กลีบปากที่มีสีสันขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากไข้ลดลงเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ก่อนจะตัดสินใจยื่นมือไปจับลูกบิดทองเหลืองที่เย็นเฉียบพอๆ กับอุ้งมือของหล่อนแน่น และไม่ช้าประตูบานนั้นก็ถูกเปิดออกจนกว้างและอสูรร้ายที่นั่งอยู่บนรถเข็นตรงกลางห้องก็ปรากฏขึ้นแก่สายตา
รัชชานนท์ยังหล่อเหลาอย่างร้ายกาจเสมอในสายตาของหล่อน หญิงสาวไล่สายตาบนใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมที่ดูคล้ายกับรูปปั้นไร้ชีวิตของบุรุษตรงหน้าด้วยสายตาชื่นชม
แม้ดวงตาคมกล้าที่หล่อนเคยได้พิศมองน้อยครั้งนักยังคงซ่อนอยู่ในเลนส์แว่นสีดำสนิท แต่แค่ปลายจมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากบางสีสดที่หยักได้รูปก็ทำให้ใบหน้าของรัชชานนท์สมบูรณ์แบบ หรือบางทีอาจจะพูดได้อย่างเต็มปากว่าชายหนุ่มช่างดูหล่อเหลาราวกับไม่ใช่คนจริงๆ เป็นรูปปั้นที่จิตกรฝีมือเอกบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมา
แต่เขามีเลือดเนื้อ... มีชีวิตจริงๆ
ความปรารถนาในบางสิ่งบางอย่างระเบิดตูมครอบคลุมกายสาวในทันที และมันก็แผ่ซ่านมุ่งหน้าเข้าจู่โจมที่แก่นกลางลำตัวอย่างน่าละอาย
ทำไมหล่อนถึงได้คิดอะไรบ้าบอ ไร้ยางอายแบบนี้ได้ทุกครั้ง ยามที่เผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้นะ...
“คิดว่าต้องให้คนตาบอดอย่างฉันเดินไปเปิดประตูให้ถึงจะยอมเข้ามา...”
นี่คือคำพูดคำแรกที่เขาทักขึ้น น้ำเสียงยังเย็นกระด้างไม่เคยเปลี่ยนแปลง
“คุณนนท์มีอะไรกับมีนหรือคะ ถึงได้...”
น้ำเสียงตะกุกตะกัก ขณะก้าวถอยหลังอย่างอัตโนมัติเมื่อรัชชานนท์ที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ใกล้หน้าต่างห้องขยับเข้ามาใกล้ ราวกับตาเห็น
ปฏิกิริยาเคมีระหว่างเขากับหล่อนทำไมมันถึงได้ตึงเครียดแบบนี้นะ และมันก็ทำให้หญิงสาวมึนงงสุดขีด เนื้อตัวร้อนผ่าวได้อย่างน่าหวาดกลัว
หล่อนจะต้องเก็บความรู้สึกที่มีต่อเขาให้ลึกมากกว่านี้ ต้องเก็บมันให้พ้นจากความรับรู้ของเขา...
“ผัวอยากจะเจอเมียต้องมีเรื่องอะไรด้วยหรือ...”
ชายหนุ่มระบายเสียงหัวเราะออกมาอย่างขบขัน แต่มันกลับทำให้หญิงสาวเย็นยะเยือกไปถึงไขสันหลัง หัวใจเต้นกระหน่ำแทบจะกระดอนออกมานอกทรวงอกกับคำพูดคำจาที่ตรงไปตรงมาของเขา
“ไม่ต้องถอยหนีหรอก เพราะฉันตาบอดแบบนี้จะไปทำอะไรเธอได้...”
หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก รู้สึกได้ถึงอันตรายที่เต้นเร่าอยู่ในบรรยากาศรอบตัว หล่อนไม่อาจจะล่วงรู้ได้เลยว่าชายหนุ่มคิดยังไง เมื่อดวงตาทั้งคู่ของเขาถูกปิดบังไว้ด้วยแว่นสีดำอย่างแน่นหนา แถมท่าทางของเขาทั้งหมดก็ถูกเคลือบทับไว้ด้วยความเย็นชา ห่างเหิน ไม่แยแสอย่างร้ายกาจ
“แต่คุณนนท์ทำเหมือนมองเห็นมีน... คุณนนท์รู้ว่ามีนอยู่ตรงไหน...”
