Share

ตอนที่ 2 ร้องขอความเมตตา

last update Last Updated: 2025-08-30 15:12:01

จินฝูที่เห็นว่าตนเองรอดเงื้อมมือมารมาได้แล้ว จึงรีบกลับมาที่เรือนพักของตนตามที่พ่อบ้านตู้บอก เพราะพวกนางไม่ได้มีฐานะสูงส่งอันใด เรียกได้ว่าต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยการดูสีหน้าผู้คนจึงไม่อาจเรียกร้องสิ่งใดได้ จินฝูเองไม่คิดหวังความโปรดปราณจากท่านอ๋องเช่นกัน แม้แต่ไก่ตัวเดียวเขายังเกือบจะฆ่านางตาย คนเช่นนี้จ้างนางด้วยทองนางยังไม่อยากจะไปรับใช้เขาเลย

"จินฝู ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่รอดกลับมาเสียแล้ว"

"นั่นสิ พวกเราสองคนตกใจแทบตายเจ้านี่ก็ช่างใจกล้านัก อยู่ๆ ไปจับข้าวของในจวนอ๋องส่งเดช เอาความกล้ามาจากที่ใดกัน"

จินฝูเพียงยิ้มออกมาเล็กน้อย สตรีน้อยสองนางนี้มีชื่อว่าฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์เป็นสหายสนิทของเจ้าของร่างเดิม เมื่อนางเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้วพบว่าฉินเซียงและซ่องเอ๋อร์นิสัยดี นางจึงคบหาพวกนางได้อย่างสนิทใจ ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์เป็นหญิงสาวที่มาจากครอบครัวชาวนาเหมือนกันกับนาง ตอนที่นางมาเกิดใหม่ในร่างนี้ก็ได้สองคนนี้ช่วยในหลายๆ เรื่อง

นับว่าโชคดีที่พวกนางทั้งสามคนได้พักอยู่ห้องเดียวกัน

"ข้าหิว จึงตาลายไปหน่อย"

จินฝูเอ่ยตอบโดยไปเพื่อให้จบเรื่องจบราว ยามนี้ก็ดึกมากแล้ว พวกนางไม่อยากสนทนากันให้มากความเพราะต้องเก็บแรงเอาไว้ทำงานในวันพรุ่งนี้ อีกทั้งยังต้องตื่นเช้าด้วยหากตื่นไม่ทันเกรงว่าอาจจะถูกทำโทษเอาได้

ต้นยามเหม่าของเช้าวันต่อมา จินฝูก็ได้ยินเสียงไก่ขันพร้อมกับเสียงปลุกจากพ่อบ้านตู้ พวกนางรีบลุกขึ้นมาจัดการตนเองจนเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงแยกย้ายกันไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย

นางกำนัลที่ส่งมาครั้งนี้มีทั้งหมดยี่สิบคน พ่อบ้านตู้แบ่งสาวงามสิบคนแรกไปกวาดถูตามเรือนต่างๆ ส่วนอีกห้าคนให้ไปที่โรงครัว และกลุ่มสุดท้ายห้าคนที่เหลือคือกลุ่มของจินฝู ถูกส่งไปทำงานที่สวนหลังจวนเพื่อดูแลดอกไม้และกวาดเศษใบไม้ งานของนางนอกจากกวาดใบไม้ดูแลดอกไม้ใบหญ้าแล้ว ก็ไม่มีอันใดให้ทำอีก เรียกได้ว่าค่อนข้างสบายอยู่ไม่น้อยเลยเชียว

นางไม่อยากทำตัวโดดเด่น ไม่อยากกลายเป็นสตรีที่เขาหมายตาเลยแม้แต่น้อย นางขอเป็นเพียงนางกำนัลน้อยผู้แสนน่ารัก กิน นอน ปัดกวาดพื้นไปวันๆ ก็พอแล้ว

"เห้อ เสร็จเสียที"

