Share

4

last update Last Updated: 2024-12-02 19:49:11

        พัดในมือนางถูกแย่งไป ผ้าคลุมหน้าสีแดงงดงามปักลายหงส์กำลังจะถูกมือใหญ่ๆ คว้าได้สำเร็จ ฝ่ายจิ่งหรูเหลืออดแล้ว นางผลักทหารตัวโตด้วยสองมือ อีกฝ่ายเซไปเล็กน้อย ก่อนที่ทหารอีกคนจะเข้ามารวบเอวสาวใช้ พอนางขัดขืน เสียงฝ่ามือก็ดังขึ้นสองครั้งติดกัน ฝ่ามือหยาบกร้านของทหารตบลงบนใบหน้าเล็กๆ ของสาวใช้วัยสิบสี่ปี

        จิ่งหรูมึนงงชั่วขณะ หูนางอื้ออึง ไม่ได้ยินเสียงใด กระทั่งเห็นว่าฟ่านอวี้เหยาอ้าปากกว้าง แสดงท่าเหมือนหวีดร้อง เพราะมีทหารอีกสองคนหมายจะเข้าไปจับตัวนาง จิ่งหรูก็ดิ้นหลุดมือทหารสำเร็จ นางเตรียมเข้าไปปกป้องเจ้านาย แต่กลับถูกถีบอย่างแรงที่ข้อพับขาด้านหลัง

        เด็กสาวล้มหน้าคะมำพื้น ทั้งจุกเจ็บ มีเลือดไหลออกจากริมฝีปาก กลิ่นคาวคลุ้งอยู่ด้านในจนนางสำรอก เป็นตอนนั้นที่ได้เห็นว่า ผ้าคลุมหน้าหลุดออกจากใบหน้างามล้ำของฟ่านอวี้เหยา

        “คุณหนู อย่าทำนาง สตรีผู้นี้เป็นฮูหยินน้อยสกุลเซียว!”

        เสียงที่จิ่งหรูประกาศ ทำให้ทหารเหล่าต่างจ้องเขม็งไปที่ร่างของสตรีในชุดเจ้าสาวแสนงดงาม

       

        ฟ่านอวี้เหยาตกใจที่ผ้าคลุมหน้าตนล่วงหล่นลงพื้น ขณะเดียวกัน มีสตรีนางหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ห่าง ฝ่ายนั้นดูเหมือนจะเป็นแม่ค้า ทั้งนึกสงสารหญิงสาวจึงส่งหมวกตาข่ายให้ นางจึงรับมาแล้วใช้อำพรางใบหน้าตนด้วยความรวดเร็ว อย่างน้อยก็ไม่ให้บุรุษอื่นได้ยลโฉมผู้เป็นเจ้าสาวก่อนชายคนรัก

        ฝายทหารตัวอ้วนล่ำ หัวเราะเสียงน่าเกลียดและพูดว่า

        “โอ้ ที่แท้แม่นางผู้นี้ก็สตรีที่ถูกส่งมาเป็นของเล่นพวกพ่อค้าหน้าเลือด ที่ค้าขายแบบเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น คิดแล้วก็เสียดายความงามกับเนื้อตัวนุ่มนิ่ม ความสาวที่มีคงถูกใช้จนบอบช้ำหมด จงรู้เอาไว้เถิด แต่งเข้าสกุลเซียวยามนี้ ย่อมไม่ต่างจากก้าวขาลงขุมนรก เพราะเจ้าคงโดนร่างแหไปด้วย ดีหน่อยก็ถูกเนรเทศไปใช้แรงงาน หากเลวร้ายคงเดินเข้าเหมืองนรกไม่ได้่เห็นเดือนเห็นตะวันอีก”

        ฟ่านอวี้เหยาขมวดหัวคิ้วเรียวสวยเข้าหากัน นางไม่เข้าใจสิ่งที่ทหารผู้นี้กล่าว

         