เสียงหัวเราะคล้ายมาจากขุมนรกดังออกมาจากลำคอแกร่ง “ประสาทสัมผัสของคนเรามีตั้งหลายอย่าง เธออย่ามาตัดสินว่าคนตาบอดจะไม่มีทางรับรู้เรื่องใดๆ เพราะแม้ว่าจะมองไม่เห็น แต่กลิ่นและความเน่าเฟะของมันก็เข้ามาทางจมูกอยู่ดี...”
คิ้วโก่งที่ไร้การตกแต่งแต่งดงามราวกับถูกเขียนด้วยช่างฝีมือเอกระดับโลกขมวดเข้าหากัน “คุณนนท์ต้องการจะพูดอะไรกับมีนคะ...”
“ยังไม่ถึงเวลาหรอกเมียของฉัน...”
‘เมียของฉันเหรอ’
นี่เขาพูดคำนี้ออกมาได้เต็มปากได้ยังไง ในเมื่อการกระทำของเขาไม่ได้ตรงกับคำพูดเลยแม้แต่น้อย หล่อนมันก็แค่แม่พันธุ์ที่เตรียมไว้ผลิตลูกให้เขามากกว่า
“ฉันแค่ต้องการจะบอกให้เธอเตรียมตัวให้พร้อม สำหรับค่ำคืนนี้ของเรา...”
ใบหน้างามเต็มไปด้วยความตกใจ กลีบปากสีสดเผยอออกจากกันอยู่ในสภาพค้างเติ่ง ขณะที่สมองอันน้อยนิดของตัวเองเตลิดคิดไปไกลถึงสิ่งที่เขาจะทำกับหล่อนบนเตียงนอน และจากเจ้าความคิดที่ไปไกลสุดกู่นี้ก็ทำให้แก้มสาวที่ซีดเซียวอยู่เมื่อครู่ซับเลือดฝาดขึ้น
“หลังจากที่ฉันใจดี... ปล่อยให้เธอนอนหลับอย่างเป็นสุขมาตลอดหนึ่งอาทิตย์...”
เขาพูดช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำทั้งประโยค นทิชารู้สึกวูบวาบแปลกๆ ในช่องท้อง ทรวงอกอวบใหญ่คล้ายกับเบ่งขยายเต็มที่ กับคำพูดตรงไปตรงมาของรัชชานนท์
“เอ่อ... คือ... คุณนนท์...คือมีนอยาก...จะขอเวลา...” เอ่ยออกไปด้วยความหวาดหวั่น
รัชชานนท์หัวเราะออกมาคล้ายกับกำลังขบขัน ขณะเดินเข้ามาใกล้ขึ้นอีก สาวน้อยกำลังจะผละหนี แต่มือหนาสีแทนก็ตวัดรอบเอวดึงเอาร่างอรชรที่อวบอิ่มยิ่งนักเข้าไปกอดรัดแน่น พร้อมๆ กับก้มหน้าลงมาหา
หญิงสาวตกใจกับการกระทำถึงเนื้อถึงตัวของชายหนุ่มไม่น้อย “คุณ...นนท์... จะทำอะไรคะ...”
ถามออกไปด้วยความร้อนรน แม้จะหลงรักเขาหัวปักหัวปำ แต่หากจะให้ยอมนอนกับเขาโดยที่เขาไม่เห็นค่าล่ะก็ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่หล่อนต้องการ
แต่ในเมื่อหล่อนเลี่ยงไม่ได้... ก็ควรจะถ่วงเวลาให้ได้นานที่สุด
“ทำเป็นไม่เคยไปได้...”
มือหนาเลื่อนไปกุมสะโพกผายที่ซ่อนอยู่ในกางเกงขายาวผ้าฝ้าย ก่อนจะรั้งร่างอรชรให้สนิทแน่นมากขึ้น หญิงสาวรู้สึกหายใจไม่ออกกับสัมผัสของเรือนกายแข็งแกร่งทรงพลังที่แนบชิดเรือนกายนั้น
“อย่าทำอย่างนี้กับมีนเลยค่ะ คุณนนท์ ปล่อยมีน...”
หญิงสาวอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้กับคำพูดที่เต็มไปด้วยการอ้อนวอนของตนเองถึงทำให้เสียงหัวเราะคล้ายเย้ยหยันหลุดออกมาจากลำคอแกร่งของรัชชานนท์ได้
“อย่าดิ้นสิ เดี๋ยวครั้งแรกระหว่างเราจะไม่ได้ทำกันบนเตียง...”
