Share

บทที่ 7

last update Последнее обновление: 2025-07-28 11:34:10

“อ๊ะ เจ็บ” ดวงตาของจางซูเจียวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาจากแสงที่แยงตาลอดผ่านม่านสีทึบ จางซูเจียวกะพริบตาเล็กน้อย ก่อนจะชะงักค้าง ดวงตาเรียวกวาดไปทั่วห้องที่คุ้นตาแห่งนี้ มือเรียวบางยกขึ้นนวดขมับที่ด้วยอาการปวดศีรษะเล็กน้อย

          “ที่นี่ที่ไหน” จางซูเจียวเอ่ยพึมพำ พยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น มือบางกวาดไปทั่วเตียงจนสะดุดกับรอยนูนข้างกายตนเอง “อ๊ะ!”

          จางซูเจียวสะดุ้งด้วยความตกใจ ชักมือกลับทันที ก่อนจะพยายามลุกขึ้นนั่ง นางขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อรู้สึกเจ็บเสียดไปทั่วร่างกาย ความรู้สึกนี้มิใช่ว่านางไม่เคยผ่านมา เกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่ ! ทันทีที่นางนั่งสำเร็จผ้าห่มที่คลุมร่างบางอยู่ก็หล่นลงเผยให้ร่างกายอวบอิ่มที่เปล่าเปลือย มีรอยจ้ำสีเข้มอยู่ประปรายเต็มทรวงอกไปหมด

          “ทำไม...” ดวงตาโตมองสำรวจร่างก่อนจะอ้าปากค้างด้วยตกใจ นางจึงตัดสินใจเปิดที่คลุมหน้าคนด้านข้างนางทันที

          อาเอิน !!!

          “เกิดอะไรขึ้น อ๊ะ” จางซูเจียวตกใจรีบดึงผ้าห่มมาคลุมร่างเปลือยตัวเองทันที จนทำให้คนข้างกายลืมตาตื่นขึ้น

          ตึก...ตัก...ตึก

          เถ้าแก่แจ้งว่า คุณหนูอยู่ห้องเจ้าคะฮูหยิน...

          ไปรีบเข้าไปดู ซูเอ๋อร์ ลูกแม่...

          เสียงเรียกของมารดารวมถึงฝีเท้าด้านนอกทำให้นางตกใจทำอะไรไม่ถูก ทันใดนั้นเสียงประตูห้องก็เปิดออกกว้างทันที อาเอินที่ได้สติขึ้นมารีบลุกขึ้นปิดบังร่างของจางซูเจียวทันที

          “ซูเอ๋อร์ ! เจ้า ! เจ้าทำอะไรลูกข้า !” หลิ่วลู่เสียนที่เดินเข้ามาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเอ่ยเรียกบุตรสาวด้วยความตกใจ

          เสียงฝีเท้าหนักแน่นพร้อมเสียงของเหล็กของชุดเกราะกระทบกันดังเข้าใกล้อีกระลอก ทำให้จางซูเจียวหันมามองที่หน้าประตูอีกครั้ง

          “ท่านพ่อ ท่านพี่...”

          จางเจียวจิ้นและจางเจียวก็ก้าวเท้าเข้ามาภายในห้อง สายตาคมมองไปยังบนเตียงที่มีชายหญิงคู่หนึ่งอยู่ภายใต้ผ้าห่ม แค่มองร่างของบุตรสาวที่มีเพียงผ้าคลุมร่างกายก็เดาได้ไม่ยากว่าเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าคมคล้ำที่ผ่านการคร่ำศึกมานักต่อนักเผยความเกรี้ยวกราดขึ้นมาจนทำให้บรรยากาศรอบตัวคุกรุ่น

          “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น !!” จางเจียวจิ้นตวาดเสียงก้อง

          “ท่านพ่อ...ลูก”

