“มีนคงไร้ค่ามากใช่ไหมคะในสายตาของคุณนนท์...”
น้ำตาเอ่อคลอหน่วยตา พยายามอย่างที่สุดเพื่อจะก้มหน้ารับสภาพที่น่าสังเวชจากน้ำมือของผู้ชายที่ตัวเองหลงรักหมดใจให้ได้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะยากเย็นเหลือเกินเพราะยิ่งหล่อนอ่อนแอ ยอมเขามากเท่าไหร่ รัชชานนท์ก็ยิ่งตอกย้ำความไร้ค่าของหล่อนด้วยวาจาเราะร้าย
“ม่าย... อย่าคิดว่าเธอไร้ค่านักสิ อย่างน้อยก็ควรจะดีใจที่เนื้อตัวของเธอยังขายทอดตลาดได้ตั้งสามแสนบาท...”
น้ำตาร่วงลงมาอาบแก้มนวล สาวน้อยกลั้นสะอื้นไว้สุดกำลังแต่ก็ไม่อาจจะเก็บมันเอาไว้ได้ ความเจ็บปวดที่รัชชานนท์สาดซัดเข้าใส่ทำให้หัวใจของหล่อนเลือดโซก ร่างบางที่ยืนนิ่งให้ชายหนุ่มที่มีร่างกายเป็นเทพบุตรแต่จิตใจเป็นอสูรกอดรัดอยู่เมื่อครู่นี้เริ่มดิ้นรน
“ปล่อยนะ... ปล่อยมีนเดี๋ยวนี้ ถ้าเกลียดกันนักจะมากอดกันทำไม...”
“ก็เพราะเกลียดยังไงล่ะ ถึงได้ทำอย่างนี้ ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกนะที่คิดจะจริงจังกับผู้หญิงน่ารังเกียจแบบเธอได้ นทิชา... เธอมันน่ารังเกียจ” ทุกคำพูดถูกบีบเค้นออกมาจากจิตวิญญาณ
“แต่ฉันก็ยังต้องการเนื้อตัวของเธอ ยังต้องการจะเข้าไปอยู่ในตัวเธอ อยากจะรู้นักว่าไอ้อดิเทพหน้าจืดมันยังจะต้องการเธออีกไหม หลังจากที่ฉันใช้งานร่างกายของเธอจนค่าเสื่อมติดลบ...”
ไอเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศชั้นดีไม่ได้ดับความร้อนรุ่มด้วยเพลิงแค้นในใจของรัชชานนท์ลงได้เลย เขาจ้องมองสตรีในอ้อมแขนผ่านเลนส์ดำของแว่นด้วยความรังเกียจ
แม้จะปฏิเสธไม่ออกก็ตามว่าเจ้าหล่อนงดงามอย่างน่าทึ่งแม้จะอยู่ในสภาพเสื้อตัวโคร่งกับกางเกงขายาวรุ่มร่าม แถมผมสีดำหยักศกที่ยาวถึงกลางหลังยังยุ่งเหยิงอย่างไม่น่าให้อภัยนั่นอีก
แต่เขาก็ต้องการหล่อน...
โอ้ให้ตายสิ หล่อนกำลังจะทำให้เขาคลั่ง แม้จะคิดว่าหล่อนคือสาเหตุที่ทำให้น้องสาวต้องจบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุในวันนั้น แต่นทิชาก็งดงามจนเขาไม่อาจจะต้านทานเสน่หาความเป็นหญิงที่พริ้มเพราได้อีกต่อไป
คืนนี้เขาจะจัดการให้หล่อนเป็นของเขาอย่างไม่มีข้อแม้... และจากนั้นก็จะทรมานหล่อนด้วยวิธีที่เขาเฝ้าคิดมาตลอดเวลาหลังจากที่เห็นหน้าหล่อนที่มหาวิทยาลัย
“คุณนนท์หยาบคาย...”
