Share

4-2

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-23 16:59:00

นางยิ้มแล้วจึงพูด “ข้าขออภัย แต่อาจารย์ข้าพร่ำสอนเรื่องการมีมารยาท หากผู้ใดถามคำถามข้า ข้าควรต้องตอบให้ชัดเจนเท่าที่ข้าทราบ แถมตัวข้ายังมิใช่สตรี มิใช่ภรรยาของผู้ใด ข้าอยู่เยี่ยงบุรุษมาทั้งชีวิต บนโลกมนุษย์ข้ามีป้ายชื่อเด็กชาย เป็นข้ารับใช้นักพรต ตัวข้าไม่เคยมีแม้โอกาสจะได้ปักปิ่นผมเยี่ยงสตรีด้วยซ้ำ”

นางยังอวดป้ายชื่อบุรุษของนางว่าอาเป้ย ซึ่งมีสีแตกต่างไปตามแคว้นที่อาศัยให้เทพดูเสียด้วย ทว่าเหล่าเทพคงไม่ได้สนใจ ถือโอกาสพักเอาแรงระหว่างทุกคนหันมองนางเป็นตาเดียว

ในเมื่อนางเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้อง จึงไม่มีผู้ใดชิงชังนาง อย่างมากคงแค่รำคาญใจเท่านั้น อาเป้ยถีบขาทะยานขึ้นอากาศ​ เหยียบลงบนพื้นหินหน้าพยัคฆา 

นางเกิดมีความคิดว่าสัตว์อสูรตนนี้เฉลียวฉลาดกว่าตนอื่น น่าจะพูดจารู้เรื่อง

“ข้าว่าท่านเอาเวลาไปตามหาหยกพันปีเสียดีกว่า ในเมื่อท่านอู่เฉินให้คำอนุญาตแล้ว ท่านบอกด้วยตัวท่านเองว่ามันอยู่บนเกาะเทพอุดรแห่งนี้ ยังฝากข้าเป็นธุระมา ทั้งเทพและปีศาจ เชิญตามอัธยาศัย” นางก้มศีรษะทำความเคารพทั้งสองฝั่งอย่างนักปราชญ์ ผู้มีปัญญาเป็นที่ตั้ง ต่างฝ่ายจึงสงบสติอารมณ์ลงเพราะคารมของนาง

“ข้าเอง... อยู่เฉย ๆ ไม่มีอะไรจะทำ นึกอยากยลโฉมเจ้าหยกพันปีว่ามันจะงดงาม วิเศษถึงเพียงไหน พวกท่านถึงแย่งชิงเหลือเกิน ข้ามีความเห็นว่าหากผู้ใดเป็นฝ่ายเจอมันก่อน ค่อยประลองยุทธ์กันอีกครั้งหนึ่งว่าใครสมควรได้เป็นเจ้าของมันดีหรือไม่?”

นางพูดได้ดี! ในที่สุดก็สามารถเกลี้ยกล่อมปีศาจได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าฝั่งเทพอาจไม่เห็นด้วยกับนางนัก กลับทำได้เพียงมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ

ปีศาจหลายตนมีนิสัยใจเร็วด่วนได้ จึงรีบไปตามหาหยกพันปีบนเกาะแห่งนี้ 

ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเรื่องสูญเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ปีศาจต่อสู้กับเทพไป ไม่เคยรู้แพ้รู้ชนะ อย่างมากก็เสมอตัว สู้แยกย้ายกันไปตามหาสมบัติล้ำค่าคงดีเสียกว่า ปีศาจและอสูรส่วนหนึ่งพยายามตามหาเทพอู่เฉินเพื่อเอาความเรื่องหยกพันปีให้ได้ในเรือนของท่านแต่ไม่พบเจอผู้ใด อีกส่วนก็แยกย้ายไปในเทือกเขาทิศอุดร 

“จะซ่อนหินต้องซ่อนไว้ในหิน”

“เหนือเขายังมีเขา เหนือฟ้ายังมีฟ้า”

“เริ่มต้นดี ลงท้ายก็จะดี”

