Share

6

last update Last Updated: 2024-12-02 19:49:20

        ในที่สุดฟ่านอวี้เหยาก็มาถึงคฤหาสน์สกุลเซียว ทว่ามันแปลกอยู่มาก ด้วยพิธีการใดๆ ทำอย่างลวกๆ แสนเร่งรีบและไม่มีใครปล่อยให้นางซักถามเพื่อไขความจริงทั้งหมดให้กระจ่าง

        อีกทั้งฟ่านอวี้เหยาไม่ทันได้เข้าเรือนหอด้วยซ้ำ ไม่ได้พบหน้าเจ้าบ่าวของตน ฝ่ายสกุลเซียวใช้ลูกหมูตัวหนึ่งเข้าพิธีแทน

         จากนั้น นางถูกไล่ต้อนขึ้นรถม้าคันหนึ่งพร้อมกับสาวใช้คนสนิท เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เป็นภาพความที่ฟ่านอวี้เหยายังจดจำได้ และนับจากนี้นางต้องระวังตัวให้มาก

        “คุณหนูเจ้าคะ บ่าวกลัวเหลือเกิน เหตุใดต้องมีเรื่องเช่นนี้ อีกอย่างเรือนต่างๆ ปิดเงียบ ผู้คนบางตา ปกติบ้านคหบดีเช่นนี้ ย่อมต้องมีคนเป็นร้อย” จิ่งหรูถาม และพยายามชะโงกหน้ามองออกไปทางหน้าต่างรถม้า แต่แม่บ้านที่นั่งมาด้วย ถลึงตาปรามเอาไว้

        “อย่าได้แส่หาเรื่องเชียว อีกอย่างต้องรีบออกจากที่นี่โดยด่วน คุณชายรองรออยู่เรือนรับรองนอก จากนั้นก็ต้องย้ายลงทางใต้ทันที”

        “แต่ คุณหนูเราแต่งเข้ามาเป็นฮูหยินน้อย มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ไฉนถึงจะต้องพาไปอยู่ที่อื่นด้วย”

        “พวกเจ้าอย่าวุ่นวาย ยามนี้ข้ามีหน้าที่เพียงแค่ส่งฮูหยินน้อยให้ถึงเรือนนอก จงรักษาชีวิตเอาไว้เถิด อย่าคิดหาภัยให้ตนเดือดร้อน อีกอย่างพวกเจ้าก็ได้เห็นแล้ว กองทัพแม่ทัพปู้กำลังย้ายเข้ามาควบคุมทุกอย่างในเมืองโยว ฝ่ายนั้นมีกำลังล้นเหลือ และยังบ้าอำนาจ ใครขวางทาง ย่อมถูกจัดการให้พ้นหูพ้นตา”

        จิ่งหรูไม่ชอบคำพูดของแม่บ้านผู้นี้ อย่างไรเสียคุณหนูนางเป็นลูกสาวหมอหลวงที่ฮ่องเต้ไว้วางใจ แม้ไม่ใช่องค์หญิงสูงศักดิ์ แต่ลดตัวลงมาแต่งเข้าสกุลเซียวที่ให้ดีก็แค่ร่ำรวยเงินทอง

        “แม่บ้านผู้นี้ ปากเจ้ายังอยากมีไว้กินข้าว และดื่มน้ำอีกหรือไม่”

        ถานลู่ได้ยินอย่างนั้นพลันลมออกหู นางไม่น่ารับงานนี้เลย อันที่จริงสมควรหนีเอาตัวรอดเสีย ทว่าคุณชายรองกำชับนักหนา อย่างไรต้องส่งฮูหยินของเขาไปในที่ปลอดภัยที่สุด

        ยามนี้อีกฝ่ายคงซ่อนตัวอยู่ หากกล่าวไปแล้ว การแต่งงานครั้งนี้ฤกษ์ไม่ดีนัก ด้วยประจวบเหมาะกับเวลาที่สกุลเซียวถูกข้อกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนขุนนางกังฉิน ค้าขายสินค้ากับต่างแคว้น พร้อมสนับสนุนทั้งเสบียงและอาวุธสงคราม จึงเป็นเหตุให้คฤหาสน์ทั้งหลังแทบจะร้างผู้คน ซึ่งกล่าวไปแล้ว สตรีที่เพิ่งแต่งเข้าเรือน เป็นตัวอัปมงคลโดยแท้

