บุนซูมองตาณด้วยความเป็นห่วง เขาก้าวมาใกล้ๆ และถือวิสาสะใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาให้หล่อน
“อุ๊ย ไม่ต้อง ฉันชอบเรื่องดราม่า” ตาณว่าพร้อมสูดลมหายใจลึก
“ตาณ!” เขาเรียกชื่อหล่อนชัดแจ๋ว
ดวงตากลมโตมองหนุ่มเกาหลีตาชั้นเดียวอย่างทึ่งจึด
“เป็นคุณจริงๆ ด้วย”
ตาณฉงนฉงาย บุนซูพูดไทยชัดตั้งแต่เมื่อไร ที่เขาพัฒนาเช่นนี้คงเป็นเพราะต้องการผู้หญิงไทยเป็นภรรยา
“อุ๊ยตาย นั่นน้องตาณตัวเป็นๆ ใช่ไหม ดูสิเจ้าพ่อ เจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เดี๋ยวต้องหาเวลาว่างไปแก้บนเสียหน่อย” เจ้าหน้าที่จากบริษัทจัดหาคู่ว่าเสียงดัง เธอก้าวมาสมทบและยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ตาณเห็นท่าไม่ดี หล่อนถอยกรูดมาข้างหลัง แต่ต้องชนกับพุงหลามๆ ของมีชัย
“เคลียร์เรื่องตรงหน้าให้เสร็จก่อนตาณ อย่าเอาแต่หนี” มีชัยเตือน
หญิงสาวทำตาแดงๆ อีกหน แต่เบบี้รู้ทัน เดินเข้ามาหยิกแขนตาณหนึ่งที จนหล่อนร้องเสียงหลง
“ตอนนี้ เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่ ตาณกับคุณคนนี้ ไม่มีอะไรติดค้างกัน ก็แค่เคยรับจ้างไปดูตัวแป๊บๆ เสร็จแล้วก็รับเงินกลับบ้าน” ตาณว่าอย่างไม่ปิดบัง และพยายามหลบสายตาหวานเยิ้มของบุนซู
หนุ่มเกาหลีหันไปถามเจ้าหน้าที่บริษัทจัดหาคู่ สีหน้าเขาเครียดเล็กน้อย พอหันกลับมาก็ยิ้มหวานละไม
ผู้ชายผิวขาว ผมเข้ม ดวงตามีประกายวิบวับอย่างเขา มองแล้วก็เพลินตาอบอุ่นหัวใจ กระนั้นกลับเป็นหล่อนเสียเองที่ตั้งป้อมกลัวเขา และยังรู้สึกละอายใจกับการรับจ้างไปดูตัวเพื่อหวังเงินเข้ากระเป๋า
“คือ...คุณบุนซู อยากทำความรู้จักน้องตาณมากขึ้น และนี่เขาเพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่จากประธานคนเก่าให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการบริษัทสาขาในเมืองไทย”
ตาณยินดีกับความก้าวหน้าของหนุ่มเกาหลี เขาคงอยากลงหลักปักฐานกับใครสักคนจริงๆ แต่หล่อนไม่ได้ดีพร้อม และการดึงใครสักคนเข้ามาในชีวิตเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หญิงสาวรู้ดี ความรักล้อเล่นไม่ได้ และการทำร้ายหัวใจคนมันอื่นเป็นบาป
“ตาณ ดะ เดต กับผม อีกสักครั้ง ดะ ได้ ไหมครับ” บุนซูเอ่ยทีละคำช้าๆ เขาเพิ่งฝึกพูดภาษาไทย แต่ก็สามารถสื่อสารได้
“ฉันเสียใจ กับเรื่องวันนั้น และคืนนี้” หล่อนว่าอย่างเหนื่อยใจที่เคยปฏิเสธการนัดเดตกับเขา และก่อนหน้านี้ยังเล่นซ่อนแอบกับเขาอีก
