สามวันทีเดียวที่หัวหน้าแผนกไอทีไม่ได้มาทำงาน ด้วยเหตุผลว่าลาป่วย นั่นไม่ได้สร้างความแปลกใจอะไรกับพนักงานในบริษัทคนอื่น ๆ ถ้าหากว่าคนที่มาแจ้งลาให้ทิพากรไม่ใช่เจ้าของบริษัทอย่างอติกานต์ ทั้งยังเอ่ยปากกำชับกับฝ่ายบุคคลว่าไม่ต้องทวงใบรับรองแพทย์กับเจ้าตัว ทั้งที่ตามระเบียบแล้วหากพนักงานลาป่วยเกิน 1 วันจะต้องส่งใบรับรองแพทย์ตามมาให้ฝ่ายบุคคล
นอกจากความสงสัยเรื่องที่ผู้บริหารหนุ่มหล่อไปสนิทสนมกับหัวหน้าแผนกไอทีขนาดที่เดินมาลางานให้อีกฝ่ายด้วยตัวเองแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ อีกหัวข้อหนึ่งที่พนักงานในบริษัทเริ่มตั้งวงซุบซิบกันคือ...
อติกานต์ ผู้บริหารหนุ่ม เจ้าระเบียบและน่าเกรงขามคนนี้ อาจจะกำลังออกเดตกับใครสักคนอยู่
หลายวันมานี้พนักงานหลายคนต่างได้รับรอยยิ้มบางทรงเสน่ห์จากผู้บริหารซึ่งปกติไม่ค่อยได้เห็นอติกานต์ยิ้มนัก แม้ในวันที่ไม่มีเรื่องยุ่งยากใจให้จัดการ หรือแม้แต่วันที่คู่ค้าเซ็นสัญญาร่วมโครงการสำเร็จ อติกานต์ก็มีเพียงใบหน้านิ่งเท่านั้น เรื่องนี้ทำเอาพนักงานบางคนถึงขั้นวิตกกังวลจนพานคิดมากว่าตัวเองกำลังจะถูกไล่ออก
แต่ทว่าต้องยอมรับว่าอติกานต์ที่ดูอารมณ์ดีและเ
สามวันทีเดียวที่หัวหน้าแผนกไอทีไม่ได้มาทำงาน ด้วยเหตุผลว่าลาป่วย นั่นไม่ได้สร้างความแปลกใจอะไรกับพนักงานในบริษัทคนอื่น ๆ ถ้าหากว่าคนที่มาแจ้งลาให้ทิพากรไม่ใช่เจ้าของบริษัทอย่างอติกานต์ ทั้งยังเอ่ยปากกำชับกับฝ่ายบุคคลว่าไม่ต้องทวงใบรับรองแพทย์กับเจ้าตัว ทั้งที่ตามระเบียบแล้วหากพนักงานลาป่วยเกิน 1 วันจะต้องส่งใบรับรองแพทย์ตามมาให้ฝ่ายบุคคลนอกจากความสงสัยเรื่องที่ผู้บริหารหนุ่มหล่อไปสนิทสนมกับหัวหน้าแผนกไอทีขนาดที่เดินมาลางานให้อีกฝ่ายด้วยตัวเองแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ อีกหัวข้อหนึ่งที่พนักงานในบริษัทเริ่มตั้งวงซุบซิบกันคือ...อติกานต์ ผู้บริหารหนุ่ม เจ้าระเบียบและน่าเกรงขามคนนี้ อาจจะกำลังออกเดตกับใครสักคนอยู่หลายวันมานี้พนักงานหลายคนต่างได้รับรอยยิ้มบางทรงเสน่ห์จากผู้บริหารซึ่งปกติไม่ค่อยได้เห็นอติกานต์ยิ้มนัก แม้ในวันที่ไม่มีเรื่องยุ่งยากใจให้จัดการ หรือแม้แต่วันที่คู่ค้าเซ็นสัญญาร่วมโครงการสำเร็จ อติกานต์ก็มีเพียงใบหน้านิ่งเท่านั้น เรื่องนี้ทำเอาพนักงานบางคนถึงขั้นวิตกกังวลจนพานคิดมากว่าตัวเองกำลังจะถูกไล่ออกแต่ทว่าต้องยอมรับว่าอติกานต์ที่ดูอารมณ์ดีและเ
