วางแผนจีบเมีย
อเล็กซ์ยืนนิ่งค้างอยู่หลายวินาที สมองกำลังประมวลหลายสิ่งเข้าด้วยกัน แรงปะทะเมื่อครู่หนักหน่วงเอาการ และการสานสบสายตากับสาวเสิร์ฟที่มีหน้ากากผ้าประหลาดทำให้เขารับรู้สัญญาณจากอีกฝ่าย และหล่อนยังจงใจเหยียบเท้าเขา ในชีวิตอเล็กซ์มีเหตุบังเอิญนับครั้งได้ เขาเชื่อว่าสิ่งที่เกิดคืนนี้ เป็นความต้องการเอาคืนจากอีกฝ่าย
พิมพ์พิกาเห็นสภาพแฟนหนุ่มเข้าก็หัวเสีย เธอจ้องไปทางปองคุณ และหลุดเสียงกราดเกรี้ยวใส่
“ทำไมเฮียปองถึงเล่นพิเรนทร์อย่างนี้”
“เฮ้ย มาโทษกันได้ไง ผมไม่รู้เรื่อง ไอ้กิ๊กหรือเปล่า มันเมายืนเซไปเซมา และตะกี้เล็กก็เกือบต่อยมันด้วย”
ปองคุณว่าแล้วก็หันไปทางกิ๊กเพื่อนรุ่นน้อง แต่พอเห็นสภาพอีกฝ่ายนั่งคอพับคออ่อนบนเก้าอี้ก็เปลี่ยนความคิดใหม่
“ไม่ใช่นายนั่น แล้วเป็นใคร พิมพ์ไม่ยอมจริงๆ ด้วย ทำอะไรไม่เข้าท่า” พิมพ์พิกาเดือดจัด ผิดวิสัยที่วางฟอร์มนิ่งๆ ใจเย็นมาตลอด
“ไม่เป็นไรพิมพ์” อเล็กซ์เอ่ยเสียงเข้ม พลางปัดเค้กออกจากรอบดวงตา เขารู้สึกขายหน้าอยู่มาก แต่ยังไม่เท่าความสงสัย
ในจังหวะที่สาวเสิร์ฟส่งเค้กใส่มือ อเล็กซ์สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งไม่ได้มาจากเค้กช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รี หากเป็นกลิ่นนมสดที่คุ้นเคย นอกจากนั้นเขายังรับรู้ได้ถึงแรงดึงดูดมหาศาลจากอีกฝ่าย แม้หล่อนจะสวมหน้ากากรูปปากสนุกน่ารักน่าชังอำพรางใบหน้า แต่มนุษย์หมาป่าอย่างเขาก็เชื่อสัญชาตญาณตัวเอง
โลกนี้จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่มีกลิ่นนมสดติดตัว
“ตาณ!”
“เรียกใครคะ คุณเล็ก”
พิมพ์พิกาว่าพลางช่วยเช็ดหน้าเช็ดตาเขา แต่ชายหนุ่มยกมือห้าม สายตาคมสีน้ำตาลเข้ม จ้องไปยังร่างสมส่วนที่กำลังวิ่งหนีเข้าไปในครัวแม่หุง
“ตาณ เป็นชื่อผู้หญิงคนหนึ่ง...”