        รถม้าพาฟ่านอวี้เหยาเดินทางไกลตั้งแต่หัวค่ำเมื่อวาน และพักที่โรงเตี้ยมเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีทหารที่ออกมาสืบข่าวต่างๆ ทั้งหาความสุขกับนางโลมที่อยู่ซ่องในละแวกนั้นบ้าง

        ฟ่านอวี้เหยาไม่ใคร่ชอบใจที่นี่ นางรำคาญความวุ่นวาย อีกทั้งยังเห็นว่า มีการทำผิดกฎหมายหลายอย่าง โดยเฉพาะนางโลมเหล่าอายุยังน้อย ซึ่งนอกจากเป็นสตรี ยังมีเด็กชายด้วย

        บริเวณโถงที่มีไว้รับรองผู้คนและขายอาหาร ฟ่านอวี้เหยายังสวมชุดเจ้าสาว มีเสื้อคลุมตัวหน้าทับไว้อีกชั้น กวาดตามองภาพต่างๆ ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว

        “ทหารพวกนั้น อยู่ในกองทัพจริงๆ หรือเจ้าคะ”

        “คงอยู่ในช่วงกลียุคจริงๆ เรื่องเช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้น”

        ฟ่่านอวี้เหยาว่า มองไปยังเด็กหนุ่มคนหนึ่ง อีกฝ่ายกำลังจะถูกหิ้วออกไปสร้างความสำราญให้แก่ทหารถึงสามคนด้วยกัน

        “น่ากลัวเหลือเกินเจ้าค่ะ ถ้าหากทหารพวกนี้ เข้ามาควบคุมทุกอย่างในบ้านเมือง จะมีเรื่องเลวร้ายเพียงใด”

        จิ่งหรูถาม และหัวใจของฟ่านอวี้เหยาหดเกร็ง…

        “ข้าก็หวังว่า จะมีคนที่มีอำนาจมากกว่าปู้หว่านถิง สามารถกำราบความเหิมเกริมของเขาได้”

        “โอ้ คุณหนู อย่าเอ่ยชื่อเขาแบบนั้นสิเจ้าคะ บ่าวแค่ได้ยินก็ตัวสั่น ฉี่แทบราด ยังจำได้เลยว่า เขานั่งบนหลังม้าตัวใหญ่ และฟาดแส้ใส่คุณหนูจนบาดเจ็บ”

        “บางทีข้ากับเขา คงเคยสร้างกรรมเวรไว้ร่วมกัน”

        หญิงสาวเอ่ยแล้ว ภาพบางอย่างก็หมุนสลับไปมา หลายหนนางรู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง นอกจากนั้นยังมองเห็นเรื่องราวในภายภาคหน้า และก็อดสังหรณ์ใจไม่ได้ว่า อีกไม่นานนับจากนี้ นางอาจต้องประสบหายนะครั้งใหญ่ จนแทบเอาชีวิตไม่รอด

        “เรารีบเข้านอนเถิด ข้าคิดว่าพักผ่อนเอาแรงให้มากๆ พรุ่งนี้เช้าการเดินทางคงลำบากมิน้อย”

        และทุกอย่างเป็นจริงอย่างที่ฟ่านอวี้เหยากล่าว เรือนนอกสกุลเซียวห่างจากเมืองโยวมากพอสมควร เส้นทางนั้นก็ซับซ้อน เป็นทั้งป่า ต้องผ่านช่องเขา อีกทั้งเมื่อใกล้ถึงที่หมายก็เกิดเรื่องชวนให้น่าหวาดหวั่น

        “มิใช่่ทหารเป็นแน่ ดูอย่างไรก็เหมือนพวกที่ปลอมตัวมา พวกมันต้องการตรวจค้น รถม้าที่ผ่านจุดนี้ทุกคัน…แม่บ้านถาน ทางที่ดี เราเปลี่ยนเส้นทางเถิด”

        เด็กหนุ่มที่บังคับรถม้าแจ้งเรื่องที่เขาประเมินแล้วก็เห็นว่าไม่ปลอดภัยกับถานลู่ ด้วยมีการแอบอ้าง และปลอมตัวเป็นทหารของปู้หว่านถิง ทั้งหมดเป็นฝีมือของพวกก่อกบฏนั่นเอง

