Share

เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์
เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์
Author: องค์หญิงโนเนม

บทที่ 1 ไก่ทอดหนังกรอบ

last update Last Updated: 2025-08-30 15:11:41

แคว้นต่ง

วังหลวง

"ให้ตายเถอะ พรุ่งนี้ก็ต้องเปลี่ยนไปรับใช้ชินอ๋องที่จวนแล้ว บอกตามตรงข้าไม่อยากไปเลย"

"ข้าก็เหมือนกัน ผู้ใดก็รู้ว่าชินอ๋องผู้นั้นอารมณ์แปรปรวนยิ่ง และยังทำสิ่งใดตามใจตนอย่างไร้เหตุผลด้วย ข้าเคยได้ยินผู้คนเล่าลือกันปากต่อปากว่า หากเขาไม่ชอบใจผู้ใดก็จะสังหารทิ้งทันที สถานเบาก็โบยจนพิการ ที่เขาต้องการเลือกนางกำนัลเข้าไปรับใช้ในคราวนี้ก็เพราะนางกำนัลชุดเก่าถูกเขาสังหารทิ้งไปหมดแล้ว!"

"ไอหยา ข้าจะมีชีวิตรอดไปพบหน้าบิดามารดาอีกหรือไม่ ฮือ"

เสียงพูดคุยและเสียงกระซิบกระซาบของเหล่านางกำนัลน้อยทำเอาจินฝูที่กำลังนอนอยู่ไม่ไกลถึงกับเม้มริมฝีปากแน่น จิตใจสั่นไหวอย่างยากจะควบคุม 

นางมีนามว่าจินฝู สองวันก่อนจำได้ว่ากำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ผู้ใดจะคาดคิดว่าอยู่ๆนางจะหลับไม่ตื่นอีก แล้ววิญญาณก็ลอยละล่องมาเกิดใหม่ที่ร่างของหญิงสาวนางนี้ ที่มีชื่อแซ่และหน้าตาเหมือนกันราวกับฝาแฝด

สตรีนางนี้ชะตาชีวิตน่าสงสารนัก นางเป็นเพียงลูกชาวนายากจน พออายุสิบสามก็เข้าวังหลวงมาเป็นนางกำนัล ยามนี้ก็มีอายุสิบเจ็ดปีแล้ว ที่นางยอมเข้าวังหลวงมาเป็นนางกำนัลก็เพราะหวังว่าครอบครัวจะสามารถลืมตาอ้าปากได้ จึงยอมเอาทั้งชีวิตมาทิ้งเอาไว้ในวังหลวงที่เหมือนกับคุกบนแดนสวรรค์แห่งนี้  เพราะเจ้าของร่างเดิมเป็นคนขยันรู้ความ นางจึงได้รับเลือกให้ไปรับใช้ชินอ๋องที่ด้านนอกวังหลวง เดิมทีคราแรกที่จินฝูได้ทราบว่าจะไม่ต้องทนอยู่ในวังหลวงนี่ไปชั่วชีวิตก็ดีใจอยู่หรอก แต่เมื่อได้ยินสตรีเหล่านี้เล่าชีวประวัติอันน่าสยองขวัญของชินอ๋องผู้นั้นแล้ว นางกลับเริ่มรู้สึกคิดหนัก

แต่จะทำเช่นไรได้เล่า ใครใช้ให้นางมาอยู่ในร่างของสาวน้อยต่ำต้อยนางนี้กัน จะว่าไป นางเองก็ไม่รู้กฎระเบียบ ไม่รู้วิธีการดูแลท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์อันใดเทือกนั้นเลยด้วยซ้ำ แต่ช่างเถอะ หลับหูหลับตาทำๆไปอย่าไปขัดใจเขาเป็นพอ แล้วก็ไม่ต้องไปแย่งความโปรดปราณอันใดจากเขาด้วย นางไม่ทำเด็ดขาด นางขอเป็นสาวใช้จอมขี้เกียจที่ไม่สนใจสิ่งใดก็พอแล้ว

"พวกเจ้ายังไม่นอนอีกหรือ หากพรุ่งนี้ตื่นสาย ข้าจะทำโทษพวกเจ้าทุกคนสถานหนัก!"

เสียงของฟู่หมัวหมัวที่มาเดินตรวจตรารอบดึกเอ่ยขึ้นอย่างดุๆ ทำเอานางกำนัลน้อยในห้องนอนต่างรีบพากันหลับตาปิดปากเงียบสนิทไม่กล้าเอ่ยวาจาส่งเดชอีก ไฟในห้องถูกดับไปแล้ว แต่จินฝูยังคงนอนไม่หลับเอาแต่พลิกตัวไปมาอยู่เช่นนั้น

อยู่ๆก็ต้องมาอยู่ในยุคสมัยโบราณที่แม้แต่เครื่องอำนวยความสะดวกก็ยังไม่มีเช่นนี้นางไม่คุ้นชินเลย เดิมทีในยุค2025นี้ มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน หากเหงาก็สามารถเปิดดูซีรี่ย์ได้ แต่ที่นี่กลับไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้นางจรรโลงใจได้เลยแม้แต่น้อย