ดวงตากลมโตเบิกกว้างกับคำพูดที่ไม่มีมูลความจริงของเขา กำลังจะอ้าปากปฏิเสธ แต่ก็ต้องตกใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะใบหน้าหล่อกระชากลมหายใจของผู้ชายที่บอกเสมอว่ายังมองไม่เห็นก้มต่ำลงมาจนปลายจมูกโด่งเป็นสันของเขาชนเข้ากับแก้มนวลเข้าอย่างจัง
และประจุไฟฟ้ามากมายก็ลุกลามไปทั่วทั้งร่างกายจนสั่นสะท้าน เมื่อเขาประกบปากลงมาบดขยี้กลีบปากที่เผยอค้างของหล่อนด้วยความรุนแรง ปลายประสาทแข็งขึงจนแทบจะขาดผึงออกจากกัน
รสสัมผัสของรัชชานนท์นั้นเต็มไปด้วยความหิวกระหายที่ซ่อนเร้นและโทสะแรงกล้า ร่างบางถูกกอดรัดแนบแน่นจนอากาศก็ยากจะผ่านเข้าไปได้
หญิงสาวรู้สึกคล้ายกับตนเองลอยเคว้งอยู่นอกโลกกับความเร่าร้อนแผดเผาที่เขาเป็นคนก่อขึ้น และไม่ช้าร่างกายที่อ่อนด้อยประสบการณ์ก็ตอบสนองสัมผัสเจนจัดของคนตัวโตที่กำลังรุกรานทั้งปากและร่างกายของหล่อนอยู่ด้วยความเต็มอกเต็มใจ
“เธอหวานอย่างนี้นี่เอง... ไอ้อดิเทพมันถึงเลือกเธอ...”
ชายหนุ่มคำรามแทรกจุมพิต ใบหน้าดุดันน่าหวาดกลัว ขณะตะโบมจูบปากอิ่มที่เริ่มช้ำแล้วจากการบุกรุกที่ยาวนานของตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า ความร้อนผ่าวจากริมฝีปากหยักของเขาทำให้เลือดในกายสาวเดือดพล่าน ถาโถมทะลักเข้าใส่ราวกับคลื่นทะเลคลั่ง
“คุณนนท์...อย่า...”
ร่างกายสะดุ้งจนตัวกระตุกเมื่อปลายลิ้นร้อนจัดบุกทะลวงเข้าไปในอุ้งปากหวานฉ่ำ ความพยายามที่จะต่อต้านให้หยุดสุดท้ายถูกรัชชานนท์เตะโด่งมันออกนอกกรอบความคิดไปจนหมดสิ้น ร่างอรชรเริ่มตอบสนองความจัดเจนของชายหนุ่มด้วยความไร้ประสบการณ์
“อย่าทำเหมือนกับว่ามันคือจูบแรกสิสาวน้อย...”
ชายหนุ่มพูดเสียงพร่า เมื่อถอนปากออกจากกลีบปากของผู้หญิงที่หวานที่สุดเท่าที่เขาเคยสัมผัสมาตลอดชีวิตสามสิบห้าปีเลยทีเดียว
รัชชานนท์สูดลมหายใจเข้าปอดช้าๆ คล้ายกำลังจะรวบรวมสติที่มันเตลิดเปิดเปิงไปตั้งแต่ปลายลิ้นได้สัมผัสกับความหอมหวานน่าคลั่งไคล้ของสาวน้อยในอ้อมแขน
เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า... ศัตรูตัวจ้อยที่คล้ายกับไม่มีทางต่อสู้อย่างนทิชา จะซ่อนพิษสงมากมายไว้ในเรือนร่างอรชรน่ากินของเจ้าหล่อนเอง
แววตายิ้มเยาะในสายตาคมกล้าสีนิลระยับทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองช่างไม่ต่างอะไรไปจากเศษดินที่ปลิวมาติดปลายเท้าของเขาเท่านั้น แค่สลัดเท้าแรงๆ หล่อนก็จะหลุดออกจากวงโคจรของเขาไปอย่างง่ายดาย
“คุณนนท์ใจร้ายที่สุด... มีนไปทำอะไรให้คุณคะ ถึงได้ทำกันแบบนี้...”
น้ำตาไหลพรากอย่างน่าสงสาร แต่คำว่าสงสารไม่เคยมีอยู่ในหัวใจของรัชชานนท์แม้แต่น้อย หากมันเกี่ยวข้องกับนทิชา ชายหนุ่มแสยะยิ้มเย็นชา
“อย่าร้องไห้สิคนสวย... ผมยังไม่ได้เริ่มต้นเลย...”