        ถานลู่ได้ยินแล้วกลับชักหน้า และส่งเสียงโต้ตอบเขาผ่านช่องระหว่างคนขับ และห้องโดยสารด้านใน

        “เหลวไหล อย่างไรฮูหยินน้อยนางนี้ ต้องไปถึงเรือนนอก และใครหน้าไหนก็ตรวจค้นรถสกุลเซียวไม่ได้”

        เมื่อถานลู่กล่าวอย่างนั้น แต่ชายชราที่เป็นคนงานดูแลทั้งม้า และรถคันนี้ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ เด็กหนุ่มตะโกนบอกว่า

        “แม่บ้านถาน เราเลือกใช้เส้นทางอื่นได้ ข้าบอกตั้งแต่ต้นแล้ว หากเลี่ยงการเข้าใกล้หุบเขา และป่าทึบย่อมดีที่สุด แต่เจ้าดึงดันจะมาให้ได้ บอกว่าเป็นทางลัด แต่ดูเอาเถิดอันตรายรออยู่ข้างหน้าแล้ว หรือว่าแท้จริง เจ้ารับเงินคนอื่น และมีแผนร้ายต่อฮูหยินน้อยผู้นี้!”

        พอชายสูงวัยกล่าวจบ จู่ๆ ลูกธนูก็พุ่งมาแล้วปักทะลุหัวไหล่เขา!

        จากนั้น ช่องระหว่างห้องโดยสารและขับควบคุมรถม้าถูกปิดอย่างเร็ว และถานลู่ก็รีบเอ่ยขึ้น

        “ชุดเจ้าสาว ของท่านควรถอดออกเสีย หากไม่อยากตาย” ถานลู่บอกฟ่านอวี้เหยา แต่คนที่ตั้งใจมาเป็นเจ้าสาวของเซียวเจี้ยนอี้ ไฉนจะยอมทำได้ นางมาถึงเมืองโยว ไม่ได้เข้าห้องหอ ยังต้องมาอยู่เรือนนอก ตอนนี้ถูกคำสั่งจากแม่บ้านบอกให้นางเปลี่ยนชุด

        “แม่บ้านถาน ข้าจะบอกอีกหน ข้าแต่งเข้าสกุลเซียว ยามนี้แม้ยังไม่ได้เข้าหอ แต่ข้าเป็นคนของเซียวเจี้ยนอี้แล้ว อีกอย่างเจ้าเป็นเพียงแม่บ้าน ไฉนถึงได้พูดจาไม่เคารพข้า”

        ฟ่านอวี้เหยา ดูเหมือนนุ่มนิ่ม แต่นางได้รับการศึกษาดี ไม่ได้ปัญญาทึบ อาจบอบบางไปบ้าง หากอย่างไรนางนั้นสู้คน

        ในขณะที่มีหลายสิ่งให้ต้องขบคิดหนัก ฟ่านอวี้เหยาก็ปวดที่แผลขึ้นมาอีก และนางเหมือนจะสลบไปในยามนั้น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่รถม้าจอดลงเสียดื้อๆ ฝ่ายคนขับรถม้า ไม่พูดพล่ามหรือบอกกล่าวอัดใด พอกระโดดลงรถม้าได้ เด็กหนุ่มวิ่งหนีเข้าป่าเสียอย่างนั้น

        ถานลู่ ฉุนเฉียวอย่างหนัก นางต้องรับผิดชอบสิ่งใดที่มากเกินตัวเยี่ยงนี้หนอ

        จากนั้นนางก็ออกจากรถม้า คิดหาทางรอดบ้าง ด้วยนางรู้ว่าฟ่านอวี้เหยา มิใช่มีเพียงแค่ฐานะฮูหยินน้อยสกุลเซียว ทว่ายังเป็นลูกสาวของหมอฟ่าน ที่ถูกขุนนางกังฉินหลอกยืมมือ และใส่ร้ายว่าลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้ (ฉางอ๋อง) ซึ่งนางก็ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง เพื่อส่งตัวฟ่านอวี้เหยาให้อีกฝ่าย

        “คุณหนู ฟื้นสิเจ้าคะ”

        เสียงของจิ่งหรูฟังแล้วก็ตื่นตระหนก ยามนี้รถม้าจอดสนิท ทั้งแม่บ้านถู คนขับรถม้าต่างหายหัวไปหมด