เขาหัวเราะเสียงน่ากลัว ขณะจับร่างบางของหล่อนให้ถูไถ เสียดสีกับเนื้อตัวของเขามากยิ่งขึ้น และสาวน้อยก็แทบจะหายใจไม่ออก เมื่อหน้าท้องของหล่อนสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งที่พองใหญ่อยู่ที่หน้าขาของเขา
“คะ คุณ... นนท์...”
หญิงสาวตัวแข็งทื่อ ใบหน้างดงามแดงก่ำเป็นลูกตำลึงสด เมื่อสมองตีความหมายให้เรียบร้อยแล้วว่าสิ่งที่แข็งๆ ที่ดุนดันอยู่ที่หน้าท้องของหล่อนมันคือ...
“ทำไมล่ะ... ไม่ชอบมันหรือ... ฉันว่าเธอโปรดมันมากพอๆ กับการกินข้าวเลยแหละ จริงไหม...”
ชายหนุ่มนึกไปถึงผู้ชายอีกคนหนึ่ง ผู้ชายที่เขาเคียดแค้น
ไอ้อดิเทพ...!
“ทำไมคุณนนท์พูดกับมีนแบบนี้ล่ะคะ...”
แม้น้ำเสียงของสาวน้อยจะเต็มไปด้วยความเสียใจมากมายแค่ไหน แต่กระนั้นมันก็ไม่อาจจะปิดกั้นเสียงหัวเราะอย่างสะใจของรัชชานนท์ให้หยุดลงได้
“ทำไมล่ะ รับไม่ได้หรือไง”
รัชชานนท์กดสะโพกของหญิงสาวลงกับความแข็งขืนร้อนผ่าวของตนเองอย่างจงใจ ขณะมอบรอยยิ้มเพชฌฆาตให้กับสาวน้อยในอ้อมแขน
“จำไว้ ฉันซื้อตัวเธอมาเพื่อทำหน้าที่เป็นแม่พันธุ์ ดังนั้นฉันไม่สนหรอกว่าเธอจะรู้สึกยังไง เพราะถ้าฉันต้องการจะจูบเธอ จะจับลูบไล้เนื้อตัวของเธอ หรือแม้แต่จะจับเธอเปลื้องผ้าเพื่อมีเซ็กซ์ด้วย เธอก็ไม่มีสิทธิ์จะมาอุทธรณ์ใดๆ ทั้งนั้น เพราะสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันจะต้องทำให้ได้ และจะต้องทำมันให้เต็มที่ด้วย...”
ความร้อนผ่าวจากคำพูดประหัตประหารของเขาพุ่งขึ้นมาจากลำคอ และวิ่งมาตามเส้นเลือดมุ่งหน้าขึ้นมายังพวงแก้มนวลที่ซีดเผือดเพราะตกใจกับคำพูดน่ารังเกียจจากปากของเขาให้แดงก่ำ
ตอนที่ 4.“มีนคงไร้ค่ามากใช่ไหมคะในสายตาของคุณนนท์...”น้ำตาเอ่อคลอหน่วยตา พยายามอย่างที่สุดเพื่อจะก้มหน้ารับสภาพที่น่าสังเวชจากน้ำมือของผู้ชายที่ตัวเองหลงรักหมดใจให้ได้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะยากเย็นเหลือเกินเพราะยิ่งหล่อนอ่อนแอ ยอมเขามากเท่าไหร่ รัชชานนท์ก็ยิ่งตอกย้ำความไร้ค่าของหล่อนด้วยวาจาเราะร้าย“ม่าย... อย่าคิดว่าเธอไร้ค่านักสิ อย่างน้อยก็ควรจะดีใจที่เนื้อตัวของเธอยังขายทอดตลาดได้ตั้งสามแสนบาท...”น้ำตาร่วงลงมาอาบแก้มนวล สาวน้อยกลั้นสะอื้นไว้สุดกำลังแต่ก็ไม่อาจจะเก็บมันเอาไว้ได้ ความเจ็บปวดที่รัชชานนท์สาดซัดเข้าใส่ทำให้หัวใจของหล่อนเลือดโซก ร่างบางที่ยืนนิ่งให้ชายหนุ่มที่มีร่างกายเป็นเทพบุตรแต่จิตใจเป็นอสูรกอดรัดอยู่เมื่อครู่นี้เริ่มดิ้นรน“ปล่อยนะ... ปล่อยมีนเดี๋ยวนี้ ถ้าเกลียดกันนักจะมากอดกันทำไม...”“ก็เพราะเกลียดยังไงล่ะ ถึงได้ทำอย่างนี้ ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกนะที่คิดจะจริงจังกับผู้หญิงน่ารังเกียจแบบเธอได้ นทิชา... เธอมันน่ารังเกียจ” ทุกคำพูดถูกบีบเค้นออกมาจากจิตวิญญาณ“แต่ฉันก็ยังต้องการเนื้อตัวของเธอ ยังต้องการจะเข้าไปอยู่ในตัวเธอ อยากจะรู้นักว่าไอ้อดิเทพหน้าจืดมันยังจะต้องการ
