Share

เขาคนนั้น
เขาคนนั้น
Author: เกศิณีแอดมินสกั้ง

อารัมภบท

last update Last Updated: 2025-05-15 00:07:03

เพล้ง!    

เสียงหล่นแตกของกระเบื้องจากห้องข้างๆทำอินถาสะดุ้งตื่น ดีดตัวจากการนอนหงายเป็นนั่งหลังตรงทั้งที่ยังไม่ลืมตา เสียงถอนหายใจแรงถูกพ่นตอนเห็นเวลาตีสี่

“วันนี้กลับมาช้ากว่าปกตินะ..”

ก่อนจะทิ้งตัวลงหลับต่อก็หลังจากพึมพำพร้อมยิ้มกว้าง

หกโมงกว่า..

เสียงโทรศัพท์ปลุกให้ตื่นอีกครั้ง น่าแปลกคราวนี้คนบนเตียงกลับหงุดหงิด ขณะควานหาเสียงนั้นใต้ผ้าห่ม เมื่อคืนเธอผล็อยหลับกลางคัน ยังไม่ทันได้วางมันตรงที่ประจำ โต๊ะข้างเตียง

และเมื่อเห็นเบอร์โทรเจ้าของสายเรียกเข้า...

“ฮัลโหล~ ค่า”

(วันนี้วันเกิดหัวหน้า แผนกเราจะรวมเงินกันซื้อของขวัญ แกโอนเงินมาเลยนะ)

ฮะ?!

แค่ปลุกให้ตื่นทั้งที่กำลังหลับสบายและเป็นวันหยุดก็รู้สึกว่าเสียมารยาทจะแย่แล้ว ยังไม่พอยังจะมาพูดเรื่องเงินแต่เช้าอีก?!

อินถาแยกเขี้ยวใส่โทรศัพท์ ผุดลุกขึ้นนั่งขัดตะหมาด

ด้วยสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงปรกหน้า จำต้องเสยมันขึ้นไปลวกๆอัตโนมัติ บวกใจร้อนรุ่มใคร่ตะโกนด่ากราดให้สาแก่ใจ ทว่าทำได้แค่นั้นเพราะคนในสายไม่ใช่คนที่เธอจะกระทำอย่างที่คิดได้ แม้ในใจอยากจะด่าสุดๆก็ตาม

เดี๊ยะ!!!

“ได้ค่ะพี่ติ๋ว เท่าไหร่คะ”

(คนละสี่พัน)

“ฮะ?!”

ปลิดทิ้งเลยจ้ะ

ราวกับกระดกเครื่องดื่มชูกำลังจนหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง

(ตกใจอะไรขนาดนั้นฮะ)

ปลายสายกลั้วหัวเราะ ต่างจากเธอลอบกลืนน้ำลายลงคอก้อนใหญ่

“ตกใจสิพี่ อะไรคือของขวัญ รถเรอะ? ทำไมมันแพงนักล่ะ”

(เอ้อ เป็นความคิดที่ดี ที่จริงน่าจะซื้อรถ)

“ประชด~ ว่าแต่แผนกเรามีตั้งสิบกว่าคนไม่ใช่รึ”

(ก็ใช่ไง นี่ยังไม่พอนะ พี่ยังต้องออกส่วนที่เหลือไปอีก ที่ยัยเมย์ไปเลือกมาคือระดับพรีเมียม)

“แล้วพี่ก็เห็นด้วย?”

(อืม..)

“โธ่พี่ติ๋ว พี่ก็รู้เมย์มันมีความเป็นอัตตาสูงขนาดไหน ให้มันเลือกก็ตายกันพอดีสิ”

อินถาโวยวาย เหลือบตามองบนสลับกับการเต้นร่าบนเตียง รู้สึกถูกรบกวนการนอนก่อนหน้าเป็นเรื่องเล็กไปโดยปริยาย นี่สิเรื่องใหญ่ยิ่งกว่า เพราะมันกำลังจะลามปามมารบกวนเงินอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ในบัญชี ซึ่งจะต้องใช้ให้พอถึงสิ้นเดือน

(ทีแรกพี่ก็ไม่เห็นด้วยหรอก แต่เมย์มันบอกว่าของที่เลือกมาจะต้องกินใจหัวหน้าแน่ๆ พี่เห็นก็ว่ามันจริง ก็เลยเอ้า..โอเค เผื่อจะมีผลต่อโบนัสปีนี้)

เหรอ....

