แจ็คสันหัวเราะ “ผมไม่กล้าหรอก ผมจะกล้าเรียกพี่สะใภ้ผมอย่างนั้นได้อย่างไร? ผมแค่เปรียบเทียบเฉย ๆ ผมไม่ได้ว่าใครทั้งนั้น อย่าใส่ร้ายผมสิ”แอเรียนพูดไม่ออกชั่วขณะ “เอ้ แจ็คสัน เมื่อกี่ทิฟฟานี่บ่นว่าเธอจะเป็นบ้าเพราะความสามารถในการทำอาหารของเธอมันแย่มาก เธอคิดถึงคุณและอยากเจอคุณจะแย่แล้ว” ทิฟฟานี่ตัดสายวีดีโอคอลทันทีและกอดแอเรียนด้วยความเขินอาย “อย่าพูดแบบนั้น! ฉันเขินนะ! ฉันไม่ได้คิดถึงเขาสักหน่อย!”แอเรียนหัวเราะจนหัวโยก “เธอคิดถึงเขา! มันเป็นความผิดของเธอที่หันกล้องมาทางฉัน มือฉันมันแพลบไปหมดและฉันก็ยังถือกุ้งอยู่ด้วย ฉันเสียศักดิ์ศรีไม่ได้ แม้ต่อหน้าเพื่อนสนิทอย่างแจ้คสันก็ตาม เธอเริ่มก่อนนะ!”ณ คฤหาสน์ เทรมอนต์ แจ็คสันหันไปหามาร์คผู้ซึ่งนั่งข้าง ๆ เขา “นายเห็นแอเรียนไหม? ฉันว่านายไปหาเธอได้แล้ว ไม่อย่างนั้น ทิฟฟานี่อาจจะคิดว่าฉันแค่คบกับเขาเพื่อให้นายสามารถเข้าถึงแอเรียนได้ง่ายขึ้น… มันไม่ยุติธรรมกับฉันนะ…”มาร์คส่ายหัว “ยัง ฉันไม่สามารถวางใจได้หากอีธานยังคงมีชีวิตอยู่”แจ็คสันจริงจังขึ้น “ฉันส่งคนไปจัดการแล้ว การจัดการเรื่องแบบนี้ในต่างประเทศเป็นเรื่องที่มีความท้าทายมาก นายก็ร
”พวกคุณอยากกินอะไร? สั่งพร้อมกันเลยไหมคะ? แค่บอกมาว่าพวกคุณไม่อยากกินอะไรแล้วหนูจะไม่สั่ง” จู่ ๆ ธัญญ่าพูดแทรกขึ้นมาจู่ ๆ แอเรียนก็มีความคิดขึ้นมาว่า “เดี๋ยวฉันจัดการเอง เราจะกินเลี้ยงกัน”แอเรียนไม่อยากกินอาหารตามสั่งน่าเบื่อ ๆ อีกต่อไป เธอเบื่อที่จะกินอาหารเดิม ๆ ทุกวัน ในเมื่อแจ็คสันกลับมาวันนี้ เธอจึงสามารถสั่งอาหารเที่ยงจากร้านเขาก็ได้ ไหน ๆ เธอก็มีเบอร์ร้านอยู่แล้วและอาหารจากร้านเขาก็จะเร็วกว่าด้วย สุดท้าย การแสดงความมีน้ำใจต่อพนักงานของเธอเป็นครั้งคราวก็เป็นเรื่องจำเป็น แม้ว่าเธอจะขี้เหนียวกับตัวเอง แต่เธอใจกว้างต่อคนอื่นเสมอที่ร้านอาหาร ทิฟฟานี่พยายามจะเป็นผู้หญิงมากขึ้นและถึงขั้นรับประทานอาหารช้าลงด้วยซ้ำ ในอดีตเธอไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เมื่อรับประทานอาหารกับแจ็คสัน การคบกันเปลี่ยนทัศนคติของเธอ อย่างน้อยเธอก็อยากทำตัวให้น่าประทับใจต่อหน้าเขาแจ็คสันขมวดคิ้วและแซวว่า “พอเลย กินตามปกติเถอะ คุณไม่เป็นตัวของตัวเอง ทำไมคุณต้องทำตัวราวกับว่าผมไม่เคยเห็นว่าคุณกินเก่งแค่ไหนด้วย?”ทิฟฟานี่จ้องมองเขา “โอ้ พระเจ้า… ฉันดูเหมือนฉันไร้ยางอายขนาดนั้นเลยเหรอ? ฉันขอทำตัวให้เหมือนผู้หญิงม