นิ้วแกร่งที่แข็งราวกับคีมเหล็กตรึงปลายคางมนเอาไว้แน่น บังคับให้แหงนเงยขึ้นมองใบหน้าของเขา สาวน้อยพยายามสะบัดหน้าหนี แต่ทุกครั้งที่พยายามต่อต้าน แรงบีบที่ปลายคางก็เพิ่มขึ้นทุกขณะจนหล่อนเจ็บร้าวไปทั้งใบหน้า
“มีนเกลียดคุณนนท์...”
รัชชานนท์ระบายยิ้มเหี้ยมออกมา “งั้นก็เสมอกัน เพราะฉันก็เกลียดเธอไม่น้อยไปกว่านี้หรอก หรือบางทีอาจจะมากกว่าที่เธอรู้สึกก็ได้นะ คนสวย... เลิกคิดต่อต้านฉันได้แล้ว เพราะคืนนี้เธอจะต้องรองรับความดิบเถื่อนของฉันทั้งคืนอย่างแน่นอน...”
“แต่มีนไม่ใช่ทาสของคุณนนท์นะคะ คุณนนท์จะทำอย่างนี้กับมีนไม่ได้ มีนไม่ยอม..”
พูดได้แค่นั้น หญิงสาวก็ต้องอ่อนระทวย เมื่อจูบของเขาประทับลงที่ซอกคอ ดูดเม้ม ซอนไซร้อย่างรุนแรงราวกับต้องการให้เนื้อนวลเจ็บแสบกับการรุกรานที่หักหาญน้ำใจนั้น
รัชชานนท์ตัวเครียดเขม็ง เมื่อร่างกายกำยำของเขาคล้ายถูกตรึงด้วยความปรารถนาแรงกล้า ความหิวกระหายสั่งให้เขาทำมากกว่าการลูบไล้และจุมพิต
แต่ไม่หรอก เขาจะไม่ทำอะไรที่จะทำให้แม่ผู้หญิงใจร้ายคนนี้ล่วงรู้เด็ดขาด ว่าตัวหล่อนมีอิทธิพลกับเขามากแค่ไหน เขาจะไม่มีวันยอมให้หล่อนมีความสุขเพราะความคิดที่ว่าเขาต้องการหล่อนอย่างเด็ดขาด
“แต่เธอเป็นยิ่งกว่าทาสเสียอีก... นทิชา และต้องให้ฉันบอกไหมว่าเธอเป็นอะไร...”
ตอนที่ 1.ร่างสูงหกฟุตสามนิ้วยืนสงบนิ่งอยู่หน้าเจดีย์ของน้องสาวเพียงคนเดียวที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยสายตาอาลัยเศร้าหมอง ชุดสูทไร้ที่ติกลืนไปกับเส้นผมสีดำสนิทที่ถูกสายลมโชยพัดแผ่วๆ จนปรกหน้าผากไหล่กว้างซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวช่วยเน้นให้เห็นกล้ามเนื้อกำยำแสดงถึงความแข็งแรงและมีพละกำลังอย่างน่าทึ่ง แสงตะวันกล้ายามสนธยาที่อาบไร้ลงสู่พื้นเบื้องล่าง ช่วยเน้นรูปหน้าหล่อเข้มคมคายให้คล้ายกับหินสลักที่ไร้ชีวิตดวงตาสีนิลถูกห้อมล้อมด้วยขนตาดกดำเป็นประกายดุดันพร้อมจะฟาดฟันกับผู้ที่เป็นศัตรูให้ย่อยยับอย่างไม่ปรานี สันจมูกโด่งตรงช่วยเสริมให้ใบหน้าหล่อกระชากใจนั้นสมบูรณ์แบบราวกับถูกปั้นแต่งโดยจิตรกรเอกของโลกโหนกแก้มสูงและกรามสี่เหลี่ยมมีไรเคราเขียวครึ้มที่ทำให้เขาดูแกร่งกระด้าง น่ากลัว และต่ำลงไปกว่านั้นคือริมฝีปากหยักสีสดบางได้รูปที่ปราศจากรอยยิ้มแห่งความสุขมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ด้วยการกระทำที่น่ารังเกียจของหญิงชายคู่นั้นรัชชานนท์ วนิชเจริญกุล ทายาทที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของโรงแรมหรูห้าดาวในเครือ วนิชกรุ๊ป ชายหนุ่มสูญเสียบิดาและมารดาไปกับอุบัติเหตุบนท