ก่อนหน้านี้หน้าที่อาการงานของนางก็ไปได้สวย กำลังจะได้เป็นนางเอกแถวหน้าทั้งที่อายุยังน้อยหลังจากที่เป็นนางรองและนางร้ายมานาน แต่สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมกับนางเลย

จินฝูคิดอันใดไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้ว่าผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อใด มารู้สึกตัวตื่นอีกทีก็ตอนที่ถูกน้ำเย็นๆสาดเข้าใส่ใบหน้าจนนางสะดุ้งโหยง หญิงสาวกระวีกระวาดลุกขึ้นมาจากเตียงนอนด้วยความตกใจ

"ใครสาดน้ำวะ..."

ประโยคต่อมายังไม่ทันหลุดจากปากจินฝูก็ถึงกับยิ้มแห้ง คนที่สาดน้ำใส่นางคือฟู่หมัวหมัวที่ดูแลพวกนางนั่นเอง ฟู่หมัวหมัวมองหน้าจินฝูอย่างเอาเรื่อง

"นอนกินบ้านกินเมืองหรือไรกัน นี่มันยามใดแล้ว ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ จินฝูแต่ก่อนเจ้าไม่เคยทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ นี่เกิดอันใดขึ้น หรือว่าตื่นเต้นจนสติฟั่นเฟือน ครานี้ข้าจะปล่อยเจ้าไปก่อน หากไปอยู่ที่จวนอ๋องแล้ว เจ้ายังทำตัวเช่นนี้อีก ท่านอ๋องได้โบยเจ้าตายแน่ แม้แต่ข้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้!"

จินฝูพยักหน้าพลางลอบเบ้ปากคราหนึ่ง อันใดกัน ฟ้ายังมืดอยู่แท้ๆยังมาปลุกคน ท่านอ๋องบัดซบนั่นตื่นแต่เช้าหรือไรจึงต้องให้พวกนางรีบไปปรนนิบัติน่ะ

 แต่ช่างเถอะ ทำตามไปก่อน ดีกว่าถูกโบยตายไปอีกชาติ!

จินฝูลุกจากเตียงทั้งที่ตัวยังเปียกโชก โชคดีที่ยามนี้ยังคงเป็นช่วงกลางฤดูร้อน อากาศไม่ได้หนาวจนปากสั่น นางรีบไปแต่งตัวและออกมารวมตัวกับนางกำนัลคนอื่นๆที่หน้าเรือนนอนทันที ฟู่หมัวหมัวเอ่ยย้ำกฎระเบียบต่างๆอยู่นาน จินฝูฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง อีกทั้งยังแอบหาวหวอดๆอยู่หลายครา ผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็ถึงเวลาต้องเดินทางออกจากวังหลวง มุ่งหน้าไปยังจวนชินอ๋องเสียที

วังหลวงแห่งนี้กว้างใหญ่งดงาม มีนางกำนัลอยู่หลายร้อยหลายพันคน บางคนวาสนาดีถูกพระทัยฮ่องเต้ก็ได้เลื่อนฐานะ แต่ก็มีหญิงสาวอีกจำนวนไม่น้อยที่แม้แต่วาระสุดท้ายของชีวิตก็ยังไม่เคยได้พบพระพักตร์ของฮ่องเต้เลยด้วยซ้ำ

จินฝูได้ยินฟู่หมัวหมัวบอกว่า ฮ่องเต้พระองค์์นี้เป็นเสด็จลุงแท้ๆของชินอ๋องกู้เหยียนฉี ฮ่องเต้ทรงรักใคร่หลานชายผู้นี้เป็นอย่างยิ่ง รักใคร่เสียยิ่งกว่าองค์ชายใหญ่ที่เกิดเจี่ยงฮองเฮาเสียอีก ได้ยินว่าเพราะเรื่องนี้ทรงทำให้เจี่ยงฮองเฮาไม่พอพระทัยเป็นมาก แต่กลับไม่กล้าปริปากอันใด เพราะยามนี้องค์ชายใหญ่ยังทรงไม่ได้ถูกแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท อีกทั้งยังไม่อาจคาดเดาพระทัยของฝ่าบาท เจี่ยงฮองเฮาย่อมไม่อาจลงมือทำอันใดบุ่มบ่ามได้

จินฝูเพียงฟังเรื่องนี้ผ่านหู นางเองไม่อยากจะสนใจเท่าใดนัก เรื่องของชนชั้นสูงยิ่งฟังยิ่งปวดหัว 

มานึกๆดูแล้ว บางคราสวรรค์ก็ออกจะลำเอียงไปเสียหน่อย นางเป็นถึงนางเอกดาวรุ่งหน้าใหม่เชียวนะ เกิดใหม่ทั้งที่ให้เกิดเป็นคุณหนูสูงศักดิ์หน่อยก็ไม่ได้ เหตุใดจึงต้องให้นางมาเกิดใหม่ในร่างของสตรีที่มีชีวิตน่าสงสารผู้นี้ด้วย

