Share

4-3

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-23 16:59:13

ผ่านไปสามราตรีกาลไม่มีอะไรคืบหน้า

ปีศาจนับสิบตนยังพยายามตามหาเทพอู่เฉินในเรือนแต่ไม่พบท่านตามที่นางว่า

ทางด้านฝั่งเทพเลิกต่อต้านอสูรปีศาจ ปล่อยให้เดินไปเดินมาตามใจ ระหว่างรอก็ชักชวนกันฆ่าเวลา นั่งฝึกปัญญาด้วยหมากเซี่ยงฉี เหล่าเทพผู้น้อยช่วยกันซ่อมแซมพื้นเรือนด้านหน้าให้กลับมาสวยสะอาดเรียบร้อยดังเดิมแล้ว บ่าวงูทั้งสองยังกลับมาเอาความกับนางเรื่องเทพอู่เฉินไปอยู่ที่ใด

“หวังว่าเจ้าจะไม่โป้ปดพวกข้า มิฉะนั้นเจ้าจะถูกลงโทษสถานหนักทีเดียว”

“ท่านรอถามเทพอู่เฉินด้วยตัวท่านเองก็แล้วกัน ท่านซื่อหยูอี้ ท่านเซียวอี้หรู ข้าหน่ายจะอธิบายความให้ท่านฟัง เพราะว่าท่านไม่เคยจะฟัง”

อาเป้ยกำลังวัดฝีมือกับเทพแห่งสายน้ำ บนโต๊ะหินใต้ต้นไม้สูงใหญ่ ลมพัดเย็นสบาย นางคีบหมากเฉียมุ่งไปดักโจมตีถึงในบ้านของอีกฝ่าย ทว่านางคงไม่ชำนาญงาน จึงไม่ได้ดูเลยว่ามีองครักษ์คอยป้องกันอยู่

"เก็บพลังเวทไว้ใช้ยามจำเป็น กำชัยชนะโดยไม่ต้องออกรบ เจ้าเฉลียวฉลาดนัก อาเป้ย” เทพแห่งสายน้ำเอ่ยคำชื่นชมนาง จากเคยว่านางเป็นสตรีควรนิ่งเงียบเสียก็เปลี่ยนความคิดใหม่

บนโลกของทวยเทพ เทพสตรีออกเรือนแล้วยังต้องเชื่อฟังและอยู่ในโอวาทสามีเช่นเดียวกับมนุษย์ ในขณะที่บุรุษเทพยอมโอนอ่อนให้ภริยาบ้างเพื่อประคับประคองชีวิตคู่ ต่างฝ่ายให้เกียรติกัน ครองคู่กันไปตลอดกาลตราบจนกายเทพจะแตกสลาย

“สมกับที่เป็นศิษย์นักพรตฮุ่ยหมิง ข้าเคยได้ยินจากท่านพ่อว่าเซียนผู้นั้นเก่งฉกาจ เดิมทีเป็นนักพรตผู้บำเพ็ญเพียร อุตสาหพยายามอย่างยากยิ่ง จนได้เป็นเซียน มีพละกำลังเยี่ยงเทพ จึงเรียกว่าเป็นเทพเซียน”

บุรุษเทพรูปงามพูดไปเล่นไปอย่างคล่องแคล่ว ตรงข้ามกับอาเป้ย นางขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง คิดแล้วคิดอีกกว่าจะเดินหมากแต่ละตาได้ กระทั่งถึงตาสุดท้าย นางถูกโจมตีย่อยยับไม่มีเหลือ แม้แต่เบี้ยก็ถูกสังหารเรียบ

นางจะไปเก่งหมากรุกได้อย่างไรเล่า! 