“คุณคิดว่าฉันเป็นคนทำลายบรรยากาศที่น่าเบื่อหรือเปล่า?” เธอถามอย่างอึมครึมจิตใจของแจ็คสันเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม "ฮะ? มะ-ไม่… ผมคิดว่าคุณก็ปกตินะ คุณถามทำไม?"ทิฟฟานี่ตีความคำตอบของเขาว่าเธอเป็นคนที่น่าเบื่อจริง ๆ 'ก็ปกตินะ' เป็นคำตอบแบบไหนกัน? มันเป็นคำถามใช่หรือไม่ใช่ 'ก็ดี' เป็นอีกวิธีหนึ่งในการตอบว่า 'ใช่'! เธอไม่สนใจเขาและเข้าไปในลิฟต์โดยไม่รอ แจ็คสันรีบตามเธอไปอย่างสับสน “คุณเป็นอะไร? ผมหาเวลามาที่นี่และคุณต้องเสียเวลาหาเรื่องทะเลาะกับผมเหรอ? ผมทำอะไรผิด? แค่บอกผมแล้วผมจะเปลี่ยนเอง”เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา “คุณไม่ได้หยุดเจอผู้หญิงคนอื่นใช่ไหม? ถ้าฉันบอกให้คุณเลิกทำเรื่องแบบนั้นหลังจากคบกับฉันแล้ว คุณจะทำได้ไหม? ในทางทฤษฎี คุณทำอย่างนั้นเนื่องจากเราคบกันทางไกล แต่ถ้าคุณเคยนอนกับผู้หญิงคนอื่นลับหลังฉัน ก็ลืมสิ่งที่ฉันพูดไปซะ”แจ็คสันไม่เข้าใจว่าเธอกำลังจะสื่อว่าอะไร “มะ-ไม่… ไม่ต้องมาโหดขนาดนี้ก็ได้ไหม? ผมจะไม่ทำสิ่งเลวร้ายลับหลังคุณแน่นอน แต่คุณต้องให้ผมได้ลองชิมดู... ไม่ว่าในกรณีใด ผมจะไม่ทำอะไรกับคุณโดยปราศจากความยินยอมของคุณเพราะผมเป็นคนมีหลักการ เรา… ทำแบบนั้นได้ทุกวันหลัง
ลินน์กดริมฝีปากของเธอเป็นรอยยิ้ม “ฉันไหวน่า”นายาช่วยแอเรียนถามคำถามที่ฝั่งใจซึ่งเธอลังเลที่จะถามว่า “ลินนี่ เธอกับแจ็คสันรู้จักกันมาก่อนเหรอ?”ลินน์เหลือบมองแจ็คสันอย่างรวดเร็ว แล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย “ไม่”“ไม่ แต่ฉันมักจะเข้ากับทุกคนได้ดี พวกคุณทุกคนควรดูแลซึ่งกันและกันในเมื่อพวกคุณทำงานร่วมกัน โปรดดูแลแฟนสาวของผมด้วยในกรณีที่ผมไม่อยู่” แจ็คสันกล่าวนายายิ้มให้เขา “ไม่ต้องห่วง เราไม่เคยมีโอกาสได้ดูแลทิฟฟานี่เลย เพราะเธอคือคนที่คอยดูแลเราอย่างดีเสมอมา ฉันว่างงานมาหลายปีแล้วหลังจากคลอดลูกและไม่ได้ติดต่อกับสังคมการทำงานเลยจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ฉันต้องพาลูกสาวไปและกลับจากโรงเรียนอนุบาลทุกวัน ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะหางานที่เหมาะสมได้ ฉันเดาว่าฉันได้เลือกที่ทำงานได้ดีเพราะทิฟฟานี่และแอริเป็นหัวหน้าที่ดีมาก”บทสนทนาและเสียงหัวเราะกลับมาที่โต๊ะอาหารอีกครั้ง ลินน์เป็นคนเดียวที่ไม่พูดหรือกิน เธอเอาแต่ดื่ม สัญชาตญาณของแอเรียนที่เป็นผู้หญิงบอกเธอว่าเรื่องราวระหว่างแจ็คสันกับลินน์ไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เห็นแจ็คสันไปที่ห้องน้ำระหว่างทานอาหาร ไม่ถึงนาทีต่อมา ลินน์ก็ลุกขึ้นและออกไปด้วย ทิฟฟา