บุนซูพยักหน้าน้อยๆ ก่อนหันไปทางเจ้าหน้าที่เพื่อให้เธอช่วยเสริมอีกแรง
“คุณบุนซูรู้ค่ะ ว่าน้องตาณยังไม่พร้อม แต่ก็ยินดีมาก ถ้าน้องตาณจะลองใช้เวลาศึกษาดูใจกันและกัน” เจ้าหน้าที่บริษัทจัดหาคู่รีบรุกทันที
ตาณหันมาสบตาชายหนุ่ม และอีกฝ่ายก็ยิ้มกว้าง
“คุณสวย” เขาชมตรงๆ
คำชมนั้น ส่งผลหล่อนยืนแทบไม่ติดพื้น
ชีวิตที่ผ่านมา ตาณพบเรื่องร้ายๆ หลายหน หล่อนได้แต่หวังว่า จะมีเจ้าชายสักคนมาฉุดให้พ้นจากขอบเหว กระนั้นก็หวั่นหวาดมิน้อย หากคนที่จะจับจูงมือหล่อนไปสู่โลกใหม่คือผู้ชายที่มีดวงกินเมีย
เจ้าหน้าที่บริษัทจัดหาคู่สบโอกาส เมื่อเห็นตาณเริ่มเคลิ้มไหวจึงรีบกล่าวเสริม
“คุณบุนซูพูดเสมอว่า ผู้หญิงไทยหุ่นดี นิสัยน่ารัก และน้องตาณก็ตรงสเปกทุกอย่าง”
“ไม่จริงมั้งคะ ตาณไม่ขาววิ้งมีออร่า หน้าตาก็ไทยจ๋าซะขนาดนี้” หล่อนคิดเสมอว่าผู้หญิงขาวสวยใบหน้ารูปไข่ ปากนิดจมูกหน่อยคือพิมพ์นิยมของผู้ชายค่อนโลก
บุนซูส่ายหน้าปฏิเสธสิ่งที่หล่อนเอ่ย ก่อนจะเอ่ยเสียงแปลกแปร่งออกมา
“คุณหุ่นดี สะโพกใหญ่ และ...”
บุนซูกำลังจะทำมือทำไม้ ประกอบหน้าอกหน้าใจคัพดีบวกของตาณ
ได้ยินเข้าอย่างนั้นหล่อนก็รีบคว้าข้อมือเขาหมับ ทั้งอายทั้งเขิน
“ปะ ไปคุยกันข้างนอกได้ไหมคะ”
มีชัยซึ่งยืนฟังอยู่ข้างหลัง เห็นสาวเสิร์ฟจะชิ่งหนี จึงขยับปากห้าม แต่ตาณร้องบอกเสียก่อน
“คืนนี้มีแขกอ๊อฟ เอาไว้พรุ่งนี้ตาณจะกลับมาเก็บกวาดทุกอย่างให้เฮียนะ” ว่าจบหล่อนก็ดึงแขนบุนซูพาเขาออกไปทางประตูหลัง
อเล็กซ์ก้าวดุ่มๆ เข้ามาด้านในครัว เขาได้สาวเชียร์เบียร์ชื่อเปิ้ลนำทาง ตอนนี้ชายหนุ่มมั่นใจว่าผู้หญิงที่โปะเค้กใส่หน้าเขาคือตาณ อดีตสาวน้อยรสนมปั่น
“หนูว่ายายนั่นเข้ามาข้างในนี่ละ เพราะดูที่อื่นแล้วก็ไม่เห็นแม้แต่เงาหัวมัน” เปิ้ลพาอเล็กซ์ตามหาตาณ ทั้งในห้องน้ำ และบริเวณตู้ล็อกเกอร์ แต่ไม่พบ กระทั่งฉุกคิดได้ว่าอีกฝ่ายอาจเข้ามาหลบที่สโตร์เก็บของ ซึ่งมีประตูออกไปสู่ลานจอดรถ
“อะไรกันอีกละเฮ้ย ตะกี้ยังวุ่นวายไม่พอหรือไง”
มีชัยว่าพร้อมกับหันไปมองอเล็กซ์ ใบหน้าอีกฝ่ายมีคราบเค้กให้เห็น และเสื้อเชิ้ตขาวก็ยังเปรอะเปื้อนเป็นดวงใหญ่ ชายหนุ่มเป่าลมออกจากริมฝีปาก ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบๆ กับเจ้าของร้าน
“ตามหาคนน่ะเฮีย”
“อย่าบอกนะว่า เป็นนังหนูตาณอีก” มีชัยทำท่าเหมือนลมจะจับ สีหน้าเครียด และเหงื่อแตกพลั่ก