        สาวใช้เปิดหน้าต่าง มองไปด้านนอก เห็นทหารหลายสิบนายอยู่ไม่ห่างนัก ซึ่งนางมีไหวพริบอยู่บ้าง ทหารหลายนายแต่งตัวไม่ถูกต้อง ทั้งมีหนวดเครารุงรัง ประเมินด้วยสายตาก็คิดว่าอาจเป็นโจรสวมรอย

        “มือสังหารหรือ…”

        นางแค่คาดการณ์ไปเท่านั้นเอง

        “คุณหนู ฟื้นเถอะเจ้าค่ะ ภัยมาถึงตัวแล้ว”

        จิ่งหรูเขย่าร่างเจ้านายของตน ทว่าบาดแผลที่หญิงสาวได้รับจากแส้ ทำให้นางเป็นไข้ แม้จะได้ยาลดการติดเชื้อ และสมานแผลพร้อมกับห้ามเลือด ทว่านางที่เดินทางไกลมาจากเมืองหลวงทั้งยังแพ้อาหาร พักผ่อนก็น้อย สุขภาพจึงไม่สู้ดี

        กระทั่งจิ่งหรูแน่ใจว่า หากปล่อยไว้เช่นนี้ คงไม่มีทางรอดกันทั้งสองคน สาวใช้จึงตัดสินใจแน่วแน่ นางถอดชุดเจ้าสาวซึ่งเป็นเสื้อคลุมตัวนอกของฟ่านอวี้เหยาออก แล้วเปลี่ยนให้ตน ส่วนเสื้อผ้านางสวมให้ฟ่านอวี้เหยา แต่ใส่ได้เพียงลวกๆ เท่านั้น ด้วยมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ๆ

        จิ่งหรูตัดสินใจเด็ดเดี่ยวกระโดดลงไปพื้นเบื้องล่าง แล้วเปิดขวดยาอันเป็นสารกระตุ้นให้ม้าตื่นตัว ม้าร้องอยู่สามสี่ครั้ง ก็เตรียมโผนทะยานไปข้างหน้า

        “ทะ ท่านลุง ช่วยส่งคุณหนูของข้าไปยังที่ปลอดภัยได้หรือไม่” ชายสูงวัยที่เป็นผู้ช่วยคนควบคุมรถม้า เขายังพอมีแรงเฮือกสุดท้าย จึงยิ้มให้จิ่งหรู

        “คุณชายรอง ให้ข้าพาฮูหยินน้อย ไปให้ถึงเรือนนอก… นี่คือคำสั่งที่ข้าได้รับ”

        “ฝากท่านลุงด้วย คุณหนูเป็นคนดี จะต้องไม่เป็นอันตราย ส่วนท่านลุง…” จิ่งหรูมองที่ธนูที่ปักอยู่หัวไหล่อีกฝ่าย บาดแผลฉกรรจ์ทีเดียว เลือดก็ไหลไม่หยุด

        “ไว้ใจได้ แม้ตายเป็นผี ฮูหยินน้อยก็จะถึงเรือนนอก”

        ชายชรากล่าวจบรถม้าก็เปลี่ยนเส้นทาง และเคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว

        “คุณหนู… อย่างน้อยก็ไม่ต้องอยู่ในมือคนพวกนั้น บ่าวโง่เขลาทำได้เพียงเท่านี้” จิ่งหรูว่าแล้ว นางซึ่งสวมชุดเจ้าสาวก็มองไปยังกลุ่มทหารที่บ่ายหน้าเข้ามา ก่อนรีบออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่ใต้อาณัติแม่ทัพวิปลาส    48 อ๋องเอวดุ (ตอนพิเศษ จบ)