“เฮ้ยๆ เดี๋ยวก่อน นี่เจ้านายคงไม่ได้หมายถึง แม่สาวเสิร์ฟหน้ากากหมาคนนั้นหรอกนะ และถ้าผมคิดไม่ผิด แม่คนนั้นแหละที่โปะเค้กใส่หน้าคุณ”
ปองคุณบอก แม้จะไม่ทันสังเกตเหตุการณ์ชุลมุน แต่เขาก็จับพิรุธท่าทางสาวเสิร์ฟได้ตั้งแต่ก้าวเข้ามาที่สวน
อเล็กซ์ไม่ตอบ เขาเพียงแต่ยิ้มบางๆ และเตรียมก้าวเข้าไปในร้าน แต่พิมพ์พิกาแตะแขนกำยำและรั้งเอาไว้
“จะไปไหนคะ”
เธอถามเสียงสั่น จู่ๆ ความหวาดกลัวก็เล่นงาน และยิ่งสังเกตอาการชายหนุ่มก็ทำให้ฉงนหนัก เขาไม่ได้มีอาการโกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้น หากเหมือนคนดีใจที่ได้พบของล้ำค่าที่เคยหายไป
“ผมคิดว่าเจอคุณรู้จัก” เขาตอบตามความจริง ในหัวเกิดคำถามตามมามากมาย และเขาก็กระหายคำตอบจนไม่อาจนิ่งเฉย
“แล้วเขาสำคัญถึงขนาดต้องรีบไปเดี๋ยวนี้เลยหรือ คืนนี้วันเกิดพิมพ์ คุณยังจำได้ใช่ไหม” น้ำเสียงเธอตัดพ้อ
อเล็กซ์ยิ้มน้อยๆ ให้พิมพ์พิกา ก่อนตอบว่า
“เจ็ดปีแล้วที่ผมไม่ได้พบเขา ผมขอเวลาสักประเดี๋ยว คิดว่าพิมพ์คงเข้าใจ”
พิมพ์พิกาไม่ใช่เด็กเล็กๆ เธอเคารพการตัดสินใจของอเล็กซ์เสมอ เมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงได้แต่ปล่อยให้ชายหนุ่มก้าวจากไป กระนั้นหัวใจก็โหวงเหวงพิกล ราวกับว่าการปล่อยมืออเล็กซ์ครั้งนี้คือจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอ
ตาณวิ่งฉิวเข้ามาในร้าน ไม่สนใจใครทั้งนั้น หล่อนทำเรื่องโง่เง่าจนได้ คงเพราะภาพความหวานของอเล็กซ์และหญิงสาวคนนั้น เห็นแล้วมันเจ็บในทรวง กระนั้นสิ่งที่ทำลงไปก็ทำให้เรื่องระหว่างหล่อนกับเขาย่ำแย่ลงไปอีก
ร่างสมส่วนวิ่งฉิวไปจนถึงหลังร้าน ขณะนั้นมีชัยกำลังง่วนอยู่กับการรับของจากร้านค้าซึ่งนำมาส่งพอดี
“เฮ้ยๆ วิ่งเข้ามา ทำไม อั๊วบอกให้ดูแลลูกค้าข้างนอกไม่ใช่หรือ”
หญิงสาวไม่ตอบ หากร้องกรี๊ด เมื่อมีชัยก้าวมาขวางทางไม่ยอมให้หล่อนใช้ประตูหลังออกไปสู่ลานจอดรถ
“จะหนีไปไหนตาณ”
“หนูไม่ได้หนี แค่...ไปหาที่ตั้งหลัก”
มีชัยส่ายหน้าไม่ยอมรับคำขอร้องของหล่อน เขาย่างสามขุมเข้ามาหาตาณ ด้วยหุ่นหนาและเจ้าเนื้อมีน้ำหนักร่วมร้อยยี่สิบกิโลกรัม และเป็นถึงอดีตนักมวยปล้ำ หญิงสาวเห็นแล้วก็ครั่นคร้ามใจ
“เฮียจะจับหนูไปสับและต้มน้ำแกงหรือไง”
“เออ ถ้ามันไม่ผิดกฎหมาย เฮียก็จะทำซะเดี๋ยวนี้” มีชัยยิ้มขู่
ตาณซึ่งกำลังจนตรอก และกลัวความผิดร้องอีกหนึ่งกรี๊ด ก่อนจะหมุนตัวและวิ่งไปอีกทาง แต่เมื่อเห็นภาพตรงหน้าเข้า หล่อนก็เข่าอ่อน
“เจ้เบบี้ เจ้ทำอะไรลงไป หา!”
คราวนี้ตาณไม่รู้จะหลบไปทางไหน ได้แต่ยืนนิ่งค้างเป็นหุ่น เบบี้ยิ้มแฉ่งและข้างๆ เธอคือหนุ่มเกาหลีหน้าขาว คิ้วเข้ม
บุนซู!!