        “โถ เจ้าคงเป็นคุณหนูในห้องหอโดยแท้ ถูกเลี้ยงดูไว้เป็นเสื้อผ้าให้บุรุษสวมใส่เท่านั้น พอพวกเขาเบื่อก็สลัดทิ้งอย่างไม่ใยดี เดี๋ยวข้าจะบอกให้เอาบุญ ยามนี้บ้านเมืองกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง มิช้า พวกคนชั่วคงถูกกวาดล้าง หากแม่นางยังเบาปัญญาไม่รู้จักระมัดระวังตัว เกรงว่า คงสิ้นลมหายใจอย่างไร้ค่า” นายทหารคนดังกล่าวพูดจบ ก็ก้าวยาวๆ หมายฉุดกระชากร่างบอบบางของฟ่านอวี้เหยา

        การหวีดร้องด้วยความตกใจของฟ่านอวี้เหยา เป็นเหตุให้คนอารักขาของนาง ที่ถูกสั่งให้ไปรวมตัวกันที่มุมกำแพงเมืองด้านนอกต่างอดทนไม่ไหว พวกเขาแม้จะเป็นหน่วยคุ้มกันรับจ้าง แต่รับรู้ถึงความมีเมตตาของสตรีผู้นี้ตลอดการเดินทาง อีกทั้งบิดานางคือหมอเซียว ผู้ที่คนให้การยอมรับว่าเป็นหมอเทวดา ส่วนนาง ระหว่างเดินทางทั้งรถม้า และลงเรือ จนมาถึงที่เมืองโยว ก็แสดงน้ำใจเสมอ เช่นนี้จะให้นางถูกรังแกได้อย่างไร

        ยามนั้นหลายชีวิตจึงฝืนการควบคุมตัว โผนทะยานมาช่วยเหลือผู้เป็นเจ้าสาว จึงเกิดการเตะต่อยใช้กำลังอย่างรุนแรง ซึ่งกินเวลาหลายอึดใจ ทว่าสุดท้ายทหารที่มีจำนวนมากกว่า ได้ไล่ต้อนพวกเขาให้จนมุม ก่อนที่หลายคนจะใช้ช่วงเวลาชุลมุนนั้นหลบหนี

        ส่วนจิ่งหรูยืนขึ้นได้ แม้เจ็บจนน้ำตาไหล แต่ก็ก้าวกะเผลกๆ ไปหาฟ่านอวี้เหยา

        “เสี่ยวหรู เจ้าต้องมาเจ็บตัวเพราะข้าโดยแท้”

        “ไม่เป็นไรคุณหนู บ่าวเกิดมาเพื่อปกป้องท่าน คนรับใช้คนสกุลฟ่าน ถูกอบรมให้ตายแทนเจ้านาย แต่บ่าวอ่อนด้อยเรื่องวิชายุทธ์ แขนไร้เรี่ยวแรง ขาวิ่งไม่ไว ดังนั้นขอเอาตัวรับดาบ รับธนู แทนคุณหนูก็แล้วกัน”

        จิ่งหรูกล่าวจบ ก็กลั้นก้อนสะอื้นของตนเอาไว้ และใช้ร่างบอบบาง เป็นเกราะมนุษย์ ไม่ให้ผู้ใดเข้าใกล้เจ้านายตน

        “ฮ่ะๆ ๆ ดี หากนางคือฮูหยินน้อยสกุลเซียวจริง ข้าจะได้จับตัวไปพร้อมๆ กันเสียให้หมด”

        ทหารอีกคนซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มเอ่ย แต่อีกคนที่อยู่ใกล้ๆ ถลึงตาใส่ ข้อมูลที่่ได้รับมายังไม่อาจแจ้งความเอาผิดสกุลใดในเมืองนี้ได้ ต้องรอหนังสือคำสั่งอย่างเป็นทางการเสียก่อน  

“ท่านหมายความเช่นไร คุณชายรองเซียว มิใช่คนที่ใครจะมากล่าวหาพล่อยๆ ได้ เรื่องนี้ควรรู้ไว้เสียด้วย”

        เมื่อหายจากอาการตกใจ ฟ่านอวี้เหยาก็ต่อปากต่อคำกับทหารเลว นางมั่นใจว่าเซียวเจี้ยนอี้เป็นคนดี และเขากำลังจะไปรับตำแหน่งผู้ตรวจการในอีกไม่ช้า