ตอนที่ 1.ร่างสูงหกฟุตสามนิ้วยืนสงบนิ่งอยู่หน้าเจดีย์ของน้องสาวเพียงคนเดียวที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยสายตาอาลัยเศร้าหมอง ชุดสูทไร้ที่ติกลืนไปกับเส้นผมสีดำสนิทที่ถูกสายลมโชยพัดแผ่วๆ จนปรกหน้าผากไหล่กว้างซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวช่วยเน้นให้เห็นกล้ามเนื้อกำยำแสดงถึงความแข็งแรงและมีพละกำลังอย่างน่าทึ่ง แสงตะวันกล้ายามสนธยาที่อาบไร้ลงสู่พื้นเบื้องล่าง ช่วยเน้นรูปหน้าหล่อเข้มคมคายให้คล้ายกับหินสลักที่ไร้ชีวิตดวงตาสีนิลถูกห้อมล้อมด้วยขนตาดกดำเป็นประกายดุดันพร้อมจะฟาดฟันกับผู้ที่เป็นศัตรูให้ย่อยยับอย่างไม่ปรานี สันจมูกโด่งตรงช่วยเสริมให้ใบหน้าหล่อกระชากใจนั้นสมบูรณ์แบบราวกับถูกปั้นแต่งโดยจิตรกรเอกของโลกโหนกแก้มสูงและกรามสี่เหลี่ยมมีไรเคราเขียวครึ้มที่ทำให้เขาดูแกร่งกระด้าง น่ากลัว และต่ำลงไปกว่านั้นคือริมฝีปากหยักสีสดบางได้รูปที่ปราศจากรอยยิ้มแห่งความสุขมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ด้วยการกระทำที่น่ารังเกียจของหญิงชายคู่นั้นรัชชานนท์ วนิชเจริญกุล ทายาทที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของโรงแรมหรูห้าดาวในเครือ วนิชกรุ๊ป ชายหนุ่มสูญเสียบิดาและมารดาไปกับอุบัติเหตุบนท
ตอนที่ 2.ลำคอตีบตันรวดร้าวเพราะน้ำตาที่นทิชาพยายามสะกดกลั้นมันเอาไว้ หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าแค่หล่อนติดหนี้เขาเพียงแค่สามแสน ทำไมรัชชานนท์ถึงได้ใจร้ายกับหล่อนมากนัก ทำไมถึงต้องเหยียบย่ำศักดิ์ศรีกันมากมายขนาดนี้ทั้งๆ ที่ตอนแรกที่เขาเอ่ยปากบอกว่าจะจัดงานแต่งงานให้นั้น หล่อนคิดว่าเขาเริ่มรู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ผิดคาด เพราะนอกจากเขาจะตอกย้ำถึงจุดประสงค์ที่จัดงานแต่งแล้ว เขายังทำให้ความฝันของหล่อนที่มีเขาอยู่ในนั้นพังทลายลงอย่างไม่เหลือชิ้นดีหล่อนโง่เองที่หลงรักเขาอย่างหัวปักหัวปำ ปิดหูปิดตาไม่สนใจความจริงที่ชายหนุ่มแสดงออกมาอย่างไม่ปิดบังเวลาที่เผชิญหน้ากันว่ารังเกียจและขยะแขยงหล่อนเพียงไหนนทิชายกหลังมือขึ้นป้ายน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมาจากดวงตากลมโตที่ตอนนี้ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำใสๆ ที่มันจะไหลออกมาพร้อมๆ กับความเสียใจเสมอด้วยความรวดร้าว ถึงเวลาแล้วที่หล่อนควรจะต่อต้านเขาเสียที หล่อนจะไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างให้ผู้ชายที่ทั้งตาบอดและหัวใจบอดคนนี้ทำราวกับว่าหล่อนไม่มีหัวใจอีกแล้วหญิงสาวตลบผ้าม่านลงอย่างรวดเร็ว เมื่อรับรู้ถึงกระแสสายตาคมกล้าที่ถูกปิดบังด้วยแว่นตาสีดำแหงนเงยขึ้นมายังตำแหน่งที่