“จะใครเสียอีกละเฮีย ยายบ๊องนั่น จับเค้กฟาดหน้าคุณลูกค้าเสียงดังตุ้บเลย ตอนแรกเปิ้ลไม่มั่นใจหรอก แต่เปิ้ลเห็นมันวิ่งหนี คนเราถ้าไม่ผิดจะวิ่งป่าราบขนาดนั้นทำไม” สาวเชียร์เบียร์เล่าเป็นฉากๆ และรู้สึกสนุกที่ได้แฉสิ่งที่ตาณกระทำ เพราะอีกฝ่ายเป็นคู่แค้นของเธอมาตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น
“จริงหรือเล็ก มันยังไงกันวะ”
มีชัยรู้สึกเสียหน้าที่ตาณก่อเรื่องเช่นนี้ ถึงหล่อนจะอารมณ์ร้อน แต่ไม่ใช่คนไร้เหตุผล กระนั้นเขาซึ่งอยู่ในฐานะนายจ้าง และเจ้าของร้านจำต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เรื่องมันยาวเฮีย แล้วตอนนี้ตาณอยู่ที่ไหน”
อเล็กซ์ถามพร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆ
“คุยกันตอนนี้ไม่ดีมั้ง อย่างเพิ่งใช้อารมณ์กันเลย” มีชัยเป็นห่วงทั้งตาณ และอเล็กซ์
ชายหนุ่มมีสีหน้าตึง เขาไม่ได้โกรธหรือขัดเคืองใจที่ตาณกระทำรุนแรงต่อเขา เพียงแต่อยากพบหน้า อยากถามไถ่เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับหล่อนมากกว่า
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองไปยังประตูบานเล็กด้านหลัง เห็นแล้วเขาก็เกิดความสงสัย
“ประตูบานนี้ ออกไปไหนเฮีย ถึงลานจอดรถไหม” คำถามยังไม่ทันได้คำตอบ ร่างสูงก็ก้าวพรวดไปข้างหน้า และในวินาทีต่อมาร่างหนึ่งก็โผล่ออกมายืนขวางตรงบานประตูพอดี
“อ้าว มาทำอะไรตรงนั้นเบบี้ ถอยออกไปสิ” มีชัยเอ็ดสาวประเภทสองฝ่ายบัญชีของทางร้าน
สาวประเภทสองเนื้อตัวสั่น เธอรักและเห็นใจตาณซึ่งเป็นรุ่นน้องมาโดยตลอด และอยู่เคียงข้างอีกฝ่ายทั้งยามทุกข์และสุข ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
“ไม่มีอะไรเฮีย เบบี้แค่ทำในสิ่งที่ควรจะทำ เพื่อน้องที่รัก”
“เพี้ยนหรือไง ถอยไปเลย นี่มันเรื่องสำคัญ”
มีชัยสั่ง เห็นท่าทางอเล็กซ์เข้าก็รู้ว่าหนุ่มลูกเสี้ยวพร้อมจะจัดการทุกคนที่ขวางทาง
“ไม่ได้เฮีย จะให้พ่อหน้าขาว ปากแดง ผ่านไปหลังร้านไม่ได้เด็ดขาด หายหัวไปตั้งเจ็ดปี ยังจะมีหน้ามาฟื้นฝอยหาตะเข็บอีก” เบบี้ต่อว่าอเล็กซ์อย่างไม่ไว้หน้า
มีชัยเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง เขานึกฉงนกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็เป็นคนหัวไวจึงมองหน้าอเล็กซ์อย่างจับพิรุธ พยายามคิดถึงสาเหตุที่ทำให้ตาณแค้นจัด จนทำเรื่องไม่งามกับหนุ่มหล่อ ผู้เป็นอดีตเดือนประจำเมืองนี้
“ไม่ใช่มั้ง ไอ้หนุ่มนั่น มันขี้ขลาด อั๊วได้ข่าวว่ามีหางยาวเฟื้อย และจมูกก็ไวเหมือนกับหมาเดือนเก้า!”