ลินน์หยุดเธอและขมวดคิ้ว “ฉันชอบเขา!”จริง ๆ แล้วแอเรียนไม่ได้จะคว้าโทรศัพธ์เธอ แต่คำตอบนั้นยังคงทำให้เธอตกใจ “พูดต่อสิ…”ลินน์ดิ้นรนภายในครู่หนึ่งก่อนที่เธอตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมด “ฉันว่ามันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เพราะฉันจะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป ฉันเป็นเด็กกำพร้า ฉันหนีออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าพร้อมรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย แล้วใช้เวลาที่เหลือไปขอทานตามท้องถนน ช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตของฉันคงอยู่จนถึงวันที่ฉันได้พบกับคุณเวสต์เมื่อฉันอายุสิบสี่ปี“ความทรงจำยังคงสดใสอยู่ในใจของฉัน มันเป็นวันที่เมฆครึ้มมาก แต่ฝนไม่ตกเลย ลมหนาวพัดปะทะร่างสกปรกของฉันและทำให้ผมยุ่งเหยิง เมื่อเขายืนอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันรู้สึกแย่และสิ้นหวังอย่างมากที่จะได้ใกล้ชิดกับใครสักคนเป็นครั้งแรก เขาบอกฉันว่าเขาชอบความดุดันและความดื้อรั้นในสายตาของฉัน จากนั้นจึงรับฉันส่งไปที่สถาบันบอดี้การ์ดภายใต้การก่อตั้งของตระกูลเวสต์ เพื่อที่จะได้รับคำชมจากเขา ฉันซ้อมหนักกว่าใคร ๆ”เธอหยุดและยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันคิดว่าเขาชอบฉันเหมือนผู้ชายคนหนึ่งจะชอบผู้หญิงคนหนึ่ง เนื่องจากเขาอายุมากกว่าฉันเพียงห้าปี ฉันจึงคิดว่าระหว่างเราจะมีโอ
ตอนที่เธอชนแก้วกับเขาที่โต๊ะอาหาร เธอแค่อยากจะคุยกับแจ็คสันเพราะเธอทนความสนิทสนมระหว่างเขากับทิฟฟานี่ไม่ได้ เธอไม่คิดว่ามันจะทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้… เมื่อแจ็คสันมาที่ร้านในตอนกลางวัน เธอออกไปช่วยธัญญ่าส่งของ เธอไม่พอใจเมื่อได้ยินนายาบอกพวกเขาว่าแจ็คสันใส่ผ้ากันเปื้อนเพื่อช่วยทิฟฟานี่ในครัวจริง ๆ แม้ว่าจะผ่านมาเจ็ดปีแล้ว เธอก็ยังปล่อยอดีตไปไม่ได้...เมื่อเธอได้สติ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งข้อความถึงแจ็คสัน 'แอเรียนรู้เรื่องเราและเพิ่งคุยกับฉันเมื่อกี้'แจ็คสันหน้าซีดเมื่อได้รับข้อความในขณะที่เขากำลังช็อปปิ้งกับทิฟฟานี่ 'เธอไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระใช่ไหม?'ลินน์จ้องไปที่คำตอบบนหน้าจอขณะที่มุมปากของเธอกระตุกอย่างขมขื่น 'ฉันบอกเธอทุกอย่างเกี่ยวกับเรา ฉันไม่อยากโกหกใคร คุณสามารถจัดการกับส่วนที่เหลือเองได้ ฉันจะเก็บของและกลับเมืองหลวงคืนนี้'แจ็คสันไม่ตอบข้อความของเธออีก เขาเสียใจที่ได้แนะนำลินน์ให้รู้จักกับมาร์ค และส่งเธอไปหาแอเรียนและทิฟฟานี่ทิฟฟานี่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของเขาขณะที่เธอกำลังเคี้ยวอาหารเสียบไม้อยู่ “มีอะไรเหรอ? ใครส่งข้อความมา?”แจ็คสันรีบเก็บโทรศัพท์ก
