เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวันและนีน่าลงมาชั้นล่าง แมรี่อดไม่ได้ที่จะขึ้นไปตรวจสอบ เธอรีบก้มหน้าลงมาทันที “แอริ แม่สาวนีน่า โมแรน นั่นมาที่นี่เพื่อแย่งผู้ชายของเธอหรือเปล่า? เป็นเรื่องที่น่าให้อภัยถ้าเธออาบน้ำในห้อง แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อเธอนอนบนเตียงโดยที่ไม่ได้ห่ออะไรเลยนอกจากผ้าเช็ดตัว? ตลอดหลายปีที่ฉันทำงานให้กับเหล่าเทรมอนต์ ฉันไม่เคยเจอผู้หญิงที่ไม่สุภาพเท่านี้มาก่อน! เธอถึงขนาดใช้ผ้าขนหนูของคุณชาย! น่ารังเกียจ! ฉันจะทิ้งทุกอย่างหลังจากนี้!”แอเรียนขมวดคิ้ว เธอจะโกหกถ้าเธอบอกว่าเธอไม่รังเกียจ แม้ว่าจะไม่ใช่ห้องของมาร์ค แต่ก็ยังเป็นห้องส่วนตัวของเธอ เธอคงรังเกียจคนแปลกหน้าที่ใช้ห้องน้ำและเตียงของเธอรวมทั้งการนอนในผ้าขนหนู ยิ่งไปกว่านั้นเธอรู้สึกหดหู่มากขึ้นเมื่อนึกถึงมาร์คที่สวมผ้าขนหนูผืนนั้น เขาเคยใช้มัน ถึงแม้จะซักแล้ว มันก็ยังคง ...“แมรี่ ไปปลุกนีน่าขึ้นมาเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน เธอต้องลุกขึ้น และให้เธอนอนในห้องนอนรับแขกหลังอาหารกลางวัน ทำความสะอาดห้องนอนใหญ่หลังจากนี้ เปลี่ยนชุดเครื่องนอนทั้งหมด หนูกลัวว่ามาร์คจะไม่มีความสุขถ้าเขากลับมาแล้วรู้ว่ามีคนอื่นเข้าไปในห้อง”แอเรียนร
นีน่าพึมพำข้อตกลงและไปที่ห้องครัวเพื่อรับประทานอาหาร หลังจากนั้นเธอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปแม่รี่บ่นขณะที่เธอทำความสะอาดห้องนอนใหญ่ ในขณะที่แอเรียนนอนลง เธอรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างไม่น่าเชื่อ เธอเคยเกลียดการนอนบนเตียงนี้ แต่ตอนนี้เธอไม่คาดคิดว่าจะเคยชินกับมันไม่มีใครรู้ว่านานแค่ไหนที่เสียงดังขึ้นมาจากชั้นล่าง มีเสียงประตูกระแทกและเสียงคลิ๊กแคร็กของส้นรองเท้าที่กระแทกกับพื้น แอเรียนตื่นขึ้นมาพร้อมกับรู้สึกว่าหัวของเธอยุ่งเหยิง ไม่สบอารมณ์เมื่อเธอตรวจดูเวลาและเห็นว่ามันเป็นเวลาตีสี่ในตอนเช้า...เธอไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่านีน่ากลับมาแล้ว ไม่ใช่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ได้ เธอไม่สามารถแสดงแม้แต่อารมณ์ฉุนเฉียวออกมาได้ คลุมหัวของเธอแล้วกลับไปหลับต่อเธอตื่นนอนตอนสิบโมงเช้าของวันถัดไป และแมรี่ก็บ่นกับเธอทันทีที่เธอตื่น “นีน่ากลับมาตอนตีสี่ และเธอเมามาก เธออาเจียนตลอดทาง ชั้นล่าง บันได ทุกที่ มันน่ารังเกียจ นายท่านจะต้องโวยวายถ้าท่านรู้เรื่องนี้เมื่อท่านกลับมา ฉันไม่รู้ว่าเธอจะอยู่ที่นี่อีกนานเท่าไร แต่พวกเรากำลังจะบ้าถ้าเธอยังคงทำแบบนี้ต่อไป”พ่อบ้านเฮนรี่ ผู้ที่ปกติจะเอาแต่เงียบ ก็บอกสิ่งที่คาดไม่