จินฝูแม้ในใจจะตัดพ้อโอดครวญ แต่ก็ยังเดินตามนางกำนัคนอื่นๆไปแต่โดยดี ระยะทางจากวังหลวงถึงจวนอ๋องไม่ได้ไกลกันมากนัก เดินไปไม่นานก็ถึงเสียที เมื่อมาถึงจินฝูจึงแหงนหน้ามองดูป้ายที่ติดอยู่หน้าจวนที่เขียนว่า จวนชินอ๋อง ตัวอักษรงดงามแต่กลับแฝงเอาไว้ด้วยความหนักแน่น นางไม่ทันได้มองดูให้นานอีกหน่อย ฟู่หมัวหมัวก็บอกให้พวกนางรีบเดินไปด้านในเสียแล้ว

เมื่อเข้ามาด้านในแล้วก็ได้พบกับพ่อบ้านตู้ พ่อบ้านประจำจวนชินอ๋องที่กำลังยืนรออยู่ที่หน้าลานเรือน พ่อบ้านตู้เป็นพ่อบ้านที่ดูแลทุกอย่างในใจจวนชินอ๋อง เขามีใบหน้ายิ้มแย้มดูเป็นคนจิตใจดีอย่างมาก ฟู่หมัวหมัวที่หมดหน้าที่แล้วจึงกล่าวลาพ่อบ้านตู้ พ่อบ้านตู้เองก็ปฏิบัติต่อฟู่หมัวหมัวอย่างนอบน้อมไม่น้อย เมื่อฟู่หมัวหมัวจากไปแล้ว พ่อบ้านตู้จึงหันมาเอ่ยกับพวกนางที่ยืนอยู่กลางลางเรือน

"ยินดีต้อนรับสาวงามทุกท่านเข้าสู่จวนชินอ๋อง จวนของเราไม่ได้มีกฎระเบียบยิบย่อยอันใดมากนัก พวกเจ้าไม่ต้องกังวลไป”

พ่อบ้านตู้เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนไม่น้อย

“กฎระเบียบของจวนอ๋องก็คือพวกเจ้าจะต้องเข้านอนต้นยามจื่อ ตื่นนอนต้นยามเหม่า หน้าที่ของพวกเจ้าคือช่วยทำงานทุกอย่างในจวนไปก่อน ไว้ผู้ใดมีผลงานโดดเด่นก็จะได้ย้ายเข้าไปปรนนิบัติท่านอ๋องในเรือนใหญ่  ส่วนเรือนพักของพวกเจ้า จะอยู่ติดกับโรงครัว ห้องหนึ่งอยู่ได้สามคน อย่างที่เคยบอก ผู้ใดที่่ต้องตาท่านอ๋องจึงจะมีเรือนส่วนตัวเป็นของตนเอง เอาล่ะ ข้าจะพาพวกเจ้าไปถวายพระพรท่านอ๋องในเรือนใหญ่ก่อน"

พ่อบ้านตู้เอ่ยจบก็เดินนำทางพวกนางเข้าไปในเรือนใหญ่ทันที จินฝูที่เดินรั้งท้ายพลันได้ยินเสิ่นหลี นางกำนัลน้อยที่เดินอยู่ด้านหน้านางเอ่ยอย่างลำพองใจ

“ข้าจะต้องทำให้ท่านอ๋องหมายตาข้าให้ได้ จะได้มีเรือนส่วนตัวเป็นของตนเอง”

จินฝูเมื่อได้ฟังก็ส่ายหน้าไปมาเบาๆ สตรีในยุคนี้เอาแต่พึ่งพาสามี แต่นางเองก็เข้าใจได้  ยุคนี้สตรีทำสิ่งใดได้ไม่มากนัก แต่สำหรับนางแล้ว อย่างไรเสียการพึ่งพาตนเองได้จึงถือเป็นเรื่องดีที่สุด

นางไม่เอาด้วยคน กลัวว่าจะพิการ ไม่ก็มือขาดขาขาดก่อนจะได้เรือนส่วนตัวน่ะสิไม่ว่า!

จินฝูเดินไปพลางสังเกตสิ่งรอบตัวไปพลาง ภายในจวนอ๋องมีการตกแต่งที่งดงาม มีต้นไม้ดอกไม้ปลูกประดับทั่วทั้งจวนให้ความรู้สึกร่มรื่นยิ่ง เมื่อเข้ามาในเรือนใหญ่ก็ยิ่งพบว่าการตกแต่งหรูหราราวกับแดนสวรรค์ กลิ่นกำยานอ่อนๆลอยวนอยู่ทั่วทั้งเรือนให้ความรู้สึกเย็นสบายเป็นอย่างมาก

"ท่านอ๋อง นางกำนัลที่ฝ่าบาททรงมอบให้ มาถึงแล้วพ่ะยะค่ะ"

"ให้พวกนางเข้ามาได้"

จินฝูถึงกับชะงักไปชั่วขณะ เสียงของท่านอ๋องผู้นี้ฟังดูนุ่มละมุนหูอย่างแปลกประหลาด แต่ทว่ากลับแฝงอำนาจกดดันอยู่ในที