ตอนที่ 2.ลำคอตีบตันรวดร้าวเพราะน้ำตาที่นทิชาพยายามสะกดกลั้นมันเอาไว้ หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าแค่หล่อนติดหนี้เขาเพียงแค่สามแสน ทำไมรัชชานนท์ถึงได้ใจร้ายกับหล่อนมากนัก ทำไมถึงต้องเหยียบย่ำศักดิ์ศรีกันมากมายขนาดนี้ทั้งๆ ที่ตอนแรกที่เขาเอ่ยปากบอกว่าจะจัดงานแต่งงานให้นั้น หล่อนคิดว่าเขาเริ่มรู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ผิดคาด เพราะนอกจากเขาจะตอกย้ำถึงจุดประสงค์ที่จัดงานแต่งแล้ว เขายังทำให้ความฝันของหล่อนที่มีเขาอยู่ในนั้นพังทลายลงอย่างไม่เหลือชิ้นดีหล่อนโง่เองที่หลงรักเขาอย่างหัวปักหัวปำ ปิดหูปิดตาไม่สนใจความจริงที่ชายหนุ่มแสดงออกมาอย่างไม่ปิดบังเวลาที่เผชิญหน้ากันว่ารังเกียจและขยะแขยงหล่อนเพียงไหนนทิชายกหลังมือขึ้นป้ายน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมาจากดวงตากลมโตที่ตอนนี้ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำใสๆ ที่มันจะไหลออกมาพร้อมๆ กับความเสียใจเสมอด้วยความรวดร้าว ถึงเวลาแล้วที่หล่อนควรจะต่อต้านเขาเสียที หล่อนจะไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างให้ผู้ชายที่ทั้งตาบอดและหัวใจบอดคนนี้ทำราวกับว่าหล่อนไม่มีหัวใจอีกแล้วหญิงสาวตลบผ้าม่านลงอย่างรวดเร็ว เมื่อรับรู้ถึงกระแสสายตาคมกล้าที่ถูกปิดบังด้วยแว่นตาสีดำแหงนเงยขึ้นมายังตำแหน่งที่
ตอนที่ 3.กลีบปากที่มีสีสันขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากไข้ลดลงเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ก่อนจะตัดสินใจยื่นมือไปจับลูกบิดทองเหลืองที่เย็นเฉียบพอๆ กับอุ้งมือของหล่อนแน่น และไม่ช้าประตูบานนั้นก็ถูกเปิดออกจนกว้างและอสูรร้ายที่นั่งอยู่บนรถเข็นตรงกลางห้องก็ปรากฏขึ้นแก่สายตารัชชานนท์ยังหล่อเหลาอย่างร้ายกาจเสมอในสายตาของหล่อน หญิงสาวไล่สายตาบนใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมที่ดูคล้ายกับรูปปั้นไร้ชีวิตของบุรุษตรงหน้าด้วยสายตาชื่นชมแม้ดวงตาคมกล้าที่หล่อนเคยได้พิศมองน้อยครั้งนักยังคงซ่อนอยู่ในเลนส์แว่นสีดำสนิท แต่แค่ปลายจมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากบางสีสดที่หยักได้รูปก็ทำให้ใบหน้าของรัชชานนท์สมบูรณ์แบบ หรือบางทีอาจจะพูดได้อย่างเต็มปากว่าชายหนุ่มช่างดูหล่อเหลาราวกับไม่ใช่คนจริงๆ เป็นรูปปั้นที่จิตกรฝีมือเอกบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาแต่เขามีเลือดเนื้อ... มีชีวิตจริงๆความปรารถนาในบางสิ่งบางอย่างระเบิดตูมครอบคลุมกายสาวในทันที และมันก็แผ่ซ่านมุ่งหน้าเข้าจู่โจมที่แก่นกลางลำตัวอย่างน่าละอายทำไมหล่อนถึงได้คิดอะไรบ้าบอ ไร้ยางอายแบบนี้ได้ทุกครั้ง ยามที่เผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้นะ...“คิดว่าต้องให้คนตาบอดอย่างฉันเดินไปเปิดประตู