นอกจากงานดูแลนักพรต ฝึกวรยุทธ์ ทำการบ้านส่งอาจารย์ฮุ่ยหมิงให้ครบถ้วน ด้วยเวลาที่มีจำกัดในชีวิตของนางแต่ละวันก็ว่ายากเย็นแสนเข็ญแล้ว

อาเป้ยยกมือขึ้น ก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม เคารพท่านเทพแห่งสายน้ำคนพี่

“ข้าแพ้ราบคาบไม่มีเหลือแม้เบี้ยสักตัวบนกระดาน หมากกระดานหน้า ข้าเดินผิดถูกตรงไหนอย่างไร รบกวนท่านให้คำชี้แนะข้าด้วย เทพเฟยหลิง”

ศึกประลองสมองควรเป็นเรื่องชำนาญงานของนักปราชญ์ ผู้เฉลียวฉลาดเช่นนาง แต่พูดไปใครจะเชื่อ

นางแพ้ราบคาบ!

เหล่าปีศาจและอสูรเริ่มเหน็ดเหนื่อยกับการตามหาหยกพันปี ด้วยความที่เกาะเทพในฝั่งทิศอุดรนี้ช่างกว้างใหญ่ไพศาล ในป่าทึบมีพรรณพฤกษามากมายหลากหลายชนิด ท้องนทีสีมรกตยาวสุดลูกหูลูกตา เทือกเขาทอดยาวเชื่อมต่อไปถึงทิศประจิม

ฝั่งยักษาอสูรวิ่งไปทั่วพื้นหญ้า พื้นหิน พื้นทราย ตามหาในแหล่งหนองน้ำก็หาได้พบไม่ หลายตนถือวิสาสะเข้ามาในเรือน ตามหาเทพอู่เฉินแต่ไม่พบท่านแม้เงา

ฝั่งเทพไม่ได้ออกแรงต่อสู้ แค่คอยเฝ้าดูแลข้าวของให้อยู่ที่เดิมของมัน ของวิเศษชิ้นอื่นนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้อง ของหายากไปกว่านั้นเทพอู่เฉินก็ไม่ได้วางเอาไว้ให้ใครหยิบง่าย ๆ และเหล่าปีศาจได้รับการให้เกียรติเป็นแขกจึงมีศักดิ์ศรีพอสมควร

อีกหนึ่งราตรีกาลผ่านพ้นไป ปีศาจต่างอ่อนล้าเหนื่อยแรงจึงกลับมาที่เรือนเทพอู่เฉินอีกครั้ง พยัคฆ์อัคคีก็ตามมาเอาเรื่องนาง

“เจ้า... หลอกลวงข้า หยกพันปีไม่ได้อยู่บนเกาะแห่งนี้”

“พวกท่านต่างมากันเอง ทึกทักกันเอาเอง ท่านหาของไม่พบเองจะมากล่าวหาว่าข้าไปหลอกอะไรท่าน ข้าล่ะสงสัยจริง ๆ ผู้ใดบอกท่านว่ามันอยู่กับท่านอู่เฉิน หากข้าเป็นเจ้าสวรรค์ ข้าจะไม่ปล่อยให้ของสำคัญเท่านี้อยู่ในมือครึ่งเทพครึ่งปีศาจ”

อาเป้ยยังคงใจเย็นแม้ต่างฝ่ายตั้งท่าเตรียมต่อสู้ นางรินชาใส่ถ้วยใบเล็ก ยกขึ้นจิบโดยไม่ใช้เวทเซียนแต่ทำทุกอย่างด้วยสองมือ 

ถึงแม้ว่าเพลิงโทสะล้อมรอบกายพยัคฆ์อัคคี ด้วยความเกลียดชังเคียดแค้น สงครามกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า

“แม่เฒ่าไม่มีทางโกหกพวกข้าหยกพันปีจะต้องอยู่ที่เรือนท่านอู่เฉิน”

“ท่านเคยได้ยินหรือไม่ว่า ‘เลือดข้นกว่าน้ำ’ เกิดวันใดเทพอู่เฉินส่งหยกพันปีให้กับมารดาของท่าน ไม่คิดหรือว่าภัยพิบัติจะมาเยือนเทวโลก หากเป็นข้าคงเลือกเก็บไว้เบื้องบน ในสถานที่ปลอดภัยกว่าไว้กับเทพอู่เฉิน ข้าว่า... พวกท่านมาเสียเที่ยวแล้วล่ะ”

