ลูกหมา ลูกลิง และ ลูกอีเหมียว
บ้านเช่าหลังนั้นอยู่ลึกสุดซอย เป็นข้อมูลที่อเล็กซ์ได้จากเปิ้ล
“เป็นบ้านเช่าสองชั้นนะคุณ หลังเก่าๆ ตรงหัวมุม สมัยก่อนเปิ้ลเคยอยู่ที่นั่น แต่ทนอยู่ไม่ไหวขโมยแยะ และก็มีแต่พวกคนหาเช้ากินค่ำ เห็นแล้วก็ไม่เจริญหู เจริญตา”
อเล็กซ์มองไปยังทาวน์เฮาส์สองชั้นที่เรียงกันเป็นหน้ากระดาน ตรงกลางเป็นถนนสายแคบทะลุไปทั้งซอย บ้านแต่ละหลังพากันวางสารพัดของใช้เต็มไปหมด ทั้งราวตากผ้า กระถางต้นไม้ รวมถึงรถเข็นที่ยื่นล้ำถนน ทำให้ทางที่แคบอยู่แล้วยิ่งลำบากในการสัญจรไปมา
ชายหนุ่มเดินต่อไปอีกสักหน่อย ก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังเอิ๊กอ๊าก กระทั่งเข้าไปใกล้ก็เห็นร่างอวบอยู่ในอ่างน้ำพลาสติก หัวใจเขาก็เต้นแรง
เด็กชายร่างจ้ำม่ำผิวขาวจัด นั่งเล่นน้ำอยู่ในอ่าง รอบตัวเขามีตุ๊กตาเป็ดยางสีเหลือง และไดโนเสาร์เป่าลม
อเล็กซ์ไม่อาจบรรยายสิ่งที่รับรู้ออกมาเป็นคำพูด เขารู้สึกเสียดายเวลา เสียดายทุกอย่างที่ปล่อยให้มันผ่านเลยไป โดยไม่รู้มาก่อนว่ามีหลายชีวิตรอเขาอยู่ที่นี่ ทั้งหมดเป็นเพราะความงี่เง่าของตัวเอง
ร่างจ้ำม่ำหยุดเล่นน้ำชั่วครู่ และหันมามองอเล็กซ์อย่างแปลกใจ ก่อนจะเอียงศีรษะไปทางซ้ายทีขวาที แก้มย้อยๆ นั้นแดงปลั่ง และยามที่อ้าปากกว้าง ก็เห็นว่าฟันข้างหน้าหลอ
“โอ๊ะ ฝา ฝรั่ง...” เสียงแหลมๆ เอ่ยทัก
“ใช่ฝรั่ง หนูก็ฝรั่งเหมือนกัน”
อเล็กซ์ขำ อีกฝ่ายมีผมสีน้ำตาลอ่อนหยักศก และผิวพรรณซึ่งมองแวบแรกก็รู้ว่าเป็นลูกครึ่ง
“ชะ ชื่อไรครับ” ชายหนุ่มถาม
เด็กชายไม่พูด เขาเม้มปากแน่น และลุกจากอ่างน้ำ พร้อมกับหยิบปืนพลาสติกขึ้นมาถือ เขายืนล่อนจ้อน อวดทั้งปืนปลอมในมือ และปืนพกประจำกาย เห็นแล้วอเล็กซ์ก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง นอกจากสีผม สีตา และผิวพรรณ อาวุธประจำกายก็แจ้งชัดว่าได้รับจากคนเป็นพ่อไปเยอะ!