“เสียงดังทำไม เจ้เป็นแม่สื่อเฉพาะกิจให้ตาณนะเนี่ย”
ตาณทำคอตก หล่อนจะลืมได้ไง คนตาทิพย์ หูหมา จมูกมด อย่างเบบี้มักจะนำพาเรื่องไม่คาดฝันเข้ามาในชีวิตหล่อนเสมอ
“พอดีข้างบนลูกค้าเยอะ เจ้เลยไปช่วยรับรองที่มุมวีไอพี และบังเอิญจริงๆ บังเอิญได้ยินเขาคุยกัน และเหมือนที่แกเคยเล่าเปี๊ยบ คืนนี้มีการนัดดูตัวที่ครัวแม่หุงด้วย แต่ยายผู้หญิงที่มาน่ะ เห็นหน้าแล้วลมแทบจับ หน้างี้แข็งโป๊ก ศัลยกรรมจนจมูกงุ้มเป็นแม่มด หางตาชี้ และนมก็แบน แค่นั้นยังไม่พอ ยายนั่นยังจ้องคุณเขายังกับอดอยากปากแห้งขาดผู้ชายมาเป็นชาติ คุณเขาเห็นแล้วก็ช็อกสิยะ แต่โชคดีที่เจ้อยู่ใกล้ๆ เลยช่วยเขี่ยยายปอบผมหยิกจนกระเด็นออกนอกร้าน และเจ้ก็คิดถึงหนู เลยพาเขามาแนะนำให้รู้จักกันไง” เบบี้เล่าเป็นฉากๆ ถึงเหตุผลที่พาบุนซูมาพบตาณ
“แต่เจ้กำลังจะจับหนูเข้าโรงเชือด เจ้ทำให้หนูผิดหวังมาก”
“หยุดบีบน้ำตา และเลิกเล่นละครเสียที ตอนนี้หนูอยู่ในโลกความจริง และอย่าคิดว่าไอ้ผู้ชายพรรค์นั้นมันจะกลับมาอีก ลองมันได้ตัดหางตัวเองทิ้งอย่างนั้น มีหรือว่าจะโผล่หัวมาให้เห็น”
เบบี้ชี้หน้ารุ่นน้อง แม้การแสดงออกดูรุนแรง แต่ก็ทำให้ตาณกลั้นก้อนสะอื้น และยอมรับความจริงตรงหน้า
มีหลายสิ่งที่อเล็กซ์ไม่รู้เกี่ยวกับตาณ ในช่วงเวลาเดียวกันที่เขาบินกลับบ้านแคลิฟอร์เนีย เพื่อไปเยี่ยมยายซึ่งป่วยจากอาการไขมันพอกตับ ก่อนหน้านั้นอเล็กซ์มีงานล้นมือ เขาต้องเรียนรู้หน้าที่ใหม่ในบริษัท แต่ก็ไม่ลืมที่จะติดต่อคนรัก ทว่าพยายามโทรศัพท์หาเท่าไรก็ไม่มีสัญญาณจากหมายเลขของตาณ กระทั่งถึงวันที่ต้องขึ้นเครื่องเขาจึงฝากสมิธซึ่งอยู่เคลียร์งานที่เมืองไทยติดตามข่าวของหญิงสาว“อาหมายถึงตาณ” อเล็กซ์ครางชื่อคนรักเก่าออกมา“ใช่ เด็กคนนั้นเคยมาตามหาแกที่บริษัท บอกว่ามีเรื่องสำคัญอยากพูดด้วย แต่อาซักยังไงก็ไม่ยอมพูด คลับคล้ายคลับคลาว่าเขามารอแกอยู่หน้าบริษัทเกือบสองวันกับผู้ชายที่ตุ้งติ้งคนหนึ่ง เฮ้อ...ตอนนั้นอาไม่รู้จริงๆ ว่าเด็กนั่นท้องลูกแก ก็คิดว่าอาจเป็นสาวๆ ที่เคยตามกรี๊ด และรักสนุกเหมือนที่แมรี่เคยเล่าให้ฟัง” สมิธเอ่ยเสียงเรียบ“ส่วนอาเองก็ทำเกินกว่าเหตุไปนิด ที่จับแพะชนแกะแล้วเล่าเรื่องของเด็กผู้หญิงในทำนองเสียหายให้แมรี่ฟัง ก็ตอนนั้นคุณย่าแสงแขเพิ่งเสียได้ไม่นาน และเธอก็เข้าโรงพยาบาลนอนแบ็บไม่ได้สติ พอแมรี่รู้เรื่อง เลยสั่งให้ไล่เด็กคนนั้นไป” ลิลลี่เอ่ยอย่างสำนึกผิด“ทำไม ผมไม่เคยรู้เ