แต่ละถ้อยคำของนางเต็มไปด้วยคารมคมคาย บาดใจเหล่าอสูรยิ่งนัก

แต่นางเพียงพูดไปอย่างไร้แก่นสาร ไม่มีสาระใด ๆ ทั้งสิ้น นางตามไปให้ความช่วยเหลืออสูรด้วยการชี้ไปคนละทาง

เหล่าอสูรพวกนี้ไม่มีสมองหรืออย่างไร ถึงได้ไม่ทันเล่ห์กลนาง จะมีพยัคฆ์อัคคีที่ฉลาดกว่าตัวอื่นเสียหน่อย แต่ก็ยังไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวของนางอยู่ดี

เทือกเขาแห่งทิศอุดรกว้างใหญ่ไพศาล นางเหาะเหินเดินอากาศ ใช้วิชาตัวเบาผลัดวิ่งไปเคียงข้างเทพแห่งสายน้ำทั้งสองผู้ขออาสาตามมาคุ้มกันนาง เพราะบ่าวงูและเทพแห่งสายน้ำทิศประจิมที่เหลือจะร่วมมือกันเก็บกวาดเรือนเทพอู่เฉินให้กลับมาสะอาดงดงาม ซ่อมแซมพื้นหิน พรรณพฤกษาที่ล้มตายไปด้วยเวทแห่งการฟื้นฟูรักษา

อาเป้ยคิดว่านางไม่ได้ใช้กำลังเกินตัวมากไป นางไม่ได้ช่วยเหลือพวกเขาในการซ่อมแซมเรือน นางก็หาทางวิ่งเล่นของนางไป นางหยุดแวะแหล่งน้ำแห่งหนึ่ง เอามือกวักดูว่ามันปลอดภัยหรือไม่ ก่อนจะดื่มมันด้วยการกรีดปลายนิ้วรินใส่ใบไม้สีเขียวเสียก่อน

อย่างน้อยนางพยายามจะปฏิบัติตนเยี่ยงสตรี เมื่อนางได้เป็นสตรีสมใจนางแล้ว ส่วนเรื่องระยะห่างของบุรุษ นางยังคงระมัดระวังไม่ให้ผู้ใดเข้าใกล้นางเกินสามย่างก้าวตามคำสั่งของท่านอาจารย์

“เจ้าเป็นสตรีฉลาดรอบคอบ สง่างามสมเป็นนักปราชญ์ ถึงจะเป็นข้ารับใช้ ข้าไม่อยากจะเชื่อหากไม่พบแม่นางด้วยสองตาตนเอง”

เทพเฟยหลิงยังคงจับจ้องใบหน้างามหมดจดด้วยนัยน์ตาเปล่งประกายสีมรกต ดวงตาอันเป็นสัญลักษณ์ของเทพแห่งสายน้ำ ไล่สายตามองผิวขาวลออผ่องบนหลังมือ บนลำคอเพรียวระหงดูงามสง่า ในเมื่อเมืองฟ้านี้มีสตรีมากมายให้ชื่นชมเสียเมื่อไร

ร่างบอบบางของนางช่างน่าทะนุถนอม เอวคอดเล็กคาดด้วยเชือกในชุดสีดำ ถักทอด้วยลวดลายของอสรพิษซึ่งมีเท้าทั้งสี่และกรงเล็บเช่นเทพมังกร เป็นอาภรณ์ที่มีผู้เดียวบนเทวโลก ปิ่นปักผมลวดลายดอกไม้ ตรงกลางเป็นมุกสีดำสนิท ของหายากจากทะเลลึกแห่งทิศอุดร

เป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก...

ทุกอย่างบนเรือนร่างงามของสตรีตรงหน้า เป็นสมบัติของเทพอู่เฉิน

“ท่านคงต้องเชื่อ ข้าเป็นข้ารับใช้ท่านอาจารย์ นักพรตผู้ทรงศีล แต่ข้าทำงานด้วยศักดิ์ศรี อาจารย์ฮุ่ยหมิงไม่อนุญาตให้ข้าก้มหัวให้ผู้ใด ท่านกำชับนักหนาเรื่องการทำงานตรงไปตรงมา”

“ข้าเห็นด้วยกับเจ้า เจ้าพูดจาฉะฉาน คารมคมคาย”

