Share

บทที่ 1026

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ไอ้หยา เสี่ยวฝาน ข้าบอกแล้วเจ้ามิตายหรอก เจ้าจะตายได้อย่างไรกัน?”

อ๋องตวนตะโกนร้องด้วยความดีใจ

ชายกำยำสูงสองเมตร จู่ ๆก็น้ำตาไหลอาบน้ำราวกับสาวน้อย

เฉินฝาน

อัครเสนาบดีเบื้องซ้ายผู้นั้นรึ?

เหอหรันหันไปมองเฉินฝานตามสัญชาตญาณ

“ข้าเตือนเจ้าไว้ก่อนทางที่ดีอย่าขยับ หากโดนปืนยิงจะมีจุดจบเช่นไรข้าว่าสหายเหล่านั้นของเจ้าทราบดี!” เฉินฝานกล่าวเสียงเรียบนิ่ง

“หัวหน้าใหญ่ ท่านอย่าขยับเด็ดขาดนะขอรับ!”

เหล่าโจรป่ากล่าวเตือนเหอหรันด้วยความลนลาน

“เหอะ!”

เฉินฝานแสยะยิ้มทันที “ดูสิ เหล่าสหายของเจ้าตื่นตระหนกแทนเจ้าปานนั้น แต่เจ้ากลับสังเวยชีวิตพวกเขาให้กับข้า เจ้ายังมีสามัญสำนึกอยู่หรือไม่? นอนหลับอย่างไร้กังวลได้รึ?”

“สังเวยชีวิต?”

กั้วเจียงหลงมองเฉินฝานด้วยความงุนงง “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

“หมายความว่าจงใจให้พวกเจ้าออกไปตาย เมื่อพวกเจ้าตายแล้ว พวกเราก็ถือว่าปราบโจรได้สำเร็จ หลังจากนั้นพวกเราก็จะกลับเมืองหลวง และพวกเขา...”

อ๋องตวนโบกมือด้านหน้าเหอหรันและชายชราผู้นั้นไปมา “ก็สามารถสบายใจหายห่วง จากนั้นค่อยฝึกโจรป่ากลุ่มใหม่”

“หัวหน้าใหญ่ ท่านอาจารย์ เป็นความจริงรึ?”

กั้วเจียงหลงจ้องเหอ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1027

    “แน่นอนว่าต้องจับมัดห้อยลงมาแล้วโบยตี เจ้าคนมิรู้จักผิดชอบชั่วดี” อ๋องตวนก่นด่ามิหยุดปาก“ท่านอ๋องพูดถูก!”ระหว่างที่พูด เฉินฝานยกดาบปลายปืนจ่อทางเหอหรันเหนี่ยวไกออกไป...วันถัดมาณ ประตูทางเข้าจวนพำนักของเจ้าเมืองเฟิ่งหวง“เขาคือหัวหน้าของโจรป่ารึ?”“หน้าตาคล้ายคลึงกับใต้เท้าเหอจริงด้วย!”เหล่าราษฎรเมืองเฟิ่งหวงพากันมารวมตัวที่ประตูทางเข้าจวนพำนักเจ้าเมือง ชี้ไปชายหนุ่มที่ถูกมัดห้อยอยู่บนคานประตู“เพี้ยะ ๆ ๆ ๆ!”อ๋องตวนใช้แส้ในมือฟาดก้นเหอหรันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในขณะเดียวก็บ่นพึมพำมิหยุดปาก“เจ้าคนที่ริเอาโจรมาเป็นพ่อ ที่แห่งนี้เป็นบ้านของเจ้า เจ้าเมืองเหอต่างหากที่เป็นพ่อของเจ้า”เหอจื้อเฟยที่อยู่ในจวนพำนักมองลูกชายที่ถูกอ๋องตวนใช้แส้โบยตีมัดห้อยตรงคานประตู สีหน้าเหมือนกับพ่อส่วนใหญ่ที่มองลูกชายทรพีทั้งโกรธและสงสารหลายปีที่ผ่านมานี้ เหอหรันปล้นเงินและเสบียงของชาวบ้านทำลายครอบครัวไปตั้งมากมายก็สมควรถูกโบยตีนายหญิงเหอสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความสงสาร ทนมิได้จึงคิดที่จะวิ่งนำเหอหรันลงมา ทว่าเมื่อชนเข้ากับอ๋องตวน จึงมิกล้ารุดหน้าเข้าไปอีกเหอหรันจ้องเขม็งไปที่เหอจื้อเฟยทันที “พ่อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1028