จินฝูเอ่ยจบก็ยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผากตนอย่างลวกๆ ยามนี้นางรดน้ำดอกไม้เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงมีเวลามานั่งพัก ฉินเซียงกับซ่งเอ๋อร์ที่เพิ่งทำงานของตนเสร็จก็บอกว่าจะไปที่โรงครัวเพื่อหาขนมอร่อยๆ มากินและจะนำมาเผื่อนางด้วย จินฝูพยักหน้ารับแล้วจึงเดินไปตามทางที่ปูลาดด้วยหินอ่อนเรื่อยๆ อย่างไม่รีบไม่ร้อน ดื่มด่ำกับธรรมชาติและความงามของดอกไม้อย่างช้าๆ ที่จวนอ๋องบรรยากาศดีมากจริงๆ อีกทั้งพ่อบ้านตู้ก็ใจดีมาก นางกำนัลคนไหนทำงานเสร็จแล้ว ก็สามารถไปรับขนมมากินได้ นี่คือความเมตตาจากท่านอ๋อง

คนอย่างเขาก็มีมุมที่สงสารเห็นใจคนเหมือนกันหรือนี่?

สายลมเย็นพัดเข้ามาประทะใบหน้านางทำให้รู้สึกดีมาก นางเดินมาเรื่อยๆ จนเจอต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง จึงทิ้งกายนั่งพิงต้นไม้เพื่อพักเสียหน่อย

นางเข้าวงการตอนอายุสิบสี่ ต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะได้มายืนอยู่แถวหน้าของวงการบันเทิงท่ามกลางความกดดันที่มากมาย นางแทบจะไม่ได้นอนพักเต็มที่ ต้องตื่นเช้าไปเรียนและแบ่งเวลาไปทำงาน หาเงินมาเลี้ยงดูตนเอง นางเป็นเด็กกำพร้า แต่สามารถผลักดันตนเองจนมาถึงขั้นนั้นได้นับว่าไม่ง่ายแต่สุดท้ายกลับเหลือเพียงความว่างเปล่า

จินฝูหลับตาเพื่อนอนพัก นานมากแล้วที่นางไม่ได้พักผ่อนอย่างสบายใจเช่นอย่างตอนนี้

นอนอยู่สักพัก ในขณะที่นางกำลังเคลิบเคลิ้ม ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาจิกที่แขนของนาง เมื่อจินฝูลืมตาขึ้นมามองก็พบว่าเป็นไก่ตัวนั้นนั่นเอง ยามนี้มันกำลังมองนางด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้ จินฝูรีบนั่งเหยียดตัวตรง แล้วมองไก่ตรงหน้าอย่างระแวง

"สหายไก่ ข้าไม่ได้อยากกินเจ้านะ เจ้าอย่าถือสาข้าได้หรือไม่ ข้าเพียงหิวจนตาลายเท่านั้น พวกเรามาดีกันเถอะนะ"

เจ้าไก่ตัวนั้นเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย เดิมทีจินฝูคิดว่าเจ้าไก่นี้ต้องไล่ตีนางแน่ แต่ทว่ารออยู่นานมันกลับไม่ทำร้ายนางกลับกันยังทิ้งกายลงนอนข้างๆ นางด้วย จินฝูที่เห็นเช่นนั้นจึงยิ้มกว้าง แล้วจึงยื่นมือไปลูบหัวมันเบาๆ เจ้าไก่ตัวสีทองเองก็ไม่หวงเนื้อหวงตัวเลยแม้แต่น้อย

"เจ้าไก่ตัวนี่ ดูๆ ไปแล้วก็น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย น่ารักแบบนี้ข้ากินเจ้าไม่ลงหรอก"

จินฝูเอ่ยอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่นางจะหันมองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใด จึงหันมาระบายกับเจ้าไก่ตัวนั้นทันที