“นี่เจ้า! จงใจหลอกพวกข้าอย่างนั้นรึ”

เหล่าปีศาจแสนโง่เขลาเบาปัญญา ตั้งท่าต่อสู้อย่างสุดกำลังเมื่อโทสะเข้าครอบงำ 

ยิ่งพยัคฆ์อัคคีดันถูกนางหลอกเข้าเสียแล้ว

ร่างพยัคฆ์ลุกเป็นไฟโชติช่วง ส่งเสียงคำรามลั่น ทั่วทั้งท้องฟ้าเกิดอสุนีบาต แสงเสียงดังสะท้านไปทั่วก่อนกระโจนกายเข้าหานาง

อาเป้ยตกเป็นผู้กระทำความผิดอย่างไม่เข้าท่าเอาเสียเลย นางกระโดดหลบสายฟ้าลูกใหญ่จากพยัคฆ์และคมกระบี่จากยักษาสองตน โต๊ะชากระเด็นกระดอน ถ้วยชาลายดอกเหมยในมือของนางแตกกระจาย นางถีบทะยานขึ้นฟ้าพร้อมเทพแห่งสายน้ำ วาดวงเวทสร้างตาข่ายจับกุมสัตว์อสูร 

ศัตรูกำลังคลุ้มคลั่งเพราะถูกนางยั่วยุ จึงไม่ทันโจมตีนางด้วยกรงเล็บทั้งสี่ 

ขาของสัตว์อสูรถูกตรึงด้วยเวทสีเขียวอานุภาพร้ายแรง ธาตุน้ำดับธาตุไฟ บุตรชายของใต้เท้าจีกงทั้งสองเทพผู้มีพลังมหาศาล ยักษาอีกสี่ตนจะเข้าช่วยก็ไม่เป็นผล ซ้ำยังถูกมัดรวมกันไว้ด้วยเวทสีเหลืองทองอร่าม อักขระโบราณของสำนักวัดเทียนหลง

เหล่าปีศาจไม่สามารถต่อกรกับเทพในเวลานี้ ยังมีเซียนปราชญ์อีกหนึ่งคน ตัดกำลังให้เหน็ดเหนื่อยเสียก่อน จึงยอมจำนนรับความพ่ายแพ้ ถูกจับกุมตัว มัดรวมกันไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   5-3

    ปัญหาใหญ่ทว่าหากชักช้าไปจะไม่ทันกาล พยัคฆ์อัคคียอมปล่อยลูกของตนออกจากหน้าท้อง สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังเจ้าพยัคฆ์ตัวน้อยกายพยัคฆ์ที่ห่อหุ้มด้วยเปลวอัคคีครึ่งหนึ่งถูกพิษสีเขียว หนอนพิษชอนไชจนเห็นกระดูก นัยน์ตาใสซื่อบริสุทธิ์ของมันเอ่อคลอหยดน้ำใส มันไม่แม้จะส่งเสียงร้องออกมาเหล่าเทพถึงจะไม่ชอบสัตว์อสูรสักเท่าไร อดไม่ได้ที่จะสงสารเวทนาเจ้าพยัคฆ์ตัวกระจ้อยร่อย“ตำราเล่มหนึ่งกล่าวว่าสัตว์อสูรจำพวกพยัคฆาไม่แสดงความอ่อนแอออกมาให้ผู้ใดเห็นเป็นอันขาด นิสัยของท่านช่างคล้ายคลึงกับตัวข้านัก...”“ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับข้า”เทพอู่เฉินเอ่ยขึ้น ชิงลงมือนำหน้า วาดวงเวทสีดำเสกสายน้ำเป็นระลอกคลื่น ดึงแผ่นน้ำขึ้นสูงเพื่อจัดการกับมัจฉาก้าวร้าวให้ขาดอากาศหายใจไปเสีย ไม่ปล่อยให้เสียเวลาแม้สักน้อย ใต้เท้าจีกงรีบปราม “ระวังด้วยเทพอู่เฉิน ดอกบัวสีทองจะขาดน้ำหล่อเลี้ยงรากไม่ได้เป็นอันขาด จะแห้งตายในทันที”“ข้าว่าไม่ง่าย... ต้องร่วมใจเป็นหนึ่ง”อาเป้ยสะบัดปลายเท้า กระโดดข้ามอากาศไปยืนถัดจากเทพอู่เฉินในระยะห่างพอสมควร เพื่อมองทิศทางน้ำในอีกด้านหนึ่ง เทพแห่งสายน้ำทั้งสองเห็นพ้องต้องกัน รีบไปยืนคนละทิศ ทั้งสี่มุมสร