เหล่านางกำนัลเดินเข้ามาในเรือนใหญ่อย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะคุกเข่าทำความเคารพเขาอย่างนอบน้อม เหล่านางกำนัลทุกคนต่างไม่กล้าแม้แต่จะหายใจดัง ชื่อเสียงของเขานั้นผู้ใดบ้างไม่รู้กระจ่างแจ้ง

พวกนางคุกเข่าก้มหน้าอยู่นาน ท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ก็ยังไม่บอกให้พวกนางลุกขึ้นเงยหน้าขึ้นมาสนทนากันเสียที จินฝูรู้สึกว่าขาทั้งสองข้างของนางยามนี้เริ่มจะไม่มีความรู้สึกแล้ว อีกทั้งก่อนออกมาจากวังหลวง นางยังกินเพียงโจ๊กที่ใสเหมือนตาแมวไปเพียงถ้วยเดียว ตอนนี้จึงเริ่มจะรู้สึกหิวขึ้นมา

พ่อบ้านตู้ลอบมองนางกำนัลเหล่านั้นด้วยความเห็นใจ แต่ในเมื่อผู้เป็นนายไม่ยังไม่เอ่ยปาก เขามีหรือจะกล้าเอ่ยท้วง ทำได้เพียงลอบสงสารพวกนางอยู่เงียบๆ แต่ไหนแต่ไรท่านอ๋องก็เป็นเช่นนี้มาตลอด

จินฝูเริ่มจะทนไม่ไหวอยู่รอมล่อ นางไม่ใช่สตรียุคโบราณที่ฝึกฝนมรรยาทอย่างทรหดอดทนอันใดเทือกนั้นมาก่อน

บัดซบ! เริ่มชามาถึงเอวแล้ว

กู้เหยียนฉีท่านอ๋องผู้สูงส่งที่นั่งอย่างสบายอารมณ์เพียงปรายตามองพวกนางอย่างไม่ใส่ใจ นางกำนัลเหล่านี้เก้าในสิบส่วนล้วนมีคนของเจี่ยงฮองเฮารวมอยู่ด้วย คราก่อนเขาไล่พวกนางไปหมด แต่เจี่ยงฮองเฮายังคิดจะส่งมาอีก คิดจะทำสงครามประสาทกับเขาหรือ?

ในเมื่ออยากเล่นสนุก เช่นนั้นเขาก็จะเล่นด้วย ชื่อเสียงดีงามเมตตาอันใดเทือกนั้นเขาไม่สนใจอยู่แล้ว

จินฝูรออยู่นาน ท่านอ๋องผู้นั้นก็ยังไม่ยอมให้นางลุกเสียที นางจะไม่ไหวอยู่แล้ว หน้าเริ่มมืดแล้ว ขาชาหมดแล้วแล้วยังหิวด้วย นางหิวมาก!

ในขณะที่นางกำลังโอดครวญ อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนว่ามีตัวอะไรบางอย่างเดินมาหยุดอยู่ข้างกายนาง พร้อมทั้งยังใช้ปากจิกลงมาบนศีรษะของนางไม่ยอมหยุด แรงจิกของมันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆจนจินฝูเจ็บแทบทนไม่ไหว นางคอยๆเอียงหน้าไปมอง แล้วจึงสบประสานสายตาเข้ากับกับไก่ตัวหนึ่ง

ไก่?

ในจวนอ๋องเลี้ยงไก่ด้วยหรือ?

หรือท่านอ๋องเขาเลี้ยงไว้กินไข่?

อ๊า! ไข่ม้วนหน้านุ่มชีสเยิ้มๆ ให้ตายเถอะมันใช่เวลาไหมเล่า!

ความคิดมากมายตีกันในหัวของจินฝูไม่หยุด เจ้าไก่ตัวนี้ดูเหมือนไม่ใช่ไก่ธรรมดา ขนของอันออกสีส้มๆทองๆดูสวยงามแปลกตาไม่เหมือนกับไก่ทั่วไปที่นางเคยเห็นเลย

อยู่ๆจินฝูก็รู้สึกหิวขึ้นมา นางเม้มริมฝีปากแน่น เสียงในหัวเริ่มชัดเจนขึ้น

 ไก่ทอดหนังกรอบ ไก่ทอดหนังกรอบ!

เจ้าไก่หรี่ตามองนางราวกับอ่านความคิดในหัวของนางออก มันโน้มหัวลงมาจิกหน้าผากนางอย่างแรง จินฝูทนไม่ไหวแล้ว นางคว้าจับคอมันขึ้นมาก่อนจะเอ่ยอย่างหมดความอดทน

"เจ้าไก่ดื้อ มาจิกหน้าผากข้าทำไมกัน รู้หรือไม่ว่าข้ากำลังหิวอยู่ ยิ่งเห็นเจ้าข้ายิ่งหิว! หัวและคอเจ้าเอามาทอดกรอบและคลุกผงหม่าล่ารสชาติดีเยี่ยมเชียวล่ะ ส่วนตัวเจ้าน่ะเอามาชุบแป้งทอดทำเป็นไก่ทอดหนังกรอบก็ดีเลิศ ส่วนขาต้องเอาไปตุ๋นจนเปื่อยกลายเป็นตีนไก่ตุ๋นน้ำแกง โอย ยิ่งพูดยิ่งหิว หิวโว๊ย!"