"เจ้าคงเป็นไก่สุดที่รักของท่านอ๋องอารมณ์แปรปรวนคนนั้นสินะ เจ้ากล้าอยู่กับเขาไปได้อย่างไรกัน ข้ากลัวแทบตาย เจ้ารู้หรือไม่ว่าสมองเจ้านายตนเองมีปัญหา ข้ายังไม่อยากอยู่ใกล้เขาเลยแม้แต่น้อย กลัวเขาจะโมโหแล้วเอามีดปาดคอข้า ได้ยินพ่อบ้านตู้บอกว่าหากนางกำนัลคนใดได้เป็นผู้หญิงของเขาจะสบายขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ แต่ข้าน่ะไม่อยากเป็นหรอก ข้าอยากกวาดพื้น นอนใต้ต้นไม้ มีของกินอร่อยๆ ให้กินทุกวันก็พอแล้ว ข้าจะเอาของกินมาแบ่งเจ้าด้วย อ้อ ข้าสามารถเป็นเพื่อนกับเจ้าได้ ดีไหม"

จินฝูพูดเองเออเองเสียดิบดี นางคิดเช่นนี้จริงๆ นางไม่อยากได้ความโปรดปราณอันใดทั้งสิ้น ใครอยากแย่งความโปรดปราณจากเขาก็แย่งไปเถอะ นางไม่เอาด้วยคน

"เจ้านี่ช่างใจกล้านักนะ แอบวิจารณ์เจ้านายโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใดเลย!"

ในขณะที่จินฝูกำลังสนทนากับไก่อยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงของบุรุษผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่พอใจ ทำเอาจินฝูสะดุ้งเฮือก นางหันมองซ้ายขวาหน้าหลังแต่กลับไม่พบใครสักคน หญิงสาวยกมือขึ้นทาบอกตนพลางเอ่ยขึ้นมาอย่างหวาดๆ

"ให้ตายเถอะ นี่ข้าหลอนจนได้ยินเสียงของท่านอ๋องประสาทคนนั้นเลยหรือนี่?"

"เจ้าอยากตายมากใช่หรือไม่?"

เอาอีกแล้ว!

จินฝูเริ่มลนลาน นางหันไปมองโดยรอบเพื่อหาต้นตอของเสียงนั้น อยู่ๆ ก็มีกิ่งไม้แห้งกิ่งเล็กๆ ร่วงลงมาใส่ศีรษะของนาง เมื่อนางเงยหน้าขึ้นไปมองก็ถึงกับหน้าซีดเผือด

"ท่านอ๋อง!"

เวรเถอะ ตายแน่เลยงานนี้!

จินฝูเริ่มเข่าอ่อนขึ้นมาเสียดื้อๆ นึกอยากตีปากตนเองให้แตกเสีย ชายหนุ่มตรงหน้ากระโดดจากต้นไม้ลงมายืนอยู่เบื้องหน้านาง ดวงตาคมกริบตวัดมองนางอย่างไม่พอใจ

"เจ้านี่ น่าตัดลิ้นทิ้งจริงๆ"

จินฝูอับจนหนทางแล้ว นางปากสั่นตัวสั่นไปหมด คิดแผนการใดไม่ออกทั้งสิ้น หญิงสาวพยายามตั้งสติ อยู่ๆ สมองก็พลันคิดแผนการขึ้นมาได้วิธีหนึ่ง

ไม่พูดให้มากความ นางก็กระโดดเข้าไปกอดขาข้างซ้ายของเขาทันที ไม่เพียงเท่านั้นนางยังใช้สองขาของตนเกี่ยวรัดขาของเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย กู้เหยียนฉีชะงักไปชั่วขณะไม่คิดว่าสตรีตรงหน้าจะใจกล้าถึงเพียงนี้

"ฮือ ท่านอ๋อง หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ หม่อมฉันไม่กล้าเอ่ยวาจาส่งเดชอีกแล้ว ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย หม่อมฉันยินดีเป็นวัวเป็นม้าให้พระองค์โขลกสับไปชั่วชีวิตเพคะ"

เอ่ยไปพลางก็แอบเอานิ้วแตะน้ำลายในปากมาทาที่ขอบตาเพื่อให้ดูสมจริงมากยิ่งขึ้น

กู้เหยียนฉีส่งเสียงเหอะออกมา เขาโตมาจนป่านนี้ยังไม่เคยเจอสตรีที่ไร้มรรยาทเช่นนางมาก่อนเลย

"ปล่อยข้า!"