อเล็กซ์สูดลมหายใจลึก แล้วก้าวไปยังมุมลูกค้าวีไอพีซึ่งสมิธกำลังนั่งคุยกับปองคุณอยู่“โอ มาถึงร้านอาสมิธทั้งที ผมต้องถล่มให้ราบ ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย” อเล็กซ์ว่าอย่างอารมณ์ดี ทั้งวันเขายังไม่ได้รับประทานอาหารมื้อหลัก นอกจากกาแฟและคุกกี้“ทำไมหน้าซีดจังเจ้านาย” ปองคุณทักหนุ่มหล่อ“อาการไม่ดีเท่าไหร่เฮีย”เขาว่าพร้อมกับมองซ้ายแลขวา ภาพผู้หญิงท้องลอยเข้ามาวนเวียนในหัว ทั้งที่อาการหลอนเช่นนั้น หายไปจากชีวิตเขานานแล้ว“พักผ่อนบ้างเถอะ อย่าหักโหมงานให้มาก ผมบอกแล้วไง มีอะไรก็แบ่งๆ ให้คนอื่นทำบ้าง เป็นถึงว่าที่เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่โต ต้องบริหารงานให้เป็น ไม่ใช่ลงมือทำเสียทุกอย่าง” ปองคุณว่าพร้อมตบไหล่เพื่อนรุ่นน้องเบาๆอเล็กซ์ยิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนมองไปด้านนอกห้องวีไอพี โต๊ะด้านนอกมีลูกค้าสับเปลี่ยนมาไม่ขาดสาย ชายหนุ่มทึ่งในความสามารถของสมิธ ซึ่งพัฒนาธุรกิจของครอบครัวภรรยาให้เป็นร้านอาหารแนวหน้าของประเทศ มีการจัดส่งไปยังร้านในทุกภูมิภาค และปัจจุบันมีร้านในต่างประเทศหลายสาขา โดยมียอดขายต่อปีนับสองพันล้านบาท“ที่นัดมาคุยเพราะอาอยากให้อเล็กซ์ช่วยดูแลงานของผู้ใหญ่ลายสิงห์ ส่ว
ตาณหน้าแดง ไม่รู้ว่าประวิทย์เข้าใจอาการหล่อนได้อย่างไร แต่ที่เขากล่าวมา คือสิ่งที่หล่อนกำลังประสบ“หนูซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ ละ...แล้ว...ผลมันบอกว่าหนูท้อง” สิ่งที่หล่อนทำก่อนหน้านี้ต้องรวบรวมความกล้าเป็นอย่างมากชายใจหญิงนั่งไม่ติด ตาณคือรุ่นน้องนิสัยดี คอยช่วยงานตลอด และไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียให้ลำบากใจ“เฮ้อ ฉันไม่เคยเห็นแกยุ่งกับใคร วันๆ เอาแต่ทำงานและก็อ่านหนังสือนิยาย แล้วนี่ไปทำอีท่าไหน หรือว่าถูกผู้ชายรังแก” ประวิทย์ว่าแล้วก็โกรธกรุ่น“ปละ เปล่า เราทั้งสองคนรักกัน”“แหม...