ภายในห้องพลันเงียบกริบ ทุกคนหันมามองนางเป็นตาเดียว พ่อบ้านตู้ถึงกับขาสั่นพั่บๆเมื่อหันไปเห็นสายตาเย็นเยียบของเจ้านายตน

จินฝูรู้สึกถึงความผิดปกติ นางหันขวับไปมองก่อนจะสะดุ้งโหยง ยามนี้มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาใบหน้าคมคาย ดวงตางดงามเหมือนดวงดารากำลังนั่งมองนางอยู่ แต่ทว่านางกลับรู้สึกได้ถึงสัญญาณอันตรายบางอย่าง หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปากมีท่าทีลนลาน นางรีบปล่อยเจ้าไก่บัดซบนั่นลงและหมอบไปบนพื้นทันที

ให้ตายเถอะ ข้าทำผิดใหญ่หลวงหรือนี่ หรือว่าไก่นั่นเป็นไก่ของเขา เขาจะเก็บไว้ทำไก่แช่เหล้าใช่หรือไม่?

ถ้าหมักแล้วขอดื่มด้วยสักจอก บัดซบ! ในหัวนางนี่มันคิดอันใดอยู่กัน!

จินฝูพยายามไม่สนใจเสียงในหัวของตนเอง พลางก่นด่าตนเองในใจ ให้ตายเถะ นางไม่น่าตละกละเลย ไม่น่าเลย!

"ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ"

พ่อบ้านตู้เอ่ยเรียกเจ้านายของตน กู้เหยียนฉีส่งเสียงเหอะเบาๆ แล้วจึงเอ่ยเสียงเข้ม

"ให้คนอื่นๆออกไปให้หมด ส่วนนางคนนั้นที่บีบคอไก่ของข้าให้อยู่ก่อน"

เหล่านางกำนัลคนอื่นเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ลอบมองจินฝูอย่างเห็นใจ แล้วจึงค่อยๆเดินออกไป การเข้าเฝ้าท่านอ๋องครานี้ทำให้สตรีน้อยหลายคนมีความคิดมากมาย บางคนไม่กล้าทะเยอะทะยาน แต่มีไม่น้อยที่คิดว่าท่านอ๋องหล่อเหลาปานนี้ต่อให้ต้องกระโจนเข้ากองไฟหรือตกเป็นทาสรักของเขาพวกนางก็ยินดี จะให้เป็นอนุหรือนางบำเรอล้วนได้ทั้งสิ้น

เมื่อนางกำนัลคนอื่นๆออกไปหมดแล้ว กู้เหยียนฉีก็ก้าวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าจินฝู

"เงยหน้าขึ้นมาสิ"

น้ำเสียงของเขาเย็นชาและติดจะเบื่อหน่ายไปเสียหน่อย จินฝูไม่อาจขัดคำสั่งได้ จึงรีบเงยหน้าไปมองเขาทันที เมื่อได้เห็นใบหน้าของเขาใกล้ๆก็พบว่าหล่อเหลามากจริงๆ เป็นบุรุษรูปงามที่หาได้ยากยิ่งเชียวละ

กู้เหยียนฉียื่นมือมาจับปลายคางของนางให้เชยขึ้น และเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

"เจ้าอยากกินไก่ข้าหรือ?"

จินฝูเมื่อได้ยินก็รีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน อีกทั้งเอ่ยกับเขาอย่างหวาดๆ

"ไม่กล้าเพคะ หม่อมฉันไม่ได้อยากกินเพคะ ไม่อยากกินเลย"

"แต่เมื่อครู้ข้าได้ยินเจ้าบอกว่า เจ้าจะเอาทุกส่วนบนร่างกายของมันเข้าปาก"

"ไม่ได้เอาเข้าปากเพคะ ไก่งามปานนี้จะเอาไปทอดกรอบได้อย่างไร หม่อมฉันเพียงเอ่ยชมเท่านั้นเพคะ คอกับหัวงามมากสมส่วน ตัวก็เนื้อแน่น ขายิ่งเรียวงาม ยามกระโดดทะยานบินไปบนฟ้าจะต้องสุดยอดมากแน่นอนเพคะ"

“ไก่ขาเรียวงาม?”

“เพคะ”

งามทั้งตัว ชุบแป้งทอดแล้วกัดกร๊วบๆพร้อมราดน้ำจิ้ม!

จินฝูรีบส่ายหน้าไปมา ไม่ได้ จะแพ้เสียงบัดซบในหัวไม่ได้เป็นอันขาด

กู้เหยียนฉีส่งเสียงหึหึออกมาคราหนึ่ง คิดว่าเขาดูไม่ออกหรือว่านางกำลังโกหก

"น่าสนใจดีนี่ ไม่เคยมีใครบอกว่าไก่ของข้าอร่อยมาก่อน เจ้าเป็นคนแรกเลย แต่ช่างเถิด วันนี้ข้าอารมณ์ดี จะไม่ถือสาหาความกับเจ้าก็แล้วกัน พ่อบ้านตู้!"