"ไม่ปล่อยเพคะ หากพระองค์ไม่ยอมอภัยให้ หม่อมฉันก็จะกอดขาพระองค์ไม่ยอมจากไป ฮือ ท่านอ๋องสุดหล่อ ท่านอ่องสุดที่รักเพคะ โปรดไว้ชีวิตนางกำนัลตัวน้อยๆ อย่างหม่อมฉันด้วยเถิด"

กู้เหยียนฉีพยายามข่มกลั้นโทสะตน แม้เขาจะโมโหมากเพียงใด แต่ไม่คิดจะฆ่าแกงหรือทำร้ายนางเลยแม้แต่น้อย อย่างมากก็เพียงไล่ออกจากจวนเท่านั้น

จินฝูยังคงไม่ยอมแพ้ ไหนๆ ก็อาจจะไม่มีหนทางรอดแล้ว เช่นนี้จะปล่อยโอกาศเพียงน้อยนิดไปไม่ได้ นางต้องกอดขาทองคำนี้เอาไว้ให้แน่น

กู้เหยียนฉีหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก จะถีบนางก็ทำไม่ลง โชคดีที่พ่อบ้านตู้เดินมาทางนี้พ่อดี เขาจึงส่งสายตาให้พ่อบ้านตู้มาเอาตัวนางไป

"ตายแล้ว นางกำนัลผู้นี้เจ้าจะใจกล้าเกินไปแล้ว บังอาจมากอดขาท่านอ๋องเช่นนี้ได้อย่างไร ปล่อยนะ ไม่ปล่อยข้าตีมือนะ!"

จินฝูกลับกอดขากู้เหยียนฉีแน่นยิ่งกว่าเดิม สภาพนางและกู้เหยียนฉีตอนนี้ค่อนข้างทุลักทุเลเป็นอย่างยิ่ง

"ไม่ปล่อยเพคะ ในเมื่อจะตายอยู่แล้ว หม่อมฉันก็จะกอดขาท่านอ๋องเอาไว้และขาดใจตายที่หว่างขาของท่านอ๋องซะ!"

กู้เหยียนฉียกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว พลางเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายใจ

"ข้าไม่ได้จะฆ่าเจ้า"

จินฝูเมื่อได้ยินก็รีบเงยหน้าไปมองเขาทันที

"จริงหรือเพคะ?"

กู้เหยียนฉีไม่เคยรู้สึกเหนื่อยใจเช่นนี้มาก่อนในชีวิต เดิมทีสำหรับเขาโทษของนางเพียงสั่งสอนสักหน่อยก็พอแล้ว นางไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเขา เขารับรู้ได้ บางคราอาจเพราะนางไปได้ยินข่าวโสมมข้างนอกที่เล่าลือกันเพื่อใช้โจมตีเขาจึงมีอาการตอบสนองเช่นนี้ แม้เขาจะเป็นคนเย็นชา เจ้าอารมณ์เล็กน้อย แต่เขาไม่ใช่คนไร้คุณธรรมที่แยกแยะดีชั่วไม่ได้

จินฝูยังคงไม่วางใจ นางไม่ยอมปล่อยขาเขาและยังคงกอดขาเขาเอาไว้แน่นยิ่งกว่าเดิม

“ปล่อยข้า”

“ท่านอ๋องจะไม่ทรงลงโทษจริงหรือเพคะ ลงโทษเสียหน่อยหม่อมฉันจะได้สบายใจ”

กู้เหยียนฉีมองจินฝูด้วยความสนใจ พลางเอ่ยถาม

“อ้อ เช่นนั้นอยากให้ข้าลงโทษแบบใดหรือ”

จินฝูเอ่ยตอบทั้งที่ยังกอดขาเขาเอาไว้แน่น

“อย่างเช่นตบปากสั่งสอน แต่อย่าตบแรงนะเพคะ เดี๋ยวปากหม่อมฉันบวมมันจะไม่งาม หรือไม่ก็โบยเพคะ เอ่อ โบยสักสามไม้ก็พอ เอาพอระคายผิวอย่าให้เป็นแผลลึก หม่อมฉันไม่อยากนอนคว่ำเพคะ หม่อมฉันชอบนอนหงาย หรือว่าจะตีขา ไอหยา เกิดขาเบี้ยวคงไม่ดี เช่นนั้น...”

