านอ๋องเรียกพวกเจ้าไปพบ เพราะจะทรงคัดเลือกสาวงามเข้าไปปรนนิบัติในเรือนใหญ่ด้วยพระองค์เอง"

จินฝูเมื่อได้ยินก็ใจเต้นหวาดหวั่น ปรนนิบัติ? ปรนนิบัติที่แปลว่าต้องตกเป็นของเขาหรือ ให้ตายเถอะ!

พ่อบ้านตู้ที่เห็นว่าจินฝูเอาแต่เหม่อลอยจึงเอ่ยเรียกนางอีกหน

“นางกำนัลจิน เจ้าเหม่ออันใดอยู่กัน?”

จินฝูสะดุ้งแล้วจึงรีบเอ่ยถามพ่อบ้านตู้ทันที

“พ่อบ้านตู้ ท่านอ๋องจะทรงเลือกสตรีเข้าไปปรนนิบัติจริงหรือเจ้าคะ?”

"ถูกต้อง สตรีที่ได้รับเลือกนับว่ามีวาสนาดี หากได้รับความโปรดปรานแน่นอนว่าจะต้องสบายไปทั้งชีวิต เจ้าก็หน้าตางดงามใช้ได้อยู่นะ บางคราอาจจะถูกตาต้องใจท่านอ๋องเข้าก็ได้ แต่ขอบตาเจ้าคล้ำไปเสียหน่อย นี่สิคือปัญหา"

“ท่านอ๋องไม่ชอบสตรีตาคล้ำหรือเจ้าคะ?”

“ก็ใช่น่ะสิ ข้ายังไม่ชอบเลย”

จินฝูเมื่อได้ยินเช่นนั้นแววตาก็สว่างวาบขึ้นมาคราหนึ่ง

ที่แท้เขาชอบสตรีที่ดวงตาสว่างงดงามเหมือนดวงดาราหรอกหรือ!

"เจ้ายิ้มทำไมกัน นางกำนัลจิน เจ้าน่ะ หลงเสน่ห์ท่านอ๋องเข้าแล้วสินะ"

พ่อบ้านตู้เอ่ยอย่างภาคภูมิใจ จินฝูที่ได้ยินอย่างนั้นก็หันมายิ้มหวานให้พ่อบ้านตู้ ก่อนจะยกสองมือขึ้นต่อยเบ้าตาตนเองทันที

ทำเช่นนี้ก็เพียงพอแล้ว ตานางช้ำห้อเลือดขนาดนี้ เขาเลือกนางไปปรนนิบัติก็แปลกคนแล้ว!

 พ่อบ้านตู้ที่เห็นอย่างนั้นก็สะดุ้งโหยงก่อนจะเอ่ยถามด้วยความตกใจ

"นางกำนัลจิน เจ้าทำอันใด!"

"บำรุงดวงตาให้เปล่งประกายเจ้าค่ะ"

เอ่ยจบนางก็รีบเดินจากไปทันที พ่อบ้านตู้ย่นหัวคิ้วพลางครุ่นคิด ช่วงนี้เขาเองก็ตาฝ้าฟางเช่นเดียวกันไม่สู้ลองใช้วิธีของนางดูเสียหน่อยดีกว่า

 พ่อบ้านตู้หันมองซ้ายมองขวา แล้วจึงยกกำปั้นขึ้นมาต่อยตาตนเองเช่นเดียวกับที่จินฝูทำ ชายวัยกลางคนถึงกับตาลอยเห็นดวงดาวระยิบระยับตรงหน้าขึ้นมา

ไอหยา! มันบำรุงดวงตาหรือเร่งให้ตาบอดกันแน่นางกำนัลจิน!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   ตอนพิเศษ