"ขอรับท่านอ๋อง"

"ลากคอนางออกไป อย่าให้เสนอหน้ามาอยู่ต่อหน้าข้าอีก หากข้าอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา อาจจะพลั้งมือฆ่านางทิ้งเอาได้"

เอ่ยจบเขาก็เดินจากไปโดยไม่สนใจจินฝูอีก เดิมทีเขาก็คร้านจะสนใจสตรีประสาทไม่ปกตินางนี้อยู่แล้ว อีกทั้งดูเหมือนนางก็ไม่ได้ทำเรื่องอันใดให้เขารำคาญใจนอกจากจ้องจะกินไก่ของเขา เขาจึงไม่อยากจะถือสาหาความให้มากเรื่อง

พ่อบ้านตู้รีบให้คนมาลากจินฝูออกไป นางเองก็ไม่ขัดขืน ลากไปเถอะ นางชอบ ลากออกจากจวนไปเลยยิ่งดี จะเอานางไปทิ้งขว้างที่ใดก็ได้!

ก่อนออกจากเรือนใหญ่พ่อบ้านตู้เอ่ยเตือนนางสองสามประโยคก็ปล่อยตัวไปนาง จินฝูสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด อย่างน้อยนางก็อยู่รอดปลอดภัยมาได้อีกหนึ่งวันแล้ว เรื่องอื่นค่อยว่ากันเถอะ!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 7 เรื่องวุ่นๆของวัยรุ่นในจวนอ๋อง

    ระยะนี้จวนอ๋องค่อนข้างสงบเงียบยิ่งนัก ไม่มีเรื่องให้น่าปวดหัวเลย ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นกับเสิ่นหลี นางกำนัลที่เหลืออยู่ต่างไม่กล้าทำตัวเหิมเกริมตามใจชอบอีก และยิ่งไม่กล้าหาเรื่องจินฝู ทุกคนต่างนอบน้อมต่อนางมาก แม้กระทั่งพ่อบ้านตู้ยังทำราวกับนางเป็นเจ้านายอีกคน แต่จินฝูคร้านจะใส่ใจเท่าใดนัก อำนาจพวกนี้เป็นเพียงสิ่งจอมปลอม นางไม่ได้ต้องการ นางเพียงอยากมีชีวิตที่สงบราบรื่นและคิดว่าสักวันจะกลับไปยังโลกที่นางจากมาได้ระยะนี้กู้เหยียนฉีตื่นแต่เช้าไปประชุมที่วังหลวงและกลับมาค่ำมืดทุกวัน นางจึงไม่ได้มีงานใดให้ทำมากนัก นอกจากเลี้ยงเจ้าแมวเจ้าไก่แล้ว ก็มีเพียงงานเล็กๆน้อยๆให้ทำฆ่าเวลาอยู่บ้าง วันเวลาเช่นนี้สำหรับนางนับว่าดีมาก ตรงกับความใฝ่ฝันในชีวิตของนางพอดี นั่นก็คือ กิน นอน และก็กินหลังจากพาเจ้าสัตว์เลี้ยงสองตัวไปเดินแล้ว จินฝูจึงมานั่งเล่นที่ชิงช้าใต้ต้นไม้ใหญ่ หลายวันก่อนนางทำชิงช้าเองกับมือเพื่อเอาไว้นั่งเล่นยามเบื่อเพราะความว่างงานทำให้จินฝูมีเวลาทำหน้าไม้เอาไว้เล่นอันหนึ่ง นางคิดว่าจะเอาไว้ยิงนกยิงหินเล่นยามเบื่อ ตั้งแต่เด็กนางก็ชอบทำของพวกนี้ เสียดายที่ในยุคปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้แล้ว