“ช้าก่อน!”

จินฝูเม้มริมฝีปากแน่นไม่กล้าเอ่ยอันใดอีก กู้เหยียนฉีที่เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกปวดหัวนัก นางให้เขาลงโทษ แต่กลับเรื่องมากเช่นนี้ ไม่มีผู้ใดเคยทำ

ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วจึงเอ่ยกับนางเสียงเข้ม

"ไปเลี้ยงไก่กับแมวให้ข้าเพื่อเป็นการไถ่โทษ หากเจ้าสามารถทำให้พวกมันเลิกตีกันได้ ข้าจะอภัยให้"

จินฝูกระพริบตาปริบๆ เลี้ยงไก่เลี้ยงแมวหรือ เหตุใดจึงทำโทษสถานเบาเช่นนี้เล่า อะโด่! แค่เลี้ยงไก่กับแมวมันจะไปยากอันใด สบายมาก!

จินฝูไม่กอดขากู้เหยียนฉีอีก นางรีบโขกศีรษะให้เขาทันที

"ท่านอ๋องใจดีมีเมตตา รูปงามสง่าน่าเกรงขาม หม่อมฉันจะตั้งใจเลี้ยงไก่เลี้ยงแมวให้พระองค์อย่างสุดความสามารถเพคะ"

"ดี หากมันยังไม่เลิกตีกัน เจ้านั่นแหละต้องถูกโบยแทน"

“รับทราบเพคะ"

กู้เหยียนฉีส่งเสียงหัวเราะหึหึ ในขณะที่กำลังจะเดินจากไปเขาก็หันมาเอ่ยกับนาง

“คราบน้ำลายใต้ดวงตาเจ้า เช็ดออกด้วย มันน่าเกียจ”

จินฝูที่กำลังยิ้มหน้าบานพลันหุบยิ้มในทันที ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดหน้าตนอย่างเก้อเขิน กู้เหยียนฉีไปแล้ว พ่อบ้านตู้ก็กำลังตามเจ้านายไป แต่นางกลับสังเกตุเห็นว่าพ่อบ้านตู้กำลังส่งสายตาสงสารเห็นใจมาให้นาง จินฝูที่เห็นอย่างนั้นจึงขมวดคิ้วมุ่นคราหนึ่ง

เหตุใดพ่อบ้านตู้จึงส่งสายตาเวทนามาให้นางเช่นนั้นด้วยเล่า!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 7 เรื่องวุ่นๆของวัยรุ่นในจวนอ๋อง

    ระยะนี้จวนอ๋องค่อนข้างสงบเงียบยิ่งนัก ไม่มีเรื่องให้น่าปวดหัวเลย ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นกับเสิ่นหลี นางกำนัลที่เหลืออยู่ต่างไม่กล้าทำตัวเหิมเกริมตามใจชอบอีก และยิ่งไม่กล้าหาเรื่องจินฝู ทุกคนต่างนอบน้อมต่อนางมาก แม้กระทั่งพ่อบ้านตู้ยังทำราวกับนางเป็นเจ้านายอีกคน แต่จินฝูคร้านจะใส่ใจเท่าใดนัก อำนาจพวกนี้เป็นเพียงสิ่งจอมปลอม นางไม่ได้ต้องการ นางเพียงอยากมีชีวิตที่สงบราบรื่นและคิดว่าสักวันจะกลับไปยังโลกที่นางจากมาได้ระยะนี้กู้เหยียนฉีตื่นแต่เช้าไปประชุมที่วังหลวงและกลับมาค่ำมืดทุกวัน นางจึงไม่ได้มีงานใดให้ทำมากนัก นอกจากเลี้ยงเจ้าแมวเจ้าไก่แล้ว ก็มีเพียงงานเล็กๆน้อยๆให้ทำฆ่าเวลาอยู่บ้าง วันเวลาเช่นนี้สำหรับนางนับว่าดีมาก ตรงกับความใฝ่ฝันในชีวิตของนางพอดี นั่นก็คือ กิน นอน และก็กินหลังจากพาเจ้าสัตว์เลี้ยงสองตัวไปเดินแล้ว จินฝูจึงมานั่งเล่นที่ชิงช้าใต้ต้นไม้ใหญ่ หลายวันก่อนนางทำชิงช้าเองกับมือเพื่อเอาไว้นั่งเล่นยามเบื่อเพราะความว่างงานทำให้จินฝูมีเวลาทำหน้าไม้เอาไว้เล่นอันหนึ่ง นางคิดว่าจะเอาไว้ยิงนกยิงหินเล่นยามเบื่อ ตั้งแต่เด็กนางก็ชอบทำของพวกนี้ เสียดายที่ในยุคปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้แล้ว