ก่อนที่จางซูเจียวจะได้เอ่ยอะไรออกไป จางเจียวคุนที่อยู่ข้างกายบิดาก็กระชากร่างชายหนุ่มที่เปล่าเปลือยลงมาจากเตียงด้วยพละกำลังที่เขามีตามด้วยกระแทกฝ่าเท้าใส่ จนร่างหนาของชายหนุ่มกระเด็นไปชนผนังห้องเสียงดัง โครม ! ร่างหนาคู้งอตัวลงไปกับพื้นห้อง

“เจ้าทำอะไรน้องสาวข้า !” จางเจียวคุนไม่ถามเปล่าพร้อมระเบิดโทสะลงหมัดกับชายหนุ่มทันที

“ท่านพ่อ...” จางซูเจียวสะอื้นด้วยความรู้สึกผิด “ท่านพ่อ ท่านพี่ ได้โปรดอย่าทำร้ายอาเอิน”

“เจ้าโดนมันทำร้ายใช่หรือไม่” จางเจียวจิ้นถามเสียงเข้ม

“ลูก...อึก” ก่อนที่จะตอบอะไรกับบิดาตนเอง ความทรงจำต่าง ๆ ได้ไหลเข้ามาราวกับแม่น้ำเชี่ยวจนร่างบางต้องกุมขมับ แววตากลมโตที่เจือไปด้วยน้ำตาสั่นไหวด้วยความตกใจ

พลั๊ก ! จางเจียวคุนซัดฝ่ามือไปที่ชายหนุ่มบนพื้น

จางซูเจียวพลันได้สติจับผ้าห่มที่คลุมตัวเองไว้แน่นพยายามที่จะก้าวลงจากเตียงเพื่อไปปกป้องชายหนุ่ม แต่ทว่าจางเจียวจิ้นที่เห็นท่าทางของบุตรสาวก็มาขวางทันที ฝ่ามือหยาบตบลงไปที่ใบหน้าของบุตรสาวทันที เพียะ !

“เจ้าจะปกป้องมันทำไม ตอบพ่อมา”

จางเจียวจิ้นเห็นท่าทีของบุตรสาวที่เอาแต่ก้มหน้านิ่งเงียบไม่ตอบคำถามของตนก็ยิ่งโกรธเกรี้ยว เหวี่ยงเท้าไปเตะชายหนุ่มบนพื้นอีกรอบ จนร่างหนากระอักเลือดออกมา จากนั้นสั่งให้ทหารนำตัวชายหนุ่มไปคุมขังเพื่อสอบสวนและสั่งให้หลิ่วลู่เสียนนำตัวบุตรสาวกลับไปที่จวน

จางเจียวจิ้นมองบุตรสาวด้วยสายตาผิดหวัง ก่อนจะก้าวท้าวออกจากห้อง หลิ่วลู่เสียนและลี่ถั่งเข้าไปพยุงร่างบางของจางซูเจียวที่บนพื้นทันที

“ฮึก...คุณหนูเจ้าคะ” ลี่ถังร้องไห้สะอึกสะอื้น เข้ามาประคองหญิงสาว “บ่าวไม่น่าให้ท่านอยู่กับชายชั่วผู้นี้เพียงลำพังเลยเจ้าค่ะ”

“ซูเอ๋อร์ แม่เป็นห่วงเจ้ายิ่งนัก เจ้าหายตัวไปทั้งคืนจนแม่ต้องให้องครักษ์ไปตามท่านพ่อกับท่านพี่ของเจ้า ฮึก” หลิ่วลู่เสียนพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งด้วยผ่านการร้องไห้มาทั้งคืน

“ซูเอ๋อร์ เกิดอะไรขึ้นกับลูก จงเล่าให้แม่ฟัง” หลิ่วลู่เสียนเช็ดน้ำตาบนหน้าของตนเองจากนั้นสำรวจร่างกายของบุตรสาวพร้อมเอ่ยถามทันที

“ลูก...ลูกจำไม่ได้เจ้าคะ ท่านแม่ ลูกขอโทษ” จางซูเจียวก้มหน้า “แต่อาเอินไม่ผิดนะเจ้าคะ”