“เข้าใจคิดนะพี่ หัวหน้ากินใจ แต่เรากินแกลบเนี่ยนะ มันคุ้มตรงไหนกัน”

(แกก็นะ..เข้าใจพูด)

ปลายสายเสียงอ่อน เริ่มคิดตามลูกน้องฝ่ายนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไปตกลงปลงใจกับลูกน้องฝ่ายโน้น ส่อแววอย่างเห็นได้ชัดว่าหัวหน้าของเธอไร้ความเป็นผู้นำสุดๆ หญิงสาวส่ายหัวเอือมระอา

“พี่ บอกตามตรงนะ เงินที่เหลืออยู่ตอนนี้ไม่พอใช้อ่า ขืนให้พี่ไปซื้อของขวัญให้หัวหน้า ครึ่งเดือนที่เหลือถาต้องกินกระดุมแน่ๆเลย ทิ้งถาสักคนได้ไหมพี่ หัวหน้าจะไม่ปลื้มก็ไม่เป็นไร ปกติก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าถาอยู่แล้ว”

(ไม่ได้!)

กีรติหรือติ๋วเกือบจะหลวมตัวตามลูกน้องอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดประโยคล่าสุดที่ว่าไม่เข้าหูหล่อน ให้กลายเป็นนางมารร้ายขึ้นมาทันที

(เด็กของพี่จะต้องเป็นคนที่รักหัวหน้าทุกคน!)

“เอ่อ..”

อะไรวะ..

ทั้งที่หัวหน้าไม่ต้องรักเราก็ได้นะหรือ? ยุติธรรมตรงไหนก่อน คำนี้คิดได้แค่ในใจ

อินถาเก็บความรู้สึก อึดอัดสุดตรงที่ไม่สามารถเผยธาตุแท้ได้เลย ทำได้แค่สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ถอนออกมาให้เบาที่สุด แสร้งขำกลบเกลื่อน

“แหะๆๆ อันที่จริงไม่ต้องทำเพื่อถาขนาดนั้นก็ได้พี่ติ๋ว ถ้าเขาจะรักยืนเฉยๆเขาก็รักนะพี่”

(อย่ามาตลก พี่ไม่ใช่เพื่อนเล่น)

“เอ๋า ก็ไม่เคยคิดว่าเป็นเพื่อนเล่นหรอก และที่พูดก็ไม่ได้เล่นด้วย ไอ้เรื่องของขวัญ วันกงวันเกิดที่มันนอกเหนือจากงานอะไรเนี่ย มันควรเกิดขึ้นจากความสมัครใจของลูกน้องไหมอะ เนี่ยๆ อีก 2 อาทิตย์จะต้องผ่อนรถ จ่ายค่าห้อง”

(ก็เพราะเช่าคอนโดแพงแบบนั้นไง แกเลยขาดสภาวะคล่อง ขาดอิสระทางการเงิน)

“อ่าวติ๋ว เอ๊ยพี่ติ๋ว ไหงพูดแบบนั้น ถาก็พอใจของถาแล้วปะ กับเงินเดือนที่ได้และความเป็นอยู่ มันสะดวกสบายถา ที่ไม่เกี่ยวกับใครอื่น ใครจะไปรู้ล่ะ ว่านอกจากการทำงานให้ถูกใจ จะต้องเอาใจด้วย ตลก”

(เอาเถอะๆ ขี้เกียจเถียงกับแกแล้ว ว่ามาจะเอายังไง แต่บอกไว้ก่อนเพื่อนคนอื่นสมัครใจกันทุกคน ยกเว้นแกนะตอนนี้)

อืม...