    “เรื่องนี้ข้าคิดว่าเหอจื้อเฟยทำถูกแล้ว อย่างไรเสียเหอหรันก็ทำผิดกฎหมาย นายหญิงเหอก็มิได้ผิดอันใด เฝ้ารอมานานหลายปีในที่สุดหลานที่กลายเป็นโจรก็กลับบ้านมาเสียที ทว่ามินานก็ถูกลูกชายส่งเข้าคุก จะมิเศร้าโศกได้อย่างไร?”อ๋องตวนส่ายหน้าไปมา “เสี่ยวฝาน ทางที่ดีพวกเราอย่าเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ดีกว่า”เฉินฝานมองไปทางเสียงร้องไห้ของนายหญิงเหอ กล่าวเสียงเรียบนิ่ง “ข้าก็มิได้คิดจะเข้าไปยุ่งอยู่แล้ว”สองสามปีที่ผ่านเหอจื้อเฟยตรากตำเพียรพยายามที่ให้ราษฎรเมืองเฟิ่งหวงมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะประจบประแจงมิเป็นจึงทำให้อยู่ตำแหน่งเดิมมาหลายปี ให้กำเนิดลูกชายสองคนด้วยความยากลำบากก็ถูกโจรป่าจับตัวไปอีกเมื่อคำนึงถึงความยากลำบากของเหอจื้อเฟย เฉินฝานจึงมิได้พูดถึงเรื่องกฎหมาย เนื้อแท้ของเหอหรันก็มิใช่คนเลว เขาจึงทำเป็นมิรู้มิเห็นปล่อยผ่านเรื่องที่เหอหรันเคยเป็นโจรป่าไปการที่เขาปล่อยผ่านเรื่องนี้ตอนที่รับประทานอาหารค่ำ เฉินฝานก็บอกเป็นนัยให้เหอจื้อเฟยแล้ว เขาเข้าใจและซาบซึ้งอย่างมาก กล่าวขอบคุณเฉินฝานมิหยุดมิคิดว่าผ่านไปครู่เดียวเหอจื้อเฟยจะส่งลูกชายตนเองเข้าคุกเฉินฝานลอบพยักหน้า เขามองคนมิผิด มิว่าจะเป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1029

    “ข้าน้อยหลี่เต๋อเจียงขอคารวะท่านอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายขอรับ!” กลุ่มขุนนางจำนวนมหาศาลด้านหลังพากันคุกเข่า ทำให้ด้านหน้าเฉินฝานมีคนคุกเข่ามากมายสุดลูกหูลูกตาเมื่อทราบว่าหลี่เต๋อเจียงมาเยือน เหอจื้อเฟยก็รีบพาเหล่าขุนนางวิ่งขึ้นมาด้านบนหอประตูเมืองเช่นกัน“ข้าน้อยขอคารวะใต้เท้าหลี่ขอรับ!”เหอจื้อเฟยนำเหล่าขุนนางเมืองเฟิ่งหวงคารวะหลี่เต๋อเจียง หลี่เต๋อเจียงมิชายตามองเขาแม้แต่น้อย เดินนำเหล่าขุนนางเมืองเหอตูผ่านหน้าเหอจื้อเฟยไปคุกเข่าต่อหน้าอ๋องตวนทันที“ข้าน้อยขอคารวะอ๋องตวนขอรับ!”อ๋องตวนเป็นคนนิสัยตรงไปตรงมา คิดสิ่งใดก็จะเปิดเผยออกไปทันที เขายกเท้าถีบออกไปทันที“หลี่เต๋อเจียง เจ้าคนไร้ประโยชน์ ไฉนจึงมาช้าเช่นนี้?” อ๋องตวนถีบไปพลางก่นด่าไปด้วย“ท่านอ๋อง มิใช่ว่าข้าน้อยมิอยากมา ในอำเภอหนึ่งของเมืองเหอตูมีโจรประจำถิ่นอาละวาด ข้าน้อยจึงต้องไปปราบปรามตั้งแต่เมื่อแปดวันก่อน วันนี้ปราบปรามได้สำเร็จจึงรีบเดินทัพมาโดยมิได้หยุดพักขอรับ”“เรื่องนี้ข้าให้ส่งเรื่องไปที่เมืองหลวงแล้ว ฝ่าบาทก็เห็นชอบแล้วด้วยขอรับ”เกรงว่าอ๋องตวนและเฉินฝานจะมิเชื่อ หลี่เต๋อเจียงจึงเอ่ยถึงฉินเย่ว์เหมยด้วยการที่หล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1030