“เจ้าปกป้อง มันผู้นั้นงั้นหรือ ! ” หลิ่วลู่เสียนตวาดเสียงใส่บุตรสาวด้วยความตกใจ

“...” จางซูเจียวไม่ตอบคำถามใด ๆ กับมารดานอกจากก้มหน้า

“เช่นนั้นก็กลับไปคุยกันที่จวนเถิด” เมื่อหลิ่วลู่เสียนเห็นบุตรสาวเอาแต่ก้มหน้านิ่งเงียบจึงสั่งให้กลับจวนตามผู้สามีทันที

“เจ้าค่ะท่านแม่” จางซูเจียวเอ่ยตอบเสียงเบา จากนั้นก็ให้ลี่ถังเข้ามาช่วยนางแต่งตัว

         

ทันทีที่จางซูเจียวก้าวท้าวเข้าไปภายในจวน กลางลานบ้านก็มีร่างหนาที่เปลือยทอนบน ทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือดและรอยแส้ซึ่งกำลังโดนบ่าวรับใช้ลงโทษตามที่บิดาของตนสั่ง

จางซูเจียวรีบรุดไปปกป้องชายหนุ่มทันที โดยไม่ฟังเสียงห้ามของมารดาและสาวใช้ ร่างบางพุ่งไปรับแส้ที่กำลังฟาดโดนเนื้อเปลือยของร่างหนาทันที

ฟุบ !

“ซูเอ๋อร์ !” จางเจียวจิ้นตวาดดังขึ้นอย่างเดือดดาล เมื่อเห็นท่าทางปกป้องของบุตรสาว ยิ่งเห็นบุตรสาวเป็นห่วงคนที่คร่าความบริสุทธิ์ของนางก็ยิ่งโมโห จึงตะโกนสั่งโดยไม่ไถ่ถามใด ๆ ต่อทั้งสิ้น

“งามหน้ายิ่งนัก ดี ! เช่นนั้นก็จงแต่งงานกับมันเสียเถิด และย้ายออกจากเมืองหลวงไป ข้าจะมอบบ้านบรรพบุรุษในเมืองโจวหยางให้เจ้า แล้วเจ้าอย่าได้กลับมาที่เมืองหลวงแห่งนี้อีก”

สิ้นเสียงคำสั่งของจางเจียวจิ้น หลิ่วลู่เสียนก็รีบเข้าห้ามปรามทันทีแต่ไม่เป็นผล ทำให้นางร้อนใจจนเป็นลมไปทันที โดยที่มีลู่มามาเข้าประคองนางได้ทันท่วงที

“ท่านพ่อ ใจเย็น ๆ ก่อนขอรับ” จางเจียวคุนเห็นบิดาสั่งการออกไปก็รีบเอ่ยคัดค้านทันที

จางเจียวจิ้นเมื่อเห็นฮูหยินของตัวสลบไปพลันได้สติ รีบเรียกให้บ่าวรับใช้ตามหมอมาดูอาการของหลิ่วลู่เสียนทันที

“ซูเอ๋อร์ เจ้ากลับเรือนไปก่อน” จางเจียวคุนรีบบอกให้น้องสาวกลับเรือนหลังจากนั้นก็เดินตามบิดาที่อุ้มมารดาเข้าเรือนไป

“ท่านพี่...” จางซูเจียวเอ่ยเรียกเสียงเบา ทว่าจางเจียวคุนยกมือขึ้นห้าม ส่ายหน้าไปมาแล้วเดินจากไปโดยไม่พูดจาใด ๆ

“ฮึก คุณหนูเจ้าคะ เจ็บหรือไม่” ลี่ถังเข้ามาประคองร่างบางให้ลุกขึ้นทว่าจางซูเจียวห้าม

“เจ้าช่วยข้าพาอาเอินไปทำแผลที่เรือนก่อน”

“แต่ว่า...” ลี่ถังอึกอักไม่ยอมทำตาม

“ไม่มีแต่ เจ้าเห็นข้าเป็นคุณหนูของเจ้าอยู่หรือไม่”

“โถ่ คุณหนูเจ้าคะ อย่ากล่าวเช่นนี้”