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 6 หมดประโยชน์

    ท้ายที่สุดเขาก็ปล่อยนางไปโดยไม่ได้ลงโทษอันใด จะให้เขาหาเหตุผลใดมาลงโทษนางกัเล่า วาจาของนางแม้จะดูไร้แก่นสารแต่ก็มีเหตุผลแฝงอยู่ อีกอย่างเขาก็เห็นเองกับตาว่านางกำนัลนามว่าเสิ่นหลีผู้นั้นเป็นคนหาเรื่องนางก่อน จินฝูภายนอกดูเหมือนคนไม่เอาไหน แต่นางกลับมีหัวคิดที่ดีไม่น้อยเลย หากนางไม่โลภมากเช่นปากว่าจริง เขาก็ไม่ได้คิดจะไล่นางไปไหน เลี้ยงนางกำนัลตละกละเอาไว้สักคนย่อมไม่เปลืองเงินทองเท่าใดนักหรอกชายหนุ่มทอดถอนใจเล็กน้อย วันนี้ตอนเข้าร่วมประชุมยามเช้าที่วังหลวง มีเรื่องให้ต้องขบคิดมากมาย ยามนี้ขุนนางในราชสำนักกำลังร่วมกันกดดันฝ่าบาทให้ทรงแต่งตั้งองค์รัชทายาท แต่ก็มีขุนนางอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งองค์รัชทายาท เนื่องจากกู้ม่อหลียังทำตัวเสเพลไม่น่าเชื่อถือ อีกทั้งยังบ้าอำนาจ มีนางกำนัลไม่น้อยที่ถูกเขาย่ำยี เมื่อได้เด็ดดมบุปผาจนพอใจแล้วก็ถีบหัวส่งพวกนางอย่างไม่ไยดี คนบ้ากามเช่นนี้หากได้ขึ้นครองราชย์บ้านเมืองย่อมร้อนเป็นไฟแน่นอน อายุของกู้ม่อหลีปีนี้ก็ยี่สิบปีเข้าไปแล้ว แต่ยังไม่เป็นโล้เป็นพาย ต่างจากเขาที่ปีนี้อายุยี่สิบสามแล้วแต่กลับมีความสามารถโดดเด่นตั้งแต่อายุสิบห้าปีแม้ข