ตอนที่ 4.“มีนคงไร้ค่ามากใช่ไหมคะในสายตาของคุณนนท์...”น้ำตาเอ่อคลอหน่วยตา พยายามอย่างที่สุดเพื่อจะก้มหน้ารับสภาพที่น่าสังเวชจากน้ำมือของผู้ชายที่ตัวเองหลงรักหมดใจให้ได้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะยากเย็นเหลือเกินเพราะยิ่งหล่อนอ่อนแอ ยอมเขามากเท่าไหร่ รัชชานนท์ก็ยิ่งตอกย้ำความไร้ค่าของหล่อนด้วยวาจาเราะร้าย“ม่าย... อย่าคิดว่าเธอไร้ค่านักสิ อย่างน้อยก็ควรจะดีใจที่เนื้อตัวของเธอยังขายทอดตลาดได้ตั้งสามแสนบาท...”น้ำตาร่วงลงมาอาบแก้มนวล สาวน้อยกลั้นสะอื้นไว้สุดกำลังแต่ก็ไม่อาจจะเก็บมันเอาไว้ได้ ความเจ็บปวดที่รัชชานนท์สาดซัดเข้าใส่ทำให้หัวใจของหล่อนเลือดโซก ร่างบางที่ยืนนิ่งให้ชายหนุ่มที่มีร่างกายเป็นเทพบุตรแต่จิตใจเป็นอสูรกอดรัดอยู่เมื่อครู่นี้เริ่มดิ้นรน“ปล่อยนะ... ปล่อยมีนเดี๋ยวนี้ ถ้าเกลียดกันนักจะมากอดกันทำไม...”“ก็เพราะเกลียดยังไงล่ะ ถึงได้ทำอย่างนี้ ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกนะที่คิดจะจริงจังกับผู้หญิงน่ารังเกียจแบบเธอได้ นทิชา... เธอมันน่ารังเกียจ” ทุกคำพูดถูกบีบเค้นออกมาจากจิตวิญญาณ“แต่ฉันก็ยังต้องการเนื้อตัวของเธอ ยังต้องการจะเข้าไปอยู่ในตัวเธอ อยากจะรู้นักว่าไอ้อดิเทพหน้าจืดมันยังจะต้องการ
ตอนที่ 3.กลีบปากที่มีสีสันขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากไข้ลดลงเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ก่อนจะตัดสินใจยื่นมือไปจับลูกบิดทองเหลืองที่เย็นเฉียบพอๆ กับอุ้งมือของหล่อนแน่น และไม่ช้าประตูบานนั้นก็ถูกเปิดออกจนกว้างและอสูรร้ายที่นั่งอยู่บนรถเข็นตรงกลางห้องก็ปรากฏขึ้นแก่สายตารัชชานนท์ยังหล่อเหลาอย่างร้ายกาจเสมอในสายตาของหล่อน หญิงสาวไล่สายตาบนใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมที่ดูคล้ายกับรูปปั้นไร้ชีวิตของบุรุษตรงหน้าด้วยสายตาชื่นชมแม้ดวงตาคมกล้าที่หล่อนเคยได้พิศมองน้อยครั้งนักยังคงซ่อนอยู่ในเลนส์แว่นสีดำสนิท แต่แค่ปลายจมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากบางสีสดที่หยักได้รูปก็ทำให้ใบหน้าของรัชชานนท์สมบูรณ์แบบ หรือบางทีอาจจะพูดได้อย่างเต็มปากว่าชายหนุ่มช่างดูหล่อเหลาราวกับไม่ใช่คนจริงๆ เป็นรูปปั้นที่จิตกรฝีมือเอกบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาแต่เขามีเลือดเนื้อ... มีชีวิตจริงๆความปรารถนาในบางสิ่งบางอย่างระเบิดตูมครอบคลุมกายสาวในทันที และมันก็แผ่ซ่านมุ่งหน้าเข้าจู่โจมที่แก่นกลางลำตัวอย่างน่าละอายทำไมหล่อนถึงได้คิดอะไรบ้าบอ ไร้ยางอายแบบนี้ได้ทุกครั้ง ยามที่เผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้นะ...“คิดว่าต้องให้คนตาบอดอย่างฉันเดินไปเปิดประตู