“เช่นนั้นก็ทำตามที่ข้าบอก” จางซูเจียวเอ่ยเสียงเด็ดขาด

“เจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้าง อาเอิน” จางซูเจียวเอ่ยถามชายหนุ่มที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดพลางสำรวจว่าบาดเจ็บที่ใด

“คุณหนู...” อาเอินเรียกจางซูเจียวเสียงแหบแห้งจากนั้นก็สลบไปทันที

“อาเอิน !” จางซูเจียวประคองรับร่างหนาพลางเรียกชื่อของชายหนุ่ม แต่เมื่อเห็นว่าเพียงสลบเท่านั้น

จางซูเจียวจึงบ่าวอยู่รอบข้างให้ช่วยกันประคองร่างหนากลับไปที่เรือนของตนเองเพื่อทการรักษาบาดแผลที่เกิด

ลี่ถังถือถังน้ำก่อนจะก้าวท้าวเข้าไปในเรือนมองไปยังคนหมดสติที่อยู่บนเตียงและคุณหนูของตนเองที่กำลังเช็ดเนื้อตัวของชายหนุ่มอยู่อย่างไม่รังเกียจ

“คุณหนู ให้บ่าวเช็ดให้นะเจ้าคะ” ลี่ถังรีบเข้าไปช่วยจางซูเจียว

“ไม่เป็นไร ข้าทำเอง ลี่ถังเจ้าไปเตรียมต้มยาเถิด” จางซูเจียวเอ่ยเสียงเบา พลางเช็ดตัวของอาเอินอย่างแผ่วเบาด้วยกลัวว่านางจะทำให้ชายหนุ่มเจ็บ

“แล้วเราจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ เมื่อครู่นายท่านโมโหมากถึงกับจะให้ท่านแต่งงานกับคนผู้นี้ แล้วให้ท่านออกนอกเมืองหลวงอีก” ลี่ถังเอ่ยด้วยความกังวล

“ในเมื่อเกิดขึ้นเช่นนี้แล้ว คงไม่มีใครช่วยข้าได้หรอก” จางซูเจียวก้มหน้าเศร้า

“คุณหนู เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ” ลี่ถังมองจางซูเจียวด้วยความสงสารผู้เป็นนาย

จางซูเจียวไม่ตอบคำถามของลี่ถัง นางวางผ้าที่เต็มไปด้วยลงในถังน้ำ จากนั้นลงมือทายาให้ชายหนุ่มเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว มือเรียวบางเอื้อมไปลูบหน้า ‘สามี’ ของนางด้วยสายล้ำลึก

“ข้าว่าทุกอย่างเป็นเช่นนี้ คงเป็นชะตาฟ้าลิขิต”

...เห็นว่าชาตินี้ ฟ้าคงลิขิตให้ข้าตอบแทนท่านเช่นนี้...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขยท่านพ่อ ข้าขอเลือกเอง   ตอนพิเศษ 4

    จางเจียวคุณ บุตรชายคนโตของจางเจียวจิ้น แม่ทัพผู้เกรียงไกรแห่งราชสำนัก แม้จะได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สืบทอดทั้งความสามารถด้านบุ๋นและบู๊จากผู้เป็นบิดา แต่ชีวิตในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความกดดันและการจับตามองจากทั้งราชสำนักและเหล่าขุนนาง ทำให้เขาเริ่มรู้สึกอึดอัด โดยเฉพาะในช่วงที่มารดาและบิดาของเขาได้ขอลาออกจากราชการ และกลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบที่บ้านบรรพบุรุษในช่วงหนึ่งของหน้าที่ราชการ จางเจียวคุณได้ทำผิดวินัยทางทหารด้วยการละทิ้งค่ายไปโดยพละการ แม้การกระทำดังกล่าวจะมิได้เกิดจากเจตนาร้าย แต่เขาก็ตระหนักดีถึงความผิดพลาดและผลกระทบต่อชื่อเสียงของตนเองและตระกูล ด้วยคุณธรรมของมหารที่บิดาสั่งสอนมา ชายหนุ่มจึงได้ตัดสินใจยื่นฎีกาต่อฮ่องเต้เพื่อขอรับโทษและชดใช้ความผิดด้วยการไปประจำการที่ชายแดนเหนือตำแหน่งแม่ทัพพิทักษ์ชายแดนเหนือนั้นเป็นตำแหน่งสำคัญที่เว้นว่างอยู่ และยังไม่มีผู้ใดที่เหมาะสมเท่ากับจางเจียวคุณ ฮ่องเต้ทรงลังเลใจ เนื่องด้วยพระองค์ต้องการรั้งจางเจียวคุณไว้ที่เมืองหลวง ด้วยความสามารถอันโดดเด่นที่เป็นประโยชน์ต่อราชสำนัก ทว่าตำแหน่งแม่ทัพพิทักษ์ชายแดนได้เว้นว่างลง และในตอนนี้สถานการณ์ในพื้

