Masukตอนนี้ชีวิตใหม่ที่แสนจะมีวุ่นวายของหมิวที่อยู่ในร่างขององค์หญิงหลิงเซียงเริ่มมีความสุขมากขึ้น มากจนคิดว่าถ้าหากถึงวันที่เกิดเหตุร้ายตามที่เขาศึกษามา เขาคงต้องเสียใจมากแน่เพราะมู่เทียนหลาง เท่าที่รู้มาเขาจะกลายเป็นคุณชายตาบอดไปตลอดชีวิต เพราะเข้าไปช่วยฮ่องเต้ที่ติดอยู่ในกองเพลิง เขาตั้งในแล้วว่าจะไม่มีทางให้มันเกิดขึ้นแน่นอน อีกอย่างตั้งแต่มาอยู่ที่นี้แล้วมีเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนมาจากฝีมือของสำนักเงารัตติกาล หากวิเคราะห์โดยที่ไม่อิงประวัติศาสตร์ที่ศึกษาตัดออกไปไม่เอามาร่วม ก็จะเห็นได้ว่าเหตุการณ์ร้ายที่จะเชื่อมไปถึงในปีที่ 7 ของการของครองราชย์ของฮ่องจิ้งอู่ สำนักรัตติกาลนี้แหละคือตัวร้ายและน่าจะร่วมมือกับคนในราชวงศ์คนใดคนหนึ่งที่ทำให้ ทั้งฮ่องเต้และองค์รัชทายาทแตกหักกันมานานหลายปี วิเคราะห์ดูแล้วเอาเข้าจึง ๆ ไม่เป็นที่ประวัติศาสตร์ในตำราบันทึกไว้เลย ดูท่าเขากับมู่เทียนหลางคงต้องสืบหาคนอยู่เบื้อหลังอีกนานเลยวันนี้องค์หญิงหลิงเซียงอยากฉลองให้ตัวเองที่อยู่รอดปลอดภัยมาถึงปีที่สองจึงอยากทำอาหารฉลองสักหน่อย เมนูก็มีอะไรง่าย ๆ ที่ทำจากหมู หมูผัดกิมจิ ข้าวผัดหมู หมูทอดกระเทียม และหม
เช้าวันรุ่งขึ้นอากาศสดชื่น ลมทะเลจากเมืองไฮ่หยางพัดเอื่อย ๆ มู่เทียนหลางยืนรออยู่หน้าเรือนเช่าด้วยท่าทีเรียบสงบแต่ดวงตาดูสดใสผิดปกติ เมื่อเห็นองค์หญิงหลิงเซียงก้าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม เขาก็เอ่ยขึ้นทันที“วันนี้ ข้าจะพาทุกท่านออกเที่ยวทั่วเมืองไฮ่หยาง” หลิงเซียงทหารทั้งหลายตาเป็นประกายทันที“จริงหรือพ่ะย่ะค่ะ”มู่เทียนหลางพยักหน้าเบา ๆ“ถือเสียว่ามาเปลี่ยนบรรยากาศ… และเพื่อให้ฮูหยินได้พักผ่อน” เทียนหลางคำว่า ฮูหยิน ทำเอาองค์หญิงหลิงเซียงหน้าแดงตั้งแต่เช้าก่อนจะเบือนสายตาหนีอย่างเขิน ๆตลาดเช้าคึกคักเสียงผู้คนเรียกขายของ กลิ่นของทะเลสดใหม่ลอยโอบอวล มู่เทียนหลางก้าวเดินข้างองค์หญิงราวกับคุ้มกันนางด้วยความเคยชิน ทหารแต่ละคนแยกตัวไปดูของกินกันอย่างตื่นเต้น“นายท่าน นี่ปลาหมึกตากแห้งสดมากเจ้าค่ะ” ซินเหมย“นี้ๆ ข้าซื้อขนมพื้นเมืองมาให้ลอง!” เสี่ยงถังจื่อองค์หญิงหัวเราะเบา ๆ พลางรับของกินมาแบ่ง มู่เทียนหลางมองภาพนั้นด้วยสายตาอบอุ่นที่ใครเห็นก็รู้ว่าไม่ใช่สายตาแบบนายท่านปกติ เขายื่นผ้าซับมือให้นาง“ระวังเปื้อนนะ ฮูหยิน” เทียนหลาง“ท่านเรียกข้าเช่นนั้นอีกแล้ว…” หลิงเซียงมู่เทียนหลางเพียงยิ้ม ไ