        “แม่นาง อย่างที่ลูกน้องข้าบอก บัดนี้บ้านเมืองถึงคราวกลียุค คนที่มีกำลังในมือย่อมพลิกดำให้เป็นขาว ส่วนเจ้ารูปโฉมงามเช่นนี้ ทางที่ดี หาสามีที่เป็นทหารไว้คุ้มกันตัวเถิด ขุนนางฝ่ายบุ๋น หรือพวกพ่อค้า ไม่นานต้องออกไปจับดาบร่วมรบอยู่ดี”

        “ฮึ บ้านเมืองไม่สงบเพราะมีพวกท่านมากกว่า แล้วก็หยุดข่มเหงผู้อื่นเสียที รู้หรือไม่ ทหารมีหน้าที่ปกป้องบ้านเมือง ดูแลความสงบ อีกทั้งสมควรให้ความช่วยเหลือพี่น้องร่วมแคว้น”

        “เหลวไหล มีปัญญาคิดอ่านได้เพียงเท่านี้ เพราะแม่นางเป็นเพียงสตรีไร้สมอง ทำได้แค่ให้บุรุษเย่อและคอยคลอดลูกสินะ ไป รีบเข้าไปรวมกลุ่มตรงนู้น หากตรวจสอบทุกซอกทุกมุมอย่างละเอียดด้วยสายตา และสองมือข้าแล้ว เจ้ากับเด็กเหลือขอนั่น จึงจะเข้าไปในเมืองชั้นในได้”

        ฟ่านอวี้เหยาที่รวบรวมความกล้าหาญที่มีทั้งหมดเมื่อครู่ การสื่อสารของนางที่ใช้เสียงดังออกไป ก็ทำให้แปลกใจตัวเองไม่น้อย ปกติไม่ใช่สตรีที่รับมือคนอื่นได้ง่ายๆ นั่นเป็นเพราะวันๆ เอาแต่ดูแลโรงสมุนไพร คิดค้นตำรับยาเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น อีกทั้งร่างกายนางแม้ไม่ได้บอบบางหรือขี้โรค แต่ก็ขลุกตัวอยู่แต่ในพื้นที่จำกัด นางจึงมักตื่นกลัวคนแปลกหน้า และที่นางกล้าโต้เถียงเช่นนี้ เพราะวิญญาณที่มาสวมร่างนี้ จะไม่ยอมให้ตนต้องอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย หรือถูกพวกชั่วช้าข่มเหงอีก

       

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่ใต้อาณัติแม่ทัพวิปลาส    48 อ๋องเอวดุ (ตอนพิเศษ จบ)

    ดังนั้นแม้พวกนางยังมีตำแหน่ง แต่กลับไร้อำนาจ แถมโต้วเซ่าเหล่ยยังคาดโทษไว้สูงสุดด้วย ห้ามไม่ให้กลับเมืองหลวง และห้ามไม่ให้มีทายามสืบต่อไป ซึ่งทั้งเหยาเหอซาน กับปิงจือจือก็ยอมรับชะตากรรมของตนแต่โดยดี อย่างน้อยพวกนางก็มีชีวิตอยู่ และนั่นคือสิ่งที่รั่วตงอวิ๋นบอกแก่เขา ให้พวกนางมีชีวิตจนผมหงอก ฟันล่วงหมดปาก ป่วยตายด้วยโรคชรา พร้อมยังมีตำแหน่งชายาของเหล่ยอ๋อง “พวกนางรอดได้ก็เพราะอวิ๋นชินของข้าที่แสนดี” โต้วเซ่าเหล่ยเอ่ย ฝ่ายรั่วตงอวิ๋นก้าวตามชายหนุ่มไป และอีกฝ่ายจับมือนาง บีบเบาๆ ส่งมอบไออุ่น และความรักแก่นาง “เพราะตัวข้าพบเรื่องเลวร้ายมา ชีวิตเกือบต้องพังลงเพราะน้ำคำผู้ชาย ถึงพวกนางอาจมีความผิดบ้าง แต่การมอบโอกาสให้ผู้อื่นได้มีลมหายใจอีกครั้งย่อมดีที่สุด ที่สำคัญเหล่ยอ๋อง ใจร้ายกับพวกนางมิน้อย ข้าเลยต้องชดเชยให้แก่เหอซาน และจือจือ เรือนนอกนั้น แม้ไกลเมืองหลวง แต่มีอาหารและสภาพอากาศดี อาจเปลี่ยวกายยามค่ำคืนบ้าง แต่ข้าเชื่อเหลือเกิน พวกนางย่อมมีทางออก” “เจ้าหมายความเช่นไร” รั่วตงอวิ๋นหัวเราะน้อยๆ และตอบเขา “ทั้งหนังสือ ตำราภาพบุรุษงา