พูดเสียเต็มปาก แล้วไอ้ลูกหมานั่นมันเป็นใคร?”ตาณไม่รู้จะเล่าถึงหนุ่มฝรั่งลูกเสี้ยวอย่างไร หล่อนแอบคบหากับเขาทั้งที่ประวิทย์เคยห้ามปรามว่าผู้ชายคนนี้เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ วันๆ เอาแต่อวดความหล่อ ชอบทำตัวเป็นเดือนในหมู่ดาวให้สาวๆ กรี๊ด และยังเคยก่อคดีดังให้มารดาปวดหัวจนต้องส่งตัวมาเมืองไทย“ว่าไง ไอ้ลูกหมานั่นเป็นใคร เดี๋ยวฉันจะตามไปลากคอมันมารับผิดชอบเสียเดี๋ยวนี้เลย”“มะ ไม่ได้นะ พี่...เขาไม่ผิด และ แล้วเขาสัญญากับหนูว่าจะรีบกลับมา”ฟังถึงตรงนี้ ประวิทย์ก็พอจะรู้ คนที่ขโมยหัวใจเพื่อนรุ่นน้อง คงไม่พ้นหนุ่มๆ ที่ช่
อเล็กซ์มาส่งตาณที่เรือนไม้สีขาว เขาไม่ได้อยู่รับประทานอาหารเย็นกับหล่อน ขณะนั้นบุนซูกำลังจัดเตรียมอาหารโดยมีสามแฝดและเบบี้เป็นลูกมือ ชายหนุ่มเพียงแต่โบกมือทักทายเด็กๆ และขับรถจากไป สิ่งที่เขากระทำสร้างความประหลาดใจต่อคุณแม่“เอาไว้โอกาสหน้า พี่ขอเป็นเจ้ามือบ้างนะครับ”“ค่ะ...ฉันยังไงก็ได้ ขอแค่เด็กๆ ชอบ” ตาณไม่คิดว่าอเล็กซ์จะยอมถอยง่ายๆ แต่หล่อนก็ไม่พร้อมที่จะรั้งเขาไว้ในตอนนี้“พี่เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา มันยากที่จะกลับมาสู่จุดเริ่มต้น แต่...ความรักเป็นสิ่งสวยงาม และผลที่ตามมาก็คุ้มค่า”ชายหนุ่มทิ้งความสงสัยเอาไว้ให้ตาณต้องหาคำตอบ หล่อนยืนเหม่ออยู่นาน กระทั่งเบบี้ก้าวเข้ามา“เฮ้อ จะไปอาลัยอาวรณ์ ผัวเก่าทำไมล่ะตาณ”“หน้าหนูมันฟ้องขนาดนั้นหรือ” เสียงหล่อนเนือย ท่าทางก็พอกัน“จ้ะ คนอย่างแก เป็นอะไรปุ๊บ มันก็ลงที่หน้าหมด สดชื่นหน่อยสิ เดี๋ยวคนใหม่เห็นเข้าก็เซ็งแย่” เบบี้ว่าจบก็ชวนตาณให้เข้าไปหาบุนซูร่างสมส่วนก้าวไปยังห้องครัว ได้ยินเสียงหัวเราะ สลับเสียงพูดคุยของสามแฝดและหนุ่มเกาหลี แม้สื่อสารด้วยภาษากายมากกว่าการพูด แต่ทั้งตั้งต้น และแต้มฝันก็สนุกสนาน“หนูไม่เอาผัก”แต้มฝันป