อติกานต์ตวัดเสื้อสูทของตนคุมร่างอ่อนปวกเปียกของหัวหน้าแผนกไอทีไว้จนมิดชิด เมื่อหันไปมองที่ผนังกระจกด้านที่สามารถมองออกไปเห็นวิวอาคารบ้านเรือนในเมืองหลวงจากมุมสูงได้ อติกานต์ก็พบว่าในตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว ลำแสงสีส้มแผ่บนท้องฟ้าแคบคงเรื่อย ๆ เมื่อพระอาทิตย์กำลังโคจรไปอีกด้านหนึ่งของโลกก่อนหน้านี้เขาสอนงานหัวหน้าแผนกไอทีอยู่นาน ทบทวนบททดสอบอยู่หลายครั้งจนนักเรียนคนเก่งเหนื่อยล้าเขาจึงพาไปนอนที่โซฟารับรองแขกภายในห้องแน่นอนว่าถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้ามาในห้องทำงานของผู้บริหาร หลังจากเลขาสาวโทรเข้ามาที่โต๊ะทำงานด้วยความห่วงใยว่าถึงเวลาเลิกงานแล้ว จะให้เธอเรียกคนขับรถ หรือไปซื้อยาแก้ปวดลดไข้มาให้หรือไม่อติกานต์ปฏิเสธความหวังดีนั้นไปอย่างไม่ต้องคิด นั่นเพราะเขาไม่ได้ป่วยจริง ที่เลขาของเขาเข้าใจไปแบบนั้นก็คงไม่พ้นเป็นฝีมือของเพื่อนสนิทตัวดีอย่างไดจิแต่เขาก็ต้องขอบคุณ ที่เรื่องโกหกของเพื่อนเขาส่งผลให้เลขาหน้าห้องของเขาเลื่อนตารางนัด ดักแฟ้มเอกสารและพนักงานฝ่ายต่าง ๆ ที่ต้องการเข้าพบออกไปก่อนทิพากรยังคงหลับสนิทจากความอ่อนเพลียร่างเปลือยเปล่าสวม
ท่ามกลางเสียงวุ่นวายของพนักงานออฟฟิศที่กลับมาขับเคลื่อนบริษัทของนักธุรกิจดาวรุ่งอีกครั้งซึ่งดังแว่วเข้ามาภายในห้องให้ได้ยินเป็นระยะ ๆ เงาร่างเลือนรางของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่นอกผนังกระจกฝ้าของห้องทำงานผู้บริหาร ยังไม่รวมประตูที่เจ้าของห้องไม่คิดจะล็อก แสงไฟภายในห้องที่สว่างเพียงพอตามมาตรฐานความสว่างในที่ทำงานทุกองค์ประกอบส่งผลให้หัวใจของทิพากรเต้นระรัว กลัวว่าจะถูกจับได้หากมีใครสักคนเข้ามาเห็นเข้า แต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าในความกลัวนั้นมีความตื่นเต้นแทรกอยู่มากพอสมควรเมื่อทิพากรอ้าปากรับความแข็งขืนของอติกานต์เข้าไปในโพรงปาก อีกฝ่ายก็หลับตาลงข่มอารมณ์จากสัมผัสอุ่นชื้น เสียงคำรามทุ้มต่ำในลำคอดังลอดออกมาเบา ๆ อติกานต์ยื่นมือไปวางไว้บนกลุ่มผมนุ่มขยุ้มมันเบา ๆ อย่างหาที่ระบายไม่ได้มีเพียงหัวหน้าแผนกไอทีคนเดียวที่ต้องข่มกลั้นเสียงแห่งราคะริมฝีปากเล็กยังคงทำหน้าที่ได้ดี ลิ้นนุ่มแลบเลียไปทั่วตัวตนของเขาราวกับเด็กน้อยได้ชิมไอศกรีมรสโปรด“อือ คุณทำได้ดีนี่” อติกานต์ตบแก้มตอบจากการดูดดุนตัวตนของเขาอย่างตั้งอกตั้งใจแรง ๆ ไปสองสามทีจนม
ความเงียบปกคลุมห้องทำงานส่วนตัวของผู้บริหารซึ่งล้อมด้วยผนังกระจกติดฟิล์มฝ้าถึงสามด้าน ไฟทุกดวงในห้องปิดลงแล้วหลังจากเจ้าของห้องออกไปทำธุระข้างนอกบริษัทตามที่ได้บอกเอาไว้เมื่ออติกานต์ก้าวเท้าออกจากประตู ทิพากรก็ก้าวตามออกมาด้วยเช่นกัน หากแต่จุดหมายเขาคือโต๊ะทำงานของตัวเอง อีกไม่กี่นาทีจะถึงเวลาพักเที่ยง ทิพากรจึงมีเวลาไม่มากสำหรับการคิดหาหนทางเข้าไปนั่งหมอบที่ใต้โต๊ะทำงานตัวใหญ่ตามที่อีกฝ่ายบอกไว้โดยที่ไม่ให้พนักงานคนอื่น ๆ สงสัยปากกาเจลสีน้ำเงินถูกหยิบขึ้นมาเขียนโน้ตแปะไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ว่าเจ้าของตำแหน่งหัวหน้าแผนกไอทีต้องออกไปทำธุระข้างนอกให้คุณกานต์ในช่วงบ่าย หลังจากที่เขาเอ่ยปฏิเสธคำชวนของสองสาวที่ชักชวนไปกินมื้อเที่ยงที่ร้านชาบูเปิดใหม่ถัดไปไม่ไกลจากตึกสำนักงานเมื่อพนักงานเบาบางลง ทิพากรคว้ากระเป๋าเอกสารแล้วเดินออกไปจากโต๊ะ เพื่อแสดงละครให้แนบเนียนว่าหัวหน้าแผนกไอทีผู้นี้ออกไปจากออฟฟิศแล้วจริง ๆ แต่ก่อนที่จะถึงหน้าลิฟต์ ทิพากรหันหลังไปมองพนักงานที่ยังเหลืออยู่ในออฟฟิศ ทุกคนง่วนอยู่กับเวลาพักกลางวันของตัวเอง บางกินข้าวกล่องที่ห่อมาบ้างก็หลับตางีบหลับ