เอาเป็นว่าถ้าไม่มีเรื่องไร้สาระที่พวกแม่งนี้ทำอยู่ การใช้ชีวิตให้รอดของแต่ละเดือนก็สมบูรณ์แบบทุกประการ ไม่ต้องขวนขวายหา ไม่ต้องทะเยอทะยาน และไม่ต้องดิ้นรน ชีวิตก็จะอยู่บนเส้นกราฟที่ไม่มีการดึงขึ้นให้สูง หรือร่วงลงต่ำเลย

“อันนี้พี่ถามถาเหรอ”

(แต่ต้องไม่ใช่ที่แกขอเมื่อกี้นี้นะ ไอ้เมื่อกี้มันไม่ได้)

“อ่าว”

(มันไม่ได้ถา เข้าใจไหม? ไม่ได้จ้ะหนู)

“งั้นถายืมเงินพี่ติ๋ว”

(อ่าว..)

“อ่าวไม่ได้พี่ มันคือทางเลือกสุดท้าย ไหนๆพี่จ่ายส่วนเกินไปแล้ว งั้นรบกวนพี่ช่วยรวมของถาไปด้วยละกัน..”

(แต่ว่า..)

“รบกวนด้วยนะพี่ ขอบคุณค่ะ”

อินถามัดมือชก ตัดบทตัดสายไม่สนใจเสียงคัดค้านทันควัน พร้อมปิดเครื่องหนีทันที วันนี้เป็นวันหยุดของเธอ ถึงจะถูกด่าล้านพยางค์ ถ้าไม่รับสาย ก็ไม่ได้ยินหรอก

“ค่อยไปแสร้งบีบน้ำตาวันทำงานก็แล้วกัน..”

เธอพึมพำท่าทางห่อเหี่ยว ถอนใจแรงเตรียมล้มตัวนอนต่อ ทว่าบางอย่างกลับทำให้ต้องชะงักค้าง เบิกตาโพลงฟื้นคืนชีพอีกที

มันคือกลิ่นโชยมาของควันบุหรี่ข้างห้อง อิทธิพลของมันสามารถเปลี่ยนจากการถอนหายใจของเธอเป็นการสูดลมหายใจเข้าปอดแทนได้ ทั้งที่เป็นมลพิษ

ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นและดีใจได้เท่ากับ..ตอนนี้ที่เวลาหกโมง

เขาคนนั้นยังอยู่ อยู่ในห้องของเขา!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขาคนนั้น   บทที่ 36 ความจริงที่เจ็บปวด

    “อ๋อ..”อินถาลากเสียงยานคาง หันไปมองเจ้าของชื่อที่แฟนหนุ่มแนะนำ จงใจยียวนกวนประสาท ก่อนจะโน้มตัวลงโค้งคำนับ“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะพี่จินดา หนู..อินถา แฟนพี่ราล์ฟนะคะพี่”ฝ่ายชายถึงกับทำปากอมลมขณะยืดอก พลางหันไปทางอื่น รู้สึกร้อนวูบวาบทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเด็กผู้หญิงตรงหน้ามีดีอะไร ทำไมถึงเลือกที่จะปกป้องด้วยการเงียบ ปล่อยให้เธอจิกกัดอีกฝ่าย“จริงเหรอ ราล์ฟไม่เห็นเคยพูดเรื่องนี้เลย พี่ก็นึกว่าโสดอยู่ซะอีก ยินดีที่ได้รู้จักนะคะน้องอิน”“อินถาค่ะ ชื่อมีสองพยางค์”ถ้าไม่นับว่าสถานการณ์ตอนนี้กำลังเคร่งเครียดอยู่ละก็ เขาคงขำไปแล้ว ขำให้กับความก๋ากั่นของเธอเขาเองรับรู้ถึงความอึดอัดของจินดา แต่ช่วยไม่ได้หล่อนอยากวอนหาเรื่องเอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้คุยกันเรียบร้อยแล้ว เกี่ยวกับเรื่องสถานะ และความสัมพันธ์ที่ใคร่จะเปลี่ยนแปลงไปอนาคตจินดาเองก็ลากเสียง แต่นั่นคงไม่ใช่ประเด็นใหญ่ที่เธอจะเอาเรื่อง คนข้างๆต่างหากที่จะต้องรับผิดชอบ หญิงสาวปรายตาหันไปมองพร้อมกอดอกราล์ฟถึงกับถอนหายใจ“โอเค..”พยักหน้าเป็นอันเข้าใจในความต้องการ ก่อนจะจูงมือบาง พาเดินออกมาจากตรงนั้น ไม่คิดจะเอ่ยลาจินดาสักคำ ชายหนุ