เจ้าของร้านย้อนความหลัง เขาไม่ได้อยู่ร่วมเหตุการณ์ระทมทุกข์ของตาณ แต่ในฐานะนายจ้าง จึงมีโอกาสพูดคุยกับหล่อนหลายครั้ง และเคยให้ความช่วยเหลือยามอีกฝ่ายขัดสน
มีหลายสิ่งที่อเล็กซ์ไม่รู้เกี่ยวกับตาณ ในช่วงเวลาเดียวกันที่เขาบินกลับบ้านแคลิฟอร์เนีย เพื่อไปเยี่ยมยายซึ่งป่วยจากอาการไขมันพอกตับ ก่อนหน้านั้นอเล็กซ์มีงานล้นมือ เขาต้องเรียนรู้หน้าที่ใหม่ในบริษัท แต่ก็ไม่ลืมที่จะติดต่อคนรัก ทว่าพยายามโทรศัพท์หาเท่าไรก็ไม่มีสัญญาณจากหมายเลขของตาณ กระทั่งถึงวันที่ต้องขึ้นเครื่องเขาจึงฝากสมิธซึ่งอยู่เคลียร์งานที่เมืองไทยติดตามข่าวของหญิงสาว“อาหมายถึงตาณ” อเล็กซ์ครางชื่อคนรักเก่าออกมา“ใช่ เด็กคนนั้นเคยมาตามหาแกที่บริษัท บอกว่ามีเรื่องสำคัญอยากพูดด้วย แต่อาซักยังไงก็ไม่ยอมพูด คลับคล้ายคลับคลาว่าเขามารอแกอยู่หน้าบริษัทเกือบสองวันกับผู้ชายที่ตุ้งติ้งคนหนึ่ง เฮ้อ...ตอนนั้นอาไม่รู้จริงๆ ว่าเด็กนั่นท้องลูกแก ก็คิดว่าอาจเป็นสาวๆ ที่เคยตามกรี๊ด และรักสนุกเหมือนที่แมรี่เคยเล่าให้ฟัง” สมิธเอ่ยเสียงเรียบ“ส่วนอาเองก็ทำเกินกว่าเหตุไปนิด ที่จับแพะชนแกะแล้วเล่าเรื่องของเด็กผู้หญิงในทำนองเสียหายให้แมรี่ฟัง ก็ตอนนั้นคุณย่าแสงแขเพิ่งเสียได้ไม่นาน และเธอก็เข้าโรงพยาบาลนอนแบ็บไม่ได้สติ พอแมรี่รู้เรื่อง เลยสั่งให้ไล่เด็กคนนั้นไป” ลิลลี่เอ่ยอย่างสำนึกผิด“ทำไม ผมไม่เคยรู้เ
อเล็กซ์สูดลมหายใจลึก แล้วก้าวไปยังมุมลูกค้าวีไอพีซึ่งสมิธกำลังนั่งคุยกับปองคุณอยู่“โอ มาถึงร้านอาสมิธทั้งที ผมต้องถล่มให้ราบ ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย” อเล็กซ์ว่าอย่างอารมณ์ดี ทั้งวันเขายังไม่ได้รับประทานอาหารมื้อหลัก นอกจากกาแฟและคุกกี้“ทำไมหน้าซีดจังเจ้านาย” ปองคุณทักหนุ่มหล่อ“อาการไม่ดีเท่าไหร่เฮีย”เขาว่าพร้อมกับมองซ้ายแลขวา ภาพผู้หญิงท้องลอยเข้ามาวนเวียนในหัว ทั้งที่อาการหลอนเช่นนั้น หายไปจากชีวิตเขานานแล้ว“พักผ่อนบ้างเถอะ อย่าหักโหมงานให้มาก ผมบอกแล้วไง มีอะไรก็แบ่งๆ ให้คนอื่นทำบ้าง เป็นถึงว่าที่เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่โต ต้องบริหารงานให้เป็น ไม่ใช่ลงมือทำเสียทุกอย่าง” ปองคุณว่าพร้อมตบไหล่เพื่อนรุ่นน้องเบาๆอเล็กซ์ยิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนมองไปด้านนอกห้องวีไอพี โต๊ะด้านนอกมีลูกค้าสับเปลี่ยนมาไม่ขาดสาย ชายหนุ่มทึ่งในความสามารถของสมิธ ซึ่งพัฒนาธุรกิจของครอบครัวภรรยาให้เป็นร้านอาหารแนวหน้าของประเทศ มีการจัดส่งไปยังร้านในทุกภูมิภาค และปัจจุบันมีร้านในต่างประเทศหลายสาขา โดยมียอดขายต่อปีนับสองพันล้านบาท“ที่นัดมาคุยเพราะอาอยากให้อเล็กซ์ช่วยดูแลงานของผู้ใหญ่ลายสิงห์ ส่ว