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 6 หมดประโยชน์

    ท้ายที่สุดเขาก็ปล่อยนางไปโดยไม่ได้ลงโทษอันใด จะให้เขาหาเหตุผลใดมาลงโทษนางกัเล่า วาจาของนางแม้จะดูไร้แก่นสารแต่ก็มีเหตุผลแฝงอยู่ อีกอย่างเขาก็เห็นเองกับตาว่านางกำนัลนามว่าเสิ่นหลีผู้นั้นเป็นคนหาเรื่องนางก่อน จินฝูภายนอกดูเหมือนคนไม่เอาไหน แต่นางกลับมีหัวคิดที่ดีไม่น้อยเลย หากนางไม่โลภมากเช่นปากว่าจริง เขาก็ไม่ได้คิดจะไล่นางไปไหน เลี้ยงนางกำนัลตละกละเอาไว้สักคนย่อมไม่เปลืองเงินทองเท่าใดนักหรอกชายหนุ่มทอดถอนใจเล็กน้อย วันนี้ตอนเข้าร่วมประชุมยามเช้าที่วังหลวง มีเรื่องให้ต้องขบคิดมากมาย ยามนี้ขุนนางในราชสำนักกำลังร่วมกันกดดันฝ่าบาทให้ทรงแต่งตั้งองค์รัชทายาท แต่ก็มีขุนนางอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งองค์รัชทายาท เนื่องจากกู้ม่อหลียังทำตัวเสเพลไม่น่าเชื่อถือ อีกทั้งยังบ้าอำนาจ มีนางกำนัลไม่น้อยที่ถูกเขาย่ำยี เมื่อได้เด็ดดมบุปผาจนพอใจแล้วก็ถีบหัวส่งพวกนางอย่างไม่ไยดี คนบ้ากามเช่นนี้หากได้ขึ้นครองราชย์บ้านเมืองย่อมร้อนเป็นไฟแน่นอน อายุของกู้ม่อหลีปีนี้ก็ยี่สิบปีเข้าไปแล้ว แต่ยังไม่เป็นโล้เป็นพาย ต่างจากเขาที่ปีนี้อายุยี่สิบสามแล้วแต่กลับมีความสามารถโดดเด่นตั้งแต่อายุสิบห้าปีแม้ข

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 5 ต่อล้อต่อเถียง

    หลังจากกินมื้อเช้าอิ่มแล้ว กู้เหยียนฉีก็เข้าวังหลวงไปร่วมประชุมยามเช้ากับเหล่าขุนนางในราชสำนัก เขาเป็นแม่ทัพใหญ่ อีกทั้งยังมีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ และยังเป็นที่ไว้วางพระทัยของเสด็จลุง เสด็จพ่อและเสด็จแม่ของเขาตายจากไปนานแล้ว ตำแหน่งชินอ๋องนี้เขาได้รับสืบทอดจากบิดา นับว่ามีสถานะสูงส่งไม่น้อยเลย ด้านจินฝูก็ยกถาดอาหารออกมาจากห้องโถงใหญ่ นางสังเกตอาการตนเองอย่างระแวะระวัง พบว่าผ่านมาครึ่งชั่วยามแล้วยังไม่นอนชัก เช่นนั้นก็คือรอดแล้ว! แต่ถึงจะตายนางก็ไม่เสียดายเพราะท้องของนางอิ่มหนำแล้วไม่ต้องไปทนหิวในปรโลกอีก"ไอหยา ท่านอ๋องเสวยได้เยอะเลยหรือนี่ นางกำนัลจิน เจ้าทำได้ดีมาก!"พ่อบ้านตู้ที่เห็นว่าอาหารที่นำเข้าไปพร่องลงไปเกือบหมดก็ยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี จินฝูทำได้เพียงยิ้มกลบเกลื่อน เขากินเก่งอันใดกัน นางนี้แหละกินของเขาจนหมด!เมื่อกู้เหยียนฉีไปแล้ว จินฝูผู้ไม่มีอะไรทำจึงอุ้มเจ้าแมวส้มและเจ้าไก่ทองมานั่งเล่นที่ระเบียงหน้าเรือนใหญ่ ระยะนี้พวกมันไม่ตีกันแล้ว อีกทั้งยังดูเหมือนจะแย่งกันอยู่ใกล้นางอีกด้วย จินฝูเองก็ไม่รังเกียจกลับชอบพวกมันสองตัวมากเสียด้วยซ้ำ บางคราการอยู่กับสัตว์เลี้ยงและธรรม

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   ตอนที่ 4 สาวใช้คนสนิ๊ทสนิท

    จินฝูมาถึงได้ไม่นานกู้เหยียนฉีก็ออกมาจากห้องนอนพอดี หญิงสาวลอบพรูลมหายใจออกมา โชคดีที่นางมาทันไม่อย่างนั้นอาจจะโดนทำโทษที่มาสายอีกหนึ่งกระทง กู้เหยียนฉีปรายตามองเหล่าสตรีตรงหน้าคราหนึ่ง อย่างไรก็ต้องเลือกพวกนางให้มารับใช้ในเรือนใหญ่อยู่ดี หากเขาไม่ทำเช่นนี้ เจี่ยงฮองเฮาย่อมไม่ยอมรามือไม่สู้ตามน้ำนางไปก่อนก็ไม่นับว่าเสียหายอันใดด้านฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์ที่เห็นว่าจินฝูมาทันเวลา ก็ดีใจมาก พวกนางเป็นห่วงจินฝูแทบตายเกรงว่านางจะถูกทำโทษซ้ำสอง"จินฝู ตาเจ้า?"ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์ชี้ไม้ชี้มือมาที่ดวงตาของนาง จินฝูบอกเพียงว่าระหว่างที่เดินมาที่นี่นางเกิดหกล้มตากระแทกพื้นและไม่ได้เอ่ยอันใดต่ออีก ยามนี้ดวงตาของนางคงช้ำเลือดได้ที่แล้ว ดีมาก เป็นไปตามแผน ใครอยากข้าปรนนิบัติเขาก็ทำไปเถอะ นางยอมต่อยตาตนเองจนบอดก็จะไม่ยอมตกเป็นทาสรักของเขากู้เหยียนฉีมองสำรวจสตรีทุกคนในห้องโถงอย่างละเอียด วันนี้พวกนางตั้งใจผลัดแป้งแต่งหน้ากันอย่างตั้งใจ กลิ่นเครื่องประทินโฉมลอยมาแตะจมูกจนเขารู้สึกฉุน ชายหนุ่มเดินมาหาเหล่านางกำนัลที่ยืนอยู่พลางมองสำรวจพวกนางไปทีละคน เหล่านางกำนัลที่ถูกเขาจ้องมองก็เขินอายจนตัวม้วน บา