  • เขาคนนั้น   บทที่ 35 ซึ่งๆหน้า

    “มากับไอ้ราล์ฟมันหรือ”ดวงตาพร่ามัวขึงขึ้นและเปลี่ยนเป็นชัดแจ๋วในเวลาต่อมา หลังต้องใช้ม่านตาเพ่งเล็งคนตรงหน้า ชายปริศนาที่เธอไม่รู้จัก“คะ?”“เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสินะ" เธอไม่รู้ประโยคที่เขาพูดหมายถึงอะไร อีกนัยคือเสียงดนตรีดังซะจนฟังไม่ถนัด แต่ก็พออ่านปากออกและเข้าใจได้ "ผมเป็นเพื่อนมันฮะ”สาวเจ้าพยักหน้า ดูจากการแต่งตัวก็น่าจะใช่ ก่อนจะยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร“สวัสดีค่ะ”“รอมันอยู่ใช่ไหม”“ใช่ค่ะ อีกเดี๋ยวคงมา เขาบอกแบบนั้น”“ราล์ฟงานเข้าแบบนี้จะนานนะ อย่ารอมันเลย”คิ้วคู่สวยขมวดเข้าหา มองคนตรงหน้าผ่านกระจกแว่นกรองแสงที่ใส่ พลางขยับให้เข้าที่หลังประหม่าจนขาแว่นกระโดด“อย่ารอ? อ่อไม่ได้หรอกค่ะ ฉันมากับเขา”“มากับมัน?" การถามย้ำ ทำให้เธอเริ่มรับรู้ถึงแรงกดดันปนไม่น่าไว้ใจสุด "อยู่ด้วยกันจริงๆสินะ ไอ้ที่บอกว่าย้ายออกแล้ว จริงๆคือย้ายไปอยู่ห้องเธอ?”“เดี๋ยวค่ะ ฉันไม่รู้คุณหมายถึงอะไร แต่คุณไม่ควรมาพูดกับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแบบนี้นะคะ”ดวงตาทรงพระจันทร์เสี้ยวหรี่เข้าหากันเป็นวงรี พร้อมแสงประกายเจิดจรัสขณะมองเธออยู่ เด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ถึงขนาดทำอังครชะงักค้างกลางคันได้ ยาม