  • เขยท่านพ่อ ข้าขอเลือกเอง   ตอนพิเศษ 3

    หลายปีผ่านไปเสมือนความฝัน นับตั้งแต่วันนั้นที่จางซูเจียวและหยางเฟยฮุ่ยได้พบกันและเริ่มต้นชีวิตคู่จนถึงวันนี้ ทั้งสองมีบุตรด้วยกันถึงสี่คนเป็นบุตรชายสามคนและบุตรสาวคนเล็กที่หน้าตาราวกับถอดแบบออกมาจากมารดา ทำให้หยางเฟยฮุ่ยทั้งรักทั้งหวงบุตรสาวเป็นที่สุดณ ห้องอุ่นในเรือนประมุขพรรค ในยามเช้าของวันนึงของฤดูใบไม้ร่วง หิมะสีขาวเริ่มโปรยปรายปกคลุมทั่วยอดเขา จางซูเจียวนั่งอยู่ข้างเตาผิงกำลังนั่งปักเสื้อผ้าให้กับสามีอยู่ภายในห้อง ส่วนบรรดาบุตรสาววิ่งเล่นด้วยกันอยู่ด้านนอกโดยมีเฉินเหว่ยและเฉินจิงคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง “ภรรยา พักผ่อนบ้างเถิด ข้าเห็นเจ้าทำงานตลอดทั้งวันจนไม่เห็นหยุดพัก” หยางเฟยฮุ่ยเดินเข้ามาภายในห้องเห็นคนงามที่แม้กาลเวลาจะผ่านไปหลายปีแล้วก็ยังคงงดงามไม่สร่าง ทำหน้าที่ภรรยาผู้แสนดี เขาเดินเข้าไปใกล้และยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “สามี ข้าไม่ได้เหนื่อยอะไร ข้าทำแล้วมีความสุขมากกว่าทุกสิ่ง เพราะข้าได้ทำให้ท่านกับลูก ๆ ของเรา” ร่างบางยิ้มตอบดวงตางามมองสามีนั่งลงเคียงข้าง ๆ ตนเอง เสียงหัวเราะของลูก ๆ ก็ดังขึ้นจากข้างนอก เมื่อเด็ก ๆ วิ่งเล่นในหิมะ บรรยากาศภายในบ้านเ