    หลี่เต๋อเจียงมองหมวกขุนนางในมือเฉินฝานด้วยความงงงันทั้งตกใจ งุนงงและหวาดกลัวหลี่เต๋อเจียงมิกล้าหายใจดังคนที่ตกใจกลัวมิได้มีเพียงหลี่เต๋อเจียงเท่านั้น ยังมีเหล่าขุนนางเมืองเหอตูอีกด้วยเฉินฝานเขย่าหมวกขุนนางสีดำเล็กน้อย “ฝุ่นบนหมวกช่างมากมายเสียจริง!”หลี่เต๋อเจียงลอบถอนหายใจที่แท้เฉินฝานมิชอบใจที่หมวกขุนนางของเขามีฝุ่นมากมาย“ใต้เท้า ข้าน้อยรีบเคลื่อนทัพมามิได้หยุดพัก ฝุ่นควันระหว่างทางมีมากมายจึงมาติดอยู่บนหมวก ข้าน้อยจะไปทำความสะอาดเดี๋ยวนี้ขอรับ”ระหว่างที่พูด หลี่เต๋อเจียงคุกเข่ายกมือสองขึ้นต่อหน้าเฉินฝาน รอให้เฉินฝานนำหมวกขุนนางสีดำส่งคืนให้กับมือเขาเฉินฝานเหลือบมองมือของหลี่เต๋อเจียงอย่างเรียบนิ่ง เขาเงยหน้าขึ้น กล่าวกับเหอจื้อเฟยที่คุกเข่าอยู่ตรงมุมหนึ่ง “เหอจื้อเฟย เจ้ามานี้!”เหอจื้อเฟยโน้มวิ่งเหยาะมาด้านหน้าเฉินฝาน“ใต้เท้า!” เหอจื้อเฟยคุกเข่าอยู่ด้านหลังหลี่เต๋อเจียง เขาตำแหน่งต่ำกว่าหลี่เต๋อเจียงจึงมิสามารถคุกเข่าอยู่ในระนาบเดียวกันได้“เจ้าขยับขึ้นมาอีกนิด” เฉินฝานกล่าวเหอจื้อเฟยขยับขึ้นเล็กน้อยตามที่สั่งทว่าก็ยังอยู่ด้านหลังหลี่เต๋อเจียงอยู่ดี“ไฉนเจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1031