  • เขาคนนั้น   บทที่ 34 เปิดโลกใหม่

    ติ๊ด!เสียงเครื่องสแกนดังก่อนประตูถูกผลักเข้า ดวงตาเฉี่ยวรีปะทะกับกลมโตแต่เศร้ามอง ราวกับคนไม่ได้นอนมาหลายคืน พลางเลิกคิ้ว เลือกที่จะปิดประตูแล้วเดินเข้ามาก่อนจะตั้งคำถาม“ทำไมขอบตาดำแบบนั้นละคะ”คนมาใหม่ทำตัวไม่ทุกข์ร้อน ทั้งที่เป็นต้นเหตุเพราะเขานั้นหายไปทั้งวันทั้งคืน“นอนไม่ค่อยหลับค่ะ”เธอตอบ ไม่ได้มองหน้า ยังคงจ้องมองจอโทรศัพท์ตัวเองทำทีไม่สนใจ ทั้งที่น้ำเสียงในประโยคไม่ใช่แบบนั้น ซึ่งชายหนุ่มเองก็รู้ สาวเจ้าโกรธเขาเรื่องกลับบ้านไม่ตรงเวลาเขายิ้มมุมปากด้วยความเอ็นดู สูดลมหายใจเข้าปอดสุดลึก มือล้วงกระเป๋ากางเกงเดินมาหยุดฝั่งตรงข้าม ก่อนจะโน้มตัวลงใบหน้าอยู่ระดับเดียว ที่ห่างกันสองคืบ“เนี่ย ปากกับจมูกมันจะชนกันแล้วค่ะ”แหย่เธอพร้อมยักคิ้วอินถาละสายตาจากสิ่งที่ถือขึ้นมามองเขา สีหน้าแปรเปลี่ยนทันที“ไม่ต้องเลย”“โอ๋~ ก็พี่บอกหนูแล้วไงคะ ว่าพี่ติดประชุม”“ประชุมอะไรตอนดึก รุ่งสาง เช้าตรู่..”เธอแวดใส่ ชายหนุ่มหลุดเสียงขำ“ไม่เอาน่า อย่าเป็นอย่างนี้ดิ ก็นี่ไงพี่กลับมาแล้วไง ไม่ได้หายไปไหนสักหน่อย”“หาย หายไปทำงาน หนึ่งวันหนึ่งคืน..”“โอเค..” แขนแกร่งยกขึ้นราวกับยกธงขาว พร้อมพยักหน้

  • เขาคนนั้น   บทที่ 33 คนเห็นแก่ตัว

    จินดาหน้าชา ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มอ้าขึ้นอัตโนมัติ และขยับภายหลังโดยไม่มีเสียง หล่อนคงตกใจหนักซะจนลืมพูด หรือไม่สมองก็ขาวโพลนหยุดทำงานชั่วคราวหมายความว่าไง?การเลื่อนสถานะจากบุคคลที่เคยถูกหลอก เข้าหาเพื่อหวังผลประโยชน์ กลายเป็นคนพิเศษในเวลาต่อมา ต่อจากนี้จะไม่ได้มีแค่หล่อนเพียงคนเดียวแล้ว แต่จะมีอีกบุคคลปริศนาหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะหลงรักซะมากกว่าจะทำยังไงดี..สาวเจ้าขบริมฝีปากตัวเอง รู้สึกถึงกลิ่นคาวรสชาติปะแล่มของเลือด แต่ความเจ็บปวดตรงนี้ยังเทียบไม่เท่ากับหัวใจเสียงถามตัวเองกึกก้องไปทั่วทั้งหัว“แล้วยังไง ยูจะไปจากไอเหรอ”ราล์ฟเงียบ ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงออกถึงความเมตตา ต่างกันกลับถัดไปฝั่งตรงข้ามมากกว่า ราวกับเขาเตรียมการเอาไว้แล้วชายหนุ่มส่ายศีรษะ“ยังไม่ได้พูดสักคำ”“ถ้างั้น?”“ยูอยู่ได้ไหมล่ะ”“ฮะ..”ความรู้สึกราวตะคริวกินอก เพิ่มเติมเป็นใบหน้าชาวาบและหูดับ หัวใจเต้นแรงเร็วเสี่ยงทะลุออกมาดิ้นพล่าน มือบางผสานกุมกันเอาไว้“ถ้ายูอยู่ได้ ทุกอย่างก็เหมือนเดิม”ดวงตาเคยสดใสเต็มไปด้วยหยดน้ำตา อันที่จริงหล่อนทราบดีคนตรงหน้าโคตรเห็นแก่ตัว ไม่เคยสนใจ ไม่เคยมองเห็นหัวใครหน้าไหน ทว่าไม