ตอนที่ 4.“มีนคงไร้ค่ามากใช่ไหมคะในสายตาของคุณนนท์...”น้ำตาเอ่อคลอหน่วยตา พยายามอย่างที่สุดเพื่อจะก้มหน้ารับสภาพที่น่าสังเวชจากน้ำมือของผู้ชายที่ตัวเองหลงรักหมดใจให้ได้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะยากเย็นเหลือเกินเพราะยิ่งหล่อนอ่อนแอ ยอมเขามากเท่าไหร่ รัชชานนท์ก็ยิ่งตอกย้ำความไร้ค่าของหล่อนด้วยวาจาเราะร้าย“ม่าย... อย่าคิดว่าเธอไร้ค่านักสิ อย่างน้อยก็ควรจะดีใจที่เนื้อตัวของเธอยังขายทอดตลาดได้ตั้งสามแสนบาท...”น้ำตาร่วงลงมาอาบแก้มนวล สาวน้อยกลั้นสะอื้นไว้สุดกำลังแต่ก็ไม่อาจจะเก็บมันเอาไว้ได้ ความเจ็บปวดที่รัชชานนท์สาดซัดเข้าใส่ทำให้หัวใจของหล่อนเลือดโซก ร่างบางที่ยืนนิ่งให้ชายหนุ่มที่มีร่างกายเป็นเทพบุตรแต่จิตใจเป็นอสูรกอดรัดอยู่เมื่อครู่นี้เริ่มดิ้นรน“ปล่อยนะ... ปล่อยมีนเดี๋ยวนี้ ถ้าเกลียดกันนักจะมากอดกันทำไม...”“ก็เพราะเกลียดยังไงล่ะ ถึงได้ทำอย่างนี้ ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกนะที่คิดจะจริงจังกับผู้หญิงน่ารังเกียจแบบเธอได้ นทิชา... เธอมันน่ารังเกียจ” ทุกคำพูดถูกบีบเค้นออกมาจากจิตวิญญาณ“แต่ฉันก็ยังต้องการเนื้อตัวของเธอ ยังต้องการจะเข้าไปอยู่ในตัวเธอ อยากจะรู้นักว่าไอ้อดิเทพหน้าจืดมันยังจะต้องการ
ตอนที่ 3.กลีบปากที่มีสีสันขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากไข้ลดลงเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ก่อนจะตัดสินใจยื่นมือไปจับลูกบิดทองเหลืองที่เย็นเฉียบพอๆ กับอุ้งมือของหล่อนแน่น และไม่ช้าประตูบานนั้นก็ถูกเปิดออกจนกว้างและอสูรร้ายที่นั่งอยู่บนรถเข็นตรงกลางห้องก็ปรากฏขึ้นแก่สายตารัชชานนท์ยังหล่อเหลาอย่างร้ายกาจเสมอในสายตาของหล่อน หญิงสาวไล่สายตาบนใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมที่ดูคล้ายกับรูปปั้นไร้ชีวิตของบุรุษตรงหน้าด้วยสายตาชื่นชมแม้ดวงตาคมกล้าที่หล่อนเคยได้พิศมองน้อยครั้งนักยังคงซ่อนอยู่ในเลนส์แว่นสีดำสนิท แต่แค่ปลายจมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากบางสีสดที่หยักได้รูปก็ทำให้ใบหน้าของรัชชานนท์สมบูรณ์แบบ หรือบางทีอาจจะพูดได้อย่างเต็มปากว่าชายหนุ่มช่างดูหล่อเหลาราวกับไม่ใช่คนจริงๆ เป็นรูปปั้นที่จิตกรฝีมือเอกบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาแต่เขามีเลือดเนื้อ... มีชีวิตจริงๆความปรารถนาในบางสิ่งบางอย่างระเบิดตูมครอบคลุมกายสาวในทันที และมันก็แผ่ซ่านมุ่งหน้าเข้าจู่โจมที่แก่นกลางลำตัวอย่างน่าละอายทำไมหล่อนถึงได้คิดอะไรบ้าบอ ไร้ยางอายแบบนี้ได้ทุกครั้ง ยามที่เผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้นะ...“คิดว่าต้องให้คนตาบอดอย่างฉันเดินไปเปิดประตู