    กู้เหยียนฉีจำได้ว่าช่วงเวลานั้นเป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ในตอนนั้นเขาและจินฝูยังเป็นเพียงข้ารับใช้และเจ้านาย ไม่ได้มีความรักลึกซึ้งอันใดต่อกันเลยแม้แต่น้อยอากาศเช้านี้ค่อนข้างเย็นสบายไม่น้อยเลย หลังจากที่เตรียมอาหารมื้อเช้าให้กู้เหยียนฉีเสร็จเรียบร้อยแล้ว จินฝูก็ตรงมายังห้องโถงใหญ่เพื่อปรนนิบัติเขากินอาหารมื้อเช้า นี่คืองานที่นางต้องทำในแต่ละวัน จะขาดตกบกพร่องไม่ได้ เมื่อมาถึงก็พบว่ากู้เหยียนฉีตื่นนอนแล้ว ชายหนุ่มกินอาหารเช้าและแบ่งให้นางกินเหมือนกับทุกวันที่เคยทำ จินฝูรู้สึกฟินมาก ท้องอิ่มหนังตาก็เริ่มหย่อน แต่นางยังไม่ทันจะไปนอนก็ได้ยินกู้เหยียนฉีเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน"ตามข้าไปที่ห้องนอนด้วย"เอ่ยจบเขาก็เดินตรงไปรอนางที่ห้องนอนทันที จินฝูที่ได้ยินเช่นนั้นใจก็เต้นถี่ระรัว นางกำมือแน่น พลางครุ่นคิดในใจอย่างหวาดหวั่นนี่นางกับเขา ต้องทำเรื่องอย่างว่ากันแล้วอย่างนั้นหรือ?!แม้ในใจจะร้องโอดครวญ แต่กลับไม่อาจปฏิเสธ ในเมื่อนางเป็นคนของเขาแล้ว การที่เขาจะทำอันใดกับนางก็นับว่าไม่ผิด หญิงสาวถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง แล้วจึงเดินตามเขาเข้าไปในห้องนอน เมื่อมาถึงก็พบว่ายามนี้กู้เหยียนฉีกำลังนั่งอยู่บนเตี

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 33 ครองราชย์

    วันคืนล่วงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็กู้เหยียนฉีและจินฝูก็ได้แต่งงานกัน พิธีการจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมฐานะมีผู้คนมาร่วมเฉลิมฉลองกันอย่างคึกคัก ก่อนที่เขาและนางจะแต่งงานกัน กู้เหยียนฉีพาจินฝูไปเที่ยวชมสถานที่งดงามและกินดื่มอย่างสำราญใจ นางจึงมีความสุขเป็นอย่างยิ่งการแต่งงานครั้งนี้มิใช่การแต่งงานธรรมดา แต่เป็นการสถาปนาการขึ้นครองราชย์ของกู้เหยียนฉีด้วยแม้จะไม่ต้องการสักเท่าไร่ แต่กู้เหยียนฉีรู้ดีว่าสุดท้ายแล้ว มันคือหน้าที่ของเขา อย่างน้อยเขาก็ยังมีจินฝูที่เป็นแสงสว่างในชีวิตของเขา ขอเพียงมีนางในวังหลวงที่น่าเบื่อแห่งนี้ก็งดงามขึ้นมาทันตาหลังจากกู้เยียนฉีขึ้นครองราชย์ กู้ฟานก็สละราชบัลลังก์ เขาใช้บั้นปลายชีวิตไปกับการอ่านตำราและวาดภาพอยู่ที่ตำหนักท้ายวังหลวง ทุกวันผ่านไปอย่างมีความสุข กู้เหยียนฉีเองก็ดูแลเขาเป็นอย่างดี ส่วนจินฝูนั้นเป็นเด็กร่าเริงอารมณ์ดี นางมักจะชอบมาเล่าเรื่องต่างๆให้เขาฟัง ทำให้เขาไม่เหงาเลยแม้แต่น้อยรัชศกฉีปีที่หนึ่ง กู้เหยียนฉีขึ้นครองราชย์ และแต่งตั้งจินฝูเป็นฮองเฮา เหล่าขุนนางไม่กล้าคัดค้าน เพราะฮองเฮาพระองค์ใหม่คือกำลังสำคัญเช่นกันที่ทำให้ฝ่าบาททรงได้ขึ้นค