  • เกิดใหม่ใต้อาณัติแม่ทัพวิปลาส    47 อ๋องเอวดุ (ตอนพิเศษ)

    มีดสั้นของอ๋องเอวดุ ซิงอี คือแม่นางน้อยที่เดินได้เร็วกว่าวัยของตน และพูดได้เร็วมาก ตอนนี้ สิ่งที่ติดปากแม่นางน้อยคือ “ข้าจะกิน จะกินเมีย ฮึ่มๆ ๆ กินมูมมาก และดื่มนมจ๊วบๆ ด้วย!” สิ่งที่เกิดขึ้น ใครเล่าจะปวดหัวที่สุด หากไม่ใช่เหล่ยอ๋อง ผู้เป็นบิดาและตัวเขาก็เหมือนจะพลาดหลายสิ่งไป ในช่วงที่ห่างจากรั่วตงอวิ๋นพอสองแฝดเกิดก็ไม่ได้อุ้มชูใกล้ชิด กระทั่งพวกเขาเริ่มโต จึงได้ทำหน้าที่บิดา อย่างเต็มที่ กระนั้นก็มีปัญหาเล็กน้อยตามมาไม่หยุด ยามนี้แม่นางน้อยไม่ยอมเรียกเขาทว่า ท่านพ่อ อีกทั้งชอบมองด้วยสายตาที่อยากเอาชนะ นอกจากนั้น ยังเรียกว่าเขาว่า “ยาจก... ท่านมีไม้เท้าตีสุนัขด้วย” แน่นอน ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะฝาแฝดผู้เป็นน้องชายของนาง ยังช่วยเสริมว่า “อ๋องๆ อ๋องผี! เขาเป็นอ๋อง ผะ ปะ ปี...จ๊าด!” เมื่อซีห่าวเอ่ยพร้อมทำท่ากลัวจนตัวสั่น คนเป็นพี่ก็เสริมอย่างฉะฉานว่า “ข้าจะปกป้อง ห่าวเกอ จากยาจกและอ๋องปีศาจ แฮ่ร!” ทั้งภาพและเสียงที่เกิดขึ้นทำให้ รั่วตงอวิ๋นหัวเราะชอบใจ และนี่คงเป็นการแก้แค้นของเมียรัก ที่บอกว่าเขาหายหัวไปหลายปี แต่ให้ตายเถิด สิ