เทพฟางหรงเอ่ยปากชมตามเทพแห่งสายน้ำผู้พี่ โดยไม่ละวางตาไปจากใบหน้านิ่งเฉย ริมฝีปากคู่งามเคลือบสีชมพูแดงปานกลีบดอกไม้แรกแย้มบาน แม้นางจะมีตราลักษณะคล้ายงูไฟตรงกลางหน้าผาก อันบ่งบอกว่านางเป็นสมบัติของเทพปีศาจอสรพิษ

“ท่านเชยชมข้ามากไป”

อาเป้ยบ่ายเบี่ยงคำเยินยอนั้น นางยืนอยู่ระหว่างกลางบุรุษเทพรูปงามทั้งสอง ซึ่งเอาแต่จ้องนางไม่เลิก นางรู้ตัวจึงก้าวถอยออกอย่างระวังตัว เป็นเรื่องบังเอิญนัก หางตานางดันเหลือบมองไปบนผิวน้ำ

เงาของเทพฟางหรงบดบังแสงอาทิตย์อยู่ สะท้อนลงน้ำปรากฏเป็นรูปทรงประหลาด คล้ายว่าจะเป็นหินใต้น้ำจึงเห็นเป็นเช่นนั้น นางขมวดคิ้วเขาหากัน ก้าวเข้าไปใกล้ ๆ สายน้ำสีมรกต

“มีอะไรหรือ? แม่นาง...”

“ข้าว่าเงาบนผืนน้ำนี้คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นรูปบ้าน... ไม่น่าจะใช่บ้านของเทพอู่เฉิน”

“เหมือนเรือนของท่านพ่อข้า มีต้นไม้ไม่มากแต่เต็มไปด้วยสระบัว ล้อมรอบนั้น”

“เป็นจริงด้วยท่านพี่ ประหลาดนัก แม่น้ำสายนี้ไม่น่าจะมีหินที่ประกอบกันได้เป็นรูปร่างเรือนของท่านพ่อไปได้ มันเรียงตัวกันอย่างพอดีเสียจริง”

เปรี้ยง! 

เสียงอัสสุนีบาตดังก้องไปทั่วนภาลัย ประหนึ่งพิรุณกริ้วหากจะตกลงมาสักหยดหย่อมก็ไม่มีแม้สักหยดเดียว บุรุษเทพรีบก้าวถอยจากสตรีของผู้อื่น หลังจากที่หน้าผากแทบจะชนกันเพราะเฝ้ามองเงาในแหล่งน้ำ 

อาเป้ยเงยหน้าขึ้นมองฟ้าจึงหันไปบอกเทพแห่งสายน้ำ “ท้องฟ้าแปรปรวนยังกับว่ามิใช่เทวโลกยังไงยังงั้น ข้าว่าเรารีบกลับกันดีกว่า”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   5-3

    ปัญหาใหญ่ทว่าหากชักช้าไปจะไม่ทันกาล พยัคฆ์อัคคียอมปล่อยลูกของตนออกจากหน้าท้อง สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังเจ้าพยัคฆ์ตัวน้อยกายพยัคฆ์ที่ห่อหุ้มด้วยเปลวอัคคีครึ่งหนึ่งถูกพิษสีเขียว หนอนพิษชอนไชจนเห็นกระดูก นัยน์ตาใสซื่อบริสุทธิ์ของมันเอ่อคลอหยดน้ำใส มันไม่แม้จะส่งเสียงร้องออกมาเหล่าเทพถึงจะไม่ชอบสัตว์อสูรสักเท่าไร อดไม่ได้ที่จะสงสารเวทนาเจ้าพยัคฆ์ตัวกระจ้อยร่อย“ตำราเล่มหนึ่งกล่าวว่าสัตว์อสูรจำพวกพยัคฆาไม่แสดงความอ่อนแอออกมาให้ผู้ใดเห็นเป็นอันขาด นิสัยของท่านช่างคล้ายคลึงกับตัวข้านัก...”“ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับข้า”เทพอู่เฉินเอ่ยขึ้น ชิงลงมือนำหน้า วาดวงเวทสีดำเสกสายน้ำเป็นระลอกคลื่น ดึงแผ่นน้ำขึ้นสูงเพื่อจัดการกับมัจฉาก้าวร้าวให้ขาดอากาศหายใจไปเสีย ไม่ปล่อยให้เสียเวลาแม้สักน้อย ใต้เท้าจีกงรีบปราม “ระวังด้วยเทพอู่เฉิน ดอกบัวสีทองจะขาดน้ำหล่อเลี้ยงรากไม่ได้เป็นอันขาด จะแห้งตายในทันที”“ข้าว่าไม่ง่าย... ต้องร่วมใจเป็นหนึ่ง”อาเป้ยสะบัดปลายเท้า กระโดดข้ามอากาศไปยืนถัดจากเทพอู่เฉินในระยะห่างพอสมควร เพื่อมองทิศทางน้ำในอีกด้านหนึ่ง เทพแห่งสายน้ำทั้งสองเห็นพ้องต้องกัน รีบไปยืนคนละทิศ ทั้งสี่มุมสร