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   บทที่ 5 ต่อล้อต่อเถียง

    หลังจากกินมื้อเช้าอิ่มแล้ว กู้เหยียนฉีก็เข้าวังหลวงไปร่วมประชุมยามเช้ากับเหล่าขุนนางในราชสำนัก เขาเป็นแม่ทัพใหญ่ อีกทั้งยังมีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ และยังเป็นที่ไว้วางพระทัยของเสด็จลุง เสด็จพ่อและเสด็จแม่ของเขาตายจากไปนานแล้ว ตำแหน่งชินอ๋องนี้เขาได้รับสืบทอดจากบิดา นับว่ามีสถานะสูงส่งไม่น้อยเลย ด้านจินฝูก็ยกถาดอาหารออกมาจากห้องโถงใหญ่ นางสังเกตอาการตนเองอย่างระแวะระวัง พบว่าผ่านมาครึ่งชั่วยามแล้วยังไม่นอนชัก เช่นนั้นก็คือรอดแล้ว! แต่ถึงจะตายนางก็ไม่เสียดายเพราะท้องของนางอิ่มหนำแล้วไม่ต้องไปทนหิวในปรโลกอีก"ไอหยา ท่านอ๋องเสวยได้เยอะเลยหรือนี่ นางกำนัลจิน เจ้าทำได้ดีมาก!"พ่อบ้านตู้ที่เห็นว่าอาหารที่นำเข้าไปพร่องลงไปเกือบหมดก็ยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี จินฝูทำได้เพียงยิ้มกลบเกลื่อน เขากินเก่งอันใดกัน นางนี้แหละกินของเขาจนหมด!เมื่อกู้เหยียนฉีไปแล้ว จินฝูผู้ไม่มีอะไรทำจึงอุ้มเจ้าแมวส้มและเจ้าไก่ทองมานั่งเล่นที่ระเบียงหน้าเรือนใหญ่ ระยะนี้พวกมันไม่ตีกันแล้ว อีกทั้งยังดูเหมือนจะแย่งกันอยู่ใกล้นางอีกด้วย จินฝูเองก็ไม่รังเกียจกลับชอบพวกมันสองตัวมากเสียด้วยซ้ำ บางคราการอยู่กับสัตว์เลี้ยงและธรรม

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   ตอนที่ 4 สาวใช้คนสนิ๊ทสนิท

    จินฝูมาถึงได้ไม่นานกู้เหยียนฉีก็ออกมาจากห้องนอนพอดี หญิงสาวลอบพรูลมหายใจออกมา โชคดีที่นางมาทันไม่อย่างนั้นอาจจะโดนทำโทษที่มาสายอีกหนึ่งกระทง กู้เหยียนฉีปรายตามองเหล่าสตรีตรงหน้าคราหนึ่ง อย่างไรก็ต้องเลือกพวกนางให้มารับใช้ในเรือนใหญ่อยู่ดี หากเขาไม่ทำเช่นนี้ เจี่ยงฮองเฮาย่อมไม่ยอมรามือไม่สู้ตามน้ำนางไปก่อนก็ไม่นับว่าเสียหายอันใดด้านฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์ที่เห็นว่าจินฝูมาทันเวลา ก็ดีใจมาก พวกนางเป็นห่วงจินฝูแทบตายเกรงว่านางจะถูกทำโทษซ้ำสอง"จินฝู ตาเจ้า?"ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์ชี้ไม้ชี้มือมาที่ดวงตาของนาง จินฝูบอกเพียงว่าระหว่างที่เดินมาที่นี่นางเกิดหกล้มตากระแทกพื้นและไม่ได้เอ่ยอันใดต่ออีก ยามนี้ดวงตาของนางคงช้ำเลือดได้ที่แล้ว ดีมาก เป็นไปตามแผน ใครอยากข้าปรนนิบัติเขาก็ทำไปเถอะ นางยอมต่อยตาตนเองจนบอดก็จะไม่ยอมตกเป็นทาสรักของเขากู้เหยียนฉีมองสำรวจสตรีทุกคนในห้องโถงอย่างละเอียด วันนี้พวกนางตั้งใจผลัดแป้งแต่งหน้ากันอย่างตั้งใจ กลิ่นเครื่องประทินโฉมลอยมาแตะจมูกจนเขารู้สึกฉุน ชายหนุ่มเดินมาหาเหล่านางกำนัลที่ยืนอยู่พลางมองสำรวจพวกนางไปทีละคน เหล่านางกำนัลที่ถูกเขาจ้องมองก็เขินอายจนตัวม้วน บา

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   ตอนที่ 3 ไก่ แมว นางกำนัล