“วันนี้ลมแรง อย่ายืนอยู่ตรงนี้ กลับไปนอนเถอะ แล้วบอกให้แมรี่นำอาหารไปเสิร์ฟให้เธอที่ห้อง” มาร์คเดินไปหาแอเรียนและยัดเจ้าข้าวปั่นไว้ในอ้อมแขนของเธอแอเรียนตะลึงอีกครั้ง เขาไม่อนุญาตให้เธอรับประทานอาหารในห้องโดยอ้างถึงมารยาทที่ไม่เหมาะสมในอดีต แต่ตอนนี้เขากลับเป็นคนชวนก่อนในอารมณ์ชั่ววูบ แอเรียนถามขึ้น “สามารถให้ข้าวปั้นเข้ามาในห้องได้ไหม? มันไม่ได้เห็นฉันเลยตลอดทั้งวัน ฉันกลัวว่า...”มาร์คเดินช้าลง “อย่าขอมากเกินไป ถ้าผมเห็นมัน ผมจะเอามันไปทิ้ง”น้ำเสียงของเขาไม่ได้เข้มงวด แต่ฟังดูสบาย ๆ แอเรียนยิ้มกว้าง หมายความว่าเธอสามารถนำมันเข้ามาได้ตราบใดที่เขาไม่เห็นมันใช่ไหม?แอเรียนทานอาหารไม่ได้เพราะความระมัดระวังตัว มันไม่เหมือนกับว่าเธอขยับไม่ได้นีน่าพูดคุยอยู่บนโต๊ะอาหารเย็นไม่หยุดหย่อน “มาร์ค คุณยังเหมือนเดิมทั้งที่ผ่านไปหลายปี ฉันคิดว่าเมื่อผู้ชายอายุสามสิบจะอ้วนน่าเกลียด แต่คุณกลับตรงกันข้าม กลับยังคงมีเสน่ห์เหมือนเดิมแม้ว่าคุณจะแต่งงานแล้วก็ตาม ฉันเคยพบผู้ชายที่หล่อเหล่ามากมายที่ต่างประเทศแต่ไม่มีใครน่าสนใจเท่ากับคุณสำหรับฉัน”มันฟังดูเหมือนเป็นเรื่องตลกและมาร์คก็ไม่สนิทกับนีน่
ประตูถูกเปิดขึ้นในวินาทีถัดมา และดังที่คาดมาร์คปรากฏตัวขึ้นแอเรียนก้มศีรษะลงด้วยความรู้สึกผิด แก้มของเธอขึ้นสีแดงระเรื่อจากความกังวลของเธอ และหัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้น โชคดีที่เจ้าข้าวปั้นไม่ได้ขยับดูเหมือนมาร์คจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ แม้ว่าจะไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ แต่เขาก็ยังยิ้มและถามเธอ “คุณรู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม?”ในตอนนี้แอเรียนรู้สึกหงุดหงิด เธอไม่สามารถเป็นทุกข์เป็นร้อนเกี่ยวกับสิ่งที่ขัดหูขัดตาระหว่างพวกเขา “ไม่ ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก ฉันคิดว่าฉันจะสบายดีพอที่จะกลับไปทำงานในวันพรุ่งนี้” เธอตอบเรียบ ๆมาร์คเริ่มไม่พอใจ “หยุดล้อเล่น คุณควรจะพักผ่อนอยู่ที่บ้านอย่างน้อยหนึ่งเดือน อย่าทำให้ผมโกรธในอนาคต มันไม่เป็นผลดีกับคุณ อย่าเพิ่ง...เรียนรู้วิธีที่ทำให้ผมชอบผู้หญิงคนอื่นได้ไหม?”แอเรียนเงยหน้าของเธอขึ้นสบตากับเขา “ชอบใครคะ? เอริ คินซีย์?”เขากลั้นหายใจ ใบหน้าของเขาหม่นลง เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าและไม่สนใจเธอ แอเรียนสามารถทำให้เขารำคาญได้เสมอทุกที่ทุกเวลาเมื่อมาร์คเปลี่ยนเป็นชุดนอนสบาย ๆ และกำลังจะเข้านอน ทันใดนั้นแอเรียนก็จับผ้าห่มแน่นและหยุดเขา “อืม... คะ...คุณช่วยลงไปข้างล่างแล้วเอาของม