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   5-2

    “ข้าเชื่อก็คือเชื่อ... ท่านเคยได้ยินไหมว่าเปลี่ยนความเชื่อมนุษย์นี้ยากกว่ายกภูเขาทั้งลูกเสียอีก”“ข้าเพิ่งจะเอ็ดเจ้า”“ข้าขอนับเป็นความหวังดี ใช่ว่าท่านอยากจะเอ็ดจะว่าข้าเสียเมื่อไร ท่านใจดีกับข้า” นางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนลง “และที่ท่านยอมช่วยเหลือพยัคฆาน้อยวันนี้ นับเป็นบุญกุศลของท่าน ข้าเชื่อเรื่องบุญกรรมวาสนา การทำความดี สิ่งดี ๆ จะย้อนกลับมา”อาเป้ยยิ้ม เงยหน้ามองเทพอู่เฉินในร่างสีดำทะมึนด้วยแววตาใสซื่อบริสุทธิ์ ถึงแม้ว่าเทพอู่เฉินคงไม่สบอารมณ์นางนัก ไม่หลงกลคารมนาง“เจ้าพูดจาได้ดี... ทั้งที่เพิ่งจะขังเทพผู้ยิ่งใหญ่ของมนุษย์เอาไว้ใต้ที่นอนในห้องใต้ดิน ห่อร่างข้าด้วยผ้าห่มเหม็นเน่าของเจ้า ทำให้ข้าในร่างครึ่งงูครึ่งบุรุษต้องติดอยู่ใต้เตียงถึงสองคืน”อาเป้ยเพิ่งนึกออกว่าลืมท่านเทพเอาไว้ หลังร่ายเวทอำพรางตาเปลี่ยนประตูให้กลายเป็นกำแพง ส่วนตัวนางนั่งน่ะหรือ เล่นหมากเซี่ยงฉี หัวเราะร่าเริงบันเทิงใจ ไปเที่ยวชมพรรณพฤกษาในป่ากับสองบุรุษเทพแห่งสายน้ำ!阿贝 อาเป้ย...宝贝 bǎobèi (เป่าเป้ย)ลูกรัก ที่รัก...ชื่อของนางคงมีรากฐานมาจากคำในความหมายว่านางคือผู้เป็นที่รักต่อทุกสรรพสิ่งเทพอู่เฉินมองเ