  • เขาคนนั้น   บทที่ 32 เหมือนกัน

    บ้านหลังหนึ่ง สร้างด้วยช่างฝีมือดี ตั้งตระหง่านอยู่บนเขตนอกชานเมือง ถูกรายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และพืชเขียวขจี ราวกับอาณาเขตนั้นจงใจถูกจัดแต่งโดยเจ้าของบ้านที่รักอิสระทว่าไม่ใช่ ไม่เลย..เพราะนั่นคือตรงกันข้ามหล่อนมักจะอ้างว้างทุกครั้งยามต้องอยู่คนเดียว และยิ้มดีอกดีใจก็ตอนประตูรั้วค่อยๆเลื่อนเปิด ตอนรถหรูคันหนึ่งเคลื่อนผ่านเข้ามา ใช่เลยเป็นเขาคนที่รออยู่“มาแล้วเหรอ”เสียงหวานถามทันทีที่เห็นร่างสูงหลุดวงกบประตูเข้ามา“เป็นไงบ้าง”เสียงแหบพร่าถามกลับ ไม่ได้มองหล่อนเต็มตาสักเท่าไหร่ เลือกที่จะเดินไปทิ้งตัวลงบนฟูกพร้อมพ่นลมหายใจเขาคงเหนื่อยมาก มากซะจนไม่มีอารมณ์จะมองตากันดวงตากลมโตของจินดาขึงกว้างขึ้นเล็กน้อย หล่อนเป็นผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งจัดว่ารู้จักเขาดีมากกว่าใครอื่น ถึงได้รู้อารมณ์ที่แสดงออกมาตอนนี้นั้นยากจะควบคุมของเขา หากพูดผิดหูไปเพียงนิดเดียว อาจจะโดนตะเพิด และทำเขาหายไปจากบ้านหลังนี้ได้ จึงเลือกที่จะกลืนน้ำลายดับความน้อยใจลงก่อน ถึงจะเอาตัวเข้าไปใกล้“อะไรเย็นๆหน่อยไหม”แม้ว่าจินดาจะจัดไปทางคนเจ้าอารมณ์ ชอบเหวี่ยงชอบวีน แต่หล่อนก็อยู่เป็น เลือกที่จะใช้ท่าทางและคำพูดได้ดีและถู

  • เขาคนนั้น   บทที่ 31 ธาตุแท้

    นับตั้งแต่นั้น ความระแวงก่อให้เกิดความกระอักกระอ่วนใจ ภายในห้องใหญ่แต่เบาเสียง ชนิดไร้ซึ่งการหยอกล้อระหว่างคนสองคน และกำลังเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ ที่อาจทำให้เกิดการสั่นคลอนได้ราล์ฟกลับบ้านดึกทุกวัน บางครั้งอินถาหลับไปแล้ว กว่าจะเห็นเขานอนอยู่ข้างๆก็ตอนเช้าตรู่ความตึงเครียดจึงเริ่มมีอิทธิพล สาวเจ้าในวันทำงานไร้รอยยิ้มและวันผ่อนคลายเหมือนเช่นเคย จนนักรบเพื่อนร่วมงานทันสังเกต และเริ่มสงสัยจริงจังก็ตอนอยู่กันตามลำพังในร้านกาแฟของบริษัท“มีปัญหากันใช่ไหม”“อืม”“ตั้งแต่เมื่อไหร่”“สักพักละ”“ตั้งแต่ตอนนั้นเหรอ”“อืม”คนถูกถามเอาแต่พยักหน้า ขณะสายตาหลุบต่ำจ้องเพียงแก้วกาแฟที่เพิ่งจะลดลงไปไม่ถึงคืบ เพียงเพราะมันขมกว่าวันปกติจนกลืนไม่ลงชายหนุ่มถอนลมหายใจพรืด ฉุดมือนั้นไว้และบังคับให้แก้วลดลง เพื่อจะเห็นสีหน้าบูดบึ้งอย่างชัดเจน“อิน..”“หืม?”“รบหวังดีนะ”ประโยคบอกเล่า ให้ความรู้สึกถึงคนพูดไม่สู้ดีนัก ทำคนฟังชะงักกึก ยอมที่จะละทิ้งความตะขิดตะขวงใจไว้เบื้องหลัง ความประหม่าถูกทาบทับลดระดับลง หลงเหลือความซึ้งใจให้พึงระลึกแทน“เรารู้” หญิงสาวพยักหน้า ช้อนตาขึ้น “แยกแยะได้แหละน่า มันไม่เกี่ยวกับร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status