“ฝรั่งมาทำไรจ๊ะ” เด็กชายถามช้าชัด และหันปลายกระบอกปืนชี้มาทางอเล็กซ์
“มาหาลูก”
เด็กน้อยทำตาโต มองเขาอย่างไม่เชื่อก่อนจะถามว่า “เป็นพ่อเหรอ”
ชายหนุ่มตื้นใจกับสิ่งที่ได้ยิน เขากลายเป็นคนอ่อนไหวตั้งแต่เมื่อไร อาจเป็นเพราะสายสัมพันธ์ระหว่างคนเป็นพ่อและลูกกระมังที่ทำให้เขารู้สึกรักเด็กผู้ชายตรงหน้าอย่างหมดใจ
“นะ...หนูชื่ออะไรครับ”
“แมว” เขาตอบ แต่ท่าทางไม่ไว้ใจอเล็กซ์ เพราะก้าวถอยห่างไปด้านหลังจนชนราวตากผ้า
อเล็กซ์ฉุนนิดๆ ตาณคิดอะไรอยู่ถึงตั้งชื่อลูกชายเขาแบบนี้ แต่เขาเลือกที่จะพูดกับคนตัวเล็กว่า
“ชื่อแมวก็น่ารักดี”
“ไม่ใช่ อีแมวตรงโน้น ต่างหาก ฮ่าๆ” เอ่ยแล้วก็หัวเราะอวดฟันหลอ เมื่ออเล็กซ์มองตามจึงเห็นว่ามีแมวอ้วนตัวหนึ่งวิ่งผ่านด้านหลัง
“ละ แล้วแม่ตาณอยู่ไหน” เขาเปลี่ยนเรื่อง เพราะเห็นท่าทางกวนๆ ของเด็กชายก็พอจะรู้ว่าคงแสบไม่น้อย
เด็กชายทำตาโตอีกหน แล้วเม้มปากก่อนจะส่ายหน้าเร็วๆ ราวกับไม่เข้าใจสิ่งที่เขาเอ่ย
“หนูอยู่กับใครครับ”
“ก็...” เด็กชายพูดแค่นั้นก็ถอยห่างกว่าเดิม และแสดงอาการกลัวให้เห็น อเล็กซ์เห็นมือที่เขาถือปืนสั่นไปมา
“นี่แด๊ดดี้นะ ไม่ต้องกลัว แด๊ดดี้กลับมาหาหนูแล้ว”
เขาว่าตามสัญชาตญาณ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยแทนตัวเองด้วยคำนี้ แต่เมื่อเอ่ยแล้วก็เหมือนปลดปล่อยทุกอย่างที่อัดแน่นในอกออกไป
“ดะ แด๊ดดี้...เหรอ” เด็กชายทวนคำ
“ใช่ เรียกแด๊ดดี้ ได้ไหมครับ” อเล็กซ์ยิ้มกว้าง และสืบเท้าไปข้างหน้า แต่จู่ๆ เด็กชายก็กรี๊ดลั่น ก่อนจะเขวี้ยงปืนในมือใส่เขา
อเล็กซ์ทำตัวไม่ถูก เขาไม่เคยรับมือมนุษย์เด็กมาก่อน และตอนนี้ก็นึกตำหนิไปถึงคนเป็นแม่ที่เลี้ยงลูกอย่างไร ถึงทำให้เป็นขี้กลัว และเจ้าน้ำตาแบบนี้
“โอ๋ ไม่ร้องนะคนดี แด๊ดดี้อยู่นี่แล้ว”
เมื่อได้ยินอเล็กซ์แทนตัวเองว่า ‘แด๊ดดี้’ อีกครั้ง เด็กชายก็ร้องลั่น สองเท้ากระทืบพื้นถนน ราวกับสิ่งที่ได้ยินเป็นคำต้องห้าม
“เป็นอะไรครับ เงียบก่อน ใจเย็นๆ” เขากลัวเด็กชายจะเป็นลม เพราะหน้าแดงก่ำ ตัวเริ่มเกร็ง และดวงตาเบิกค้าง
ถึงไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน แต่อเล็กซ์ใจเย็นพอ เขาพยายามเต็มที่จะช่วยให้อีกฝ่ายสงบสติ
ในขณะที่เขากำลังเข้าจะเข้าไปปลอบเด็กชาย อเล็กซ์ไม่ทันได้ระวังข้างหลังตัวเอง จู่ๆ มีแรงปะทะหนึ่งฟาดเข้าที่บั้นท้ายเขาเต็มแรง เมื่อหันกลับไปดู เขาเห็นมนุษย์ตัวเล็กสวมหน้ากากไอรอนแมน และมีดาบไม้มะขามด้ามเขื่องในมือ