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   5-2

    “ข้าเชื่อก็คือเชื่อ... ท่านเคยได้ยินไหมว่าเปลี่ยนความเชื่อมนุษย์นี้ยากกว่ายกภูเขาทั้งลูกเสียอีก”“ข้าเพิ่งจะเอ็ดเจ้า”“ข้าขอนับเป็นความหวังดี ใช่ว่าท่านอยากจะเอ็ดจะว่าข้าเสียเมื่อไร ท่านใจดีกับข้า” นางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนลง “และที่ท่านยอมช่วยเหลือพยัคฆาน้อยวันนี้ นับเป็นบุญกุศลของท่าน ข้าเชื่อเรื่องบุญกรรมวาสนา การทำความดี สิ่งดี ๆ จะย้อนกลับมา”อาเป้ยยิ้ม เงยหน้ามองเทพอู่เฉินในร่างสีดำทะมึนด้วยแววตาใสซื่อบริสุทธิ์ ถึงแม้ว่าเทพอู่เฉินคงไม่สบอารมณ์นางนัก ไม่หลงกลคารมนาง“เจ้าพูดจาได้ดี... ทั้งที่เพิ่งจะขังเทพผู้ยิ่งใหญ่ของมนุษย์เอาไว้ใต้ที่นอนในห้องใต้ดิน ห่อร่างข้าด้วยผ้าห่มเหม็นเน่าของเจ้า ทำให้ข้าในร่างครึ่งงูครึ่งบุรุษต้องติดอยู่ใต้เตียงถึงสองคืน”อาเป้ยเพิ่งนึกออกว่าลืมท่านเทพเอาไว้ หลังร่ายเวทอำพรางตาเปลี่ยนประตูให้กลายเป็นกำแพง ส่วนตัวนางนั่งน่ะหรือ เล่นหมากเซี่ยงฉี หัวเราะร่าเริงบันเทิงใจ ไปเที่ยวชมพรรณพฤกษาในป่ากับสองบุรุษเทพแห่งสายน้ำ!阿贝 อาเป้ย...宝贝 bǎobèi (เป่าเป้ย)ลูกรัก ที่รัก...ชื่อของนางคงมีรากฐานมาจากคำในความหมายว่านางคือผู้เป็นที่รักต่อทุกสรรพสิ่งเทพอู่เฉินมองเ