    “ทำไม?” อ๋องตวนเคาะศีรษะของเหอจื้อเฟย “ซื่อบื้อไปแล้วจริงๆ หรือ? ยังไม่รีบขอบพระทัยฝ่าบาทอีก?”“ข้าน้อยจะเป็นเจ้าเมืองเหอตูได้อย่างไร?”“เหอจื้อเฟยจะเป็นเจ้าเมืองเหอตูได้อย่างไร?”เหอจื้อเฟยและหลี่เต๋อเจียงพูดขึ้นพร้อมกันเหอจื้อเฟยถูกอ๋องตวนเคาะศีรษะอีกครั้ง “เสี่ยวฝานบอกว่าเจ้าทำได้ก็ทำได้ พูดพล่ามอะไรมากมาย?”“ท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้าย ท่านมีสิทธิ์อันใดจึงทำเช่นนี้? มีอำนาจใดในการทำเช่นนี้?”หลี่เต๋อเจียวที่กำลังสับสนงุนงงอยู่นั้น ใบหน้าและหูแดงก่ำ เขาทั้งกระวนกระวาย ทั้งสับสนและทั้งหงุดหงิด จึงถามเฉินฝาน“เฉินฝานไม่ได้ตอบในทันที แต่ง้างมือตบอย่างแรง“เพี๊ยะ!”เสียงตบดังก้อง ใบหน้าของหลี่เต๋อเจียง มีรอยฝ่ามือแดงก่ำ“ข้าเป็นถึงอัครเสนาบดีเบื้องซ้าย ข้าไม่อาจเปลี่ยนเจ้าเมืองคนหนึ่งได้หรือ?”“ข้า ตำแหน่งเจ้าเมืองของข้า ท่านอัครเสนาบดีเบื้องขวาเสิ่นหมิงหยวนเป็นคนแต่งตั้งด้วยตนเอง...”“เพี๊ยะ!”หลี่เต๋อเจียงยังพูดไม่จบ เขาก็ถูกตบอีกหนึ่งฉาด“เจ้าแกล้งทำเป็นถูกรังแกอะไรของเจ้าหา?” แววตาเย็นชาของเฉินฝาน มองไปยังใบหน้าเคืองขุ่นของหลี่เต๋อเจียง “เจ้าแทนตนเองว่าข้าเมื่อครู่ตอนอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1032

    หลี่เต๋อเจียงใช้สายตา ลอบส่งสัญญาณให้กับขุนนางที่คุกเข่าอยู่ข้างๆหลังจากขุนนางคนนั้นเห็น ก็รีบย่องออกไปจากหอประตูเมืองทั้งหมดนี้ หลี่เต๋อเจียงคิดว่าตนทำได้อย่างเนียบแนนโดยไม่รู้เลยว่า...เฉินฝานยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยวันนี้อารมณ์ดี เช่นนั้นก็จะเล่นกับหลี่เต๋อเจียงเสียหน่อย เขาจะดูสิว่า หลี่เต๋อเจียงจะมาไม้ไหน?หลังจากขุนนางคนนั้นไปจากหอประตูเมืองไม่นาน...“ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง”เสียงฝีเท้ามากมายและชุลมุนวุ่นวาย ดังมาจากด้านล่างหอประตูเมืองเฉินฝานโน้มตัวมองลงไปกลุ่มคนมากมายล่างหอประตูเมืองพวกเขาเหล่านี้ล้วนเป็นชาวเมืองเฟิ่งหวงหลังจากพวกเขามาถึงด้านล่างหอประตูเมือง ต่างก็คุกเข่าลง“ท่านอัครเสนาบดี โปรดให้ใต้เท้าเหออยู่ในเมืองเฟิ่งหวงต่อด้วยขอรับ”“ท่านอัครเสนาบดี พวกเราไม่อาจไปจากใต้เท้าเหอ”“ท่านอัครเสนาบดี โปรดเมตตาด้วยขอรับ!”ใต้หอประตูเมืองมีชาวบ้านมาขอร้องมากขึ้นเรื่อยๆ ถนนตรอกซอยต่างๆ ระแวกหอประตูเมือง ล้วนเต็มไปด้วยชาวบ้านที่กำลังคุกเข่าเจตนาของชาวบ้านล้นหลามเช่นนี้ บวกกับเหอจื้อเฟยไม่ยอมไป หากเฉินฝานยืนกรานให้เหอจื้อเฟยเช่นนั้นก็ไร้ประโยชน์ ทั้งยังทำให้ชาว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1033