  • เขยท่านพ่อ ข้าขอเลือกเอง   ตอนพิเศษ 2

    เวลาล่วงผ่านไปหลายเดือนแล้วนับตั้งแต่ที่จางซูเจียวได้ขึ้นเป็นฮูหยินของประมุขพรรคเฮ่ยหลางอย่างเป็นทางการ ในยามนี้หน้าท้องของนางป่องนูนอย่างเห็นได้ชัดเจนเนื่องด้วยอายุครรภ์ของนางย่างเข้าเดือนที่เจ็ดแล้ว การเคลื่อนไหวร่างกายของนางในช่วงนี้จึงต้องมีคนคอยดูแลโอบประคองตลอดเวลาเจ้าก้อนแป้งน้อยในครรภ์เริ่มดิ้นทักทายแสดงตนให้บิดามารดารู้ตั้งแต่อายุครรภ์อยู่ในเดือนที่ห้า ในครั้งแรกที่เจ้าตัวน้อยเริ่มดิ้น จางซูเจียวรู้สึกเจ็บครรภ์จนนิ่วหน้า และเพราะไม่เคยมีประสบการณ์นางจึงวิตกจนบ่าวรับใช้พากันแตกตื่นเร่งไปแจ้งท่านประมุขและตามท่านหมอทันทีเมื่อหยางเฟยฮุ่ยทราบข่าวก็ทิ้งทุกสิ่งรุดเร่งมาหาภรรยา ยามเห็นสีหน้ากังวลของสตรีที่รักและมือของนางที่ประคองครรภ์อย่างปกป้องเขาจึงนั่งลงเคียงข้างและโอบกอดนางตลอดเวลาจนท่านหมอเฮ่าทำการตรวจอาการเสร็จ และแจ้งว่าเป็นเพียงการทักทายของทารกน้อยในครรภ์ที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของเจ้าก้อนแป้งน้อย ความกังวลในใจของทั้งคู่จึงเบาบางลง บรรยากาศที่เคยเคร่งเครียดแปรเป็นชื่นมื่นเปี่ยมสุข รอยยิ้มปรากฎบนในหน้าของทุกคนเมื่อส่งท่านหมอเฮ่าออกไปแล้ว บรรดาสาวใช้จึงถอยออกไปจากห้องอย่

  • เขยท่านพ่อ ข้าขอเลือกเอง   ตอนพิเศษ 1

    ภัตตาคารฮุ่ยลี้ หลังจากสั่งให้ลี่ถังกลับไปรายงานที่จวนแม่ทัพแล้วจางซูเจียวจึงหันมาไถ่ถามองครักษ์ประจำตัว “อาหารรสชาติเป็นอย่างไรบ้าง เจ้าอิ่มหรือไม่” จางซูเจียวเอ่ยถามชายหนุ่มที่เอาแต่นิ่งเงียบ “อิ่มขอรับคุณหนู” จางซูเจียวได้ฟังชายหนุ่มถามคำตอบคำมาสักพักแล้วแต่ก็ยังไม่ชินเสียที หญิงสาวขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกถึงความเงียบและบรรยากาศที่เริ่มอึดอัด เหตุใดคนผู้นี้ช่างปากหนักยิ่งหนัก แต่ครั้นจะให้นางชวนคุยก็ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะรับรู้ได้ว่าตนเองนั้นได้ทำให้คุณหนูไม่พึงพอใจเข้าเสียแล้ว “ข้าน้อยขอบคุณคุณหนูสำหรับอาหารมื้อนี้ขอรับ” ก๊อก ๆ “น้ำชามาแล้วขอรับ” เสี่ยวเอ้อส่งเสียงรายงานพลางเดินเข้ามาทำให้ทั้งคู่ต้องหยุดสนทนากันชั่วคราว เมื่อวางกาน้ำชาเรียบร้อยแล้วขอตัวออกไป ก่อนที่ความเงียบอันชวนให้คนทั้งสองอึดอัดจะกลับมาอีกครั้ง อาเอินลุกขึ้นรินน้ำชาจากกาใส่ถ้วยประคองยื่นให้กับจางซูเจียวจากนั้นจึงถอยไปยืนอยู่ด้านข้างเพื่อคุ้มกันตามหน้าที่ “เจ้าก็ดื่มด้วยสิ ชานี้เป็นชาช่วยย่อยอาหาร ดีต่อกระเพาะเชียวน