“เฮ้ย! นี่ตัวอะไร” เขาร้องถามด้วยความตกใจ
“แฮ่...” เสียงคำรามที่ลอดออกมาจากหน้ากาก ฟังแล้วก็ชวนขำขัน
“เด็กดีต้องไม่ดื้อ ไม่ซนนะครับ”
เขาทำเสียงดุแบบไม่จริงจัง พลางจ้องไปยังร่างเล็กที่สวมเสื้อสีขาว และข้างล่างเป็นกางเกงขาสั้น
“เอาอย่างนี้ วางไม้ลงก่อน เดี๋ยวจะพาไปเที่ยว และซื้อขนมให้กิน”
ชายหนุ่มพยายามประนีประนอม เขายื่นมือออกไปเพื่อขอดาบไม้ แต่นอกจากไม่ให้ เด็กน้อยยังฟาดดาบใส่ฝ่ามือเขาเต็มแรง
“โอ๊ย ลูกลิงหรือไงเนี่ย ทำไมพูดไม่รู้เรื่อง”
อเล็กซ์หลุดเสียงดังใส่อย่างลืมตัว เมื่อถูกเอ็ดว่าเป็น ‘ลูกลิง’ เด็กน้อยก็ตั้งท่าจะกระโจนใส่ ส่วนเด็กชายที่เปลือยกายก็วิ่งหายไป ก่อนจะกลับมาพร้อมจักรยานที่มีล้อพ่วงข้าง เขาทำเสียงเลียนแบบมอเตอร์ไซค์ คนตัวโตได้ยินแล้วก็รำคาญ และออกอาการหัวเสีย ด้วยไม่รู้จะรับมืออย่างไร
อเล็กซ์ยกมือห้ามเด็กสองคน แต่ไม่ได้ผล คนที่อยู่บนจักรยานใช้ปืนฉีดน้ำระดมยิงใส่เขา ส่วนคนที่สวมหน้ากากก็ทิ้งดาบไม้ ก่อนจะคว้าหนังสติ๊กมาถือไว้ มือเล็กๆ ตั้งท่าเตรียมส่งลูกกระสุนจากหนังสติ๊กใส่ชายหนุ่ม
“อย่านะ ไม่งั้นจับตีก้นลายแน่” อเล็กซ์ย่างสามขุมเข้าไปหา ทว่าสืบเท้าไปได้เพียงสามก้าว กระสุนที่ทำจากก้อนข้าวเหนียวก็ลอยมาถูกหางคิ้วซ้ายเขา
“โอ๊ะ เอาจริงหรือ”
“ฝะ หรั่ง ฝรั่งขี้หก!” เสียงเล็กๆ ดังจากด้านหลังเขา
“หา...ใครสอนให้พูดแบบนี้” ใจอเล็กซ์เดือดปุด เขาไม่อยากจะเชื่อว่าตาณสอนลูกแบบนี้
ชายหนุ่มใช้ชีวิตในประเทศไทยมาหลายปี มีโอกาสเรียนรู้ภาษาไทยทั้งจากคุณยาย และพี่เลี้ยงคนไทย จึงรู้ความหมายของคำว่า ‘ขี้หก’ ซึ่งรุนแรงไม่ต่างจากคำว่า ‘ตอแหล’
กระนั้นชายหนุ่มก็เตือนตัวเองให้ใจเย็น เด็กคือผ้าขาวบริสุทธิ์ และเขามีสถานะเป็นพ่อของพวกแก
ถึงจะเพิ่งรู้เรื่องนี้เมื่อคืน แต่ก็พร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง
“เด็กๆ ฟังแด๊ดดี้ นะครับ เด็กดีต้องไม่พูดคำหยาบ”
เป็นเพราะคำขี้ตู่ของเขา ที่เรียกแทนตัวเองว่า ‘แด๊ดดี้’ เด็กทั้งสองคนจึงร้องผสานพลังกัน และเริ่มเล่นงานอเล็กซ์อีกรอบ
กระสุนข้าวเหนียวถูกปล่อยออกมาอีกชุดใหญ่ ส่วนข้างหลังมีปืนฉีดน้ำที่ระดมยิงเข้าใส่จนแผ่นหลังกว้างเปียกชื้น