    "ดูจินฝูสิ ตั้งแต่เช้าข้าเห็นนางวิ่งไม่หยุดเลย เดี๋ยวไก่จิกแมว เดี๋ยวแมวไล่ตีไก่ ตัวนางเองยังพลอยโดนแมวกับไก่ไล่ตีไปด้วย"ฉินเซียงเอ่ยไปพลางมองดูจินฝูที่วิ่งไล่แมวไล่ไก่อยู่ในสวนด้วยสายตาเห็นใจ ซ่งเอ๋อร์เองก็พยักหน้าเห็นด้วย"ได้ยินนางกำนัลคนอื่นบอกว่า ท่านอ๋องทรงไม่ถือสานางจึงทำโทษให้นางมาเลี้ยงไก่เลี้ยงแมว แต่ถ้าหากนางปราบพยศเจ้าสองตัวนั่นไม่ได้ นางอาจจะไร้หนทางรอด""เวรกรรมแท้ๆ"ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์หันมาสบตากันคราหนึ่งพลางถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินตรงไปที่โรงครัวเพื่อจะไปเอาขนมอร่อยๆมาให้จินฝูกินเพิ่มพลังในการวิ่งไล่เจ้าแมวเจ้าไก่สองตัวนั่นยามนี้จินฝูกำลังนั่งหอบอยู่ที่ใต้ต้นไม้ มือหนึ่งอุ้มแมวไว้ อีกมือก็กอดไก่ ปากก็ด่าไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังคิดจะสู้กันไม่หยุด นางไม่คิดเลยว่าการเลี้ยงเจ้าสองตัวนี่จะยุ่งยากถึงเพียงนี้ ยามนี้นางเข้าใจแล้วว่าเหตุพ่อบ้านตู้จึงส่งสายตาเช่นนั้นมาให้นาง"ให้ตายเถอะ พวกเจ้าเลิกตีกันเสียที ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!"จินฝูปรารถออกมาอย่างเหนื่อยใจเดิมทีนางคิดว่าจับพวกมันแยกกันเช่นนี้ได้ผลนัก แต่เพียงไม่นานเจ้าแมวก็ขู่เจ้าไก่ เจ้าไก่ก็จ้องพุ่งเข้าใส่

  • เกิดใหม่เป็นสาวใช้คนงามของท่านอ๋องเจ้าอารมณ์   ตอนที่ 2 ร้องขอความเมตตา

    จินฝูที่เห็นว่าตนเองรอดเงื้อมมือมารมาได้แล้ว จึงรีบกลับมาที่เรือนพักของตนตามที่พ่อบ้านตู้บอก เพราะพวกนางไม่ได้มีฐานะสูงส่งอันใด เรียกได้ว่าต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยการดูสีหน้าผู้คนจึงไม่อาจเรียกร้องสิ่งใดได้ จินฝูเองไม่คิดหวังความโปรดปราณจากท่านอ๋องเช่นกัน แม้แต่ไก่ตัวเดียวเขายังเกือบจะฆ่านางตาย คนเช่นนี้จ้างนางด้วยทองนางยังไม่อยากจะไปรับใช้เขาเลย"จินฝู ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่รอดกลับมาเสียแล้ว""นั่นสิ พวกเราสองคนตกใจแทบตายเจ้านี่ก็ช่างใจกล้านัก อยู่ๆ ไปจับข้าวของในจวนอ๋องส่งเดช เอาความกล้ามาจากที่ใดกัน"จินฝูเพียงยิ้มออกมาเล็กน้อย สตรีน้อยสองนางนี้มีชื่อว่าฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์เป็นสหายสนิทของเจ้าของร่างเดิม เมื่อนางเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้วพบว่าฉินเซียงและซ่องเอ๋อร์นิสัยดี นางจึงคบหาพวกนางได้อย่างสนิทใจ ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์เป็นหญิงสาวที่มาจากครอบครัวชาวนาเหมือนกันกับนาง ตอนที่นางมาเกิดใหม่ในร่างนี้ก็ได้สองคนนี้ช่วยในหลายๆ เรื่องนับว่าโชคดีที่พวกนางทั้งสามคนได้พักอยู่ห้องเดียวกัน"ข้าหิว จึงตาลายไปหน่อย"จินฝูเอ่ยตอบโดยไปเพื่อให้จบเรื่องจบราว ยามนี้ก็ดึกมากแล้ว พวกนางไม่อยากสนทนากันให้มากความเพร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status