  • เกิดใหม่ใต้อาณัติแม่ทัพวิปลาส    46 อ๋องเอวดุ

    “นะ นั่น ที่แท้ก็เป็นนางโลม... เหตุใดถึงให้เข้าทางประตูหน้า โถ... กลับเมืองหลวงครั้งนี้ องค์ชายเจ็ดคงสติฟั่นเฟือนอย่างที่เขาว่ากันแน่ๆ ยกหญิงชั้นต่ำมาเป็นอนุภรรยา” เสียงชาวบ้านดังขึ้น ในขณะที่รถม้าหยุดอยู่หน้าตำหนัก และหูของสตรีที่นั่งอยู่ด้านในก็กระดิกไปมา นางได้ยิน และยังคันปากยิบๆ ผิดแต่ต้องการให้ผู้คนโจษจันถึงเรื่องของนางมากกว่านี้ จะได้สมกับการปรากฏตัวหน้าตำหนักอ๋องผู้ที่ยามนี้คงวิปลาสเป็นแน่ ที่จู่ๆ แต่งตั้งให้นางโลม เป็นอี๋เหนียง*ของตน (อนุภรรยา) อีกอย่างเขาหายหัวไปนาน จนนางลืมไปแล้วว่า ตนเคยมีสามี และลูกของนางมีบิดาเป็นถึงองค์ชายเจ็ด “สตรีนางนั้นมีบุตรด้วย โถ... แล้วจะเชื่อได้อย่างไรว่าเป็นองค์หญิงและองค์ชาย ที่มีสายเลือดขององค์ชายเจ็ด!” “เช่นนี้ เป็นการหลอกลวงเบื้องสูงหรือไม่” อีกเสียงดังขึ้น และทำให้รั่วตงอวิ๋นอยากออกจากรถม้า และจับคนพวกนั้นฉีกปากเหลือเกิน “เอาล่ะ ไข่เน่า และเลือดหมู รวมถึงขี้วัวพวกเจ้าเตรียมพร้อมหรือยัง” สิ่งที่ฝ่ายนั้นเตรียมการ ย่อมมาจากปิงจือจือ และเหยาเหอซานร่วมมือกัน รั่วตงอวิ๋นได้ยินเสียงด

  • เกิดใหม่ใต้อาณัติแม่ทัพวิปลาส    45 อ๋องเอวดุ

    สามปีผ่านไป เมืองฝาง (เมืองหลวงแคว้นต้าเหลียง) ในยามนี้ไม่ใคร่สงบสักเท่าใด ประชนชนอยู่กันอย่างอกสั่นขวัญแขวน บ้างก็มีข่าวลือวงในว่า อาจเกิดการก่อกบฏ ด้วยฮ่องเต้อายุมากแล้ว ส่วนรัชทายาทนั้นอ่อนแอ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนตัว เนื่องจากเมื่อต้นปีเขาถูกวางยา แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจแก่ทุกคนก็คือ ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า โต้วเซ่าเหล่ยหรือองค์ชายเจ็ด หายสาปสูญในเหตุการณ์ภูเขาถล่ม แต่จู่ๆ เขาก็เหมือนปีศาจที่ฆ่าไม่ตาย สามารถฟื้นคืนชีพ และกลับมาเมืองหลวงในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองคับขัน และโต้วเซ่าเหล่ยก็คือ คนที่ผีเห็นยังหวั่น อีกทั้งชอบทำตัวราวกับจอมาร หน้ากากที่สวมไว้ครึ่งหน้า ไม่ยอมถอดออก ทั้งที่ความจริง เขาเป็นบุรุษรูปงาม แต่แสร้งทำตนอัปลักษณ์ ที่เขาทำตัวเช่นนั้น เพราะไม่อยากถูกผู้อื่น คิดว่าเขาจะแย่งบัลลังก์จากพี่ชาย (โต้วเซ่าเหล่ยกับรัชทายาท มีมารดาเป็นฮองเฮา) อีกอย่างเขาต้องการให้ตนหายใจหายคอสะดวก ใช้ชีวิตโดยไม่ต้องมีสายตาใครจับจ้อง โดยเฉพาะพวกขุนนางทั้งหลาย จางคังฉิก มองเจ้านายของตน ที่นั่งดื่มสุราไปหลายจอก และดูเหมือนไม่ทันใจ เขาเลยยกกาสุราเทกรอกปากตัว