แอเรียนหน้าแดงขึ้นทันที ทำไมเธอถึงสงสัยว่าเขากำลังอ้างถึงอย่างอื่น? นี่เขากำลังพูดเรื่องตลกทะลึ่งหรือเปล่า?เพื่อกำจัดบรรยากาศแปลก ๆ ให้หายไป เธอเปิดปากของเธอและกัด เธอกลืนอาหารลงไปด้วยความยากลำบาก “ฉันกัดอีกไม่ได้แล้ว เอาไปทิ้งได้ไหมคะ? ผลไม้จะทิ้งกลิ่นเอาไว้ที่นี่”ดวงตาของมาร์คจ้องมองไปที่ริมฝีปากที่สั่นเล็กน้อยของเธอ ทันใดนั้นเขาก็โน้มตัวลงไปจูบที่ริมฝีปากของเธอแอเรียนได้ยินเสียงวิ๊ง ๆ ในหัวของเธอดังนั้น เขาทำอะไรลงไป! พวกเขายังคงมีมีปัญหามากมายที่ยังไม่ได้แก้ไขมากมายระหว่างพวกเขา ไม่ว่าศัตรูเมื่อเห็นกันจะรู้สึกถูกทำให้รำคาญหรอกเหรอ? ทำไมเขาถึงจูบเธอ?“อืม... ไม่...” เธอพยายามขัดขืนเขา ทันทีที่เธอเปิดปากของเธอเขาก็ฉวยโอกาส เขากดร่างของเขาไว้กับเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี มีเพียงชั้นของผ้าห่มกั้นระหว่างร่างกายของพวกเขาเอาไว้ เธอขยับเขยื้อนไม่ได้แม้แต่นิ้วเดียวภายใต้ร่างของเขา แต่แน่นอนเขาไม่ได้ทิ้งน้ำหนักทั้งตัวลงที่เธอ เธอไม่ได้ตอบโต้ทั้งอดทนต่อการกระทำของเขา ความคิดของเธอค่อย ๆ ว่างเปล่าเนื่องจากขาดออกซิเจน ทันใดนั้นเจ้าข้าวปั้นก็โผล่ออกมาจากผ้าห่ม “เหมียว!!”มาร์คตัวแข็ง
แอเรียนยืนหลังตรงและถามห้วน ๆ ว่า “คุณหวังว่าจะได้รับอะไรจากการที่บอกเรื่องทั้งหมดนี้กับฉันเหรอ? คุณเองก็รู้จักมาร์คผ่านทางคุณพ่อของคุณทั้งคู่เท่านั้น ฉันไม่คิดว่ามันเป็นหน้าที่ของคุณที่จะพูดเรื่องนี้ การแต่งงานของเราไม่เกี่ยวกับคุณ คุณก้าวก่ายมากเกินไปแล้วนะคะคุณมอร์แรน”นีน่ายิ้มและเดินกลับไปยังห้องนอนของเธอโดยไม่พูดอะไรอีกแอเรียนผลักประตูและเข้าไปในห้องนอน มาร์คดูเหมือนว่าจะหลับสนิทไปแล้วเพราะภายในห้องเงียบสนิทเธอนอนลงอย่างเงียบ ๆ ด้วยจิตใจที่สับสนวุ่นวาย ทุกครั้งที่มีคนพูดถึงเรื่องเครื่องบินตก เธอจะรู้สึกหายใจไม่ออกจากแรงกดดันอย่างท่วมท้น มันกระตุ้นความปรารถนาของเธอที่ต้องการจะพบกับคุณสโลนโดยเร็วที่สุดเพื่อเธอจะได้เปิดเผยความจริงเช้าวันรุ่งขึ้น มาร์คพร้อมที่จะออกไปข้างนอกนีน่ารีบวิ่งออกมาจากห้องของเธออย่างรีบร้อน “มาร์ค! ฉันจะออกไปข้างนอกเหมือนกัน! ให้ฉันไปด้วย! ฉันขี้เกียจขับรถ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้นแอเรียนก็รีบกระโดดลงจากเตียงและเปิดประตูห้องให้เปิดออกเล็กน้อยเพื่อสังเกตสถานการณ์อย่างรอบคอบมาร์คไม่ได้ปฏิเสธ แต่ถามขึ้นว่า “คุณจะไปไหน? ผมจะดูว่าเราไปทางเดียวกันหรือไม่? ถ