มู่เทียนหลางที่นั่งเงียบมาตลอด ขณะองค์หญิงหลิงเซียงยื่นถ้วยต้มโคล้งปลาใบมะขามอ่อนให้ เขายกตะเกียบขึ้นตักคำหนึ่งอย่างไม่รีบร้อน แต่ทันทีที่รสเผ็ดเปรี้ยวหอมเครื่องต้มยำรวมมิตรทะเลแตะลิ้น ดวงตาคมที่มักนิ่งสงบก็พลันเบิกกว้างเล็กน้อยอย่างควบคุมไม่ทัน“อืม… อร่อยมาก” เทียนหลางน้ำเสียงต่ำทุ้มของเขาเอ่ยออกมาอย่างจริงใจจนคนทั้งโต๊ะชะงัก องค์หญิงหลิงเซียงชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้ม ยิ้มแบบที่ตัวเองไม่ค่อยรู้ตัวว่าเผลอทำ“จริงหรือเจ้าคะ ข้าทำแบบง่าย ๆ เท่านั้นเอง”หลิงเซียงมู่เทียนหลางมองหน้าองค์หญิง แล้วตักคำต่อไปทันทีราวกับกลัวว่าคำแรกจะเป็นเพียงภาพลวง“ไม่ใช่แค่อร่อยธรรมดา ฮูหยิน… ฝีมือทำอาหารของเจ้าดีเกินกว่าจะเรียกว่า ง่าย ๆ ได้ย่างไรกัน” เทียนหลางทหารที่นั่งข้าง ๆ ถึงกับเหลียวมองกันเองอย่างประหลาดใจ เมื่อไรนายท่านของพวกเขาจะยอมชมอะไรออกมาตรง ๆ เช่นนี้กัน องค์หญิงหลิงเซียงยิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อย แก้มขึ้นสีบาง ๆ“หากท่านพี่ชอบ เช่นนั้นวันหลังข้าจะทำให้ท่านทานอีก” หลิงเซียงคำพูดนั้นทำเอามู่เทียนหลางชะงักตะเกียบกลางอากาศ ก่อนจะยิ้มมุมปากจาง ๆ“ข้ายินดีรอ” เทียนหลางบรรยากาศบนโต๊ะอาหารจึงอบอวลไ
เมนูที่สามกุ้งคั่วเกลือพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด ส่วนผสมของกุ้งคั่วเกลือมี กุ้ง เกลือ และเนยเค็มที่หาซื้อได้จากพ่อค้าหัวแดง ส่วนผสมน้ำจิ้มซีฟู้ดมี เกลือ น้ำตาล น้ำมะนาว น้ำส้มสายชู กระเทียม พริก และใบสะระแหน่ หลิงเซียงเริ่มทำน้ำจิ้มซีฟู้ดโดยนำเกลือ น้ำตาล น้ำมะนาว น้ำส้มสายชู กระเทียมสับ พริกสับ และใบสะระแหน่ซอย นำผสมให้เข้ากันสัดส่วนตามชอบ เมื่อได้น้ำจิ้มซีฟู้ดตามต้องการก็หันมาทำกุ้งคั่วเกลือ ใช้กรรไกรตัดหนวดกุ้ง ตัดหัวนิดหนึ่งแล้วดึงของเสียบนหัวออกมา ตัดหลังกุ้งเพื่อดึงเส้นกลางหลังออกมาล้างให้สะอาด จากนั้นก็นำมาใส่กระทะใส่เนยสดและเกลือลงไป ปิดฝาแล้วเร่งไฟแรงสุด พอกุ้งเริ่มเปลี่ยนสีให้เขย่ากระทะ น้ำที่ค้างในกระทะอย่าทิ้งให้เทราดกุ้งเลย หากจะใช้ไมโครเวฟก็ปิดฝาแล้วใช้ไฟแรงสุดสามเฟิน (3 นาที) เมื่อกุ้งสุกก็ตั้งโต๊ะพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดได้เมนูที่สี่ปลาหมึกผัดฉ่า ส่วนผสมของปลาหมึกผัดฉ่ามี ปลาหมึกหั่นชิ้น กระเทียม พริก น้ำมันน้ำตาล น้ำปลา น้ำมันหอย น้ำแกงไก่ กระชายซอย ใบมะกรูดฉีก ใบโหระพา และพริกชี้ฟ้าเหลือง วิธีทำปลาหมึกผัดฉ่า นำกระเทียมและพริกขี้หนูมาตำพอหยาบ ๆ ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟ
หลังชมที่ดินเสร็จขบวนทั้งหมดเดินทางกลับเข้าย่านตัวเมือง เมืองไฮ่หยางมีลักษณะไม่เหมือนเมืองหลวง อาคารสองชั้นแบบเรือนทะเลเรียงรายติดกัน ถนนปูหินแม่น้ำและกลิ่นทะเลลอยอยู่ทุกซอกซอย เฟิงหวงเป็นคนรับหน้าที่พาไปดูจวนว่างที่ติดต่อไว้ล่วงหน้า ท้องถนนคึกคักไปด้วยพ่อค้าเรือและแม่ค้าอาหารทะเลตะโกนขายของกันเสียงดังจวนว่างที่ถูกแนะนำอยู่ใกล้ตลาดปลาและไม่ไกลจากท่าเรือ กำแพงสีครีมอ่อน ประตูไม้สัก และหน้าต่างบานยกทรงสวยเรียบง่ายเป็นจวนสองชั้น มีลานภายในให้ปลูกไม้ หรือใช้ทำครัวได้“ที่นี่เพิ่งปล่อยเช่าไม่นาน เพราะเจ้าของบ้านยกครอบครัวย้ายไปอยู่เมืองหลวง… ราคาต่อเดือนสมเหตุสมผล และอยู่ในย่านปลอดภัย” เฟิงหวง“ปากทางมีทหารตระเวนทุกคืน มีเรือนแพทย์อยู่ท้ายตรอก และโรงช่างซ่อมอุปกรณ์เรืออยู่ใกล้ ๆ ถือว่าครบถ้วนดี” ห่าวเฉิงองค์หญิงหลิงเซียงมองไปรอบ ๆ แล้วพยักหน้าช้า ๆ“ที่นี่อบอุ่นกว่าที่ข้าคิดไว้อีก” หลิงเซียงทุกคนสำรวจภายในเมื่อประตูเปิดออก เสียงไม้เปิดดังเอี๊ยดเล็กน้อยลานกลางจวนมีอ่างน้ำหินทรงกลม ผนังด้านขวาเป็นครัวเล็ก ๆ พร้อมเตาไฟ ห้องโถงกว้างแสงแดดเข้าดี และมีห้องรับรองรับลมทะเลโดยตรงเสี่ยวถังจือวิ่
บรรยากาศระหว่างทางเข้าสู่เมืองไฮ่หยาง หลังจากเหตุลอบโจมตีขบวนทั้งหมดกลับเงียบลงอย่างเห็นได้ชัดเสียงล้อรถม้ากลับมาบดพื้นดินเป็นจังหวะเนิบช้า แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่าความรู้สึกไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ลมทะเลเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ กลิ่นเค็มอ่อน ๆ ลอยมาตามกระแสลมท้องฟ้ากลายเป็นสีน้ำเงินสดกว่าก่อนหน้า เป็นสัญญาณว่าพวกเขาเข้าใกล้ไฮ่หยางเต็มทีภายในรถม้าองค์หญิงหลิงเซียงนั่งประคองเสี่ยวถังจือที่ยังคงหน้าซีด“ไม่ต้องกลัวแล้วนะ เมื่อกี้เจ้าทำดีมากเลย” หลิงเซียงเสี่ยวผิงจื่อยกมือขึ้น“ข้า… ข้าคิดว่าจะไม่รอดแล้วขอรับ แต่นายท่านมู่กับพี่เฟิงหวงเท่มากเลย!” เสี่ยวผิงจื่อซินเหมยรีบปรามเบา ๆ“เบาเสียงหน่อยสิ เดี๋ยวพี่เฟิงหวงจะยิ่งกังวล” ซินเหมยหลิงเซียงยิ้มบาง ๆ“อย่ากังวล แต่ก็ภูมิใจในทุกคน ขอบใจนะที่ช่วยกัน” หลิงเซียงไป๋กงกงกับหม่ากูกูลอบมององค์หญิงด้วยสายตาเอ็นดูปนห่วง พวกเขาเห็นชัดว่าองค์หญิงเติบโตขึ้นมากจากวันแรกที่มาถึงตำหนักไฉ่หงมู่เทียนหลางควบม้าอยู่ข้างรถม้าท่าทางนิ่งขรึม แต่แฝงความตึงเครียดไม่ปล่อยวาง เฟิงหวงขี่ม้าควบเทียบเข้ามา“นายท่าน… ขบวนมือสังหารที่มาก่อนหน้านี้ เป็นแค่พวกฝึกหัด หากมีผู้ส