ชายหนุ่มอุ้มเธอขึ้นรถเก๋งคันใหญ่ โดยไม่ฟังเสียงต่อว่าจากหญิงสาว“คุณทำอะไรเนี่ย ฉันจะไปหาลูก!” หล่อนดึงดันจะลงรถ แต่เขายื้อไว้ และปั้นสีหน้าขึงขัง“ตาณมีสติหน่อย ตะกี้พี่บอกเบบี้ให้ช่วยดูเด็กๆ แล้ว”ก่อนเดินไปหาตาณ อเล็กซ์เข้าไปทักทายสามแฝด พร้อมมอบของฝากให้ทุกคน รวมถึงเบบี้ ซึ่งตั้งแง่ใส่เขาก็จริง แต่เมื่อพูดคุยกันด้วยเหตุผล ฝ่ายนั้นก็ไม่ได้คิดจงเกลียดจงชังเขาอย่างที่เอ่ยปากขับไล่“น่าแปลก ฉันนึกว่าเจ้เบบี้จะงับหัวคุณเสียอีก” ตาณสงสัย เขาไปตกลงกับสาวประเภทสองอย่างไรถึงยอมสงบศึกง่ายๆอเล็กซ์ทำความสะอาดแผลเบื้องต้นให้ตาณ ด้วยการใช้น้ำสะอาดล้าง กระทั่งเห็นปากแผลชัดๆ ทั้งคู่ก็มีสีหน้าไม่สู้ดี“คงไม่ใช่แค่เปลือกหอยแล้วละ...” หล่อนว่าเสียงอ่อย“คราวนี้ คงไม่ว่าพี่เป็นกระต่ายตื่นตูม หรือฝรั่งขี้โวยวายแล้วใช่ไหม”เขาว่าจบ ตาณก็หลุดเสียงหัวเราะออกมา“ก็ท่าทางคุณเว่อร์มาก เป็นใครก็ตกใจ”“ตาณ...ต่อไปนี้ ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นกับตาณและลูกๆ พี่จะให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ถึงสิ่งที่พี่ทำอาจดูงี่เง่าหรือเพี้ยนไปบ้าง แต่เชื่อเถอะ ทั้งหมดพี่ทำจากหัวใจ”คำพูดเขาหวานเลี่ยนและลิเกจ๋า แต่หล่อนกับร
โอ้ทะเลแสนงามสามแฝดได้เบบี้คอยดูแล ตาณเลยมีเวลาส่วนตัว หล่อนอาบน้ำแล้วสวมเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองสบายๆ เสื้อแขนกุด พร้อมกางเกงขาสั้นขนาดพอดีตัว วันนี้นึกครึ้มใจจึงหยิบเครื่องสำอางมาเติมสีสันบนใบหน้า ระบายสีอ่อนๆ เน้นธรรมชาติ และไม่ลืมบรรจงเติมสีปากอวบอิ่มให้ดูสดชื่น ทว่าเมื่อมองตัวเองในกระจก ก็นึกอยากลบสีสันเหล่านั้นออก หล่อนเป็นคุณแม่ลูกสาม ควรสนใจลูกๆ มากกว่าเรื่องตัวเองเบบี้เดินเข้ามาในบ้านเพื่อหยิบขนมและเครื่องดื่มไปเติมให้เด็กๆ ด้านล่าง พอเห็นตาณกำลังจะลบเครื่องสำอางก็เอ่ยห้าม“แต่งหน้าแบบนี้สวยจะตาย กล้าๆ หน่อยสิยะ คนเราคิดจะเดินไปข้างหน้าแล้วก็ก้าวไปให้สุด”หญิงสาวมองเงาในกระจกอีกครั้ง หล่อนยังสาวอยู่มาก การจมอยู่กับความหลังเป็นสิ่งไม่สมควร คิดได้ดังนั้นจึงเพิ่มความมั่นใจด้วยการเติมสีปากให้สดใสตามเดิมหลังจากเรียกความมั่นให้ตัวเอง ตาณก็ก้าวจากชานระเบียงสู่ผืนทรายเบื้องล่าง แต่แวบหนึ่งหางตาก็มองเห็นร่างสูงเดินมาจากอีกฝั่งของชายหาด ด้วยความอยากรู้จึงหันไปมองร่างสูงหุ่นสมาร์ตสวมเสื้อกล้ามสีขาว และกางเกงขาสั้นเหนือเข่าสีน้ำเงินเข้ม มีหมวกใบเท่บนศีรษะ ห้อยแว่นตากันแดดที่เสื้อและจังห