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   5-1

    พยัคฆ์อัคคียอมบอกความจริงต่อเทพว่าต้องการหยกพันปีไปฟื้นฟูพลังกายของบุตรชายตัวน้อย ซึ่งเล่นซนไปสักหน่อยจึงถูกพิษของป๋ายเซี่ยสัตว์อสูรจำพวกปูยักษ์มีวิถีนักล่าที่แปลกประหลาด ไม่กลืนเหยื่อเข้าไปทว่าจะฝังคมเขี้ยวไว้ รอให้แผลเน่าและถูกพิษกัดกินเสียก่อน ให้เหยื่อทุรนทุราย ร่างกายขยับไม่ได้เมื่อไรค่อยกลับมาจัดการอีกครั้งหนึ่งทั้งปีศาจและอสูรไม่ใช่ทุกเผ่าจะเป็นมิตรที่ดีต่อกัน อสูรหลายตนนี้เป็นพวกเดียวกับพยัคฆ์อัคคี ซึ่งเป็นสัตว์อสูรในตำนาน จัดอยู่ในระดับที่มีพละกำลังใกล้เคียงกับปีศาจส่วนอสูรปักษาซึ่งมาก่อกวนคราวก่อนนั้นต้องการหยกพันปีไปทำอะไรไม่รู้ได้ ถึงคราวนี้ไม่มาปรากฏตัวแต่คราวหน้าไม่รู้ว่าจะมาหรือไม่อาเป้ยเห็นสัจธรรมอีกข้อหนึ่งว่ามนุษย์มีการแบ่งแยกเป็นหลายชนเผ่า เหล่าปีศาจและอสูรก็เช่นกัน ถึงบนเทวโลกไม่วุ่นวายเท่าโลกมนุษย์ แสนจะวุ่นวายนัก ต่างฝ่ายสู้รบกันเพื่อสนองกิเลส ยกตัวอย่างเช่นท่านเจ้าเมืองหลงอี้จินผู้ส่งเครื่องสังเวยให้แด่เทพด้วยความเชื่อของท่าน ก็ปรารถนาต้องการอำนาจจากเทพ หวังให้ผู้คนเคารพสยบต่อท่านณ สถานที่แห่งนี้ปีศาจยังอาจกลืนกินปีศาจด้วยกันเองเพื่อสูบพลังเวท ในขณะที่เทพ

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   4-3

    ผ่านไปสามราตรีกาลไม่มีอะไรคืบหน้าปีศาจนับสิบตนยังพยายามตามหาเทพอู่เฉินในเรือนแต่ไม่พบท่านตามที่นางว่าทางด้านฝั่งเทพเลิกต่อต้านอสูรปีศาจ ปล่อยให้เดินไปเดินมาตามใจ ระหว่างรอก็ชักชวนกันฆ่าเวลา นั่งฝึกปัญญาด้วยหมากเซี่ยงฉี เหล่าเทพผู้น้อยช่วยกันซ่อมแซมพื้นเรือนด้านหน้าให้กลับมาสวยสะอาดเรียบร้อยดังเดิมแล้ว บ่าวงูทั้งสองยังกลับมาเอาความกับนางเรื่องเทพอู่เฉินไปอยู่ที่ใด“หวังว่าเจ้าจะไม่โป้ปดพวกข้า มิฉะนั้นเจ้าจะถูกลงโทษสถานหนักทีเดียว”“ท่านรอถามเทพอู่เฉินด้วยตัวท่านเองก็แล้วกัน ท่านซื่อหยูอี้ ท่านเซียวอี้หรู ข้าหน่ายจะอธิบายความให้ท่านฟัง เพราะว่าท่านไม่เคยจะฟัง”อาเป้ยกำลังวัดฝีมือกับเทพแห่งสายน้ำ บนโต๊ะหินใต้ต้นไม้สูงใหญ่ ลมพัดเย็นสบาย นางคีบหมากเฉียมุ่งไปดักโจมตีถึงในบ้านของอีกฝ่าย ทว่านางคงไม่ชำนาญงาน จึงไม่ได้ดูเลยว่ามีองครักษ์คอยป้องกันอยู่"เก็บพลังเวทไว้ใช้ยามจำเป็น กำชัยชนะโดยไม่ต้องออกรบ เจ้าเฉลียวฉลาดนัก อาเป้ย” เทพแห่งสายน้ำเอ่ยคำชื่นชมนาง จากเคยว่านางเป็นสตรีควรนิ่งเงียบเสียก็เปลี่ยนความคิดใหม่บนโลกของทวยเทพ เทพสตรีออกเรือนแล้วยังต้องเชื่อฟังและอยู่ในโอวาทสามีเช่นเดียวกับมน