  • เกิดใหม่ใต้อาณัติแม่ทัพวิปลาส    44 อ๋องเอวดุ

    หลายเดือนผ่านไป ลี่ชุนวางสีหน้ายุ่งยากใจมาก นางบอกให้รั่วตงอวิ๋นว่า อย่างไรจงอย่าได้ตั้งครรภ์ แต่คนดื้อรั้นย่อมเป็นเช่นนี้ แต่ก็โชคดี ที่ไม่มีเรื่องรุนแรงเกิดขึ้น ด้วยลี่ชุนพอจะล่วงรู้ว่า เด็กในครรภ์นั้นเป็นลูกของผู้ใด และการรับนอนกับคุณชายท่านนั้น ทำให้อีกฝ่ายไถ่ถอนตัวเองจากการเป็นนางโลม และยังช่วยอีกหลายชีวิตให้มีความสุข กระนั้นรั่วตงอวิ๋นก็ยืนยันจะใช้ชีวิตที่หอวสันต์รัญจวน อีกทั้งนางเป็นผู้ซื้อกิจการจากลี่ชุน ด้วยนอกจากนั้นยังจะไม่ให้มีการหลับนอนกับแขกอย่างไม่ยินยอม ทั้งการทำงานที่ตรอกโคมเขียวนี้ สตรีทุกคนต้องทำอย่างถูกกฎหมาย อาชีพนี้ต้องได้รับเกียรติ ผู้ใดก็ห้ามดูถูก แม้นางจะมีหัวก้าวหน้าคิดอ่านไม่เหมือนคนยุคสมัยนั้น แต่คนทั่วไป ก็ยังมองตรอกโคมเขียว เป็นพื้นที่คาวโลกีย์เช่นเดิม หมางจูวิ่งเข้าวิ่งออก ห้องโถงที่มีหมอตำแยคลอดช่วยเหลือคนที่กำลังจะคลอดอยู่ กระนั้นสถานการณ์ยามนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย “หมอ เราต้องการหมอที่สำนักการแพทย์” นางเอ่ยกับลี่ชุน น้ำเสียงร้อนใจเต็มที “เสี่ยวจูจู เจ้าปัญญาทึบแล้วหรือไร หมอพวกนั้นไฉนจะลดตัวมารักษาพวกเรา

  • เกิดใหม่ใต้อาณัติแม่ทัพวิปลาส    43 อ๋องเอวดุ

    ณ ตำหนัก หูเหยียน นอกวังหลวง โต้วเซ่าเหล่ยกลับมาจากเมืองหน้าด่านและใช้ชีวิตเสเพล โดยการปลอมตัวเป็นหนุ่มเจ้าสำราญเกือบสองเดือน และเขาเข้าออกวังหลวงได้พบฮ่องเต้ และเหล่าองค์ชายที่สนิทกัน เพื่อปรึกษาเรื่องการรับมือกบฏที่กำลังคิดร่วมมือกับต่างแคว้น พอทุกอย่างสะสางเรียบร้อย เขาก็กลับมา สวมบทบาทเหล่ยอ๋องผู้ที่เหี้ยมโหด และบ้าอำนาจเช่นเดิม โต้วเซ่าเหล่ยอยู่ที่ตำหนักหูเหยียนอย่างไม่ใคร่จะสบายตา สบายใจ นั่นเป็นเพราะชายาเอก เหยาเหอซาน กับชายารองนาม ปิงจือจือ ที่ร้อยวันพันปีนับแต่แต่งเข้ามา พวกนางไม่เคยคิดจะกล้ามายุ่มย่ามกับเขา ต่างจับมือกันแน่น และบอกว่าอยากได้รับโอกาสปรนนับัติชายหนุ่ม และเขารู้ว่า ที่เป็นเช่นนั้น ด้วยทั้งคู่ถูกสกุลของตนบีบบังคับเพื่อเร่งให้มีทายาทกับเขา นอกจากนั้นพวกนางยังพลาดพลั้งมีความสัมพันธ์กับนักเล่านิทานผู้หนึ่ง เรื่องนี้เขาย่อมล่วงรู้ แต่ก็ปล่อยให้ทั้งคู่ หลงระเริงสักพัก หากพวกนางคิดได้ ก็จงสภาพผิด และหย่าขาดออกไปเสีย เพื่อปกป้องทั้งชีวิตตน กับสกุลเดิมของตน “บิดาหม่อมฉันคิดว่าถึงเวลาที่ต้อง มีบุตรให้เหล่ยอ๋องแล้ว” เหยาเหอซานว่าอย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status