  • เขยท่านพ่อ ข้าขอเลือกเอง   บทที่ 21

    จากพยานหลักฐานทั้งหมดที่ฮ่องเต้เจี้ยนจางหย่งได้ทรงทอดพระเนตรและทำการไต่สวนด้วยพระองค์เอง องค์รัชทายาทก็มิอาจแก้ต่างอันใดได้อีก จากนั้นทรงมีพระราชโองการสั่งปลดฮองเฮาซีซวนและรัชทายาทเจี้ยนเจี่ยงกั้วให้เป็นสามัญชน ในข้อหาคิดก่อกบฏต่อแผ่นดินส่งอดีตฮองเฮาเข้าตำหนักเย็น ทั้งชีวิตไม่อาจก้าวออกมาเห็นโลกภายนอกได้อีก และส่งอดีตรัชทายาทไปการจองจำที่ตำหนักร้างห่างไกล ณ สุสานหลวงตลอดชีวิต นอกจากนี้ยังมีพระราชโองการปลดราชครูซีฉี ยึดทรัพย์ตระกูลซีทั้งหมด เนรเทศไปใช้แรงงานสร้างกำแพงยังชายแดนห่างไกล มิอาจกลับคืนสู่เมืองหลวงเพื่อรับราชการสืบไป หลังจากเรื่องราวทั้งหมดถูกเปิดโปง ราชสำนักจึงเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เนื่องจากขั้วอำนาจเดิมเกือบทั้งหมดได้ถูกกวาดล้างสิ้นไป ผ่านไปไม่นานฮ่องเต้เจี้ยนจางหย่งก็ออกพระราชโองการแต่งตั้งมิ่งกุ้ยเฟยขึ้นเป็นฮองเฮา สำหรับตำแหน่งรัชทายาทพระองค์นั้นได้เว้นว่างไว้ก่อนโดยไม่สนพระทัยฎีกาจากบรรดาเหล่าขุนนางที่พากันเรียกร้องให้พระองค์ทรงรีบแต่งตั้งโดยอ้างถึงความมั่นคงของแคว้นเจี้ยนทว่าก็เกิดเรื่องที่ทำราชสำนักสั่นคลอนอีกครั้งเนื่องด้วยแม่ทัพใหญ่ของแคว้นเจี้

  • เขยท่านพ่อ ข้าขอเลือกเอง   บทที่ 20

    ท้องพระโรงแคว้นเจี้ยน ฮ่องเต้เจี้ยนจางหย่งประทับอยู่บนบัลลังก์มังกร พระพักตร์ที่เคร่งเครียดนั้นพาให้บรรยากาศอึมครึม กระแสความกดดันจากโอรสสวรรค์แผ่ลงมายังผู้คนที่ยืนเรียงรายอยู่เบื้องล่าง บรรดาขุนนางทั้งหลายต่างพากันยืนก้มหน้า ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยปากพูดออกมาแม้เพียงครึ่งคำ ทำได้แต่เพียงลอบหันหน้าสบตากันไปมาด้วยความตระหนกยามเมื่อเห็นจางเจียวจิ้นและจางเจียวคุนที่ยืนอย่างองอาจอยู่กลางท้องพระโรง เสียงขานจากด้านหน้าท้องพระโรงดังขึ้น หลี่กงกงรีบเดินเข้าไปถวายรายงานยังโอรสสวรรค์ว่าได้นำตัวฮูหยินจางและคุณหนูใหญ่จาง พร้อมทั้งองค์รัชทายาทและผู้ที่เกี่ยวข้องมาถึงแล้ว “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมได้นำตัวฮูหยินจางและบุตรีพร้อมทั้งองค์รัชทายาทมาถึงแล้ว ขณะนี้ทั้งหมดรอเข้าเฝ้าอยู่หน้าท้องพระโรงพะยะค่ะ” “พาตัวเข้ามา” สิ้นเสียงรับสั่งของฮ่องเต้ เจี้ยนเจี่ยงกั้วก็ได้ก้าวเข้ามาภายในท้องพระโรงตามด้วยทหารที่พาสองแม่ลูกและชายในชุดดำอีกผู้หนึ่ง“กระหม่อมเจี้ยนเจี่ยงกั้ว ถวายบังคมเสด็จพ่อ ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น ๆ ปี” เจี้ยนเจี่ยงกั้วคุกเข่าคำนับเมื่อเห็นบิดาโ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status