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   5-1

    พยัคฆ์อัคคียอมบอกความจริงต่อเทพว่าต้องการหยกพันปีไปฟื้นฟูพลังกายของบุตรชายตัวน้อย ซึ่งเล่นซนไปสักหน่อยจึงถูกพิษของป๋ายเซี่ยสัตว์อสูรจำพวกปูยักษ์มีวิถีนักล่าที่แปลกประหลาด ไม่กลืนเหยื่อเข้าไปทว่าจะฝังคมเขี้ยวไว้ รอให้แผลเน่าและถูกพิษกัดกินเสียก่อน ให้เหยื่อทุรนทุราย ร่างกายขยับไม่ได้เมื่อไรค่อยกลับมาจัดการอีกครั้งหนึ่งทั้งปีศาจและอสูรไม่ใช่ทุกเผ่าจะเป็นมิตรที่ดีต่อกัน อสูรหลายตนนี้เป็นพวกเดียวกับพยัคฆ์อัคคี ซึ่งเป็นสัตว์อสูรในตำนาน จัดอยู่ในระดับที่มีพละกำลังใกล้เคียงกับปีศาจส่วนอสูรปักษาซึ่งมาก่อกวนคราวก่อนนั้นต้องการหยกพันปีไปทำอะไรไม่รู้ได้ ถึงคราวนี้ไม่มาปรากฏตัวแต่คราวหน้าไม่รู้ว่าจะมาหรือไม่อาเป้ยเห็นสัจธรรมอีกข้อหนึ่งว่ามนุษย์มีการแบ่งแยกเป็นหลายชนเผ่า เหล่าปีศาจและอสูรก็เช่นกัน ถึงบนเทวโลกไม่วุ่นวายเท่าโลกมนุษย์ แสนจะวุ่นวายนัก ต่างฝ่ายสู้รบกันเพื่อสนองกิเลส ยกตัวอย่างเช่นท่านเจ้าเมืองหลงอี้จินผู้ส่งเครื่องสังเวยให้แด่เทพด้วยความเชื่อของท่าน ก็ปรารถนาต้องการอำนาจจากเทพ หวังให้ผู้คนเคารพสยบต่อท่านณ สถานที่แห่งนี้ปีศาจยังอาจกลืนกินปีศาจด้วยกันเองเพื่อสูบพลังเวท ในขณะที่เทพ

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   4-3

    ผ่านไปสามราตรีกาลไม่มีอะไรคืบหน้าปีศาจนับสิบตนยังพยายามตามหาเทพอู่เฉินในเรือนแต่ไม่พบท่านตามที่นางว่าทางด้านฝั่งเทพเลิกต่อต้านอสูรปีศาจ ปล่อยให้เดินไปเดินมาตามใจ ระหว่างรอก็ชักชวนกันฆ่าเวลา นั่งฝึกปัญญาด้วยหมากเซี่ยงฉี เหล่าเทพผู้น้อยช่วยกันซ่อมแซมพื้นเรือนด้านหน้าให้กลับมาสวยสะอาดเรียบร้อยดังเดิมแล้ว บ่าวงูทั้งสองยังกลับมาเอาความกับนางเรื่องเทพอู่เฉินไปอยู่ที่ใด“หวังว่าเจ้าจะไม่โป้ปดพวกข้า มิฉะนั้นเจ้าจะถูกลงโทษสถานหนักทีเดียว”“ท่านรอถามเทพอู่เฉินด้วยตัวท่านเองก็แล้วกัน ท่านซื่อหยูอี้ ท่านเซียวอี้หรู ข้าหน่ายจะอธิบายความให้ท่านฟัง เพราะว่าท่านไม่เคยจะฟัง”อาเป้ยกำลังวัดฝีมือกับเทพแห่งสายน้ำ บนโต๊ะหินใต้ต้นไม้สูงใหญ่ ลมพัดเย็นสบาย นางคีบหมากเฉียมุ่งไปดักโจมตีถึงในบ้านของอีกฝ่าย ทว่านางคงไม่ชำนาญงาน จึงไม่ได้ดูเลยว่ามีองครักษ์คอยป้องกันอยู่"เก็บพลังเวทไว้ใช้ยามจำเป็น กำชัยชนะโดยไม่ต้องออกรบ เจ้าเฉลียวฉลาดนัก อาเป้ย” เทพแห่งสายน้ำเอ่ยคำชื่นชมนาง จากเคยว่านางเป็นสตรีควรนิ่งเงียบเสียก็เปลี่ยนความคิดใหม่บนโลกของทวยเทพ เทพสตรีออกเรือนแล้วยังต้องเชื่อฟังและอยู่ในโอวาทสามีเช่นเดียวกับมน