    ดังนั้นแม้พวกนางยังมีตำแหน่ง แต่กลับไร้อำนาจ แถมโต้วเซ่าเหล่ยยังคาดโทษไว้สูงสุดด้วย ห้ามไม่ให้กลับเมืองหลวง และห้ามไม่ให้มีทายามสืบต่อไป ซึ่งทั้งเหยาเหอซาน กับปิงจือจือก็ยอมรับชะตากรรมของตนแต่โดยดี อย่างน้อยพวกนางก็มีชีวิตอยู่ และนั่นคือสิ่งที่รั่วตงอวิ๋นบอกแก่เขา ให้พวกนางมีชีวิตจนผมหงอก ฟันล่วงหมดปาก ป่วยตายด้วยโรคชรา พร้อมยังมีตำแหน่งชายาของเหล่ยอ๋อง “พวกนางรอดได้ก็เพราะอวิ๋นชินของข้าที่แสนดี” โต้วเซ่าเหล่ยเอ่ย ฝ่ายรั่วตงอวิ๋นก้าวตามชายหนุ่มไป และอีกฝ่ายจับมือนาง บีบเบาๆ ส่งมอบไออุ่น และความรักแก่นาง “เพราะตัวข้าพบเรื่องเลวร้ายมา ชีวิตเกือบต้องพังลงเพราะน้ำคำผู้ชาย ถึงพวกนางอาจมีความผิดบ้าง แต่การมอบโอกาสให้ผู้อื่นได้มีลมหายใจอีกครั้งย่อมดีที่สุด ที่สำคัญเหล่ยอ๋อง ใจร้ายกับพวกนางมิน้อย ข้าเลยต้องชดเชยให้แก่เหอซาน และจือจือ เรือนนอกนั้น แม้ไกลเมืองหลวง แต่มีอาหารและสภาพอากาศดี อาจเปลี่ยวกายยามค่ำคืนบ้าง แต่ข้าเชื่อเหลือเกิน พวกนางย่อมมีทางออก” “เจ้าหมายความเช่นไร” รั่วตงอวิ๋นหัวเราะน้อยๆ และตอบเขา “ทั้งหนังสือ ตำราภาพบุรุษงา

  • เกิดใหม่ใต้อาณัติแม่ทัพวิปลาส    47 อ๋องเอวดุ (ตอนพิเศษ)

    มีดสั้นของอ๋องเอวดุ ซิงอี คือแม่นางน้อยที่เดินได้เร็วกว่าวัยของตน และพูดได้เร็วมาก ตอนนี้ สิ่งที่ติดปากแม่นางน้อยคือ “ข้าจะกิน จะกินเมีย ฮึ่มๆ ๆ กินมูมมาก และดื่มนมจ๊วบๆ ด้วย!” สิ่งที่เกิดขึ้น ใครเล่าจะปวดหัวที่สุด หากไม่ใช่เหล่ยอ๋อง ผู้เป็นบิดาและตัวเขาก็เหมือนจะพลาดหลายสิ่งไป ในช่วงที่ห่างจากรั่วตงอวิ๋นพอสองแฝดเกิดก็ไม่ได้อุ้มชูใกล้ชิด กระทั่งพวกเขาเริ่มโต จึงได้ทำหน้าที่บิดา อย่างเต็มที่ กระนั้นก็มีปัญหาเล็กน้อยตามมาไม่หยุด ยามนี้แม่นางน้อยไม่ยอมเรียกเขาทว่า ท่านพ่อ อีกทั้งชอบมองด้วยสายตาที่อยากเอาชนะ นอกจากนั้น ยังเรียกว่าเขาว่า “ยาจก... ท่านมีไม้เท้าตีสุนัขด้วย” แน่นอน ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะฝาแฝดผู้เป็นน้องชายของนาง ยังช่วยเสริมว่า “อ๋องๆ อ๋องผี! เขาเป็นอ๋อง ผะ ปะ ปี...จ๊าด!” เมื่อซีห่าวเอ่ยพร้อมทำท่ากลัวจนตัวสั่น คนเป็นพี่ก็เสริมอย่างฉะฉานว่า “ข้าจะปกป้อง ห่าวเกอ จากยาจกและอ๋องปีศาจ แฮ่ร!” ทั้งภาพและเสียงที่เกิดขึ้นทำให้ รั่วตงอวิ๋นหัวเราะชอบใจ และนี่คงเป็นการแก้แค้นของเมียรัก ที่บอกว่าเขาหายหัวไปหลายปี แต่ให้ตายเถิด สิ