อเล็กซ์หงุดหงิดอยู่บ้าง แต่เขายอมรับสภาพ เด็กทั้งสองคงไม่เคยได้รับการอบรมที่ดีดวงตาคมมองไปข้างหน้า ส่งความอ่อนโยน และความรักให้มนุษย์ตัวเล็กที่สวมหน้ากากไอรอนแมน“มาคุยกันดีๆ นะครับ”เขากวักมือเรียก แต่เด็กน้อยออกอาการกลัว ร่างเล็กหมุนตัวกลับและออกวิ่งการวิ่งไล่จับระหว่างผู้ใหญ่กับเด็กในซอยเล็กแคบ มีเสียงเชียร์จากเด็กชายที่ปั่นจักรยานกระทั่งอเล็กซ์วิ่งวนกลับมาถึงทางตัน ซึ่งเป็นจุดที่มีอ่างน้ำพลาสติก แมวเพศเมียตัวอ้วนที่เขาเคยเห็นก็พุ่งมาตัดหน้า นอกจากตกใจแมว ตรงพื้นนั้นมีตระใคร่น้ำเกาะ เขาจึงทรงตัวลำบาก และเป็นจังหวะเดียวกับที่จักรยานคันเล็กปั่นมาด้วยความเร็ว คนปั่นร้องโหวกเหวก และมือข้างหนึ่งก็ถือปืนฉีดน้ำเอาไว้“หยุด! ระวัง!”อเล็กซ์ร้องห้าม แต่ช้าไป เขาจึงตัดสินใจพุ่งไปข้างหน้าในเสี้ยววินาทีก่อนที่รถจักรยานจะชนกำแพง ชายหนุ่มคว้าร่างเด็กชายขึ้นจากเบาะรถจักรยานได้อย่างหวุดหวิด ทว่าพื้นถนนที่ลื่นทำให้เขาสะดุดล้ม โดยมีร่างของเด็กชายทับอยู่ด้านบน“กรี๊ด ปล่อยหนู!”เด็กชายดิ้นปัดไป ปัดมา ทั้งกลัวและตกใจ อเล็กซ์จึงปล่อยเขาให้เป็นอิสระ แต่ไม่ทันได้ลุกยืน เขาก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อมีน้ำเ
ลูกหมา ลูกลิง และ ลูกอีเหมียวบ้านเช่าหลังนั้นอยู่ลึกสุดซอย เป็นข้อมูลที่อเล็กซ์ได้จากเปิ้ล“เป็นบ้านเช่าสองชั้นนะคุณ หลังเก่าๆ ตรงหัวมุม สมัยก่อนเปิ้ลเคยอยู่ที่นั่น แต่ทนอยู่ไม่ไหวขโมยแยะ และก็มีแต่พวกคนหาเช้ากินค่ำ เห็นแล้วก็ไม่เจริญหู เจริญตา”อเล็กซ์มองไปยังทาวน์เฮาส์สองชั้นที่เรียงกันเป็นหน้ากระดาน ตรงกลางเป็นถนนสายแคบทะลุไปทั้งซอย บ้านแต่ละหลังพากันวางสารพัดของใช้เต็มไปหมด ทั้งราวตากผ้า กระถางต้นไม้ รวมถึงรถเข็นที่ยื่นล้ำถนน ทำให้ทางที่แคบอยู่แล้วยิ่งลำบากในการสัญจรไปมาชายหนุ่มเดินต่อไปอีกสักหน่อย ก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังเอิ๊กอ๊าก กระทั่งเข้าไปใกล้ก็เห็นร่างอวบอยู่ในอ่างน้ำพลาสติก หัวใจเขาก็เต้นแรงเด็กชายร่างจ้ำม่ำผิวขาวจัด นั่งเล่นน้ำอยู่ในอ่าง รอบตัวเขามีตุ๊กตาเป็ดยางสีเหลือง และไดโนเสาร์เป่าลมอเล็กซ์ไม่อาจบรรยายสิ่งที่รับรู้ออกมาเป็นคำพูด เขารู้สึกเสียดายเวลา เสียดายทุกอย่างที่ปล่อยให้มันผ่านเลยไป โดยไม่รู้มาก่อนว่ามีหลายชีวิตรอเขาอยู่ที่นี่ ทั้งหมดเป็นเพราะความงี่เง่าของตัวเองร่างจ้ำม่ำหยุดเล่นน้ำชั่วครู่ และหันมามองอเล็กซ์อย่างแปลกใจ ก่อนจะเอียงศีรษะไปทางซ้ายทีขวาที แก้ม