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   ตอนที่ 3 ไก่ แมว นางกำนัล

    "ดูจินฝูสิ ตั้งแต่เช้าข้าเห็นนางวิ่งไม่หยุดเลย เดี๋ยวไก่จิกแมว เดี๋ยวแมวไล่ตีไก่ ตัวนางเองยังพลอยโดนแมวกับไก่ไล่ตีไปด้วย"ฉินเซียงเอ่ยไปพลางมองดูจินฝูที่วิ่งไล่แมวไล่ไก่อยู่ในสวนด้วยสายตาเห็นใจ ซ่งเอ๋อร์เองก็พยักหน้าเห็นด้วย"ได้ยินนางกำนัลคนอื่นบอกว่า ท่านอ๋องทรงไม่ถือสานางจึงทำโทษให้นางมาเลี้ยงไก่เลี้ยงแมว แต่ถ้าหากนางปราบพยศเจ้าสองตัวนั่นไม่ได้ นางอาจจะไร้หนทางรอด""เวรกรรมแท้ๆ"ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์หันมาสบตากันคราหนึ่งพลางถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินตรงไปที่โรงครัวเพื่อจะไปเอาขนมอร่อยๆมาให้จินฝูกินเพิ่มพลังในการวิ่งไล่เจ้าแมวเจ้าไก่สองตัวนั่นยามนี้จินฝูกำลังนั่งหอบอยู่ที่ใต้ต้นไม้ มือหนึ่งอุ้มแมวไว้ อีกมือก็กอดไก่ ปากก็ด่าไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังคิดจะสู้กันไม่หยุด นางไม่คิดเลยว่าการเลี้ยงเจ้าสองตัวนี่จะยุ่งยากถึงเพียงนี้ ยามนี้นางเข้าใจแล้วว่าเหตุพ่อบ้านตู้จึงส่งสายตาเช่นนั้นมาให้นาง"ให้ตายเถอะ พวกเจ้าเลิกตีกันเสียที ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!"จินฝูปรารถออกมาอย่างเหนื่อยใจเดิมทีนางคิดว่าจับพวกมันแยกกันเช่นนี้ได้ผลนัก แต่เพียงไม่นานเจ้าแมวก็ขู่เจ้าไก่ เจ้าไก่ก็จ้องพุ่งเข้าใส่

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   ตอนที่ 2 ร้องขอความเมตตา

    จินฝูที่เห็นว่าตนเองรอดเงื้อมมือมารมาได้แล้ว จึงรีบกลับมาที่เรือนพักของตนตามที่พ่อบ้านตู้บอก เพราะพวกนางไม่ได้มีฐานะสูงส่งอันใด เรียกได้ว่าต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยการดูสีหน้าผู้คนจึงไม่อาจเรียกร้องสิ่งใดได้ จินฝูเองไม่คิดหวังความโปรดปราณจากท่านอ๋องเช่นกัน แม้แต่ไก่ตัวเดียวเขายังเกือบจะฆ่านางตาย คนเช่นนี้จ้างนางด้วยทองนางยังไม่อยากจะไปรับใช้เขาเลย"จินฝู ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่รอดกลับมาเสียแล้ว""นั่นสิ พวกเราสองคนตกใจแทบตายเจ้านี่ก็ช่างใจกล้านัก อยู่ๆ ไปจับข้าวของในจวนอ๋องส่งเดช เอาความกล้ามาจากที่ใดกัน"จินฝูเพียงยิ้มออกมาเล็กน้อย สตรีน้อยสองนางนี้มีชื่อว่าฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์เป็นสหายสนิทของเจ้าของร่างเดิม เมื่อนางเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้วพบว่าฉินเซียงและซ่องเอ๋อร์นิสัยดี นางจึงคบหาพวกนางได้อย่างสนิทใจ ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์เป็นหญิงสาวที่มาจากครอบครัวชาวนาเหมือนกันกับนาง ตอนที่นางมาเกิดใหม่ในร่างนี้ก็ได้สองคนนี้ช่วยในหลายๆ เรื่องนับว่าโชคดีที่พวกนางทั้งสามคนได้พักอยู่ห้องเดียวกัน"ข้าหิว จึงตาลายไปหน่อย"จินฝูเอ่ยตอบโดยไปเพื่อให้จบเรื่องจบราว ยามนี้ก็ดึกมากแล้ว พวกนางไม่อยากสนทนากันให้มากความเพร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status