  • เกิดใหม่ใต้อาณัติแม่ทัพวิปลาส    46 อ๋องเอวดุ

    “นะ นั่น ที่แท้ก็เป็นนางโลม... เหตุใดถึงให้เข้าทางประตูหน้า โถ... กลับเมืองหลวงครั้งนี้ องค์ชายเจ็ดคงสติฟั่นเฟือนอย่างที่เขาว่ากันแน่ๆ ยกหญิงชั้นต่ำมาเป็นอนุภรรยา” เสียงชาวบ้านดังขึ้น ในขณะที่รถม้าหยุดอยู่หน้าตำหนัก และหูของสตรีที่นั่งอยู่ด้านในก็กระดิกไปมา นางได้ยิน และยังคันปากยิบๆ ผิดแต่ต้องการให้ผู้คนโจษจันถึงเรื่องของนางมากกว่านี้ จะได้สมกับการปรากฏตัวหน้าตำหนักอ๋องผู้ที่ยามนี้คงวิปลาสเป็นแน่ ที่จู่ๆ แต่งตั้งให้นางโลม เป็นอี๋เหนียง*ของตน (อนุภรรยา) อีกอย่างเขาหายหัวไปนาน จนนางลืมไปแล้วว่า ตนเคยมีสามี และลูกของนางมีบิดาเป็นถึงองค์ชายเจ็ด “สตรีนางนั้นมีบุตรด้วย โถ... แล้วจะเชื่อได้อย่างไรว่าเป็นองค์หญิงและองค์ชาย ที่มีสายเลือดขององค์ชายเจ็ด!” “เช่นนี้ เป็นการหลอกลวงเบื้องสูงหรือไม่” อีกเสียงดังขึ้น และทำให้รั่วตงอวิ๋นอยากออกจากรถม้า และจับคนพวกนั้นฉีกปากเหลือเกิน “เอาล่ะ ไข่เน่า และเลือดหมู รวมถึงขี้วัวพวกเจ้าเตรียมพร้อมหรือยัง” สิ่งที่ฝ่ายนั้นเตรียมการ ย่อมมาจากปิงจือจือ และเหยาเหอซานร่วมมือกัน รั่วตงอวิ๋นได้ยินเสียงด

  • เกิดใหม่ใต้อาณัติแม่ทัพวิปลาส    45 อ๋องเอวดุ

    สามปีผ่านไป เมืองฝาง (เมืองหลวงแคว้นต้าเหลียง) ในยามนี้ไม่ใคร่สงบสักเท่าใด ประชนชนอยู่กันอย่างอกสั่นขวัญแขวน บ้างก็มีข่าวลือวงในว่า อาจเกิดการก่อกบฏ ด้วยฮ่องเต้อายุมากแล้ว ส่วนรัชทายาทนั้นอ่อนแอ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนตัว เนื่องจากเมื่อต้นปีเขาถูกวางยา แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจแก่ทุกคนก็คือ ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า โต้วเซ่าเหล่ยหรือองค์ชายเจ็ด หายสาปสูญในเหตุการณ์ภูเขาถล่ม แต่จู่ๆ เขาก็เหมือนปีศาจที่ฆ่าไม่ตาย สามารถฟื้นคืนชีพ และกลับมาเมืองหลวงในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองคับขัน และโต้วเซ่าเหล่ยก็คือ คนที่ผีเห็นยังหวั่น อีกทั้งชอบทำตัวราวกับจอมาร หน้ากากที่สวมไว้ครึ่งหน้า ไม่ยอมถอดออก ทั้งที่ความจริง เขาเป็นบุรุษรูปงาม แต่แสร้งทำตนอัปลักษณ์ ที่เขาทำตัวเช่นนั้น เพราะไม่อยากถูกผู้อื่น คิดว่าเขาจะแย่งบัลลังก์จากพี่ชาย (โต้วเซ่าเหล่ยกับรัชทายาท มีมารดาเป็นฮองเฮา) อีกอย่างเขาต้องการให้ตนหายใจหายคอสะดวก ใช้ชีวิตโดยไม่ต้องมีสายตาใครจับจ้อง โดยเฉพาะพวกขุนนางทั้งหลาย จางคังฉิก มองเจ้านายของตน ที่นั่งดื่มสุราไปหลายจอก และดูเหมือนไม่ทันใจ เขาเลยยกกาสุราเทกรอกปากตัว