ตอนที่ 2.ลำคอตีบตันรวดร้าวเพราะน้ำตาที่นทิชาพยายามสะกดกลั้นมันเอาไว้ หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าแค่หล่อนติดหนี้เขาเพียงแค่สามแสน ทำไมรัชชานนท์ถึงได้ใจร้ายกับหล่อนมากนัก ทำไมถึงต้องเหยียบย่ำศักดิ์ศรีกันมากมายขนาดนี้ทั้งๆ ที่ตอนแรกที่เขาเอ่ยปากบอกว่าจะจัดงานแต่งงานให้นั้น หล่อนคิดว่าเขาเริ่มรู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ผิดคาด เพราะนอกจากเขาจะตอกย้ำถึงจุดประสงค์ที่จัดงานแต่งแล้ว เขายังทำให้ความฝันของหล่อนที่มีเขาอยู่ในนั้นพังทลายลงอย่างไม่เหลือชิ้นดีหล่อนโง่เองที่หลงรักเขาอย่างหัวปักหัวปำ ปิดหูปิดตาไม่สนใจความจริงที่ชายหนุ่มแสดงออกมาอย่างไม่ปิดบังเวลาที่เผชิญหน้ากันว่ารังเกียจและขยะแขยงหล่อนเพียงไหนนทิชายกหลังมือขึ้นป้ายน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมาจากดวงตากลมโตที่ตอนนี้ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำใสๆ ที่มันจะไหลออกมาพร้อมๆ กับความเสียใจเสมอด้วยความรวดร้าว ถึงเวลาแล้วที่หล่อนควรจะต่อต้านเขาเสียที หล่อนจะไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างให้ผู้ชายที่ทั้งตาบอดและหัวใจบอดคนนี้ทำราวกับว่าหล่อนไม่มีหัวใจอีกแล้วหญิงสาวตลบผ้าม่านลงอย่างรวดเร็ว เมื่อรับรู้ถึงกระแสสายตาคมกล้าที่ถูกปิดบังด้วยแว่นตาสีดำแหงนเงยขึ้นมายังตำแหน่งที่
ตอนที่ 1.ร่างสูงหกฟุตสามนิ้วยืนสงบนิ่งอยู่หน้าเจดีย์ของน้องสาวเพียงคนเดียวที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยสายตาอาลัยเศร้าหมอง ชุดสูทไร้ที่ติกลืนไปกับเส้นผมสีดำสนิทที่ถูกสายลมโชยพัดแผ่วๆ จนปรกหน้าผากไหล่กว้างซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวช่วยเน้นให้เห็นกล้ามเนื้อกำยำแสดงถึงความแข็งแรงและมีพละกำลังอย่างน่าทึ่ง แสงตะวันกล้ายามสนธยาที่อาบไร้ลงสู่พื้นเบื้องล่าง ช่วยเน้นรูปหน้าหล่อเข้มคมคายให้คล้ายกับหินสลักที่ไร้ชีวิตดวงตาสีนิลถูกห้อมล้อมด้วยขนตาดกดำเป็นประกายดุดันพร้อมจะฟาดฟันกับผู้ที่เป็นศัตรูให้ย่อยยับอย่างไม่ปรานี สันจมูกโด่งตรงช่วยเสริมให้ใบหน้าหล่อกระชากใจนั้นสมบูรณ์แบบราวกับถูกปั้นแต่งโดยจิตรกรเอกของโลกโหนกแก้มสูงและกรามสี่เหลี่ยมมีไรเคราเขียวครึ้มที่ทำให้เขาดูแกร่งกระด้าง น่ากลัว และต่ำลงไปกว่านั้นคือริมฝีปากหยักสีสดบางได้รูปที่ปราศจากรอยยิ้มแห่งความสุขมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ด้วยการกระทำที่น่ารังเกียจของหญิงชายคู่นั้นรัชชานนท์ วนิชเจริญกุล ทายาทที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของโรงแรมหรูห้าดาวในเครือ วนิชกรุ๊ป ชายหนุ่มสูญเสียบิดาและมารดาไปกับอุบัติเหตุบนท