อเล็กซ์สะอึกติดกันสองสามครั้ง เมื่อถูกนินทาระยะเผาขนในหัวเขาพยายามปะติดปะต่อเรื่องราว เขากับตาณเคยคบหากัน ถึงจะไม่ได้เข้าตามตรอก ออกตามประตู แต่เขาก็พร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น“พวกเฮีย พูดถึงเรื่องอะไร มันเกี่ยวกับตาณและผมใช่ไหม”เบบี้ส่งสายตาพิฆาตไปยังหนุ่มหล่อ เธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รับรู้เรื่องราวในอดีตของตาณ“ผู้ชายก็เป็นเสียอย่างนี้ ไม่เคยจะรับผิดชอบ ถ้าเฮียอยากรู้อะไร ก็เค้นเอาคำตอบจากเขาเองเถอะ บอกตามตรง เห็นหน้าแล้ว อยากจะตัดหนอนน้อยแล้วโยนให้เป็ดกิน!”มีชัยถอนหายใจหนักหน่วง ก่อนถามเสียงเข้มๆ กับอเล็กซ์“เป็นแกหรอกรึไอ้คุณเล็ก ที่ทิ้งไข่เรี่ยราดเอาไว้ ให้หนูตาณมันฟัก!”อเล็กซ์เบิกตาโต อ้าปากค้าง ตอนแรกเขาอึ้งไปชั่วขณะ แต่เมื่อตั้งสติได้จึงถามมีชัยเสียงตื่นเต้น“ผมไปทำอะไรไว้หรือเฮีย”มีชัยตาขวางใส่อเล็กซ์ แสดงอาการฟาดงวงฟาดงาเข้าใส่“เฮ้อ อั๊วก็คิดไว้แล้ว ตงิดๆ ใจตั้งแต่ตอนนั้น หนูตาณมันไม่ยอมบอกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครก็เพราะอย่างนี้นี่เอง คงกลัวเฮียจะตามไปลากหนอนน้อยเอ็งมาสับให้เป็ดกิน อย่างที่เบบี้มันพูด”ชายหนุ่มทบทวนเรื่องระหว่างเขากับตาณ หล่อนเป็นผู้หญิงคนแรกที
บุนซูมองตาณด้วยความเป็นห่วง เขาก้าวมาใกล้ๆ และถือวิสาสะใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาให้หล่อน“อุ๊ย ไม่ต้อง ฉันชอบเรื่องดราม่า” ตาณว่าพร้อมสูดลมหายใจลึก“ตาณ!” เขาเรียกชื่อหล่อนชัดแจ๋วดวงตากลมโตมองหนุ่มเกาหลีตาชั้นเดียวอย่างทึ่งจึด“เป็นคุณจริงๆ ด้วย”ตาณฉงนฉงาย บุนซูพูดไทยชัดตั้งแต่เมื่อไร ที่เขาพัฒนาเช่นนี้คงเป็นเพราะต้องการผู้หญิงไทยเป็นภรรยา“อุ๊ยตาย นั่นน้องตาณตัวเป็นๆ ใช่ไหม ดูสิเจ้าพ่อ เจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เดี๋ยวต้องหาเวลาว่างไปแก้บนเสียหน่อย” เจ้าหน้าที่จากบริษัทจัดหาคู่ว่าเสียงดัง เธอก้าวมาสมทบและยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตาณเห็นท่าไม่ดี หล่อนถอยกรูดมาข้างหลัง แต่ต้องชนกับพุงหลามๆ ของมีชัย“เคลียร์เรื่องตรงหน้าให้เสร็จก่อนตาณ อย่าเอาแต่หนี” มีชัยเตือนหญิงสาวทำตาแดงๆ อีกหน แต่เบบี้รู้ทัน เดินเข้ามาหยิกแขนตาณหนึ่งที จนหล่อนร้องเสียงหลง“ตอนนี้ เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่ ตาณกับคุณคนนี้ ไม่มีอะไรติดค้างกัน ก็แค่เคยรับจ้างไปดูตัวแป๊บๆ เสร็จแล้วก็รับเงินกลับบ้าน” ตาณว่าอย่างไม่ปิดบัง และพยายามหลบสายตาหวานเยิ้มของบุนซูหนุ่มเกาหลีหันไปถามเจ้าหน้าที่บริษัทจัดหาคู่ สีหน้าเขาเครียดเล็กน้อย พอหันกลั