  • เกิดใหม่ใต้อาณัติแม่ทัพวิปลาส    44 อ๋องเอวดุ

    หลายเดือนผ่านไป ลี่ชุนวางสีหน้ายุ่งยากใจมาก นางบอกให้รั่วตงอวิ๋นว่า อย่างไรจงอย่าได้ตั้งครรภ์ แต่คนดื้อรั้นย่อมเป็นเช่นนี้ แต่ก็โชคดี ที่ไม่มีเรื่องรุนแรงเกิดขึ้น ด้วยลี่ชุนพอจะล่วงรู้ว่า เด็กในครรภ์นั้นเป็นลูกของผู้ใด และการรับนอนกับคุณชายท่านนั้น ทำให้อีกฝ่ายไถ่ถอนตัวเองจากการเป็นนางโลม และยังช่วยอีกหลายชีวิตให้มีความสุข กระนั้นรั่วตงอวิ๋นก็ยืนยันจะใช้ชีวิตที่หอวสันต์รัญจวน อีกทั้งนางเป็นผู้ซื้อกิจการจากลี่ชุน ด้วยนอกจากนั้นยังจะไม่ให้มีการหลับนอนกับแขกอย่างไม่ยินยอม ทั้งการทำงานที่ตรอกโคมเขียวนี้ สตรีทุกคนต้องทำอย่างถูกกฎหมาย อาชีพนี้ต้องได้รับเกียรติ ผู้ใดก็ห้ามดูถูก แม้นางจะมีหัวก้าวหน้าคิดอ่านไม่เหมือนคนยุคสมัยนั้น แต่คนทั่วไป ก็ยังมองตรอกโคมเขียว เป็นพื้นที่คาวโลกีย์เช่นเดิม หมางจูวิ่งเข้าวิ่งออก ห้องโถงที่มีหมอตำแยคลอดช่วยเหลือคนที่กำลังจะคลอดอยู่ กระนั้นสถานการณ์ยามนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย “หมอ เราต้องการหมอที่สำนักการแพทย์” นางเอ่ยกับลี่ชุน น้ำเสียงร้อนใจเต็มที “เสี่ยวจูจู เจ้าปัญญาทึบแล้วหรือไร หมอพวกนั้นไฉนจะลดตัวมารักษาพวกเรา

  • เกิดใหม่ใต้อาณัติแม่ทัพวิปลาส    43 อ๋องเอวดุ

    ณ ตำหนัก หูเหยียน นอกวังหลวง โต้วเซ่าเหล่ยกลับมาจากเมืองหน้าด่านและใช้ชีวิตเสเพล โดยการปลอมตัวเป็นหนุ่มเจ้าสำราญเกือบสองเดือน และเขาเข้าออกวังหลวงได้พบฮ่องเต้ และเหล่าองค์ชายที่สนิทกัน เพื่อปรึกษาเรื่องการรับมือกบฏที่กำลังคิดร่วมมือกับต่างแคว้น พอทุกอย่างสะสางเรียบร้อย เขาก็กลับมา สวมบทบาทเหล่ยอ๋องผู้ที่เหี้ยมโหด และบ้าอำนาจเช่นเดิม โต้วเซ่าเหล่ยอยู่ที่ตำหนักหูเหยียนอย่างไม่ใคร่จะสบายตา สบายใจ นั่นเป็นเพราะชายาเอก เหยาเหอซาน กับชายารองนาม ปิงจือจือ ที่ร้อยวันพันปีนับแต่แต่งเข้ามา พวกนางไม่เคยคิดจะกล้ามายุ่มย่ามกับเขา ต่างจับมือกันแน่น และบอกว่าอยากได้รับโอกาสปรนนับัติชายหนุ่ม และเขารู้ว่า ที่เป็นเช่นนั้น ด้วยทั้งคู่ถูกสกุลของตนบีบบังคับเพื่อเร่งให้มีทายาทกับเขา นอกจากนั้นพวกนางยังพลาดพลั้งมีความสัมพันธ์กับนักเล่านิทานผู้หนึ่ง เรื่องนี้เขาย่อมล่วงรู้ แต่ก็ปล่อยให้ทั้งคู่ หลงระเริงสักพัก หากพวกนางคิดได้ ก็จงสภาพผิด และหย่าขาดออกไปเสีย เพื่อปกป้องทั้งชีวิตตน กับสกุลเดิมของตน “บิดาหม่อมฉันคิดว่าถึงเวลาที่ต้อง มีบุตรให้เหล่ยอ๋องแล้ว” เหยาเหอซานว่าอย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status