ตอนที่ 2.ลำคอตีบตันรวดร้าวเพราะน้ำตาที่นทิชาพยายามสะกดกลั้นมันเอาไว้ หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าแค่หล่อนติดหนี้เขาเพียงแค่สามแสน ทำไมรัชชานนท์ถึงได้ใจร้ายกับหล่อนมากนัก ทำไมถึงต้องเหยียบย่ำศักดิ์ศรีกันมากมายขนาดนี้ทั้งๆ ที่ตอนแรกที่เขาเอ่ยปากบอกว่าจะจัดงานแต่งงานให้นั้น หล่อนคิดว่าเขาเริ่มรู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ผิดคาด เพราะนอกจากเขาจะตอกย้ำถึงจุดประสงค์ที่จัดงานแต่งแล้ว เขายังทำให้ความฝันของหล่อนที่มีเขาอยู่ในนั้นพังทลายลงอย่างไม่เหลือชิ้นดีหล่อนโง่เองที่หลงรักเขาอย่างหัวปักหัวปำ ปิดหูปิดตาไม่สนใจความจริงที่ชายหนุ่มแสดงออกมาอย่างไม่ปิดบังเวลาที่เผชิญหน้ากันว่ารังเกียจและขยะแขยงหล่อนเพียงไหนนทิชายกหลังมือขึ้นป้ายน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมาจากดวงตากลมโตที่ตอนนี้ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำใสๆ ที่มันจะไหลออกมาพร้อมๆ กับความเสียใจเสมอด้วยความรวดร้าว ถึงเวลาแล้วที่หล่อนควรจะต่อต้านเขาเสียที หล่อนจะไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างให้ผู้ชายที่ทั้งตาบอดและหัวใจบอดคนนี้ทำราวกับว่าหล่อนไม่มีหัวใจอีกแล้วหญิงสาวตลบผ้าม่านลงอย่างรวดเร็ว เมื่อรับรู้ถึงกระแสสายตาคมกล้าที่ถูกปิดบังด้วยแว่นตาสีดำแหงนเงยขึ้นมายังตำแหน่งที่
ตอนที่ 1.ร่างสูงหกฟุตสามนิ้วยืนสงบนิ่งอยู่หน้าเจดีย์ของน้องสาวเพียงคนเดียวที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยสายตาอาลัยเศร้าหมอง ชุดสูทไร้ที่ติกลืนไปกับเส้นผมสีดำสนิทที่ถูกสายลมโชยพัดแผ่วๆ จนปรกหน้าผากไหล่กว้างซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวช่วยเน้นให้เห็นกล้ามเนื้อกำยำแสดงถึงความแข็งแรงและมีพละกำลังอย่างน่าทึ่ง แสงตะวันกล้ายามสนธยาที่อาบไร้ลงสู่พื้นเบื้องล่าง ช่วยเน้นรูปหน้าหล่อเข้มคมคายให้คล้ายกับหินสลักที่ไร้ชีวิตดวงตาสีนิลถูกห้อมล้อมด้วยขนตาดกดำเป็นประกายดุดันพร้อมจะฟาดฟันกับผู้ที่เป็นศัตรูให้ย่อยยับอย่างไม่ปรานี สันจมูกโด่งตรงช่วยเสริมให้ใบหน้าหล่อกระชากใจนั้นสมบูรณ์แบบราวกับถูกปั้นแต่งโดยจิตรกรเอกของโลกโหนกแก้มสูงและกรามสี่เหลี่ยมมีไรเคราเขียวครึ้มที่ทำให้เขาดูแกร่งกระด้าง น่ากลัว และต่ำลงไปกว่านั้นคือริมฝีปากหยักสีสดบางได้รูปที่ปราศจากรอยยิ้มแห่งความสุขมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ด้วยการกระทำที่น่ารังเกียจของหญิงชายคู่นั้นรัชชานนท์ วนิชเจริญกุล ทายาทที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของโรงแรมหรูห้าดาวในเครือ วนิชกรุ๊ป ชายหนุ่มสูญเสียบิดาและมารดาไปกับอุบัติเหตุบนท