ความอยากรู้ของทิฟฟานี่ถูกปลุก เธอรอให้เขาทิ้งระเบิดโดยคาดหวัง “โอเค โอเค ฉันสัญญาว่าจะไม่โกรธ บอกฉันมา"แจ็คสันรู้ว่าถ้าเขาไม่บอก ทิฟฟานี่ก็จะรู้เรื่องนี้อยู่ดี ไม่ว่าเขาจะมองมันจากมุมมองไหน ทิฟฟานี่ดูเหมือนน่าจะรับมือกับเรื่องนั้นได้ การปกปิดความจริงก็ไม่ต่างอะไรจากการโกหก มันจะแตกต่างเมื่อทิฟฟานี่ค้นพบมันด้วยตนเอง แจ็คสันพูดด้วยความแน่วแน่ว่า “ผมแนะนำลินน์ให้รู้จักกับมาร์ค ผมรู้จักลินน์มานานแล้ว ตรง ๆ ก็คือ ตอนที่ผมอายุสิบเก้า”“อืม อืม แล้วไงต่อ?” ทิฟฟานี่ไม่เห้นว่าจะมีอะไรแปลกแจ็คสันไม่กล้าสบตาเธอ เมื่อหัวของเขาห้อยลงมา เสียงเขาก็ต่ำไปด้วย “ในตอนนั้นลินน์อาศัยอยู่ตามท้องถนน ผมรับเธอเข้ามาและส่งเธอไปโรงเรียนบอดี้การ์ด… เมื่อเธออายุสิบแปด ผมอายุยี่สิบสาม ผมไม่รู้ว่าผมทำอะไรให้เธอเข้าใจผิด แต่เธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะคบกับผม ในวันเกิดอายุสิบแปดของเธอ เรา… อ่า เธอวางยาผมและเรา… รู้ใช่ไหม? หลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้เจอเธอมาเจ็ดปีแล้ว ผมเพิ่งแนะนำเธอให้รู้จักกับมาร์คเพื่อปกป้องแอเรียนก่อนหน้านี้! คุณต้องเชื่อผม ผมไม่ได้ตั้งใจ!”สีหน้าของทิฟฟานี่ค่อย ๆ นิ่ง เธอไม่สามารถรับระเบิดในขณะนี้ได้ ค
ความตื่นตระหนกบนใบหน้าของแจ็คสันไม่ได้ดูปลอม ทิฟฟานี่ก็เห็นเช่นนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขากระวนกระวาย ปกติเขามักจะเย็นชาและเฉยเมย นอกจากโกรธแล้ว เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่นใจเล็กน้อย น้ำเสียงของเธออ่อนลงเช่นกัน “ฉันยอมรับว่าฉันอารมณ์เสีย แต่… ฉันจะเชื่อคุณในครั้งนี้ ตราบใดที่ในอนาคตคุณจะเป็นคนดี ฉันรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง คุณไม่ได้จะคบฉันเพียงช่วงเวลาหนึ่งใช่ไหม? คุณสามารถเลิกนอนไปทั่วได้จริงหรือ? คุณจะอยู่อย่างบริสุทธิ์ใจได้ไหมตอนที่ฉันไม่อยู่ในเมืองหลวง?”แจ็คสันมองเธออย่างจริงใจ “ผมควรจะพูดอะไรให้คุณเชื่อผม? ผมไม่เคยเป็นคนหุนหันพลันแล่น ผมจะไม่ตัดสินใจในช่วงเวลาที่ร้อนแรง ผมเลือกที่จะอยู่กับคุณมานานแล้ว เข้าใจไหม?”ไม่ใช่ในช่วงเวลาที่ร้อนแรง แต่นาน ๆ ที ทิฟฟานี่ไม่สามารถโต้คำพูดของความรักที่แหวกแนวได้ มุมปากของเธอโค้งขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “โอเค คราวนี้คุณรอดไป”แจ็คสันถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกและจับใบหน้าเธอเพื่อจูบเธอ แต่ทิฟฟานี่เอามือปิดปากเขา "คุณกำลังจะทำอะไร? คุณไม่ได้กลับมาทำงานเหรอ? ไปทำซะ ฉันจะอยู่กับคุณไม่เกินสองชั่วโมง จากนั้นฉันจะกลับบ้าน ไปทำในสิ่งที่คุณต้องทำเ