    ได้ฟังถ้อยคำของเฉินฝานขุนนางเมืองเหอตูหลายคนต่างกลั้นหัวเราะ บางคนถึงขั้นไม่อาจกลั้นหัวเราะ หลุดหัวเราะออกมาพวกเขาไม่ได้ใจกล้า แต่คำพูดของเฉินฝาน เพ้อเจ้อเกินไปแล้วจริงๆเมืองเฟิ่งหวงแทบจะเป็นเมืองยากจนที่สุดของต้าชิ่ง การจะให้เมืองเฟิ่งหวงกลายเป็นเมืองร่ำรวยที่สุดในแคว้นต้าชิ่งเทียบเท่ากับ การให้คนไม่รู้แม้กระทั่งคัมภีร์สามอักษรสอบผ่านจอหงวน“เอ่อ...” อ๋องตวนรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เขาเอียงตัวหันมาถามเฉินฝานเสียงเบา “เจ้าเมาหรือไม่? หืม!”อ๋องตวนพูด แล้วส่ายหน้ากับตนเอง “ข้าลืมไปเสียสนิทว่าเหล้าดอกท้อของแคว้นจ้าวค่อนข้างแรง ข้าไม่ควรให้เจ้าดื่ม”เฉินฝานบอกว่า เขาจะทำให้เมืองเฟิ่งหวงกลายเป็นเมืองร่ำรวยที่สุดของต้าชิ่งคืนวันนั้น มีคนออกเดินทางจากเมืองเฟิ่งหวง ขี่ม้าเร็วส่งข่าวนี้ไปยังเมืองหลวงเมื่อได้ยินเรื่องนี้ พวกเสิ่นหมิงหยวนหัวเราะกันจนฟันแทบหลุดฉินเย่ว์เหมยที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร สีหน้าของนางไม่แตกต่างจากอ๋องตวนเท่าใดนัก พวงแก้มแดงระเรื่อเล็กน้อย รู้สึกประหม่าอย่างมากไม่ใช่ว่านางไม่เชื่อเฉินฝาน แต่การทำให้เมืองเฟิ่งหวงกลายเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดของต้าชิ่ง ยากรา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1034

    “พื้นที่ต้าเฮยนั่น!”​ เฉินฝานกล่าว“พื้นที่ต้าเฮยที่พวกโจรป่าอาศัยอยู่หรือ?”“ถูกต้อง!”“ข้าว่าพื้นที่ต้าเฮยนั่น นอกจากโคลนดำที่ดูดมนุษย์ได้แล้ว ภูเขาโดยรอบก็เป็นภูเขาหัวโล้น ไม่มีแม้กระทั่งต้นไม้ แล้วจะอุดมสมบูรณ์ได้อย่างไร?”“ภูเขาหัวโล้นเหล่านั้นคือความร่ำรวยที่มากล้น”“เสี่ยวฝาน!” ทันใดนั้นเองดวงตาของอ๋องตวนทอประกาย “หรือว่าด้านในภูเขามีทองคำเช่นนั้นหรือ?”อ๋องตวนครุ่นคิด ภูเขาหัวโล้นมีความร่ำรวยซ่อนอยู่ เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นทองคำ“ไม่ใช่ทองคำ ชั่วขณะหนึ่งอธิบายให้ท่านฟังก็ไม่อาจเข้าใจได้ อีกสองสามวันพวกเราไปพื้นที่ต้าเฮย ถึงเวลานั้นท่านก็จะรู้เอง”เฉินฝานเพิ่งตื่นนอน ทั่วทั้งเมืองเฟิ่งหวงก็มีข่าวลือแพร่สะพัดพื้นที่ต้าเฮยซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของโจรป่า มีความร่ำรวยที่มากล้นเมื่อคืน หลังออกมาจากห้องของเฉินฝาน อ๋องตวนทนไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงวิ่งไปถามเหอหรันที่คุกข่าวลือจึงแพร่สะพัดเช่นนี้ผู้คนมากมายต่างไปถามคนที่เคยเป็นโจรป่ามาก่อน ว่าพื้นที่ต้าเฮยร่ำรวยมากใช่หรือไม่ข่าวลือนี้เกินจริงไปเรื่อยๆ กล่าวถึงขั้นว่าพื้นที่ต้าเฮอยที่พวกโจรป่าอยู่นั้นมีสมบัติล้ำค่

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status