ตาณหน้าแดง ไม่รู้ว่าประวิทย์เข้าใจอาการหล่อนได้อย่างไร แต่ที่เขากล่าวมา คือสิ่งที่หล่อนกำลังประสบ“หนูซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ ละ...แล้ว...ผลมันบอกว่าหนูท้อง” สิ่งที่หล่อนทำก่อนหน้านี้ต้องรวบรวมความกล้าเป็นอย่างมากชายใจหญิงนั่งไม่ติด ตาณคือรุ่นน้องนิสัยดี คอยช่วยงานตลอด และไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียให้ลำบากใจ“เฮ้อ ฉันไม่เคยเห็นแกยุ่งกับใคร วันๆ เอาแต่ทำงานและก็อ่านหนังสือนิยาย แล้วนี่ไปทำอีท่าไหน หรือว่าถูกผู้ชายรังแก” ประวิทย์ว่าแล้วก็โกรธกรุ่น“ปละ เปล่า เราทั้งสองคนรักกัน”“แหม...พูดเสียเต็มปาก แล้วไอ้ลูกหมานั่นมันเป็นใคร?”ตาณไม่รู้จะเล่าถึงหนุ่มฝรั่งลูกเสี้ยวอย่างไร หล่อนแอบคบหากับเขาทั้งที่ประวิทย์เคยห้ามปรามว่าผู้ชายคนนี้เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ วันๆ เอาแต่อวดความหล่อ ชอบทำตัวเป็นเดือนในหมู่ดาวให้สาวๆ กรี๊ด และยังเคยก่อคดีดังให้มารดาปวดหัวจนต้องส่งตัวมาเมืองไทย“ว่าไง ไอ้ลูกหมานั่นเป็นใคร เดี๋ยวฉันจะตามไปลากคอมันมารับผิดชอบเสียเดี๋ยวนี้เลย”“มะ ไม่ได้นะ พี่...เขาไม่ผิด และ แล้วเขาสัญญากับหนูว่าจะรีบกลับมา”ฟังถึงตรงนี้ ประวิทย์ก็พอจะรู้ คนที่ขโมยหัวใจเพื่อนรุ่นน้อง คงไม่พ้นหนุ่มๆ ที่ช่
อเล็กซ์มาส่งตาณที่เรือนไม้สีขาว เขาไม่ได้อยู่รับประทานอาหารเย็นกับหล่อน ขณะนั้นบุนซูกำลังจัดเตรียมอาหารโดยมีสามแฝดและเบบี้เป็นลูกมือ ชายหนุ่มเพียงแต่โบกมือทักทายเด็กๆ และขับรถจากไป สิ่งที่เขากระทำสร้างความประหลาดใจต่อคุณแม่“เอาไว้โอกาสหน้า พี่ขอเป็นเจ้ามือบ้างนะครับ”“ค่ะ...ฉันยังไงก็ได้ ขอแค่เด็กๆ ชอบ” ตาณไม่คิดว่าอเล็กซ์จะยอมถอยง่ายๆ แต่หล่อนก็ไม่พร้อมที่จะรั้งเขาไว้ในตอนนี้“พี่เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา มันยากที่จะกลับมาสู่จุดเริ่มต้น แต่...ความรักเป็นสิ่งสวยงาม และผลที่ตามมาก็คุ้มค่า”ชายหนุ่มทิ้งความสงสัยเอาไว้ให้ตาณต้องหาคำตอบ หล่อนยืนเหม่ออยู่นาน กระทั่งเบบี้ก้าวเข้ามา“เฮ้อ จะไปอาลัยอาวรณ์ ผัวเก่าทำไมล่ะตาณ”“หน้าหนูมันฟ้องขนาดนั้นหรือ” เสียงหล่อนเนือย ท่าทางก็พอกัน“จ้ะ คนอย่างแก เป็นอะไรปุ๊บ มันก็ลงที่หน้าหมด สดชื่นหน่อยสิ เดี๋ยวคนใหม่เห็นเข้าก็เซ็งแย่” เบบี้ว่าจบก็ชวนตาณให้เข้าไปหาบุนซูร่างสมส่วนก้าวไปยังห้องครัว ได้ยินเสียงหัวเราะ สลับเสียงพูดคุยของสามแฝดและหนุ่มเกาหลี แม้สื่อสารด้วยภาษากายมากกว่าการพูด แต่ทั้งตั้งต้น และแต้มฝันก็สนุกสนาน“หนูไม่เอาผัก”แต้มฝันป