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 32 สงบสุขร่มเย็น

    กบฏตระกูลเจี่ยงถูกสังหารสิ้นแล้ว อีกทั้งราชสำนักยังประกาศความชั่วของพวกเขาให้ราษฏรทั่วทั้งใต้หล้าได้รับรู้เจีี่ยงฉยงอดีตแม่ทัพใหญ่ มีใจคิดไม่ซื่อ ลอบวางยาพิษเจ้าแผ่นดิน และลอบสังหารอดีตชินอ๋อง โชคดีที่สวรรค์เมตตาให้อดีตชินอ๋องทรงรอดชีวิตกลับมาได้ และกลับมาทวงคืนความยุติธรรมให้บ้านเมืองได้สำเร็จส่วนเจี่ยงหว่าน อดีตฮองเฮานั้น เพียงเพราะหลงใหลในอำนาจ จึงตบตาฮ่องเต้แต่งเข้าวังหลังมาทั้งที่ตั้งครรภ์บุตรกับชายอื่น และยังฆ่าปิดปากชายคนรักเพื่อไม่ให้เขากลับมาเปิดโปงความเลวทรามต่ำช้าของตน ซ้ำร้ายยังลอบส่งนักฆ่าไปสังหารกู้เหยียนฉีหลายต่อหลายครั้งด้วย กู้ม่อหลีแท้จริงแล้วไม่ใช่บุตรของโอรสสวรรค์ เขาเป็นองค์ชายตัวปลอม ส่วนองค์ชายใหญ่ที่แท้จริงซึ่งมีสายเลือดของฝ่าบาทไหลเวียนอยู่ในกายคือกู้เหยียนฉี องค์ชายใหญ่ตัวจริงที่ต้องปิดบังสถานะของตนเองเพื่อหาทางเอาตัวรอดและกำจัดคนชั่ว คนตระกูลเจี่ยงมีโทษหลอกลวงเบื้องสูง ให้ขายบ่าวในจวนทิ้งไปเสีย ยึดทรัพย์สินทั้งหมดเข้าคลังหลวง บุรุษให้สังหารทิ้งทั้งหมด ส่วนสตรีให้เนรเทศไปอยู่ที่ชายแดนแร้นแค้น ชั่วชีวิตนี้อย่าได้คิดจะกลับเข้าเมืองหลวงอีกผู้คนที่ได้รับรู้ต

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 31 ร่ำลา

    กู้เหยียนฉีเดินเข้าไปในตำหนักที่กู้ฮ่องเต้พักรักษาตัวอยู่ด้วยใบหน้าที่เลื่อนลอย ครั้งนี้จินฝูไม่ได้ตามไปด้วย เพราะอยากให้พ่อลูกได้พูดคุยกันอย่างเปิดใจกู้ฮ่องเต้ได้สติฟื้นตื่นขึ้นมาแล้ว แต่เพราะสำลักควันไฟเข้าไปเป็นจำนวนมาก และยังถูกพิษมาก่อนหน้านี้ ทำให้ร่างหายของเขาย่ำแย่ลงไปมาก เขาให้นางกำนัลประคองตนนอนเอนพิงหมอนบนเตียง แล้วจึงให้พวกนางออกไปให้หมด ยามนี้จึงเหลือเพียงกู้เหยียนฉีและกู้ฟานเพียงเท่านั้นกู้ฮ่องเต้กระแอมไออยู่ตลอดเวลา เขาพยายามฝืนประคองตนให้ยืนหยัดเอาไว้ แล้วจึงเงยหน้าไปมองกู้ฟานน้องชายของตน"น้องสี่ ขอบใจเจ้ามากนะ หากไม่มีเจ้า ข้าคงไร้สามารถไม่อาจทำสิ่งใดได้ แค่กแค่ก"กู้ฟานน้ำตาไหล เขารีบเดินเข้าไปจับมือพี่ชายตนเอาไว้"พี่สาม ท่านเก่งที่สุดแล้ว ถึงแม้พวกเราจะไมได้เกิดจากมารดาคนเดียวกัน แต่ข้าก็รักท่านมาก รักท่านเหมือนพี่ชายร่วมมารดาเดียวกัน"กู้ฮ่องเต้พยักหน้า ก่อนจะหันมามองกู้เหยียนที่ยืนอยู่ไม่ไกล กู้ฮ่องเต้ยิ้มอย่างอ่อนแรงรู้สึกว่าตนเองเริ่มจะไม่ไหวมากขึ้นทุกที"ฉีหลาง เจ้ายังโกรธพ่ออยู่หรือ แต่ช่างเถิด ยามนี้คนตระกูลเจี่ยงตายสิ้นแล้ว เจ้าโกรธพ่อนานอีกสักหน่อย พ่อก