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   4-2

    นางยิ้มแล้วจึงพูด “ข้าขออภัย แต่อาจารย์ข้าพร่ำสอนเรื่องการมีมารยาท หากผู้ใดถามคำถามข้า ข้าควรต้องตอบให้ชัดเจนเท่าที่ข้าทราบ แถมตัวข้ายังมิใช่สตรี มิใช่ภรรยาของผู้ใด ข้าอยู่เยี่ยงบุรุษมาทั้งชีวิต บนโลกมนุษย์ข้ามีป้ายชื่อเด็กชาย เป็นข้ารับใช้นักพรต ตัวข้าไม่เคยมีแม้โอกาสจะได้ปักปิ่นผมเยี่ยงสตรีด้วยซ้ำ”นางยังอวดป้ายชื่อบุรุษของนางว่าอาเป้ย ซึ่งมีสีแตกต่างไปตามแคว้นที่อาศัยให้เทพดูเสียด้วย ทว่าเหล่าเทพคงไม่ได้สนใจ ถือโอกาสพักเอาแรงระหว่างทุกคนหันมองนางเป็นตาเดียวในเมื่อนางเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้อง จึงไม่มีผู้ใดชิงชังนาง อย่างมากคงแค่รำคาญใจเท่านั้น อาเป้ยถีบขาทะยานขึ้นอากาศ​ เหยียบลงบนพื้นหินหน้าพยัคฆา นางเกิดมีความคิดว่าสัตว์อสูรตนนี้เฉลียวฉลาดกว่าตนอื่น น่าจะพูดจารู้เรื่อง“ข้าว่าท่านเอาเวลาไปตามหาหยกพันปีเสียดีกว่า ในเมื่อท่านอู่เฉินให้คำอนุญาตแล้ว ท่านบอกด้วยตัวท่านเองว่ามันอยู่บนเกาะเทพอุดรแห่งนี้ ยังฝากข้าเป็นธุระมา ทั้งเทพและปีศาจ เชิญตามอัธยาศัย” นางก้มศีรษะทำความเคารพทั้งสองฝั่งอย่างนักปราชญ์ ผู้มีปัญญาเป็นที่ตั้ง ต่างฝ่ายจึงสงบสติอารมณ์ลงเพราะคารมของนาง“ข้าเอง... อยู่เฉย ๆ ไม่มีอ

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   4-1

    เทพอู่เฉินในร่างปีศาจมีช่วงเวลาจำศีลหลายราตรี สักห้าสิบถึงหนึ่งร้อยปีจะลอกคราบเก่าของตนสักครั้งเช่นเดียวกับนางเฟยอี๋ ใช้เวลามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพลังเวทในกาย ซึ่งหลังจากลงไปรับเครื่องบรรณาการบนโลกมนุษย์ เดินทางข้ามภพภูมิกลับมายังเทวโลกทำให้สูญเสียพลังไปมาก คงซ่อมแซมตนได้ไม่ดีนักเทพและปีศาจต่อสู้กันมาสองราตรีแล้ว...อาเป้ยเดินไปเดินมาอย่างระวังไม่ให้เป็นภาระผู้ใด นางหลบเข้าไปนอนบ้าง เอามือปิดหูปิดประตูห้องเงียบเชียบ เสียงกระบี่ดังกระทบกัน พื้นดินแตกหักเป็นเศษเป็นชิ้น เสียงตะโกนบริภาษอย่างเกรี้ยวกราด แสงสีเสียงทอดดังมาเป็นระยะ ต่างฝ่ายตะโกนโหวกเหวกโวยวายทะเลาะวิวาทกันไม่จบสิ้น ไม่มีวี่แววว่าฝ่ายใดจะยอมเลิกราท้ายที่สุดนางก็ทนไม่ไหว จึงลองเดินหาห้องพักจำศีลของเทพอู่เฉินดูว่าอยู่ที่ใดห้องพักของเทพอู่เฉินหาไม่ยากนัก อยู่ถัดจากลานกว้างที่พวกเขากำลังต่อสู้กัน นางคิดว่าท่านเทพคงไม่กลัวเกรงในสิ่งใดเลยจำศีลอย่างโจ่งแจ้ง นางยังเห็นว่ามีบุรุษเทพรูปงามร่างสูงใหญ่แต่งการด้วยอาภรณ์งดงามดูมีภูมิฐาน และอีกสี่คงเป็นลูกสมุนของฝั่งเทพแห่งสายน้ำตามมาสมทบนางเคาะประตูห้องอย่างมีมารยาท ทว่าไม่ได้ยินเสีย

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status