วางแผนจีบเมียอเล็กซ์ยืนนิ่งค้างอยู่หลายวินาที สมองกำลังประมวลหลายสิ่งเข้าด้วยกัน แรงปะทะเมื่อครู่หนักหน่วงเอาการ และการสานสบสายตากับสาวเสิร์ฟที่มีหน้ากากผ้าประหลาดทำให้เขารับรู้สัญญาณจากอีกฝ่าย และหล่อนยังจงใจเหยียบเท้าเขา ในชีวิตอเล็กซ์มีเหตุบังเอิญนับครั้งได้ เขาเชื่อว่าสิ่งที่เกิดคืนนี้ เป็นความต้องการเอาคืนจากอีกฝ่ายพิมพ์พิกาเห็นสภาพแฟนหนุ่มเข้าก็หัวเสีย เธอจ้องไปทางปองคุณ และหลุดเสียงกราดเกรี้ยวใส่“ทำไมเฮียปองถึงเล่นพิเรนทร์อย่างนี้”“เฮ้ย มาโทษกันได้ไง ผมไม่รู้เรื่อง ไอ้กิ๊กหรือเปล่า มันเมายืนเซไปเซมา และตะกี้เล็กก็เกือบต่อยมันด้วย”ปองคุณว่าแล้วก็หันไปทางกิ๊กเพื่อนรุ่นน้อง แต่พอเห็นสภาพอีกฝ่ายนั่งคอพับคออ่อนบนเก้าอี้ก็เปลี่ยนความคิดใหม่“ไม่ใช่นายนั่น แล้วเป็นใคร พิมพ์ไม่ยอมจริงๆ ด้วย ทำอะไรไม่เข้าท่า” พิมพ์พิกาเดือดจัด ผิดวิสัยที่วางฟอร์มนิ่งๆ ใจเย็นมาตลอด“ไม่เป็นไรพิมพ์” อเล็กซ์เอ่ยเสียงเข้ม พลางปัดเค้กออกจากรอบดวงตา เขารู้สึกขายหน้าอยู่มาก แต่ยังไม่เท่าความสงสัยในจังหวะที่สาวเสิร์ฟส่งเค้กใส่มือ อเล็กซ์สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งไม่ได้มาจากเค้กช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รี ห
หลังจากเล่นซ่อนแอบกับบุนซูที่ด้านในร้าน ตาณก็ถูกลากให้ไปรับหน้าที่พิเศษ หล่อนบ่นอุบอิบพอเป็นพิธี ทั้งที่ใจจริงโล่งอกเป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องคอยบริการลูกค้าด้านใน แต่เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งยังไม่พอ มีชัยยังเจาะจงให้หล่อนเป็นคนเสิร์ฟของชิ้นพิเศษกับลูกค้าเสียด้วย“เฮ้ หน้ากากนั่น ใส่ไว้ทำไม ยายหนูตาณ”“ถ้าเฮียเห็นว่าปากหนูมีเขี้ยวยาวโง้งออกมา เฮียคงอยากให้หนูใส่หน้ากากปากหมาเนี่ยไว้ตามเดิม”มีชัยถลึงตาใส่สาวเสิร์ฟ เขารู้หล่อนยียวน กระนั้นก็ทำงานดีมาตลอด และลูกค้าต่างชอบที่หล่อนช่างเจรจา“ถ้างั้นใส่ไว้เถอะ และให้เพลาๆ เรื่องคำพูดคำจาลงบ้าง อย่าไปไล่ฟัดลูกค้าเหมือนคืนก่อนละ ไม่งั้นเฮียจะงดทิปหนูตลอดทั้งสัปดาห์” มีชัยสั่งแล้วก็ตบบั้นท้ายตาณไปหนึ่งที เป็นการออกคำสั่งให้หล่อนเริ่มงานตาณก้าวออกมาจากหลังร้าน หล่อนถือถาดเค้กด้วยความไม่เป็นสุข ข้างในร้านมีบุนซู ส่วนด้านนอกก็คนในอดีต!เมื่อก้าวออกมาสู่ลานโล่งด้านนอก หล่อนต้องประหลาดใจ อีกฝั่งซึ่งเป็นสวนสำหรับถ่ายภาพ มีศาลาไม้สีขาวหกเหลี่ยม ในตอนนี้วงทริโอของครัวแม่หุงกำลังบรรเลงดนตรีสำหรับลูกค้าวีไอพีสาวเสิร์ฟเห็นแขกของทางร้านกลุ่มหนึ่งยกมือถือถ