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   4-2

    นางยิ้มแล้วจึงพูด “ข้าขออภัย แต่อาจารย์ข้าพร่ำสอนเรื่องการมีมารยาท หากผู้ใดถามคำถามข้า ข้าควรต้องตอบให้ชัดเจนเท่าที่ข้าทราบ แถมตัวข้ายังมิใช่สตรี มิใช่ภรรยาของผู้ใด ข้าอยู่เยี่ยงบุรุษมาทั้งชีวิต บนโลกมนุษย์ข้ามีป้ายชื่อเด็กชาย เป็นข้ารับใช้นักพรต ตัวข้าไม่เคยมีแม้โอกาสจะได้ปักปิ่นผมเยี่ยงสตรีด้วยซ้ำ”นางยังอวดป้ายชื่อบุรุษของนางว่าอาเป้ย ซึ่งมีสีแตกต่างไปตามแคว้นที่อาศัยให้เทพดูเสียด้วย ทว่าเหล่าเทพคงไม่ได้สนใจ ถือโอกาสพักเอาแรงระหว่างทุกคนหันมองนางเป็นตาเดียวในเมื่อนางเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้อง จึงไม่มีผู้ใดชิงชังนาง อย่างมากคงแค่รำคาญใจเท่านั้น อาเป้ยถีบขาทะยานขึ้นอากาศ​ เหยียบลงบนพื้นหินหน้าพยัคฆา นางเกิดมีความคิดว่าสัตว์อสูรตนนี้เฉลียวฉลาดกว่าตนอื่น น่าจะพูดจารู้เรื่อง“ข้าว่าท่านเอาเวลาไปตามหาหยกพันปีเสียดีกว่า ในเมื่อท่านอู่เฉินให้คำอนุญาตแล้ว ท่านบอกด้วยตัวท่านเองว่ามันอยู่บนเกาะเทพอุดรแห่งนี้ ยังฝากข้าเป็นธุระมา ทั้งเทพและปีศาจ เชิญตามอัธยาศัย” นางก้มศีรษะทำความเคารพทั้งสองฝั่งอย่างนักปราชญ์ ผู้มีปัญญาเป็นที่ตั้ง ต่างฝ่ายจึงสงบสติอารมณ์ลงเพราะคารมของนาง“ข้าเอง... อยู่เฉย ๆ ไม่มีอ

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   4-1

    เทพอู่เฉินในร่างปีศาจมีช่วงเวลาจำศีลหลายราตรี สักห้าสิบถึงหนึ่งร้อยปีจะลอกคราบเก่าของตนสักครั้งเช่นเดียวกับนางเฟยอี๋ ใช้เวลามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพลังเวทในกาย ซึ่งหลังจากลงไปรับเครื่องบรรณาการบนโลกมนุษย์ เดินทางข้ามภพภูมิกลับมายังเทวโลกทำให้สูญเสียพลังไปมาก คงซ่อมแซมตนได้ไม่ดีนักเทพและปีศาจต่อสู้กันมาสองราตรีแล้ว...อาเป้ยเดินไปเดินมาอย่างระวังไม่ให้เป็นภาระผู้ใด นางหลบเข้าไปนอนบ้าง เอามือปิดหูปิดประตูห้องเงียบเชียบ เสียงกระบี่ดังกระทบกัน พื้นดินแตกหักเป็นเศษเป็นชิ้น เสียงตะโกนบริภาษอย่างเกรี้ยวกราด แสงสีเสียงทอดดังมาเป็นระยะ ต่างฝ่ายตะโกนโหวกเหวกโวยวายทะเลาะวิวาทกันไม่จบสิ้น ไม่มีวี่แววว่าฝ่ายใดจะยอมเลิกราท้ายที่สุดนางก็ทนไม่ไหว จึงลองเดินหาห้องพักจำศีลของเทพอู่เฉินดูว่าอยู่ที่ใดห้องพักของเทพอู่เฉินหาไม่ยากนัก อยู่ถัดจากลานกว้างที่พวกเขากำลังต่อสู้กัน นางคิดว่าท่านเทพคงไม่กลัวเกรงในสิ่งใดเลยจำศีลอย่างโจ่งแจ้ง นางยังเห็นว่ามีบุรุษเทพรูปงามร่างสูงใหญ่แต่งการด้วยอาภรณ์งดงามดูมีภูมิฐาน และอีกสี่คงเป็นลูกสมุนของฝั่งเทพแห่งสายน้ำตามมาสมทบนางเคาะประตูห้องอย่างมีมารยาท ทว่าไม่ได้ยินเสีย

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status