“วันจันทร์หลังผมประชุมบอร์ดตอนเก้าโมงเสร็จ คุณเข้ามาพบผมที่ห้องทำงานด้วย เราจะมาตกลงรายละเอียดเรื่องของเรากัน”นั่นคือประโยคที่อติกานต์ทิ้งไว้หลังจากที่อีกฝ่ายขับรถมาส่งเขาถึงคอนโด การที่อติกานต์สามารถขับรถตรงมาที่คอนโดเขาได้โดยไม่เอ่ยถามทางสักคำทำให้ทิพากรตกใจอยู่พอสมควร แต่เมื่อพยายามคิดหาเหตุผล เขาก็ได้ข้อสรุปด้วยตัวเองว่า อติกานต์อาจจะเห็นที่อยู่ของเขาจากประวัติพนักงานก็ได้ตลอดวันหยุดทิพากรไม่ได้ออกไปไหน เขาใช้เวลาทั้งวันในการหวนนึกถึงเหตุการณ์ที่สตูดิโอ แม้จะไม่ชัดเจนนัก แต่เขาจำได้ทุกอย่าง ความดิบเถื่อนของอติกานต์ที่แสดงออกมาไม่ทำให้เขาหวาดกลัวเลยสักนิด กลับกันมันยิ่งทำให้เขารู้สึกใจเต้นระรัวทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์ที่สตูดิโอความรู้สึกถึงส่วนแข็งขึงที่ชนผนังคอหอยของเขาจนสำลักน้ำหูน้ำตาไหลยิ่งกระตุ้นความสุขของเขามากกว่าการสวมใส่ถุงน่องยามช่วยตัวเองเสียอีก เขาไม่คิดว่าเส้นแบ่งระหว่างพนักงานและเจ้านาย รวมถึงภาพชายหนุ่มธรรมดาสองคนที่เคยเดตกันด้วยความอ่อนโยนอบอุ่นในอดีตจะถูกทำลายลงเร็วขนาดนี้แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ยังรู้สึกตื่นเต้นกับวันจ
ทิพากรนั่งนิ่งมองดูอติกานต์ที่ค่อย ๆ ปลดเข็มขัดออก การขยับเคลื่อนไหวของมือใหญ่ตรงหน้าดูจะเชื่องช้าเหลือเกินในใจของคนที่ได้แต่นั่งดู ทั้งที่ดื่มไวน์แดงรสเลิศไปแล้วหลายอึก ทว่าทิพากรกลับรู้สึกคอแห้งจนต้องกลืนก้อนน้ำลายลงไปคอเพื่อดับความกระหายเมื่อซิปกางเกงถูกปลดลง ความปรารถนาในใจที่ถูกทำลายความยับยั้งลงไปด้วยแอลกอฮอล์จึงทำให้ทิพากรไม่สามารถอดใจตนเองได้ คนอยู่ต่ำกว่าจึงยื่นใบหน้าไปใกล้จนปลายจมูกชิดชั้นในสีดำสนิทของอติกานต์ ทิพากรส่งเสียงครางหวานออกมาเบา ๆ เมื่ออติกานต์เองก็ขยับเท้าเข้ามา ยิ่งทำให้ใบหน้าแนบชิดกับส่วนที่แข็งขึงภายในเนื้อผ้ายืดหยุ่นศีรษะของทิพากรถูกลูบเบา ๆ จากฝ่ามือร้อน กดน้ำหนักเล็กน้อยเพื่อให้ใบหน้าของนายแบบมือสมัครเล่นบดเบียดกับอวัยวะส่วนล่าง อีกฝ่ายถูไถใบหน้าไปมาอย่างหลงใหล การกระทำนั้นเรียกเสียงหัวเราะในลำคออย่างพอใจจากอติกานต์ ประทับใจจนต้องยกกล้องขึ้นมาบันทึกภาพความน่ารักเก็บเอาไว้“รู้จักอ้อนเป็นแมวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”อติกานต์รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ ในมุมนี้ทิพากรไม่ต่างอะไรกับแมวช่างอ้อนที่ชอบถูไถตัวกับแข่งขาเจ้าของ เ