ในตอนบ่ายมาร์คกลับมาพร้อมกับนีน่า ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังกลับมาเร็วกว่าปกติอีกด้วย มันยังไม่ถึงเวลาที่มาร์คจะเลิกงาน มาร์คมักจะเข้มงวดในการทำงานเสมอ เขาจะไม่กลับบ้านเร็วนอกจากจะอยู่ภายใต้สถานการณ์พิเศษนีน่าถือข้าวของถุงใหญ่และถุงเล็ก มือของมาร์คก็เต็มไปด้วยเช่นกัน ทันทีที่นีน่าผ่านประตูเข้ามา เธอก็ตะโกนขอความช่วยเหลือ “แมรี่มาช่วยถือของพวกนี้ที!”แมรี่เดินออกมาจากห้องครัวช้า ๆ เมื่อเธอเห็นข้าวของเธอกล่าวว่า “ที่บ้านไม่ได้ขาดของเหล่านี้ ทำไมถึงซื้อมาเยอะแบบนี้?”นีน่ายิ้มให้เธอ “ฉันไม่ต้องการเอาเปรียบ! ฉันคงรู้สึกไม่ดีที่ทำแบบนั้นถ้าฉันอยู่ที่นี่นาน ๆ ของพวกนี้คือสิ่งที่มาร์คและฉันชื่นชอบ ดังนั้นใช้ของพวกนี้ในอาหารมื้อเย็นในคืนนี้”เมื่อเห็นว่ามาร์คไม่ได้พูดอะไร แมรี่จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเอาของทั้งหมดเข้าไปเก็บในครัวแม้จะได้ยินเสียงวุ่นวายที่ด้านล่าง แอเรียนก็ไม่ได้พยายามไปมีส่วนร่วม เธออ่านหนังสือของเธอบนเตียงต่อไป เมื่อเธอได้ยินเสียงมาร์คเดินขึ้นมาชั้นบน เธอเคลื่อนย้ายเจ้าข้าวปั้นที่อยู่ใต้ผ้าห่มไปที่พรม“วันนี้คุณรู้สึกดีขึ้นหรือยัง?” มาร์คถามทันทีที่เข้ามา“ดีขึ้นทีเ
มาร์คยิ้มจาง ๆ “เธอสุขภาพไม่ดี ไม่ต้องเป็นห่วงเธอและทานอาหารของคุณไปเถอะ”นีน่าตักอาหารใส่ชามของมาร์ค “นี่ ลองชิมดู คุณเคยชอบกินแบบนี้ ฉันขอให้เชฟทำให้คุณโดยเฉพาะ อีกเรื่องหนึ่ง ทำไมแอเรียนถึงสุขภาพไม่ดีล่ะ? เธอดูอ่อนแอ และฉันได้ยินว่าเธอเพิ่งออกจากโรพยาบาล เกิดอะไรขึ้น?”ความสับสนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของมาร์ค “เธอมีเลือดออกมาหลังจากการแท้งลูก มันเป็นความประมาทในส่วนของผม แต่โชคดีที่ตอนนี้เธอไม่เป็นอะไรแล้ว”นีน่าแลบลิ้นออกมา “ดูเหมือนว่าฉันถามอะไรที่ฉันไม่ควรถาม ฉันขอโทษ อีกอย่างหนึ่งถ้าฉันขอถามว่าคุณแต่งงานกับเธออย่างไร? ฉันได้ยินมาจากพ่อว่าเธอเป็นเด็กกำพร้าที่คุณรับมาในตอนนั้น เป็นความผิดของพ่อของเธอที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่คร่าชีวิตครอบครัวของคุณ ฉันอยากรู้อยากเห็นนิดหน่อย ทำไมคุณเลือกที่จะอยู่กับเธอ? ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนใจดีดังนั้นจึงไม่มีอะไรผิดที่พาเธอเข้ามา อย่างไรก็ตามจากสถานะทางสังคมของคุณ ฉันจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าคุณทั้งคู่มาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร...”มาร์คกำมือแน่นและใบหน้าของเขาปราศจากความเป็นมิตรไปเล็กน้อย “กินข้าวไปเถอะ อาหารจะเย็นหมดแล้ว ช่วงนี้ผมยุ่งมากจึงไม่มีเว