ชายหนุ่มอุ้มเธอขึ้นรถเก๋งคันใหญ่ โดยไม่ฟังเสียงต่อว่าจากหญิงสาว“คุณทำอะไรเนี่ย ฉันจะไปหาลูก!” หล่อนดึงดันจะลงรถ แต่เขายื้อไว้ และปั้นสีหน้าขึงขัง“ตาณมีสติหน่อย ตะกี้พี่บอกเบบี้ให้ช่วยดูเด็กๆ แล้ว”ก่อนเดินไปหาตาณ อเล็กซ์เข้าไปทักทายสามแฝด พร้อมมอบของฝากให้ทุกคน รวมถึงเบบี้ ซึ่งตั้งแง่ใส่เขาก็จริง แต่เมื่อพูดคุยกันด้วยเหตุผล ฝ่ายนั้นก็ไม่ได้คิดจงเกลียดจงชังเขาอย่างที่เอ่ยปากขับไล่“น่าแปลก ฉันนึกว่าเจ้เบบี้จะงับหัวคุณเสียอีก” ตาณสงสัย เขาไปตกลงกับสาวประเภทสองอย่างไรถึงยอมสงบศึกง่ายๆอเล็กซ์ทำความสะอาดแผลเบื้องต้นให้ตาณ ด้วยการใช้น้ำสะอาดล้าง กระทั่งเห็นปากแผลชัดๆ ทั้งคู่ก็มีสีหน้าไม่สู้ดี“คงไม่ใช่แค่เปลือกหอยแล้วละ...” หล่อนว่าเสียงอ่อย“คราวนี้ คงไม่ว่าพี่เป็นกระต่ายตื่นตูม หรือฝรั่งขี้โวยวายแล้วใช่ไหม”เขาว่าจบ ตาณก็หลุดเสียงหัวเราะออกมา“ก็ท่าทางคุณเว่อร์มาก เป็นใครก็ตกใจ”“ตาณ...ต่อไปนี้ ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นกับตาณและลูกๆ พี่จะให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ถึงสิ่งที่พี่ทำอาจดูงี่เง่าหรือเพี้ยนไปบ้าง แต่เชื่อเถอะ ทั้งหมดพี่ทำจากหัวใจ”คำพูดเขาหวานเลี่ยนและลิเกจ๋า แต่หล่อนกับร
โอ้ทะเลแสนงามสามแฝดได้เบบี้คอยดูแล ตาณเลยมีเวลาส่วนตัว หล่อนอาบน้ำแล้วสวมเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองสบายๆ เสื้อแขนกุด พร้อมกางเกงขาสั้นขนาดพอดีตัว วันนี้นึกครึ้มใจจึงหยิบเครื่องสำอางมาเติมสีสันบนใบหน้า ระบายสีอ่อนๆ เน้นธรรมชาติ และไม่ลืมบรรจงเติมสีปากอวบอิ่มให้ดูสดชื่น ทว่าเมื่อมองตัวเองในกระจก ก็นึกอยากลบสีสันเหล่านั้นออก หล่อนเป็นคุณแม่ลูกสาม ควรสนใจลูกๆ มากกว่าเรื่องตัวเองเบบี้เดินเข้ามาในบ้านเพื่อหยิบขนมและเครื่องดื่มไปเติมให้เด็กๆ ด้านล่าง พอเห็นตาณกำลังจะลบเครื่องสำอางก็เอ่ยห้าม“แต่งหน้าแบบนี้สวยจะตาย กล้าๆ หน่อยสิยะ คนเราคิดจะเดินไปข้างหน้าแล้วก็ก้าวไปให้สุด”หญิงสาวมองเงาในกระจกอีกครั้ง หล่อนยังสาวอยู่มาก การจมอยู่กับความหลังเป็นสิ่งไม่สมควร คิดได้ดังนั้นจึงเพิ่มความมั่นใจด้วยการเติมสีปากให้สดใสตามเดิมหลังจากเรียกความมั่นให้ตัวเอง ตาณก็ก้าวจากชานระเบียงสู่ผืนทรายเบื้องล่าง แต่แวบหนึ่งหางตาก็มองเห็นร่างสูงเดินมาจากอีกฝั่งของชายหาด ด้วยความอยากรู้จึงหันไปมองร่างสูงหุ่นสมาร์ตสวมเสื้อกล้ามสีขาว และกางเกงขาสั้นเหนือเข่าสีน้ำเงินเข้ม มีหมวกใบเท่บนศีรษะ ห้อยแว่นตากันแดดที่เสื้อและจังห