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 30 ความจริงที่แสนเจ็บปวด

    กู้เหยียนฉีที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันไปมองกู้ฟานด้วยความสงสัย ด้านจินฝูนั้นคิดว่าเรื่องที่พวกเขาจะพูดคุยกันย่อมเป็นเรื่องสำคัญ นางจึงบอกว่าจะไปรอเขาที่ด้านนอกตำหนักเสียก่อน แต่ทว่ากู้เหยียนฉีกลับยื่นมือของตนมารั้งตัวนางเอาไว้ จินฝูมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความสงสัยปราดหนึ่ง แล้วจึงพบว่าเขากำลังมองนางด้วยแววตาอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง"เสด็จอา นางเป็นคนรักของหลานเป็นคนที่พวกเราไว้ใจได้พ่ะย่ะค่ะ อีกทั้งเรื่องที่เหล่ากองทัพเสริมของเจี่ยงฉยงถูกระเบิดจนล้มตายไปกว่าครึ่ง ก็เป็นฝีมือของนาง"กู้ฟานหันมามองจินฝูด้วยสายตาเอ็นดู"ที่แท้ก็เป็นหลานสะใภ้ของข้าเองหรือ"จินฝูยิ้มให้กู้ฟานอย่างนอบน้อม ตอนที่ได้ยินว่าเขายังไม่ตาย นางแอบตกใจอยู่ไม่น้อย ไม่คิดเลยว่าเรื่องราวต่างๆจะซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากมายถึงเพียงนี้กู้ฟานเองเมื่อรู้ว่าจินฝูคือคนสำคัญของกู้เหยียนฉีก็ไม่ได้ระแวดระวังสิ่งใดอีกเขาทอดถอนใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า"ฉีหลาง อารู้ว่าหลายปีมานี้เจ้าคับแค้นใจมาก เจ้าคงรู้แล้วว่าเสด็จพี่คือบิดาของเจ้า อาเองก็มีส่วนผิดเช่นกันที่รู้เรื่องราวทุกอย่างแต่กลับไม่อาจบอกกล่าวกับเจ้าได้"กู้เหยียนฉีกำมือแน่น ใบหน้าฉายแววเย็

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 29 สะสางหนี้แค้นระหว่างกัน

    กู้เหยียนฉีและจินฝูรีบกลับเข้าเมืองหลวง ก่อนไปยังสั่งให้องค์รักษ์พาครอบครัวของจินฝูและคนในจวนอ๋องกลับเข้าเมืองหลวงโดยเร็ว ส่วนพ่อบ้านตู้และฉินเซียง ซ่งเอ๋อร์ก็เร่งรุดกลับไปที่จวนอ๋องเพื่อตรวจดูว่ามีตรงไหนเสียหายบ้างหรือไม่ ระหว่างทางที่กลับเข้าวังหลวง เขาและนางได้พบเจอกู้ม่อหลีเข้าเสียก่อน กู้ม่อหลีจ้องมองกู้เหยียนฉีด้วยความเคียดแค้น เขาไม่มีทางเชื่อว่าตนเองไม่ใช่บุตรของโอรสสวรค์ อีกทั้งยังคิดจะแย่งจินฝูมา กู้เหยียนฉีคร้านจะสนใจคนบัดซบนี่ เขาจึงยิงหน้าไม้เข้าใส่กู้ม่อหลีทันที กู้ม่อหลีไม่ทันระวังทำให้ลูกศรแทงเข้าที่ลำคอ กู้ม่อหลีสิ้นใจตายทั้งที่ดวงตายังเบิกกว่าง ไม่มีผู้ใดสนใจความเป็นตายของเขาเลยแม้แต่น้อยกู้เหยียนฉีได้เล่าให้จินฝูฟังแล้วว่า กู้ม่อหลีไม่ใช่บุตรแท้ๆของฮ่องเต้ จินฝูตกใจไม่น้อย แต่กลับดีใจมากกว่า คนเช่นนี้ไม่เหมาะจะเป็นองค์ชายเลยด้วยซ้ำ สมควรแล้วที่ถูกสังหารเช่นนี้กู้เหยียนฉีและจินฝูวิ่งไปตามทางเดินในวังหลวงอย่างรีบร้อน เมื่อมาถึงตำหนักมังกรสวรรค์ก็พบว่าในตำหนักกำลังเกิดเพลิงไหม้โหมแรงมาก พวกเขาเข้าไปไม่ได้ ทำได้เพียงมองดูอยู่ด้านนอก“ฝ่าบาทยังทรงประทับอยู่ด้านใน รีบช

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status